ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    seven armor สงครามเจ็ดเกราะราชันย์

    ลำดับตอนที่ #2 : เกราะเกล็ดมังกร-2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8
      0
      24 เม.ย. 57

                    

                    อาคารหลักของสมาคมเวทรากแดงตั้ง อยู่ในชั้นบนของเมือง เป็นอาคารพาณิชย์ทรงสี่เหลี่ยม สูงสี่ชั้น ตัวตึกแบ่งเป็นช่วงหน้าและช่วงหลัง ช่วงหน้าชั้นแรกเป็นห้างร้านขายสินค้าประมงน้ำจืดหลายอย่าง ทั้งปลา กุ้ง หอย มีทั้งแบบสดและแช่แข็ง อีกสามชั้นเป็นห้องพักโรงแรมหรู ทุกห้องสามารถชมทิวทัศน์แม่น้ำโรบอครี ลดเลี้ยวไหลผ่านหุบเขา อันเป็นทิวทัศน์ขึ้นชื่อของเมืองนี้ ตึกช่วงหลังเป็นสำนักงาน ตัวอาคารเจาะผ่านลงมายังเมืองชั้นล่างเชื่อมต่อกับท่าเรือ

                    นายพลเบอร์ต้าสืบมาจนถึงหน้าอาคาร สองตาจับจ้องมองประตูหน้าของตัวตึกเขม็ง วันนี้ห้างร้านของสมาคมรากแดงล้วนไม่เปิดค้าขาย ดังนั้นประตูหน้าปิดสนิท ภายในตึกก็ไม่มีเงาผู้คน นายพลผู้นี้ไม่เห็นช่องทางในการเข้าตามตรอกออกทางประตู พานเงื้อมือกำหมัดขึ้นพลางโคจรพลังเวทจากวงจรเวทในร่างกายขึ้นจนเสื้อผ้าพองพัดพลิ้วคล้ายถูกกระแสลมพัด พลังเวทไหลรวมไปในที่หมัดข้างขวา ผิวหนังภายนอกเปลี่ยนไปเป็นสีโลหะ นายพลเบอร์ต้าพุ่งหมัดออกไปดุจกระสุน กระแทกบานประตูดังเคร้งเสียงดังคล้ายโลหะสองชิ้นกระทบกันอย่างหนักหน่วง ประตูเหล็กที่สูงกว่า 3 เมตรถูกกระแทกจนหลุดออกมาจากกรอบ ทั้งยังปลิวกระเด็นไปราวกับเป็นเศษไม้ชิ้นหนึ่งก็ไม่ปาน เสียงโครมเมื่อบานประตูปลิวไป กระแทกถูกตัวอาคารแตกเป็นโพรงใหญ่ เศษหินเศษปูนร่วงกราว

                    “ประธานสมาคมรากแดงอยู่ไหน รีบไสหัวออกมา!”นายพลเบอร์ต้าร้องตะโกนด้วยเสียงดังปานฟ้าผ่า  สองข้างฟากปรากฏคนของสมาคมเวทรากไม้แดงกรูออกมาจากด้านข้างตึก กระจายตัวออกตั้งแถวรายล้อมนายพลเบอร์ต้าเอาไว้ ชายวัยกลางคนไว้ผมยาวท่าทางสุขุมคนหนึ่งก้าวออกมาหน้ากลุ่มคน มองสำรวจนายพลเบอร์ต้าเที่ยวหนึ่งแล้วกล่าว

                    “ผมเป็นรองประธานสมาคม ชื่อทาเดโอ ทัฟรา ดูจากเครื่องแบบของท่านเหมือนเป็นคนของทางการ ไม่ทราบมีข้อขอร้องใดให้ทางสมาคมเวทเราช่วยเหลือ หากไม่รบกวนเกินไปโปรดแจ้งชื่อและตำแหน่งทางเราจะได้อำนวยความสะดวกต่อท่าน”

