ingen
ดู Blog ทั้งหมด

ควันหลงซีรี่ย์ฮิต "ซอนต๊อก" มหาราชินีสามแผ่นดิน

เขียนโดย ingen

ซีรี่ย์เกาหลีในดวงใจ # 1

  

เรื่องย่อ

          ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน Queen Seon Deok“ราชินีซอนต๊อก” กล่าวถึงเรื่องราวขององค์หญิงต๊อกมานที่ถูกทอดทิ้ง ระหกระเหินออกจากวังหลวงด้วยเหตุอันมาจากคำพยากรณ์ที่เป็นอัปมงคล ต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส เผชิญกับการฝ่าฟันแย่งชิงอำนาจในวังหลวงจนกลายเป็นปฐมราชินีแห่งแคว้นซิลลา ราชินีซอนต๊อก
          มีซิล ครองอำนาจล้นฟ้าในวังหลวง พระเจ้าจินพยองและมเหสีมายาให้กำเนิดพระธิดาฝาแฝด สำหรับพระเจ้าจินพยองแล้ว การให้กำเนิดพระธิดาฝาแฝดกลับเป็นสิ่งอัปมงคล ด้วยยึดติดกับคำพยากรณ์ที่ว่า “ให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝด สิ้นชายครองบัลลังก์” พระเจ้าจินพยองทรงไม่มีทางเลือกจึงจำต้องส่งคนพาต๊อกมานพระธิดาฝาแฝดคนรองไปจากวังหลวง แต่มีซิลกลับส่งคนไปลอบสังหาร ขณะที่ต๊อกมานกำลังอยู่บนความเป็นความตายนั่นเองได้รับความช่วยเหลือจากมุนโนแห่งสำนักองครักษ์ มุนโน มอบต๊อกมานให้อยู่ในอุปการะของโซวา ซึ่งเป็นนางกำนัลของพระเจ้าจินพยอง โซวาพาต๊อกมานเดินทางไปยังทะเลทรายในแผ่นดินจีน โดยเปิดโรงเตี๊ยมเล็กๆ แห่งหนึ่งเพื่อยังชีพ 
          มีซิลศัตรูที่ร้ายกาจขององค์หญิงต๊อกมานนั้นใช้ความงามจนเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าจินฮึง และมีอำนาจล้นฟ้าในวังหลวง นางซึ่งมักใหญ่ใฝ่สูง หลังจากที่พระเจ้าจินฮึงสวรรคตแล้ว นางก็ให้การสนับสนุนพระเจ้าจินพยอง ซึ่งยังพระเยาว์ขึ้นครองราชย์ หลังจากที่พระมเหสีของพระเจ้าจินพยองให้กำเนิดพระธิดาฝาแฝดแล้ว มีซิลก็ใช้ชีวิตของพระธิดาฝาแฝดข่มขู่พระเจ้าจินพยอง เพื่อที่นางจะได้ครองอำนาจล้นฟ้าตลอดไป โชคดีที่มุนโนและโซวาช่วยชีวิตต๊อกมานเอาไว้ ทำลายแผนการของมีซิลจนพังพินาศลง กระนั้นมีซิลก็ยังคงไม่ละทิ้งที่จะแสวงหาอำนาจมาครอบครอง ด้วยการวางแผนร้ายเพื่อให้สามีของนางได้ขึ้นครองบัลลังก์ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเห็นองค์หญิงชอน-มยองพี่สาวขององค์หญิงต๊อกมานเป็นเสี้ยนหนาม
          ในช่วงที่มีซิลมีอำนาจล้นฟ้า องค์หญิงชอน-มยอง ซึ่งมีไหวพริบสติปัญญาเฉลียวฉลาดเหนือคนธรรมดาก็ตัดสินใจ เก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้เพื่อไม่ให้มีซิลรู้ แต่ในทุกครั้งที่ประสบวิกฤต ความสามารถและภาวะผู้นำขององค์หญิงชอน-มยอง ก็ปรากฏออกมาจนสามารถฝ่าฟันวิกฤตไปได้ ทั้งที่องค์หญิงชอน-มยอง และคิมยองซูแต่งงานกันจนมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนชื่อว่าคิมชุนชูก็ตาม แต่ดวงใจขององค์หญิงชอน-มยอง กลับปฏิพัทธ์ต่อคิมยูซินซึ่งเคยช่วยชีวิตนางมาก่อน
          คิมยูซินแม่ทัพแคว้นซิลลามีวรยุทธลึกล้ำ หลังจากที่ช่วยชีวิตองค์หญิงชอน-มยอง ให้รอดพ้นจากการปองร้ายของมีซิลแล้ว ก็ได้รู้จักกับต๊อกมาน ในช่วงเวลาที่คิมยูซินให้ ความช่วยเหลือองค์หญิงต๊อกมาน สานความฝันที่จะรวบรวมสามแคว้นเป็นหนึ่งเดียวกันให้กลายเป็นจริงขึ้นมานั่นเอง คิมยูซินก็ตกหลุมรักองค์หญิงต๊อกมาน กลายเป็นคนที่อยู่เคียงข้างสนับสนุนองค์หญิงต๊อกมานด้วยความภักดี จากความช่วยเหลือของคิมยูซิน ในที่สุดองค์หญิงต๊อกมานก็สามารถโค่นอำนาจของมีซิลลงได้กลายเป็นปฐมราชินีแห่งแคว้นซิลลา

