ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Nanoha]Fate's Secret Heart

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 : Lost Logia

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.64K
      10
      25 พ.ย. 52

    " นับจากตอนนั้น กาลเวลาก็ได้ผ่านมา 2 ปี แล้วสินะ..."

     

    " ในช่วงที่ฉันต้องออกตามล่า หาพลอยสีฟ้าที่สามารถเสกสรรความต้องการใดๆ ก็ตามให้เป็นจริงได้... จูเวลซีด เพื่อคุณแม่ของฉัน... โชคชะตากลับพาให้ฉันพบกับเธอคนนั้น... "

     

    " ลำแสงอันมุ่งร้ายของฉัน ถูกปัดป้องโดยวงแหวนเวทย์มนตร์สีชมพูที่ปกป้องลูกแมวยักษ์ตนนั้นเอาไว้ "

     

    " ฉันสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้น จึงได้เข้าไปดูใกล้ๆ... เด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ณ ที่นั่น อยู่เพื่อปกป้องสัตว์ประหลาดแมวยักษ์ตนนั้น... อายุของเธอคงจะเท่าๆ กับฉัน "

     

    " ทำไมถึงต้องทำขนาดนั้น... ฉันเคลือบแคลงในเจตนาและความมุ่งมั่น ที่เปล่งประกายอยู่ในดวงตาสีม่วงที่สวยงามคู่นั้นของเธอ "

     

    " ฤาเธอคนนี้คงจะเป็นผู้หนึ่งที่ต้องการแย่งชิงจูเวลซีดเพื่อแรงปรารถนาของตนเอง... ฉันคิดโดยมิได้ไตร่ตรองใดๆ เพียงเทียบกับการกระทำนั้นด้วยสิ่งที่ฉันปฏิบัติอยู่ มันแปดเปื้อนด้วยความเอาแต่ใจของตนเองเหมือนกันสินะ "

     

    " แต่เหตุใดจึงรู้สึกแตกต่าง... ทำไมแทนที่จะรีบฉวยโอกาสโจมตีตอบโต้ ซึ่งฉันเป็นผู้มาทีหลัง ที่จะมาแย่งจูเวลซีดไป เธอกลับยืนมองดูฉัน ด้วยสายตาอาลัยเช่นนั้น... สงสารฉันงั้นหรือ? เพราะอะไร... ยิ่งพินิจพิเคราะห์มากเท่าไหร่ ภาพของนักเวทย์ร่างเด็กหญิงคนนั้นก็ยิ่งติดตา... ผมสีน้ำตาลที่สวยงามสะบัดไปตามแรงลม ผิวสีนวลพระจันทร์ขาวผ่อง และชุดขาวอันบริสุทธิ์ชวนหลงไหล... "

     

    " ดั่งแม่เหล็กที่ต่างขั้วมักจะสร้างแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน... เปรียบได้ระหว่างเธอผู้นั้นกับฉันคงมีแรงกระทำหนึ่งเกิดขึ้นในจิตใจของฉัน จู่ๆ ก็เกิดที่จะใคร่อยากรู้จักเธอคนนั้นขึ้นมา... แต่คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเราต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน... เพื่อเป้าหมายของคุณแม่ ฉันจะผิดพลาดไม่ได้! แม้ฉันจะต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก แม้จะต้องอยู่เดียวดาย แต่ไม่นานรอยยิ้มของคุณแม่ก็จะกลับมาให้เรามีความสุขได้แน่ๆ "

     

    " = Scythe Form Setup = ลำแสงสีเหลืองโค้งงอยาวราวกับเคียวปลิดวิญญาณเปล่งแสงแสดงออกมา ร่างกายวาดทวงท่าเตรียมพร้อมเข้าสู่การต่อสู้ ตอบสนองความรู้สึกที่ต้องการจะเอาชนะความรู้สึกชั่ววูบของฉัน ฉันจะฟาดฟันแรงปรารถนาลวงตาข้างหน้านั้นให้พ้นทางไป ฉันจะไม่ลังเลใดๆ ขอโทษนะ นาโนฮะ... "

     

     

     

     

    = Hika Zerora Project =

    Mahou Shoujo Lyrical Nanoha : Fanfiction

    Fate's Secret Heart - { 1 } Lost Logia

     

     

     

     

    " เลิกศาล " ตามด้วยเสียงค้อนไม้ทุบลงบนโต๊ะเป็นสัญญาณแห่งความผ่อนคลาย ซึ่งเหตุการณ์เกิด ณ ศาลฏีกาแห่งมิดชิลด้า อันสถานที่แห่งนี้เคยใช้ตัดสินคดีสำคัญๆ ระหว่างดวงดาวและมิติมาแล้วมากมาย และในครั้งนี้ก็เป็นอีกคราหนึ่งที่เหล่าคณะลูกขุนและศาลจะตัดสินคดีสำคัญคดีหนึ่ง ที่ค้างคาไว้ตั้งแต่ในอดีต และในบัดนี้ทีท่าทีว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี

     

    ระว่างทางเดินไปยังห้องพักผู้ต้องหาภายในศาล เด็กสาวผู้หนึ่งกำลังวิ่งไปยังกลุ่มผู้ตกเป็นผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดยเธอมีผมทรงทวินเทลสีทองยาวสลวย ประดับไว้ด้วยรินบิ้นผูกผมสีชมพูหวานแหวว เสียงเจียวแจ้วเรียกชื่อๆ หนึ่งของกลุ่มผู้ต้องหา " ซิกนั่ม! พวกเราทำสำเร็จแล้วค่ะ "

     

    " เทสทารอซซ่า พวกเราสิต้องขอขอบคุณเธอมากกว่า " สาวใหญ่มาดเท่ห์ผู้เป็นหนึ่งในเหล่าอัศวินผู้ต้องโทษ ซิกนั่ม หันมากล่าวกับเด็กสาวที่วิ่งมาทันกับพวกเธอ ส่วนนามของเด็กสาวผู้วิ่งนั้นคือ เฟท เทสทารอซซ่า ฮาร์ลาโอว์น " ที่ทำให้การพิจารณาคดีลอสท์ โลเกีย หนังสือแห่งความมืด ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน จบลงด้วยดี "