                    คำพูดที่กล่าวออกมาเต็มไปด้วยความเกรงอกเกรงใจ จะอย่างไรรองประธานสมาคมเวทรากแดงไม่ใช่ชนชั้นอันธพาลข้างถนน ย่อมรู้จักเบื้องสูงเบื้องต่ำ รู้จักมารยาทอยู่บ้าง

                    “เรียกรูท ซาชานัสออกมา บอกว่าพลโทเบอร์ต้า บาสไทล์มีเรื่องต้องคุยกับมัน”นายพลเบอร์ต้ากล่าวข้ามหน้าข้ามตาอีกฝ่าย

                    ทาเดโอได้ยินชื่อพลโทเบอร์ต้าถึงกับแทบร้องโพล่งอุทานออกมา เรื่องของเกราะเกล็ดมังกรตัวเขาก็ทราบดี หากคนของทางการสืบเสาะมาถึงที่นี่ย่อมแปลว่าความลับถูกเปิดเผยออกไปแล้ว สมาคมรากไม้แดงครอบครองสิ่งของที่จัดเป็น “อาวุธเวทในตำนาน” หากโกหกซึ่งๆ หน้า ผลสุดท้ายคงไม่พ้นถูกปิดสมาคม แต่ให้มอบออกไปย่อมทำไม่ได้ นั่นเพราะยมทูตดำผู้ที่จะรับช่วงเกราะเกล็ดมังกรได้มาถึงแล้ว

                    “ขออภัยที่ท่านประธานติดภารกิจสำคัญไม่อาจมาต้อนรับได้ด้วยตัวเอง รบกวนท่านนายพลนั่งรอที่ห้องรับรองของโรงแรมเราก่อน เราจะพยายามจัดคิวให้ท่านประธานมาพบท่านให้เร็วที่สุด” ทาเดโอตัดสินใจหาเรื่องถ่วงเวลา รอจนยมทูตดำรับของจากไป ค่อยโยนเผือกร้อนชิ้นนี้ให้ยมทูตดำรับต่อ

                     นายพลเบอร์ต้าไม่คิดต่อรองกับอีกฝ่าย พลันขยับร่างจู่โจมถึงเบื้องหน้าของอีกฝ่ายรวดเร็วปานลมกรด ทาเดโอไม่ทันตั้งรับก็ถูกมือที่เปลี่ยนเป็นสีเหล็กต่อยใส่ท้องจนตัวงอ ความเจ็บปวดยังไม่แล่นออกไปจากท้องก็ถูกคว้ากะโหลกยกร่างขึ้นลอยขึ้นราวยกตุ๊กตาตัวหนึ่ง นายพลเบอร์ต้าเหวี่ยงแขนจากบนลงล่าง กดศีรษะในมือกระแทกลงใส่พื้นดังปึง ทาเดโอหลั่งเลือดอาบขม่อม สมองลั่นอึงอลแทบไม่อาจประคองสติไว้ ส่วนที่เหลือพบเห็นการลงมืออันรุนแรงเฉียบขาดของนายพลเบอร์ต้า บังเกิดความระย่นระย่อ ไม่กล้าขยับเคลื่อนไหวแม้สักคนเดียว นายพลเบอร์ต้าก็ไม่ใส่ใจกับคนเหล่านั้น มือเปลี่ยนเป็นคว้าคอเสื้อของทาเดโอ ยกร่างที่อ่อนปวกเปียกนั้นขึ้นมา

                    “เกราะเกล็ดมังกรอยู่ที่ไหน”เขากล่าวกระซิบกับทาเดโอด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

                    ในขณะที่ทาเดโอถูกขู่ขวัญจนแทบสติแตก เสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้นด้านหลังของนายพลเบอร์ต้า

                    “อยู่ที่พวกเราเอง”

