ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : เออกูผิด 2...ตอนที่ 15
“ มาเร็วพี่พร้อมแล้ว ” ผมไถลตัวนอนหงายเยี่ยงพระราชารอนางสนมมาปรนเปรอแต่...
“ ............ ”
“ เร็วสิครับโมพี่รออยู่นะ ”
“ ”
“ โม โม ” อาการน่าเป็นห่วงแระ (ผมนะไม่ใช่ไอ้น้องโม)
“ ” ความเงียบเข้าครอบงำพอๆ ลักษณะจะได้ทำนาแห้วซะแล้วตู
ผมเอื้อมมือไปเขย่าร่างไอ้เด็กขี้เซาที่นอนนิ่งไม่ไหวติงและไม่รับรู้ถึงความปวดร้าวในอกของผม
“ โธ่ตะเภาทองน้องพี่ เจ้าช่างมาตัดช่องน้อยแต่พอตัวและนี่ตัวพี่จะอยู่ได้เยี่ยงไรเมื่อไร้ซึ่งเจ้าแล้ว ” จำขุนไกร(บ้าน)เยี่ยงเราต้องออกเสาะแสวงหาที่หมายใหม่ซะแว้ววววววว!!!!!
“ คร่อกกกกกก ” มึงช่างกล้ามากรนให้กูฟังในเพ-ลานี้นะไอ้เชี้ยบึก...
เสียงกรนของเจ้าชาละวันมันช่างทำให้ขุนไกรรู้สึกเหมือนโดนหยาบหยาม น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความสุขที่ได้ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์มันช่างทำให้ไอ้ขุนไกรรู้สึกว่าต้องจัดการอะไรซักอย่างเพื่อเป็นการทำให้ไอ้เจ้าชาละวันได้รู้ถึงพิษสงของท่านขุนไกรผู้นี้
ว่าแล้วท่านขุนไกร(บ้าน)ก็ตรงดิ่งขยับเอวเด้งดึ๋งๆๆ ไปบนที่นอนเพื่อหาเป้าหมายที่จะสามารถเข้าใกล้เจ้าชาละวันได้มากกว่านี้ (พอแระบ้ามาพอประมาณแระกลับสู่มาตุภูมิกันต่อครับ555+)
“ บึกค๊าบบบบ ” ผมใช้นิ้วจิ้มๆ ไปที่แก้มมัน
“ อืมมมม ” อืมของมึงคือรายยยย หมายถึงกูเอามึงได้เลยช่ายยยยปะ เหอะๆ ก็คิดเข้าข้างตัวเองกันไปต่างๆ นานาครับ
“ ปลาบึกค๊าบ ” ผมชะโงกหน้าไปแอบกระซิบเรียกมันเบาๆ ที่หู
“ อืมมมม รายวะกูจะนอน ” น่านพูดกับสามีไม่เพราะเอาซะเล๊ยยยย ประเดี๋ยวก็จับเอาช้างน้อยไอ้น้องโมมาตบปากมึงซะนี่
“ บึกกูอยาก ”
“ อยากมึงก็ไปต้มมาม่ากินดิไป ”
“ เอ้าๆๆ นี่มึงอารมณ์ไหนเนี้ยไล่กูไปต้มมาม่าตอนตี 2 เนี้ยนะ ”
“ อืมไข่อยู่ในตู้เย็น ”
“ สาดดดด ”
“ ผัดไม่ต้องใส่หรอกเปลืองเพราะถึงใส่ไปแม่งก็ไมแดกอยู่ดี ”
“ บึก บึกโว๊ย ” ผมกระซิบข้างๆ หูมันอีกครั้งเพราะไม่กล้าตะโกน เพื่อนๆ คงรูใช่ไหมครับว่าเพราะอะไร...แน่นอนครับเพราะผมเกรงใจน้องโมน้อยๆ ที่นอนพะงาบๆ อยู่อีกฝากของเตียง
“ อืมมมม กูไม่หิวมึงกินก่อนเลย ”
“ สรุปมึงละเมอใช่ไหมไอ้บึก ” ผมลองเอานิ้วลูบๆ จิ้มๆ ไปตามสัดส่วนที่มันสงวนเอาไว้ไม่ให้ใครมากล้ำกลาย (นอกจากผม เหอะๆ )
และแล้วแผนโจรก็เริ่มขึ้นผมลุกขึ้นไปคลำ....หาที่เปิดซีดีทันที
“ โอ๊ย ” ถึงห้องจะไม่ได้มืดมากแต่ก็ทำให้คนที่ฉลาดน้อยอย่างผมคลานไปตกเตียงตัวเองได้เช่นกันครับ เหอะๆ
