คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : My Captain 15 :: ปรับความเข้าใจ
Chapter 15
คาร่านั่งมองเด็กๆปีหนึ่งที่กำลังทำการคัดสรรบ้าน
อดไม่ได้ที่จะนึกย้อนไปเมื่อตอนเธออายุสิบเอ็ดปี
เด็กกลุ่มนี้ก็เป็นเหมือนพวกเธอในปีที่แล้ว อยากเข้าบ้านไหน ไม่อยากเข้าบ้านไหน
เข้าแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ ลุ้นกันจนตัวโก่ง แม้แต่พรีเฟ็คก็ยังคงลุ้นว่าเด็กที่ตัวเองหมายตานั้นจะอยู่บ้านเดียวกันไหม
บ้านเรเวนคลอก็ดูท่าจะได้เด็กหลายคนอยู่เหมือนกัน
“บ้านเรามีแต่เด็กน่ารักๆทั้งนั้นเลยเนอะว่าไหม”คาร่าหันไปพูดกับอเล็กซา
“อือฮึ
เด็กผู้ชายผมทองคนนั้นน่ารักมาก เห็นไหมๆ”เด็กหญิงผมสั้นหันมาตอบคำถามของคาร่าก่อนจะเบนความสนใจไปที่เด็กชายที่เธอว่า
“เด็กผู้หญิงคนนั้นน่ารักกว่าอีก
นู่นๆที่ถักเปียสองข้างน่ะ”ไบรอันเกทับอเล็กซา
“นี่พวกเธอสองคน
แทนที่จะแสดงความยินดีกับรุ่นน้องแต่ดันไปส่องเด็กแทนซะได้”คาร่าพูดอย่างเหนื่อยใจ
คลอเดียและริชาร์ดที่ตอนนี้ขึ้นปีหกแล้วแต่ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นพรีเฟ็คต่อกำลังเอ่ยทักทายและทำความรู้จักกับน้องใหม่แห่งบ้านอินทรี
“ก็แค่ส่องดูว่ามีใครน่ารักบ้างก็เท่านั้นแหละ
อย่าไปเครียดๆ”ไบรอันปัดมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจนัก
“ฉันล่ะเหนื่อยกับพวกเธอจริงๆ”
งานเลี้ยงฉลองปิดเทอมก็จบลงเป็นที่เรียบร้อยอาจารย์ใหญ่สั่งให้พรีเฟ็คพาเด็กปีหนึ่งเข้าบ้านตนเองเหมือนที่ทำเป็นประจำทุกปี
แต่ยังมีนักเรียนอีกหลายคนนั่งกระจุกอยู่รวมกันที่ห้องโถงใหญ่
ทุกคนต่างคุยกันถึงช่วงเวลาปิดเทอมหน้าร้อนว่าทำอะไรกันไปบ้าง อย่างของอเล็กซาเธอไปเที่ยวที่ฝรั่งเศสกับครอบครัวแถมยังเล่าว่าพ่อมดแม่มดที่นั่นดูมีสไตล์มากกว่าที่อังกฤษเยอะพอสมควร
ส่วนไบรอันเขาไปอยู่กับญาติของเขาแถบชนบทตลอดช่วงฤดูร้อน
แทนที่จะได้กล้ามจากการทำงานกลับมา
แต่กลับได้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมานี่สิเหตุผลที่ได้ก็คือป้าและยายของเขาให้กินอาหารวันละห้ามื้อ
ต้องมาเสียเวลาฟิตหุ่นก่อนเปิดเทอมเขาถึงได้มีพุงย้อยๆแบบนี้ไง
“ฉันคิดว่าฉันต้องออกกำลังกายให้หนักกว่านี้แล้วมั้ง”ไบรอันนึกเสียดาย
เขาไม่น่าตามใจปากกินอาหารที่ยายและป้าเอามาให้ทั้งหมดเลย
