ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 | FLAW FLOWER ❋ | markjin × jackbam

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER ❋ I

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.31K
      70
      23 เม.ย. 59


    Flaw Flower

    Tuan Yi en x Park Jin Young | Wang Jia Er x Bambam





    ชายหนุ่มรูปร่างผอมบางยืนอยู่หน้ากระจกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย แสงไฟสลัวๆ ในห้องที่เปิดทิ้งไว้ฉายให้เห็นเสี้ยวใบหน้าด้านข้าง เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนซอยสั้นรับกับโครงหน้า ริมฝีปากสีสดราวกลีบกุหลาบแรกแย้ม นัยน์ตาที่แม้จะดูว่างเปล่า แต่ก็งดงามราวกับไข่มุกล้ำค่า

     

    หากความงดงามก็เปรียบเสมือนยาพิษ ภายใต้รูปลักษณ์ที่แลดูอ่อนแอ กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความร้ายกาจที่ไม่มีใครคาดคิด ความสามารถนั้นทำให้จินยองก้าวมาสู่ตำแหน่งบอดีการ์ดประจำตัวนายใหญ่แห่งเขตใต้อย่างง่ายดาย จนได้มาซึ่งฐานะที่ทุกคนต้องให้ความยำเกรง...กุหลาบของหวังเจียเอ่อร์

     

    เป็นอะไรไป?” เสียงทุ้มกระซิบถามแผ่วเบาข้างใบหูนิ่ม สอดแขนโอบกอดจากข้างหลัง ลมหายใจร้อนเป่ารดที่ต้นคอ ท่วงท่าการเคลื่อนไหวที่คุ้นเคยไม่ทำให้จินยองตกใจแม้อีกฝ่ายจะเข้ามาเงียบๆ

     

    ขอโทษครับคุณเจียเอ่อร์ ผมมัวแต่คิดอะไรเพลินๆจินยองหันกลับมาหาเจ้าของอ้อมกอดด้วยรอยยิ้ม ตอบคำถามอย่างเลี่ยงๆ อย่างไม่ต้องการให้เจ้านายหนุ่มเป็นกังวล โชคดีที่เจียเอ่อร์ไม่ได้เป็นคนที่ช่างเอาใจใส่มากพอจะสังเกตเห็นอาการนั้น

     

    ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้ แนบริมฝีปากลงกับกลีบปากนุ่มอย่างอ้อยอิ่ง ขบเม้มแกล้งแผ่วเบาอย่างไม่จริงจัง สัมผัสอุ่นร้อนและชื้นแฉะควานหาความหอมหวานจากด้วยความเคยชิน การรุกเร้าหนักหน่วงจนจินยองแทบจะทรุดลงไปกับพื้น หากเจียเอ่อร์ไม่ช่วยประคองแผ่นหลังไว้ แต่เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้นายใหญ่แห่งเขตใต้จำต้องละริมฝีปากออกมาอย่างเสียดาย

     

     

    แบมแบม...?” เจียเอ่อร์ส่งเสียงตอบ มันไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการตอบรับ เพราะมีลูกน้องอยู่แค่สองคนที่เจียเอ่อร์อนุญาตให้เข้ามาถึงในห้องนอนของเขาได้ เมื่อคนหนึ่งอยู่ที่นี่ คนที่เคาะประตูจึงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบอดีการ์ดประจำตัวอีกคน ร่างเล็กผู้เป็นเจ้าของฉายา ตุ๊กตาไร้หัวใจ

     

    ทุกอย่างพร้อมแล้วครับ คุณเจียเอ่อร์เสียงหวานแหบจากหน้าประตูบอกอย่างสุภาพราวกับรู้ว่าตนกำลังขัดจังหวะสำคัญของผู้เป็นนาย หากเจียเอ่อร์ก็ไม่ได้ติดใจอะไรนัก ชายหนุ่มก้าวออกจากห้องโดยมีจินยองเดินตามหลัง แบมแบมส่งสายตาให้อีกคนเป็นเชิงตำหนิแต่ไม่ได้พูดอะไร แล้วเดินตามหลังเจียเอ่อร์ไปขึ้นรถยนต์ที่จัดเตรียมไว้รอผู้เป็นนายพร้อมๆ กับจินยอง

     

