คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #51 : ภาคปลายตอน5 ปัญหามาปัญญาเกิด
ฟงชินหยางที่กำลังยืนตระหง่านอยู่เหนือกลุ่มพลทหารด้วยมาดมัจจุราชเหมือนเคยพลันเห็นใครบางคนจากทางหางตา
เขาถึงกับต้องหรี่ตาลงเมื่อปรายสายตามองออกไป
ชายหนุ่มเห็นเป็นหญิงสาวนางหนึ่งในอาภรณ์ของทหารหญิงกำลังถูกสองชายหญิงในอาภรณ์เช่นเดียวกันจับดึงตัวออกไปจากกลุ่มของพลทหารในระยะห่างกันเป็นสิบจั้ง
สตรีนางนั้นมีปานสีแดงที่แก้มนวลข้างขวาและไฝเม็ดใหญ่ที่ใต้ตาข้างซ้าย
ฟงชินหยางถึงกับชะงักงัน นั่นเมียเขามิใช่หรือไร?
ชายหนุ่มถึงกับยืนตรึงขึงนิ่งอยู่กับที่ถึงแม้ว่าระยะที่เขายืนอยู่จะห่างมากแต่ทว่าสายตาคมเฉี่ยวคล้ายพญาเหยี่ยวตัวเขื่องของเขาช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก โดยเฉพาะกับเมีย
“ลากตัวออกไป!” แม่ทัพฟงผู้ดุดันเอ่ยคำรามให้ลูกน้องทหารจัดการพาสองพี่น้องที่หมายผูกมัดเขาด้วยน้ำชาใส่ยาปลุกกำหนัดให้ออกไปในทันทีเพื่อที่เขาจะได้จ้องมองใครบางคนได้ถนัดถนี่ยิ่งขึ้น
เมื่อสองพี่น้องผู้คิดไม่ซื่อถูกลากออกไปแล้วเสียงเอ่ยไล่เหล่าพลทหารที่ยืนรายล้อมจึงดังตามมา “ออกไปให้หมด!”
เหล่าทหารทั้งหลายมีหรือจะรอช้ารีบพากันหัวหดหมุนตัวกระจัดกระจายหายไปในทันที คงเหลือเอาไว้เพียงทหารตัวใหญ่ยืนยามนิ่งขึงอยู่ตรงหน้าเรือนพักคล้ายรูปปั้นยักษ์ดังเดิม
ฟงชินหยางเลือกที่จะสะบัดชายผ้าเสียงดังหมุนตัวกลับเข้าไปยังเรือนพักโดยไม่สนใจใครต่อใครแต่ทว่าสายตาเฉี่ยวคมยังคงปรายหางตาแอบมองหนึ่งบุรุษและสองสตรีที่มีทั้งแผลเป็นทั้งปานแดงและไฝเม็ดใหญ่
เห็นได้ชัดว่าคนพวกนั้นเป็นใคร มันมิใช่เรื่องยากอันใด...
เขาเห็นน้องรองและน้องเล็กของเขาที่ปลอมตัวมาเช่นกันกำลังช่วยกันจับตรึงหลิงเวยที่ปลอมตัวจนน่าเกลียดให้หายเข้าไปทางหลังพุ่มไม้
สองคนเป็นพี่น้องที่เติบโตด้วยกันมา กับอีกคนที่เห็นกันมาหมดแล้วทุกสัดส่วน สำรวจกันด้วยริมฝีปากด้วยฝ่ามือกระทั่งกระบวนท่าลีลารัก ต่อให้มาแต่ตัวหัวไม่มีเขายังจำได้
ชายหนุ่มถึงกับแอบยกยิ้มตรงมุมปากสายตาคมดำร้ายกาจฉายประกายวาบลึกล้ำ
แต่ยังไม่ทันที่ฟงชินหยางจะขยับกายไปทางใดเสียงหวานแผ่วของสตรีนางหนึ่งพลันดัง
“ท่านแม่ทัพฟง…”
เจ้าของเสียงเป็นสตรีตั้งครรภ์ได้ประมาณหกเดือนนางกำลังเดินเข้ามาทางด้านหลังของฟงชินหยาง
ชายหนุ่มจำเสียงได้จึงปรายสายตามาทางสตรีตั้งครรภ์แล้วเอ่ย “มีอันใด?”
