ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Change! เปลี่ยนพี่ชายมาเป็นคนรัก (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #27 : Chapter 24 : After That

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.01K
      0
      28 ก.พ. 55


    Chapter 24-- After That --



     

       เช้าวันใหม่ที่แสนจะสดใสหมุนเวียนผันแปรมาเยือนยังคฤหาสน์อันแสนหรูหราของสองพี่น้องฟิวส์ฟราน ซึ่งบัดนี้ที่ห้องโถงของคฤหาสน์ ปรากฏร่างของผู้คนจำนวนมากนอนเหยียดแข้งเหยียดขาเกลื่อนอยู่บนฟูกที่มาจากความเมตตาของพ่อบ้าน และนั่นเป็นตัวบ่งบอกชัดว่าเมื่อคืนนี้พวกเขาดื่มกินกันอย่างไม่คิดจะเกรงใจเจ้าของคฤหาสน์เลยแม้แต่นิดเดียว

     

    ตัดมาอีกทางด้านหนึ่ง ร่างสูงโปร่งสามร่างกำลังเดินทอดน่องออกมาจากสถานที่สามแห่งอันได้แก่ ระเบียง ห้องนอนสุดหรู และหอดูดาว ในสภาพที่ยังคงอยู่ในชุดเดียวกันกับเมื่อคืนวานดังเดิมทุกประการ อีกทั้งสภาพของมันยังยับยู่ยี่มากเสียด้วย

     

    จุดหมายปลายทางของทั้งสามคือห้องอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ที่อยู่สุดทางเดินชั้นสอง

     

    และเหมือนว่าจะเป็นเรื่องสุดแสนบังเอิญ เพราะร่างทั้งสามร่างดันเดินมาหยุดชะงักอยู่บริเวณหน้าประตูห้องอาบน้ำในเวลาเดียวกัน ทั้งสามไล่สายตามองกันและกันตั้งตัวหัวจรดเท้า ก่อนจะเผยรอยยิ้มแฝงด้วยเล่ห์ออกมาที่มุมปาก ตาสบตาเป็นอันรู้กันว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แล้วจึงเดินตัวปลิวทยอยเข้าห้องอาบน้ำไปทีล่ะคน

     

    ไม่คิดเลยนะว่าอย่างแกจะทำเร็วขนาดนี้

     

    ช่างเป็นคำพูดที่ปรามาสกันอย่างเห็นได้ชัด แบล็คจิกตากลับ สวนว่า เป็นแกจะทนไหวหรือไง? ไอ้ฟิวส์

     

    หึ แน่นอน...

     

    ฟิวส์ลากเสียงยาว และด้วยคำตอบที่ลากค้างเอาไว้นั้นก็ทำให้แบล็คเผยสีหน้า ไม่เชื่อสุดๆ ออกมาในทันที

               

    คนที่แสร้งทำเป็นท่ามากยิ้มเผล่ก่อนจะต่อประโยคจนจบ

     

    แน่นอนว่า...ใครทนได้ก็บ้าแล้ว!”

     

    ผัวะ!

     

    แล้วมาทำเป็นเล่นลิ้น

     

    เจ้าของฝ่ามือแสดงสีหน้าเป็นเชิงสมเพชแบบสุดๆ ทว่านัยน์ตาสีอเมทิสต์ของเขากลับกำลังพราวระริกเสียจนน่าหมั่นไส้ ถ้าไม่ติดคำว่า เพื่อนที่ค้ำคออยู่ พวกเขาคงได้เปิดศึกแลกหมัดกันไปสักตั้งแล้ว

     

    คนอย่างฟิวส์...ฆ่าได้ หยามไม่ได้

     

    และถ้าคิดจะแตะฟราน แกนั่นแหละต้องตายก่อน!