    พาหนะ สี่ล้อคันหรูสีดำสนิททะยานออกจากรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ ตามด้วยรถยนต์อีกหลายคันเป็นขบวนตามกันไปอย่างเว้นระยะห่างไม่ให้เป็นที่ สังเกตมากนัก หากการเดินทางครั้งนี้กลับอยู่ในสายตาของใครบางคนตลอดเวลา

     

    ทุ่มสี่สิบสาม... ขบวนรถของตระกูลหวังออกมาแล้วครับ

     

    ชายหนุ่มปริศนาที่ซ่อนตัวอยู่รายงานความเคลื่อนไหวที่ตนได้รับมอบหมายหน้าที่มา จนเมื่อรถคันสุดท้ายแล่นออกไป รั้วของคฤหาสน์ก็ปิดลงพร้อมกับร่างของผู้สอดแนมที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย

     

     

    .

     

     

    ดื้อจริงๆ นะนายเนี่ย

     

    เจ้าของเสียงแหบหวานตำหนิคนที่นั่งอยู่ข้างกัน ไม่ต่างกับสายตาที่ส่งมาให้ตั้งแต่ตอนที่ออกจากห้องนอนของเจียเอ่อร์ แบมแบมทาบมือลงบนหน้าผากของเพื่อนร่วมงานซ้ำอีกครั้ง อุณหภูมิที่สัมผัสได้สูงกว่าคนปกติอย่างชัดเจน

     

    ก็ฉันไม่อยากอยู่ที่คฤหาสน์คนเดียวนี่ คำเถียงที่ค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ เพราะคนพูดก็รู้สึกผิด ทำให้แบมแบมได้แต่ถอนหายใจ เรื่องที่ไม่อยากถูกทิ้งไว้คนเดียวก็เข้าใจอยู่หรอกนะ แต่การปิดคุณเจียเอ่อร์ไว้แล้วฝืนร่างกายมาทำงานมันก็ใช่ว่าจะดีนี่นา

     

    เอา เถอะ อย่างน้อยก็ดูแลตัวเองให้ได้ ตกลงไหม?” ตุ๊กตาที่ไม่ได้ไร้หัวใจตามฉายาที่คนอื่นเรียกกันได้แต่ถอนใจซ้ำอย่างเอือม ระอากับความดื้อดึงของเพื่อนสนิท

     

    ขอบคุณนะ

     

     

    การเคลื่อนที่ของรถชะลอตัวลงเมื่อใกล้ถึงที่หมาย ไม่นานเครื่องยนต์ก็ดับสนิทอยู่หน้าร้านอาหารเกาหลีสไตล์โบราณแห่งหนึ่ง ทันทีที่เจียเอ่อร์ก้าวลงมา กลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำสนิทก็วิ่งตรงมาตั้งขบวนเรียงกันเป็นแถวต้อนรับนายใหญ่แห่งเขตใต้ เถ้าแก่เจ้าของร้านโค้งตัวลงทำความเคารพ ก่อนจะเดินนำเจียเอ่อร์ไปยังห้องรับรองด้านในสุดของร้านที่มีแขกคนสำคัญรออยู่

     

    พวกนายรออยู่นี่แหละ ฉันเข้าไปไม่นานหรอกเจียเอ่อร์สั่งสองบอดีการ์ดก่อนจะเข้าไปในห้องห้องรับรอง แม้จะได้รับอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่น แต่นั่นไม่ได้หมายรวมถึงการเจรจาธุรกิจที่เป็นความลับของนายใหญ่แห่งเขตใต้ด้วย

     

    หลังจากเจียเอ่อร์เข้าไปได้สักพัก จินยองก็ปลีกตัวออกมาเข้าห้องน้ำปล่อยให้แบมแบมเฝ้าเจ้านายหนุ่มอยู่เพียงลำพัง ร่างบางดึงตัวขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์ของอ่างล้างหน้าเอนหลังพิงกระจกติดผนังบานใหญ่อย่างเหนื่อยอ่อน ดูเหมือนไข้ที่เป็นอยู่นี่จะเล่นงานเขาหนักกว่าที่คิด มือเรียวกวักน้ำขึ้นลูบใบหน้าหวังให้อาการมึนหัวลดลงไปบ้าง จนเมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้วก็คิดจะกลับไปทำหน้าที่ของตน แต่เพิ่งจะก้าวออกมาจากห้องน้ำได้ไม่ทันไร วิทยุสื่อสารที่เสียบหูไว้ก็ดังขึ้น เป็นแบมแบมที่ติดต่อเข้ามา

