ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Identity V ] ทะลุมิติสุดป่วน วิ่งสู้(รัก)ฟัด ( OC&Prophet )(รีไรต์นิดหน่อย)

    ลำดับตอนที่ #13 : สาวน้อยผู้ไร้(าย)เดียงสา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.22K
      127
      15 ก.พ. 62

    [อิไล Taik]

    "ห๊ะ...."ผมช็อกไปครู่หนึ่งหลังจากที่ได้ยินเรเวนพูดแบบนั้นออกมา

    "เดี๋ยวนะ...เรเวน...เรเวน...นั้นชื่อเก่าเรานิ??"สักพักเธอก็เหมือนจะรู้สึกตัวอะไรสักอย่าง แต่เดี๋ยวนะ ชื่อเก่างั้นเหรอ

    "ชื่อเก่า? หมายความว่าไง"ด้วยความสงสัยผมเลยถามเธอไปพร้อมกับจะเดินเข้าไปใกล้แบบไม่ให้เธอรู้ตัส

    "หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะคะ!!"แต่ดูเหมือนเธอจะรู้สึกตัวก่อนเลยสั่งห้ามผมไว้แล้วตัวเองก็ถอยเข้ามุมเข้าไปอีก ดูถูกหูผีเธอไม่ได้จริงๆ

    "อย่าเข้าใกล้กว่านี้เลย..."คราวนี้เรเวนพูดด้วยน้ำเสียงหวั่นๆแล้วเบาลงเรื่อยๆ

    "ขอโทษด้วยนะ แต่เราอยากรู้ว่าที่เธอพูดว่าเรเวนเป็นชื่อเก่าของเธอน่ะ หมายความว่าไง"คุณเอมิลี่เดินเข้ามาในระยะเดียวกันกับผมพร้อมถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อที่จะทำให้เรเวนใจเย็นลง

    ".....ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมรู้สึกคุ้มเคยกับพวกคุณทั้งที่พึ่งเจอกันก็เถอะ แต่จะตอบให้ค่ะ"แล้วมันก็ได้ผลซะด้วยสมแล้วที่เป็นถึงคุณหมอ

    "..สวัสดีคะ หนู ชื่อ เลล่า ฟรอสต์ อายุ 13  เป็นลูกเลี้ยงของครอบครัว แอนเดอะสัน...แต่ว่า..."เรเวนเริ่มแนะนำตัวเองเล็กน้อยก่อนที่จะหยุดลงด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ว่าที่บอกว่าอายุ13เนี่ยคืออะไร?

    "ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไรนะ"

    "....ค่ะ..ส่วนเรื่องที่เรเวนเป็นชื่อเก่าที่บาทหลวงท่านหนึ่งเค้าตั้งให้น่ะ ค่ะ แต่พอถูกอุปการะไปก็เลยได้ชื่อใหม่เป็นเลล่าค่ะ"เรเวนอธิบายต่อด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้น 

    "อย่างนั้นเองเหรอจ้ะ"

    [โห~อายุวิญญาณก็ลดลงไปด้วย]ในขณะนั้นเองเสียงประกาศของผู้ดูแลก็ดังขึ้นอีกครั้ง

    "เสียงอะไรน่ะ!!!"ด้วยความตกใจเรเวนก็เลยรีบพุ่งออกจากมุมเดิมมาหลบอยู่ข้างหลังของคุณเอมิลี่อย่างไว ทั้งทีผมอยู่ใกล้กว่า=_=น้อยใจอ่ะ

    [โอ๋ๆ ขวัญอ่อนจังนะ แต่ถ้าเทียบกับตอนเจอกันครั้งแรกก็น่ารักดีและน่าเบื่อด้วย...]

    "QAQ งึก"

    "มีธุระอะไรอีกงั้นเหรอ "ผมเอ่ยถามไปอย่างสงสัยที่ปกติแล้วผู้ดูแลจะไม่ค่อยออกโรงเองบ่อยขนาดนี้แท้ๆหรือเพราะเป็นเรเวนกัน ถึงได้ออกมาบ่อย

    [หึ พอดีได้ข้อมูลใหม่มาเพิ่มน่ะ ร่างกายที่อยู่ทางนั้นเข้าโคม่าอีกครั้ง แล้วดูเหมือนรอบนี้จะมีเส้นตายขึ้นมาด้วย น่าเสียดายจังน่าจะ'ตาย'ๆไปซะ จะได้ไม่ต้องมาทรมารแบบนี้]

    "...นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะคุณจะมาตัดสินใจแทนซะหน่อย"<ผม

    [แหม~หวงจังนะ แต่ก็เอาเถอะ เพราะเรื่องที่จะพูดต่อมันสำคัญกว่าอยู่แล้ว]

    "เรื่องอะไร?"