                    น้ำเสียงดังขึ้นพร้อมกับแรงกดดันอันมหาศาลจากการแผ่พลังเวทเวทออกมา แม้แต่นายพลเบอร์ต้ายังรู้สึกหายใจขัดข้อง เหล่าสมุนของสมาคมรากไม้แดงยิ่งไม่อาจทนทานรับได้ ต่างหน้าซีดเผือดร่างอ่อนระทวยล้มลงราวกับไม่มีกระดูก นายพลเบอร์ต้ารีบหันหลังกลับไปด้วยสัญชาตญาณของการเผชิญอันตราย

                    ที่หน้าประตูซึ่งถูกพังไปของตึกสมาคมรากไม้แดง ปรากฏชายชราเคราขาวยาวถึงเอวผู้หนึ่งยืนตระหง่านอยู่ แม้ว่าจะมีอายุเกือบแปดสิบปีแล้ว และตามผิวหนังก็เริ่มปรากฏร่องรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลา แต่หลังยังตั้งตรง ท่วงท่าห้าวหาญปานชายฉกรรจ์ นัยน์ตาทอประกายเจิดจ้าทรงพลัง ในมือถือลูกเหล็กสีดำสนิทสองลูก นายพลเบอร์ต้าจดจำชายชราผู้นี้ได้จากลูกเหล็กทั้งคู่นี้เอง

                    “ที่แท้เป็นเฒ่าเหล็กดำ ดันดีลัน แห่งกองทัพกบฏนี่เอง จมูกไวดีนี่”นายพลเบอร์ต้าพูดยั่วอย่างไม่สนใจความเป็นอาวุโสของอีกฝ่าย

                    “ปากดี! เดอะ เกียร์คิดครอบครองเกราะเกล็ดมังกรกลับส่งมาแค่ไอ้โง่คนนึง จะดูถูกพวกเราคาทูรันมากไปแล้ว!”ผู้เฒ่าตวาด

                    “หึ ใครดูถูกใครกันแน่ รอบเมืองนี้ถูกล้อมไว้ด้วยทหารของสภากลางหมดแล้ว พวกแกไม่มีทางเอาเกราะเกล็ดมังกรไปได้หรอก”นายพลเบอร์ต้ากล่าวเกทับ

                    ผู้เฒ่าดาดีลันไม่ตอบคำ เพียงชี้ไปทางเหนือเขื่อน เมื่อนายพลเบอร์ต้ามองตามไป ก็ต้องใจหายวูบ ในป่าเหนือเขื่อนมีควันไฟหลายสายพวยพุ่งขึ้นมา ตำแหน่งของควันไฟ ล้วนเป็นตำแหน่งที่ซุ่มทหารเอาไว้ทั้งสิ้น นายพลโทบังเกิดโทสะพุ่งพล่านขึ้น รีดเร้นพลังเวทเปลี่ยนมือทั้งสองข้างเป็นหมัดเหล็ก ต่อยเข้าใส่ผู้เฒ่านั้น

     

     ยมทูตดำเพ่งมองมายังทิศทางของเฟอร์น่าด้วยดวงตาเยือกเย็นอำมหิตปานสัตว์ร้าย รังสีอำมหิตแผ่พุ่งเข้ามา กดดันจนหญิงสาวแทบหายใจไม่ออก ขณะที่เขากำลังจะก้าวเดินออกไป ปลาตัวหนึ่งพลันกระโดนขึ้นมาเหนือน้ำ ทิ้งตัวลงแล้วว่ายน้ำหายลับไป ประกายอำมหิตหายวับไปจากดวงตาของยมทูตดำ บรรยากาศที่กดดันผู้คนค่อยเบาบางลง ชายชุดดำแค่นเสียงเย็นชา ก่อนกระโดดลงในเรือ แล้วแล่นเรือ จากไป

