ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -(: ตัวสวย – ตัวหล่อ :)- [YUNJAE]

    ลำดับตอนที่ #38 : Part [18.] : { แรงโน้มถ่วงแนวราบ }

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.28K
      8
      19 เม.ย. 55


    -(: ตัวสวย - ตัวหล่อ :)-

    { แรงโน้มถ่วงแนวราบ }



     

                ถ้าไม่ใช่เพราะกติกาของบัดดี้กำหนดไว้ว่า ถ้าบัดดี้คนหนึ่งหายไป อีกคนจะต้องโดนลงโทษล่ะก็

                จุนซูสาบานได้ว่าเขาจะไม่มานั่งกินข้าวต้มรอบดึกในที่ที่มีปาร์คยูชอนอยู่ข้างๆ ตรงนี้แน่ !

                หลังจากหมดช่วงเวลาของกิจกรรมวันแรก แจจุงก็พา –ชองยุนโฮที่แอบหลับบนสนามหญ้าตอนดูดาว ชองยุนโฮที่แอบงีบบนก้อนหินตอนกิจกรรมนั่งสมาธิในป่าลึก- มานั่งกินข้าวต้มรอบดึกกับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้เจอกันมาตลอดทั้งวัน

                เพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาอัธยาศัย แจจุงจึงได้ทีชวนชางมินกับจุนซูมานั่งล้อมวงกินข้าวก่อนนอนด้วยกัน และแน่นอนว่า เป็นยูชอนเองที่ลากเหล่าผองเพื่อนที่เหลืออย่างมินโฮและยงฮวามาร่วมแจมด้วย

                และดวงตากลมก็มีอันได้ตกใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน

                หลังจากที่ได้ขำไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อตอนกลางวันเพราะพบว่าคู่บัดดี้ของจุนซูไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน หากแต่กลับเป็นรุ่นพี่ยูชอนที่เจ้าตัวตั้งตัวเป็นอริเสียเต็มประดา ใบหน้าสวยก็มีอันต้องแสดงสีหน้าประหลาดใจอีกครั้งเมื่อได้เห็นหน้าค่าตาของบัดดี้เพื่อนรักตัวสูงของเขา

                เด็กน้อยหน้าตาท่าทางยโส ที่แสนคุ้นตาคนนี้ไม่ต้องแนะนำแจจุงก็รู้จัก

              บัดดี้ของชางมินคือ ปาร์คฮยอนชอล

                เด็กนั่นหันมาสบตากลมทันทีที่เห็นแจจุง เขายักคิ้ว แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ทันที และแจจุงก็ได้แต่ฮึดฮัดทำหน้าเหมือนแมวขู่กลับไป ชางมินมองมาแล้วก็ยิ้มนิดๆ ก่อนจะส่ายหน้า

                แจจุงขมวดคิ้วพลางนึกในใจ ชางมินโชคร้ายชะมัดเลยนะเนี่ยได้อยู่กับเด็กดื้ออย่างนี้!

                 เรื่องที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าแต่ทำให้แจจุงยิ้มได้ก็คือ บัดดี้ของรุ่นพี่มินโฮไม่ใช่ใครที่ไหนอีกเหมือนกัน

                แต่เป็น อิมซูจอง รุ่นน้องที่แสนน่ารักของแจจุงเองนั่นเอง > _ <

                “โว้ มินโฮ บัดดี้มึงน่ารักสัดเลย” ยงฮวาว่า จ้องมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กท่าทางไร้เดียงสาตาไม่กะพริบ ยูชอนเองก็เหมือนกัน ล้อเลียนไม่หยุดเลย “อย่าคิดกินเด็กนะมึง ฮ่าๆ”

                “เชี่ย กูไม่อกุศลเว้ย” ตอกกลับหูเหอแดงเถือก รู้สึกเสียเซลฟ์สุดๆ ในขณะที่ซูจองได้แต่ยิ้มบางๆ

    อย่างที่ทุกคนเห็นตรงกันเลยว่า

     

              น่าร้ากกก

     

                สรุปได้ว่า ในวงสนทนาข้าวต้มปลาเล็กๆ นี้ ประกอบไปด้วย แจจุง-ยุนโฮ ยูชอน-จุนซู ชางมิน-น้องคารัม รุ่นพี่มินโฮ-น้องซูจอง และรุ่นพี่ยงฮวาที่ไม่มีคู่ เพราะต้องเป็นสตาฟฟ์หลักในการจัดค่าย ใส่เสื้อสีดำตลอดทริปไม่ต้องร่วมกิจกรรมใดๆ  ตัวสวยของทุกคนยิ้มแป้นที่ได้เห็นทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า แม้จะรู้สึกว่าน้องซูจองเกร็งแปลกๆ นิดหน่อยเมื่อนั่งใกล้คารัมก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรนักเพราะมัวแต่ตื่นเต้นอยู่

                “ซูจอง โชคดีจังได้บัดดี้กับคนรู้จักนะ พี่ยุนโฮ นี่ไงน้องซูจอง น้องแจจุง” หันไปแจ้วๆ ใส่คนที่กำลังเขี่ยข้าวในข้าวต้มขึ้นมากินอยู่ ยุนโฮอมยิ้มนิดๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แจจุงขมวดคิ้ว

                “ยิ้มไรเนี่ย ไม่น่าไว้ใจ”

                “เปล่า กินอยู่”

                “บอกมา ยิ้มไร น้องแจจุงน่ารักใช่ไหมล่ะ ชอบอ่ะดิ”

                “หึ อืม น่ารักดิ” ยุนโฮหลุดขำแล้วก็ยิ้มออกมาอีก ท่าทางและคำพูดที่ได้ยินที่ทำเอาเด็กสาวถึงกับแก้มแดงออกมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

    “เป็นไงล่า” ทำหน้าอวดในขณะที่ยุนโฮเงยหน้าขึ้นมาตอบชัดๆ อีกที

    “น้องแจจุงอ่ะ น่ารักอยู่แล้ว”

     

    = _ =

    มุขนี้มาอีกละ !