“แล้วคาร่าทำอะไรบ้างล่ะ”อเล็กซาถาม
“ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกนะ
ก็แค่ช่วยงานที่ร้านอ่านหนังสือเตรียมพร้อมสำหรับเนื้อหาปีสอง”
“โคตรเนิร์ด”อเล็กซาและไบรอันพูดพร้อมกัน
นั่งคุยกันได้สักพักก็ถึงเวลากลับหอ
ศาสตราจารย์มักกอลนากัลก็เดินมาไล่นักเรียนทั้งหมดที่นั่งอยู่ในห้องโถงให้กลับไปเข้านอน
เพื่อตอนเช้าจะได้ตื่นมาอย่างสดใสต้อนรับเปิดเทอมวันแรก
ระหว่างเดินทางกลับหอคาร่าเหลือบไปเห็นโอลิเวอร์
เขาดูตัวสูงขึ้นกว่าเมื่อตอนปีหนึ่งมากทั้งที่ปีก่อนเขาสูงกว่าเธอเพียงไม่กี่เซน
แต่ตอนนี้อาจจะสูงกว่าเธอราวๆสิบเซนติเมตรแต่คาร่าก็มั่นใจว่าเธอสูงขึ้นแล้วแต่ก็คงน้อยกว่าเขาอยู่ดี
ดวงตาสีน้ำตาลของทั้งคู่สบกันโอลิเวอร์ส่งยิ้มให้คาร่าเด็กหญิงหลบสายตาเขาอย่างเขินๆ
เธอนึกแปลกใจกับตัวเองทั้งๆที่เขาก็ยิ้มแบบนี้ให้เธออยู่บ่อยครั้งแต่วันนี้เธอกลับใจเต้นแปลกๆ
“เธอมีซัมติงอะไรกับวู้ดหรือเปล่า”ไบรอันมองทั้งคู่สลับไปมา
ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยได้ตัวติดกับเธอบ่อยเท่าอเล็กซาแต่ก็พอจะรู้ว่าช่วงที่เธอหายไปนั้นไปอยู่กับใครมา
“บ้า! ไม่มี้”คาร่าปฏิเสธเสียงสูง
“พูดแบบนี้ใครเขาจะเชื่อกันคาร่า
บอกมาเถอะน่า”อเล็กซากระโดดเกาะหลังคาร่า
“มองตาหวานเยิ้มขนาดนั้น
อย่าให้ฉันต้องทำให้เธอคายความลับออกมานะ”ไบรอันขยับมือยุกยิกพร้อมส่งสายตาและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้เธอ
“โทษที
ฉันไม่บ้าจี้น่ะ”คาร่าตอบหน้าตาย
“อย่าตัดบทฉันสิ โธ่!”
การเรียนในปีสองนั้นเป็นไปได้ด้วยดี
คาร่าดูสนุกกับการเรียนมากโดยเฉพาะเรื่องใหม่ๆในคลาสวิชาคาถาคาร่าก็ทำได้ดีมากเลยทีเดียว
ศาสตราจารย์ฟลิตวิกถึงกับออกปากชมเธอถึงขนาดว่าถ้าอยากฝึกก็ให้ไปหาเขาได้
คาร่าได้เจอกับโอลิเวอร์และได้ขอบคุณเขาเรื่องที่ถูกทำร้ายในวันนั้นซึ่งเขาก็บอกว่าไม่เป็นไรก่อนจะขอตัวไปซ้อมควิดดิชต่อ
เธอพอจะรู้ข่าวมาว่าเขาได้เข้าทีมแล้วและอาจจะได้เล่นเป็นตัวจริงในการแข่งขันฤดูกาลที่จะถึงนี้
“เห็นว่าเขาเล่นตำแหน่งคีปเปอร์ด้วยนะ”ไบรอันว่าขณะจิ้มเบคอนเข้าปาก
“คีปเปอร์เหรอ
หนักพอตัวเลยนะเนี่ย”อเล็กซาพูด
“หมายความว่าไง?”เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นมาจากกองการบ้านวิชาปรุงยา
“วู้ดไม่ได้บอกอะไรกับเธอเลยเหรอ?”
