ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Secret of heart ความลับหัวใจของยัยจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 15 : คำถาม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 49
      0
      27 มิ.ย. 57

    “ได้ยินมาว่าคนสวยไม่สบายงั้นเหรอ!!หายดีหรือยังถึงได้มาวิ่งซนในโรงเรียนแบบนี้...”

    ใครก็ได้ เอาปืนมายิงหมอนี่ทิ้งที - -+

    “ซีซาร์ นายนี่ท่าจะเพี้ยนนะ”

    ประโยคนั้นเซโร่เป็นคนพูดขึ้นมาหลังจากที่ซีซาร์ยังคงประสาทหลอนไม่เลิก ไม่รู้ว่ามีใครไปปล่อยข่าวอะไร แต่ดูเหมือนเรื่องที่ฉันป่วยจนต้องหยุดเรียนไปหนึ่งวันจะแพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียนจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าคนอย่างฉันป่วยเป็นด้วยเหรอ หรือจริงๆแล้วไปรับจ้างฆ่าใครเลยไม่สามารถมาโรงเรียนได้ เหอะ! นี่หรืออนาคตของชาติ สงสารประเทศไทยจริงๆ

    “เฮ้ ฟังที่ฉันพูดหน่อยได้มั้ย ฉันเป็นห่วงเธอนะ”

    “ฉันต้องการเหรอ ซีซาร์ หยุดยุ่งกับฉันสักที!

    ฉันหยุดเดินเพราะเห็นว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะเดินไปต่อทั้งๆที่ยังมีไอ้บ้านี่เดินตามก้นเป็นลูกหมาติดแม่แบบนี้ จริงๆแล้วฉันก็รำคาญมาก แต่ฉันก็ไม่อยากจะร้ายใครเพียงเพราะข้อหาน่ารำคาญหรอกนะ

    ถึงจะอยากทำก็เหอะ

    “นี่ ฉันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงทุกคนแบบนี้หรอกนะ ฉันเป็นห่วงเธอ เพราะฉันชอบเธอ ฉันผิดตรงไหน”

    คำพูดตรงๆของซีซาร์ทำเอาผู้คนรอบข้างตื่นตะลึงโดยพร้อมเพียงไม่เว้นแม้แต่เซโร่และโซลที่ก็พากันอ้าปากค้างอย่างลืมตัว ยังคงมีเพียงแค่ฉันที่ไม่ได้สนใจอะไรกับซีซาร์ที่ก็ยักไหล่อย่างไม่แคร์สายตาผู้คน

    “ผิดตั้งแต่ที่นายคิดจะชอบฉันนั่นแหละ”

    “แล้วยังไง มันห้ามได้ด้วยรึไงเล่า”

    ซีซาร์พูดออกมาอย่างไม่สนใจใครเลยสักนิดแม้แต่คลีโอที่พึ่งจะเดินสวนกันไป พอยัยนั่นได้ยินแบบนั้น ก็หันมาจิกตามองฉันอย่างมาดร้ายสุดๆ และเมื่อเธอเลื่อนสายตาไปมองที่เขา...แววตาแสนเศร้าคู่สวยก็ทอแสงน้อยใจออกมา...

    ผู้ชายนี่มันโง่เหมือนกันทั้งโลกเลยรึไงนะ

    “นายจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะซีซาร์ ฉันไม่สนใจหรอก ฉันไม่ได้ชอบนาย ชัดมั้ย?”

    ซีซาร์ทำหน้าเหมือนไม่แปลกใจอะไร แถมยังยิ้มระรื่นอีกด้วย

    “แค่ฉันชอบเธอก็พอแล้วนี่ ฉันไม่ได้หวังอะไรเท่าไหร่หรอกน่า แค่อยากมาอยู่ใกล้ๆอยากมาถามไถ่ อยากเป็นห่วง มันจะรบกวนอะไรเธอนักหนา”

    “รบกวนฉันให้รำคาญน่ะมันไม่เท่าไหร่หรอก...”

    “งั้นก็...”