    คนกำลังยิ้มแย้มทำแก้มพองขึ้นมาทันที ก่อนจะหรี่ตา หน้าตาบ่งบอกชัดว่าเริ่มงอน “ก็บอกว่าแจจุงหมายถึงซูจอง”

    “อ้าวหรอ ก็ไม่รู้นี่ เห็นบอกน้องแจจุง” ยุนโฮทำหน้าเหรอหรา

    น่าหมั่นไส้จริงๆ!

    เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นรอบวงให้แจจุงเขินจนหน้าแดงเล่นๆ ในขณะที่คนเข้าใจผิดหน้าเจื่อนไปถนัดตา และคนที่สังเกตพฤติกรรมของหญิงสาวอยู่ตลอดเวลาก็ได้แต่หัวเราะในลำคอ

    หึ

    แววตาเยาะเย้ยถากถางที่กำลังทิ่มแทงเธออยู่ ทำให้ซูจองรู้สึกและรีบหันไปสบกับเจ้าของแววตานั้นอย่างรวดเร็ว เธอกัดปากรู้เหมือนโดนสบประมาทอย่างแรง โมโหนัก แต่เพราะอยู่ต่อหน้าทุกคนแบบนี้เลยพูดอะไรไม่ได้

    ปาร์คฮยอนชอลตัวร้ายนั่น

    แต่ก็นั่นแหละ นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น...

    ก็รู้นี่นาว่าคิมแจจุงน่ะซื่อขนาดไหน

    “อื้อ พี่ยุนโฮสวัสดีน้องเร็ว”

    เงยหน้าขึ้นมาแจ้วๆ ใส่ และเพราะไม่อยากให้ตัวสวยหน้ามุ่ยไปมากกว่านี้  ยุนโฮก็ตัดสินใจทักทายเด็กสาวที่คนตัวเล็กแนะนำด้วยประโยคที่เขาคิดว่ายาวที่สุดในชีวิต

    “สวัสดี”

    -* -

    พูดเสร็จก็หันไปกินข้าวต้มต่อ อร่อยดี

    ในขณะที่ยังงุ้งงิ้งกันไม่เลิก ฝั่งตัวน่ารักก็ทำท่าจะมีปัญหาขึ้นมาอีกระลอก เมื่อคนหน้ากลมเอ่ยทัก

    “เฮ้ คารัม”

    “หืม? ครับ” เด็กหน้าหยิ่งแต่น่ารักไม่เบาทำหน้าเหรอหรา เนื่องด้วยไม่เข้าใจว่ารุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนสนิทของคิมแจจุงผู้ซึ่งไม่ได้สนิทอะไรเลยกับเขาจะมีเรื่องอะไรถึงต้องเรียกกันแบบนี้ “นายน่ะ เป็นรูมเมทหอพักกับไอ้หมอนี่ใช่ไหม”

    นิ้วป้อมชี้ไปที่คนปากห้อยข้างกาย ปาร์คยูชอนทำหน้าเหวอ ซวยล่ะสิกู!

    และเมื่อนั้นแหละ ที่ปาร์คฮยอนชอลทำหน้าตึงของจริง

    ไหนตกลงกันว่าจะไม่บอกใครไงวะ !?

    รุ่นพี่นี่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ !

    ให้ตายเถอะมาเป็นญาติกันได้ยังไงเนี่ย !

    ยูชอนทำหน้าเจื่อน เมื่อเจอสายตาทิ่มแทงอย่างรุนแรงของญาติผู้น้องตวัดใส่ แฮ่ ก็อยากชวนตัวน่ารักคุยบ้างแต่เขาไม่มีท็อปปิคอะไรจะไปชวนสนทนานี่นา ตอนนั้นเห็นว่างๆ ปากเลยสว่างไปด้วย เผลอเล่าเรื่องตอนย้ายหอเปิดเทอมให้จุนซูฟังหมดเลยน่ะสิ

    ปาร์คขอโต้ดก๊าบ

    คารัมถอนหายใจ

    มองซ้ายมองขวา และเมื่อค้นพบว่าอันที่จริงก็ไม่รู้จะปิดไปทำไมเหมือนกัน เจ้าตัวถึงได้พยักหน้า แล้วตอบ “ครับ พอดีเป็นญาติห่างๆ กัน ผมจะขึ้นม.ปลายแล้ว กิจกรรมเยอะ ไปกลับบ้านบ่อยๆ คงไม่ไหว พ่อแม่เลยให้มาพักด้วยกันชั่วคราว”

    ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ขอแก้ตัวให้ตัวเองหน่อย ต้องมาเป็นรูมเมทกับจอมตลกรับประทาน ขี้เกียจ แถมยังซกมกอย่างนี้เนี่ย เขาก็ไม่ได้เต็มใจนักหรอกนะ!