“ไม่
จริงๆก็เจอกันทุกวันแต่เขาไม่ได้บอกอะไรฉันเลย”คาร่าบอกทั้งคู่
ครั้งสุดท้ายที่คุยกันเขาก็แค่บอกเธอว่าขอตัวไปซ้อมควิดดิช
เอะอะๆก็ไปซ้อมอย่างเดียว เอ๊ะ? ว่าแต่เธอจะรู้สึกไม่พอใจเขาทำไมกันนะ
“ว้าว
เธอกำลังไม่พอใจเขา”ไบรอันใช้ส้อมชี้มาที่เธอ
“ว่ายังไงนะ
ทำไมฉันต้องไม่พอใจเขาด้วยเล่า!”คาร่าเริ่มขึ้นเสียง
ทำเอาไบรอันและอเล็กซาถึงกับสะดุ้ง เมื่อรู้ตัวว่าเธอทำอะไรไปจึงรีบเอ่ยขอโทษทั้งคู่ทันที
“เธอไม่เห็นต้องขึ้นเสียงขนาดนั้นเลยนี่คาร่า
เป็นอะไรหรือเปล่า”อเล็กซาถามอย่างเป็นห่วง
“ฉัน…ฉันขอตัวก่อนนะ”คาร่าเอ่ยพร้อมก้มหน้าก้มตาเก็บของบนโต๊ะใส่กระเป๋าก่อนจะรีบเดินออกไป
ทิ้งให้อเล็กซาและไบรอันหันไปมองตามเธออย่างไม่เข้าใจ
คาร่าเดินกระแทกเท้าไปตามโถงทางเดินจนนักเรียนที่เดินอยู่นั้นมองกันเป็นแถบๆ
แต่เธอก็ไม่ได้สนใจพวกเขาเท่าไหร่นัก มือเล็กโอบอุ้มหนังสือบนอกแน่นโดยไม่รู้ตัว
เธอสะบัดหัวไล่ความคิดและความรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับโอลิเวอร์ออก
คาร่าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกไม่ดีกับเขา
คาร่าทึ้งหัวตัวเองอย่างอารมณ์เสีย
รู้ตัวอีกทีขาเจ้ากรรมก็พาเธอมาถึงสนามควิดดิช
คาร่าตีหน้าตัวเองอย่างแรงนึกได้ไงถึงเดินมาที่นี่เนี่ย
พอนึกถึงหน้าของโอลิเวอร์ก็ดันนึกถึงควิดคิชซะได้คาร่าวางของทุกอย่างบนที่นั่งอย่างไม่แยแสว่ามันจะกระจายไปตรงไหนบ้าง
เธอไม่รู้หรอกว่าหน้าของตัวเองตอนนี้เป็นอย่างไรแต่เดาว่ามันคงบูดมากแน่ๆ
ว่าแล้วก็ตบหน้าตัวเองไปอีกที แล้วก็อีกที
“โว้ๆ
ทำแบบนั้นเดี๋ยวแก้มก็ช้ำหรอก”เสียงคุ้นเคยของโอลิเวอร์ห้ามปรามพร้อมกับคว้าข้อมือของเธอไว้
ดวงตาสีน้ำตาลตวัดสายตามองเด็กชายในชุดควิดดิชประจำทีมกริฟฟินดอร์อย่างขุ่นเคือง
“ไม่ต้องมายุ่งน่า!”คาร่ากระแทกเสียงใส่เขาอย่างไม่รู้ตัวทำเอาเธอปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน
“เป็นอะไรไปคาร่า”โอลิเวอร์ว่าพลางเก็บกองหนังสือและเศษกระดาษที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ
“มะ…ไม่ได้เป็นอะไร”คาร่าตอบอย่างตะกุกตะกักเธอไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร
รู้แค่ว่ากำลังรู้สึกไม่พอใจคนตรงหน้าก็เท่านั้น
“เฮ้! เธอสามารถบอกฉันได้ทุกเรื่องนะคาร่า”โอลิเวอร์นั่งลงข้างๆเธอพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือของคาร่าแต่เธอกลับชักมือกลับเสียก่อน
