KerberoS
ดู Blog ทั้งหมด

งานของกูอยู่ไหนวะสาดดดดด ??

เขียนโดย KerberoS

          สวีดัดสวัสดีเพ่น้อง  ผมกับนาย A. เจ้าเก่าอีกแล้วครับท่าน  วันนี้ผมจะมาบ่นเรื่องอะไรคิดว่าพอทุกคนเห็นผมขึ้นหัวข้อมาขนาดนี้  ก็คงจะพอเดากันออกล่ะนะครับว่าผมหมายถึงอีหยังอ่ะเหอ ๆ 


          หลังจากที่ผมได้เผยแพร่เรื่องของเพื่อนผมในตอนที่มีชื่อว่า อาการแบบนี้รีเทิร์นรึเปล่าว้า ? ไปนั้นไปก็ได้มี sms จากแฟนรายการบ่นไปด่าไปของผมเข้ามาถาม+ด่ากัน  เยอะแยะมากมายครับ ( ตอนไหนวะเมิงตอนหนายยยยย? ) ถามว่าเรื่องของไอ้หมอนี่ยังมีเหลือให้ฟังอยู่อีกมั้ย  และอื่น ๆ อีกมากมาย ( มีด้วยเรอะ ? กูจำได้ว่า Blog เมิงเหงามาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอไงสาด -*- ) และเพื่อเป็นการตอบแทนแฟนรายการของผมนะครับ  ผมก็เลยนำเรื่องของมันคนนี้มาเล่าให้ฟังอีกแล้วจ้าอ่ะกิ้ว ๆ พร้อมจะรับฟังกันรึยังจ๊ะหนู ๆ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปฟังกันเลยจ้า 


          เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เองครับ  ซึ่งตอนนั้นผมกับเพื่อนของผมอีกสองคนโดยมีไอ้หมอนี่รวมอยู่ด้วยกำลังปิดเทอมกันอยู่อย่างเซง ๆ และพวกเราก็ได้มีความคิดที่จะแต่งนิยายขึ้นมาเรื่องนึง  นั่นก็คือเรื่องที่ทุกคนได้รู้จักกับพวกผมตอนนี้นี่เองครับ  โดยมีผมเป็นคนต้นคิดก่อนที่จะพ่วงเอาไอ้เพื่อนสนิทสองคนนี่มาร่วมทีมด้วยโดยสมัครใจทั้งคู่  และด้วยเหตุนี้เองที่มันได้กลายมาเป็นเรื่องที่ผมจะนำมาเล่าให้ทุกท่านได้รับฟังกันครับ ( เริ่มเล่าซักทีสิมึงลีลาเป็นคนแก่อยู่ได้แสด  คนเค้ารอฟังอยู่นะเนี่ยเฮ้ย ) 


          หลังจากที่พวกเราได้รวมทีมกันเพื่อเขียนนิยายลงในเว็บเด็กดีโดยมีนามปากกาว่า KerberoS กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  พวกผมสามหัวก็ได้รวมหัวประชุมกันยันสว่างทุกคืนเพื่อเตรียมพล๊อตเรื่อง  ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเขียนนิยายทุกเรื่อง  ของเหล่านักเขียนมืออาชีพกันทันทีเลยครับ  เพราะถ้านิยายของเราไม่ได้เตรียมพล๊อตเรื่องกันเอาไว้ เราก็จะเขียนต่อไม่ได้จริงมั้ยครับ  นั่นแหละครับในที่สุดพวกเราก็ได้เตรียมพล๊อตเรื่องของนิยายพวกเราจนเสร็จไปช่วงหนึ่ง  และพร้อมจะเริ่มเขียนตอนแรกกันเลยทีเดียว  โดยผมรับหน้าที่เป็นไม้แรกในการเขียนนิยายเรื่องนี้ครับ  ต่อไปก็จะเป็นไอ้หมอนี่ซึ่งเป็นไม้สอง ตามมาด้วยเพื่อนสนิทคนสุดท้ายของผมซึ่งเป็นไม้สาม 