    จุนซูพยักหน้าเข้าใจ แม้คนทั้งวงจะรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยที่พบว่าปาร์คฮยอนชอลกับยูชอนเป็นญาติห่างๆ กัน “งั้นนายคงสนิทกับหมอนี่สินะ”

    “อะ..” ยังไม่ทันจะตอบ เจ้าของเสียงใสก็ว่าต่อ

    “งั้นมาแลกบัดดี้กับพี่มั้ย”

     

    บางทีจุนซูก็คงไม่รู้...ว่าคำถามนั้นทำหัวใจใครบางคนสั่นไหวได้ง่ายๆ

     

    จุนซูกะพริบตาอ้อนวอนปิ๊งๆ พลางคิด – เอาวะ คู่กับไอ้บ้าชางมินก็ยังดีกว่าจอมกวนประสาทปาร์คยูชอนแหละน่า

    ในขณะที่คารัมผงะ เหวอ ไม่เอาอ่ะ!

    ชางมินหัวเราะขำท่าทางเจ้าเพื่อนตัวเล็ก ในขณะที่คารัมหัวเราะแหะๆ

    “เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ไม่ดีกว่า”

    “กร๊าก ไอ้ปาร์ค  ดูเหมือนจะมีแต่คนไม่อยากคู่กับแกว่ะ” ยงฮวากับมินโฮหัวเราะเอาเป็นเอาตาย ในขณะที่ยุนโฮได้แต่มองเจ้าเพื่อนตัวเปลี้ยแล้วไม่พูดอะไร

    “จุนซูนี่ล่ะก็ ใจร้ายจริงๆ เลย ไปพูดแบบนั้นได้ไง...อะ พี่ยูชอน” แจจุงที่อดจะเอ็ดเพื่อนตัวเล็กของตัวเองออกมาไม่ได้ ได้แต่ทำตาโตอีกรอบ เมื่อเห็นรุ่นพี่หน้าทะเล้นที่ไม่พูดอะไรตั้งแต่เมื่อกี้ จู่ๆ ก็เดินลุกขึ้น แล้วเดินออกจากวงไปซะเฉยๆ เสียอย่างนั้น

    “อ้าวเห้ย ยูชอน ไปไหนวะ”

    “กูง่วง”

    เขาตอบแค่นั้น

    ทั้งวงสนทนาเงียบไป ก่อนคนใจร้ายจะได้แต่นั่งตัวชาเมื่อประโยคต่อไปของคนหน้าทะเล้นดังถัดมา

    “โชคร้ายที่กฏของบัดดี้มันเปลี่ยนคู่ไม่ได้ พี่ก็ขี้เกียจโดนลงโทษ ... ยังไงก็ ... ทนอีกสักวันละกัน

    แล้วก็หันหลังเดินไปโดยที่ไม่พูดอะไรเยอะแยะเหมือนทุกที

    ท่าทีที่ทำให้คิมจุนซูได้แต่มองตามแล้วนึกโกรธตัวเองที่จู่ๆ ก็รู้สึกผิดขึ้นมา

     

     

    “ง่วง”

    ยุนโฮบ่นตาปรือๆ ในขณะที่ฟังตัวสวยร้อยแรงม้าเจื้อยแจ้วกับชางมินไม่หยุด ข้าวต้มหมดไปได้สักพักแล้ว และหลายๆ เต้นท์ก็เริ่มมีคนทยอยไปนอนกันแล้วด้วย ยงฮวาขอตัวไปพักก่อนใครเพื่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นมาเตรียมกิจกรรม ส่วนมินโฮเองก็บ่นง่วงแถมยังต้องพาซูจองไปส่งที่นอน เพราะกฏที่ว่าคู่บัดดี้ที่ได้คู่กันเป็นหญิงชาย ให้แยกกันนอนคนละเต้นท์นั่นเอง

    ทีแรกก็เลยเหลือแต่คู่ยุนโฮ-แจจุงกับชางมิน-คารัมที่เจ้าตัวเล็กยังติดจ้อกับเพื่อนตัวสูงไม่เสร็จ และคิมจุนซูที่อยู่ๆ ก็หงอยไปไม่ร่าเริงเหมือนทุกที แต่ก็แค่ไม่นานนัก เพราะจู่ๆ จุนซูก็บอกราตรีสวัสดิ์แจจุงกับชางมินแล้วรีบเดินกลับเต้นท์ไปเสียอย่างนั้น

    ซึ่งแจจุงก็คิดว่า บางที จุนซูก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไรนักหรอกนะ

     

    สุดท้ายก็เหลือแค่สี่คน

    ใบหน้าคมเอนลงซบกับลาดไหล่เล็กเบาๆ ให้คนน่ารักจอมไฮเปอร์รู้สึกตัว  แจจุงหันมามอง ทำตากลม “อ้อ ง่วงแล้วสิพี่ยุนโฮ ปะๆ ไปนอนก็ได้ งั้นแจจุงไปก่อนนะชางมิน เจอกันพรุ่งนี้”

    “ฝันดี แจจุง”

    “ฝันดี แจจุง” เสียงเล็กๆ ของเด็กน้อยที่พูดในประโยคเดียวกันกับเพื่อนรุ่นพี่ดังขึ้น และแจจุงก็ได้แต่มุ่ยปากกลับทันที “นายควรจะพูดว่า ฝันดี พี่แจจุงนะ! เจ้าเด็กน้อย”

    “ที่พี่ชางมินยังพูดเลย” คารัมอ้าง

    “ละทำไมทีชางมินนายถึงเรียกพี่เนี่ย” แก้มพองแล้ว

    “แบร่”

    “เรียนพี่แจจุงเดี๋ยวนี้นะ!> ^ < ว่าแล้วก็ดิ้นๆ ไปมา ท่าทางที่คารัมเห็นกี่ทีก็ขำ เขาไม่ฟัง แถมหยอกกลับ

    “อ๋อหรอ งั้นก็ราตรีสวัสดิ์นะคร้าบ พี่ยุนโฮ” หันไปทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่ร่างสูงที่กำลังทำตาปรือเอาหัวพิงตัวสวยแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งนั้นอยู่  ตาโตตวัดขวับทันที ก่อนจะหันไปอ้าปากกลมๆ พูดอะไรบางอย่างที่มีแต่ลมผ่านออกมาให้รุ่นน้องตัวแสบได้ฟัง

    ไม่-ต้อง-ยุ่ง-เลย   ทำปากกลม   รู้-ไว้-นะ-คน-นี้-น่ะ!

