ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Nanoha]Fate's Secret Heart

    ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องน่ารู้จากนิยายนาโนฮะ : Storage - Armed Device ของพวก Omit Parasiten

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.27K
      5
      3 ก.ย. 52

    เรื่องน่ารู้ในนิยาย Fate's Secret Heart ตอนที่ 1
    : Storage - Armed Device ของพวก Omit Parasiten

    ในนิยาย Fate's Secret Heart นั้น จะพบว่าเหล่าตัวร้ายที่เป็นทีมเก็บกู้ มีดีไวซ์ในลักษณะของ Storage Device โดยจะเป็นดีไวซ์ที่ทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายมากกว่าที่จะช่วยออกความเห็นด้วยอย่างพวก Intelligent Device อย่างบาร์ดิชของเฟท แต่ถึงกระนั้น ดีไวซ์เหล่านี้ก็ยังมีสภาพเป็น Armed Device ด้วย ซึ่งภายในภารกิจเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยอย่าง ลอสท์ โลเกีย อาจต้องเจอกับสถานการณ์ที่ต้องใช้คาถาและความรุนแรงด้วย ทั้งจากการบุกทะลวงในพื้นที่อันตราย หรือการพบเจอกับพวกคนร้ายที่พยายามคิดจะขโมยลอสท์ โลเกียไปขายในตลาดมืด หรือใช้ไปในทางไม่ดี

    ดีไวซ์เหล่านี้จึงถูกออกแบบผสมผสานกันของลักษณะ Storage และ Armed เป็น Storage - Armed Device แต่ทั้งนี้โครงการดีไวซ์ดังกล่าวยังเป็นรุ่นต้นแบบ จึงใช้พื้นฐานของดีไวซ์ตามปกติ มาเสริมพลังเข้าไปนั่นเอง ( ในเรื่องจะใช้ศัพท์รุ่นว่า Regular Devicer )

    โดยในเรื่องจะปรากฎดีไวซ์ในรุ่นนี้อยู่ทั้งหมด 5 ด้ามด้วยกัน

    1. จูดาเคน ( Judaken ) ดีไวซ์รูปลักษณะของนาฬิกาข้อมือสีขาวคาดน้ำเงินของ ลูมิน่า ลิลีเนีย ซึ่งความสามารถของมันคือการเพิ่มพลังการเคลื่อนไหวให้กับผู้ใช้งาน และความรุนแรงในสกิลของผู้ใช้ประเภทการต่อสู้ประชิดตัว หากจะกล่าวในเชิงผู้คลุกคลีกับเรื่องนาโนฮะแล้ว ก็เหมือนกันนำดีไซน์นาฬิกาของเอริโอ้คุง มาผสมผสานพลังการต่อสู้ของกิงกะนั่นเอง ( เน้นพริ้วไหวสวยงามมากกว่าแลกตรงๆ อย่างซุบารุ )

    โดยชื่อ จูดาเคน ( Judaken ) เป็นการแผลงเสียงมาจาก คำว่า Judgement ( และชื่อ ลูมิน่า ก็นำมาจากชื่อยี่ห้อรถ CHEVROLET LUMINA นั่นเอง )

    2. ครามาล ซิน ( Cramal Sin ) ดีไวซ์รูปลักษณ์คล้ายหอกที่มี 2 ปลายแหลม ฉาบทาด้วยสีขาวสลับกับน้ำเงิน พิมพ์สไตล์เดียวกับจูดาเคน (รวมถึงอีก 3 ด้ามที่เหลือก็มีลวดลายลักษณะเดียวกัน ) โดยปลายแหลมทั้งสองนั้นสามารถปล่อยกระแสพลังงาน และยิงออกมาราวกับปืนใหญ่พลังแม่เหล็กได้ ส่วนในโหมดต่อสู้ ก็สามารถใช้คมหอกนั้นฟาดฟันได้ โดยไม่ต้องหวั่นเกรงถึงแรงปะทะที่อาจทำให้ครามาล ซินเสียหายได้เพราะได้ทำการเสริมแกนกลางให้มีความแข็งแรงมากกว่าดีไวซ์ปกติทั่วไป แต่โดยทั่วไป หญิงร่างเล็กอย่างคาเรน ก็มักจะใช้ในรูปแบบแรกมากกว่า

    ครามาล ซิน มีที่มาของชื่อมาจากการแผลงศัพท์คำว่า Criminal law และเป็นดีไวซ์ประจำตัวของเจ้าหน้าที่คาเรน เครอาร์ ( ส่วนชื่อของเธอก็มาจากชื่อรถรุ่น KIA CARENS )