“ไม่มีอะไรก็คือไม่ไงโอลิเวอร์”คาร่าพูดเสียงแข็ง
“ฉันไม่ชอบที่เธอเป็นแบบนี้นะคาร่า
เป็นอะไรก็บอกฉันสิ”โอลิเวอร์เปลี่ยนมานั่งคุกเข่าลงด้านหน้าเธอ
แววตาของเขาแสดงความเป็นห่วงเด็กหญิง คาร่ารับรู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอเพียงแต่ว่าเธอไม่รู้จะพูดออกไปยังไงก็เท่านั้นเอง
“อ่ะ…”คาร่าสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อนรวบรวมความกล้า
“ทำไมนายไม่บอกฉันเรื่องควิดดิชล่ะโอลิเวอร์
ทำไมนายไม่บอกว่านายเล่นตำแหน่งคีปเปอร์ ทำไมไม่บอกฉันล่ะว่านายจะได้ลงเล่นแมตช์นี้
ทำไมนายเอาแต่ไปซ้อมควิดดิช พอจะเข้าไปคุยกับนายทีไรนายก็เอาแต่ปฏิเสธแล้วก็ไปซ้อมตลอดเลยล่ะ”คาร่ากำมือตัวเองแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ
โอลิเวอร์เห็นท่าไม่ดีจึงใช้มือคลายมือของคาร่าออกส่วนมืออีกข้างก็ลูบที่ใบหน้าของเธอเบาๆ
“งอนเหรอ?
ขอโทษที่ทำให้งอนนะคาร่า”เมื่อได้ฟังโอลิเวอร์ก็หัวเราะเบาๆ
“ไม่ได้งอนสักหน่อย”คาร่าพองแก้มอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ถ้างอนก็บอกกันตรงๆก็ได้
ขอโทษที่ไม่ได้บอกเธอเรื่องนี้นะคาร่า ทีนี้ก็เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว”โอลิเวอร์ดึงแก้มทั้งสองข้างของคาร่า
“อันเอ็บอ๊ะ!”คาร่าพูดอู้อี้ไม่เป็นภาษา โอลิเวอร์หัวเราะออกมาจึงเลิกแกล้งคาร่า
เด็กหญิงลูบแก้มตัวเองป้อยๆ
“เจ็บไหม”โอลิเวอร์พลิกมาดูที่ฝ่ามือของคาร่า
รอยเล็บทั้งสี่จิกเข้าไปในเนื้อจนมีเลือดซึมออกมาเขาลูบที่ฝ่ามือของเธอเบาๆเพราะกลัวว่าเธอจะเจ็บ
“มะ…ไม่รู้สิ ฉันไม่รู้ตัวเลย”คาร่าตอบ
เธอไม่รู้แม้แต่น้อยว่ากำมือตัวเองแน่นขนาดไหน
“อย่างนั้นเหรอ
ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกล่ะคาร่า”โอลิเวอร์ลูบหัวของเธอเบาๆ “ฉันเป็นห่วง”
ใจของคาร่าเต้นรัว
ใบหน้าเริ่มเห่อร้อน เธอไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ยิ่งเวลาสบกับดวงตาสีน้ำตาลของเขาใจของคาร่าก็ยิ่งเต้นมากขึ้นกว่าเดิม
“รอฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยกลับพร้อมกันนะ”ฝ่ามือหนาลูบแก้มของเธออย่างอ่อนโยน โอลิเวอร์ลุกขึ้นยืนก่อนจะเก็บไม้กวาดแล้วหันมาส่งยิ้มให้เธอแล้วจึงเดินออกไป
คาร่าทิ้งตัวลงบนที่นอนพร้อมกับเอาหน้าจุ่มลงหมอนระบายความขวยเขินทั้งหมดลงไป