     

    " ถึงแม้ว่าพวกเราจะต้องถูกกักบริเวณชั่วคราว และก็ต้องบำเพ็ญประโยชน์ 300 ชั่วโมงติดต่อกัน แต่ก็ถือว่าดีมากๆ แล้วล่ะ " อีกหนึ่งในกลุ่มอัศวิน ซึ่งเป็นผู้ครอบครองพลังแห่งการรักษา ชามาล เอ่ยขึ้นมา พลางยกมือทั้งสองที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยอุปกรณ์คล้ายกุญแจมือบนโลกมนุษย์ แต่แลดูล้ำสมัยกว่ามาก

     

    " สิ่งที่พวกเรากระทำลงไปตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบันที่จริงนั้น สมควรจะต้องได้รับโทษร้ายแรงกว่านี้ " ชายหนุ่มร่างกำยำผิวสีแทน แลเด่นด้วยหูสีขาวในลักษณะของหมาป่า 2 ข้างบนหัว กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำแฝงความสำนึกผิดเอาไว้ ชื่อของเขาคืออัศวิน ซาฟีร่า

     

    " แต่ก็เพราะเธอช่วยให้คำปรึกษา พวกเราเลยเดินตัวปลิวออกมาจากซังเตได้ง่ายกว่าที่คิดไว้ ขอบใจเธอจริงๆ " อัศวินผู้ต้องหา สมาชิกคนสุดท้ายของโวลเคนริทเตอร์ในรูปลักษณ์เด็กสาวผมสีแดงอ่อน ทักเปียไว้ 2 เส้น นามของเธอคือ วีต้า บอกขอบคุณในแบบสไตล์กวนๆ เล็กน้อย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวของเธอ

     

    ทั้งหมดได้เดินมายังห้องพักผู้ต้องหา ซึ่งเมื่อเข้าไปก็พบกับกัปตันแห่งยานรบข้ามมิติ อาสร่า เธอชื่อ รินดี้ ฮาร์ลาโอว์น อันเป็นแม่บุญธรรมของเฟทตามกฏหมาย กำลังนั่งดื่มชาญี่ปุ่นอย่างไร้กังวล และเมื่อเธอเห็นพวกเฟทและเหล่าอัศวินเดินเข้ามา จึงเอ่ยทักทาย " สวัสดีจ้ะทุกคน คงเหนื่อยกันสินะ ฉันได้ให้เอมี่เตรียมชาให้ทุกคนแล้วล่ะ มานั่งดื่มกันก่อนสิ "

     

    เหล่าอัศวินแห่งเบลก้า และคนของยานอาสร่าอย่างเฟท รินดี้ และเอมี่ หญิงสาวผู้ช่วยอันเปรียบเสมือนเลขาของรินดี้ ได้พูดคุยกันถึงเรื่องคดีหนังสือแห่งความมืด ซึ่งเหล่าอัศวินตกเป็นผู้ต้องหา โดยมีดีไวซ์ หนังสือแห่งความมืด เป็นของกลาง และมีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งจากเหตุการณ์ในคดีนี้

     

    " นับเป็นความโชคดีที่ทางศาลพิจารณาให้หนูยากามิเป็นผู้เสียหาย เธอจึงไม่มีความผิดในคดีนี้ " รินดี้อธิบาย " ทั้งนี้ฉันจะลองไปคุยเกี่ยวกับการลดหย่อนโทษกักบริเวณให้พวกเธอนะ "

     

    " ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยเหลือพวกเรามากขนาดนั้น ที่จริงแค่ให้เทสทารอซซ่ามาช่วยเหลือพวกเราในการขึ้นศาล ก็เป็นพระคุณอย่างมากแล้ว " ซิกนั่มเป็นตัวแทนในการเอ่ยคำขอบคุณ " แล้วต่อไปทาง TSAB จะทำอย่างไรกับดีไวซ์ของท่านฮายาเตะหรอคะ "

     

    " ก็คงจะนำหนังสือแห่งความมืดไปตรวจสอบอล่างละเอียดอีกครั้งว่าจะไม่เกิดการคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกน่ะ แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกค่ะ ฉันเองก็จะอยู่ดูแลการตรวจสอบด้วยค่ะ " รินดี้เอ่ย พลางนึกบางอย่างขึ้นได้ จึงอธิบาย " เพราะว่าพวกคุณ และเหล่าเด็กๆ มีพลังอันมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีปรากฎมาก่อน ทางสภาสูงจึงพิจารณาระบบที่เรียกว่า ลิมิตเตอร์ขึ้นมา ซึ่งจะคอยควบคุมพลังเวทย์ที่จะสามารถแสดงออกมาได้ค่ะ บางทีพวกคุณอาจจะถูกทดลองใช้ระบบดังกล่าวด้วยนะคะ ทางฉันเองต้องขอโทษด้วยนะคะ "

     

    " ดิฉันเข้าใจค่ะ เพราะเวทย์สายเบลก้านั้นทรงพลังมาก และหากผู้ใดใช้ไปในทางที่ผิดแล้วจะเกิดอันตรายเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว " ซิกนั่มพูดพลางก้มหน้าลงราวกับจะนึกถึงอดีตที่ขมขื่น

     

    เมื่อได้เวลาอันสมควร เฟท เอมี่ และรินดี้ ได้ขอตัวแยกออกมา โดยเหล่าอัศวินจะยังคงถูกกักบริเวณในสถานที่พิเศษจนกว่าจะครบกำหนดต่อไป

     

    " พวกเขาจะลำบากในระหว่างถูกกักบริเวณไหมคะ " ด้วยความเป็นห่วง ลูกสาวบุญธรรมจึงเอ่ยถามกับรินดี้

