คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 4.2 ดูดเลือดฉันเถอะ
“ไปหาอะไรกินกันเถอะ” ยืนหน้านิ่งอยู่ด้านข้างไม่แม้แต่จะคิดแก้คำว่าแฟนที่เพื่อนฉันว่าเมื่อกี้สักนิด
“กันเถอะ? พูดเหมือนเราสองคนกินอะไรเหมือนกัน หรือที่พูดนี่คือจะลากฉันไปดูดเลือด” อยากจะถอยหนีให้ห่างเขาแต่ถึงหนียังไงก็คงหนีไม่พ้นเลยได้แต่นั่งอยู่กับที่เหมือนเดิม
“ฉันไม่ดูดเลือดเธอหลอกน่า ยกเว้นเธอทำให้ฉันไม่พอใจเท่านั้นล่ะ”
“แล้วเมื่อวานนี่ฉันทำให้นายไม่พอใจเรอะ -*-”ฉันพูดเสียงเบาเพราะกลัวคนอื่นจะได้ยิน แม้เพื่อนในห้องจะออกไปหมดแล้วก็ตาม แต่บางทีอาจจะมีคนยืนอยู่แถวนี้ก็ได้
“ก็มันนอนมานานนี่น่า ก็ต้องหิวกระหายเป็นธรรมดา ถึงยังไงฉันก็ไม่คิดจะดูดเลือดเธอจนหมดตัวหลอกน่า ไม่ก็อาจ...จะมีเผลอไปบ้าง” กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์
“เผลอไปบ้าง? แบบเผลอดูดจนหมดตัวอย่างนั้นเรอะ O.O”
“พูดเล่นน่า~ ถึงจะหิวขนาดไหนก็ไม่ทำถึงขนาดนั้นหลอก กระเพาะฉันไม่พอจะใส่เลือดของมนุษย์คนหนึ่งลงไปได้หลอกน่ะ”เอามือขาวๆ ลูบท้องตัวเองให้ดูว่ามันเล็กขนาดไหน
มันก็เล็กจริงๆ นั้นล่ะ ตัวเขาก็ไม่ได้ใหญ่มากต่อให้อ้วนขนาดไหนก็คงดูดเลือดมนุษย์จนหมดตัวไม่ได้แน่ ที่คนโดดดูดเลือดจะตายก็ คงจะตายเพราะไม่ได้รักษาบาดแผลแล้วเลือดไหลออกจากตัวมากกว่า
“ก็เคยเห็นในหนังคนตัวแห้งอย่างกับมัมมี่แนะ”
“หึ” เขาไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่ยิ้มบางๆ ให้เท่านั้น
ฉันเห็นปากเขาแล้วก็ยังเสียวคออยู่เลย พอนึกได้ก็เอามือจับคอตรงที่โดนเจาะเขี้ยวลงไปไว้ก่อนจะรีบเดินหนีมาโดยไม่ลืมกระเป๋ากับกระบอกใส่รูปที่ข้างโต๊ะเขียนแบบมาด้วย
“นี่! ฉันก็บอกแล้วไงว่าไม่ดูดเลือดเธอหลอกน่า” ลุกเดินตามมาเดินข้างๆ
“แค่ตอนนี้ละม้าง ฉันไม่เชื่อนายหลอกน่า แล้วก็เงียบๆ หน่อยซี่” ฉันหันไปมองทางด้านหลังทางเดินพอไม่เห็นคนก็ค่อยโล่งใจหน่อย “เดียวคนอื่นได้ยินทำไงเล้า~”
“...” เขาไหวไหล่แบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
เฮ้อออ เหนื่อยใจที่ต้องคอยเตือนจริงๆ เลย
หลังจากกินข้าวเสร็จฉันก็ไปหานั่งเล่นแถวๆ หลังโรงเรียน
กึก ฉันหยุดเดินกะทันหันจนร่างสูงที่เดินตามมาเกือบจะชนฉันเข้า
“เธอหยุดทำไมเนี่ย หยุดแบบไม่คิดฉันเลยไม่รู้ว่าเธอจะหยุดเดินเกือบชนเข้าให้แล้วไหมล่ะ” บ่นก่อนจะเดินมายืนข้างฉัน
“ฉันเกือบผีเสื้อนะสิ” ก้มมองด้วงที่อยู่ใกล้ๆ รองเท้าฉัน “มันขาเจ็บด้วยอ่ะ” นั่งลงก่อนจะจับมันขึ้นมาวางในมืออย่างระวัง
“เธอหยุดเดินจนฉันเกือบจะชนเธอเพราะผีเสื้อเนี่ยน่ะ” ร่างสูงนั่งย่อลงตาม
“ปีกมันเหมือนจะหักด้วยล่ะ -*- มันเป็นสัตว์เล็กเลยไม่รู้จะช่วยยังไงถ้าเป็นหมาเป็นแมวขาหักก็ยังพอว่ายังพอจะพาไปรักษาได้บ้าง” ฉันยังคงบ่นไม่หยุด
“...” ตาแวมไพร์ยืนมือออกมาเหมือนจะทำอะไรผีเสื้อในมือฉัน
“นี่ จะทำอะไรน่ะ” ฉันก็เลยร้องห้ามออกไป พร้อมคว้าข้อมือเย็นไว้ เขาหยุมือดลงก่อนจะถึงตัวผีเสื้อมือแล้วก็แบมือออก ฉันหันหน้ามองเจ้าของข้อมือเย็นที่กำลังนั่งขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ พอเห็นเขาไม่พูดอะไรและไม่ทำอะไรก็ได้แต่งง