ใบหน้าของเด็กหญิงแดงซ่านพลางนึกถึงการกระทำของโอลิเวอร์ที่เพิ่งทำกับเธอไปเมื่อเย็นนี้
ระหว่างทางกลับปราสาทเธอก็เงียบตลอดส่วนโอลิเวอร์ก็จับมือเธอไปตลอดทางเช่นกัน
ส่วนเหตุผลที่เขาจับมือเธอก็เพราะว่าเป็นการไถ่โทษที่เขาไปทำให้เธอไม่พอใจในตัวเขา
คาร่าพลิกตัวกลับมานอนหงาย
ดวงตาสีน้ำตาลจ้องเพดานราวกับว่ามันดูน่าสนใจมากขนาดไหน
ในหัวก็มีแต่ภาพของโอลิเวอร์รวมถึงรอยยิ้มของเขา
ไม่ว่าจะเจอกันทีไรโอลิเวอร์ก็มักจะส่งยิ้มมาให้คาร่าอยู่เสมอ
ได้โปรด
อย่ายิ้มเรี่ยราดแบบนั้น
ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดออกเป็นอเล็กซานั่นเอง
เด็กหญิงผมสั้นโยนของทั้งหมดลงบนเตียงนอนก่อนจะวิ่งมาหาคาร่าด้วยความรวดเร็ว
อเล็กซาดึงตัวคาร่าให้ลุกขึ้นนั่งมือทั้งสองข้างหันหัวคาร่าซ้ายทีขวาทีเหมือนกำลังตรวจหาอะไรสักอย่าง
“เธอเป็นอะไรไปคาร่า
ฉันไม่เคยเห็นเธอหัวเสียขนาดนี้เลย”อเล็กซาพูดอย่างเป็นห่วง
“อะ…เอ่อ แค่อารมณ์แปรปรวนน่ะอเล็กซา ไม่มีอะไรหรอก”คาร่าตอบเพื่อให้เพื่อนสบายใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี”อเล็กซาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ”
“ว่าแต่
ฉันเห็นนะว่าเธอเดินมากับโอลิเวอร์น่ะ”อเล็กซาส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้คาร่า
พอได้ยินชื่อเขาใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมาทันที
“กะ…ก็แค่เดินมาด้วยกันเฉยๆ”เธอพูดอย่างตะกุกตะกักแต่อเล็กซากลับมองเธออย่างจับผิด
“แล้วทำไมต้องจับมือกันด้วยล่ะ”
“กะ…ก็แค่”คาร่าหลบตาไม่รู้ว่าจะตอบอเล็กซาอย่างไรดี “ก็แค่ ก็แค่”อเล็กซาพูดล้อเลียนคนตรงข้ามจนทำให้เธอยิ่งอายเข้าไปใหญ่
“เวลาเธอเป็นแบบนี้มันน่ารักจริงๆนะคาร่า”อเล็กซาล็อคคอคาร่าเบาๆก่อนจะหัวเราะคิกคัก
มือเล็กขยี้กลุ่มผมสีน้ำตาลของเพื่อนอย่างหมั่นเขี้ยว
“อะ…เอ๋?”คาร่าร้องอย่างงงๆ
“ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ
เธอก็นั่งคิดถึงวู้ดสุดที่รักของเธอไปก็แล้วกันนะ คิกๆ”อเล็กซาหัวเราะลั่นโดยไม่ลืมพาดพิงถึงโอลิเวอร์จนคนถูกล้อถึงกับก้มหน้างุดกับหมอนด้วยความอาย
อีกไม่กี่วันก็จะถึงการแข่งขันควิดดิชประจำฤดูกาลของฮอกวอตส์แต่ละบ้านต่างซ้อมอย่างเต็มที่
อย่างบ้านเรเวนคลอถึงแม้ริชาร์ดจะเป็นถึงพรีเฟ็คแต่เขาก็ยังคงไม่ละเลยหน้าที่การเป็นกัปตันทีมควิดดิช
