ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ending [ทำมือ] MONSTER' N DIRTY สัมพันธ์อสูร

    ลำดับตอนที่ #11 : MONSTER' N DIRTY สัมพันธ์ครั้งที่ 09 {150%}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19.85K
      84
      7 ต.ค. 60

    Image result for gif dark



    สัมพันธ์ครั้งที่ 09

    [ง้อ...ขวัญเหรอคะ?] โบว์ถามอย่างรู้ดี ผมยิ้มมุมปากเพราะรู้ดีว่าปลายสายกำลังรู้สึกแบบไหน

    ถ้าหากสงสัยว่าผู้หญิงชื่อโบว์ที่ผมโทรหาคือใคร เธอคือพี่เลี้ยงบัวนิลไง...เรารู้จักกันตั้งแต่วันที่ผมช่วยเหลือเด็กคนนั้นตอนถูกรถเฉียด เราทำข้อตกลงบางอย่างเพื่อให้เธอร่วมมือกับผม

    “ดูเหมือนว่าเขาอยากคุยกับเธอนะขวัญ เดี๋ยวพี่พาบัวนิลกลับห้อง รีบๆ กลับมาล่ะ”

    จำตอนโบว์พาบัวนิลกลับอพาร์ทเมนต์ได้ใช่ไหม นั่นเป็นความจงใจของเธอ

    โบว์เปิดทางให้ผมได้อยู่กับเอื้องขวัญสองคน เพราะมันง่ายต่อการลากยัยนั่นกลับคอนโดฯ ยังไงล่ะ

    “จะมีใครอีกล่ะ”

    [คุณเตทำอะไรให้เธอโกรธคะ...]

    “ปล้ำ” พอได้ยินคำตอบ โบว์ก็เงียบไป เสี้ยววินาทีนั้นหูผมได้ยินเสียงเด็กน้อยร้องไห้งอแงแซมเข้ามาคล้ายว่าถูกทำให้เจ็บปวดจนทนไม่ไหว “เธอทำอะไรเด็ก”

    แม้มองไม่เห็น... แต่ผมมั่นใจว่าโบว์ต้องรังแกเด็กน้อยอีกแล้วแน่ๆ

    [บัวนิลเธอสะดุดล้มน่ะค่ะ ไม่เป็นอะไรมาก]

    “ถ้าไม่อยากโดนตบ... พูดอีกที ขอความจริง”

    [..บัวนิลสะดุดล้มจริงๆ ค่ะ] ยัง... ยัยนั่นยังจะกล้าโกหกทั้งๆ ที่น้ำเสียงสั่นระริกขนาดนั้น คิดว่าผมโง่มากมั้ง

    ผมแค่นหัวเราะกับความตอแหลแบบไม่เนียนของอีกฝ่าย พูดถึง...มันก็น่าแปลกเหมือนกันนะที่ดันมารู้สึกขุ่นเคืองที่โบว์รังแกเด็กคนนั้น บางทีเพราะบัวนิลมีความสำคัญกับเอื้องขวัญล่ะมั้ง

    หวา ผมมาถึงจุดนี้ได้ยังไง...

    เอาเป็นว่าผู้ใหญ่ที่รังแกเด็กสองสามขวบมันก็ขึ้นชื่อว่าทุเรศอยู่ดี ไอ้เตคนนี้รับไม่ได้

    “ถือว่าฉันให้โอกาสแล้วนะ” ผมทำท่าจะวาง แต่เพียงเสี้ยววินาทีก่อนปลายนิ้วจะสัมผัสปุ่มตัดสาย โบว์ก็เรียกผมไว้ซะก่อน คราวนี้น้ำเสียงสั่นมากกว่าเดิม

    [ขอโทษค่ะ] ผมเลิกคิ้ว [บัวนิลค่อนข้างดื้อ... โบว์เลยพลั้งมือไปบ้าง]

    พลั้งมือไปบ้าง?