    3. พานิชเชอร์ ( Panisher ) โดยส่วนตัวผู้แต่งชอบดีไวซ์ชิ้นนี้มากที่สุด รูปลักษณ์นั้นเป็นเสมือนมีดคอมแบทที่เหล่าทหารใช้กัน แต่ดีไซน์ให้มีความโค้งมน และมีส่วนป้องกันนิ้วมือคล้ายสนับอยู่ด้วย ( หากจิตนาการกันไม่เห็นภาพอันเนื่องจากฝีมือการรบรรยายไม่ถึงขั้นของข้าพเจ้าล่ะก็แนะนำให้ลองหาภาพของมีดที่คาเมน ไรเดอร์คาบูโตะใช้ คล้ายๆ กัน ต้องขออภัยใน ณ ที่นี้ ) ซึ่งลักษณะการถือโดยส่วนตัวของพรีเมซ่า ฟอร์เอทิด้านั้น จะถือให้ปลายแหลมหันออกจากนิ้วก้อย และชี้ลงพื้น การเข้าโจมตีจึงเป็นแบบพุ่งเข้าหาและฟาดฟันในแนบนอนเพื่อสร้างบาดแผลฉกรรจ์

    พานิชเชอร์ ( Panisher )  นั้นเดาศัพท์ที่มาได้ไม่ยาก นั่นคือ Punisher นั่นเอง

    4. คาล - โวซ ( Cal - Wos ) ของเจ้าหน้าที่แคสก้า ลามิไนท์ ดูเหมือนจะเป็นดีไวซ์ที่มีรูปลักษณ์คล้ายคทาเวทย์เป็นที่สุด อันส่วนยอดของตัวคทานี้จะมีแกนกลางเป็นลูกแก้วสีแดงขนาดใหญ่ ทำให้นึกถึงเรจจิ้ง ฮาร์ทขึ้นมาทันใด ซึ่งความสามารถนอกจากจะใช้ยิงระยะไกลคล้ายกับครามาล ซิน แล้ว ก็ยังบรรจุเวทย์มนตร์จำพวกเพิ่มพลังให้กับผู้อื่นอยู่ด้วย จึงเหมาะที่จะให้ผู้ใช้งานไปในเชิงกู้ภัยและสนับสนุน และ คาล - โวซ( Cal - Wos ) มีต้นศัพท์มาจากคำว่า Gallows

    5. ซาซอร์ด ( Sasword ) ดีไวซ์ที่มีรูปลักษณ์ของดาบคาตานะของญี่ปุ่น ด้ามดาบเป็นสีขาว และมีลายสีน้ำเงินเสมือนถัดร้อยซ้อนกันไปตลอดตัวด้าม และมีฝักดาบสีขาว แต้มด้วยแถบสีน้ำเงินคาดอยู่ที่เอวของเรนกัส อาบีส ซึ่งการโจมตีจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อมีการเสียบตัวดาบกลับเข้าฝัก เพื่อชาร์ทพลังงานเวทย์ใส่ตัวคมดาบ และเมื่อพลังงานถูกกดดันจนถึงขีดสุด แล้วถูกชักออกมาเพื่อฟาดฟัน ก็จะนำพาพลังงานยิ่งยวดเหล่านั้นเสริมในทวงท่าฟาดฟันโจมตีด้วย ก่อให้เกิดพลังทำลายอันมหาศาล ซึ่งการกระทำเช่นนี้ได้ ตัวคมดาบจึงผลิตด้วยแร่เหล็กชนิดพิเศษที่สามารถทนความร้อนสูง และการอัดชาร์ทพลังงานเวทย์อย่างยิ่งยวดได้

    ทั้งนี้ ที่มาของชื่อ Sasword นั้นคือการแผลงเสียงศัพท์อย่างห้วนๆ จากคำว่า Assassinate Sword ( และได้แรงบันดาลใจจากคาเมน ไรเดอร์ตัวหนึ่งในซีรีย์คาบูโตะ )

    จุดสังเกตเล็กน้อย ศัพท์ที่มาของชื่อดีไวซ์ในรุ่น Regular Devicer นั้น ได้นำมาจากการศาลในยุคโบราณอันป่าเถื่อนอยู่นั่นเอง

    ในช่วงต้นได้แนะนำเกี่ยวกับดีไวซ์ทั้ง 5 กันไปแล้ว ก็จะขออธิบายระบบโดยรวมของรุ่น Regular Devicer เป็นลำดับต่อไป