ไบรอันที่ชอบไปสังเกตการณ์แต่ละบ้านซ้อมควิดดิชก็มักจะมาเล่าให้เธอฟังว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้
ส่วนโอลิเวอร์เขาก็ยังคงหาเวลามาคุยเล่นกับเธอบ้างเป็นครั้งคราวแต่ส่วนใหญ่คาร่าจะถูกไบรอันลากไปสนามควิดดิชเพื่อสังเกตการณ์ทีมตรงข้ามนั่นจึงทำให้เธอได้คุยกับโอลิเวอร์ไปโดยปริยาย
“ทำไมนายถึงได้ชอบมาสังเกตการณ์ทีมอื่นบ่อยจังไบรอัน”คาร่านั่งมองเพื่อนสนิทของตนเองที่กำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองทีมกริฟฟินดอร์สลับกับการจดอะไรสักอย่างในสมุด
“แหม่
จะถึงวันแข่งทั้งทีมันต้องศึกษากลยุทธ์ฝ่ายตรงข้ามสักหน่อย”ไบรอันหันมายกนิ้วโป้งให้คาร่า
เด็กหญิงกลอกตาอย่างหน่ายใจ จะมาก็มาคนเดียวสิทำไมต้องลากเธอออกมาด้วย
“ศึกษาอะไรนะ นอร์แมน”
“เฮ้ย!! วู้ด!!”ไบรอันสะดุ้งโหยงเมื่อมือของโอลิเวอร์วางแหมะบ่นไหล่ของเขา
เจ้าตัวยิ้มเหี้ยมเกรียมใส่เด็กชายสวมแว่น
ไบรอันรีบซ่อนสมุดและกล้องส่องทางไกลไว้ด้านหลังอย่างไว
“วันนี้อากาศดีเนอะ”ไบรอันรีบเปลี่ยนเรื่องสายตาเลิ่กลั่กไปมาเมื่อตัวเองถูกจับได้
โอลิเวอร์ในชุดนักกีฬามองหน้าไบรอันพร้อมส่งยิ้มที่เขาไม่คิดว่ามันเป็นมิตรสักนิดเดียว
เด็กชายส่งสายตาขอความช่วยเหลือกับคาร่าที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก
เธอเอียงคอมองเขาเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มมาให้เป็นเชิงบอกว่า ‘ช่วยเหลือตัวเองไปก่อนก็แล้วกันนะ’ แล้วจากนั้นก็หันไปอ่านหนังสือต่อ
“ก็ดีนอร์แมน
ลมกำลังพอดีเหมาะกับการซ้อม”โอลิเวอร์เท้าเอวพร้อมกับหันไปมองรอบๆ
ซ้อมฉันแหงๆ
ไบรอันคิดในใจ
“นายยังไม่ได้ตอบคำถามฉันนะ
แล้วสิ่งที่นายซ่อนไว้อยู่ข้างหลังนั่นคืออะไร”
“อะไร เปล๊า! ก็แค่ของทำรายงานนิดๆหน่อยๆน่ะ”ไบรอันพยายามใช้สกิลการแถอันน้อยนิดของตัวเองบอกกับโอลิเวอร์
แต่เดาว่าเขาคงไม่เชื่อแน่ๆ
“ไม่ยักรู้ว่ากล้องส่องทางไกลเป็นสิ่งจำเป็นในการทำรายงานด้วยแฮะ”
“ก็แค่เอามาดูพวกนายซ้อมควิดดิชเฉยๆ
ไม่มีอะไรจริงจริ๊ง!!”ไบรอันพูดเสียงแหลมปรี๊ด
“งั้นก็โล่งอกไปที คิดว่านายจะแอบมาสังเกตวิธีการเล่นของพวกเราซะอีก”โอลิเวอร์ส่งสายตาจับผิดไปให้ไบรอันจนทำให้เจ้าตัวขนลุกซู่
“งั้นฉันจะไปนั่งดูทางนั้นนะ
นายก็นั่งคุยกับคาร่าไปนะ แล้วเจอกัน”ไบรอันพูดด้วยความรวดเร็วก่นจะรีบเก็บข้าวของแล้ววิ่งไปอีกฝั่งของอัฒจันทร์ทันที