    โถ... ช้ำประมาณสี่ห้าจุดทุกครั้งที่เจอเด็กคนนั้นนี่เรียกว่าพลั้งมือไปบ้างได้เหรอ ข้อแก้ตัวโง่ๆ

    “เดี๋ยวว่างๆ ฉันจะไปรับบัวนิล” ผมตัดสินใจทันทีเมื่อรู้สันดานของผู้หญิงซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นพี่เลี้ยงที่เอื้องขวัญไว้ใจ

    ต่อให้โบว์ยอมร่วมมือกับผม แต่อย่างน้อยๆ เธอก็ควรจะดูแลเด็กดีๆ ไม่ใช่เดี๋ยวตี เดี๋ยวทำร้าย เด็กมันจำง่าย... ถูกซึมซับมากๆ เข้า โตขึ้นมีหวังได้กลายเป็นคนหัวรุนแรงแน่

    ตายแล้ววว ทำไมผมแลดูจะเข้าใจความรู้สึกแบบนี้เป็นพิเศษนะ

    'ฮึก... แม่ฮะ เตจะตายเเล้ว...'

    หึ ก็แหม...

    [มะ หมายความว่ายังไงคะ?] โบว์ดูท่าจะตกใจเอามากๆ

    “อ้าว นี่จะโง่ซ้ำโง่ซ้อนไปถึงไหนครับ” ผมชักจะหงุดหงิดกับผู้หญิงคนนี้แล้วจริงๆ “ส่วนเรื่องง้อเอื้องขวัญ ฉันว่าฉันหาทางเองดีกว่า ถามจากเธอ ชาตินี้คงไม่ได้คำตอบ วางละ บาย”

    ผมไม่รอให้อีกฝ่ายตอบโต้ก็กดวางสายทันที

    ไม่น่าให้ยัยนั่นมาร่วมมือด้วยเลย คำนวณพลาดไปสินะรอบนี้

    เมื่อวางสายแล้วผมก็สูบบุหรี่ต่ออีกมวน ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจึงออกไปหาเอื้องขวัญที่นั่นสั่นระริกอยู่บนเตียง

    อืม... เริ่มต้นยังไงดีน้า

    จบบทบรรยาย เตโช

     



    บทบรรยายพิเศษ โบว์

    “นิลเจ็บ... ฮือ”

    “เจ็บก็จำใส่หัวไว้สิยัยเด็กเหลือขอ เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าตอนฉันคุยโทรศัพท์อย่ายุ่งน่ะ!

    การเป็นพี่เลี้ยงให้บัวนิลเป็นเรื่องรำคาญที่สุดในชีวิต แต่เพราะได้เงินอย่างดีพร้อมกับที่พักและอาหาร ฉันเลยยอมตกลงแม้จะไม่ชอบงานนี้เลยก็ตาม

    เดิมทีฉันใช้ชีวิตร่อนเร่ไร้จุดหมาย เรียนไม่จบ พ่อแม่เลิกกัน พออายุเยอะขึ้นและหางานทำก็ไม่มีใครหน้าไหนรับเพราะระดับการศึกษาต่ำ จริงๆ ไอ้งานล้างจานหรือเป็นเด็กเชียร์เบียร์ฉันก็ทำได้ แต่บางทีก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นทาส ต้องทำตามที่สั่งทุกอย่าง เงินก็น้อยนิดเท่าหยิบมือ ได้มาไม่พอใช้ เป็นหนี้เป็นสิ้นอีก

    โชคดีที่ฉันบังเอิญเจอคุณตะวันเข้าในช่วงวิกฤติ เขาเป็นคนใจดีและอบอุ่น ช่วยเหลือฉันจากปัญหาต่างๆ แต่ก็นั่นแหละ... เพราะเขาเป็นผู้มีพระคุณของฉัน เมื่อเขาขอให้ช่วย ฉันก็ไม่อยากปฏิเสธ

    ใช่... เรื่องยัยเด็กบัวนิลนี่แหละ

    มันเป็นลูกของยัยเอื้องขวัญ เด็กใจแตกที่ท้องในวัยเรียน ตอนแรกๆ มันน่าสงสารดีนั่นแหละ แต่นานเข้าเมื่อคุณตะวันให้ความสำคัญกับมันจนออกนอกหน้านอกตา ฉันก็เริ่มหมั่นไส้และสะสมความอิจฉามาเรื่อยๆ

    ถ้าพูดให้ถูก... เพราะฉันหลงรักคุณตะวัน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันค่อยๆ เกลียดชังยัยเอื้องขวัญ รวมถึงยัยเด็กน่ารำคาญอย่างบัวนิล!