    เอานิ้วชี้ที่คนสะลืมสะลือ

    ก่อจะหันไปทำตาโตถมึงทึงใส่คนขี้กวน แล้วทำปากให้อ่านทีละคำ ชัดเจน

     

    ของ - พี่!

     

    คารัมหัวเราะเบาๆ

    ก่อนจะเขยิบตัวเข้าไปใกล้คนน่ารักแล้วกระซิบถ้อยคำบางอย่างข้างหูที่ทำเอาแจจุงถึงกับโกรธจนหน้าแดง

    “คนของแจจุง ผมไม่มีสิทธิ์ แต่ถ้าจีบติดมันก็เรื่องของผมล่ะนะ พี่แจจุง หึ”

    “เด็กบ้า!

    “ไม่อยากโดนแย่งก็ระวังๆ ไว้บ้าง”

    “พอเถอะน่า” ชางมินกลั้นหัวเราะ ในขณะที่กระตุกชายเสื้อของเด็กฉลาดแสนหยิ่งเป็นเชิงว่าให้ไปนอนได้แล้ว คารัมแลบลิ้นปลิ้นตาส่งท้าย ในขณะถูกลากกลับเต้นท์ไป แจจุงฮึดฮัดในลำคอ ก่อนแลบลิ้นส่งกลับไป

     

    สุดท้ายก็เหลือแค่สองคน

     จริงๆ เริ่มรู้สึกตั้งแต่เมื่อกี้แล้วล่ะว่าเหมือนมีอะไรหนักๆ มาพาดอยู่แถวๆ คอ แต่เพราะคุยกับชางมินแล้วก็เด็กน้อยคารัมนั่นอยู่ก็เลยไม่ได้พูด และทันทีที่บรรยากาศรอบข้างเงียบสงบ คนตาใสถึงได้หันมาสนใจมนุษย์ดาวอังคารตัวสูงที่ง่วงคอพับคออ่อนอยู่ข้างๆ เสียที

    “พี่ยุนโฮ”

    “.....”

    “หลับแล้วหรอ”

    “.....”

    “นี่ ตื่นนะ แจจุงอุ้มไปนอนที่เต้นท์ไม่ไหวนะ”

    ว่าแล้วก็ดึงหญ้าแถวๆ นั้นขึ้นมาหนึ่งอัน จัดการเอาใบเรียวๆ ไปแกว่งอยู่ใต้จมูกคนสะลึมสะลืออยู่อย่างนั้น ซักพัก จมูกโด่งก็ฟุดฟิด ก่อนจะหรี่ตาขึ้นจนได้ “อือ จะนอน”

    “จะนอนก็ลุกเร็ว ไปแปรงฟัน แล้วก็ไปนอนที่เต้นท์กัน”

    “ง่วง~” ลงทุนทำเสียงอ้อนก่อนจะหรี่ตาตี่ๆ ลงปิดสนิทอีกครั้ง มือใหญ่พาดเอวเล็ก กอดแน่นทั้งที่ยังนั่งอยู่บนสนามหญ้า ทำคนตัวเล็กหน้าแดงฉ่าไหม้เป็นกระทะร้อน ตากลมมองซ้ายขวา ก่อนจะพบว่าไม่มีคนอื่นอยู่แถวนี้แล้วก็ค่อยโล่งใจได้บ้าง

    “พี่ยุนโฮทำอะไรเนี่ย ! ลุกเลย”

    “อือ”

    “ไม่งั้นแจจุงงอนนะ!

     

    โอ้ย ให้ตายสิ!

     

     

     

    กว่าจะพากันมานอนที่เต้นท์ได้ก็ลำบากตัวสวยต้องทั้งดึงทั้งฟัดคนง่วงจัดอยู่หลายรอบ ก็รู้หรอกน่าว่าชองยุนโฮน่ะเด็กอนามัยใช่เล่น แถมวันนี้ทั้งวันยังถูกลากไปนู่นมานี่ตลอดคงช่วยไม่ได้ที่จะเพลียแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละ เล่นหลับตาไปแปรงฟันไป แถมต้องให้แจจุงจูงเป็นคุณหมีน้อยตลอดทางอย่างนี้ แจจุงก็เหนื่อยเหมือนกันนะ!