“เพื่อนเธอนี่ดูออกง่ายชะมัด
ไม่บอกก็รู้ว่ามาสอดแนมพวกฉัน”โอลิเวอร์หัวเราะหึๆในลำคอแล้วเดินมานั่งลงข้างๆคาร่าที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่
“นายก็ดูสนุกดีนี่ตอนพยายามต้อนไบรอันน่ะ”คาร่าพูดทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากหนังสือ
“รู้ด้วยเหรอ”โอลิเวอร์หันมายิ้มให้เธอ คาร่าหันไปมองเขาแวบหนึ่งก่อนจะเกิดภาพในหัวทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่เธอไประบายกับโอลิเวอร์
สายตาอ่อนโยน คำพูดที่แสดงถึงความเป็นห่วงของเขาจู่ๆเธอก็เกิดนึกถึงมัน
คาร่าเงียบไปและไม่ตอบคำถามของโอลิเวอร์
“วันนี้ฉันซ้อมหนักมาก
เหนื่อยจังเลย”โอลิเวอร์เอนหัวมาซบไหล่คาร่า เด็กหญิงสะดุ้งทันทีเมื่อหัวของเขาวางแหมะบนไหล่เธอ
คาร่ากระเถิบตัวออกห่างจากโอลิเวอร์ราวสามเมตรด้วยความรวดเร็วก่อนจะปล่อยให้หัวของโอลิเวอร์โขกกับพื้นที่นั่ง
“อูย…เดี๋ยวสิคาร่า”เขาจับหัวของตัวเองก่อนจะลูบมันเบาๆ
คาร่ายกหนังสือปิดหน้าเพื่อไม่ให้เขาเห็นใบหน้าที่กำลังขึ้นสีระเรื่อของเธอ
“ยะ…อย่าเข้ามาใกล้นะ”คาร่าพูดทั้งที่ยังเอาหนังสือปิดหน้า
หางตาเหลือบไปเห็นโอลิเวอร์ที่กำลังเดินมาหาเธอ
“ทำไมเธอต้องตกใจฉันด้วยล่ะ
ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย”เด็กชายยกมือทั้งสองข้างขึ้นพร้อมกับสาวเท้าเข้ามาใกล้ๆคาร่า
“คะ…แค่ตกใจนิดหน่อยเอง”คาร่าตอบเสียงสั่น
ตอนนี้เธอตอบไม่ถูกว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไงกันแน่
“ไม่นิดหน่อยแล้วมั้ง”โอลิเวอร์นั่งลงข้างๆคาร่า เขาหยิบหนังสือเล่มหนาที่เธอใช้ปิดหน้าของตัวเองออกแต่คาร่ากลับเอามือขึ้นมาปิดหน้าอย่างรวดเร็ว
โอลิเวอร์หัวเราะอยู่ในลำคอคาร่ารู้ว่าโอลิเวอร์กำลังรู้สึกสนุกกับการได้แกล้งเธอ
“ก็นายชอบแกล้งฉันนี่”
“ไม่ได้แกล้งสักหน่อย
ฮึ”โอลิเวอร์ขยับตัวเข้าไปใกล้คาร่าพร้อมกับใช้แขนโอบไหล่ให้เธอเข้ามาใกล้ชิดเขามากกว่าเดิม
ใจของคาร่าเต้นตุบๆจนแทบจะระเบิดออกมา
หัวของเธอซบกับไหล่ของโอลิเวอร์อย่างช่วยไม่ได้
ถึงแม้อยากจะขยับหนีสักเท่าไหร่แต่เหมือนมือของโอลิเวอร์จะยิ่งโอบเธอแน่นกว่าเดิม
“เนี่ยนะที่นายว่าไม่ได้แกล้งน่ะ”
“ไม่ได้แกล้ง
จงใจต่างหาก”โอลิเวอร์หันมาส่งยิ้มที่ ‘โคตร’ จะอ่อนโยนมาให้เธอ
แม่เจ้า
บอกแล้วไงอย่ายิ้มพร่ำเพรื่อ!