“ข้าน้อยทำขนมมาฝากท่านเจ้าค่ะ สามีของข้าย้ำหนักหนาว่าท่านชอบ” สตรีนางนั้นเอ่ยคำเสียงหวานพลางยกกล่องในมือยื่นให้บุรุษร่างใหญ่ตรงหน้า
ฟงชินหยางเพียงปรายสายตาส่งสัญญาณให้ลูกน้องที่ยืนยามอยู่มารับของแล้วถือไปเก็บก่อนเอ่ยกับสตรีตั้งครรภ์
“ข้ามีของจะให้สามีของเจ้ามันอาจจะช่วยให้เขาเดินได้สะดวกมากกว่าเดิมหลังจากที่เขาถูกฟันขาจนขาดกระเด็นจากการปกป้องข้าเยี่ยงนั้น ตามข้ามา”
จบคำก็เดินนำหน้าสตรีตั้งครรภ์นางนั้นเข้าไปในเรือนพักโดยไม่สนใจมนุษย์แปลกประหลาดสามคนตรงพุ่มไม้อีกต่อไป
เรื่องของภรรยาคงต้องรอเวลาอันเหมาะสมยิ่งกว่านี้ เห็นได้ชัดว่านางต้องการปลอมตัวเพื่อปิดบังตัวตน มิรู้ได้ว่ากำลังเล่นสนุกซุกซนอันใด ไยไม่มาดีๆ น่าตียิ่ง!
ทั้งสองคนที่เป็นท่านแม่ทัพกับสตรีงดงามตั้งครรภ์จนท้องกลมโตจึงพากันเดินหายเข้าไปในเรือนพักแล้วปิดประตูลงในทันที
ภาพของสตรีตั้งครรภ์ส่งยิ้มหวานส่งกล่องขนมตามด้วยเดินตามแผ่นหลังกว้างใหญ่ของฟงชินหยางเข้าไปในเรือนแล้วหายเข้าไปในนั้นเพียงสองต่อสองกำลังสร้างความเข้าใจผิดอย่างมหันต์ให้กับสตรีนางหนึ่งได้เป็นอย่างดีเนื่องจากนางอยู่หลังพุ่มไม้และอยู่ห่างออกไปถึงสิบจั้ง
ฟงจินหมิงและฟงลี่หลินเองก็เข้าใจผิดไม่ต่างกัน เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดมิได้มีประสาทสัมผัสทางใบหูและสายตาที่ปราดเปรื่องดังเช่นฟงชินหยาง
หลิงเวยที่กำลังชาวาบไปทั้งเรือนร่างทำได้เพียงประมวลผลตามภาพที่ตนได้เห็น
ฟงชินหยางมีภรรยาที่ตั้งครรภ์อยู่ที่นี่!?
เขากำลังจะมีบุตรกับสตรีนางอื่น แล้วบุตรชายทั้งสองของนางเล่า?
เมื่อหลิงเวยคิดได้อย่างนั้นวิญญาณจึงหลุดออกจากร่างในทันที ฟงจินหมิงและฟงลี่หลินได้แต่มองกันไปมาตาปริบๆ
ในขณะที่ทั้งสามกำลังเข้าสู่ภวังค์มืดมิด เสียงห้าวหาญของทหารนายหนึ่งพลันดังประชิดเข้ามา
“พวกเจ้าทั้งสามเป็นทหารเข้ามาใหม่คิดจะหลบหนีการฝึกอยู่หลังพุ่มไม้รึ ช่างบังอาจ!” จบคำก็หันหน้าไปเรียกพลทหารติดตามอีกสองนายข้างหลัง “พวกเจ้าไปลากตัวสามคนนั้นออกมาจากพุ่มไม้เดี๋ยวนี้” เห็นได้ชัดว่าผู้ออกคำสั่งเป็นหัวหน้ากองอย่างแน่นอนและยังบ้าอำนาจใช่ย่อย
เมื่อฟงจินหมิง ฟงลี่หลิน และหลิงเวยถูกจับให้ลุกขึ้นเพื่อเดินออกมาจากหลังพุ่มไม้ เสียงตะเบ็งห้าวหาญยังคงคำราม
“ในเมื่อพวกเจ้าหนีการฝึกอย่างนี้ คืนนี้ก็ไปทำงานนอกสถานที่เสียเลยเป็นไร ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน ไป!” หัวหน้ากองท่านเดิมยังคงเอ่ยสั่งการขณะเดินนำหน้าทุกคนไปตามทาง
“พวกเจ้าตามข้ามา!”