    สำหรับระบบการใช้งานนั้น จะขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานเป็นหลัก โดยตัวดีไวซ์จะบรรจุคำสั่งในสายการต่อสู้แบบเบลก้าใหม่ หรือการผสมผสานระหว่างสายเบลก้าโบราณ กับสายมิดชิลด้า ซึ่งในนิยาย Fate's Secret Heart ที่อยู่ในช่วงรอยต่อของ A's To Striker นั้น สายเบลก้าใหม่ นับว่ายังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลาย ผู้ที่สำเร็จการศึกษาได้นั้นมีน้อยมากเมื่อเทียบกับสายมิดชิลด้า เพราะในเวลานั้นเวทย์มนตร์สายเบลก้าจะถูกต้องห้ามไว้ว่าเป็นเวทย์มนตร์ที่ทรมาณผู้ใช้งานจนอาจเกิดอัตรายขึ้นได้ จึงมีการลดทอนทวงท่าทางฝั่งเบลก้าลงให้แสดงผลอยู่ที่ 40% และมิดชิลด้าที่ราวๆ60% วงแหวนเวทย์ที่ปรากฎจึงเป็นลักษณะทรงกลมแบบมิดชิลด้านั่นเอง

    ( อาจจะสงสัยว่าเวลทย์สายมิดชิลด้ามาแบบประชิดด้วยไหม ก็อาจจะกล่าวได้ถึงท่า A.C.S. Strikeframe ของเรซิ่ง ฮาร์ทที่เป็นการสร้างคมหอกแหลมพุ่งเข้าไปโจมตี ในช่วงท้ายของภาค A's นั่นเอง )

    ดังนั้นเมื่อคำสั่งส่วนใหญ่เป็นเวทย์สายมิดชิลด้า ก็ควรที่จะมีชื่อท่าเป็นภาษาอังกฤษอย่างถูกต้องเช่น Protection หรือ Device Shooter แต่ในนิยายกลับปรากฏศัพท์แปลกๆ ขึ้นมาแทน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

    ต้นเหตุคือเหล่าแมลง Omit Parasiten ที่เข้าสิงอยู่ในร่างของทีมเก็บกู้นั่นเอง โดยพวกมันเป็นลอสท์ โลเกียชนิดหนึ่ง ที่สามารถ "แฮค" ระบบของดีไวซ์ ให้สามารถรับพลังงานจากทั้งร่างที่สิงอยู่ ( Host ) และลิงเกอร์ คอร์ของพวกมันเองได้ ในกรณีลิงเกอร์ คอร์ของร่างที่สิงอยู่หมดพลังงานลงไป และเพื่อแฮคดีไวซ์บางรุ่นที่จะรับสัญญาณแต่ผู้ที่ปลดผนึกมันเท่านั้น สามารถรับคำสั่งจากเหล่า Omit Parasiten ได้ ( เช่นพวกIntelligent Device ที่จะเชื่อฟังแต่คำสั่งของผู้เป็นนาย เช่นเรซิ่ง ฮาร์ท หรือหนังสือแห่งความมืด เป็นต้น )

    เมื่อแฮคแล้วจะเกิดอะไรขึ้น... เมื่อคำสั่งเวทย์จาก Omit Parasiten เป็นคำสั่งในแบบเบลก้า แต่ดีไวซ์อย่างมิดชิลด้าเกิดไม่รองรับคำสั่งนั้นโดยตรง ก็จะพยายามถอดรหัสและแปลคำสั่งออกมาเป็นท่าที่ใกล้เคียงที่สุด ซึ่งถ้าในยามปกติคงเกิดความผิดพลาดหรือ Error ขึ้นอย่างแน่นอน

    และเมื่อดีไวน์พยายามแสดงผลเวทย์แบบเบลก้า ในลักษณะของมิดชิลด้า การออกเสียงชื่อท่าจึงเกิดความบิดพริ้วไป โดยในรุ่น RegularDevicer นั้น ทวงท่าคำสั่งจะถูกสลับตำแหน่ง "อักษรสระ" ในประโยคแบบคู่ๆ กันเกิดขึ้น เช่น

    Fire Buster : ในคำว่า Fire จะสลับ ตัว i กับ e และ Buster จะสลับ u และ e ไป
    กลายเป็น Feri Bestur ( ลูมิน่า และพรรคพวกใช้ยิงใส่เฟทในนิยายตอนที่ 1 )

    หรือหากในกรณีในคำมีอักษรสระเป็นจำนวนเลขคี่ ที่ไม่สามารถสลัยคู่ได้ ก็จะแสดงผลดังนี้

    Devicer Shooter : คำว่า Devicer จะเลื่อนสระขึ้นมาแทนตัวหน้า 1 ตำแหน่ง เช่น i จะแทน e ตรง De และ e ตัวหลังก็จะขยับมาแทน i ตรง vi และ e ตรง De จะย้ายไปอยู่ตรงคำว่า cer ส่วน Shooter ก็จะขยับในแบบเดียวกับคำแรก
    กลายเป็น Divecer Sho Etor ซึ่งอาจจะมีการแบ่งคำเพื่อออกเสียงได้ง่ายขึ้น

    สำหรับการแนะนำเกี่ยวกับเรื่อง Device รุ่น Regular Devicer ก็ได้จบลงไปแล้ว ในตอนต่อไปจะนำอะไรมาแนะนำนั้น ต้องติดตามกันให้ได้นะครับ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×