khaikung
ดู Blog ทั้งหมด

เกิดมาทำไม

เขียนโดย khaikung
 เกิดมาทำไม

 

 

ในช่วงจังหวะหนึ่งของชีวิต อยู่ดีๆ ตัวเราเอง ก็เกิดตั้งคำถามให้กับตัวเองว่า “เกิดมาทำไม” เชื่อว่ามีหลายคน ก็เคยตั้งคำถามแบบนี้ให้กับตัวเองทั้งนั้น และไอ้คำถามแบบนี้ มันมักจะเกิดขึ้นช่วงเวลาที่เราเหนื่อย ผิดหวัง หรือท้อใจกับเรื่องราวบางอย่างมาซะด้วยซิ

 

จริงอยู่ที่คนเรานั้นมีเวลาในหนึ่งวัน 24 ชั่วโมงเท่ากัน เรามีมือเหมือนกัน มีเท้าเหมือนกัน ทั้งๆที่สวรรค์ ให้จุดเริ่มต้นทุกคนมาอย่างเท่าเทียมกัน แต่วินาทีสุดท้ายของแต่ละคน ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หลายคน อาจจะแย้งขึ้นมาว่า “ก็ตัวเราเลือกเกิดไม่ได้นิน่า” มันก็จริง!! มันเป็นคำตอบที่ถูกต้องเลยละในความคิดของผม แต่หลายครั้ง หลายสิ่งหลายอย่าง หลากหลายบุคคน ที่ได้พบเจอ มันทำให้ความคิดของผมเปลี่ยนไปเรื่อยๆๆ

 

จำเป็นมั้ย ที่คนเกิดจากความยากจน จะไม่มีทางมีชีวิตที่รำรวย จำเป็นมั้ย ว่าคนที่ร่ำรวย จะได้อยู่อย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต

ขอวกกลับมาที่คำถามที่ว่า “เกิดมาทำไม” ถ้าเป็นคำตอบตามหลักศาษนา ก็อาจจะตอบว่า “เราเกิดมาเพื่อใช้กรรม” ซึ่งจริงๆแล้ว ตัวผมเองก็เห็นด้วยกับความคิดนี้นะ...แต่ว่า ถ้าเราใช้กรรม แล้วเมื่อไร เราจะรู้ ว่าเราใช้กรรมหมด จะว่าไป ไอ้การที่มีคำตอบแบบนี้ มันก็เป็นข้ออ้างให้คนเรา ที่คิดบั่นทอนชีวิตได้เหมือนกันนะ อย่างเช่น มีครอบครัวอยู่ 2ครอบครัว ครอบครัวแรก อยู่อย่างสบายใช้ชีวิตสุขสบายมากเลย มีพร้อมทุกอย่าง แต่คนในบ้าน แทบจะไม่มีเวลาแม้แต่จะกินข้าวด้วยกัน หรือทำกิจกรรมร่วมกัน แต่อีกครอบครัวหนึ่งเป็นครอบครัว ฐานะค่อนข้างยากจน ทุกๆคนในบ้าน ช่วยกัน ทำมาหากิน มีเวลาพูดคุย มีเวลาให้คนในครอบครัว อยู่มาวันหนึ่ง ลูกของครอบครัวแรก ก็ได้พูดขึ้นมากับคนใช้ในบ้าน ว่า “ทำไม...ทั้งๆที่เรามีทุกอย่าง แต่ทำไมเรายังเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป มันเป็นสิ่งที่เราเอง ก็ใช้เงินซื้อมาไม่ได้” คนใช้บ้านนั้นก็ตอบกลับมาว่า “คงเป็นเพราะเวรกรรมละมั้งคุณหนู ที่ทำให้คนในบ้านเราเข้ากันไม่ติดแบบนี้” ในขณะที่ครอบครัวที่สอง ก็มีคำถามเช่นกันว่า “ทำไม..เราถึงเกิดมาไม่รวยแบบบ้านอื่นละพ่อ ไม่มีเงินมากมาย ไม่มีชีวิตที่สบายเหมือนคนอื่นเค้า” ฝ่ายพ่อก็ได้แต่มอง แล้วหันมายิ้ม กับลูกว่า “คงเป็นเพราะเวรกรรมเก่าละมั้งลูก...” จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างโทษ สิ่งต่างๆ ที่เรามองมันไม่เห็นทั้งนั้น