    กว่าจะเข้ามาในเต้นท์ได้แจจุงก็พบว่ามีคนนอนอยู่ก่อนแล้ว ก็คงจะเป็นฮยอนซึงกับชอนดุงนั่นแหละ แต่มืดๆ ก็เลยมองเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ รู้แต่ว่าตัวหล่อที่น่าจะง่วงสุดๆ ดันดึงแจจุงไปนอนริมสุดซะงั้น  ถึงจะสงสัยว่าพี่ยุนโฮน่าจะชอบนอนริมมากกว่าไม่ใช่เหรอไง แต่ด้วยเพราะความง่วงก็ทำให้คนน่ารักได้แต่ล้มตัวลงนอนโดยไม่คิดอะไร

    “อ่ะ ผ้าห่ม แจจุงเอามาด้วย”

    ทีแรกเขานึกว่าจะต้องเอาถุงนอนมาเลยเสียอีก แต่เพราะจุนซูบอกว่าเขามีเต้นท์ให้ แจจุงก็เลยเปลี่ยนมาขนผ้าห่มมาแทน ก็อากาศตอนกลางคืนกลางป่าแบบนี้หนาวไม่ใช่เล่น ขืนนอนตัวเปล่าคงแข็งตายกันพอดี

    “หนาวเหรอ”

    “อือ แต่ห่มก็หายหนาวแล้ว - พี่ยุนโฮไม่หนาวเหรอ” ตัวหล่อไม่ตอบ แต่มือเล็กก็จัดการดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้ ปากกลมบ่นเบาๆ ในความมืดทันที “โหย ตัวใหญ่อ่ะ กินผ้าห่มไปเกือบหมดเลย”

    ไม่ตอบอีกเหมือนเดิม แต่กลับยิ่งดึงผ้าห่มเข้าไปพันๆ ตัวเองจนแจจุงแทบไม่ได้ห่มเลยซะงั้น

    “เอ้ย ขโมยอ่ะ แบ่งมาให้แจจุงเดี๋ยวนี้เลยนะ!” อยากตะโกนเสียงดังแต่ก็ทำได้แค่กระซิบกระซาบ เพราะกลัวจะไปรบกวนน้องๆ อีกสองคนที่นอนอยู่ข้างๆ แม้แต่ในความมืด แจจุงก็ยังรู้สึกได้ว่ายุนโฮทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

    “หนาวเหรอ”

    ถามคำถามเดิมอีกที และคราวนี้แน่นอนว่าตัวสวยจะต้องตอบว่า...

    “ก็หนาวน่ะสิ ! นี่ เอาผ้าห่มมาเดี๋ยวนี้น่ะ”

    ยุนโฮยิ้มเงียบๆ แต่คิดว่าแจจุงคงไม่เห็น คนตัวใหญ่ขยับหนีบผ้าห่มเข้าพันตัวจนมิดอีกครั้ง ก่อนจะว่า “งั้นทำแบบนี้จะได้หายหนาว”

    แล้วก็...ทำท่าทางประกอบคำบรรยายโดยรวบตัวนิ่มๆ เข้าไปกอดแน่น

     v ’

    “อื้อ พี่ยุนโฮ!

    หัวกลมก้มงุดจมอก พูดจาอะไรเลยฟังไม่ได้ศัพท์เท่าไหร่ แต่ถ้ายุนโฮถามแจจุงอีกทีว่า หนาวเหรอรึเปล่าล่ะก็ สาบานได้เลยว่าเขาจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วก็ตะโกนดังๆ ใส่หน้าว่า ร้อนแล้ว!’ แน่ๆ

    จะทำให้เขินไปถึงไหนเนี่ย  งื้ออออออออออ

    “อุ่นรึยัง”

    ถามในขณะที่มือข้างหนึ่งโอวเอวบางหลวมๆ ส่วน อีกข้างก็ลูบเบาๆ บนศีรษะเล็ก ขยับให้วางสบายๆ บนอกกว้าง ก่อนจะเอาคางของตัวเองวางซ้อนลงไปอีกที

    ให้ตายเถอะ คิมแจจุงกำลังเขินจนพูดอะไรไม่ออก!

    ตัวนุ่มๆ ที่ไร้ซึ่งผ้าห่มพันกายแต่กำลังร้อนจนแทบระเบิดได้แต่นอนตัวนิ่ง รู้สึกเหมือนน้ำลายท่วมปากไปหมดจนไม่รู้จะพูดจะตอบคำถามออกมาอย่างไรดี คำถามง่ายๆ ... ที่ควานลิ้นยังไงก็หาคำตอบไม่เจอ

    “พี่ยุนโฮ กอดแจจุงแน่นเกินไปแล้วนะ ปล่อยเลย...” ประท้วงเบาๆ ออกมาแก้เขิน - ได้ผล ยุนโฮคลายอ้อมกอดออกนิดหน่อย แต่ไม่วายโอบหลวมๆ อยู่อย่างนั้น

    “.....”

    “ไม่ต้อง...น..นอนกอดตอนนอนก็ได้ ไม่ได้หนาวอะไรขนาดนั้น” ก็ขืนนอนท่านี้มีหวังเขาได้ตาสว่างถึงเช้าแน่น่ะสิ! แจจุงบอกตัวเองในใจ เขาพยายามจับมือใหญ่ออกจากเอว ในขณะที่ยุนโฮกลับฝืนเอาไว้แล้วก็กอดอยู่อย่างนั้น

    ท่าทางจะหน้ามุ่ยนิดนึงด้วย

    โอ้ย...ให้ตายเถอะ

    ขืนตื่นเช้ามาให้ใครมาเห็นสภาพนี้ล่ะก็อายเค้าตายแน่

    “นี่...ปล่อยสิพี่ยุนโฮ”

    “ก็อยากเอาออกนะ แต่มันเอาออกไม่ได้อะ” จู่ๆ เสียงทุ้มก็ตอบออกมาว่าอย่างงั้น แจจุงขมวดคิ้ว มีปัญหาอะไรอีกละ ! ตัวหล่อ!

    “ทำไม?”

