ลำดับตอนที่ #40
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : ศึกประลองจ้าวยุทธจักร ตอนที่03
เมื่อครั้งที่ยังไร้ชื่อเสียงในยุทธภพ เกาฟานเฉียงเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าตัวน้อย ๆ ดิ้นรนปากกัดตีนถีบเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดไปวัน ๆ อาศัยลักเล็กขโมยน้อยและฉกชิงวิ่งราวผู้คนไปตามเรื่อง กระทั่งวันหนึ่งโชคชะตาได้พามาพานพบเจ้าสำนักพยัคฆ์แดงรุ่นก่อนเข้าพอดี เด็กน้อยหารู้ไม่ว่าบุคคลที่ตนวิ่งราวของมีค่ามานั้นเป็นถึงหนึ่งในเสาหลักแห่งยุทธภพ กว่าจะรู้ก็เมื่อโดนพวกศิษย์อัดยับปางตาย โชคดีที่ภริยาท่านเจ้าสำนักเข้ามาห้ามไว้ ซ้ำยังเอ็นดูอย่างดีด้วยว่าพวกตนคู่สามีภรรยานั้นไร้วาสนาไม่มีบุตรสืบสกุล ด้านเจ้าสำนักรุ่นก่อนเห็นหน่วยก้านดีจึงได้ชี้แนะวรยุทธให้
ผ่านกาลเวลาแรมปี ในที่สุดเด็กน้อยก็เติบใหญ่ บ่มเพาะพลังฝีมือและวิชาประจำสำนักจนกล้าแข็งเกินใครจะเทียมทาน เกาฟานเฉียงยืนหยัดจากเด็กกำพร้าจนกลายมาเป็นเจ้าสำนักในรุ่นถัดมาหลังจากที่รุ่นก่อนและภริยาถึงแก่กรรมไม่นาน ด้วยความแข็งแกร่งทั้งภายนอกภายในมีลูกศิษย์ยอมรับนับถือมากมาย หลังจากนั้น... สิ่งที่มันกระทำเป็นอันดับแรกหลังจากที่รับตำแหน่งน่ะหรือ? แน่นอนว่าเกาฟานเฉียงจัดการซัดเจ้าพวกศิษย์พี่รุ่นเก่าที่เคยข่มเหงรังแกครั้งยังเด็กเสียจนสิ้นสภาพ แล้วอัปเปหิออกจากสำนักกลายเป็นคนเร่ร่อนไร้ที่นอน เพื่อให้พวกมันได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานที่ตนเคยประสบมา นับจากนี้เป็นต้นไป จะไม่มีเด็กเร่ร่อนไร้หัวนอนปลายเท้าซึ่งฝากชีวิตกับลมกับฟ้าอีกต่อไปแล้ว คงเหลือแต่เกาฟานเฉียงเจ้าสำนักพยัคฆ์แดงหนึ่งในเสาหลักแห่งยุทธภพผู้กล้าแกร่ง และจะไม่ยอมให้ผู้ใดบังอาจท้าทายหรือดูถูกมันได้อีกเด็ดขาด!
@@@@@@@@@@@@
"อย่าได้ใจไปนักต้าเหยียนกัง!"
แม้จะบาดเจ็บไม่น้อยจากกำปั้นของศัตรู แต่เกาฟานเฉียงยังฮึดสู้ไม่ถอย นั่นเพราะมันมีกระบวนท่าลับก้นหีบซึ่งเก็บงำเอาไว้เผื่อศึกกับจอมมารนั่นเอง น่าเสียดายที่ต้องงัดออกมาใช้เสียก่อนแต่ในเมื่อสถานการณ์ไม่สู้ดีก็คงเลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว
"กำปั้นของเจ้าข้าว่าก็ไม่เท่าไหร่ แต่กรงเล็บนี่ยิ่งง่อยเสียกว่า เจ้าจงเก็บแรงไว้แก้ตัวกับพวกลูกศิษย์หลังจากที่พ่ายข้าเถอะ!"