          การเขียนนิยายในช่วงของผมเต็มไปด้วยความราบรื่นครับ  เพราะว่าเรามีพล๊อตเรื่องมาเรียบร้อยแล้ว  การเติมรายละเอียดลงไปในแต่ละตอนนั้น  ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือและลีลาการเขียนของแต่ละคนกันล่ะคราวนี้  สุดท้ายช่วงไม้แรกของผมก็เสร็จลงครับ  ผมจึงส่งไม้ต่อให้ไอ้หมอนี่เขียนต่อ  และช่วงของมันเนี่ยแหละครับที่พวกเราต้องมารวมหัวกันอีกครั้งหนึ่ง  เพื่อเตรียมพล๊อตเรื่องช่วงต่อไปของมันจนมันนำกลับไปเขียนต่อได้มาอีก 7 ตอนของช่วงที่มันรับผิดชอบ  และไม่กี่อาทิตย์พวกเราก็รวมหัวกันอีกเพื่อถามความคืบหน้าช่วงของไอ้ Defencive Man ผู้นี้ ( ขอเรียกมึงอย่างนี้ละกันเพื่อนเพราะมึงนี่ข้ออ้าง ( Defence ) เยอะมากเลยสาด ) รู้มั้ยมันบอกว่าอะไร 


          " เฮ่ยเพื่อนตอนมึงเขียนไปถึงไหนแล้ววะ  รีบหน่อยนะมึงเรื่องของพวกเรามันยาวเดี๋ยวพอเปิดเทอมแล้วมันจะไม่มีเวลา " ผมบอกมัน


          " มึงจะเร่งกูทำไมวะกูเขียนสบาย ๆ เว้ยไม่รีบ มึงจะอะไรนักหนาเนี่ย " มันตอบมาแบบนี้ครับ  ผมกับเพื่อนอีกคนนึงถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปเลยครับเจออย่างนี้  ไม่เป็นไรอึ้งไปนิดนึงแต่ผมก็ยอมพูดขัดขึ้นมาก่อนเรื่องเงียบ 


          " เฮ่ยมึงจะชิวอย่างนี้ไม่ได้นะสาดเวลามันมีไม่พอนะมึง พวกกูก็ต้องเขียนเหมือนกัน " 


          " กูบอกว่าอย่าเร่งกูไงมึงเข้าใจมั้ยเนี่ย  กูไม่ชอบให้ใครมาเร่ง  ถ้าพวกมึงอยากได้เร็วก็เขียนเองเด่ะ " มันตอบกลับมาแบบนี้ครับพี่น้อง  คราวนี้ไอ้กูก็ชักจะทนไม่อยู่เหมือนกัน  แต่ก็นะไอ้นี่เจ้าที่มันแรง ขัดใจแม่งมาก ๆ เดี๋ยวมันเลิก  ผมก็เลยทำใจดีสู้เสือต่อไปบอกกับมันดี ๆ แบบพนักงานสอบสวน  ฝ่ายที่คอยพูดนุ่มนวลเพื่อให้ผู้ต้องหาสบายใจและยอมสารภาพความผิดอะไรประมาณนั้นอ่ะ  จนมันยอมฟังในที่สุด 


          หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปได้ไม่นาน  ผมก็เลิกเร่งมันครับเพราะมันไม่ให้เร่ง  โอเคในเมื่อมึงไม่ให้กูเร่งกูก็ไม่เร่งแต่กูจะถามมึงบ่อย ๆ ว่าเรื่องเดินรึเปล่าละกัน  คราวนี้มันก็ตอบครับแต่มันตอบแบบวกไปวนมา  ประมาณว่ากูไม่อยากให้มึงรู้ว่ากูทำไปถึงไหนแล้วอ่ะ  ใครจะทำไมอะไรประมาณนั้น  จนในที่สุดผมกับเพื่อนอีกคนก็กำหนด death line ให้มันซะเลยสิ้นเรื่อง  โดยคราวนี้ไอ้คนต้นคิดเป็นเพื่อนผมที่ร่วมงานด้วยกันครับ  เพราะไอ้นี่มันก็พอรู้ว่าไอ้ defencive man ผู้นี้แม่งลีลาเยอะ  แต่มันไม่กล้าเร่งเพราะเดี๋ยวแม่งเจอเจ้าที่ของมันเล่นเอา  มันก็เลยเสนอเรื่อง death line มาให้ผม  คราวนี้ผมก็เป็นสื่อกลางจัดเลยครับ  กำหนดให้แม่งไปกลางเดือนมีนา 52 มึงต้องมีงานมาให้พวกกูเท่านั้นแหละ  มันก็ตอบมาแบบนี้ครับ