    “โดนดึงไว้”

    “หา?”

    “แรงโน้มถ่วงแนวราบ...มันดึงมือพี่ไว้”

     

    โอ้ย เจ้ามนุษย์ดาวอังคาร !!! แถได้น่ารักเหลือเกินนะ

    ไม่ใช่สิ

    ดาวของพี่มันคงมีจริงๆ สินะ ไอ้แรงหงิงๆ บ้าบอทำเขินจะระเบิดตัวตายแบบเนี้ย !!

      

     

     

    ประเด็นก็คือจุนซูรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยที่ปาร์คยูชอนอยู่ๆ ก็ไม่พูดกับเขา

    คือ หงุดหงิดนิดหน่อยจริงๆ นะ

    ก็แค่ไม่พูด ไม่รอกลับเต้นท์ ก็เป็นบัดดี้กันนี่ มันก็ไม่ใช่การกระทำที่สมควรไม่ใช่เหรอ?

    คนร่างกลมที่อยู่ๆ ก็หมดอารมณ์เม้าท์ ตัดสินใจเดินกลับมาที่เต้นท์ เพื่อพบความจริงที่ว่าปาร์คยูชอนนอนคลุมโปงหลับไปแล้ว

    เขานอนพลิกหน้าไปอีกข้าง ทำสีหน้าเรียบนิ่งแบบที่จุนซูมองยังไงก็แฝงความน้อยใจ ไม่พอใจ หรืออะไรสักอย่างอยู่เต็มเปี่ยม ที่ปาร์คยูชอนผู้แสนร่าเริงคนนั้น...ไม่น่าจะทำหน้าแบบนี้ตอนนอนเลยสักนิด

    ต้นเหตุอาจเป็นเพราะเขาเอง

    ก็รู้ว่ามันออกจะแรงและทำร้ายความรู้สึกรุ่นพี่จอมกวนคนนี้ไปสักหน่อย จุนซูรู้ดีว่ายูชอนดีใจมากที่ได้บัดดี้คู่กับเขา ซึ่ง...ในความเป็นจริงเขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไรนักหรอก แต่แค่เห็นหน้าตาลันล้าของหมอนี่แล้วมันอดจะหมั่นไส้ไม่ได้จริงๆ แกล้งเขาหรือก็ที่หนึ่ง แถมยังชอบมาพูดจาสองแง่สองง่ามให้เขาเขินอีกต่างหาก

    นั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้เกลียดจริงจังสักหน่อย...

    จุนซูรู้อยู่แล้วว่าบัดดี้น่ะแลกไม่ได้หรอก ก็แค่อยากจะแกล้งเจ้าตัวเปลี้ยนี่ก็เท่านั้น

    แต่นึกไม่ถึง...ว่าจะถึงกับซึมไปจริงๆ

    และบางที เขาก็ต้องยอมรับว่าความกังวลใจทั้งหมดของตัวเองตอนนี้ มันล้วนมีสาเหตุมาจากคนที่กำลังงอนเขาจนนอนพลิกตัวไปอีกฝั่งแบบนี้จริงๆ

    ใช่ เขากังวลเพราะดูเหมือนปาร์คยูชอนจะกำลังโกรธเขา

     

    เพราะยูชอนบอกว่าชอบจุนซู

     

    และก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะว่า...

    บางที...เขาก็รู้สึกดีกับปฏิกิริยาเหล่านั้น

     

    ใบหน้ากลมเศร้าสร้อย นั่งทรุดตัวลงบนที่ว่างที่เหลืออยู่ ก่อนจะขยับมือเล็กไปดึงผ้าห่มเน่าๆ ของรุ่นพี่ขี้งอนขึ้นห่มให้อย่างรู้สึกผิด เขาเองก็คงรู้สึกแย่แน่ๆ ถ้ายูชอนที่ทะลึ่งทะเล้นกับเขาตลอดเวลาคนนั้นจู่ๆ จะมาทำเมินใส่กันแบบนี้ เขาก็แค่ล้อเล่น ทำไมต้องโกรธจริงจังด้วยนะ

    มันใช้ได้ที่ไหนกันนะ?  คนบ้า

    “ก็ไหนบอกว่าชอบกันยังไง...จะมางอนกันด้วยเรื่องแค่นี้ไม่ได้นะ”

    จุนซูพึมพำ ทำหน้าเศร้า

    รู้ทั้งรู้ว่าพูดไป เขาก็ไม่ได้ยิน แต่ก็คงจะมีแต่เวลานี้เท่านั้น...ที่จุนซูจะกล้าพูด

     

    “ขอโทษนะ ... พี่ยูชอน”

      

    “บิงโก!

     

    หืม?

    หน้ากลมที่เศร้าหมอง กับขอบตาเรียวชื้นน้ำตาเงยขึ้นเพื่อมองหาต้นเสียงแปลกๆ นั้นทันที ซ้ายขวาไม่เห็นใคร ก่อนจะพบเพียงก้อนผ้าห่มเน่าที่กำลังสั่นไหวระริกราวกับกำลังกลั้นหัวเราะอยู่เท่านั้น

    ให้ตายสิ นี่...

    ปาร์คยูชอนยังไม่หลับหรอกหรอ  บ้าจริง!

