ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #91 : เผชิญศึกพัวพัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 204
      12
      15 ธ.ค. 61


         พวกผมเดินทางมายังสำนักมังกรในยามค่ำ  เนื่องจากได้ข่าวว่าทางห้าสำนักใหญ่สืบรู้ความลับของพวกศัตรูแล้ว  หารู้ไม่ว่านี่ดันเป็นแผนร้ายของฝ่ายตรงข้ามที่ลอบโจมตีจากทางด้านหลัง  โชคดีที่ผมไวพอจะรับมือได้ทันจึงไม่บาดเจ็บอะไรนัก  เจ้าต้าเหยียนกังที่มีฝีมือแค่ระดับกลาง ๆ ตอนเจอกันในงานประลองยุทธก็พ่ายแพ้ไปตั้งแต่ไก่โห่ด้วยซ้ำ  มาวันนี้ไม่รู้ไปกินอะไรมาถึงได้เก่งแบบผิดหูผิดตาไปเลย

         "เจ้าหนูระวังฝ่ามือของมันให้ดี!"

         น้องหมาตะโกนเตือนแต่ไม่ทันการแล้ว  เจ้านั่นพุ่งเข้ามาแบบดับเครื่องชนแม้จะเจอหมัดผมชกเสยเข้าที่ปลายคางก็ยังหัวเราะร่วน  แถมสวนด้วยพลังฝ่ามือเข้าที่กลางอกจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น  พริบตาต่อมาร่างของผมก็ลอยละลิ่วเคว้งคว้างกลางอากาศเสียแล้ว  นี่ตรูพลาดท่าโดนอัดกระเด็นขึ้นมาบนนี้เลยเหรอเนี่ย?

         "ยัง! ยังไม่จบแค่นี้หรอกไอ้หนู!!!"

         ต้าเหยียนกังเข้าโหมดบ้าเลือดกระโดดตามขึ้นมาหมายปิดบัญชี  แต่คราวนี้ผมไม่ยอมให้มันทำซ่าไปมากกว่านี้แล้ว  จึงรวบลมปราณกระชากสร้างคลื่นแหวกอากาศอัดเข้ากระแทกลำตัวของมันอย่างรุนแรง  เพียงเท่านี้เจ้าสำนักคชสารเขียวก็ร่วงลงสู่พื้นดินในทันที  ทว่าดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยสักนิด  คงเพราะพลังโลหะทองแก้วเก้าที่คอยปกป้องร่างของมันเป็นแน่

         "เจ้าหนูไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"

         "อืมม... เมื่อกี้ประมาทไปหน่อย  ไม่นึกว่าเจ้านี่จะเก่งขึ้นขนาดนี้นะเนี่ย  สงสัยแอบไปซุ่มฝึกวิชามาแหง ๆ เลยเนี่ย!"

         เส้าเทียนอิ้งรีบมาดูอาการของผมเมื่อลงถึงพื้นแล้ว  เบื้องต้นสภาพภายนอกของผมยังแข็งแรงดี  มีเพียงอาการเสียวแปล๊บจากฝ่ามือของมันเมื่อครู่เท่านั้น  กระนั้นน้องหมาก็ยังคอยกำชับให้ผมระวังตัวให้ดี  แล้วก็กระโดดเข้ามาอยู่ข้างในเสื้อผมตามเคย  ด้านต้าเหยียนกังเมื่อเห็นทางนี้ยังแข็งแรงฟิตดีก็กระโจนเข้ามาลุยอีกครั้ง  พลังฝ่ามือทั้งสองสายจึงเข้าปะทะกันจนพื้นหินที่ด้านล่างแตกกระจายยับเยินด้วยอานุภาพของปราณอันเกรี้ยวกราดทันที

         "เจ้านี่! มันใช้วิชาคชสารคลั่งได้จริง ๆ ด้วย!"