     

    " ไม่หรอกจ้ะ แม้ว่าสถานที่กักกันจะอยู่กลางทะเลของมิดชิลด้า แต่ทว่าภายในก็เต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกสบาย แถมตกแต่งด้วยธรรมชาติ ให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายกับผู้ถูกกักบริเวณจ้ะ " คุณแม่อธิบายกับลูกสาวระหว่างการเดินตรงไปยังศูนย์บัญชาการกลางของมิดชิลด้า ซึ่งระหว่างนั้น เด็กหนุ่มที่ทั้ง 3 คุ้นเคยเป็นอย่างดีก็ได้วิ่งตรงเข้ามาหา ด้วยอาการเร่งรีบ รินดี้แลเห็นจึงเกิดความสงสัย " โครโน่มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ "

     

    เด็กหนุ่มหน้าตาดีผู้นั้นเอ่ยอย่างเร่งรีบ " กัปตันครับ เกิดเรื่องแย่ขึ้นแล้ว! ขอเชิญทางนี้ครับ " และเมื่อเขาแลเห็นเฟทที่อยู่ในอาการตกใจกับคำพูดของเขา จึงได้ร้องขอกับเธอว่า " เจ้าหน้าที่เฟท ขอวานแรงเธอด้วยนะ " ซึ่งทำให้เด็กสาวได้สติ และรีบวิ่งตามไป

     

     

     

     

    ในห้องบัญชาการรบของอาสร่า ทั้งหมดเพ่งมองจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงข้อมูล รวมถึงภาพราวกับโทรทัศน์ที่ไร้สัญญาณ " 3 ชั่วโมงที่แล้ว ทีมเก็บกู้ A โดยมีหัวหน้าผู้ดูแล อันประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่ ลูมิน่า และพรีเมซ่า และทีมเก็บกู้ B ซึ่งมีผู้ดูแลคือเจ้าหน้าที่ อาดีล รวมถึงเรืออากาศโท เรนกัส อาบิส ที่ตามไปดูงานด้วยครับ... ทั้งหมดได้ออกเดินทางไปยังดวงดาวซิเรเรี่ยน ที่มีสัญญาณอันรุนแรงของการปรากฏตัวของลอสท์ โลเกีย จำนวน 2 ตำแหน่งด้วยกัน " โครโน่หยุดพักหายใจชั่วครู่ แล้วจึงอธิบายสถานการณ์ต่อไป " ซึ่งทั้ง 2 ทีมก็ได้แจ้งว่า ได้เก็บกู้ ลอสท์ โลเกียทั้ง 2 สถานที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะนำกลับมาแต่หลังจากนั้นไม่นาน สัญญาณติดต่อก็ขาดหายไปครับ ทางส่วนกลางจึงให้อาสร่าช่วยส่งทีมไปตรวจสอบด้วย "

     

    " คำสั่งปฏิบัติการณ์ออกมาไวเช่นนี้ เราจะตามลูกเรือที่พักร้อนมาได้ทันหรอคะ " เอมี่ซึ่งเป็นลูกเรือหญิงที่อยู่ประจำเวรเพียงคนดียวในเวลานี้แสดงความกังวลออกมา

     

    " คงไม่ทันแล้วล่ะ ดังนั้นผมจึงคิดว่า ผมกับเจ้าหน้าที่เฟทจะขออกปฏิบัติการณ์ครับ " โครโน่พูดเสียงแข็ง รินดี้จึงหันไปทางเฟท ซึ่งเธอก็เอ่ยว่า " ไม่เป็นไรค่ะ ให้หนูออกปฏิบัติการณ์นะคะ "

     

    " อืม คงต้องว่าไปตามนั้น " รินดี้หันไปออกคำสั่งกับเอมี่ " รีบติดต่อทุกคนให้มาประจำการณ์ ฝากด้วยนะ "

     

     

     

     

    เมื่อนัดแนะและวางแผนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โครโน่และเฟทจึงสวมใส่แบเรีย แจ๊คเก็ต ซึ่งเฟทในชุดดังกล่าว ประกอบด้วย ชุดคล้ายชุดว่ายน้ำวันพีชสีดำ คาดเข็มขัดเส้นสีแดงไว้แถวส่วนอก กระโปร่งสีชมพูสั้น และถุงน่องยาวสีดำ ขับเน้นให้เห็นรูปร่างสัดส่วน ทรวดทรงที่เริ่มแสดงถึงความเป็นเด็กสาวแล้ว แม้มีผ้าคลุมสีดำคลุมกายประกอบด้วยแต่ก็มิอาจปิดบังเสน่ห์เย้ายวนนั้นไว้ได้ โครโน่ที่ยืนข้างกันในเครื่องเคลื่อนย้ายถึงกับออกอาการเขินอาย ใบหน้าแดงก่ำ...

     

    " พี่... เป็นอะไรไปหรอคะ? " เฟทเอ่ยถามหลังเห็นโครโน่มีท่าทีแปลกไป

     

    " ปะ... ปล่าวนี่นา ไปกันเถอะ " โครโน่แม้จะหันมาตอบ แต่ก็หลับตาปี๋ ไม่กล้ามองเด็กสาว

     

    รินดี้ได้เห็นดังนั้น จึงแอบคุยกับเฟททางกระแสจิต " ( ท่าทางเราจะโตเป็นสาวเสียแล้วล่ะ พี่เค้าเป็นผู้ชายก็เลยคัดเขินไปบ้าง แต่บาเรีย แจ๊คเก็ตของลูก แม่ว่าลองดีไซน์ดูใหม่ก็ดีนะจ้ะ ) " เมื่อทราบว่าโครโน่มองเธอด้วยสายตาชู้สาว เฟทเองก็แอบหน้าแดงบ้าง ซึ่งเธอเองก็มิได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน รวมทั้งตั้งแต่จบคดีหนังสือแห่งความมืดไป ก็แทบไม่ได้สวมใส่ชุดบาเรีย แจ๊คเก็ต อีกเลย...

