อาหารและพัฒนาการของเด็กวัยหัดเดิน
เมื่อลูกเข้าสู่วัยหัดเดินและพร้อมที่จะเปิดรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆของโลกกว้าง ยิ่งเริ่มเติบโตคุณแม่ยิ่งต้องเอาใจใส่ทั้งด้านพัฒนาการและอาหาร ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีความสำคัญอย่างมากควบคู่กันไปเพราะอาหารก็มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างร่างกายและพัฒนาการต่างๆอีกด้วย ช่วงวัยหัดเดินเด็กควรได้รับสารอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ คือ คาร์โบไฮเดรต ผักและผลไม้ นม โปรตีน ไขมันและน้ำตาล ด้านพัฒนาการต่างๆก็เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งด้านอารมณ์ ด้านการแสดงออก การพูด การเรียนรู้ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็มีความสำคัญต่อพัฒนาการด้วยเช่นกัน
มาเริ่มจากพัฒนาการต่างๆของเด็กช่วงวัยหัดเดินกันก่อนนะคะ ส่วนใหญ่เด็กจะเริ่มแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ เช่น การพูด เด็กวัยหัดเดินตั้งแต่ช่วงอายุ 1 ขวบขึ้นไป หลังจากที่เคยพูดอ้อแอ้ หรือออกเสียงได้แค่ ปาปา มามา ก็จะเริ่มพูดเป็นคำและพยายามผสมคำได้บ้างแล้วหากลูกอยากจะชวนคุณแม่เล่น หรืออยากได้อะไร ก็จะเริ่มใช้คำพูดได้จากสิ่งที่ลูกอาจจะกำลังต้องการเช่น ชวนคุณแม่ของเล่นด้วยโดยลูกอาจจะใช้คำพูดว่า เล่นของหรือแม่เล่น ซึ่งคำพูดที่ลูกใช้จะยังสลับกันไปมา แต่โดยรวมลูกจะสื่อความหมายในการชวนคุณแม่มาเล่นด้วยเท่านั้น ซึ่งถ้าคุณแม่ค่อยๆสอนและให้ลูกทำความเข้าใจ ไม่นานลูกก็จะสื่อสารออกมาได้อย่างถูกต้องแน่นอนค่ะ ต่อด้วยพัฒนาการด้านเรียนรู้ เด็กวัยนี้ชื่นชอบต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆหลายอย่าง ทั้งการเดิน วิ่ง กระโดด การเลียนแบบหน้าตาและท่าทางจากสิ่งที่ลูกเห็นและชอบจดจำมาเลียนแบบหรือทำตาม ช่วงวัยนี้เด็กค่อนข้างจะเริ่มแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร ลูกชอบที่จะตัดสินใจเองเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกตัดสินใจหรือเลือกสิ่งที่อยากได้เองดูบ้างก็ได้นะคะ พัฒนาการด้านการแสดงออกทางด้านอารมณ์ ช่วงวัยนี้ลูกน้อยของคุณแม่อาจจะมีอารมณ์เกรี้ยวกราด เอาแต่ใจ หรืออาจหงุดหงิดง่ายหากอยากได้สิ่งของหรืออยากทำอะไรแล้วไม่ได้ดั่งใจ ก็จะมีอาการหงุดหงิด ไม่พอใจ คุณแม่ควรเข้าใจในอารมณ์ของลูกที่เริ่มเปลี่ยนแปลง และควรฝึกสอนและคอยอธิบายหรือหากบางครั้งคงต้องใช้ไม้แข็งบ้างเพื่อไม่ให้ลูกมีอาการก้าวร้าว เอาแต่ใจจนอาจกลายเป็นความเคยตัวและแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดเวลาอยากได้สิ่งที่ต้องการ ซึ่งโดยรวมพัฒนาการของเด็กช่วงวัยเริ่มเดินจะมักใช้ความคิดของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ในการตัดสินใจ และมักจะจดจำสิ่งต่างๆจากสิ่งแวดล้อมและเริ่มเรียนรู้และทำตาม ทั้งเรื่องการพูด การเดิน หรือการแสดงออกต่างๆ ดังนั้นคุณแม่ควรระวังในการกระทำต่างๆ อย่างเช่น คำพูด ไม่ควรใช้คำพูดหยาบคายเพราะลูกจะจดจำและเริ่มพูดตามได้ง่าย เรื่องการหัดเดิน เด็กที่เริ่มหัดเดินจะเดินโดยที่ไม่รู้ซ้ายขวาหน้าหลัง อาจเริ่มกระโดดไปมา คุณแม่ก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ไม่ควรทิ้งลูกไว้ลำพัง เพราะลูกจะเดินได้ไวมากจนบางทีวิ่งไล่จับแทบไม่ทัน ต้องคอยระมัดระวังเรื่องสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆและยานพาหนะให้ดีด้วยนะคะ
ส่วนเรื่องอาหารสำหรับเด็กวัยเริ่มหัดเดิน เด็กเริ่มจะรับรู้รสชาติได้มากขึ้นแล้วนะคะ และสามารถทานอาหารได้ 3 มื้อแล้ว และควรให้ลูกทานอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ เพื่อสุขภาพที่ดีและพัฒนาการที่สมบูรณ์เพิ่มมากขึ้น อาหารจำพวก ข้าว ธัญพืช ขนมปัง ควรเน้นให้ลูกทานทุกมื้อ ผักและผลไม้ต่างๆก็ยังมีความสำคัญเหมือนเดิม แต่ควรเน้นผักและผลไม้หลากสีเพราะมีสารอาหารต่างชนิดกัน เนื้อสัตว์ต่างๆ ไข่ และปลา มีความจำเป็นต่อร่างกายเช่นกัน เพราะมีธาตุเหล็กและไขมันโอเมก้า 3 ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น ชีส นม โยเกิร์ต และนมยังคงมีความจำเป็นต่อร่างกายของลูกเหมือนเดิมควรให้ลูกทานนมอย่างน้อย 20 ออนซ์ต่อวัน พวกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมอาจให้ลูกทานเป็นของว่างได้เช่นกัน รวมถึงอาหารจำพวกไขมันและน้ำตาล เช่น ขนมเค้ก เนย ให้ลูกทานเป็นอาหารว่างเสริมมื้อหลักได้เช่นกัน แต่อย่าทานมากจนเกินไปหรือให้ทานแทนมื้อหลักไม่ได้นะคะ เพราะลูกจะติดหวาน ฟันผุและอ้วนได้ง่ายค่ะ สำหรับเด็กช่วงวัยนี้เป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโตและต้องการสารอาหารต่างๆเพื่อเสริมสร้างร่างการและพัฒนาการให้สมบรูณ์แข็งแรง แต่ก็มีอาหารที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกรับประทานหรือให้ทานน้อยที่สุด อย่างพวกอาหารและเครื่องดื่มที่มีสารเพิ่มความหวานหรือสารปรุงแต่ง เช่น น้ำอัดลม ลูกอมต่างๆ รวมถึงพวกอาหารสำเร็จรูปด้วยเช่นกัน ไม่ควรให้ลูกรับประทานบ่อยๆหรือหลีกเลี่ยงไปเลยได้ยิ่งดีค่ะ
เมื่อลูกเริ่มโตการดูแลก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามวัยของลูก อาหารก็มีความสำคัญต่อด้านพัฒนาการอย่างมาก การเลือกอาหารให้กับลูกในแต่ละมื้อคุณแม่ควรเลือกแต่อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเพราะการที่ลูกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัย ก็จะส่งผลให้ร่างกายของลูกมีการเจริญเติบโตแข็งแรงและมีพัฒนาการต่างๆที่ดีสมวัยด้วยนะคะ
ความคิดเห็น