     

    จินยอง... รู้สึกหรือเปล่า?” เสียงแหบหวานกระซิบถามแผ่วเบาราวกับกลัวว่าจะมีใครมาได้ยิน ถ้อยคำนั้นทำให้จินยองต้องกวาดสายตาไปรอบด้าน พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นในใจ จินยองถอยกลับเข้ามาในห้องน้ำแล้วตอบกลับไป

     

    อืม.. รู้แล้ว

     

    เสียงที่ตอบกลับแผ่วเบาไม่ต่างกัน ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาตกอยู่ในกับดักของศัตรูง่ายๆ แบบนี้ ถึงแม้นายใหญ่แห่งเขตใต้จะมาเยือน แต่ตัวร้านนั้นยังเปิดให้บริการตามปกติ ทั้งที่เป็นแบบนั้นภายในร้านที่เต็มไปด้วยลูกค้ากลับไม่มีเสียงพูดคุยกันเลยแม้แต่คำเดียว

     

    มันเงียบเกินไป

     

    สองเสียงประสานด้วยความเข้าใจที่ตรงกัน แต่เสียงของจินยองคงไม่เบาพอให้ใครอีกคนที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำไม่ได้ยิน ประตูบานสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุดเปิดออกพร้อมกับร่างของใครคนหนึ่งที่คุ้นตาดีก้าวออกมา ชายหนุ่มผู้มีบุคลิกน่าเกรงขาม ศัตรูคู่แค้นของตระกูลหวัง ต้วนอี้เอิน... นายใหญ่แห่งตระกูลต้วน

     

    คุณ!!” นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างตกตะลึงพูดไม่ออก ขาคู่เรียวเผลอก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว ก่อนจินยองจะรู้ตัวว่าควรทำอะไร แรงกระแทกบริเวณท้ายทอยก็ทำให้ภาพตรงหน้าพร่ามัวและดับวูบลงไปในทันที

     

    เกิดอะไรขึ้น!?” แบมแบมถามกลับอย่างร้อนใจเมื่อจินยองเงียบไป ขณะที่อี้เอินก้มตัวลงดึงวิทยุสื่อสารของจินยองขึ้นมาปิดก่อนจะโยนทิ้ง

     

    แจบอม... ลงมือเดี๋ยวนี้เลย เสียงทุ้มต่ำบอกลูกน้องหนุ่มผู้เป็นมือขวาของตนอย่างใจเย็น แจบอมพยักหน้ารับคำสั่งและรีบออกไปจัดการทันที

     

    อี้เอินหันกลับมาสนใจจินยองที่สลบไม่ได้สติ ปากกระบอกปืนในมือยกขึ้นจ่อศีรษะ เขาพอจะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายคงไม่สบาย ไม่เช่นนั้นมีหรือกุหลาบของนายใหญ่แห่งเขตใต้จะถูกจัดการอย่างง่ายดายปานนี้ นัยน์ตาคมเหลือบมองจินยองด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดา ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้ม ก่อนจะลดปืนลงและฉุดดึงหอบหิ้วร่างผอมบางขึ้นพาดบ่า ก่อนขาคู่ยาวจะก้าวออกไปข้างนอก

     

    .

    .

    .

     

    ...ปวดหัว

    แสบคอ

    ...อึดอัด

     

    ความรู้สึกอันหลากหลายเทประดังเข้ามา ก่อนนัยน์ตาจะเปิดขึ้นเพื่อพบเจอกับความมืด ต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะตั้งสติได้ จินยองรู้สึกเหมือนร่างกายหนักอึ้ง พอลองขยับตัวก็พบว่าแขนและขาถูกมัดไว้ด้วยอะไรบางอย่าง เดาเอาเองว่าคงเป็นเชือก เมื่อลองพยายามเพ่งดูในความมืดก็มองไม่เห็นสิ่งใด จินยองจึงสรุปได้ว่าเขาถูกปิดตาอยู่

     

    ...ที่นี่ที่ไหน?