     เฟอร์น่านึกถึงว่าเบื้องนอกมีพวกฮุสซาร์ดักรอปล้นเรืออยู่ ในเรือกลับปรากฏจอมโหดเช่นชายชุดดำผู้นั้น หากพรรคพวกของเธอเข้าปล้นเรือคงไม่มีจุดจบที่ดี คิดแล้วต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความระทึกขวัญ รอจนเรือแล่นออกไปจนหายลับค่อยออกจากที่ซ่อนดำน้ำมุ่งออกยังยังเบื้องนอกด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่เธอจะทำได้

                    เรือยอร์ชพุ่งออกจากอุโมงค์แห่งหนึ่งใต้อาคารของสมาคมเวทรากแดงด้วยความเร็วเต็มพิกัด ขณะออกจากอุโมงค์มาสู่ท่าเรือเป็นทางบังคับต้องเลี้ยวขวา เรือยังไม่ยอมชะลอความเร็วลง ตีวงโค้งด้วยความเร็วสูงสุดจนน้ำสาดกระจาย

                    “มาแล้ว”ไกโดที่สายตาจดจ่ออยู่ในกล้องส่องทางไกลตลอดเวลาร้องตะโกนขึ้น

                    ฮุสซาร์ผุดลุกขึ้นเป็นคนแรก ให้สัญญาณว่า

                    “ทำตามแผน”

                    พูดจบก็ชักชวนสเตนกับไกโด กระโดดลงจากตู้คอนเทนเนอร์ วิ่งผ่ากลุ่มคนงานที่กำลังยกของจนเหล่าคนงานมือไม้ปั่นป่วน  ส่งเสียงด่าทอไล่หลังมา ยามท่าเรือเห็นท่าผิดปกติ รีบรุดวิ่งมา แต่ทั้งสามคนพลันทำสิ่งที่เหนือความคาดหมาย ฮุสซาร์กับไกโดโคจรพลังเวทขึ้น แปลงร่างเป็นจระเข้สองตัวกระโดดปราดลงในน้ำ สะบัดหางว่ายออกไปด้วยความเร็วปานกระสุน ส่วนสเตน รวบรวมพลังเวทไว้ที่ใต้เท้า กระโดดโลดเล่นไปบนผิวน้ำไม่ต่างจากวิ่งบนผืนดิน ทั้งหมดล้วนติดตามเรือยอร์ชลำนั้นไป

    ในขณะนั้นเอียนที่ยังซุ่มอยู่บนหลังตู้คอนเทนเนอร์ยื่นสองมือไปเบื้องหน้า เร่งเร้าพลังเวทขึ้นจนเสื้อผ้าเป่งพอง วงแหวนเวทสองวงปรากฏขึ้นเหนือผิวน้ำด้านหน้าของเรือยอร์ช โซ่ตรวนหนาหนักเส้นหนึ่งพุ่งออกจากวงแหวนหนึ่งไปยังอีกวงแหวนหนึ่งกลายเป็นเครื่องกีดขวางกลางแม่น้ำ โซ่ใหญ่ปรากฏขึ้นในระยะประชิด เห็นแน่ชัดว่าเรือยอร์ชต้องพุ่งชนโซ่ตรวน หากเป็นเช่นนั้นต้องไม่รอดพ้นจากการถูกตรึงไว้อย่างแน่นอน

                    บนหัวเรือพลันปรากฏร่างของชายในชุดดำผู้หนึ่งขึ้น เขาทำอะไรยังไม่มีใครทันเห็นชัดถนัดตา แต่เมื่อเขาปากฎขึ้นโซ่ตรวนที่หนาใหญ่ราวท่อนซุ่งนั้นก็ขาดสะบั้นออกเป็นสองท่อน เปิดทางให้เรือยอร์ชวิ่งต่อไป สเตนเห็นว่าแผนแรกไม่สำเร็จ เพื่อหยุดเรือยอร์ชไม่ให้วิ่งไปต่อได้แต่อาศัยพลังของตัวเอง ดังนั้นกระทืบเท้าลงกับผิวน้ำพุ่งตัวออกไปปานกระสุนปืนใหญ่ที่ถูกยิง ลอยตัวข้ามเรือยอร์ชลงมาดักที่ผิวน้ำหน้าหัวเรือ แยกขากางมือ ทำท่าราวกับจะใช้มือเปล่าปะทะกับเรือที่พุ่งเข้ามาอย่างหักโหม