     

     

     

     

    เฟทและโครโน่แบ่งแยกกันเดินทางออกไปทั้ง 2 ตำแหน่งด้วยการบิน ซึ่งเฟทอยู่ใกล้กับจุดการเก็บกู้ของทีม A มากกว่า จึงมาถึงก่อน เธอร่อนลงยังหน้าถ้ำกลางป่า ซึ่งหากมองจากมุมสูง พื้นที่แห่งนี้เป็นหลุมขนาดใหญ่ คาดคะเนว่าเกิดจากการโดนอุกกาบาตพุ่งชนเมื่อคราวในอดีตกาล ปัจจุยันจึงมีต้นไม้ขึ้นเขียนชะอุ่มแลดูแปลกตา เพราะพื้นดินที่ยุบตัวลงไป ทำให้ป่าแห่งนี้มีลักณะเหมือนขั้นบันไดลาดตัวลงสู่ศูนย์กลาง

     

    "= Sir. The position inside the cave about 200 matres = ( นายท่าน  ตำแหน่งที่ได้รับแจ้ง อยู่ภายในถ้ำราว 200 เมตร ) "  ดีไวซ์สีดำ รูปลักษณ์น่าเกรงขามจากการผสานการออกแบบจากไม้คทาเวทย์มนตร์ และคมขวาน นาม 'บาร์ดิซ แอซซอลท์' เปล่งเสียงทุ่มแจ้งตำแหน่งเป้าหมายกับผู้เป็นนาย

     

    " ( ในขณะนี้ก็ยังไร้วี่แววของทีมเก็บกู้ A เฟทจัง ระวังตัวด้วยนะ ) " เอมี่ซึ่งใช้เครื่องส่งกระแสจิตพูดคุยกับเฟท โดยรายงานสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งเฟทก็ตอบรับคำเตือนนั้น

     

    หญิงสาวค่อยๆ เดินเข้าไปในถ้ำอันมืดมิด แต่ได้แสงไฟจากแกนกลางของบาร์ดิซช่วยส่องแสงจึงทำให้มองเห็นได้ไม่ยากนัก... บรรยากาศภายในนั้นหนาวเย็น และเต็มไปด้วยกลิ่นอับชื้น อาจจะเพราะถูกทิ้งรกร้างให้อยู่ใจกลางป่า จึงโดนลมหอบนำความชุ่มชื้นจากป่าพัดเข้าไปยังภายในถ้ำอยู่ตลอดเวลา และพื้นที่นี้ก็ไม่น่าจะมีแสงสาดส่งเข้ามาให้เกิดการระเหยได้ จึงมีรอยหยดน้ำ และน้ำขังอยู่บนพื้นทั่วบริเวณ

     

    ในที่สุดเฟทก็พบกับเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย โดยบางคนก็ยังกำดีไวซ์ประจำตัวไว้แน่น แสดงว่าที่นี่ได้เกิดการต่อสู้ขึ้น... เฟทก้มลงและจับชีพจรดู พบว่า บางคนเสียชีวิตแล้ว และบางคน..

     

    " ( ยังมีชีวิตอยู่! ) " เธอเอ่ยในใจ พลางลุกขึ้นมาและยกบาร์ดิซ ชี้ไปยังผู้รอดชีวิตที่นอนสลับอยู่นั้น "= Defenser Plus =" บาร์ดิซสร้างโดมเวทย์มนตร์ครอบผู้รอดชีวิตคนนั้นเอาไว้ และทำการยืนยันตนให้เฟทไปด้วยว่าผู้ที่รอดชีวิตนั้นมีนามใดบ้าง

     

    เฟทสำรวจจนหมดทุกคนก็พบเรื่องน่าเศร้า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เสียชีวิตทั้งหมด เหลือเพียงแต่ผู้รอดชีวิต 4 คนเท่านั้น ซึ่งเฟทก็ได้สร้างเกราะคุ้มกันเอาไว้ครบทุกคน และทำการยืนยันข้อมูลกับทางเอมี่

     

    " ผู้รอดชีวิตคือ เจ้าหน้าที่ ลูมิน่า คาเรน แคสก้า และพรีเมซ่า เท่านั้นค่ะ " เฟทแจ้งข้อมูลผ่านทางจอภาพโฮโลแกรม ซึ่งในพื้นที่อับสัญญาณในนี้ไม่เป็นปัญหานักในการเชื่อมต่อ เมื่อเฟทใช้บาร์ดิซช่วยขับแรงส่ง ทำให้ทั้งสองสื่อสารกันได้ " แต่ทั้งนี้หนูเองก็ไม่พบลอสท์ โลเกียใดๆ เลยนะคะ "

     

    " ลอสท์ โลเกียอาจจะโดนใครบางคนชิงไปแล้วก็เป็นได้ " เอมี่สันนิฐาน " เอาเป็นว่า เฟทอยู่คุมสถานการณ์ไว้ก่อนนะ ขณะนี้เริ่มมีเจ้าหน้าที่ของอาสร่าบางคนมาปฏิบัติงานแล้ว จะรีบส่งคนไปสมทบนะ " ในขณะนั้นเอง เอมี่ก็ได้เห็นบางอย่างจากจอภาพ ขยับอยู่ด้านหลังเฟท " เฟท ด้านหลัง !! " เฟทหันมองไป และพบว่าเจ้าหน้าที่ผู้รอดชีวิตบางคนเริ่มรู้สึกตัว เธอวิ่งไปยังหญิงสาวผู้นั้นนามลูมิน่า

     

    ลูมิน่าพยุงตัวให้อยู่ในท่ากึ่งคลานอย่างยากลำบาก เนื้อตัวเปรอะเปื้อนปนด้วยเสียงหายใจหอบเหนื่อย ผมสีฟ้ายาวของเธอปกปิดใบหน้าเอาไว้แลดูเร้นลับ เฟทเข้าไปพยุงตัวใกล้ๆ " ไม่เป็นไรใช่ไหม... คะ... " เฟทรีบผละออกมา เมื่อพบกัลภาพอันน่าสยดสยองใต้เส้นผมนั้น และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่รอดชีวิตก็เริ่มขยับตัว...