รายชื่อนักแสดง

 
ลี ยอ วอน รับบท องค์หญิงต๊อกมาน/พระนางซอนต๊อก


 
ปาร์ค เย จิน รับบท องค์หญิงซอน มยอง


 
ออม แท วุง รับบท คิมยูซิน

 
 
โก ฮยอน จง รับบท มีซิล


 
คิม นัม กิล รับบท พีดัม


 
ยู ซึง โฮ รับบท องค์ชายชุนชู


 

ลี ซึง โฮ รับบท องค์รักษ์ไอชอง

ทำความรู้จักมหาราชินี ซอนต๊อก
          ซอนต๊อก มหาราชินีแห่งอาณาจักรชิลลา หนึ่งในสามอาณาจักรของเกาหลี ทรงครองราชย์อยู่ระหว่างปี ค.ศ. 632 – 647 พระองค์ทรงเป็นผู้ปกครองอาณาจักรพระองค์ที่ 27 แห่งอาณาจักรชิลลา และทรงเป็นราชินีพระองค์แรกที่ขึ้นครองบัลลังก์
ก่อนจะ ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ราชินี ซอนต๊อกทรงเป็นที่รู้จักกันในพระนาม “องค์หญิงต๊อกมาน” ทรงเป็นพระธิดาพระองค์ที่ 2 ในบรรดาพระธิดา 3 พระองค์ของกษัตริย์จินพยอง เมื่อพระโอรสขององค์หญิงชอนเมียง น้องสาวของพระองค์ ขึ้นครองราชย์ ในขณะที่น้องสาวของพระองค์คือองค์หญิงซันวาทรงอภิเษกสมรสกับพระราชามูแห่ง อาณาจักรแพ็กเจและมีพระโอรสด้วยกันหนึ่งพระองค์คือองค์ชายยูจา เนื่อง จากพระเจ้าจินพยองไม่มีพระโอรส ดังนั้นพระองค์จึงทรงเลือกซอนต็อกเป็นรัชทายาท ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เป็นปกติในอาณาจักรชิลลา ที่ผู้หญิงจะมีบทบาททางสังคมมาก โดยในยุคของพระองค์พระองค์ทรงเป็นผู้หญิงที่ได้รับพระราชอำนาจให้เป็นทั้งที่ปรึกษา, ทรงเป็นราชินีม่ายผู้เพียบพร้อม และยังเป็นผู้สำเร็จราชการอีกด้วย โดยตลอดรัชสมัยของพระองค์ผู้หญิงเป็นผู้ นำครอบครัว ทำให้ผู้สืบเชื้อสายราชินิกุล (นับทางพระมารดา) จะมีอำนาจมากกว่าผู้สืบเชื่อสายข้างราชนิกุล (นับทางพระราชบิดา) ซึ่งตรงกันข้ามกับหลักของขงจื้อ ซึ่งกำหนดสถานภาพของผู้หญิงให้ต่ำกว่าผู้ชาย แต่สถานภาพดังกล่าวนี้กลับไม่ได้รับการยอมรับในเกาหลีโบราณ จนกระทั่งถึงยุคโชซอน ประมาณ ศตวรรษที่ 15 ดังนั้นในช่วงของอาณาจักรชิลลา สถานภาพของผู้หญิงจึงยังสูงอยู่ แต่อย่างไรก็ตามพวกเธอก็ยังคงถูกคาดหวังให้ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบหน้าที่ของ ผู้หญิงอยู่นั่นเอง
          ซอนต็อก ทรงอยู่ในราชบัลลังก์ชิลลาตั้งแต่ปี ค.ศ. 634 – 647 พระองค์ทรงเป็นผู้หญิงพระองค์แรกใน 3 พระองค์ซึ่งขึ้นมามีอำนาจในราชบัลลังก์ชิลลา พระองค์ทรงเป็นพระราชชายาของพระเจ้าโรซาพาพัน และทรงครองราชย์สำเร็จด้วยความช่วยเหลือของลูกพี่ลูกน้องของเธอจินด็อก ผู้ซึ่งขึ้นครองราชย์ต่อจากเธอจนกระทั่งปี ค.ศ. 654 ในช่วง รัชสมัยของพระองค์เป็นรัชสมัยหนึ่งที่มีแต่ความรุนแรง มีกบฏเกิดขึ้นมากมาย ซ้ำยังต้องทำสงครามกับอาณาจักรเพื่อนบ้านอย่างแพ็กเจตลอดรัชสมัยของพระองค์ อีกด้วย ด้วยพระปรีชาสามารถของพระองค์ ทำให้พระองค์ได้ขึ้นครองบัลลังก์ในฐานะราชินีผู้ครองอาณาจักรชิลลา ด้วยวัยเพียงพระชันษา 14 พรรษา พระองค์ทรงสามารถรวบรวมอาณาจักรให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้และยังได้ขยาย อาณาจักรโดยการผูกสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่อีกด้วย โดยการส่งบัณฑิตไปศึกษาที่ประเทศจีนเป็นต้น พระองค์ทรงปฏิบัติคล้ายกับพระนางบูเช็คเทียน มหาราชินีแห่งราชวงศ์ถัง โดยการวางพระองค์เป็นศาสนาพุทธ และเข้าปกครองเหนือวัดในพุทธศาสนาได้สำเร็จ พระองค์ ทรงสร้าง “หอดูดาว” หรือ ชอมซองแด ซึ่งถูกบันทึกไว้ว่าเป็นหอดูดาวแห่งแรกในตะวันออกไกล หอดูดาวแห่งนี้ยังคงอยู่ในเมืองหลวงเก่าของชิลลา ที่เมืองกยองจูในประเทศเกาหลีเหนือ