    “แต่รบกวนจิตใจของคนอื่นให้เจ็บช้ำเล่นน่ะ มันไม่ดีหรอก..ใช่มั้ย”

    ซีซาร์เลิกคิ้วสูง สีหน้าฉายชัดว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูด คนมันโง่ก็คงจะโง่ต่อไปอีกนาน

    “นายมีตาที่ดีนี่นะ ซีซาร์ หันมองใกล้ๆตัวบ้างสิ”

    “เธอหมายถึงอะไรเนี่ย”

    “ฉันไม่อยากยุ่งกับนายแล้ว ไม่อยากเห็นดวงตาเศร้าๆนั่นแล้วด้วย”

    ประโยคนั้นฉันเหลือบไปมองสาวสวยที่แอบฟังอยู่ข้างหลังเสา ทำตัวราวกับว่าไม่มีใครทันสังเกตว่าเธอยืนอยู่ตรงนั้น....

    “เธอพูดถึงอะไรน่ะ”

    “เลิกยุ่งกับฉัน แล้วเอาเวลาไปรักษาสิ่งสำคัญของนายดีกว่า ชัดเจนนะ”

    ฉันเดินออกมาจากตรงนั้น โดยที่ซีซาร์ไม่ได้ตามมาอีก ดูท่าเขาคงจะตกผลึกความคิดได้สักหน่อยว่าต้องมีอะไรในความหมายของคำพูดฉัน แต่ก็นั่นแหละ ฉันไม่คาดหวังว่าเขาจะเข้าใจหรอก

    “เธอนี่ใจแข็งจริงๆนะ มีหนุ่มหล่อขนาดนั้นมาจีบยังเล่นตัวอีก”

    “ถ้านายชอบนักก็เอาไปสิ เอามั้ยล่ะ คราวนี้ฉันช่วยฟรีไม่คิดค่าจ้าง”

    ฉันตอกกลับเซโร่ที่ทะลึ่งมาแซวอะไรไม่เข้าท่า ส่วนคนโดนตอกกลับยกมือขึ้นทำท่าเหมือนยอมความและเดินตามฉันมาเงียบๆก่อนจะทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้

    “จริงสิ ว่าแต่เธอหายไข้แล้วแน่เหรอ”

    คำถามนั้นแฝงมาด้วยความห่วงใยเต็มเปี่ยม และนั่นทำให้หัวใจของฉันแผลงฤทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง

    “ไม่ต้องห่วงเพราะฉันหายดีจนสามารถชำระความพวกนายได้...อย่าง เต็มเม็ดเต็มหน่วย เลยล่ะ”ฉันส่งยิ้มเยือกเย็นไปให้พร้อมกับตบบ่าเซโร่เบาๆเพื่อตอกย้ำว่าแค้นนี้เขาโดนชำระอย่างสาสมแน่ เซโร่กุมขมับเหมือนคนคิดไม่ตกว่าควรจะทำยังไง ฉันรู้ ครั้งนี้พวกเขาไม่ผิดหรอกที่ไม่ได้ไปรับและทำให้ฉันต้องติดแหงกอยู่บ้าน แต่เซโร่ผิดก็ตรงที่ มาทำหน้าตาเป็นห่วงทั้งๆที่ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าฉันไม่ชอบให้ใครเป็นห่วง

    “เธอนี่ กับเพื่อนกับฝูงไม่ต้องเจ้าคิดเจ้าแค้นนักก็ได้นะ = =

    “กับเพื่อนนี่แหละตัวดี ต้องจัดให้ถึงใจ”

    เซโร่มองหน้าฉันด้วยสายตาเอือมระอาในขณะที่ฉันกลับหัวเราะหึหึ ทั้งๆที่ในใจกำลังเต้นระรัว ยิ่งพาลไปคิดถึงคำพูดของโซลที่บอกว่าเซโร่แทบคลั่งเมื่อได้ยินว่าฉันไม่สบาย อาการก็เหมือนจะฟ้องหนักขึ้นไปอีก เลิกคิด!อย่าทำให้ตัวเองหลงจากทางที่เลือกแล้ว ที่เขาห่วง เพราะเขามีเธอเป็นเพื่อน มันก็แค่นั้น

     “ไข้เธอกลับรึเปล่าเนี่ยริช ทำไมหน้าแดงแบบนี้ล่ะ”

    เสียงทักนั้นมาจากคนที่ฉันไม่คิดว่าวันนี้จะมาที่โรงเรียน โซลเดินหน้ายุ่งมาที่ฉันกับเซโร่ก่อนจะช้อนคางของฉันและใช้อีกมือวัดอุณหภูมิอย่างถือสิทธิ์ ไม่สนใจแม้สายตาแปลกใจของเซโร่และสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนอื่นๆที่กำลังมองมา

    “ฉันไม่ได้เป็นอะไร”

    ฉันผลักไสมือคู่นั้นก่อนจะจ้องหน้าเขาอย่างไม่ชอบใจ โซลมองหน้าฉันเหมือนจะดุอะไรสักอย่างแต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นอมยิ้มน้อยๆจากนั้นเราสามคนก็เดินไปที่ห้องเรียนพร้อมกันเหมือนกับว่าเมื่อครู่นี้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น

    “ไม่ทำงานรึไง นายขอสอบล่วงหน้าไปก่อนแล้วนี่ จะมาอีกทำไม”

    “งานฉันเสร็จแล้ว”

    “ห๊ะ?!! เสร็จ คนอย่างนายมีวันที่มีคำนี้หลุดออกจากปากด้วยเหรอ”

    เซโร่ถามพลางทำหน้าไม่เชื่อสุดชีวิตจนโซลที่กำลังหัวเราะต้องผลักหัวเขาเล่นด้วยความเอ็นดู(อย่างสุดแสน - -)

    “ฉันมีเวลามาอยู่กับเพื่อนก็ดีแล้วไม่ใช่รึไงวะ แกนี่ พูดอะไรน่าเตะ”

    “ตั้งแต่แกเปิดแบรนน์แกเคยมาว่างนานๆแบบครั้งนี้ที่ไหนกันเล่า”

    เซโร่บ่นอุบอิบพร้อมกับจับมือของโซลแล้วดันมันออกไปให้ห่างจากหัวของตัวเอง

    “ก็เมื่อก่อนมันยังไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง แต่ตอนนี้มีแล้ว”

    “หมายความว่าไง อะไรที่น่าเป็นห่วง”

    โซลยิ้มร่าแทนคำตอบก่อนจะหันมามองหน้าฉันพร้อมกับรอยยิ้มนั้นที่ทำเอาความรู้สึกแปลกๆตีรวนขึ้นมาอีกแล้ว

    “ยิ้มอะไรของนายไม่ทราบ”

    “ก็นั่นน่ะสิ ทำไมฉันยิ้มกันนะ เธอไม่รู้รึไง”

    “ประสาทน่ะโซล”

    ฉันผลักมือของโซลที่ทำท่าจะเอื้อมมาบีบแก้มออกแล้วเดินเชิดหน้านิ่งให้ห่างออกมา โซลเลิกคิ้วสูงขึ้นมานิดนึงและเปลี่ยนมันให้กลับไปเป็นรอยยิ้มกวนบาทาอย่างเดิมในเวลาต่อมา วันนี้จะมาไม้ไหนนะ ให้ตายสิ - -

    “เมื่อก่อนของสำคัญมันยังปลอดภัยเพราะฉันรู้ดีว่าไม่มีขโมย แต่พอดีช่วงนี้ขโมยมันชุก เลยต้องมาเฝ้าดูๆเอาไว้บ้าง ไม่งั้นจะเสียใจเอาทีหลัง”

    “แกพูดอะไรของแกน่ะโซล = = แกซ่อนอะไรไว้ในโรงเรียนงั้นเหรอ”

    เซโร่ที่ทำหน้าไร้เดียงสามองไปที่โซลอย่างงงๆในขณะที่คนถูกมองกลับมองมาทางฉันพร้อมรอยยิ้ม น่าแปลกเพราะแค่เห็นรอยยิ้มนั้นกลับทำให้ฉันร้อนวูบวาบ เหมือนๆจะร้อนตัวกลัวว่าของสำคัญที่เขาพูดถึงจะหมายถึง...

     “เป็นอะไรไป จอมมาร”

    “ฉันจะไปที่ห้องก่อนล่ะ พวกนายรีบตามมาแล้วกัน”

    ฉันพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วหันหลังเดินจากมาอย่างไม่คิดจะเหลียวไปมองคนทั้งคู่ นี่ฉันเป็นอะไรไป ทำไมหัวใจดวงนี้ถึงได้สารเลวขนาดจะใจเต้นได้เพราะผู้ชายถึงสองคน...นี่มัน...น่าสมเพชจริงๆ

     

    จอมมารวิ่งหนีหายไป ทันใดนั้นรอยยิ้มของโซลก็จางลงด้วยเช่นกัน ไม่ได้อยากจะเข้าข้างตัวเองหรอกว่าอาจจะมีหวัง แต่พอเห็นยัยนั่นเป็นแบบนี้ทีไรมันอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้สักที เฮ้อ!! ตื่นๆๆๆ><!!! ตื่นได้แล้วโว้ย ไอ้โซลบ้า!!