ต้าเหยียนกังผยองเต็มที่เนื่องจากวิชากรงเล็บของอีกฝ่ายไม่สามารถทำอันตรายแก่ร่างกายอันแข็งแกร่งทนทานได้ ไม่ฉุกใจคิดว่าคู่ต่อสู้ยังมีเขี้ยวเล็บเก็บซ่อนไว้อีก เกาฟานเฉียงผ่อนลมหายใจ ควบคุมลมปราณให้เป็นปกติไม่พลุ่งพล่านเหมือนเช่นเคย กระบวนท่าลับนั้นจำเป็นต้องใช้ความสงบ ดั่งพยัคฆ์ที่ซุ่มหมอบรอคอยเหยื่อให้หลงกลเข้ามาใกล้
"เท่านี้เจ้าก็ไปพักได้แล้ว!!!"
พริบตาที่กำปั้นของต้าเหยียนกังพุ่งเข้าหา เกาฟานเฉียงจ้องมองการเคลื่อนไหวนั้นอย่างไม่กะพริบตา พลังสมาธิอันแน่วแน่มั่นคงทำให้มันมองเห็นราวกับว่าช่วงเวลาได้หยุดลงชั่วขณะ เจ้าสำนักพยัคฆ์แดงไม่รอช้า จัดการใช้กระบวนท่าลับ พยัคฆ์เหนือตะวัน เล่นงานคู่ต่อสู้ทันที การปะทะเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที แทบไม่มีใครมองตามวิชาลับทันนอกเสียจากเหล่ายอดฝีมืออย่างจางเหอลู่ หลิวเสียะหัว หยางจิวเทียนและจอมมาร
"นี่... มัน...!"
ต้าเหยียนกังกระอักเลือดออกมาก่อนจะฟุบลงไปกองกับพื้น แม้นภายนอกจะไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ แต่อาการที่ภายในนั้นจัดว่าสาหัสไม่เบา เกาฟานเฉียงถอนหายใจยาว ไอร้อนสีแดงแผ่ออกจากทั่วร่างของมัน ดูแล้ววิชาลับดังกล่าวคงสิ้นเปลืองแรงพลังไปมิใช่น้อยทีเดียว
"ขอบคุณข้าเสียสิ ที่อุตส่าห์ไม่เล็งจุดตายของเจ้า!"
ทั่วทั้งลานประลองต่างกลั้นลมหายใจด้วยความตื่นเต้นกับกระบวนท่าเมื่อครู่ แม้คนทั่วไปจะมองไม่เห็นแต่ผลของวิชานั้นเป็นที่ประจักษ์ว่าร้ายกาจเพียงใด เพราะสามารถทำลายกำแพงเหล็กไร้เทียมทานลงได้ในท่าเดียว
"เมื่อครู่ข้ามองเห็นไม่ถนัดนัก กระบวนท่าลับนี้มันเป็นเช่นไรหรือขอรับ?"
ขนาดหลิวเย่อจื่อที่มีความมั่นใจในความเร็วของตนก็ยังมองไม่ทะลุถึงแก่นของวิชาดังกล่าว หลิวเสียะหัวจึงสาธยายให้ฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้งว่า ในชั่วพริบตาที่กำปั้นของต้าเหยียนกังพุ่งเข้าหานั้น เกาฟานเฉียงได้รวบรวมพลังทั้งหมดส่งไปยังฝ่ามือทั้งสองข้าง ประกบเข้าหากันในลักษณะเหยียดนิ้วเป็นรูปกรงเล็บซ้อนบนล่าง แล้วปลดปล่อยคลื่นอันร้ายกาจเข้ากระแทกที่ช่วงท้องของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง ทีเด็ดมิได้อยู่ที่พลังทำลายแต่อยู่ที่ความรวดเร็วของกระบวนท่า พลังปราณทั้งหมดในร่างของเกาฟานเฉียงถูกถ่ายทอดแทรกซึมทะลุผ่านด่านป้องกันของกำแพงเหล็ก เร็วเสียยิ่งกว่าสายฟ้าฟาด ดังนั้นจึงไม่ปรากฎบาดแผลที่ภายนอกเลยแม้แต่น้อย
"ออกท่าทีหลังแต่เข้าเป้าก่อน โดยหลักแล้วก็คล้ายกับวิชาเทพกระบี่วชิระของเจ้า แต่พลังทำลายของทางนี้เทียบไม่ได้แม้ปลายเล็บ เจ้าสำนักพยัคฆ์แดงช่างน่ากลัวเสียจริง!"