    ...แล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?

     

    สมองของจินยองประมวลผลสับสนวุ่นวายไปหมดเมื่อพยายามไล่ลำดับเหตุการณ์ ความทรงจำสุดท้ายที่เหลืออยู่จนถึงเมื่อครู่คือเขาแวะมาเข้าห้องน้ำ พอกำลังจะกลับไปแบมแบมก็ติดต่อเข้ามา จากนั้นก็...

     

    จินยองนึกไปถึงภาพสุดท้ายที่ได้เห็นต้วนอี้เอินเดินออกมาพร้อมกับแรงกระแทกบางอย่างที่ท้ายทอยก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำ

     

    บ้าจริง!” เสียงหวานสบถอย่างแผ่วเบาที่เสียท่าศัตรูง่ายๆ จนถูกจับตัวมา แต่เขาไม่มีเวลามาสนใจตัวเองมากนัก ไม่รู้ว่าป่านนี้คุณเจียเอ่อร์จะเป็นยังไงบ้าง เขาถูกลักพาตัวมาที่นี่แสดงว่ารอบนี้ตระกูลหวังเสียทีงั้นหรือ

     

    จินยองขยับข้อมือที่ถูกมัดไปตรงสายเข็มขัด ปลายนิ้วควานหาเพียงครู่เดียวก็ได้แท่งเหล็กสีเงินอันเล็กๆ ที่ปลายหนึ่งมีคม เขาใช้มันตัดเส้นเชือกที่ข้อมือข้อเท้าแล้วดึงผ้าปิดตาออกถึงได้เห็นว่าตัว เองอยู่ในห้องที่ดูคล้ายกับห้องพักของคนใช้อะไรแบบนั้น แต่คงเพราะไม่ถูกใช้งานมานาน ฝุ่นจึงจับกันเป็นก้อน แม้แต่หน้าต่างก็ขึ้นสนิมจนเปิดไม่ออก

     

    คงไม่ใช่คฤหาสน์ตระกูลต้วนหรอกนะจินยองพึมพำกับตัวเองอย่างกังวล ถ้าใช่จริงๆ การหนีออกไปอาจไม่ง่ายอย่างที่หวังไว้ จินยองถอนหายใจแล้วย่องไปที่ประตูพยายามแง้มเปิดออกอย่างเงียบเชียบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ข้างหน้าห้องมีชายรูปร่างสูงใหญ่ยืนเฝ้าอยู่เพียงแค่คนเดียว

     

    จินยองจงใจเปิดประตูให้กว้างขึ้นจนได้ยินเสียงเสียดสีกันของเหล็กบานพับ ชายคนเฝ้าประตูที่ได้ยินเสียงจึงคว้าลูกบิดประตูจะเข้าไปดูในห้อง ทันทีที่ผู้ชายคนนั้นยื่นหน้าเข้ามา จินยองก็ผลักประตูปิดสุดแรง และแรงกระแทกทำให้ชายคนนั้นสลบลงไปกองกับพื้นทันที ไม่มีแม้แต่เสียงร้อง

     

    ฟู่~” จินยองปาดหยาดเหงื่อที่หน้าผาก การออกแรงตอนป่วยไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขาควรจะเชื่อแบมแบมตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้

     

    จินยองลัดเลาะไปตามผนังอย่างช้าๆ จนไปถึงห้องโถงใหญ่ ระหว่างที่กำลังลังเลว่าจะไปทางซ้ายหรือทางขวา สายตาก็เลื่อนไปสะดุดเข้ากับภาพวาดเสือขาวบนฝาผนัง... สัญลักษณ์แห่งอำนาจและบารมีของตระกูลต้วน

     

    ...ที่นี่คือคฤหาสน์ตระกูลต้วนจริงๆ

     

    จินยองพยายามคิดในแง่ดี บางทีการถูกจับมาที่นี่อาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้ โดยปกติแล้วที่อยู่ของนายใหญ่แห่งตระกูลต้วนเป็นปริศนามาตลอด แม้ว่าคนของเจียเอ่อร์จะพยายามสืบหาเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเคยพบแม้แต่เบาะแส เทียบกับคฤหาสน์ตระกูลหวังที่ทุกคนในโลกเบื้องหลังรู้จักดีแล้วออกจะเป็นการเสียเปรียบอยู่มาก แต่ตอนนี้เขามาอยู่ที่นี่แล้ว ที่ตั้งของคฤหาสน์ตระกูลต้วนไม่ได้เป็นปริศนาอีกต่อไป แล้วผู้ชายคนนั้นจะต้องเสียใจที่จับตัวเขามาที่นี่!