          " เฮ้ยไม่มีปัญหาเพี่ยน  เดี๋ยวกูจัดห้ายเลยไม่ต้องห่วง " มันบอกกับผมอย่างมั่นใจมากครับ  ทำให้ผมกับเพื่อนใจชื้นขึ้นเยอะเลยที่อย่างน้อยกูก็รู้ว่ามึงจะเสร็จวันไหน 


          ในที่สุดวันถึงกำหนดส่งงานก็มาถึงครับ  และด้วยความดีใจผมรีบถามทันที  ในขณะที่พวกเรากำลังเล่นเกมส์กันอยู่ที่ร้านเกมส์เจ้าประจำของพวกเรา  และคำตอบที่ได้รับก็คือ


          " ไอ้เหี้ยกูเขียนจบหมดแล้วนะเว้ยเพื่อน 3 ตอนแต่แม่งไม่ถูกใจกูว่ะ กูเลยลบเขียนใหม่ม่างหมดเลย... "


          ผมรู้ครับว่าทุกคนก็คิดเหมือนผมเมื่อได้ยินประโยคนี้  ผมอยากจะด่าแม่งให้ถึงบรรพบุรุษ  บุตรพระเจ้าเหาของตระกูลมันจริง ๆ มีที่ไหนวะเขียนไปแล้วสามตอนไม่ถูกใจเลยลบทิ้งเขียนใหม่  โธ่ไอ่เวล  มึงบอกว่ายังไม่เสร็จก็จบแล้ว  มึงจะมามัวแก้ตัวทำลีลานั่งจิ้มขี้  เล่นหีหมาอยู่ทำไม  ว่ามึงเขียนไม่ถูกใจมึงเลยลบทิ้ง  มึงแค่บอกมาว่ามึงยังเขียนไม่เสร็จกูก็ให้อภัยแล้วไอ่ห่ารากซากอ้อยเอ้ย  ผมขอถามหน่อยว่า  ถ้าเป็นพวกคุณเป็นคนเขียนคุณจะลบทิ้งมั้ยครับ ? ถ้านิยายตอนของพวกท่าน  ที่เขียนมาขนาดนี้แล้วไม่ถูกใจผู้เขียนเลยต้องลบทิ้งทั้งหมด  ผมว่าให้ไปหามาเหอะร้อยละ 99 เลยเอ้า  แม่งไม่มีใครบ้าลบตอนที่ตัวเองอดหลับอดนอนนั่งเขียนมาทั้งคืนออกหมด  เพราะไม่ถูกใจตัวเองเหมือนมันหรอก  อย่างดีก็ต้องเก็บเอาไว้ก่อนเผื่อมีเวลาว่าง ๆ ก็จะได้เอามาแก้ไขซะใหม่ให้มันดีขึ้น  ใครมันจะบ้าลบใหม่หมดฟะกูจะบ้าตาย  ถ้าเป็นอย่างนี้มึงอย่าเขียนเลยเฮ้ยแม่งไม่มีใจเลยอ่ะ 