    “อ๊ะ ไอ้บ้า นายยังไม่นอนเหรอเนี่ย!” ทำหน้าตาเหรอหรา ในขณะที่กลืนบทดราม่าที่เตรียมเอาไว้ลงไปในคอหมดสิ้น จนเหลือแต่ความเหวอ เอ๋อ แล้วก็อายเท่านั้นแหละตอนนี้

    “คิก คิก” เสียงนั้นลอดออกมาใต้ผ้าห่มอีกครั้ง

    หนอยยยยยยยยยยยยยยยยย

    ทำหน้าแค้นเคือง ก่อนจะเผลอตวาดเสียงดัง

    “นี่ ตื่นมาคุยกันเดี๋ยวนี้เลยนะ!

    “ชู่วววววววววววววววววววว์” คนแกล้งหลับรีบพลิกตัวออกมาจากผ้าห่มก่อนจะกดเจ้านกหวีดตัวเล็กลงไปกับพื้นเต้นท์ทันที นิ้วชีเรียวแนบแช่ที่ริมฝีปาก หรี่ตามองคนรอบข้างที่โชคดียังหลับสนิทเหมือนเดิม ก่อนจะหันกลับมาสบตาคนตัวเล็กที่นอนทำหน้าน่ารักพูดอะไรไม่ออกอยู่ข้างๆ

    “เดี๋ยวก็ตื่นกันหมดหรอก”

    “ก...ก็นายนั่นแหละ ความผิดนาย นายหลอกฉันอ่ะ!

    “เปล่าหลอกน้า น้องจุนซู พี่ยูชอนก็แค่นอน แต่นอนไม่หลับเท่านั้นเอ๊ง” และจู่ๆ ... เจ้าของเสียงทุ้มที่เคยเงียบขรึมเมื่อสามชั่วโมงก่อนก็กลับมาเอ่ยเจื้อยแจ้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยซะอย่างนั้น เขายิ้มแป้น หน้าบาน

    “เรียกแบบตะกี้อีกทีสิ แหะๆ”

    “เรียกบ้าอะไร” เอาล่ะ คิมจุนซูโหมดโหดกลับมาแล้ว!

    “พี่ยูชอนนนน  อ่ะ”

    “ฝันปะ!

    “ผมขอโทษษษษษ” ล้อเลียนอีก ตายซะ!

    “ปาร์คยูชอน!

    “จ้ะ น้องจุนซู”

    จุนซูฉีกยิ้มเย็นในความมืด ก่อนจะกระซิบเสียงเบาหวิวปล่อยเพียงลมออกมาทางริมฝีปากให้คนเจ้าเล่ห์ได้ฟังชัดๆ

    “ตายซะเถอะ ปาร์คยูชอน!

     

    XDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDDD

     

     

     

     

    “แล้วพี่ยุนโฮอ่ะเอาตัวสวยตัวน้อยมาไหม?” หลังจากที่นอนกอดกันกลมเป็นดักแด้ แจจุงก็ได้แต่นอนตัวเกร็งอยู่ในอ้อมอกแข็งแรงอย่างนั้น  ไม่หือไม่อือ ไม่บ่นไม่มีงอแงใดๆ ทั้งสิ้นเพราะรู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาวะพร้อมระเบิดทุกเมื่อ และเมื่อเป็นแบบนี้ ก็เลยทำอะไรไม่ได้นอกจากชวนตัวหล่อคุยไปเรื่อยๆ เอาเถอะ ก็แจจุงไม่ง่วงนี่นา ตาค้างแล้ว พี่ยุนโฮมารับผิดชอบเลยนะ!

    “เอามา” เสียงทุ้มเบาลง แจจุงเดาว่าคงเริ่มง่วงอีกรอบแล้วแน่ เมื่อกี้แปรงฟันล้างหน้าตัวหล่อก็เลยฟื้นขึ้นมาช่วงหนึ่ง แต่ก็รู้ว่าเดี๋ยวก็ง่วงอีก ไม่รู้จะทำอะไร สุดท้ายก็เลยได้แต่ขยับมือวางบนเอวหนา ก่อนจะออกแรงกอดเบาๆ ตอบกลับไป

    “แต๊ะอั๋ง”

    นี่ ปากดีจริง!

    “แรงโน้มถ่วงแนวราบต่างหากเล่า! เอากะเค้าบ้างสิ

    ยุนโฮยิ้มเงียบ หัวเราะเบาๆ ในลำคอ หลับตาสนิท ก่อนจะพึมพำเสียงเบา “แล้วตัวสวยล่ะ เอาตัวหล่อมาไหม”

                “เอามาสิ นี่ไง” ว่าแล้วก็หยิบเจ้าตุ๊กตาตัวน้อยผุดจากแขนเสื้อขึ้นมาให้ดู มันถูกวางอยู่ระหว่างอกของแจจุงกับพี่ยุนโฮพอดี และถ้าแจจุงไม่ได้ตาฝาด เขาเห็นยุนโฮยิ้ม

                ในความมืดที่แทบมองอะไรไม่เห็นนี่แหละ...

                “หรอ งั้นตัวหล่อ ฝากนี่หน่อย”

                “หืม อะไรน่ะ?”

                ไม่ทันได้มองว่าพี่ยุนโฮขยับมือเอาอะไรแขวนใส่คอตัวหล่อ เพราะมันมืดมากจนแจจุงได้แต่คลำๆ เอา เหมือนสร้อยข้อมือหรืออะไรสักอย่าง? ที่พอเอาไปแขวนกับตุ๊กตาก็เลยเหมือนสร้อยคอของเจ้าตัวหล่อตัวน้อยไปเสียอย่างนั้น ด้วยความสงสัย คนตากลมจึงตัดสินใจถามไป

                “อะไรอ่ะพี่ยุนโฮ”

                แต่ก็มีแต่ความเงียบเท่านั้นที่เป็นคำตอบ

                “.....”