    ชายชุดดำบนหัวเรือ เหลือบตามองสเตนอย่างเหยียดยาม เมื่อพบกับสายตาที่เย็นเยียบคู่นั้น สเตนสูญเสียจิตใจคิดสู้ทั้งหมดไปอย่างประหลาด คล้ายกับกำลังเผชิญหน้ากับปิศาจร้ายที่ไม่อาจเอาชนะได้ตนหนึ่ง ท่วงท่าที่ห้าวหาญแปรเปลี่ยนขนาดเขลา ขณะที่กำลังจะดีดตัวถอยร่นออกไป ลมหอบหนึ่งก็พุ่งลงมาใส่สเตน เป็นลมที่คมกริบปานใบมีด ลมที่ใช้สังหารประธานสมาคมรากแดง

                    “หลบไป!”เสียงร้องตะโกนเจื้อยแจ้วดังขึ้น เฟอร์น่าในร่างครึ่งปลาถลันพุ่งขึ้นจากแม่น้ำ ฉุดร่างของสเตนเซถลาล้มลงยังผิวน้ำอีกฝากหนึ่ง ใบมีดสายลมแหวกสายน้ำออกเป็นคลื่นใหญ่กระแทกออกไปสองข้างฝาก เฟอร์น่าและสเตนกระเด็นไปตามแรงคลื่นทิ้งร่างจมดิ่งลงในแม่น้ำ เลือดสีแดงสดไหลย้อมผืนน้ำจนแดงฉาน

    นั่นไม่ใช่เลือดของสเตน หากแต่เป็นเลือดของนางเงือกสาว เฟอร์น่า เลือดสีแดงสดฉีดพุ่งออกมาจากปลายหางที่ถูกตัดขาดออกเธอปานน้ำพุ        ฮุสซาร์ที่อยู่ใต้น้ำเห็นภาพนั้นชัดถนัดตา

    เฟอร์น่าที่กรีดร้องโหยหวนอยู่นั้น เมื่อสูญเสียการควบคุมตัวเอง เวทของเธอก็สลายหางปลาของเธอกลับสู่รูปร่างของขามนุษย์ ขาที่ถูกตัดเท้าขาดเสมอข้อ พริบตานั้นฮุสซาร์รู้สึกสมองว่างเปล่า ความโกรธแค้นเข้าครอบงำตัวเขาจนสูญเสียการยั้งคิด ลืมเลือนแผนการที่กำหนดไว้ทั้งหมดทั้งสิ้น ชายหนุ่มทะลึ่งตัวขึ้นจากน้ำ เปลี่ยนร่างกายกลับเป็นรูปร่างของมนุษย์ แต่ยังคงผิวหนังของจระเข้ไว้บางส่วน เขาส่งเสียงคำรามก้องอย่างเสียสติ กำหมัดวิ่งเข้าใส่ยมทูตดำ

                    ยมทูตดำแค่นเสียงเย็นชา สายตายังไม่เหลือบมองก็ใช้พลังลมที่แหลมคมปานใบมีดพัดพุ่งเข้าใส่ฮุสซาร์ เห็นแน่ชัดว่าฮุสซาร์ต้องตกตายในสภาพเดียวกับประธานสมาคมรากแดงแล้ว พลันบังเกิดซุ่มเสียงหนึ่งตวาดขึ้น

                    “เด็กน้อยรนหาที่ตาย!