          แต่ถึงอย่างไรก็ตาม  มันก็เป็นเพื่อนสนิทของพวกผมก็อย่างว่าล่ะนะเพื่อนกันมันให้อภัยกันได้อยู่แล้ว  รู้จักกันมาตั้ง 10 กว่าปีแล้วไอ้สองตัวนี้เนี่ย  เอาล่ะกลับมาเรื่องของไอ่ defencive man ผู้นี้กันต่อ  หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปพวกเราก็ยังไม่ได้งานจากมันอยู่ตามเคย  ไม่เป็นไรเว้ยนี่แค่ครั้งแรกเดี๋ยวกูกำหนด death line ให้แม่งใหม่เผื่อครั้งหน้ามันจะเสร็จ  จนกระทั่งถึงกำหนดครั้งที่สองผมก็เริ่มตามงานจากตอนของมันอีกครั้ง  คราวนี้มันมีมาให้แล้วครับ  โอ้ว...พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก  ในที่สุดความใจเย็นของกูก็สำเร็จผลเพื่อนผมคนนี้มันมีงานมาแล้ว  ทว่า!! 


          ตอนเดียวครับ...มันมีมาให้ผมแค่ตอนเดียว  ตั้งแต่ที่มันรับงานจากพวกผมไปรับผิดชอบส่วนของมันเป็นเวลาเดือนกว่า  จนตอนนี้เวลาได้ล่วงเลยเข้าสู่เดือนเมษากลาง ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่มหาลัยและโรงเรียนทั่วประเทศใกล้จะเปิดเทอมเต็มที  แต่มันเขียนมาให้พวกผมลงเว็บแค่ตอนเดียว  ส่วนอีก 6 ตอนที่เหลือนะเหรอดูต่อไปครับ 


          หลังจากที่มันได้ส่งตอนเดียวของมันมาให้พวกผมตรวจสำนวนแก้คำผิดเรียบร้อยแล้ว  ซึ่งคำผิดของแม่งเยอะมากเกือบทั้งตอนเลยก็ว่าได้  ตัวอย่างเช่น  ตาลุงประหลาดได้เขวี้ยงแขนเข้ามา  มันใช้ เควี้ยง แบบนี้แต่จริง ๆ แล้วมันต้องการจะบอกว่า  ไอ้ตัวละครตัวนี้กำลังเหวี่ยงแขนเข้ามาโจมตีพระเอกของเรื่อง  แต่เสือกใช้เขวี้ยงแขนซึ่งหมายความว่า  การถอดแขนของตัวเองปาเข้าใส่  ไม่ใช่การเหวี่ยง  หรือการแกว่งแขนซึ่งอยู่ติดกับร่างกายของตัวเอง  สาเหตุที่คำผิดเยอะก็เพราะว่า  มันบอกว่าตอนมันพิมพ์อยู่นั้นมันง่วงมากแต่ฝืนพิมพ์ไปเลยผิดเยอะไปหน่อย...  ผมอยากจะถามแม่งจริง ๆ ว่า  ทำไมมึงง่วงแล้วไม่นอนวะครับเพื่อน  มึงกลัวจะไม่มีงานส่งพวกกูเรอะ  พวกกูไม่ใช่อาจารย์ตรวจข้อสอบนะโว้ย  ที่จะมาตัดเกรดให้คะแนนมึงเนี่ย  กูก็เพื่อนบ้า ๆ ของมึงคนนึงนะสาด  ง่วงก็ไปนอนดิครับไม่ใช่พิมพ์ผิด ๆ มาให้พวกกูนั่งแก้กัน  จากเรื่องง่าย ๆ แม่งเลยกลายเป็นเรื่องยากจนได้  แทนที่งานจะเสร็จเร็วขึ้นสุดท้ายแม่งก็พาพวกกูให้ไม่ได้นอนไปด้วย  เพราะต้องมานั่งแก้คำผิดให้แม่ง  มึงนี่ช่างเป็นกัลยาณมิตรที่ประเสริฐแท้จริง ๆ สาดเพื่อนกูคนนี้  ก็ว่ากันไปครับพี่น้อง 