เปิดตำนานนางกษัตริย์
          ตามตำนานเชื่อกันว่าการที่ซอนต๊อกได้สืบราช สมบัติต่อจากพระราชบิดาเป็นเพราะพระปรีชาสามารถที่ลึกล้ำและโดดเด่นของ พระองค์เมื่อยังคงดำรงพระยศเพียงแค่เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรเท่านั้น หนึ่งในเรื่องเล่าขานถึงพระปรีชาญาณของพระองค์ซึ่งบันทึกอยู่ในซัมกุกซากอ และซัมกุกยูซาคือเรื่องเมื่อคราวที่พระราชบิดาของพระองค์ทรงได้รับกลองเมล็ด พันธ์ของดอกโบตั๋นจากฮ่องเต้ไท่ซงแห่งราชวงศ์ถังพร้อมกับภาพวาดของดอกไม้ที่ คล้ายกับดอกโบตั๋น ซอนต๊อกซึ่งในขณะนั้นยังไม่ได้แต่งงานทอดพระเนตรภาพดัง กล่าวทรงตั้งข้อสังเกตว่า ดอกไม้ในภาพดูเหมือนจะงดงามแต่จริงๆ แล้วเป็นดอกไม้ที่ไม่ได้งามดังที่ภาพวาดแสดงออกมานั่นเป็นเพราะเป็นดอกไม้ ซึ่งไร้กลิ่นหอม โดยทรงบอกว่า “ถ้ามันเป็นดอกไม้ที่งดงามจริง มันควรมีผีเสื้อและผึ้งบินอยู่โดยรอบด้วย” ข้อสังเกตของพระองค์เกี่ยวกับภาพดอกโบตั๋นไร้กลิ่นนี้ได้รับการพิสูจน์ว่า ทรงวินิจฉัยถูกต้อง นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงพระปรีชาญาณของพระองค์
          อีกหนึ่ง เรื่องเล่าขานเกี่ยวกับพระปรีชาสามารถของพระองค์คือเมื่อครั้งที่พระองค์ทรง ได้ยินเสียงคล้ายเสียงของฝูงกบร้องมาจากบึงน้ำในฤดูหนาว ทรงตีความว่าแท้จริงแล้วเป็นเสียงของการทัพแพ็คเจซึ่งเคลื่อนพลใกล้เข้ามา แล้ว และกำลังมุ่งหน้ามายังตอนเหนือของชิลลาที่หมู่บ้านสตรี เนื่องจากเสียงร้องของฝูงกบนั้นคล้ายคลึงกับเสียงโห่ร้องของกองทหารนั่น เอง และเมื่อพระองค์ส่งแม่ทัพนายกองรวมถึงแอลชอนไปยังหมู่บ้านสตรี กองทัพของพระองค์ก็ทรงสามารถจับทหารแพ็กเจได้กว่า 2,000 นาย นอกจาก นี้ยังมีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับพระปรีชาสามารถในการคาดการณ์ของพระองค์อีก เรื่องหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสวรรคตของพระองค์ โดยก่อนที่พระองค์จะสวรรคต พระองค์ได้ทรงเรียกข้าหลวงและข้าราชการของพระองค์เข้าพบและทรงสั่งเสียไว้ ว่า “หากพระองค์สวรรคตแล้วให้ฝังพระองค์ไว้ใกล้กับโดริชอน ซึ่งในอีก 10 ปีต่อมาหลังจากที่พระองค์สวรรคต พระเจ้ามุนมู พระราชาองค์ที่ 30 ก็ได้ทรงสร้างซาชอนวังซา (วัดพระราชาแห่ง สี่ภพ) ไว้ในสุสานของพระนาง หลังจากนั้นบรรดาขุนนางก็ได้ตระหนักว่าหนึ่งในพุทธวัจนะของพระพุทธเจ้าได้ บอกไว้ว่า “โดริชอน” อยู่เหนือ “ซาขอนวังชอน” ซึ่งเป็นสถานที่ที่มหาราชินีซอนต๊อกทรงสร้างไว้นั่นเอง

เครดิต
ไทยพีอาร์ ดอทเน็ต
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx?newsid=C7F51F3FEABB757D8DBC44DD777EF287&query=q825tefNoQ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
ชอบๆๆๆๆๆ เหมือนกัน ยกอันนี้ให้เป็นที่ 1 ในดวงใจ