ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love story รักร้ายนายแวมไพร์ตัวป่วน

    ลำดับตอนที่ #34 : บทที่9.2 แกล้งซาจนได้เรื่อง เมื่อซาหายตัวไป

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.65K
      11
      4 พ.ค. 66

            ดวงตาคู่สวยที่แดงปลั่งจากการร้องไห้จ้องมองมาที่ผม เห็นอย่างนี้แล้วผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเลย
           “ซาเคยสงสัยใช่ไหมว่าผมมีลมหายใจรึเปล่า” ผมดึงมือของเธอมาอังใต้จมูก เธอพยายามจะดึงมือกลับคืนแต่ผมไม่ยอม  

            “รู้สึกไหม มันก็แค่เบากว่าคนทั่วไป ผมมีลมหายใจน่ะถึงตัวจะเย็นไปบ้าง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังซึ่งหาได้น้อยมากสำหรับการกระทำอย่างนี้ในชีวิตผม ผมเลื่อนมือของเธอให้ทาบไปที่หน้าอกของตัวเอง “รู้สึกไหมถึงมันจะเบามาก แต่ทุกครั้งมันจะเต้นแรงกว่าปกติถ้าอยู่ใกล้เธอ เธอคนเดียวเท่านั้น ซา~”

             “...” เธอก้มมองตามมือที่ถูกกุมไว้คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน แต่ผมไม่สามารถรู้ได้ว่าในตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่ 

            ไม่นานเธอช้อนดวงตาคู่งามขึ้นมามองหน้าผม 

            “นายแอบดูอยู่บนนั้นตลอดเวลาเลยใช่ไหม แกล้งฉันมันสนุกมากเลยงั้นสิ!” พูดจบประโยคหยาดน้ำตาใสๆ ก็ไหลอาบแก้มของเธอ

    เธอร้องไห้ทำไม เจ็บใจที่ผมแกล้งงั้นเหรอ แล้วนี่ฟังที่ผมพูดบ้างรึเปล่า ผมกำลังสารภาพรักอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อนกับเธออยู่น่ะเนี่ย

           “เชิญสนุกตามสบายเถอะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่สนใจว่านายจะคิดหรือจะรู้สึกยังไงอีก” เธอสะบัดมือออกจากพันธนาการและครั้งนี้ก็ทำสำเร็จด้วยเพราะผมกำลังมัวแต่อึ้งและงงอยู่

           ทำไมเรื่องถึงได้กลายเป็นอย่างนี้ไปได้ 

           เธอหันหนีแล้วเดินจากไป

           ผมก็กำลังยืนงงอยู่ไม่ได้ห้ามอะไร

           ตอนแรกผมกะว่าจะแกล้งเธอให้หาผมต่ออีกสักหน่อย>>>แล้วค่อยเดินออกไปบอกว่าผมจะไม่โกรธเธอก็ได้>>> แล้วจากนั้นเธอก็จะกอดผมแล้วบอกว่าขอโทษ 

           มันน่าจะเป็นอย่างนั้นนี่น่า ถึงแม้ผมจะออกมาปรากฏตัวให้เธอเห็นแล้วพูดอย่างอื่นแทนแต่มันไม่น่าจะเป็นอย่างนี้นี่

           “เดี๋ยวก่อน ซา” ผมเดินตามเธอไปเมื่อได้สติ “ฟังผมก่อน” ผมว่าพร้อมกับคว้าข้อมือของเธอไว้

    หมับ

            ทว่าสิ่งที่ผมคว้าได้มีเพียงอากาศเท่านั้น ซา...หายไปแล้ว 

    หายไปได้ยังไง? ผมขมวดคิ้วไม่อยากเชื่อ แต่ก็ได้แต่ยอมรับความจริงว่าเธอหายไปจริงๆ 

            เธอหายตัวไปได้ยังไง หายไปเฉยเลย ผมแน่ใจว่าผมไม่ได้ตาฝาดแน่ๆ เธอคงไม่เดินเร็วขนาดที่ผมจะคิดไปว่าเธอหายตัวได้หลอกน่ะ

