kidsleep01
ดู Blog ทั้งหมด

ประสบการณ์การไปทำงานในประเทศไต้หวัน

เขียนโดย kidsleep01


ประสบการณ์การไปทำงานในประเทศ
ไต้หวัน

      ตัวผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ไปทำงานที่ต่างประเทศแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะไป มันเป็นเหตุบังเอิญและถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราควรที่จะคว้าเอาไว้ ซึ่งวันนั้นผู้เขียนนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่กับแม่ ก็มีนายหน้าคนหนึ่งเข้ามาถามว่าอยากไปทำงานที่ไต้หวันไหม ความที่เรายังเด็กไม่กลัวอะไรและไม่คิดหน้าคิดหลังก่อนรีบบอกเลยว่าอยากไป เขาก็บอกให้ผู้เขียนไปเตรียมตัววันนั้นเลย ตอนเย็นเขาจะเอารถตู้มารับไปทำพาสปอร์ตและตรวจโรคที่กรุงเทพฯ ทั้งๆที่จะไปทำงานอะไรก็ยังไม่รู้เลยแต่ให้ไปตรวจโรคแล้ว ตกเย็นเขาก็เอารถมารับจริงๆในรถคันนั้นมีแต่ผู้ชายทั้งหมดมีผู้เขียนเป็นผู้หญิงคนเดียว จากที่ไม่กลัวก็เกิดกลัวขึ้นมาเขาจะเอาเราไปขายหรือเปล่าทำไมไม่มีผู้หญิงเลย แต่ไหนๆก็ขึ้นรถมาแล้วก็ต้องไปเป็นไงเป็นกันลองดูสักตั้ง ไปถึงกรุงเทพฯก็ทำพาสปอร์ตและตรวจโรคแล้วก็กลับบ้านวันนั้นเลย อยู่บ้านได้สองวันทางนายหน้าก็มาบอกว่านายจ้างที่ไต้หวันจะมาสอบงานอิเลคทรอนิกส์ให้ไปกรุงเทพฯวันนี้เลย ก็ไปอีกสรุปวันนั้นมีคนสอบสองร้อยกว่าคนแต่รับแค่สิบสามคนตัวผู้เขียนก็ติดหนึ่งในนั้นสอบเสร็จรู้ผลก็กลับบ้าน

          การที่เราจะไปทำงานเมืองนอกไม่ง่ายเลย ไม่ใช่สอบได้แล้วจะได้ไปเลยเราต้องมีเงินหลักแสนขึ้นไปถึงจะไปได้ ตัวผู้เขียนนั้นต้องเสียเงินถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถึงจะได้ไป แม่ก็เอาบ้านพร้อมที่ดินเข้าธนาคารทำเรื่องกู้ อาจจะสงสัยว่าทำไมถึงแพงจัง เมื่อก่อนงานอิเลคทรอนิกส์ราคาจะอยู่ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทจริงๆ แต่เดี๋ยวนี้มีเงินแค่สามหมื่นบาทก็ไปได้แล้ว ทำเรื่องกู้เงินผ่านยื่นเอกสารต่างๆเรียบร้อยก็รอไม่ถึงเดือนก็ได้บิน ก่อนวันจะได้บินเขาก็เอาเราไปอยู่ที่บริษัทนายหน้าที่กรุงเทพฯสามวันเพื่อให้เราได้อบรมกฎระเบียบต่างๆของประเทศไต้หวัน และทำสัญญาว่าจ้างที่เมืองไทยหนึ่งฉบับ ตัวผู้เขียนต้องไปทำงานที่นั่นสามปีเต็ม