เสียงโอ๊ยทำให้ไอ้สองตัวนั่นขยับร่างมุดจมหายไปใต้ผ้าห่มอย่างน่าเสียงดายแต่....ไม่เป็นไรมือขั้นเทพเยี่ยงไอ้โจ๊กผู้นี้แล้วเดี๋ยวมีวิธีทำให้ผ้าห่มหายไปจากเตียงได้ไม่อยาก แต่ก่อนอื่นเลย
“ โอ๊ยยยย หัวกูแตกไหมเนี้ย ” ผมเอามือถูขยี้ที่หน้าผากตัวเองเบาๆ เพื่อดูว่ามีน้ำเหลืองน้ำหนองไหลซึมออกมาจากสมองเหรอไม่ก่อนจะค่อยๆ คลานคลำทางไปเปิดหนังแผ่นที่ตัวเองซื้อมาแอบซ่อนไว้นานแรมเดือน
“ อุส่าห์แอบไปซื้อมาซ่อนไว้ตั้งนานวันนี้แล้วสินะไอ้ลูกพ่อ หึหึหึ ” เหมือนโรคจิตที่แอบหัวเราะอยู่คนเดียวในความมืดด้วยความสะใจ
หลังจากที่คลำหาปลั๊กไฟ ปุ่มเปิดทีวี ซีดีได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วผมก็ถอยหลังกลับมานอนเอกเขนกรอท่าอยู่บนเตียงเช่นเดิม
“ เสร็จโจร หึหึหึ ”
ผมลุกขึ้นนั่งเอาหมอนชันหลังตัวเองไว้เพื่อกันกระแทก และในขณะนั้นเองสายตาผมก็เหลือบไปเห็น...ไปเห็น...
“ สาดดดดเอ๊ยนี่มันรีโหมดทีวีกับซีดีกูนี่หว่า มันมาอยู่ตรงนี้ได้ไงวะ แม่งเอ๊ยอุส่าห์คลำทางฝ่าความมืดไปเพื่ออะไร ไร ไร ไร ไร ”
แต่แล้วภาพในทีวีก็ทำให้ผมหยุดการตัดพ้อต่อว่าตัวเองได้โดยง่าย ภาพของชายสามคน (ขอย้ำว่าสามคน) กำลังทำอะไรต่อมิอะไรกันอย่างเมามันส์มันช่างทำให้ผมต้องแอบกลืนน้ำลายด้วยความกระหายใคร่อยากรู้ในสิ่งที่ยังมิเคยได้ลอง
“ โอ้วววววววว เยสสสส ”
เสียงของฝรั่งผิวขาวที่มีลำเทียนยาวน้อยกว่าผมถึง 2 เท่าที่กำลังถูกทารุณกรรมทางประตูหนีไฟด้านหลังทำให้ผมต้องควานมือออกไปหา.....หา....รีโหมดมากดเพิ่มเสียงทันที
“ โหร้องเป็นควายถูกเชือดเชียวมึง ”
“ อืม สงสัยแม่งเจ็บอ่ะดิ มึงดูได้นิโกโน่นดิแม่งยาววววเป็นเทียนพรรษาเชียวมึง นี่กูว่าจุดไปอีก 8 พรรษาแม่งก็ไม่หมด ”
“ เออว่ะ แต่มึงไอ้ญี่ปุ่นนั่นแม่งดูมันคงชอบ มึงดูๆ แม่งดูดได้ใจกูจริงๆ ”
“ ไหนๆ เก่งเหมือนผมอ่ะเปล่า ”
“ อันนี้ก็ไม่แน่ใจ งั้นมาลองกันใหม่ไหม อะจ๊ากกกกกกกกก ไอ้บึก ไอ้โม ”
“ เออกูเอง ”
เวรกำแม่งตื่นมารู้ความลับกูซะแล้ว....แล้วนี่กูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนละเนี๊ยยยยยยยยย
“ ............ ”
“ เร็วสิครับโมพี่รออยู่นะ ”
“ ”
“ โม โม ” อาการน่าเป็นห่วงแระ (ผมนะไม่ใช่ไอ้น้องโม)
“ ” ความเงียบเข้าครอบงำพอๆ ลักษณะจะได้ทำนาแห้วซะแล้วตู
ผมเอื้อมมือไปเขย่าร่างไอ้เด็กขี้เซาที่นอนนิ่งไม่ไหวติงและไม่รับรู้ถึงความปวดร้าวในอกของผม
“ โธ่ตะเภาทองน้องพี่ เจ้าช่างมาตัดช่องน้อยแต่พอตัวและนี่ตัวพี่จะอยู่ได้เยี่ยงไรเมื่อไร้ซึ่งเจ้าแล้ว ” จำขุนไกร(บ้าน)เยี่ยงเราต้องออกเสาะแสวงหาที่หมายใหม่ซะแว้ววววววว!!!!!