ทั้งหมดจึงเดินตามทหารบ้าอำนาจตรงหน้าไปโดยไม่มีข้อแม้หรือข้อโต้แย้งอันใด คล้ายกับว่าพวกเขาเป็นเพียงร่างเปล่าไร้ซึ่งวิญญาณมิได้มีสติอยู่กับเนื้อกับตัวอีกต่อไป
เวลายามเซิน(15.00-16.59)มาเยือน....
ภายในวังอันใหญ่โตโออ่าไม่แพ้พระราชวังแห่งเมืองหลวง ภายในวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของชินอ๋องนามว่าเฉินจิ้นเหอพระอนุชาคนสนิทของฮ่องเต้เฉินหยางหมิงเซียน เขาเป็นผู้ครองหัวเมืองหลักของแคว้นเฉินอันเป็นจุดศูนย์กลางหลากแคว้นหลากชนเผ่ารายรอบห้อมล้อม
ด้านในของวังชินอ๋องแห่งนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวเตรียมการต้อนรับเหล่าคณะผู้มาเยือนจากแคว้นเป่ยฉีผู้เป็นทูตเชื่อมสัมพันธไมตรี
มีองค์ชายรูปงามนามว่า ฉีเล่อ เป็นตัวแทนเชื่อมสัมพันธ์ในครั้งนี้
ฟงจินหมิง ฟงลี่หลิน และหลิงเวยได้รับคำสั่งให้เข้ามาเป็นทหารยามและเป็นกองกำลังเสริมงานหนักเช่นแบกหามถังน้ำแบกหามถ้วยชามเครื่องเรือน
ซึ่งทั้งสามก็ทำหน้าที่ได้ดีแต่เพียงไม่นานพวกเขากลับรีบมองซ้ายมองขวาแล้วหลบออกมาเพื่อหนีงานหนักตรงหน้าด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด
มุมมืดหลังเรือนสวยงามเรือนหนึ่ง...
“ข้าได้ยินว่างานในวันนี้เป็นงานเกี่ยวกับการต้อนรับองค์ชายต่างแคว้นเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีหมายสัญญาสงบศึกรอบใหม่ที่กำลังจะหมดลงไปในอีกหนึ่งปีข้างหน้านี้ ชินอ๋องได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้เฉินหยางหมิงเซียนให้จัดงานเลี้ยงต้อนรับด้วยตนเองที่หัวเมืองแห่งนี้แทนที่จะเข้าไปถึงเมืองหลวง”
ฟงจินหมิงวิเคราะห์เรื่องราวจากที่ตนได้ยินนายทหารยศสูงสองคนคุยกันแล้วสรุปให้พี่สะใภ้และน้องสาวได้รับฟัง
“เช่นนั้นงานนี้ย่อมสำคัญมาก หากไม่แล้วสัญญาสงบศึกในปีหน้าอาจจะมีปัญหาเอาได้” หลิงเวยร่วมวิเคราะห์ด้วย
ฟงจินหมิงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเอ่ยเสียงต่ำต่อเนื่องยาวเหยียด “อืม...เห็นได้ชัดว่านี่อาจจะเป็นเพียงการประเมินบางอย่างจากองค์ชายต่างแคว้นผู้นี้และช่วงเวลานี้ย่อมไม่เหมาะที่เราจะเปิดเผยตัวตนให้พี่ใหญ่หรือใครๆ ได้เห็น คืนนี้จะมีคณะทูตจากต่างแคว้นมาเยือนชินอ๋องถึงถิ่น แน่นอนว่ามิใช่การมาท่องเที่ยวกระชับความสัมพันธ์ตามเหตุผลที่แสดงให้เห็น หากแต่อาจจะเป็นการหยั่งเชิงประเมินศัตรูภายใต้สัญญาสงบศึกที่กำลังจะหมดลงในปีหน้า และบุคคลที่พวกนั้นต้องการมาสังเกตการณ์แน่นอนว่าย่อมเป็นพี่ใหญ่ หากล้มพยัคฆ์มัจจุราชอย่างพี่ใหญ่ลงได้ หัวเมืองหน้าด่านแห่งนี้ก็คืออาหารคาวหวานอันโอชา หากว่าอาซ้อเปิดเผยตัวว่าเป็นภรรยาหนึ่งเดียวของพี่ใหญ่ อาซ้อย่อมจะตกเป็นเหยื่อทางการเมืองในทันที”
หลิงเวยได้ฟังพลันตื่นตะลึง เห็นได้ชัดว่าการปลอมตัวเยี่ยงนี้นับได้ว่าถูกต้องเป็นอย่างยิ่ง
“อืม...รวมถึงพวกเราด้วยหรือไม่พี่รอง” ฟงลี่หลินบ่นอุบพลางทุบไหล่ของตนที่ใช้แบกถังน้ำอยู่สองรอบ เหนื่อยใช่ย่อย!