     

     

     

     

    ทางด้านโครโน่ก็มาถึง ณ จุด B อันเป็นที่เกิดเหตุแล้ว ลักษณะแลดูไม่ต่างจากถ้ำที่เฟทพบเจอเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่แตกต่างคือ...

     

    " โครโน่! เฟทกำลังแย่ รีบไปช่วยเฟทเร็ว! " เสียงของเอมี่ตะโกนลั่น ผ่านไม้คทาเวทย์สีขาว 'ดูรัลดัล' ที่ตอนนี้ต้องสลับโหมดสื่อสาร กลายเป็นอาวุธร้ายด้วยพลังแห่งการแช่แข็ง เพื่อต่อกรกับสิ่งที่ไม่ควรเรียกว่า "มนุษย์" อีกต่อไป

     

    " อยากไปอยู่หรอก แต่ทางนี้ก็กำลังตึงมืออยู่เช่นกัน " โครโน่ยกคทามารองรับการโจมตีจาก 'ซาซอร์ด' ดีไวซ์รูปลักษณ์ดาบทรงคาตานะสีเงิน และผู้ใช้มันฟาดฟันคือ เรืออากาศโท เรนกัส อาบีซ ซึ่งถูกดูรัลดัลยืนยันสถานะการเสียชีวิตไปแล้วเมื่อ 10 นาทีก่อนหน้านี้!

     

    ภาพที่ติดตาโครโน่อยู่ในขณะนี้คือ บางสิ่งที่มีลักษณะคล้ายแมลง ตัวของมันโปร่งใส และมีขนาดใหญ่โตพอๆ กับสุนัขตำรวจโตเต็มวัย ได้เข้าโจมตีใส่เขา เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ก่อนที่จะกระโดดพุ่งเข้า 'สิง' ร่างอันไร้ชีวิตของเรสกัส... เขาลุกขึ้นมาพร้อมกับเข้าโจมตีโครโน่อย่างบ้าคลั่ง

     

    เสียงปะทะกันอย่างรุนแรงของดีไวซ์ทั่งสอง ทำให้ถ้ำนั้นสั่นสะเทือน เศษหินจากเพดานร่วงกราวลงสู่พื้นถ้ำ อีกไม่นานมันคงจะถล่มลงมาแน่ๆ โครโน่คาดคะเน " ( ถ้าไม่รีบจัดการล่ะก็ เราคงไม่รอดแน่ๆ ) " ดังนั้นเขาจึงผละออกมาอยู่ในระยะที่เหมาะสม พลางจ้องนัยน์ตางูสีแดงของเรนกัสที่กำลังก้าวเท้าเข้ามา หลังจากที่รอจังหวะจนเหมาะสมแล้ว โครโน่ก็ได้กระโดดพุ่งไปข้างหน้า แทงคทาเวทย์ปะทะกับเรนกัส "= Break Impluse =" ทันใดนั้นก็เกิดแรงระเบิดขึ้นระหว่างส่วนที่ปะทะของดีไวซ์ทั้งสอง

     

    "= Pretoctoin =" เสียงทุ้มต่ำของอินเทลลิเจนท์ ดีไวซ์ของเรสกัสเอ่ยขึ้น และปรากฎวงแหวนเวทย์มนต์ขึ้นตรงหน้าเพื่อใช้ปกป้องท่าโจมตีของโครโน่เอาไว้... เมื่อหมอกควันจางลงก็ได้เปิดเผยร่างของเรนกัสที่ไร้รอยขีดข่วน ผมสีดำคลับสะบัดพริ้วในชุดทหารระดับสั่งการสีเขียวกากี มือกำดาบอันเป็นอาวุธคู่กาย ที่เอวคาดฝักดาบแลดูเกรงขามยิ่ง

     

    " เจ้าเป็นคนฝีมือดี แต่พลังแค่นี้ไม่เพียงพอหรอก " เสียงแรกของเรนกัสเอ่ยขึ้น ทำเอาโครโน่สับสน ฤาเขาจะยังมีสติอยู่... คงต้องลองสอบถามดู " ร้อยโทเรนกัส วางอาวุธลงเถอะ แล้วไปกับผม ผมจะช่วยคุณเอง "

     

    " ร่างนี้มีชื่อว่า เรนกัสงั้นหรือ " เขาเอ่ยราวกับเป็นคนอื่น พลางหันมองสำรวจตนเอง " พลังจากลิงเกอร์คอร์ที่เหลืออยู่ก็มีใช่ย่อย แบบนี้สิน่าสนุก " พลันชูดาบชี้ไปยังโครโน่ "= Feri Bestur =" เกิดลำแสงลูกเล็กๆ ยิงออกมาจากปลายคมดาบเข้าโจมตีโครโน่อย่างหนักหน่วง ทางฝั่งเด็กหนุ่มได้แต่กวัดแกว่งดูรัลดัลเพื่อปัดป้องไว้

     

    เมื่อเรนกัสได้จังหวะ จึงใช้ดาบทะลวงผนังถ้ำจนเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ ซึ่งภายในเป็นเสมือนที่เก็บ 'ตัวอ่อน' ของบางสิ่งบางอย่างคล้ายเม็ดถั่วเอาไว้ เพียงแต่ขนาดของมันพอๆ กับร่างของเด็กทารกแรกเกิด เขาค่อยๆ ช้อนสิ่งนั้นขึ้นมาจากแท่นหิน

     