พึบๆ
ทว่าไม่ถึงนาทีฉันก็ได้ยินเสียงของปีกผีเสื้อขยับและแรงลมที่สัมผัสโดนมือของฉันจากการขยับปีกของมัน
ฉันหันไปมองผีเสื้อสีฟ้าเข้มในมือที่กำลังขยับปีกแล้วบินออกไปบนท้องฟ้า
“มันหายแล้วล่ะ ^^” หันไปยิ้มให้ตาแวมไพร์ที่กำลังมองฉันอยู่
“ใช่ เลิกกังวลได้รึยัง”
“ขอโทษที” ฉันยิ้มแห้งส่งไปให้อย่างรู้สึกผิดที่สงสัยเขา
“เธอคิดอะไรฉันจะได้ยิน ยิ่งเธอกังวลยิ่งส่งมันมาถึงฉัน”
“ขอโทษที” ฉันปล่อยมือออกจากข้อมือของเขา
“เลิกพูดขอโทษสักทีเถอะน่า”
“ขอบใจที่ช่วยผีเสื้อตัวนั้น”
“ช่างเถอะ ว่าแต่เธอจะไปสนมันทำไม เดียวมันอยู่ไม่กี่วันมันก็ตายแล้ว”
“ใช่ไง เดียวมันก็ตาย ให้มันได้ใช้ชีวิตหน่อยสิ”
“เฮอะ” เขายิ้มเยาะ แต่ฉันก็ไม่ได้ถือสาอะไรเพราะถึงเขาจะทำท่าทางเหมือนไม่สนแต่ก็ยังช่วยผีเสื้อนั้นไว้ “อื้ม” จู่ๆเขาก็ส่งเสียงเหมือนเจ็บปวดแต่พยายมมข่มไว้ออกมา ดวงตาคู่สวยปิดลงและขมวดคิ้วนิดๆ
“เป็นอะไรไหม” ฉันจับไปที่ต้นแขนของเขาเบาๆ อย่างเป็นกังวล
“ไม่เป็นหลอก แค่รู้สึกเวียนๆ หัว สงสัยเพราะพลังยังไม่เข้าทีแล้วดันไปใช้เวทที่ต้องใช้พลังมากอย่างนั้นอีก” ดวงตาสีแดงลืมตาขึ้นมาสบตาเข้ากับดวงตาของฉันที่กำลังมองเขาอยู่พอดี
ตุบ หัวใจของฉันกระตุกวูบขึ้นมาพอโดนเขาจ้องอย่างนี้ ฉันพยายามไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองเพราะกำลังเป็นห่วงตาแวมไพร์ตรงหน้ามากกว่า
“ฉันคิดว่านายโดนแดดหรือไม่ก็ขาดเลือดซะอีก -*-”
ถ้าอ่อนแรงเพราะใช้พลังไปเยอะถ้าได้เลือดจะดีขึ้นใช่ไหม ถ้าฉันให้เลือดเขา เขาจะดีขึ้นใช่ไหม
“ฉันโดนแดดได้ ขอแค่ไม่ร้อนเกินไปก็ไม่เป็นไร” ร่างสูงยืนขึ้น ฉันก็ยืนขึ้นตามเขา
“แล้วนายต้องการเลือดไหม”
“เธอยังไม่หยุดกลัวเรื่องที่ฉันจะดูดเลือดเธออีกรึไง”
“เปล่า ไม่ใช่ ก็นายบอกนายใช้พลังไปเยอะ ถ้าได้กินเลือดอาจจะดีขึ้นไม่ใช่เรอะ” ฉันว่าพรางปัดผมไปด้านหลังจะได้ให้เขาดูดเลือดได้สะดวก ถ้าไม่เป็นเพราะฉันเขาคงไม่ต้องเสียพลังจนเป็นแบบนี้ ตอนนี้เขา ดูเหมือนแวมไพร์ป่วยๆ หน้าที่ขาวสีดอยู่แล้วยิ่งซีดเข้าไปใหญ่
“หึ ^^ ฉันคิดว่าฉันได้ยินสิ่งที่เธอคิดผิดไปซะอีก ก็เลยแกล้งถามเธอว่ายังกลัวฉันดูดเลือดเธออีกรึไง แล้วเธอก็มาปัดผมให้เห็นต้นคอเพื่อให้ฉันดูดเลือดเธอได้สะดวก แสดงว่าฉันไม่ได้ยินสิ่งที่เธอคิดผิดไป"
“ก็มันเป็นเพราะฉันกังวล นายเลยรำคาญจนใช้พลังช่วยผีเสื้อตัวนั้น นายก็เลยเป็นอย่างนี้เพราะฉัน”
“งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ” ว่าจบก็สอดมือมาที่เอวของฉันแล้วดึงฉันให้เข้าไปใกล้กับตัวเอง ฉันเอามือทาบไว้ที่หน้าอกของเขาด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะดึงฉันเขาไปจนตัวเราติดกันขนาดนี้
ฉันหลับตาแน่น กลั้นหายใจด้วยความกลัวเจ็บ ความรู้สึกเจ็บตอนนั้นยังจำได้ดี ยามที่เลือดไหลออกจากตัว ความเจ็บและร่างที่เกร็งและโดนดูดเลือดไป ฉันพยายามทำใจไม่ให้คิดถึงเรื่องนั้นเพราะมันรั้งแต่จะทำให้ฉันกลัวยิ่งกว่าเก่า
ฉันรับรู้ได้ถึงไอ้เย็นจากใบหน้าของเขาที่กำลังก้มลงมา ปรายจมูกเย็นที่สัมผัสต้นคอของฉัน ริมฝีปากนุ่มเย็นที่สัมผัสต้นขอของฉัน
ความคิดเห็น