“ คร่อกกกกกก ” มึงช่างกล้ามากรนให้กูฟังในเพ-ลานี้นะไอ้เชี้ยบึก...
เสียงกรนของเจ้าชาละวันมันช่างทำให้ขุนไกรรู้สึกเหมือนโดนหยาบหยาม น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความสุขที่ได้ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์มันช่างทำให้ไอ้ขุนไกรรู้สึกว่าต้องจัดการอะไรซักอย่างเพื่อเป็นการทำให้ไอ้เจ้าชาละวันได้รู้ถึงพิษสงของท่านขุนไกรผู้นี้
ว่าแล้วท่านขุนไกร(บ้าน)ก็ตรงดิ่งขยับเอวเด้งดึ๋งๆๆ ไปบนที่นอนเพื่อหาเป้าหมายที่จะสามารถเข้าใกล้เจ้าชาละวันได้มากกว่านี้ (พอแระบ้ามาพอประมาณแระกลับสู่มาตุภูมิกันต่อครับ555+)
“ บึกค๊าบบบบ ” ผมใช้นิ้วจิ้มๆ ไปที่แก้มมัน
“ อืมมมม ” อืมของมึงคือรายยยย หมายถึงกูเอามึงได้เลยช่ายยยยปะ เหอะๆ ก็คิดเข้าข้างตัวเองกันไปต่างๆ นานาครับ
“ ปลาบึกค๊าบ ” ผมชะโงกหน้าไปแอบกระซิบเรียกมันเบาๆ ที่หู
“ อืมมมม รายวะกูจะนอน ” น่านพูดกับสามีไม่เพราะเอาซะเล๊ยยยย ประเดี๋ยวก็จับเอาช้างน้อยไอ้น้องโมมาตบปากมึงซะนี่
“ บึกกูอยาก ”
“ อยากมึงก็ไปต้มมาม่ากินดิไป ”
“ เอ้าๆๆ นี่มึงอารมณ์ไหนเนี้ยไล่กูไปต้มมาม่าตอนตี 2 เนี้ยนะ ”
“ อืมไข่อยู่ในตู้เย็น ”
“ สาดดดด ”
“ ผัดไม่ต้องใส่หรอกเปลืองเพราะถึงใส่ไปแม่งก็ไมแดกอยู่ดี ”
“ บึก บึกโว๊ย ” ผมกระซิบข้างๆ หูมันอีกครั้งเพราะไม่กล้าตะโกน เพื่อนๆ คงรูใช่ไหมครับว่าเพราะอะไร...แน่นอนครับเพราะผมเกรงใจน้องโมน้อยๆ ที่นอนพะงาบๆ อยู่อีกฝากของเตียง
“ อืมมมม กูไม่หิวมึงกินก่อนเลย ”
“ สรุปมึงละเมอใช่ไหมไอ้บึก ” ผมลองเอานิ้วลูบๆ จิ้มๆ ไปตามสัดส่วนที่มันสงวนเอาไว้ไม่ให้ใครมากล้ำกลาย (นอกจากผม เหอะๆ )
และแล้วแผนโจรก็เริ่มขึ้นผมลุกขึ้นไปคลำ....หาที่เปิดซีดีทันที
“ โอ๊ย ” ถึงห้องจะไม่ได้มืดมากแต่ก็ทำให้คนที่ฉลาดน้อยอย่างผมคลานไปตกเตียงตัวเองได้เช่นกันครับ เหอะๆ
เสียงโอ๊ยทำให้ไอ้สองตัวนั่นขยับร่างมุดจมหายไปใต้ผ้าห่มอย่างน่าเสียงดายแต่....ไม่เป็นไรมือขั้นเทพเยี่ยงไอ้โจ๊กผู้นี้แล้วเดี๋ยวมีวิธีทำให้ผ้าห่มหายไปจากเตียงได้ไม่อยาก แต่ก่อนอื่นเลย