         น้องหมากัดฟันกรอดจนผมแปลกใจ  เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าศัตรูจะใช้วิชาอะไรเจ้าหมอนี่ก็เอาแต่ดูถูกเสมอ  มาวันนี้ดันทำท่าตกใจที่เห็นวิชาของฝ่ายตรงข้ามด้วย  จอมมารจึงบอกว่าวิชานี้คือสุดยอดเคล็ดของสำนักคชสารเขียวซึ่งต้นตำรับกระบวนท่าคืออาจารย์ปู่ทวดของเจ้าต้าเหยียนกัง  อดีตเจ้าสำนักผู้ล่วงลับไปแล้วและเคยประมือกับมันเมื่อสมัยสองร้อยกว่าปีก่อน   

         "วิชาคชสารคลั่งถือกำเนิดขึ้นมาเพื่ออุดช่องโหว่ในกระบวนท่าของสำนักมัน  ซึ่งเน้นแต่สายป้องกันตัวเป็นหลัก  เมื่อใช้คู่กับวิชาทองแก้วเก้าแล้วจะทำให้ร่างกายของเจ้าของวิชาคงกระพันฟันแทงไม่เข้า  มิหนำซ้ำยังมีพละกำลังมหาศาลราวกับช้างศึกถึงสามสิบเชือกเลยทีเดียว!"

         แค่ลองจินตนาการว่ามีช้างป่าตกมันนับสิบวิ่งเข้ามาเล่นงานก็น่าสยดสยองจะแย่แล้ว  นี่ยังบวกรวมกับลมปราณและพลังป้องกันเสริมเข้าไปอีก  แสดงว่าเจ้านี่ผูกใจเจ็บตั้งแต่เมื่อครั้งงานประลองและไปซุ่มฝึกวิชาไม้ตายของสำนักมาจริง ๆ ซะด้วย!

         "กระนั้นก็ยังแปลกนัก... ลำพังฝีมือของเจ้านี่คงต้องใช้เวลาฝึกราวสามสิบปีเห็นจะได้  แล้วทำไมช่วงระยะสั้น ๆ แค่นี้มันถึงสำเร็จยอดยุทธได้กันแน่นะ?"

         จอมมารมองว่าฝีมือของมันรุดหน้าเร็วเกินกว่าที่ควรจะเป็นมาก  และเมื่อมองจากแง่ที่ว่าตอนนี้พวกฝ่ายธรรมมะเปลี่ยนใจหันคมเขี้ยวใส่ทางนี้แทนที่จะร่วมมือกัน  ก็เป็นไปได้ว่าพวกมันอาจรับสิ่งตอบแทนบางอย่างจากพวกต่างดาวเพื่อนำมาเล่นงานเทียนซานก็ได้?  ผมลองคิดตามก็รู้สึกว่ามันน่าจะเป็นจริงตามนั้น  บางทีพวกมันอาจใช้วิธีการแปลก ๆ ในการเพิ่มพลังลมปราณให้กับพวกห้าพรรคใหญ่จนเก่งกาจแบบพรวดพราดขึ้นมาทันตาเห็น  แล้วจะรับมือกับมันยังไงล่ะทีนี้?

         "หึ! ถ้าเป็นข้า... เส้าเทียนอิ้งในยุคก่อนล่ะก็  แค่นี้น่ะไม่ครณามือหรอก!"

         น้องหมายังคงขี้โม้เรื่องในอดีตต่อไป  แต่คนที่ต้องรับมือกับปัจจุบันน่ะมันตรูนะเฟ้ย  แถมพลังคชสารแบบเต็มกำลังของมันก็แทบจะเทียบเท่ากับพลังทั้งหมดที่ผมมีในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ

         "ไอ้หนูไม่ต้องเป็นห่วงไป  ข้าจะแนะนำวิธีรับมือให้  จงฟังให้ดีล่ะ..."

         โชคดีที่เส้าเทียนอิ้งเคยรับมือกับเคล็ดวิชานี้มาแล้วจึงเผยวิธีจัดการกับคชสารคลั่งให้โดยละเอียด  ผมรีบทำตามโดยก่อนอื่นเริ่มจากผ่อนกำลังลมปราณลงเพื่อลดความพลุ่งพล่านและตั้งท่ารับมืออย่างไม่ประมาท  พออีกฝ่ายเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะเยาะเพราะนึกว่าจอมมารยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว    

         "เส้าเทียนอิ้ง! ที่แท้ก็ฝีมือไม่เท่าไหร่เลยนี่หว่า...  รับมือ!!!"