    กระทั่งวันหนึ่งฉันได้เจอกับผู้ชายที่ชื่อเตโช

    วันนั้นเขาช่วยบัวนิลไว้ไม่ให้ถูกรถชน แววตาที่เขามองเด็กคนนั้นมันอบอุ่นและมีเสน่ห์จนฉันลืมภาพคุณตะวันไปชั่ววูบหนึ่ง กระทั่งเมื่อฉันได้ยินเสียงของเขา น่าแปลกที่มันก้องกังวานอยู่ในหัวฉันไม่หยุด รวมถึงภาพของเขาด้วย

    แล้วใครจะคิดล่ะว่าหลังจากนั้นเพียงไม่นานเขาจะเข้ามาหาฉัน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนเตโชพูดบางสิ่งบางอย่าง...เขาเอ่ยชื่อยัยเอื้องขวัญ

    มันอีกแล้ว

    ผู้ชายที่ฉันถูกชะตามักมีมันเกี่ยวข้องอยู่ด้วยเสมอ

    เขาเสนอข้อตกลงต่างๆ นานาเพื่อให้ร่วมมือและคอยส่งข่าวมัน ตอนแรกฉันไม่อยากทำหรอก แต่เพื่อแลกกับการได้พูดคุย ได้เห็นหน้าและได้ยินเสียงของเขา ฉันเลยยอมตกลง

    ที่จริงแล้วสิ่งตอบแทนมันมากกว่านั้น... เขาเซ็นเช็คให้หลักล้านกับงานขี้ประติ๋วนี่

    “อยากนอนกับฉัน?... ทำตัวให้มันน่ารักสิ จะลองพิจารณา”

    ตอนนั้น นอกจากเงินแล้วฉันยังหน้าด้านขอนอนกับเขา อยากหาทางทำให้เขาเป็นของตัวเองแม้จะรู้ว่าผู้หญิงที่เขาต้องการคือแม่ยัยบัวนิลก็ตาม

    เตโชบอกให้ฉันทำตัวน่ารัก... ฉันก็ทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง แล้วทำไมเขาถึงตัดสายไปดื้อๆ พอโทรไปหาอีกครั้งปรากฏว่าเขาปิดเครื่องหนีไปแล้ว

    เพราะยัยบัวนิลคนเดียว! ฉันกำลังคุยโทรศัพท์กับเขาอยู่ดีๆ มันก็มาเกาะแกะจนฉันต้องหยิกมันไปหนึ่งครั้งจนช้ำเลือด

    “นิลปวดท้อง นิลอยากบอกป้าโบว์ค่า...” บัวนิลสะอื้นขณะแหงนหน้าขึ้นมามองฉัน 

         “บอกฉันทำไม ปวดท้องก็ไปนอนสิ” ฉันเดินหนีมันด้วยความรำคาญ แต่เสียงสะอื้นที่ยังดังอย่างต่อเนื่องทำให้ฉันต้องหันขวับกลับไปมอง “หยุดร้องได้ยัง!

          บัวนิลกลัวฉัน มันไม่อยากอยู่กับฉันหรอก แต่เพราะนอกจากฉันแล้วมันไม่มีใครไง แม่มันก็ถูกเตโชลากไปคอนโดฯ ด้วย

                “...ค่า” บัวนิลเก็บเสียงสะอื้นเอาไว้ขณะที่ดวงตาแดงก่ำ ฉันสะบัดหน้าหนีเพราะไม่อยากมองหน้ามันให้รำคาญใจ

                ระหว่างนั้นก็ได้แต่คิดว่าเตโชจะโกรธหรือไม่พอใจฉันหรือเปล่า

                ฉันน่ะ อยากน่ารักในสายเขาจริงๆ นะ...