            พึบ

            ผมหายตัวไปหาไอ้น้องบ้า มันต้องเป็นคนทำแน่ๆ 

            “ไอ้น้องบ้านายเล่นอะไรอยู่ นายจะขัดขวางฉันใช่ไหม” ผมถามขึ้นทันทีที่เห็นหน้าน้องชายผม

            “นายสิไอ้พี่บ้า หายตัวไปหายตัวมา กว่าฉันจะแก้ตัวกับพวกนี้ได้ก็ตั้งนาน แล้วนี่นายยังดันเล่นพิเรนทร์หายตัวมาที่นี่ให้นักเรียนฉันเห็นอีก” มันต่อว่าผมคืน ผมหันไปเห็นเพื่อนของซาทั้งสามคนที่ยืนอยู่ในห้องจัดงาน กำลังอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก

           “ซาหายตัวไป หายวับไปเลย” ผมไม่สนเพื่อนของซาที่กำลังอึ้งเพราะเรื่องที่ผมจะพูดสำคัญกว่ามาก เมื่อรู้ว่าน้องผมมันคงไม่ได้ทำเพราะมันน่าจะอยู่ที่นี่ตั้งแต่ผมออกไปจากที่นี่

           “ไม่เข้าใจว่ะ -*-” มันส่ายหน้าไปมา

           “ฉันแกล้งให้เธอเดินหาฉันในป่า แล้วฉันก็ปรากฏตัวให้เธอเห็น เธอโกรธที่ฉันแกล้งก็เลยหันหลังเดินหนี พอฉันเดินตามจะไปคว้าข้อมือเธอไว้ แต่เธอก็หายไปต่อหน้าต่อตาฉัน ฉันก็เลยคิดว่านายแกล้งฉันอยู่”

            “ฉันเปล่า ฉันกำลังยุ่งกับการแก้ตัวให้นายกับจัดห้องจัดงานอยู่เนี่ย -*- ”

            “เลิกอึ้งได้แล้ว” ผมหันไปบอกทั้งสามคนที่ยังคงอ้าปากเหวอทำตาโต “ช่วย-หา-ซา-ก่อน”

           “ตั้งแต่ซาสลบไปฉันก็ไม่สามารถรับรู้ถึงการคิดของเธอได้เลย เราจะหาเธอได้ยังไง” น้องชายผมถาม หน้าตาของมันตอนนี้ดูเป็นกังวลมาก ผมว่าหน้าของผมในตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากมันเท่าไหร่

           “นายก็ดมกลิ่นเอาสิ” ผมว่า

           “นายลืมไปแล้วเหรอ ที่ฉันบอกว่าฉันไม่ได้กลิ่นเธอตั้งแต่วันที่เธอสลบอยู่ที่ป่าแล้ว ครั้งที่แล้วก็หาเธออยู่ตั้งนานกว่าจะเจอ นายนี่แย่จริงๆ แกล้งเธอจนได้เรื่องเลย” มันต่อว่าผมใหญ่
          ในตอนแรกผมก็คิดว่ามันเจอเธอเพราะใช้การดมกลิ่นแต่เพิ่งจะเข้าใจว่ามันไม่ใช่  

          นั่นสินะ ผมลืมไปเลย แถมผมในตอนนี้ก็ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ตามหาตัวเธอได้ด้วย ราวกับเธอหายไปจากโลกนี้หรือไม่ก็อาจมีคนเอาตัวเธอไปซ่อนไว้

           “นายจำได้ไหม ที่ฉันคุยกับนายเมื่อวาน” ผมนึกไปถึงเรื่องที่คุยกับน้องชายเมื่อวาน

     

           ‘ไง ได้อะไรบ้างพ่อแวมไพร์คนเก่ง’ ปุกปุยว่าขึ้นทันทีที่รู้ผมปรากฏตัวในห้องนอนของมัน ร่างสูงซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใช้เวทมนตร์หันเก้าอี้มาหาผมเพื่อจะได้หันหน้ามาคุยกัน