    “แกเป็นอะไรของแกวะ ทำหน้ายังกับปวดตับ”

    “ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ว่าแต่แกเถอะ ไม่ไปหาเทียนหอมรึไงวะ ปกติเห็นวิ่งแจ้นทุกที”

    โซลถามเสียงติดตลกแต่แล้วกลับชะงักไปเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนสนิทกลับดูเหม่อลอยอย่างที่น้อยครั้งนักจะได้เห็น

     “เฮ้ย เซโร่ เป็นอะไรรึเปล่า”

    “หือ? อ๊ะ...ขอโทษ เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ”

    เซโร่กระพริบตาถี่ๆเหมือนกับว่าพึ่งจะรู้สึกตัวสีหน้าครุ่นคิดเมื่อครู่ของเซโร่สะกิดความรู้สึกบางอย่างของโซลให้รู้สึกแปลกๆและลังเลที่จะถามอะไรอีก

    “ช่างเถอะ นายดูเพี้ยนๆไปนะ ไหวรึเปล่า “

    “งั้นเหรอ...ฉันก็ว่าตัวเองแปลกๆไปเหมือนกัน”

    เซโร่ส่งยิ้มแห้งๆให้กับเพื่อนทำท่าจะเดินผ่านไปแต่แล้วจู่ๆก็หันหลังกลับแล้วลากโซลให้เดินตามกันมา ความรู้สึกแปลกๆที่เขาเริ่มรู้สึก ไม่ว่ามันคืออะไร วันนี้เขาจะไม่ยอมให้มันกวนใจอีกต่อไป

                “เดี๋ยวๆๆ มีอะไรวะ”

    “ขอคุยด้วยหน่อย”

    “รู้แล้วว่าอยากคุย แต่ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้!

    เซโร่ไม่สนใจฟัง มือที่จับมือเพื่อนกระชับแน่นก่อนจะรีบเพิ่มความเร็ว เพราะเขาต้องการพูดในวันนี้ก่อนที่สิ่งที่คิดจะเป็นจริงและเมื่อนั้นเขาอาจจะรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิตที่ไม่คิดถามซะตั้งแต่ตอนนี้...

    ...ดาดฟ้า...

    “ทำไมนะทำไม เวลาจะคุยอะไรกันทีไรต้องมาที่นี่ทุกที”

    “เพราะที่นี่ไม่มีใครกล้ามาขวางการคุยของเราไงล่ะ”

    เซโร่พูดเสียงเรียบ เป็นความจริงที่ใครก็เถียงไม่ได้ว่าไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้ามา ณ ที่นี่ด้วยก็รู้ดีว่าเป็นที่ที่จอมมารแห่ง st.sonata ชอบมาคลุกอยู่ และแน่นอนว่าไม่มีใครอยากจะมาร่วมแชร์พื้นที่ด้วยหรอก

    “ขอนั่งพักก่อน อย่าเพิ่งพูดอะไรนะ”

    “แกชอบริชเหรอ!

    โซลยังพูดประโยคนั้นไม่ทันจบเซโร่ที่พอตั้งหลักได้ก็สวนขึ้นมาแทบจะในเวลาเดียวกัน ความร้อนใจฉายชัดในแววตาและสีหน้าอย่างชัดเจน โซลถอนหายใจใหญ่เมื่อนึกถึงว่าไอ้เพื่อนคนนี้บทจะดื้อก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน

    “บอกว่าขอพักก่อนไง พูดไม่รู้เรื่องอีกแล้วนะ”

    “แกอย่ามัวแต่ลีลาน่า ตอบมา><!!

    “อย่ามาดื้อกับฉันนะ ไอ้บ้า บอกว่าขอพักก่อน ถ้าแกไม่อยากพักก็ยืนไป”

    โซลว่าแล้วนั่งลง ถอนหายใจเข้าออกลึกๆ ก็คิดอยู่แล้วตั้งแต่ที่เซโร่บอกว่ามีเรื่องอยากจะพูดด้วย ล่ะว่าต้องเป็นคำถามนี้ จะไม่ถามได้ยังไง ในเมื่อเพื่อนคนสำคัญของเขาทั้งสองมีอาการแปลกๆโจ่งแจ้งขนาดนั้น ขนาดเขายังยังต้องห้ามใจไม่ให้คิดว่ายัยนั่นแปลกไปเพราะเขา แต่ก็อย่างว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก

     “ขอถามอีกครั้งว่าแกชอบริชเหรอ?”

