คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : Chapter 24 : After That
Chapter 24-- After That --
เช้าวันใหม่ที่แสนจะสดใสหมุนเวียนผันแปรมาเยือนยังคฤหาสน์อันแสนหรูหราของสองพี่น้องฟิวส์ฟราน ซึ่งบัดนี้ที่ห้องโถงของคฤหาสน์ ปรากฏร่างของผู้คนจำนวนมากนอนเหยียดแข้งเหยียดขาเกลื่อนอยู่บนฟูกที่มาจากความเมตตาของพ่อบ้าน และนั่นเป็นตัวบ่งบอกชัดว่าเมื่อคืนนี้พวกเขาดื่มกินกันอย่างไม่คิดจะเกรงใจเจ้าของคฤหาสน์เลยแม้แต่นิดเดียว
ตัดมาอีกทางด้านหนึ่ง ร่างสูงโปร่งสามร่างกำลังเดินทอดน่องออกมาจากสถานที่สามแห่งอันได้แก่ ระเบียง ห้องนอนสุดหรู และหอดูดาว ในสภาพที่ยังคงอยู่ในชุดเดียวกันกับเมื่อคืนวานดังเดิมทุกประการ อีกทั้งสภาพของมันยังยับยู่ยี่มากเสียด้วย
จุดหมายปลายทางของทั้งสามคือห้องอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ที่อยู่สุดทางเดินชั้นสอง
และเหมือนว่าจะเป็นเรื่องสุดแสนบังเอิญ เพราะร่างทั้งสามร่างดันเดินมาหยุดชะงักอยู่บริเวณหน้าประตูห้องอาบน้ำในเวลาเดียวกัน ทั้งสามไล่สายตามองกันและกันตั้งตัวหัวจรดเท้า ก่อนจะเผยรอยยิ้มแฝงด้วยเล่ห์ออกมาที่มุมปาก ตาสบตาเป็นอันรู้กันว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แล้วจึงเดินตัวปลิวทยอยเข้าห้องอาบน้ำไปทีล่ะคน
“ไม่คิดเลยนะว่าอย่างแกจะทำเร็วขนาดนี้”
ช่างเป็นคำพูดที่ปรามาสกันอย่างเห็นได้ชัด แบล็คจิกตากลับ สวนว่า “เป็นแกจะทนไหวหรือไง? ไอ้ฟิวส์”
“หึ แน่นอน...”
ฟิวส์ลากเสียงยาว และด้วยคำตอบที่ลากค้างเอาไว้นั้นก็ทำให้แบล็คเผยสีหน้า ‘ไม่เชื่อสุดๆ’ ออกมาในทันที
คนที่แสร้งทำเป็นท่ามากยิ้มเผล่ก่อนจะต่อประโยคจนจบ
“แน่นอนว่า...ใครทนได้ก็บ้าแล้ว!”
ผัวะ!
“แล้วมาทำเป็นเล่นลิ้น”
เจ้าของฝ่ามือแสดงสีหน้าเป็นเชิงสมเพชแบบสุดๆ ทว่านัยน์ตาสีอเมทิสต์ของเขากลับกำลังพราวระริกเสียจนน่าหมั่นไส้ ถ้าไม่ติดคำว่า ‘เพื่อน’ ที่ค้ำคออยู่ พวกเขาคงได้เปิดศึกแลกหมัดกันไปสักตั้งแล้ว
คนอย่างฟิวส์...ฆ่าได้ หยามไม่ได้
และถ้าคิดจะแตะฟราน แกนั่นแหละต้องตายก่อน!
“แกไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย ฟิวส์ ถ้าโซลมันไม่เป็นคนตบ ฉันก็คงอดใจไม่ไหวตบหัวแกสักป้าบสองป้าบเองอยู่ดี”
ว่าพลางส่งสายตาทับถมมาอีกระลอกหนึ่ง เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าคนอย่างฟิวส์ไม่มีทางโกรธอะไรจริงจังกับพวกเขาอยู่แล้ว แต่ก็นะ ใครใช้ให้ฟิวส์มันดันเป็นเพอร์เฟคแมนที่ทั้งหล่อ รวย เก่ง แล้วยังฉลาดอีกกันล่ะ โอกาสที่เขาจะสามารถติติงอะไรอีกฝ่ายได้นั้นหาได้ยากยิ่งแบบที่หนีไปปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ยังจะง่ายเสียกว่า
ด้วยเหตุนั้นเอง พอคนอย่างฟิวส์เผลอล้มเข้าเมื่อไหร่ คุณชายแบล็คก็เป็นต้องรีบกระโจนเข้าไปกระทืบๆๆ ซ้ำ!
ฮ่า! สะใจ!
“คาร์ตื่นหรือยัง? แบล็ค”
ฟิวส์เอ่ยถามเปลี่ยนเรื่องในขณะที่ยันตัวขึ้นนั่งพลางลูบศีรษะตนเองป้อยๆ โซลก็ช่างใจร้ายกับเพื่อนรักอย่างเขาได้ ตบลงมานี่ไม่มีออมแรงเลยแม้แต่น้อย
คนถูกถามขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ยัง เมื่อกี้เพิ่งอุ้มไปนอนที่ห้อง” แบล็คตอบเสียงเรียบ ก่อนจะตั้งคำถามกลับ “ว่าแต่...แกถามทำไม?”
ในจังหวะนั้น ฟิวส์กับโซลก็สบสายตากันอีกครั้งหนึ่งท่ามกลางความงุนงงของแบล็ค
“หึๆๆ ก็ฉันกับโซลอยากขอบคุณน้องคาร์ของแกใจจะขาดแล้วยังไงล่ะ...”
...ที่ทำให้เมื่อคืนสุดที่รักของพวกเขาน่ารักน่ากดมากขนาดนั้น!...
--Change! --
“อื้อ”
ร่างน้อยครางในลำคอเบาๆ เปลือกตาบางที่ปกคลุมด้วยแพขนตางอนงามกระพริบหลายๆครั้ง ก่อนจะปรือขึ้นอย่างแช่มช้าเมื่อเริ่มปรับสภาพสายตาได้แล้ว แต่ทัศนียภาพที่ได้เห็นเป็นภาพแรกหลังจากตื่นนอนก็สร้างความงุนงงให้แก่เขามากเลยทีเดียว
“คาร์? คิริว?”
“กว่าจะตื่นได้นะ...”
คาร์ที่นอนเล่นเครื่องเล่น PSP อยู่ข้างๆ ร่างของฟรานพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยพร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิง ‘รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น’ ให้กับฟรานที่ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำเสมอกันทั่วทั้งหน้าขึ้นมาในบัดดล
“ทำไมมาอยู่ในห้องฟรานกันได้ล่ะ?”
คนถูกถามยักไหล่น้อยๆ ด้วยขี้คร้านจะตอบ เขาเลือกที่จะพยักพเยิดโบ้ยไปให้คิริวแทน และกลับไปตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมมาริโอ้ในมือต่อ คิริวยิ้มเจื่อนก่อนจะตอบคำถามออกมาอย่างเนือยๆ
“พี่โซลกับพี่แบล็คทิ้งข้อความบอกให้ผมกับคาร์มาที่ห้องของฟรานหลังจากตื่นแล้วน่ะครับ”
ฟรานพยักหน้าเล็กน้อยเป็นอันว่ารับรู้แล้ว ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้สักอย่างดี สลักลวดลายขลิบทองโดยช่างแกะสลักมืออาชีพ คว้าเสื้อผ้าสุ่มๆ มาสักชุดพร้อมผ้าเช็ดตัว แล้วจึงเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
เขาเหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว...เพราะอะไรก็คงรู้ๆ กันอยู่ใช่มั้ย?