     

    นั่นใครน่ะ?” เสียงทักจากข้างหลังทำเอาจินยองสะดุ้งสุดตัว ถึงอย่างนั้นก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ปิดปากเงียบไม่ตอบ ขณะที่ในหัวก็คิดหาวิธีเอาตัวรอด

     

    ฉันถามว่าใคร?” คราวนี้ไม่เพียงแค่เสียง แต่มาพร้อมกับมือใหญ่ที่วางลงบนบ่าซึ่งจินยองที่ไม่มีเวลาคิดอะไรแล้วก็ทำได้แค่เบี่ยงตัวหลบและออกวิ่งทันที

     

    หัวหน้าแจบอม! มันหนีออกมาแล้วครับ

     

    ลูกน้องคนนั้นรีบรายงานเจ้านายของตน เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังไปทั่วคฤหาสน์ จินยองต้องรับมือกับชายร่างสูงหลายสิบคนที่มาขวางทางเขา แม้ฝีมือด้านการต่อสู้ของกุหลาบแห่งเขตใต้จะไม่เคยเป็นสองรองใคร แต่ในสภาพที่ร่างกายไม่พร้อม ทั้งยังตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมศัตรูก็ทำให้จินยองตกที่นั่งลำบากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

    และถ้าทั้งหมดที่เจอในวันนี้ยังไม่ร้ายพอ ตอนนี้ก็คงเป็นส่วนที่เลวร้ายที่สุดเพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา คือ อิมแจบอม หัวหน้าบอดีการ์ดหนุ่มควบตำแหน่งมือขวาของนายใหญ่ตระกูลต้วน ฝีไม้ลายมือของคนตรงหน้าร้ายกาจเพียงใด จินยองย่อมรู้ดี... จากการปะทะกันหลายครั้งตั้งแต่เขาขึ้นมาเป็นบอดีการ์ดของเจียเอ่อร์ จินยองยอมรับว่าผู้ชายคนนี้เก่ง ถ้าไม่ต่อสู้อย่างเต็มที...เขาอาจจะแพ้ได้

     

    หึ! ยังชอบเอาแต่ลอบกัดเหมือนเดิมนะ!” จินยองหาเรื่องถ่วงเวลา เขารู้สภาพร่างกายตัวเองดี จึงไม่อยากเสี่ยงกับการต่อสู้ที่รู้ว่ายังไงก็ต้องแพ้ ขนาดในเวลาที่ร่างกายสมบูรณ์พร้อมที่สุด เขายังทำได้แค่สูสี แล้วในตอนนี้เหรอ...แทบไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ

     

    แต่แจบอมกลับหัวเราะราวกับว่านั่นคือคำชมเชยชั้นเยี่ยม รอยยิ้มบนใบหน้าราวกับจะเย้ยหยันที่ตระกูลหวังตกหลุมพรางเอาง่ายๆ

     

    น่าเสียดายนะที่คราวนี้หวังเจียเอ่อร์หนีไปได้ แต่คนที่จะไม่รอดน่ะ...นายต่างหาก

     

    รอยยิ้มที่จางหายไปจากใบหน้ากลายเป็นสัญญาณเริ่มการต่อสู้ จินยองเป็นฝ่ายลงมือก่อนด้วยการฟาดเรียวขายาวออกไปตรงๆ แจบอมรับมือการจู่โจมครั้งแรกอย่างง่ายๆ ด้วยการชกปัดออกไป แล้วตอกกลับด้วยการพลิกตัวประชิดแผ่นหลังบาง มือหนายกขึ้นเตรียมฟาดลงตรงจุดเดิมที่ท้ายทอย แต่จินยองก็หมุนตัวหลบได้อย่างทันท่วงที ทั้งยังกระแทกศอกเข้าตรงสีข้างของอีกฝ่ายได้อีก แม้จะการถูกกระแทกอย่างตรงเป้าจะชวนให้จุกไปบ้างแต่แจบอมก็สามารถโต้กลับได้ในทันที