          ‘พ่อแม่และพี่สาวของซามีกลิ่นไอเวทมนตร์ นายได้เป็นคนทำรึเปล่า’ ผมตอบไม่สนใจคำกวนปราสาทของมัน 

            ‘เปล่า’ เจ้าลูกผสมส่ายหัวไปมาเพื่อยืนยัน

            ‘ถึงพวกเขาจะมีกลิ่นไอเวทมนตร์แต่ก็ไม่ได้มีมาจากตัวเองโดยตรง พวกเขาไม่ใช่ มันมีอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับซา ทั้งเรื่องที่เธอสามารถเปิดผนึกเวทมนตร์ของยัยแม่มดร้ายนั่นได้ เรื่องยันต์เวทมนตร์ในตัวเธอ เรื่องที่ฉันไม่สามารถปิดกั้นความคิดของเธอให้ไหลเข้ามาในหัว และยิ่งพยายามที่จะปิดกั้นเท่าไหร่ก็ยิ่งจะทำให้ฉันปวดหัวเข้าไปใหญ่’

           ‘นายก็เป็นเหมือนกันเหรอ ฉันคิดว่าเป็นแค่ฉันซะอีก’ หนังสือที่อยู่ในมือถูกโยนขึ้นไปบนอากาศก่อนจะหายไปโดยการดีนิ้วเพียงทีเดียวของเจ้าลูกผสม มืออีกข้างที่ว่างจากการดีดนิ้วกำลังถอดแว่นสายตาออก 

            ‘แล้ววันนั้นฉันเห็นสิ่งที่เธอฝัน เธอฝันเห็นวันที่เราสู้กัน เหมือนเธอเป็นคนๆ นั้น คนที่ยืนแอบดูเราสู้กันอยู่ที่หลังต้นไม้ เธอร้องเตือนฉันตอนที่นายกำลังจะกระโจนใส่ แต่เสียงเธอกลับไม่มี และมีอีกหลายเรื่องที่ฉันว่ามันแปลกเกินไปแปลกเกินไปมากๆ สำหรับมนุษย์อย่างเธอ’

            ‘นั่นสิ ฉันก็ว่างั้น ว่าแต่นายเถอะทำไมกลับมาเร็วจัง’

            ‘รู้สึกแปลกๆ ลางสังหรณ์ไม่ดีก็เลยรีบกลับมา’

            ‘เก่งจริ้ง~~ พี่ฉัน’ ว่าพลางเผยิบหน้าไปด้านหลัง

    ผมหันไปมองตามที่ไอ้หมาบ้าเผยิบหน้าไปทางด้านหลังของผม ร่างบางที่คุ้นตากำลังนอนอยู่ใต้ผ้าห่มสีเทาบนเตียงของมัน

            ‘ซา!’ ผมหันตัวก้าวทีเดียวก็ไปถึงเตียงที่เธอนอนอยู่ ‘แกทำอะไรเธอ ไหนเราตกลงกันแล้ว’ ผมหันหน้าไปมองหน้าน้องชายที่มาปรากฏตัวอยู่ข้างผมอย่างเอาเรื่อง

           ‘ฉันเปล่า เธอหายตัวไปไม่ยอมมาเรียน เพื่อนเธอโทรไปหา เธอก็ไม่รับ ไปหาที่บ้านก็ไม่อยู่ ฉันก็เลยออกตามหาตัวเธอโดยการดมกลิ่น’

           ‘จมูกนายก็มีประโยชน์กับเขาด้วยเรอะ’ ผมว่าถากถางมัน แม้รู้ว่าพูดด่ามันเท่าไหร่ก็คงจะไม่ได้เห็นหน้าตาตอนมันโกรธ ถ้าไม่ใช่เรื่องที่สะกิดต่อมความโกรธมันจริงๆ ผมคงไม่ได้เห็นตอนโกรธของมันเลย ครั้งนี้ก็เหมือนกัน หน้าตายด้านมากไอ้น้องคนนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×