                จบบทบรรยายพิเศษ โบว์

     




                บทบรรยาย เตโช

                สองวันเข้าให้แล้วที่เอื้องขวัญไม่คุยกับผม

                ผมรู้น่าว่าทำรุนแรงไปจนเจ้าตัวไม่อยากจะเสวนาด้วย แต่จะทำให้ไงวะ... ตอนนั้นผมโกรธมากเลยนี่นา พอลงโทษเสร็จแล้วผมก็อารมณ์ดี หาเรื่องคุยด้วยตลอด แต่สิ่งที่ผมทำอาจสร้างบาดแผลที่หัวใจยัยนั่นมากไป คงยากถ้าจะทำให้เธอยอมหันหน้ากลับมาคุยดีๆ

                แต่ก็นะ ตอนเอื้องขวัญถลึงตามองผมพร้อมน้ำตาคลอเบ้า หัวใจผมเต้นแรงเป็นบ้าเลย

                “ใจคอจะไม่คุยจริงๆ เหรอ” ว่าแล้วก็ลองเรียกเอื้องขวัญอีกสักครั้ง แต่ยัยนั่นเอาแต่หันหลังให้ ราวกับว่าเสียงของผมเป็นแค่สายลมพัดผ่าน ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ

                ผมอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เอื้องขวัญนั่งเท่าไหร่ และตอนนี้ผมไม่ได้ล่ามโซ่ยัยนั่นแล้ว แต่ข้อมือ ข้อเท้า รวมถึงตามส่วนต่างๆ ของร่างกายก็ยังมีรอยแดงให้ดูต่างหน้าอยู่ดี

                จะทายาให้ก็ไม่ยอมให้เข้าใกล้ จะพาไปเดินเล่นข้างนอกก็ไม่ยอม... เอาใจยากจริงๆ

                แต่ชอบนะ ท้าทายดี อิๆ

                “...”

                “งั้นเดี๋ยวออกไปข้างนอกแป๊บนะ” ผมฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้เลยลุกขึ้น เอื้อมมือไปคว้ากุญแจรถและออกมาด้านนอกทันที วูบหนึ่งผมแอบชำเลืองมองเอื้องขวัญด้วย ยัยนั่นยังคงเฉยชาไม่มองหน้าผมเหมือนเดิม

                จะคอยดู...ตอนที่ผมกลับมาจะยอมเงียบต่อไปหรือเปล่า

     



                “จะพาเธอไปไหนเหรอคะ...”

                ผมใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่งโมงก็มาถึงอพาร์ทเมนต์ของเอื้องขวัญ จัดการสั่งให้โบว์เก็บเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับบัวนิลให้เรียบร้อย แน่นอนว่ายัยนั่นเอ่ยถามผมทันที คงอยากรู้จนตัวสั่นเลยสินะ...

                ผมยิ้ม...

                “รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์” ก่อนตอบคำถามที่ทำเอาคนฟังหน้าเหวอไปหลายวินาที โบว์กลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก จากนั้นก็เดินคอตกเข้าไปด้านในเพื่อเก็บเสื้อผ้าของบัวนิลใส่กระเป๋าอย่างว่าง่าย

                ใช่... ในเมื่อเอื้องขวัญไม่ยอมคุยกับผม ผมก็แค่หาวิธีที่จะทำให้เธอเลิกเย็นชา และเนื่องจากผมรู้ว่าเด็กน้อยตัวเล็กอย่างบัวนิลมีอิทธิพลต่อยัยนั่นมากแค่ไหน ผมเลยใช้วิธีนี้... มั่นใจว่ายัยนั่นต้องใจอ่อนแน่ๆ

                “พี่ชายขา” ไม่นานหลังจากออกคำสั่งกับโบว์ บัวนิลที่ดูเหมือนจะได้ยินเสียงพูดคุยของเราเลยตื่นและวิ่งแจ้นมาหาผมพร้อมน้ำเสียงสดใส แม้เราจะเจอกันไม่กี่ครั้ง แต่เด็กนี่ก็ยิ้มแย้มให้ผมเสมอ

                “ครับผม” ผมย่อตัวลงนั่งยองๆ เพื่อให้สายตาอยู่เสมอกับส่วนสูงของบัวนิล เด็กน้อยฉีกยิ้มน่าเอ็นดูไม่พอ ยังถลาเข้ามากอดคอผมเป็นการสำทับ

                ผมชะงัก รู้สึกแปลกนิดหน่อย แต่ก็ใช้ท่อนแขนอีกข้างโอบคนตัวเล็กเบาๆ 

              จังหวะนั้นผมชำเลืองสายตามองผิวขาวๆ ของเธอ เห็นรอยแดงเป็นปื้นอยู่หลายจุด...