“แน่นอนย่อมเป็นเช่นนั้น” ฟงจินหมิงตอบรับด้วยสีหน้าจริงจังเข้มข้น
ทันใดนั้นทั้งสามคนพลันได้ยินเสียงฝีเท้าของคนจำนวนหนึ่งเดินแบบย่องเบาแต่ก้าวเท้าถี่รัวมาทางด้านหลังของเรือนแห่งนี้ที่เป็นมุมอับเช่นเดียวกัน ทั้งสามจึงรีบหลบมุมไปอีกมุมหนึ่งในทันทีด้วยสัญชาตญาณที่มีความรวดเร็วสูง
เพียงอึดใจเสียงฝีเท้ามากมายคาดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่าสามถึงห้าคนพลันหยุดลง ตามด้วยเสียงพูดคุยใส่กันดังตามมา
“เจ้าและเจ้าจงเปลี่ยนตัวกับพวกที่ขึ้นทำการแสดงในวันนี้ทั้งหมด จัดฉากให้ทั้งสองแคว้นเข้าใจผิดกันให้ได้ ไป!”
สิ้นคำสั่งจากบุคคลปริศนาเสียงฝีเท้าจึงกระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยวเวลายากหนักหนาที่ใครจะตามไปจับกลับมาได้ทัน
ทั้งบุคคลทั้งรูปประโยคตรงมุมอับพลันปรากฏเด่นชัดในครรลองสายตาและโสตประสาทของสามบุคคลสกุลฟงในทันที
ฟงจินหมิงผู้มีสมองอันปราดเปรื่องจึงประมวลผลได้ทั้งหมด หากคนพวกนี้ทำได้สำเร็จสัญญาสงบศึกระหว่างแคว้นย่อมไม่บังเกิด ศึกนองเลือดย่อมมีมาแบบตามติดหากสองแคว้นเข้าใจผิดกัน
อา...ปัญหามิได้มีเพียงสองหากแต่มีถึงสาม
แต่ทว่าการที่จะเข้าไปแจ้งข่าวเอิกเกริกก็เกรงว่าไก่จะตื่นรู้ตัวยั้งคิดเสียก่อนแล้วลอยนวลหลบเร้นเพื่อไปคิดแผนการใหม่ที่ร้ายกาจยิ่งกว่าเดิม เช่นนั้นแล้วอาจจะกลับกลายเป็นส่งเสริมเหล่าศัตรูจนกลายเป็นให้มันได้หลบซ่อนตัวแล้วซุ่มสร้างแผนการลึกล้ำหนักข้อเพิ่มมากขึ้น
อีกประการหนึ่งนั้น หากมีเรื่องที่ทำให้แตกตื่นได้เยี่ยงนี้วังชินอ๋องคงได้ขายหน้ายิ่งแล้ว นั่นมันปัญหาระดับแคว้นเลยเชียว แม่ทัพฟงผู้เป็นปราการหลักในยามนี้ย่อมต้องเสียหน้าไม่แพ้ใคร
อา...แย่แล้ว
ฟงจินหมิงหลับตาครุ่นคิดถึงหลักการแลเหตุผลอันมากมายนานัปการด้วยท่าทางสงบเงียบนิ่งเนิ่นนาน
นานมาก...
“พี่รอง ตื่น!” ฟงลี่หลินสะกิดฟงจินหมิงในทันทีเมื่อเห็นพี่รองของตนหลับตาครุ่นคิดนานจนเกินไป
เวลาผ่านไปสักพักฟงจินหมิงจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ดั่งปรมาจารย์ผู้บรรลุเห็นแจ้งทุกสรรพสิ่งในโลกหล้า มาดของเขาในยามนี้ช่างไม่ธรรมดา เขาเพียงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเรียบเรื่อย
“เอาอย่างไรดี...”
“...!?”
สองสตรีที่ตั้งใจฟังเป็นอย่างมากถึงกับรู้สึกผิดหวัง
ไยไม่พูดอะไรมากกว่านี้สักหน่อยเล่า!
ร้ายพ่ายกลายรัก ฉบับจบบริบูรณ์ คลิก>>>ร้ายพ่ายกลายรัก
ร้ายพ่ายกลายรัก ฉบับ E-Book คลิก>>>ร้ายพ่ายกลายรัก
|
|
|
|
ความคิดเห็น