วิชาเทพกระบี่วชิระไร้พ่ายของหลิวเย่อจื่อที่พัฒนาดัดแปลงมาจากเพลงกระบี่เงาจันทร์อันเป็นต้นตำรับวิชาของสำนักหมาป่าเงินนั้นมีจุดเด่นที่ความรวดเร็วหมดจด เมื่อรวมกับปราณสายฟ้าที่มันถนัดจึงกำเนิดเป็นเพลงกระบี่ที่เหนือล้ำยากหาผู้เทียบเคียง แต่จุดด้อยที่เจ้าสำนักผู้เป็นบิดามองเห็นคือพลังทำลายที่ลดทอนลงเพราะต้องไปเสริมจุดเด่นที่ความเร็ว เมื่อต่อกรกับเจ้าพลังย่อมตกเป็นรอง และหากลูกชายของตนต้องเจอกับเกาฟานเฉียงผลลัพธ์ที่ได้ก็คงไม่ต่างจากศึกต้าเหยียนกังนี้แน่นอน ด้านหลิวเย่อจื่อเองก็ยังรู้สึกทึ่งกับความฉลาดเฉลียวและการคาดการณ์อันแม่นยำของบิดา กระนั้นความหนุ่มแน่นและจองหองของมันกลับส่งผลร้ายขึ้นมา เพราะเมื่อเหล่านักพรตช่วยกันหามต้าเหยียนกังออกจากลานประลองแล้ว คุณชายแห่งสำนักหมาป่าเงินก็ทะยานลงสู่เวทีอย่างองอาจในทันที ด้วยอยากทดสอบฝีมือว่าใครกันคือผู้ที่เข้มแข็งและเชี่ยวชาญในความเร็วมากกว่า ยิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายก็ภูมิใจในความเร็วยิ่งทำให้เลือดมันพลุ่งพล่าน สุดปัญญาที่บิดาจะห้ามไหว
"อ้าวหลิวเย่อจื่อ ไฉนเจ้าจึงข้ามหน้าบิดาของตนมาเล่า? แบบนี้เจ้าสำนักมิขายหน้าแย่เลยหรือ ฮ่า ๆ"
ไม่ทันไรเกาฟานเฉียงก็ดูถูกถ่มถุยคู่มือทันที แถมยังทำกร่างหันไปทางปะรำของพวกเทียนซานเพื่อสอบถามเอาความจากเส้าเทียนอิ้งอีก
"แบบนี้ดีแล้วหรือเส้าเทียนอิ้ง! หากข้าชนะเจ้าหนุ่มนี่ได้ก็ถือว่าเป็นเจ้ายุทธจักรล่ะนะ ถึงตอนนั้นพวกเจ้าคงขายขี้หน้าไปอีกนานเลยเชียว"
เกาฟานเฉียงกำลังลำพองในความเป็นต่อของตน แถมนี่คือศึกที่ห้าอันเป็นมือสุดท้ายก่อนได้ตำแหน่งชนะเลิศการประลองไปด้วย หากว่าจบที่ตรงนี้ก็เท่ากับมันจะกลายเป้นผู้นำของยุทธจักรคนใหม่ มีทั้งลาภยศชื่อเสียงอย่างที่สำนักอื่นมิอาจเทียบ แม้แต่จางเหอลู่ที่เคยดำรงตำแหน่งนี้มาก่อนก็ยังต้องยอมสยบให้
"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเจ้าจะพ่ายในศึกนี้อย่างแน่นอน!"
คำถามยิงไปทางเทียนซาน แต่คำตอบกลับย้อนมาจากมังกรทอง จางเหอลู่ผู้นิ่งเงียบมาโดยตลอดประกาศด้วยสุรเสียงอันก้องกังวาน สะท้อนให้เห็นพลังภายในอันเหนือชั้นยิ่งกว่าเจ้าสำนักคนไหน ๆ
"และในศึกถัดไปข้าจะลงประลองด้วยตนเอง!"
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น