    " นั่นอะไรน่ะ " โครโน่พยายามพุ่งเข้าหา แต่มิวายโดนลูกพลังของเรนกัสซัดจนปลิวไปติดผนังถ้ำ ส่วนทางฝั่งเรนกัส เมื่อโอบอุ้มสิ่งนั้นไว้อย่างถนัดมือแล้ว ก็รีบบินออกถ้ำแห่งนี้ทันที

     

    " หนอย... " โครโน่เจ็บใจตนเองที่พลาดท่า แต่ก็ไม่มีเวลามานั่งอ้อยอิ่ง เพราะถ้ำกำลังจะถล่ม! เขาจึงรีบพุ่งตัวเพื่อบินออกจากถ้ำก่อนที่มันจะถล่มลงมาเพียงไม่กี่เสี้ยววินาที ซึ่งถึงแม้จะรอดชีวิต แต่ก็ไร้วี่แววของเรนกัส

     

    " เอมี่ฝากประสานคนอื่นๆ ในการช่วยเหลือ ณ จุด B ด้วยนะ ผมจะไปหาเฟทเดี๋ยวนี้แหละ " เมื่อสั่งการเสร็จแล้ว โครโน่ก็รีบบินไปยังตำแหน่ง A ทันที

     

     

     

     

    ในเวลาเดียวกับที่โครโน่ต้องเผชิญกับเรนกัส ทางฝั่งของเฟทก็ต้องพบกับภาพของเหล่าผู้รอดชีวิตทั้ง 4 กรี๊ดร้องอย่างคลุ้มคลั่ง นัยน์ตาของพวกเธอเหล่านั้นกลายเป็นสีแดงแบบงู สิ่งที่ไหลรินออกมาอาบแก้มคือน้ำตาสีแดงอันประกอบไปด้วยเลือดสดๆ หยดลงจากปลายคางลงสู่พื้น

     

    " อ๊า~~ !!! " พวกเธอลุกขึ้นและกำลังจะกระโจนเข้าหาเฟท ซึ่งเธอเห็นท่าไม่ดีจึงทำการชี้บาร์ดิซไปยังพวกเขา "= Barricade Plus =" บาร์ดิชกู่ร้อง  โดมเวทย์มนตร์ที่ครอบเหล่าผู้รอดชีวิตไว้ เปล่งประกายและเปลี่ยนเป็นสีส้ม พร้อมหดตัวลง กดดันให้ผู้บ้าคลั่งทั้ง 4 ต้องล้มก้มแนบติดพื้น

     

    " คุณเอมี่ ! " เฟทพยายามเอ่ยขอความช่วยเหลือ แต่ไม่ทันได้พูดจบ พวกเธอเหล่านั้นก็พังเวทย์โดมของเฟทได้ และเข้ามาทำร้ายเฟททันที

     

    " ฉันกำลังเร่งตรวจสอบอยู่ และจะติดต่อโครโน่ให้มาช่วยเดี๋ยวนี้แหละ " เอมี่ตอบกลับพร้อมกับเสียงเคาะแป้นคีย์บอร์ดพัลวัน แต่ในตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะสนทนารายละเอียดนัก เด็กสาวชูมือรีบกางวงเวทย์ป้องกันตรงหน้า "= Birrear Bra Eker =" เสียงแหลมของดีไวซ์ลักษณะคล้ายนาฬิกาข้อมือ 'จูดาเคน' เปล่งพร้อมกับร่างของเฮเลน่าที่ปลิวมาหาเฟทพร้อมลูกเตะพลังสูง ถีบกระแทกใส่กลางวงแหวนเวทย์ของเฟทอย่างแรง แม้เฟทจะป้องกันได้ แต่ก็เซถลาไปด้านหลังหลายเมตรเลยทีเดียว

     

    "= Bind =" แคสก้าวาดไม้คทาดีไวซ์ 'คาล - โวซ' เป็นวงในอากาศ เกิดวงแหวนเวทย์รอบๆ เอวของเด็กสาว ก่อนที่จะปรากฏสายโว่ที่เปล่งแสง เลื้อยรอบกายของเฟทและพันธนาการเธอเอาไว้ " ( คราวนี้ไบด์งั้นหรือ ) " แต่เธอยังพอมีสติที่จะไม่ปล่อยมือจากบาร์ดิช และรีบร่ายเวทย์แก้พันทนาการในบัลดล ทว่าหญิงสาวผมสีน้ำตาลแดงยาวประบ่า นามพรีเมซ่า วิ่งตรงเข้ามาพร้อมอาวุธดีไวซ์ประเภทมีด 'พานิชเชอร์' ถูกถือไว้ในลักษณะชี้คมแหลมออกไปทางนิ้วก้อยของเธอ ได้ตวัดมันตามท่อนแขนที่ถูกชูขึ้น จากล่างขึ้นบน "= Drogan Rush =" ซัดคลื่นพลังราวมังกรเหินทะยานเข้าใส่ ซึ่งทางเฟทใช้ด้ามของบาร์ดิชกันเอาไว้ได้ทัน แต่ก็ถูกแรงปะทะยกตัวให้ลอยขึ้นไปบนเพดานถ้ำ

     

    "= Divecer Sho Etor =" คาเรนยกดีไวซ์รูปร่างคล้ายหอก 'ครามาล ซิน' ชี้ไปทางเฟทที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ และยิงพลังเวทย์มันออกไปเป็นลำแสงพลังงานเป็นเส้นตรง เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงจนถ้ำสั่นสะเทือน ก่อนที่ร่างของเด็กสาวจะร่วงลงสู่พื้นอย่างสิ้นสภาพ

     

    เมื่อหมอกควันจางลง จึงค่อยๆ ปรากฏร่างของเฟทที่พยายาม พยุงตัวขึ้นยืน ตามเนื้อตัวมีบาดแผลและรอยขาดวิ่นของแบเรีย แจ็คเก็ต ริมฝีปากมีเลือดไหลซึมออกมา " ( อึก... ในที่ที่แทบจะมองไม่เห็นกันเช่นนี้ ทำไมพวกเขาเคลื่อนไหวได้ไวเช่นนั้นกันนะ ) " ร่างอันโซเซพยายามประคองตัวไว้ด้วยการค้ำยันปลายไม้เทาของบาร์ดิซ และตั้งสติให้อยู่กับการต่อสู้ตรงหน้า