ก๊อกๆๆ
แอ๊ด
อาคันตุกะผู้มาใหม่เคาะประตูเกริ่นนำมาอย่างมีมารยาท แต่มารยาทนั้นก็ดูเหมือนจะสลายหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อคนเคาะดันเปิดประตูเข้ามาในทันทีโดยไม่คิดจะรอคำอนุญาตจากคนในห้องเสียนี่
ฟิวส์ โซล และแบล็ค เดินเรียงกันเข้ามาในห้องนอนของสองพี่น้องเจ้าบ้านตามลำดับ ก่อนที่ทั้งสามจะพากันสอดส่ายสายตาหาตัวคนรักกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะถึงแม้ว่าห้องแห่งนี้จะได้ชื่อว่าเป็นแค่ห้องนอนแต่มันก็ใหญ่มากพอตัวเลยทีเดียว
ก่อนที่สายตาของโซลกับแบล็คจะไปสะดุดเข้าที่ร่างสองร่างซึ่งกำลังนั่งๆ นอนๆ อยู่บนเตียงสีขาวบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่เกือบในสุดของห้อง และดูเหมือนว่าฟ้าดินจะเป็นใจ ร่างสองร่างที่อยู่บนเตียงถึงได้ปรายตามาปะทะเข้ากับสายตาหวานเชื่อมของคนรักเข้าอย่างพอดิบพอดี เล่นเอาเสหลบไปชมนกชมไม้กันแทบไม่ทัน
ในขณะที่โซลกับแบล็คยิ้มกริ่มกอดคอกันย่างกรายไปยังเตียงสีขาวบริสุทธิ์อย่างเนิบนาบ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของห้องนอนขนาดใหญ่นี้เช่นกันก็เดินไปดักรออยู่หน้าประตูห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ รู้เพียงแต่ว่าฟรานที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาในจังหวะนั้นพอดีก็ถึงกับสะดุ้งตัวโยนเลยทีเดียว
นัยน์กลมโตสีเงินสวยชะงักอยู่กับนัยน์ตาคมกริบสีทองที่กำลังไหวระริกในชั่ววินาทีหนึ่ง
พอได้สติเตรียมตัวเผ่นหนีไปตั้งหลักก็ไม่ทันเสียแล้ว...
แขนแกร่งคว้าหมับเข้าที่เอวบางของผู้เป็นน้องชายอย่างรวดเร็วก่อนจะออกแรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถอุ้มร่างเล็กๆ ทั้งร่างขึ้นมาได้แล้ว
ฟิวส์อุ้มฟรานไปวางแหมะอยู่บนโซฟาสีน้ำเงินที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับประตูห้อง แล้วจึงทิ้งตัวลงไปนั่งข้างๆ ออกปากถามขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า
“วันนี้วันอะไรครับคนดี?”
“อะ เอ๋?” ฟรานหลุดอุทานออกมาเมื่อเจอกับคำถามที่น่าฉงนสงสัยนัก “วัน...วันพุธเหรอฮะ?”
โครม!
คล้ายกับว่ามีเสียงคนล้มกระแทกพื้นดังมาแว่วๆ
“โธ่...ลืมไปได้ยังไงกันครับ ฟราน”
ร่างสูงทำหน้าเหมือนจะหัวเราะก็ไม่ใช่ จะร้องไห้ก็ไม่เชิง
ในขณะที่ฟรานเองก็เริ่มคิดหนักเมื่อเห็นสีหน้าของผู้เป็นพี่ชาย
แล้วมันวันอะไรกันล่ะ?
...ก็นั่งคิดต่อไปละกัน...
To Be Continue
นั่นสิ...วันอะไรกันหนอ~ เอากลับไปคิดเล่นๆ ดูละกันนะคะ ^^ ในที่สุดก็ฝ่าวิกฤตที่ชื่อ ‘การสอบ’ และ ‘ความอู้’ มาได้เสียที - -^ อันหลังนี่ต้องหันไปขอบพระคุณเพื่อนสุดที่รักของไรเตอร์ที่มีความพยายามอย่างสูงในการจี้คนให้เลิกอู้ =_=
3/มี.ค./53 อัพ
28/ก.พ./55 Re-write
ความคิดเห็น