          กลับมาที่ 6 ตอนที่เหลือของมันดีกว่าครับ  พอพวกผมได้ตอนแรกของมันมาแล้ว  และทำการแก้คำผิดเสร็จแล้วก็ผ่านไปไม่กี่วันครับ  หลังจากที่เราไปเล่นเกมส์กันตามธรรมเนียมแล้วกลับมา  ผมก็เริ่มตามงานของมันต่อกับตอนต่อไปของมัน  แต่มันกลับบอกมาว่าไงรู้มั้ยครับ 


          " เฮ่ยเพื่อนกูแต่งต่อไม่ได้ว่ะสาด กูไม่รู้ว่าจะให้พ่อของตัวกู ( ในนิยาย ) ไปช่วยเมียมันที่กำลังจะโดนตัวโกงฆ่ายังไง " เท่านั้นแหละครับพวกผมสองคนหันหน้ามองหน้ากันทันที  ก่อนที่จะหันไปหามันพร้อมกับเสนอแนะให้มันลองไปแต่งดู  ซึ่งมันก็พยักหน้ารับตามสันดานของเพื่อนสนิททุกคน  แต่ผมกับเพื่อนผมที่รองานจากมันอยู่นะเหรอครับ  บอกตามตรงครับว่าไมเกรนแทบจะแดกกบาลพวกเราทั้งคู่เลยก็ว่าได้กับข้อแก้ตัว ( Defence ) ของมันไอ้ defencive man เอ้ยฉายานี้กูให้มึงเลยจริง ๆ 


          สุดท้ายหลังจากเหตุการณ์นั้น  แม่งก็ยังไม่มีงานมาให้อีกตามระเบียบเพราะอะไรรู้มั้ยครับ  มันโยนขี้มาให้ผมอีกแล้วครับท่านการโยนขี้ของมันก็คือ


          " เฮ้ยเพื่อน...ตอนนี้กูเขียนมาจะจบแล้วเว้ย  แต่ว่ากูอยากให้มึงช่วยใส่ตอนช่วงของมึงเอาไว้ในตอนของกูด้วยนิดหน่อยเป็นสีสันให้ตอนนี้ " นี่แหละครับการโยนขี้ของมัน  แหม...พอมึงเริ่มขี้เกียจเขียนต่อมึงก็เนียน  โยนขี้มาให้กูใส่ตอนของกูประดับฉากในตอนของมึงใช่มั้ยเนี่ยดีมากครับพระเพื่อน  ไอ้ผมอ่ะไม่มีปัญหาหรอก  สุดท้ายผมก็เลยบอกไปเลยครับว่า


          " กูอ่ะเขียนได้อยู่แล้วมึงก็เอาตอนของมึงมาดิกูจะได้ใส่ให้ตอนมึงส่งมาให้อ่ะ " นี่แหละครับที่ผมบอกมัน  สาเหตุก็คือเพราะกูอยากได้งานมึงนั่นเองสาด  มึงจงส่งมาให้กูบัดเดี๋ยวนี้เลยพี่น้อง  กูจะลงของกูให้มึงทันทีเลยเพื่อน  แต่มึงต้องมีการวางประกันกูก่อนแสดไม่งั้นกูไม่เขียนเป็นไงล่ะมึงมีมาให้กูมั้ยล่ะ 


          สุดท้ายแม่งก็ไม่ยอมส่งมา ( อีกแล้วครับท่าน ) เพราะมันไม่มีงานนั่นเองซึ่งผมกับเพื่อนที่รอเป็นไม้สามอยู่  ก็หันหน้ามาพยักหน้ากันสองคน  เพราะกูรู้อยู่แล้วว่ามึงคงต้องมีอะไรมาให้กูเซอร์ไพรส์อีกอย่างแน่นอน  เพียงแต่ว่ากูเดาทางมึงไม่ออกเท่านั้นแหละสาด  ในที่สุดงานมึงก็ไม่มีให้กูตามระเบียบ ( อีกแล้วล่ะสิ )