     

    " ยังไม่พอ แสดงพลังออกมาอีก พิสูจน์ตนเองซะ " เสียงสั่นเครือของหญิงสาวผู้บ้าคลั่งทั้ง 4 พูดราวประสานเสียงแห่งความตายให้กับเฟท ณ ขณะนี้เฟทมั่นใจแล้วว่าควรจะต้องเปลี่ยนความคิดที่มีต่อผู้คนทั้ง 4  ตรงหน้า จากผู้รอดชีวิต เป็นศัตรูร้ายที่ต้องเอาชนะให้จงได้

     

    นัยน์ตาสีแดงจับจ้องไปในความมืดมิด พลันเห็นลำแสงจากดีไวซ์ทั้ง 4 ยิงตรงมายังเธอ เฟทรีบกางบาเรียเอาไว้... เกิดระเบิดอย่างรุนแรงขึ้นอีกครั้ง พวกลูมิน่าต่างจับจ้องผลงานของตนตรงหน้า พลันนึกถึงมื้ออันโอชะที่จะได้เขมือบเนื้อสดๆ ของเด็กสาววัยแรกแย้มจนน้ำลายสอข้างริมฝีปาก

     

    "= Load Cartridge - Haken Form =' เสียงกลไกลั่นจุดระเบิดและคัดปลอกกระสุนลูกซองดังหนักแน่นกึกก้อง พร้อมปรากฎแสงสีเหลืองรูปพระจันทร์เสี้ยวในกองเพลิงตรงหน้า ก่อนที่เฟทจะพุ่งตัวด้วยความเร็วสูง เพียงเสี้ยววินาที เด็กสาวก็มายืนอยู่ตรงหน้าของแคสก้าที่กำลังตกตะลึงในความรวดเร็วนั้น

     

    "= Haken Slash =" เฟทเงื้อมมือทั้งสองขึ้นเหนือหัว และฟาดลงอย่างรุนแรงด้วยบาร์ดิซที่อยู่ในรูปลักษณ์ของเคียวปลิดวิญญาณ แคสก้ามิทันตั้งตัวได้ทัน จึงทำได้แค่กางบาเรียเวทย์ป้องกันไว้ แต่พลังคมเคียวของเฟทที่อัดด้วยกระสุนคาทริจนั้นรุนแรงมาก จนปลายแปลมสามารถทะลุทะลวงบาเรียของแคสก้าให้แตกเป็นเสี่ยงๆ และทำลายคทาเวทย์ เรกูลาร์ ดีไวซ์นั้นจนแยกออกเป็น 2 ท่อนทันที

     

    แคสก้ากรีดร้องลั่น ลูมิน่า พรีเมซ่า และคาเรนถึงกับตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้า " ( รวดเร็วจริงๆ ) " ทั้งหมดได้แต่เพียงคิด และกำลังจะยิงลำแสงโจมตีเฟทอีกครั้ง แต่เฟทชิงลงมือได้ก่อน "= Plasma Lancer =" เด็กสาววาดมือในแนวนอน ปรากฏลำแสงสีเหลืองรูปศรถูกยิงออกไปใส่ทั้ง 3 คนนั้น เพื่อทำลายจังหวะการรวมพลัง ซึ่งก็ได้ผลลัพท์ดังคาด พวกเขาต้องยกเลิกการยิง และหลบหนีเหล่าแสงศรที่ติดตามตนราวจรวดนำวิถีนั้นวุ่นวายพัลวัน

     

    ร่างของแคสก้าสงบแน่นิ่งลงบนพื้น พร้อมกับบางสิ่งที่ 'กระโดด' ออกมาจากร่างของเธอ เฟทเริ่มสยองมากขึ้นเมื่องสิ่งที่เธอเห็นจากร่างของแคสก้านั้นคือแมลงขนาดใหญ่ยิ่ง " แมลงเหล่านี้คือตัวต้นเหตุสินะ บาร์ดิซ / = Haken Saber =" เด็กสาวเหวี่ยงคทาในแนวนอน เพื่อขว้างลำแสงคมเคียวนั้นออกไป และมันได้พุ่งเข้าโจมตีราวมุมเมอร์แรง ร่อนผ่านทะลุตัวของแมลงร่างใสนั้นไป ตัดแบ่งครึ่งออกเป็น 2 ส่วน และเสียชีวิตในกองเลือดสีเขียวทันที

     

    " พวกเราพบแล้ว!! สิ่งบูชาอันเหมาะสม!! " เสียงของหญิงสาวทั้ง 3 เปล่งออกมาพร้อมๆ กันอีกครั้ง สร้างความหวาดกลัวให้กับเฟท ในคำพูดที่มิอาจทราบความหมายนั้น เธอจึงจับบาร์ดิชให้กระชับขึ้นเพื่อเตรียมรับการโจมตี

     

    "= Feri Bestur =" พวกลูมิน่ากระหน่ำยิงเฟทจากทางด้านหน้า ซึ่งเธอต้องกางบาเรียวงเวทย์ปัดป้อง แต่ในระหว่างนั้นเธอได้เห็นสิ่งหนึ่งที่โปร่งใส ลอยข้ามศีรษะของเธอไป... " ขา.. แมลง ?!? " ด้วยความตื่นตะลึง เฟทถูกจู่โจมจากทางด้านหลังด้วยสิ่งที่มองไม่เห็น ทำให้เสียการทรงตัว ทรุดลงไปอยู่ในท่าคลานเข่า และเมื่อหันมองเงยขึ้น พวกลูมิน่าได้ชี้คทามายังตัวเธอ ที่ตัวดีไวซ์มองเห็นบางสิ่งคล้ายระยางของสิ่งมีชีวิตเกาะอยู่ และมันได้ 'พ่น' ของเหลวสีเขียวลักษณะเหนียวเหนอะใส่ร่างของเฟท เด็กสาวรีบเอามือปิดตาเอาไว้ " อ๊า~ นะ... นี้มันอะไรเนี่ย !?! "