“ โอ๊ยยยย หัวกูแตกไหมเนี้ย ” ผมเอามือถูขยี้ที่หน้าผากตัวเองเบาๆ เพื่อดูว่ามีน้ำเหลืองน้ำหนองไหลซึมออกมาจากสมองเหรอไม่ก่อนจะค่อยๆ คลานคลำทางไปเปิดหนังแผ่นที่ตัวเองซื้อมาแอบซ่อนไว้นานแรมเดือน
“ อุส่าห์แอบไปซื้อมาซ่อนไว้ตั้งนานวันนี้แล้วสินะไอ้ลูกพ่อ หึหึหึ ” เหมือนโรคจิตที่แอบหัวเราะอยู่คนเดียวในความมืดด้วยความสะใจ
หลังจากที่คลำหาปลั๊กไฟ ปุ่มเปิดทีวี ซีดีได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วผมก็ถอยหลังกลับมานอนเอกเขนกรอท่าอยู่บนเตียงเช่นเดิม
“ เสร็จโจร หึหึหึ ”
ผมลุกขึ้นนั่งเอาหมอนชันหลังตัวเองไว้เพื่อกันกระแทก และในขณะนั้นเองสายตาผมก็เหลือบไปเห็น...ไปเห็น...
“ สาดดดดเอ๊ยนี่มันรีโหมดทีวีกับซีดีกูนี่หว่า มันมาอยู่ตรงนี้ได้ไงวะ แม่งเอ๊ยอุส่าห์คลำทางฝ่าความมืดไปเพื่ออะไร ไร ไร ไร ไร ”
แต่แล้วภาพในทีวีก็ทำให้ผมหยุดการตัดพ้อต่อว่าตัวเองได้โดยง่าย ภาพของชายสามคน (ขอย้ำว่าสามคน) กำลังทำอะไรต่อมิอะไรกันอย่างเมามันส์มันช่างทำให้ผมต้องแอบกลืนน้ำลายด้วยความกระหายใคร่อยากรู้ในสิ่งที่ยังมิเคยได้ลอง
“ โอ้วววววววว เยสสสส ”
เสียงของฝรั่งผิวขาวที่มีลำเทียนยาวน้อยกว่าผมถึง 2 เท่าที่กำลังถูกทารุณกรรมทางประตูหนีไฟด้านหลังทำให้ผมต้องควานมือออกไปหา.....หา....รีโหมดมากดเพิ่มเสียงทันที
“ โหร้องเป็นควายถูกเชือดเชียวมึง ”
“ อืม สงสัยแม่งเจ็บอ่ะดิ มึงดูได้นิโกโน่นดิแม่งยาววววเป็นเทียนพรรษาเชียวมึง นี่กูว่าจุดไปอีก 8 พรรษาแม่งก็ไม่หมด ”
“ เออว่ะ แต่มึงไอ้ญี่ปุ่นนั่นแม่งดูมันคงชอบ มึงดูๆ แม่งดูดได้ใจกูจริงๆ ”
“ ไหนๆ เก่งเหมือนผมอ่ะเปล่า ”
“ อันนี้ก็ไม่แน่ใจ งั้นมาลองกันใหม่ไหม อะจ๊ากกกกกกกกก ไอ้บึก ไอ้โม ”
“ เออกูเอง ”
เวรกำแม่งตื่นมารู้ความลับกูซะแล้ว....แล้วนี่กูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนละเนี๊ยยยยยยยยย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น