              “พี่ชายมาหานิลๆๆ” บัวนิลทำเสียงอู้อี้ขณะกอดผม รู้สึกได้เลยว่าเด็กคนนี้กำลังดีใจ “นิลจะไปกับพี่ชายใจดี”

              “หืม...” ผมเลิกคิ้ว รู้สึกแปลกใจกับคำพูดของเด็กตัวน้อย โอเคว่าผมมาที่นี่เพื่อพาเธอกลับไปที่คอนโดฯ ตอนแรกก็คิดไว้เหมือนกันว่าจะพูดกับเด็กยังไง แต่กลับกลายเป็นว่าบัวนิลอยากไปกับผมซะเอง

              ก็นะ อยู่กับโบว์คงโดนรังแกเป็นว่าเล่น เธอยังเด็ก คงกลัว...

              เข้าทางผมเลยไงทีนี้

              “นิลอยากไปกับพี่ชายยย” น้ำเสียงนั้นตื่นเต้นสุดๆ แต่ขณะเดียวกันอ้อมกอดของเธอก็สั่นเล็กๆ จนผมรู้สึกสงสาร

              ต้องอยู่กับผู้ใหญ่ใจร้ายอย่างโบว์ ก็ไม่รู้ว่าวันๆ ต้องเจอกับอะไรบ้าง เอื้องขวัญแม่งคิดยังไงให้ยัยนี่มาดูแลเด็กวะ โง่ทีหนึ่งแล้วยังตาบอดอีกเหรอ

              “พี่ก็มารับเราไงครับ” ผมยกมือลูบศีรษะเธอเบาๆ พลันที่อ้อมกอดแนบแน่นขึ้นจนผมรู้สึก... ใจเต้นแรง

              อย่าเข้าใจผิดว่าผมกำลังหวั่นไหวกับเด็กคนนี้ แต่ผมแค่รู้สึกว่าเด็กคนนี้มีอะไรบางอย่างที่... ไม่เหมือนใคร

              บางทีอาจเป็นเพราะ...เธอมีอิทธิพลกับเอื้องขวัญมากล่ะมั้ง ผมเลยรู้สึกตามไปด้วย

              “เย้ๆๆ นิลรักพี่ชายที่ฉุดเยย”

              รักเหรอ

              เจอหน้ากันไม่กี่ทีแล้วมาบอกรักแบบนี้... พี่เขินนะครับน้องบัวนิล

     



              โบว์จัดการเก็บข้าวของจำเป็นของบัวนิลเสร็จสรรพโดยใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที แน่นอนว่าผมพาบัวนิลออกมาทันที ไม่หันกลับไปมองยัยอสรพิษนั่นแม้แต่นิด

              ทว่าเมื่อผมอุ้มบัวนิลมาไว้ในรถ เสียงฝีเท้าที่เดินตามมาทำให้ผมต้องชำเลืองสายตากลับไป โบว์เดินตามมา สีหน้าดูไม่ดีเท่าไหร่ ตัวก็สั่นระริกราวกับกลัวว่าจะทำอะไรให้ผมไม่พอใจ

              ผมเลิกคิ้ว...

              “ไร” ก่อนจะถามสั้นๆ บางทียัยนั่นอาจมีอะไรสักอย่างติดค้างและอยากพูดเป็นครั้งสุดท้าย

              โบว์เม้มริมฝีปาก กุมมือทั้งสองเพื่อลดความประหม่าเมื่อถูกผมจ้องมอง

              “คือคุณเตโชจะพาบัวนิลกลับมาหรือเปล่าคะ” คำถามของเธอทำให้ผมต้องกลั้วหัวเราะ 

              “ทำไม รู้สึกคิดถึงหรือเป็นห่วงเด็กคนนี้ขึ้นมาเหรอ” ก่อนปิดประตูรถ ผมไม่ลืมที่จะเปิดแอร์ให้บัวนิลที่นั่งอยู่ข้างใน เมื่อแน่ใจว่าเธอไม่อึดอัดตรงส่วนนั้น ผมจึงก้าวเท้าไปหาโบว์ที่ยืนตัวสั่นอยู่ไม่ไกล เมื่อระยะห่างเราลดลง ผมจึงเห็นอย่างชัดเจนว่าตามกรอบหน้ายัยนั่นพร่างพราวไปด้วยเหงื่อ

              “โบว์แค่...”