     

     

     

     

    เมื่อเด็กสาวปาดของเหลวเหนียวออกจากใบหน้าจนพอที่จะลืมตาขึ้นมาได้แล้ว กลับไม่พบว่าพวกของลูมิน่าดำรงอยู่ในบริเวณนี้อีกต่อไป เธอค่อยๆ ลุกขึ้นยืน และเห็นว่าแคสก้ายังนอนหายใจรวยระรินอยู่ ใบหน้าที่น่ากลัวนั้นหายไปจนสิ้นเหลือแต่เพียงเค้าของหญิงสาวที่บาดเจ็บสาหัส เธอจึงช้อนแขนของแคสก้าและพาพยุงเดินออกจากถ้ำเพราะหวั่นเกรงว่ามันจะถล่มลงมา

     

    เฟทกับแคสก้าเคลื่อนตัวมาจนถึงปากถ้ำ นัยน์ตาสีแดงของเธอหรี่ลงเพราะไม่ชินกับแสงตะวันจ้าในขณะนั้น จมูกสูดรับกลิ่นอันสดชื่นของสายลมอีกครั้ง พลางมองเห็นโครโน่บินเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว

     

    " เฟท เธอบาดเจ็บนี่ " โครโน่พาตัวเองลงสู่พื้น และรีบวิ่งไปหา พร้อมกับเซ็ตให้ดูรัลดัลอยู่ในโหมดรับสัญญาณ ซึ่งทำให้เอมี่สามารถมองเห็นทุกคนผ่านจนมอนิเตอร์โฮโลแกรมได้อีกครั้ง

     

    " ฉันไม่เป็นไร แต่เจ้าหน้าที่แคสก้าอาการสาหัสกว่าฉัน ช่วยเธอก่อนดีกว่าค่ะ " เฟทค่อยๆ วางตัวของแคสก้าลง ในขณะนั้นเองหน่วยแพทย์ของอาสร่าก็มาถึงพอดี จึงเร่งทำแผลฉกรรจ์ให้แคสก้า และเฟท... ในระหว่างนั้นเฟทได้หันไปพูดกับโครโน่ " ทางฝั่งของพี่เป็นอย่างไรบ้างคะ "

     

    " ไม่เหลือผู้รอดชีวิตเลย " โครโน่ส่ายหัว " ซ้ำร้าย ร้อยโทเรนกัสยังคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก " เฟทได้ยินดังนั้นจึงได้บรรยายเรื่องยาวที่เธอพบเจอมาบ้าง ทั้งแมลงปริศนา และอาการคลุ้มคลั่งของเผล่าผู้รอดชีวิต... " ดังนั้น เราคงต้องรอให้แคสก้าฟื้นขึ้นมาเสียก่อน จึงค่อยถามเรื่องราวทั้งหมดกับเธอ " โครโน่บอกสรุปในระหว่างที่หมอกำลังรักษาบาดแผลให้กับเฟท และเช็ดตัวของเธอที่เปรอะเปื้อนด้วยผ้าขนหนู

     

    " กลิ่นแรงใช้ได้เลยนะเฟท " โครโน่เอามือบีบจมูก ส่วนเด็กสาวหน้าแดงขึ้นมา เมื่อโดนล้อปมด้อยชั่วคราวของเธอ พลางใช้มือทั้งสองบิดเพื่อขับสิ่งปฏิกูลนั้นออกจากเส้นผมสีทองอย่างยากลำบาก

     

     

     

     

    เมื่อทั้งหมดกลับมาถึงอาสร่า โครโน่และเฟทจึงเล่าทุกอย่างให้รินดี้ฟัง ในห้องส่วนตัวที่มีเสื่อญี่ปุ่นไว้รองนั่ง และประดับด้วยสิ่งของแบบบรรยากาศของญี่ปุ่น " ให้หนูกับพี่โครโน่ทำคดีนี้เถอะนะคะ " ลูกสาวรบเร้าผู้เป็นมารดา แต่รินดี้และโครโน่ต่างปฏิเสธเสียงแข็ง " เฟทจ้ะ แม่เข้าใจในความมุ่งมั่นของลูกนะ แต่ทว่า อีก 2 อาทิตย์ลูกก็จะสอบแล้วนี่จ้ะ ใช่ไหม "

     

    " ก็... จริงอย่างที่คุณแม่ว่ามาน่ะค่ะ " เฟทพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง ก่อนที่จะถูกโครโน่เบี่ยงเบนประเดนจนทำให้ดีใจขึ้นมาอีกครั้ง " พรุ่งนี้เธอจะได้กลับไปอยู่กับนาโนฮะที่โลกแล้วใช่ไหมล่ะ ฝากคิดถึงทุกๆ คนที่นู่นด้วยนะ "

     

    " อ๊ะ! ค่ะ หนูคิดถึงนาโนฮะมากๆ เลย ดีใจจัง พรุ่งนี้จะได้เจอกันแล้ว " เฟทสาธยายด้วยความดีใจ เป็นประโยคยาวๆ ที่ไม่ค่อยปรากฎให้รินดี้และโครโน่ได้ยินบ่อยนัก ด้วยสีหน้าอันร่าเริง ทำเอาที่เหลือออกอาการสงสัย จนเฟทต้องออกมาปฏิเสธด้วยใบหน้าตื่นเต้นว่า " มะ... ไม่มีอะไรค่ะ... " เด็กสาวซ่อนความนัยบางอย่างเอาไว้ในจิตใจดั่งเช่นที่เคยปฏิบัติมา...

     

     

    To Be Continue...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×