                    เสียงดังขึ้นพร้อมกับเงาร่างสีดำร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่ข้าง ๆ ร่างของยมทูตดำ ประกายสีเขียวเย็นเยียบของอาวุธมีคมชนิดหนึ่งสว่างวูบเหมือนดาวตกพุ่งเข้าใส่ยมทูตดำ คุกคามจนยมทูตดำต้องถอยปราดไปด้านหลังพร้อมกับควบคุมใบมีดลมที่ซัดออกไปใส่ฮุสซาร์ให้กลับมารับมือประกายดาวหางนั้น เงาร่างสีดำพานไม่ปะทะด้วย สะกิดเท้าเข้ากับพื้นเรือดีดตัวตีลังกาขึ้นหลบเลี่ยงจากใบมีดสายลม ในดวงตายมทูตดำทอแววอำมหิตขึ้น เขายื่นสองมือออกนอกแขนเสื้อคลุม พุ่งร่างขึ้นใส่อีกฝ่ายที่กำลังลอยอยู่ตัวกลางอากาศ ฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายไม่สามารถหลบเลี่ยง สะบัด ฟาดมือสร้างมีดสายลมนับร้อยสายแผ่พุ่งเข้าใส่ผู้มาก่อกวน เงาร่างสีดำนั้นขยับอาวุธในมือต้านปะทะเสียงดังติง ๆ ตัง ๆ ไม่ขาดสาย

     ฮุสซาร์ที่กำลังเลือดขึ้นหน้า เมื่อโจมตีไม่ถูกเป้าหมาย ก็ถีบทะยานร่างตัวเองตามยมทูตดำขึ้นไปอย่างไม่เจียมตัว กวัดแหว่งหมัดเข้าจู่โจมอีกฝ่าย แต่อันธพาลอย่างฮุสซาร์ไหนเลยอยู่ในสายตาอีกฝ่าย ยมทูตดำแบ่งสมาธิใช้มือขวาสะบัดพลังลมใส่เงาร่างสีดำ มือซ้ายกรีดลงเบื้องล่างสร้างมีดสายลมหอบหนึ่งฟุนใส่ร่างฮุสซาร์จนร่างกระเด็นลอยออกไปไปชนประตูห้องท้องเรือพังทลายลงมา ร่างยังกลิ้งถอยตามประตูเข้าไปข้างในท้องเรือ

                    ยมทูตดำหน้าแปรเปลี่ยนไปเป็นตื่นตระหนก รีบผละจากเงาร่างสีดำพุ่งร่างไปทางประตูห้องท้องเรือ เงาสีดำม้วนตัวตีลังกาลงที่หน้าประตู ขวางทางยมทูตดำเอา ไว้ ร่างนั้นเมื่อหยุดลงยมทูตดำค่อยเห็นอีกฝ่ายชัดถนัดตา อีกฝ่ายมีรูปกึ่งสัตว์กึ่งมนุษย์ มีตัวเป็นคนแต่หัวและหางเป็นจระเข้ ผิวกายเป็นเกล็ดหนาสีดำสนิท ในสองมือถืออาวุธลักษณะคล้ายกรรไกรที่มีด้านคมเป็นฟันเลื่อย ที่ด้ามจับมีกลไกควบคุมให้ใบมีดหุบเข้าหรือง้างออก มนุษย์จระเข้น้อมตัวต่ำด้วยท่วงท่าอันเรียบร้อยสุภาพพลางกล่าวว่า

                    “ประธานสมาคมเวทจระเข้ดำ ครอม่า ไดลีน น้อมคารวะท่านยมทูตดำเซไกซัส แห่งกองทัพกบฏ”

                    คำพูดที่กล่าวทั้งนอบน้อมและคุกคามคน กลับกล่าวหาอีกฝ่ายเป็นกบฏ ยมทูตดำเซไกซัสสาดสายตาเย็นเยียบจ้องมองอีกฝ่าย ครอม่าก็เงยหน้าขึ้นในนัยน์ตาสีเหลืองอำพันของจระเข้ประสานสายตากับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×