              “เลิกตอแหลได้ยังอ่ะ ฉันรู้นะว่าเธอรังแกเด็กตลอด” ผมกดเสียงต่ำ “ต่อไปนี้จะไปไหนก็ไปนะ ไม่ต้องโผล่มาให้เห็นอีก ที่ฉันไม่ทำร้ายเธอก็ขอให้สำนึกไว้ว่ามันเสียเวลา”

              เดิมทีผมไม่ใช่สุภาพบุรุษอยู่แล้ว ไม่พอใจใครก็จัดการให้สาสม แต่บางทีมันก็จะเบื่อๆ รู้สึกว่าเสียเวลาเลยเลือกที่จะขับไล่หรือเดินหนีมาเองมากกว่า ถ้าหากยังขัดแข้งขัดขากันอีก ต่อไปก็ไม่แน่นะ

              เอาจริงๆ เพราะตอนนี้บัวนิลอาจจะเห็น ผมเลยพยายามใจเย็น

              “คุณเตโชคะ...โบว์ขอโทษ” โบว์เริ่มสะอึกสะอื้น ไม่เพียงเท่านั้นยังขยับเข้ามาใกล้และเงยหน้าขึ้นมองผมอย่างเว้าวอน

              ผมถอนหายใจ เริ่มมีคนมองมาที่เรามากขึ้นเรื่อยๆ

              “คือ...?” ถามยังไม่จบ ริมฝีปากของผมก็ถูกโบว์กดลงมาอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงเท่านั้นสองมือเล็กยังรั้งต้นคอผม เพื่อให้ตอบรับสัมผัสน่าขยะแขยงนั่น ผมหลุบตาลงต่ำ... มองดูการรุกรานของยัยผู้หญิงน่ารำคาญนี่อย่างเฉยชา

              ผ่านไปประมาณหนึ่งนาที ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู... พอรู้สึกว่ามันนานเกินไปเลยใช้มือดันศีรษะโบว์ออก แต่คงแรงไปหน่อย ยัยนั่นเลยถลาออกไปจนแทบล้มฟุบลงไปกับพื้น

              นี่สาบานสิว่าจูบ? โอโห... จืดชืดจนอยากอ้วกเลยครับ

              “คุณเต...” ผมขนลุกจนต้องยกมือลูบแขนตัวเอง ยัยโบว์นั่นก็ไม่ได้อายุน้อยๆ แล้วนะ ทำตัวเหมือนขาดผู้ชายไม่ได้ แล้วยังหน้าด้านจูบผมกลางสาธารณะอีก นี่ขนาดใจดีให้เวลาเป็นนาทีๆ แล้วนะ ก็ยังห่วยแตกอยู่วันยันค่ำ

              “อ่ะๆ” ผมตัดสินใจล้วงเอากระเป๋าเงินขึ้นมา หยิบแบงก์พันประมาณสี่-ห้าใบก่อนโยนใส่หน้ายัยนั่น ทำเอาเจ้าตัวเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ น้ำตาคลอเบ้าน่าสงสารสุดๆ “อย่าโผล่มาให้เห็นอีกนะรู้ยัง คราวหน้าฉันจะไม่เอาเงินฟาดหน้าเธอ”

              “...”

              “อยากศพสวยๆ ก็เชื่อฟังกันบ้าง อย่าให้ฉันต้องเอาจริง”

    --------

    อัพเเล้วววววว

    หนังสือถึงมือนักอ่านบางส่วนเเล้วจ้า

    ใครยังไม่ถึงก็มาอ่านพลางๆ ก่อนเด้อ คอมเม้นต์โด้ย


    ติดเเท็ก #พี่เตคนจิต สำหรับคนเล่นทวิตเตอร์




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×