     

    แกไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย ฟิวส์ ถ้าโซลมันไม่เป็นคนตบ ฉันก็คงอดใจไม่ไหวตบหัวแกสักป้าบสองป้าบเองอยู่ดี

     

    ว่าพลางส่งสายตาทับถมมาอีกระลอกหนึ่ง เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าคนอย่างฟิวส์ไม่มีทางโกรธอะไรจริงจังกับพวกเขาอยู่แล้ว แต่ก็นะ ใครใช้ให้ฟิวส์มันดันเป็นเพอร์เฟคแมนที่ทั้งหล่อ รวย เก่ง แล้วยังฉลาดอีกกันล่ะ โอกาสที่เขาจะสามารถติติงอะไรอีกฝ่ายได้นั้นหาได้ยากยิ่งแบบที่หนีไปปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ยังจะง่ายเสียกว่า

     

    ด้วยเหตุนั้นเอง พอคนอย่างฟิวส์เผลอล้มเข้าเมื่อไหร่ คุณชายแบล็คก็เป็นต้องรีบกระโจนเข้าไปกระทืบๆๆ ซ้ำ!

     

    ฮ่า! สะใจ!

     

    คาร์ตื่นหรือยัง? แบล็ค

     

    ฟิวส์เอ่ยถามเปลี่ยนเรื่องในขณะที่ยันตัวขึ้นนั่งพลางลูบศีรษะตนเองป้อยๆ โซลก็ช่างใจร้ายกับเพื่อนรักอย่างเขาได้ ตบลงมานี่ไม่มีออมแรงเลยแม้แต่น้อย

     

    คนถูกถามขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

     

    ยัง เมื่อกี้เพิ่งอุ้มไปนอนที่ห้องแบล็คตอบเสียงเรียบ ก่อนจะตั้งคำถามกลับ ว่าแต่...แกถามทำไม?”

     

    ในจังหวะนั้น ฟิวส์กับโซลก็สบสายตากันอีกครั้งหนึ่งท่ามกลางความงุนงงของแบล็ค

     

    หึๆๆ ก็ฉันกับโซลอยากขอบคุณน้องคาร์ของแกใจจะขาดแล้วยังไงล่ะ...

     

    ...ที่ทำให้เมื่อคืนสุดที่รักของพวกเขาน่ารักน่ากดมากขนาดนั้น!...

     

     

    --Change! --

     

     

    อื้อ

     

    ร่างน้อยครางในลำคอเบาๆ เปลือกตาบางที่ปกคลุมด้วยแพขนตางอนงามกระพริบหลายๆครั้ง ก่อนจะปรือขึ้นอย่างแช่มช้าเมื่อเริ่มปรับสภาพสายตาได้แล้ว แต่ทัศนียภาพที่ได้เห็นเป็นภาพแรกหลังจากตื่นนอนก็สร้างความงุนงงให้แก่เขามากเลยทีเดียว

     

    คาร์? คิริว?”

     

    กว่าจะตื่นได้นะ...

     

    คาร์ที่นอนเล่นเครื่องเล่น PSP อยู่ข้างๆ ร่างของฟรานพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยพร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิง รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้นให้กับฟรานที่ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำเสมอกันทั่วทั้งหน้าขึ้นมาในบัดดล

     

    ทำไมมาอยู่ในห้องฟรานกันได้ล่ะ?”

     

    คนถูกถามยักไหล่น้อยๆ ด้วยขี้คร้านจะตอบ เขาเลือกที่จะพยักพเยิดโบ้ยไปให้คิริวแทน และกลับไปตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมมาริโอ้ในมือต่อ คิริวยิ้มเจื่อนก่อนจะตอบคำถามออกมาอย่างเนือยๆ

     

    พี่โซลกับพี่แบล็คทิ้งข้อความบอกให้ผมกับคาร์มาที่ห้องของฟรานหลังจากตื่นแล้วน่ะครับ

     

    ฟรานพยักหน้าเล็กน้อยเป็นอันว่ารับรู้แล้ว ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้สักอย่างดี สลักลวดลายขลิบทองโดยช่างแกะสลักมืออาชีพ คว้าเสื้อผ้าสุ่มๆ มาสักชุดพร้อมผ้าเช็ดตัว แล้วจึงเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

     

    เขาเหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว...เพราะอะไรก็คงรู้ๆ กันอยู่ใช่มั้ย?