          และแล้วก็มาถึงวันที่ได้ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิตรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ใช้เวลาในการเดินทางไปประเทศไต้หวันสามชั่วโมง ผู้เขียนได้ไปอยู่ที่ภาคใต้ จังหวัดเกาฉง อำเภอหนานสือ วันแรกที่ไปถึงประเทศเขาก็ค่ำพอดี ก็มีคนมารับที่สนามบินแล้วก็พาไปอยู่ในตึกแถวร้างที่ไม่มีคนอยู่ คิดในใจโดนหลอกให้มาขายตัวแน่ๆ แต่ความจริงมันเป็นสถานกักกันคนเข้าเมืองที่จะไปทำงานประเทศเขา ห้องน้ำก็ไม่มีน้ำ น้ำดื่มก็ไม่มี จะมีน้ำก็ตรงอ่างล้างหน้าหิวน้ำก็ต้องฝืนทนไปกินในนั้น กลัวแต่ก็ยังเชื่อมั่นอยู่ว่าจะไม่โดนหลอกเพราะมีคนเก่าที่เคยทำบริษัทนี้เขากลับมาทำอีกครั้งหนึ่ง พอตอนเช้าก็มีคนมารับไปที่โรงพยาบาลเพื่อที่จะตรวจโรคอีกครั้งหนึ่ง ผลตรวจออกมาว่าผ่านเขาถึงได้พาไปที่หอพักของบริษัทจัดให้อยู่ ก็จะเป็นตึกสี่ชั้นมีอยู่สองตึกไม่ใหญ่มากนัก ห้องแต่ละห้องเป็นห้องแคบๆแต่ละห้องอยู่กันเกือบยี่สิบคนเป็นเตียงนอนสองชั้น คนดูแลหอพักที่นั่นเขาก็จะแจกข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างเช่น ตู้เสื้อผ้า หมอน ผ้าห่ม  สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก กะละมัง ขันน้ำ ทุกอย่างที่ใช้ในชีวิตประจำวันรวมถึงจักรยานที่จะต้องใช้ปั่นไปทำงานทุกวัน รวมไปถึงเรื่องอาหารการกินก็ฟรีทุกอย่าง พอได้ทุกอย่างแล้วก็พักผ่อนหนึ่งวันเตรียมตัวไปเซ็นสัญญาที่บริษัทในวันรุ่งขึ้น

          วันนี้เป็นวันที่ต้องไปเห็นที่ทำงานเป็นวันแรกรู้สึกตื่นเต้นมากมีรถตู้มารับในวันแรก ก็ไม่ไกลจากที่พักมากนักเป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่นึกว่าจะโดนเอาไปปล่อยไว้บนเขาซะอีก เข้าไปเขาก็ให้เซ็นสัญญารวมถึงพูดคุยเรื่องกฎระเบียบต่างๆของบริษัทและที่หอพักโดยมีล่ามแปลให้ สำหรับตัวผู้เขียนนั้นได้เข้ากะดึกตลอดสามปีเป็นอะไรที่ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าที่นี่เขาไม่มีการเปลี่ยนกะเข้าเช้าก็เช้าตลอดดึกก็ดึกตลอดจากนั้นก็ได้ปั่นจักรยานไปทำงานทุกวัน ต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องภาษาก็ต้องหัดพูดให้ได้เพราะเขามีล่ามให้เราแค่วันเซ็นสัญญาเท่านั้น ถ้าเราฟังไม่รู้เรื่องทำผิดกฎระเบียบหอพักขึ้นมาก็จะโดนปรับเงินครั้งละสองพันกักบริเวณไม่ให้ออกไปไหนในวันหยุดเป็นเวลาหนึ่งเดือน เพราะที่หอพักคนคุมหอเขาจะประชุมทุกวันเราต้องฟังให้รู้เรื่องถ้าไม่รู้ก็ต้องถามคนเก่าและต้องฝึกพูดฝึกฟังจะไปถามคนอื่นตลอดก็ไม่ได้ การไปครั้งนี้ก็ถือว่าโชคดีที่รายได้ก็ถือว่าดีมากส่งกลับบ้านเดือนละสามหมื่นกว่าบาททุกเดือนและเงินหักฝากที่บริษัทหักฝากให้ทุกเดือนก็เดือนละแปดพันบาทจนครบสามปี กว่าจะได้กลับก็มีเงินเก็บมากพอสมควรรวมถึงเงินที่ส่งกลับบ้านทุกเดือนด้วยเพราะใช้หนี้ธนาคารก็แค่ปีครึ่งก็หมดแล้ว

          เรื่องที่ผู้เขียนได้ไปพบเจอมาอยากให้คนที่คิดจะไปทำงานที่ต่างประเทศให้คิดดีๆก่อนที่จะไป สอบถามคนที่เคยไปและควรไปปรึกษากรมแรงงานไปสอบถามว่าบริษัทจัดหางานที่เราจะไปด้วยถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่าอาจจะโดนหลอกได้ เพราะอาจจะไม่โชคดีเหมือนตัวผู้เขียนก็ได้ หวังว่าประสบการณ์ในครั้งนี้จะมีประโยชน์กับคนที่ได้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะก่อนจะทำอะไรให้ศึกษาให้ดีๆก่อนในทุกๆเรื่องค่ะ   

 

คอนโดแมว , พัดลมมือถือ , หมอนผ้าห่ม , หมอนหัวทุย  , เก้าอี้หัดนั่ง


 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น