                “พี่ยุนโฮ”

               

                ฟี้~

     

                เสียงพรูลมเบาๆ ออกจากปากนั้นทำเอาแจจุงเหวอ

                เฮ้ หลับกลางอากาศกันง่ายๆ อย่างนี้เลยหรอ!

                ตากลมได้แต่กะพริบปริบๆ หลังจากนั้นก็ได้ยินแต่เสียงแมงหวี่แมงอะไรข้างนอกเต้นท์นั้นอย่างเดียวแล้ว เงียบไปนานจนรู้สึกได้เลยว่าคราวนี้หลับจริงไม่ได้ล้อเล่นแน่ๆ ท่าทางที่ทำเอาแจจุงได้แต่ถอนหายใจ มองสภาพมือตุ๊กแกที่กอดตัวเองแน่น  กับตัวหล่อตัวน้อยที่โดนเจ้าตัวใหญ่สวมอะไรเข้าให้ที่ห้อก็ไม่รู้แล้วก็ได้แต่นอนนิ่ง ตัวนิ่ม ตัวแดงอยู่คนเดียว

     

     

              หวี่ หวี่ หวี่

     

     

                ก็น่าจะพักใหญ่อยู่เหมือนกันล่ะที่แจจุงได้แต่นอนตาค้าง

                ตัวก็เกร็ง หน้าก็แดงไม่เลิก คงผ่านไปครึ่งชั่วโมงได้แล้ว ชองยุนโฮหลับสนิท ไม่มีแม้แต่เสียงขยับตัวซักแอะ ในขณะที่ตัวสวยในอ้อมกอดยังกะพริบตาปริบๆ อยากขยับแต่ก็ขยับไม่ได้อยู่ดี

                นับแกะหลายตัวแล้วนะเนี่ย โอ๊ย ! > _ <

                บ่นในใจแล้วก็ได้แต่นับต่อไป

    ตัวหล่อตัวที่ 1  ตัวหล่อตัวที่  2  ตัวหล่อตัวที่ 3  ตัวหล่อตัวที่ 4 …

    คืนนี้จะได้นอนมั้ยนะ!

    จนกระทั่ง...เสียงประหลาดเสียงหนึ่งดังขึ้น

     

                “งืม...”

                “....????....”

                “ต...สวย...”

                “....???”

              “ตัวอะไร...ทำไมสวยจัง”

              “.....”

              “ตัวสวย...กินข้าวให้ตรงเวลานะ”

              “.....”

              “คราวนี้...จะไม่ยอมให้นอนดึกแล้วจริงๆ ด้วย...”

              “.....”

              “ฝั...นดี...ตัวสวย”

     

    >________<

    สิ้นเสียงงึมงัมเบาๆ นั้น ในที่สุด บรรยากาศโดยรอบก็กลับมาสู่ความเงียบงันอีกครั้ง พร้อมกับหัวใจของคนตัวเล็ก ที่ดูท่าจะเงียบสงบลงไปพร้อมกัน

    แก้มใสอมยิ้มจนปวดไปหมด  ความตื่นเต้นที่ทำให้ตากลมตาค้างอยู่ตลอดเกือบหนึ่งชั่วโมงหายไปเป็นปลิดทิ้งราวกับเสกได้ จะเหลือก็แต่...ความรู้สึกคันยิบๆ ตรงอกข้างซ้าย ที่สุขจนไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดยังไงดีก็แค่นั้น

    และมันก็คงพอจะช่วยให้แจจุงนอนหลับได้แล้วล่ะ

    เฮ้อ

                ตัวหล่อนี่ละน้า~

     

              จุ๊บ

     

              ขยับปากแตะเบาๆ ลงบนอกอุ่น หวังในใจลึกๆ ให้สิ่งมีชีวิตแสนประหลาดที่กำลังกอดเขาเอาไว้แน่นนั้นนอนหลับฝันดีเช่นกัน

                “ฝันดีเหมือนกัน ตัวหล่อของตัวสวย”

     

                ^__^


    TBC.

    - - - - -


    TALK :

    อ๋อยยยยย มดขึ้นจอออ ง่ออออ
    แอบยืมวลีถ้าผมจีบติดก็สิทธิ์ของผมมาจากคุณแพร wannabezz ฮ่าาาาา
    ตอนแรกว่าจะเปิดโอนตัวสวย ฯ แต่จู่ๆ คอนจุนก็ฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาซะงั้น คงยังไม่มีตังค์กันล่ะซิ งั้นเลื่อนไปก่อนละกัน ง่อออออ

    ปล . อากาศร้อน ตับ จะ แตก แง้ง !


    แจ้งข่าว

    นี่เพจค่ะ , ใครอยากได้รวมเล่มตัวสวยฯ ช่วยเข้าไปตอบแบบสำรวจหน่อยนะคะ
    กำลังดูว่ามีคนอยากได้ประมาณกี่เล่มค่ะ ช่วยหน่อยน้า
    http://www.facebook.com/Kyokoong

    นี่ลิิ้้งค์เพจเฟสบุ้คของเราค่ะ (ก็ลิ้งค์ตะกี้อ่ะแหละ)
    http://www.facebook.com/Kyokoong




    . ตอนที่แล้วขอบคุณผู้สนับสนุนทุกคนที่มาเม้นท์ให้นะคะ



    จะเที่ยงคืนแล้ว ฝันดีคนอ่านพร้อม - ( : ตัวสวย - ตัวหล่อ : ) - ค่ะ



    .

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×