    “เออ!พอใจยังเนี่ย”

    0_0!!

    “บอกให้รอก่อนๆ ไอ้บ้านี่  ลากขึ้นมาบนนี้มันเหนื่อยนะโว้ย!!

     “หมายความว่าไงวะ”

    “ก็เหนื่อยไง เข้าใจยากตรงไหนเนี่ย= =

    “ไม่ใช่...ที่ว่า...ชอบ...”

    เซโร่ทวนคำพูดของเพื่อนอย่างติดขัด ไม่รู้ทำไมถึงได้คิดแบบนั้น ไม่รู้ทำไมถึงได้อยากถาม ถึงจะเผื่อใจเอาไว้แล้วว่าคำตอบมันน่าจะเป็นแบบนั้น แต่พอได้ฟังจริงๆมันกลับเจ็บแปลบอย่างบอกไม่ถูก

    แต่ต้องรู้ให้แน่ว่าชอบที่ว่าน่ะหมายถึงชอบอย่างไหนกันแน่ บางที อาจจะแค่ชอบ ชอบเพราะเราเป็นเพื่อนกัน บางที...อาจจะแค่นั้นก็ได้

                “ว่าไงล่ะ หมายความว่ายังไง”

     “ชอบก็คือชอบ ความหมายก็ตรงตัวดีนี่นา มีอะไรไม่เข้าใจอีกเหรอ”

    “ชอบแบบเพื่อนเหรอ”

    “ไม่ใช่”

    โซลย่นคิ้วพลางมองหน้าเพื่อนอย่างนึกเหนื่อยใจ จะโลกสวยไปถึงไหนไอ้เพื่อนแบ้วนี่ = =

    “ชอบแบบพี่ชายกับน้องสาวเหรอ”

    “ชอบแบบผู้ชายชอบผู้หญิง”

    สายตาจริงจังที่ส่งไปพร้อมประโยคนั้น ทำให้ตาของเซโร่เบิกกว้าง นั่นทำให้โซลอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ใบหน้าของเซโร่แสดงออกมาทุกอย่างในสิ่งที่เขารู้สึก แล้วมันก็อุตส่าห์ถามว่าชอบแบบพี่ชายน้องสาวอีก เด็กน้อยไปมั้ยวะ ไอ้เพื่อนคนนี้

    “ตั้งแต่เมื่อไหร่”

     “ก็นานพอๆกับใครบางคน...”หางเสียงที่แผ่วลงพร้อมสายตาที่จ้องไปยังคนตรงข้ามที่เริ่มทำหน้าร้อนตัว

    “แล้วริชรู้...”

    “รู้ ยัยนั่นรู้ทุกอย่างน่ะแหละ”

    ทั้งโซลและเซโร่มองหน้ากันอย่างรู้ความหมายพร้อมทั้งทำหน้าหน่ายใจแล้วถอนหายใจออกมาพร้อมกัน เกิดมาเป็นผู้ชายข้างกายจอมมารนี่เหนื่อยจัง = =

    “มีอีกเรื่องที่อยากจะถาม...”

    “ไม่ได้คบกันเว้ย!

    อีกครั้งที่เซโร่ทำตาโตจนคนตอบอดที่จะหัวเราะไม่ได้ และคราวนี้ก็ไม่เก็บอาการด้วย

    “แกรู้ได้ไงว่าฉันจะถามอะไร”

    “หน้าผากแกเขียนติดไว้ตัวใหญ่เป้ง อยากรู้จังริชคบกับโซลอ๊ะป่าว

    “อะ...ไอ้บ้า!! ไม่มีโว้ย”

    เซโร่เอามือบังหน้าผากพร้อมทำหน้าตาเลิกลัก ถึงปากจะพูดไปแบบนั้นแต่ในใจก็อดกลัวไม่ได้ว่ามันจะมีอะไรแสดงออกมาให้เพื่อนมันรู้จริงๆ

    “แกไม่คิดว่าริชจะชอบแกจริงๆเหรอ”

    คราวนี้เป็นโซลที่เงียบไป รอยยิ้มบางๆแต้มขึ้นที่มุมปากอย่างเศร้าสลด สายตาหม่นหมองถูกส่งไปยังคนถามที่ยังยืนค้างอยู่กับที่ ไม่รู้เพราะมันไม่เมื่อย หรือเพราะตกใจจนค้างอยู่ที่ท่านั้น

     “มันไม่มีทางจะเป็นไปได้หรอก”

    “จริงเหรอ”

    “ก็เธอว่างั้นนี่”

    “แต่ฉันไม่คิดแบบนั้นว่ะ ฉันว่า มันมีอะไรแปลกๆไป จริงๆมันก็แปลกมาสักพักแล้ว...”