     

    ก๊อกๆๆ

     

    แอ๊ด

     

    อาคันตุกะผู้มาใหม่เคาะประตูเกริ่นนำมาอย่างมีมารยาท แต่มารยาทนั้นก็ดูเหมือนจะสลายหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อคนเคาะดันเปิดประตูเข้ามาในทันทีโดยไม่คิดจะรอคำอนุญาตจากคนในห้องเสียนี่

     

    ฟิวส์ โซล และแบล็ค เดินเรียงกันเข้ามาในห้องนอนของสองพี่น้องเจ้าบ้านตามลำดับ ก่อนที่ทั้งสามจะพากันสอดส่ายสายตาหาตัวคนรักกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะถึงแม้ว่าห้องแห่งนี้จะได้ชื่อว่าเป็นแค่ห้องนอนแต่มันก็ใหญ่มากพอตัวเลยทีเดียว

     

    ก่อนที่สายตาของโซลกับแบล็คจะไปสะดุดเข้าที่ร่างสองร่างซึ่งกำลังนั่งๆ นอนๆ อยู่บนเตียงสีขาวบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่เกือบในสุดของห้อง และดูเหมือนว่าฟ้าดินจะเป็นใจ ร่างสองร่างที่อยู่บนเตียงถึงได้ปรายตามาปะทะเข้ากับสายตาหวานเชื่อมของคนรักเข้าอย่างพอดิบพอดี เล่นเอาเสหลบไปชมนกชมไม้กันแทบไม่ทัน

     

    ในขณะที่โซลกับแบล็คยิ้มกริ่มกอดคอกันย่างกรายไปยังเตียงสีขาวบริสุทธิ์อย่างเนิบนาบ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของห้องนอนขนาดใหญ่นี้เช่นกันก็เดินไปดักรออยู่หน้าประตูห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ รู้เพียงแต่ว่าฟรานที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาในจังหวะนั้นพอดีก็ถึงกับสะดุ้งตัวโยนเลยทีเดียว

     

    นัยน์กลมโตสีเงินสวยชะงักอยู่กับนัยน์ตาคมกริบสีทองที่กำลังไหวระริกในชั่ววินาทีหนึ่ง

     

    พอได้สติเตรียมตัวเผ่นหนีไปตั้งหลักก็ไม่ทันเสียแล้ว...

     

    แขนแกร่งคว้าหมับเข้าที่เอวบางของผู้เป็นน้องชายอย่างรวดเร็วก่อนจะออกแรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถอุ้มร่างเล็กๆ ทั้งร่างขึ้นมาได้แล้ว

     

    ฟิวส์อุ้มฟรานไปวางแหมะอยู่บนโซฟาสีน้ำเงินที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับประตูห้อง แล้วจึงทิ้งตัวลงไปนั่งข้างๆ ออกปากถามขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า

     

    วันนี้วันอะไรครับคนดี?”

     

    อะ เอ๋?” ฟรานหลุดอุทานออกมาเมื่อเจอกับคำถามที่น่าฉงนสงสัยนัก วัน...วันพุธเหรอฮะ?”

     

    โครม!

     

    คล้ายกับว่ามีเสียงคนล้มกระแทกพื้นดังมาแว่วๆ

     

    โธ่...ลืมไปได้ยังไงกันครับ ฟราน

     

    ร่างสูงทำหน้าเหมือนจะหัวเราะก็ไม่ใช่ จะร้องไห้ก็ไม่เชิง

     

    ในขณะที่ฟรานเองก็เริ่มคิดหนักเมื่อเห็นสีหน้าของผู้เป็นพี่ชาย

     

    แล้วมันวันอะไรกันล่ะ?

     

    ...ก็นั่งคิดต่อไปละกัน...

     

    To Be Continue

     

     

    นั่นสิ...วันอะไรกันหนอ~ เอากลับไปคิดเล่นๆ ดูละกันนะคะ ^^ ในที่สุดก็ฝ่าวิกฤตที่ชื่อ การสอบและ ความอู้มาได้เสียที - -^ อันหลังนี่ต้องหันไปขอบพระคุณเพื่อนสุดที่รักของไรเตอร์ที่มีความพยายามอย่างสูงในการจี้คนให้เลิกอู้ =_=

     

    3/มี.ค./53 อัพ

    28/ก.พ./55 Re-write



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×