     

    การต่อสู้แบบมือเปล่ายังคงดำเนินไป โดยมีลูกน้องคนอื่นๆ เป็นผู้รับชม เสียงลมหายใจของจินยองเริ่มหอบไม่เป็นจังหวะ เขารู้สึกแน่นหน้าอกเพราะความเหนื่อยล้า ในขณะที่อีกฝ่ายมีหยาดเหงื่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

     

    มีฝีมือแค่นี้เองเหรอ?” แจบอมจงใจยั่ว จินยองรู้แต่ก็ยังอดโมโหไปตามคำยุนั่นไม่ได้ เขาพุ่งตัวเข้าหาอีกฝ่ายด้วยกำปั้นเป็นกลลวงที่จงใจให้แจบอมหลบเพื่อจะตวัดวงขาเข้าที่สีข้าง ทว่าอีกฝ่ายไม่หลงกล มือขวาหนุ่มคว้าข้อมือจินยองไว้ก่อนที่จะถูกชก และนั่นก็ทำให้กุหลาบงามเสียการทรงตัว

     

    อ่ะ!” แจบอมฉวยโอกาสนี้จับจินยองกดลงกับพื้น พร้อมกับที่ลูกน้องคนหนึ่งรีบส่งกุญแจมือให้อย่างรู้หน้าที่ หัวหน้าบอดีการ์ดหนุ่มพันธนาการข้อมือไพล่หลัง ก่อนจะติดต่อไปหาผู้เป็นนายใหญ่ผ่านทางชเวยองแจ...เลขาคนสำคัญ มือซ้ายของต้วนอี้เอิน

     

    ยองแจ...ทุกอย่างเรียบร้อย เรียนนายท่านให้ด้วย รายงานไปเพียงครู่เดียวก็ได้คำตอบกลับมา จินยองไม่รู้ว่าคำตอบคืออะไร แต่แจบอมก็ดึงให้เขาลุกขึ้น ก่อนจะสั่งงานลูกน้อง จินยองถึงได้รู้ว่าเขากำลังจะได้พบกับนายใหญ่แห่งตระกูลต้วน...ต้วนอี้เอิน

     

    .

     

    ภายในห้องนอนแสนกว้าง นายใหญ่แห่งตระกูลต้วนนั่งสบายๆ อยู่ที่โต๊ะทำงาน โดยมียองแจอยู่ข้างๆ แจบอมก้มหัวให้ผู้เป็นนายอย่างให้ความเคารพโดยไม่ได้ปล่อยให้จินยองอยู่ห่างตัว คนที่ปิดปากเงียบตั้งแต่ก้าวเข้ามาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างถือดี ใบหน้าเบือนไปด้านข้างไม่สนใจคนที่ถูกพาตัวมาพบ

     

    พวกนายไปพักเถอะ ที่เหลือฉันจะจัดการเองคำสั่งนั้นทำเอาจินยองแปลกใจ ไม่เข้าใจความคิดของผู้เป็นนายใหญ่แห่งตระกูลต้วนเลย จินยองเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องถูกคาดคั้นเรื่องของเจียเอ่อร์และตระกูลหวังแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าต้วนอี้เอินจะเป็นผู้ลงมือด้วยตัวเอง

     

    ครับ นายท่านพอได้รับคำสั่ง คนของอี้เอินก็ขานรับโดยพร้อมเพียงและก้าวออกจากห้องไปทันที จินยองมองเห็นดวงตาของมือซ้ายหนุ่มเหลือบมองมาทางเขาอย่างเวทนาด้วยความไม่ เข้าใจ

     

    ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบสงบเมื่อลูกน้องคนสุดท้ายก้าวออกไปจากห้อง อี้เอินเดินเข้าไปหาจินยองที่ยังยืนนิ่งอย่างไม่เกรงกลัว นิ้วเรียวยาวไล้ไปตามโครงหน้าของคนที่หันหน้าหนีอย่างรังเกียจ ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปแนบข้างใบหูนิ่ม

     

