ingen
ดู Blog ทั้งหมด

เมื่อ "ลิขิตรักเหนือคำทำนาย" ได้วางแผงสักที

เขียนโดย ingen
ร้างรามานานกับการเขียน Blog ยิ่งเฉพาะกับการอัพเดทเรื่องราวของนิยายเรื่องนี้

ลิขิตรัก เหนือคำทำนาย
แม้หลายครั้งที่มันถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ลิขิตรักเหนือคำบรรยาย ก็ตาม >_< 

...แต่ฉันก็ชอบนะ ฉันว่ามันเป็นอะไรที่สุดๆ ดี ^^ ไม่รู้เพราะเขารู้สึกทึ่ง หรือเพราะอึ้งจนพูดไม่ออกกันแน่ (ดูมันหนักหนาสาหัสขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย -_-')

ไหนๆ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้อัพเดทก๊อกที่เหลือเลย เอาเป็นว่าก๊อกสุดท้ายนี้ก็รวบยอดไปเลยแล้วกัน 555

วันนี้เป็นวันที่ฉันดีใจที่สุดในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมา กะว่าจะโทรไปบอกพ่อกับแม่ แต่พอกลับมาก็เปิดคอมพ์ก่อนเลย หุหุ (ขอโทรไปบอกหน่อยละกัน)

...ตอนแรกก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ หลังจากที่รู้ว่านิยายเราได้คิวขึ้นแท่นพิมพ์แล้ว ผ่านไปประมาณสองอาทิตย์กว่าเอง นิยายก็ขึ้นหน้าเว็ป เรารึก็เพียรเข้าไปดูทุกวัน รอว่าเมื่อไหร่จะถึงคราวเรื่องของเราสักที พอเห็นเท่านั้นแหละ...มันดีใจบอกไม่ถูก


พอรู้ว่าหนังสือมาแล้วก็ตื่นเต้นรีบขึ้นไปรับ (ให้เขาส่งมาที่ออฟฟิศ) อารมณ์นั้นมีดีใจ แต่ก็แสดงออกได้ไม่มาก ก็ดันมาตอนเราทำงานด้วยแหละ งานก็ยังไม่เสร็จ ไอ้ครั้นจะมัวแต่ลั้ลลากับนิยายก็คงจะไม่ใช่ที่ ซึ่งตอนนั้นก็มัวแต่วุ่นเรื่องเซอร์ไพรส์วันเกิดพี่ที่ออฟฟิศด้วยแหละ เกื่อบเลิกงานนั้นล่ะ ถึงจะได้หยิบมาเปิดดูว่าข้างในเขาจัดเล่มเป็นยังไงบ้าง...บอกตรงๆ ว่าตื่นเต้นไม่น้อย

...เห็นแล้วปลื้มมมม

หลายคนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเรา เรายิ่งรู้สึกดี รู้สึกมีความสุขบอกไม่ถูก เพิ่งรู้ว่าเวลาหัวใจมันพองโต มันเป็นแบบนี้นี่เอง 555...ที่สำคัญ ดันมีเพื่อนไปซื้อมาดักหน้าเสียได้ นับถือเลยว่าเร็วมาก เห็นความตั้งใจแล้วซาบซึ้งเป็นที่สุด เชื่อมั้ยว่าตอนจะเซ็นปกให้ มันเคอะเขินยังไงชอบกล >_<

อยากมีหนังสือติดตัวหลายๆ เล่ม อยากแจกให้ทุกคนได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก ไม่ต้องอ่านก็ได้ แค่เก็บอยากเก็บไว้ก็พอ...จริงอยู่ มันไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากมาย คนรับอาจแค่ตื่นเต้น แต่เราตื้นตัน เพราะเราเท่านั้นที่รู้ว่าเบื้องหลังของวันนี้มันยากเย็นแค่ไหน ฉันต้องรอวันนี้มาเนิ่นนานแค่ไหน วันที่นิยายฉันวางตลาดได้...ไม่ใช่แค่ออกมาเป็นรูปเล่มเหมือนที่ผ่านๆ มา

ฉันก็เข้าใจนะ บางคนอาจมองว่ามันจะอะไรกันนักหนา กับอีแค่เขียนนิยาย บางคนมองเป็นเรื่องไร้สาระไปเสียอย่างนั้น -_-' ก็ไม่แปลก บางครั้งฉันเองก็ยังคิดเลยว่า สิ่งที่ตัวเองทำมันก็ไม่ได้มีสาระอะไรมากมาย ไม่ใช่ภารกิจใหญ่ระดับชาติ ไม่ใช่นิยายสาระดีน่าสะสม เหอๆ...แต่ไม่รู้ทำไม สิ่งไร้สาระสำหรับฉันมันดูจะรังสรรค์ความสุขได้มากมายเสียกว่าเรื่องมีสาระซะอีก ซึ่งวันๆ ฉันก็พานพบมันมามากพอแล้ว

...ก่อนกลับบ้านแวะไปซีเอ็ดสักนิด ขอดูหน้าตาเวลามันอยู่บนแผงสักหน่อย แม้ไม่ได้เชิดหน้าโชว์ปกอยู่บนชั้นก็ตามที แม้มันจะนอนราบๆ หลบอยู่ระนาบเดียวกับแผงก็ดีใจ

ประหนึ่งรู้สึกว่า ถึงเวลาที่ชั้นจะแสดงออกได้เต็มที่ว่า "ฉันดีใจนะ" ตลอดเวลานั่งรถกลับบ้านดูสั้นนิดเดียว เพราะฉันมัวแต่คิดถึงเรื่องนี้จนไม่ทันสังเกตว่ารถจะติดหรือไม่ติด ผิดกับทุกวันที่ต้องนั่งโหน้งเหน่งโหน้งแกละ เวลามีความสุข คนเรามันก็มันจะมองเห็นอะไรในแง่ดีไปหมด ขนาดรถติดยังไม่สนใจเลย...ให้ตายสิ 55

ฉันไม่รู้นะว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง อนาคตบางทีเราก็ยากที่จะให้มันเป็นเสมือนการเสี่ยงโชคบ้าง คิดเผื่อไป บางทีมันก็ไม่เคยจะเป็นอย่างที่เราคิด ซึ่งบางทีนิยายฉันอาจจะขายไม่ได้เลยสักเล่ม...ไม่สิ อย่างน้อยก็คงมีแต่เพื่อนสนิทมิตรสหายที่เต็มใจจะซื้อ...หรือก็อาจจะขายได้แค่นั้นนั่นแหละ 55

สุดท้ายนี้ฉันขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมไปกับความดีใจของฉัน ไม่รู้สิ ตอนฉันมีความสุข ฉันก็อยากที่จะให้ทุกคนมีความสุขไปกับฉันด้วย...เพราะไม่ต้องซื้อหามั้ง เลยไม่อยากจะเก็บไว้สุขคนเดียว ^_^

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอโชว์ปกหน่อยแล้วกันนะ ถึงแม้ฉันว่าของจริงมันจะสีชืดกว่าไฟล์ในคอมพ์ก็เหอะ...แต่เอาวะ เวลานี้ต่อให้เป็นภาพขาว-ดำยังดีใจเลย วะฮ่ะๆ


 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
เราก็อยากมีหนังสือนิยายไว้มั้งจัง
ingen
ingen 23 เม.ย. 54 / 21:32

พยายามเข้านะคะแอน แล้ววันที่มีหนังสือเป็นของตัวเองก็แวะมาบอกกันมั่งนะคะ จะได้ร่วมแสดงความดีใจด้วยอีกคน ^^