คาร่าได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อและปล่อยให้เขาโอบไหล่เธออยู่อย่างนั้น
หนำซ้ำโอลิเวอร์ยังเอนหัวมาพิงกับหัวของเธอแล้วหลับตาลงอีก
คาร่ารีบกวาดสายตามองหาไบรอันว่าเขาอยู่ที่ไหนจนไปหยุดอยู่ฝั่งตรงข้ามที่เธอและโอลิเวอร์กำลังนั่งอยู่
เขากำลังใช้กล้องส่องทางไกลส่องมาที่พวกเธอก่อนจะยกนิ้วโป้งและส่งยิ้มร้ายกาจมาให้เธอ
คาร่าเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
มือนึกอยากจะโยนหนังสือไปโดนให้หัวแตกแล้วพักฟื้นในห้องพยาบาลสักสองสามวัน แต่ไบรอันทำท่ารูดซิปปากเหมือนกับส่งซิกว่าเขาจะไม่บอกใคร
คาร่าถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเพราะเธอไม่ได้เป็นนางมารทำร้ายเพื่อน
“เอ่อ…โอลิเวอร์”คาร่ารวบรวมความกล้าเรียกชื่อเขา
“อะไรเหรอ”โอลิเวอร์พูดทั้งที่ยังหลับตา
“ช่วยปล่อยฉันก่อนได้ไหม”
“ขออยู่แบบนี้สักพักนะ
ได้ไหมคาร่า”โอลิเวอร์พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ใจของคาร่าเต้นตึกตักแทบระเบิดเมื่อเขาพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้น
“อะ…แล้วแต่นายเลย”ถ้าขืนเธอปฏิเสธไปโอลิเวอร์ก็คงจะรั้นไม่ยอมปล่อยเธอแน่ๆ
“นี่คาร่า”โอลิเวอร์เอาหัวออก เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นมามองคนตัวสูงกว่า “วันแข่ง เธอจะมาดูฉันไหม”
“เอ๋? อ่า…ไม่รู้สิ”คาร่าตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นักเพราะเธอไม่ชอบดูกีฬาเท่าไหร่
“แต่ฉันอยากให้เธอมาดูนะ
เพราะมันเป็นการลงสนามครั้งแรกของฉัน”โอลิเวอร์เลิกโอบเธอพร้อมกับหันมามองคาร่าด้วยสายตาจริงจัง
“ฉัน…”
“ฉันอยากให้เธอไปดูจริงๆนะ”
อ้อยขนาดนี้แล้วจะให้ตอบว่ายังไง
คาร่าคิดอยู่พักหนึ่ง
“อืม ฉันจะไปนะ”เมื่อได้ยินคำตอบโอลิเวอร์ถึงกับยิ้ม เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบไม้กวาดขึ้นมา
“แล้วจะรอนะ”โอลิเวอร์พูดอย่างร่าเริงก่อนจะรีบวิ่งออกไปทันที
TALK 4/05/2019
นี่พี่แก....อะไรมันจะอ่อนโยนจนาดนี้คะขุ่นพรี่ น้อนคนนี้ใจบางไปหมดแล้วค่าาาาาา ขายอ้อยเก่งที่บ้านทำสวนอ้อยเหรอคะ รู้สึกสนุกดีเวลาเขียนตัวละครให้มีความอารมณ์แปรปรวน ค้ากกกก เหมือนเป็นความย้อนแย้งเล็กๆน้อยๆแต่คงมีน้องคาร่าคนเดียวล่ะมั้งคะที่อารมณ์แปรปรวนแบบนี้ แค่กๆ เดี๋ยวไรต์ก็จะเปิดเทอมแล้วแต่ช่างมันปะไร ก็แค่เปิดเทอมเอ๊งงงงง รักรีดทุกคนและรีดก็ต้องรักไรต์กลับด้วยนะคะ ชุบๆ
#KAZEKUNG
1 เม้น = ล้านกำลังใจ
ความคิดเห็น