    รู้อะไรไหม...สิ่งที่ฉันไม่ชอบที่สุดคือการถูกรบกวนตอนกลางดึก น้ำเสียงแหบทุ้มเปี่ยมไปด้วยอำนาจทำเอาจินยองรู้สึกหวั่นเกรงคนตรงหน้าขึ้นมา เขารู้สึกว่าเจียเอ่อร์กับอี้เอินมีบรรยากาศที่คล้ายๆ กัน บรรยากาศของความน่าเกรงขาม

     

    งั้นก็ปล่อยผมไปสิครับ แล้วผมจะมาไม่กวนใจคุณอีกเลยจินยองถอยหลังหนีอี้เอินก้าวหนึ่งเพื่อเว้นระยะห่าง แต่อีกฝ่ายก็ยังเคลื่อนตัวเข้ามาหาอยู่เรื่อยๆ

     

    เสียใจที่ต้องบอกว่าไม่ได้

     

    ต่อให้ต้องตาย ผมก็จะไม่พูดอะไรทั้งนั้น

     

    จินยองยังมีสติพอที่จะข่มใจให้เยือกเย็นไม่ร้อนรนไปกับการกระทำที่ไม่อาจคาดเดาได้ จินยองเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร แต่ไม่ว่าอะไรที่อี้เอินต้องการ ชายหนุ่มจะไม่มีวันได้มันไป ปาร์คจินยองจะไม่มีวันทรยศต่อนายใหญ่แห่งเขตใต้

     

    ฉันไม่สนใจหรอกว่านายจะพูดหรือไม่พูดอะไร

     

    ช่วยหยุดอยู่ตรงนั้นด้วยครับจินยองยังคงก้าวถอยหลังหนีนายใหญ่แห่งตระกูลต้วน ในใจเริ่มหวั่นกลัวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของคนตรงหน้าที่ไม่มีทีท่าว่าจะต้องการข้อมูลใดๆ ของตระกูลหวังเลยสักนิด

     

    นี่ห้องฉัน...

     

    คุณต้องการอะไรจากผมกันแน่!?” จินยองโพล่งถามออกไปเมื่อถอยจนชนขอบเตียงนอน ไม่มีที่ให้ถอยอีกแล้ว

     

    สิ่งที่ฉันต้องการงั้นเหรอ? หึ...ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของหวังเจียเอ่อร์ไงล่ะ ไม่ต้องอธิบายจินยองก็เข้าใจ หากต้วนอี้เอินต้องการทุกอย่างของนายใหญ่แห่งเขตใต้ นั่นก็คงหมายรวมถึงกุหลาบของหวังเจียเอ่อร์อย่างเขาด้วย

     

    คนที่ดีแต่ลอบกัดอย่างคุณ ไม่มีวันชนะคุณเจียเอ่อร์ได้หรอก!” ดวงตาคู่งามมองซ้ายมองขวาหาทางหนี จินยองพยายามถ่วงเวลา เขาตั้งใจจะยั่วให้อี้เอินโกรธจนขาดสติและขาดความระวังตัว แต่กุหลาบงามคิดผิดที่เอ่ยถึงผู้เป็นเจ้านายในเวลานี้

     

    ผัวะ!

     

    ฝ่ามือของอี้เอินตบฉาดเข้าที่แก้มของจินยอง รอยแดงร้อนวาบปรากฏขึ้นให้เห็นทันตา แรงขนาดที่ตัวคนถูกตบรู้สึกชาไปทั้งใบหน้า

     

    มีเรื่องหนึ่งที่นายควรระวังไว้ คือการพูดชื่อผู้ชายคนนั้นต่อหน้าฉัน อี้เอินผลักจินยองกดลงกับเตียง แต่จินยองก็ไม่ยอมง่ายๆ เขาพยายามดิ้นกระชากตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมของชายหนุ่ม หากไม่เพราะพิษไข้ที่ทำให้จินยองอ่อนแรงก็คงเป็นเพราะคนอย่างต้วนอี้เอินรับมือได้ยากเกินไป

     