 

เราเองคนหนึ่ง ที่ยอมรับนะ ว่าแต่ก่อนเราเองก็เคยคิดเหมือนกัน ที่ชีวิต มันต้องเป็นแบบนี้ เพราะเวรกรรมรึปล่าว แต่มาช่วงหลังๆนี้ เริ่มปล่อยวางกับเรื่องนี้แล้วละ ยอมรับเลยนะ ว่าหลังจากช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เราคิดว่าชีวิตเราตกต่ำที่สุดเท่าที่เคยเกิดมาแล้ว มาปีนี้ ได้คิดอะไรมากขึ้น เรื่องของเวรกรรมก็ปล่อยมันไป บางที ก้ออยากฝืนดวงตัวเองขึ้นมาบ้าง

พอตัดประเด็นเรื่อง เกิดมาใช้กรรม จบ ทีนี้ก็วกกลับมาที่คำถามเดิม ว่าเรา “เกิดมาทำไม” ในขณะที่ตัวเรากำลังพยามค้นหาคำตอบอยู่ ก็ได้เปิดทีวีดู พบบุคคลคู่หนึ่ง ซึ่งผมก็ดีใจกับเค้านะ ที่เค้าก็ค้นพบว่าชีวิตเค้าเกิดมาเพื่ออะไร เค้าเป็นชาวต่างชาติ2คน ที่เราน่าจะรู้จักเค้าดี ทุกๆครั้ง ที่เราเจอเค้าในทีวี เค้าจะตอบคำถามนี้ทุกครั้งเลย เค้าจะมาพร้อมกับคำตอบที่ว่า “โอ้ว..ซาร่า ฉันเกิดมาเพื่อสื่งนี้” แล้วไอ้ผู้หญิง ซึ่งก็ไม่รู้ว่า เป็น เมีย แม่ เพื่อน หรือน้องสาว ก็มักจะเยินยอสรรเสริญคำตอบด้วยคำพูดที่ว่า “มันยอดมากเลยจอร์ช” เออ ผมดูแล้วก็ยินดีกับเค้านะ ที่อย่างน้อย ก็ได้พบคำตอบของชีวิตตัวเอง ว่าเกิดมาเพื่ออะไร

 

ส่วนตัวผมตอนนี้ก็ยังเคว้งคว้างไปในโลกกว้างใหญ่ใบนี้เลย จริงอยู่ ที่ทุกวันนี้ผมมีงานประจำที่ทำ แต่บางที ก็มานั่งคิดกับตัวเองว่า...เราเกิดมาเพื่อนสิ่งนี้ จริงๆหรือปล่าว ทุกวันนี้ พยามออกไปเปิดโลกของตัวเองให้กว้างขึ้น ได้เจอผู้คนมากมาย ได้เห็นด้านหลากหลายแง่มุมของสังคม มันทำให้ผมเองก็เริ่มที่จะเลิกคิดคำตอบของคำถามนั้นไปแล้วนะ ว่าเกิดมาทำไม...จนทุกวันนี้ แทบจะไม่ได้สนใจคำตอบของมันแล้วละ อาจจะดูเป็นคนโง่ ที่ตอบคำถามง่ายๆแค่นี้ไม่ได้ แต่ก็ช่างมันเถอะ ทุกวันนี้ผมไม่สนใจแล้วละ ว่าตัวผมจะเกิดมาทำไม “ผมเพียงแค่มีเพื่อน มีครอบครัว มีงานทำ ได้ทำในสิ่งที่ผมรัก ได้นั้นเพ้อเจ้อกับชีวิตไปวันๆ แค่นี้ ชีวิตผมก็ไม่ต้องการไรที่มันสวยหรูไปกว่านี้เท่าไรแล้ว”

 

แล้วถ้าวันนึงมีคนมาถามกับผมว่า “เกิดมาทำไม” ผมอาจจะทำหน้าตาโง่ๆ แล้วตอบเค้าไปว่า “เกิดมาเพื่อใช้กรรม” ก็ได้มั้ง หวังว่าถึงตอนนั้นแล้วคำตอบนี้ยังเป็นคำตอบที่ยอดฮิตอยู่นะ :P

 

 

แล้วคุณละ เกิดมาทำไม?

 

KhaikunG

  

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น