          จนในที่สุดมหาลัยเปิดเทอมพวกผมก็เลิกตามงานของมันไปครับ  เพราะว่าเราแต่ละคนรวมถึงมันด้วยต้องมีการเรียนที่ต้องรับผิดชอบเป็นงานหลักอยู่แล้ว  พวกเราจึงต้องพักเรื่องการเขียนนิยายไปในที่สุด โดยที่ตอนของนิยายเราในเด็กดีก็คาม่างอยู่อย่างนั้นอ่ะ  ไม่มีใครกล้าขุดเพราะอายคนอ่าน  จนพวกผมสองคนต้องแอบเขียนตอนของมันกันเองลับหลังมันโดยไม่ให้รู้  เพราะเดี๋ยวแม่งเกลียดพวกกูอีกเอากับมันสินี่แหละเพื่อนกู  เขียนกันอยู่จนถึงปัจจุบันนี้  โดยพวกผมได้เปลี่ยนพล๊อตเรื่องในส่วนของมันใหม่ทั้งหมด  และไม่คิดจะตามงานจากมันอีกต่อไป  จนกระทั่งในที่สุดมันก็เป็นคนเอ่ยปากพูดเองว่า 


          " เฮ้ยเปิดเทอมแล้วกูเรียนหนักชิพหายเลยว่ะ  เรื่องนิยายอ่ะกูขอถอนตัวว่ะเพื่อน  ม่างไม่ไหวจริง ๆ โทษทีนะเว้ย " 


          ผมเชื่อว่าทุกคนก็คงคิดเหมือนผมอีกแล้วนะครับ  เออเจริญนะมึงพอมึงไม่มีตอนส่งจนพวกกูตามมึงบ่อยเข้า ๆ จนหมดข้ออ้างแก้ตัวให้มึงพ้นผิด  มึงก็เปิดตูดหายไปในซอกหลืบไต  แล้วก็ทิ้งเอาไว้ในความทรงจำอันสวยงามของพวกกู  พร้อมกับขี้กองโตเลยเนอะเพื่อน  มึงช่างประเสริฐแท้ไอ้เพื่อนยาก  ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นเพื่อนสนิทพวกกูมาจะ 20 ปีนี่พวกกูคงจะเอา C4 ไปบอมบ์บ้านมึงไปเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่วันที่มึงบอกประโยคนี้มาแล้วแหละสาดดดดดดดดดดดดดดดดด 


          นี่แหละครับชีวิตของพวกผมกับเพื่อนสนิทผู้มีประวัติที่ดี ( รึเปล่า ? ) อันโชกโชน  จริง ๆ ข้อแก้ตัวของมันในเรื่องนี้ยังมีอีกเยอะเลยครับ  พูดแม่งยันพรุ่งนี้ก็ไม่หมดเพราะเพื่อนคนนี้พวกผมรักมันมากกกกกกกกกจริง ๆ นี่เป็นการตัดมาเล่าให้ฟังอย่างคร่าว ๆ อ่ะนะครับในจุดนี้  ใครที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมไว้มาถามหลังไมค์ในบอร์ดนี้กับผมละกันนะครับไม่ต้องกลัวผมไม่ตอบ  ผมยินดีที่จะเปิดเผยโฉมหน้าของเพื่อนผมคนนี้  ให้ทุกคนได้ทราบโดยทั่วกัน 


          "การเผาเพื่อนคืองานของเรา" นี่แหละครับสโลแกนผมเกี่ยวกับเพื่อนคนนี้  แล้วพวกคุณล่ะมีเพื่อนแบบนี้อยู่บ้างรึเปล่า ? มาเล่าให้ฟังมั่งสิปล่อยให้ผมบ้าอยู่คนเดียวอยู่ได้ -*- 


          เลิฟยอลลลลลลลลลลลจ้า ( ประโยคนี้เครดิตจากนายเอ๋อซ่าแห่งเว็บ Exteen เจ้าเก่าอีกแล้วครับท่าน ) 


ป.ล.แล้วตกลงว่างานกุอยู่ไหนวะสาดดดดดดดดดดดด ?

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น