    ปล่อย!” เสียงหวานตะคอกใส่ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะยอมปล่อย อี้เอินพลิกตัวคนที่เอาแต่ดิ้นรนหนีให้นอนคว่ำลง จินยองไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ แต่ข้อมือที่ถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือถูกปลดออก และแน่นอนว่าจินยองจะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองพลาดโอกาสหนี เขาพลิกตัวกลับอย่างทุลักทุเล แต่อี้เอินก็รู้อยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มคว้าแขนข้างหนึ่งรั้งคนที่ไม่ยอมจำนนเข้ามาชิดอก กดริมฝีปากลงไปอย่างแม่นยำ แต่จินยองก็เบี่ยงหลบและหลุดพ้นจากริมฝีปากของอีกฝ่ายได้ด้วยคมเขี้ยวที่กัดจนเลือดซึม

     

    ฤทธิ์เยอะจริงนะ

     

    อี้เอินยิ้มจางๆ ที่ดูน่าหวั่นกลัวตอนที่ใช้หลังมือปาดเลือดที่มุมปาก มือใหญ่บีบคางให้จินยองเงยขึ้นรับจูบที่หนักแน่นรุนแรง บดขยี้กลีบปากนุ่มเนิ่นนาน เรียวลิ้นร้อนชื้นรุกล้ำเข้าควานหาความหอมหวานที่เจือปนกับรสเฝื่อนของเลือดอย่างร้อนแรงจน จินยองยกเข่าดันกระทุ้งใส่อี้เอินหวังให้หลุดจากการถูกกักไว้ในอ้อมแขน แต่มันไม่ได้ผล... กลายเป็นข้อมือถูกบีบแน่นกว่าเดิมแทนการโต้ตอบ อี้เอินลงโทษคนที่ไม่ยอมจำนนง่ายๆ ด้วยรสจูบหนักหน่วง ช่วงชิงลมหายใจไม่ยอมเลิกรา


    กว่าริมฝีปากจะเป็นอิสระ ข้อมือทั้งสองข้างก็ถูกมัดเข้ากับราวเหล็กหัวเตียงด้วยโซ่เส้นเล็กที่รัด แน่นจนไม่เหลือช่องว่าง จินยองมองใบหน้าหล่อที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่ถึงนิ้วด้วยสายตาแค้นเคือง ขณะที่อี้เอินใช้ปลายนิ้วหมุนควงกุญแจมืออันเดิมด้วยยิ้มร้ายกาจ

     

    เสียใจด้วยนะกุญแจมือที่ไร้ประโยชน์ถูกโยนทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ อี้เอินรู้อยู่แล้วว่าจินยองตั้งใจจะหักข้อนิ้วตัวเองเพื่อถอดกุญแจมือออก วิธีใจเด็ดแบบนี้คงมีแต่คนของตระกูลหวังที่กล้าทำ และถ้าห่วงเหล็กธรรมดาๆ สามารถควบคุมจินยองให้สิ้นฤทธิ์ได้ คนตรงหน้าเขาคงไม่มีวันได้เป็นบอดีการ์ดของหวังเจียเอ่อร์

     

    คนขี้ขลาดจินยองกัดฟันอย่างเจ็บใจที่ถูกรู้ทัน เขาพยายามกระชากข้อมือให้หลุดจากโซ่ซ้ำๆ อย่างไม่ยอมจำนน เรียวขาทั้งเตะทั้งถีบไม่ยอมให้อี้เอินเข้ามาใกล้ แต่ความพยายามทั้งหมดสูญสิ้นลงทันทีที่อีกฝ่ายทอดตัวลงมาทาบทับเหนือร่าง


     

    cut scene

     


    ทำใจเถอะนะคำพูดของอี้เอินทำให้ใจจินยองกระตุกวูบ ก่อนจะต้องกรีดร้องเสียงเบาหวิวเมื่อถูกรุกล้ำเข้ามาอีกครั้งอย่างไม่ให้ทันได้ตั้งตัว

     

    ฮือ!

     

    นายผิดเองที่เป็นคนของเจียเอ่อร์

     

     

    To be con.

     

     

    +

    Lady’s Talk_

     

    ขุดงานเก่ามาปัดฝุ่นใหม่ค่ะ

    เป็นฟิคที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากอยากปล้ำจินยอง #ชัดเจน 55555

    ฉากคัท ตามหาในบล็อก/แท็กนะคะ

    คุยกันใน #ficffmn ได้นะคะ ขอบคุณค่ะ :)

     

    ปล. สำหรับวันพรุ่งนี้...ไม่มีอะไรจะแก้ตัวค่ะ T__T

     

    MysteryLady

    100416

     

    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×