     เซโร่นั่งลงข้างๆโซลแล้วถอนหายใจ ถึงจะยังไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่มันมีอะไรแปลกไปแน่ๆในระหว่างเพื่อนทั้งสองของเขา

    แต่ก็นั่นแหละ ถึงจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ เขาก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว ไม่ว่าจะยังมีโอกาสอยู่หรือไม่ สิ่งที่เขาแน่ใจคือ เขาต้องรักษาเส้นทางที่เขาได้เลือกเอาไว้ จะทำตามแต่ใจแล้วทำให้ผู้หญิงอีกคนเสียใจไม่ได้....ในเมื่อเขาเป็นคนเลือกเอง

     “อะไรที่ว่าแปลก”

    “แกไม่รู้จริงๆงั้นเหรอ”

    “อย่ามาทำปากดี จะพูดไม่พูด เดี๋ยวตีปากเลย”

    เซโร่หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะส่งยิ้มให้กับคนที่ทำหน้าตาเฉยเหมือนกับว่าไม่สนใจอะไรทั้งๆที่มันรู้ดีกว่าใครทั้งนั้น เสียแต่มันเป็นพวกปากหนักชอบปกปิดแถมยังปากแข็งชนิดที่เอาไขควงมางัดยังไม่ออกเลย

    “ฉันพูดไม่ได้หรอกว่ามันแปลกยังไง รู้แต่ว่ามันไม่เหมือนเดิม ไม่เหมือนเดิมมาสักพักแล้ว”

    “ดูเหมือนแกจะฉลาดขึ้นมานิดหนึ่งแล้วนะ”

    “หมายความว่าไง”

    เสียงออดบอกว่าการสอบเริ่มขึ้นในวิชาแรก โซลลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจก่อนจะเดินไปที่ประตูทิ้งคนข้างหลังให้ทำหน้ายุ่งอย่างไม่เข้าใจ เมื่อกี้เขายังเป็นคนนำเกม แปบเดียวมันกลายเป็นคนนำซะแล้ว ให้ตายสิไอ้บ้านี่

    “ก็หมายความว่าแกฉลาดพอจะรู้ว่ามันไม่เหมือนเดิม แต่ก็ยังฉลาดไม่พอที่จะรู้ว่าเพราะอะไรมันถึงแปลก”

    ร่างสูงเดินกลับเข้าไปในตัวอาคารแล้วแต่เซโร่ก็ยังไม่ยอมขยับ เสียงหัวเราะเบาๆออกมาจากความขบขันตัวเอง หรือไม่ก็ขบขันเพื่อนของเขา...

    “ก็ไอ้คนฉลาดๆอย่างแกมันปากแมวอย่างนี้น่ะสิ ฉันถึงไม่หายโง่สักที”

    นึกๆแล้วก็ต้องยิ้มเศร้าๆให้ตัวเองแล้วก็ให้กับคนที่วิ่งหนีไปโน่นแล้ว ผู้ชายอย่างเขาทั้งสองคน เกิดมาพร้อมทุกอย่าง มีแต่ผู้หญิงต้องการ ต้องมาดิ้นตายเพราะผู้หญิง คนหนึ่งก็จะบ้าตายเพราะรักมากเกินไป อีกคนก็เสียใจแต่แสดงออกไม่ได้ แต่มีแค่อย่างเดียวที่พวกเขาอยากรู้...

    ....แล้วหัวใจของจอมมารล่ะ จะรู้สึกยังไง...

    ถึงจะคิดไปแบบนั้นแต่พวกเขาย่อมรู้ดีว่า คนอย่างริชแบรนน์ ไม่มีทางเปิดใจให้ใคร ไม่มีทางรักใคร ไม่มีทางที่จะมีใครรู้ได้ถึงความลับหัวใจของจอมมาร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×