         พลังคชสารคลั่งขั้นที่สิบแพร่กระจายไปทั่วร่างชนิดส่งถึงปลายนิ้วครบทุกข้อเลยทีเดียว  แค่ลมหายใจของมันก็รุนแรงเทียบเท่าลมพายุขนาดย่อมแล้ว  ต้าเหยียนกังส่งเสียงคำรามหนึ่งครั้งก่อนจะพุ่งเข้ามาราวกับช้างป่าตกมัน  กำปั้นของมันดูใหญ่ราวกับโขดหินผาในจังหวะที่ชกเข้ามาจนผมนึกว่าประสาทหลอนไปเองเสียอีก  กระนั้นถ้าจะบวกกันตรง ๆ บอกเลยว่าทางนี้เหนือกว่าแน่นอน  ด้วยวิชาตัวเบาของเทียนซานก็ไม่เป็นสองรองใคร  เล่นเอาเจ้านั่นชกลมชกต้นไม้ไปมาไม่ได้เฉียดใกล้ร่างของผมสักนิด

         "อย่างที่คิดจริง ๆ ต่อให้เรี่ยวแรงเยอะแค่ไหนถ้าจู่โจมไม่โดนมันก็ไร้ความหมาย  แกแพ้แล้วต้าเหยียนกัง!"

         น้องหมาหัวเราะให้กับความอ่อนหัดของเจ้านี่เพราะจุดอ่อนที่แท้จริงของเจ้าสำนักคชสารเขียวทั้งเก่าและใหม่ก็คือใช้แต่แรงไร้ซึ่งสมองนี่แหละ  เมื่อสองร้อยปีที่แล้วจอมมารก็เอาชนะได้ด้วยปัญญาเช่นกัน  เนื่องจากดูออกว่าวิชาทั้งหมดทำได้เพียงการเคลื่อนไหวพื้นฐานเท่านั้น  หากใช้ท่วงท่าที่ซับซ้อนกว่านี้จะลดทอนพลังทำลายลงนั่นเอง 

         "ยอดเยี่ยมมากที่ดูออกถึงขนาดนี้  แต่เจ้าเองก็พลาดแล้วที่คิดว่าตัวข้าจะอ่อนหัดเหมือนท่านอาจารย์ปู่!"

         ฉับพลันนั้นเจ้านั่นกลับพลิกตัวตีลังกากลางอากาศพร้อมกับซัดฝ่ามือจากทิศแปลก ๆ เข้าใส่  ผมกับน้องหมาไม่ทันระวังจึงโดนเข้าใบหน้าเต็ม ๆ แต่ยังดีที่ไม่เป็นอะไรมากนอกจากมึนงงไปพักใหญ่

         "วิชานี้มัน... มังกรพลิกตะวัน  หนอยเจ้าจางถังยี่!!!"

         จอมมารขบเขี้ยวเคี้ยวฟันในระหว่างที่มองไปยังศิษย์คนรองแห่งพรรคมังกรทอง  ที่แท้เจ้าพวกนี้วางแผนรุมเล่นงานเทียนซานมาตั้งแต่แรกแล้ว  แถมยังสอนวิชาการพลิกแพลงของแต่ละสำนักเป็นการแลกเปลี่ยนกันด้วย  มังกรพลิกตะวันนั้นเดิมเป็นกระบวนท่าที่คิดค้นเพื่อใช้จู่โจมศัตรูโดยไม่ทำให้พลังทำลายลดลง  เมื่อนำมาปรับใช้กับคชสารคลั่งจึงเป็นการอุดรูโหว่ของวิชาได้อย่างดียิ่ง  ดูท่าว่างานนี้จะไม่ง่ายเสียแล้วสิเนี่ย?



    จบตอน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×