    [ความทรงจำของเรเวนค่ะ เพราะเนื่องจากว่าวิญญาณเสียหายไปบางส่วนความทรงจำในช่วง7ปีถึงปัจจุบันเลยหายไปค่ะ ขอย้ำนะคะว่ามันสูญหายไปไม่สามารถเรียกกลับมาได้ หรือก็คือสูญเสียความทรงจำอย่างสมบูรณ์แบบ]

    "ถ้างั้นเรเวนก็จะจำไม่ได้เกิดอะไรขึ้นบ้างในคฤหาสน์นี่เหรอ"< เอมิลี่

    [ค่ะ แต่ว่าเพราะสูญเสียงความทรงจำในช่วง7ปีก่อนเลยทำให้วิญญาณของเรเวนกลับไปเป็นสาววัยแรกแย้มอีกครั้ง แล้วก็แถมเป็นช่วงที่หลังจากโดนฟ้าผ่าได้3เดือนด้วยกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่เลย ใครที่คิดดัดนิสัยก็จังหวะนี้แหละ แต่นิสัยพูดไม่ไว้หน้ายังอยู่นะ แล้วก็ร่างกายทางนั้นจะมีชีวิตได้อีกแค่ครึ่งปีเท่านั้น แค่นี้แหละบายยย]หลังจากที่พูดจบเสียงประกาศก็ดับลง ร่างกายของเรเวนก็เปลี่ยนไปเป็นเด็กสาวอีกครั้ง ใบหน้ากลมนิดๆผิวขาว ผมสีเงินเรียบตรงกลายเป็นยักโศกมัดแกะต่ำ ส่วนสูงก็เตี้ยงไปเล็กน้อยน่าจะสูงพอๆกับเอ็มม่าหรือเตี้ยกว่า ส่วนชุดเจ้าสาวก็กลายเป็นชุดโลลิต้าแขนยาวสีขาวผูกหูกระต่ายสีดำ สวมถุงมือสีขาวอีกที กระโปรงเอวสูงยาวถึงเข่าสีดำ ถุงเท้ายาวถึงหน้าแข้งสีน้ำเงินเข้ม รองเท้าคัดชูสีดำ ถือกล่องไวโอลินที่คิดว่าน่าจะมาแทนกีต้าร์ไฟฟ้า ดูๆไปแล้วผมก็รู้สึกได้ว่า...เรเวนเนี่ยไม่น่าโตเลย(อ้าว ทำไมอ่ะ) ก็ใครมันจะไปคิดล่ะว่า เด็กสาวไร้เดียงสา ท่าทางเรียบร้อยแบบนี้ โตขึ้นมาจะก้าวร้าวพูดจาหยาบคาย ห้าวเป็นผู้ชายไปได้ ถึงตอนนี้จะมีเรื่องที่อยากจะถามเต็มไปหมดแต่คงต้องทำใจเพราะว่าเรเวนคงจะตอบอะไรไม่ได้มากนัก

    "อะไรเนี่ย!! "หลังจากที่ชุดเปลี่ยนไปคุณเธอก็เริ่มมีอาการตกใจกับการที่อยู่ชุดก็เปลี่ยนไป รีบสำรวจตัวเองทันที

    "ใจเย็น เรเวน..ไม่สิเลล่า เดี๋ยวก็ชิน"

    "ตะแต่ชุดมัน..."

    "ไม่เป็นไร มันก็ไม่ได้แย่นิ"

    "อะอืม..."

    "จริงสิ ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ขอโทษนะ ฉัน เอมิลี่จ้ะ เป็นคุณหมอของคฤหาสน์นี้"หลังจากที่คุยกันได้สักพักคุณเอมิลี่ก็แนะนำตัวเองใหม่อย่างเป็นมิตรทันทีพร้อมปล่อยยิ้มที่แสนอ่อนโยนตามแบบหมอใจดี

    "คุณหมอเหรอคะ?...แต่ชุดมัน"

    "ชุดนางพยาบาล ใช่มันอาจจะทำให้สับสนไปหน่อยแต่ฉันเป็นหมอจริงๆนะ"คุณเอมิลี่พยายามยืนยันว่าตัวเองเป็นหมอสุดความสามารถ ถึงจะน่าหงุดหงิดที่ต้องพูดคำเดิมๆทุกครั้งที่มีคนเข้าใหม่

    "ค่ะ...แล้วคนนั้น..."เรเวนหยักหน้ารับก่อนที่จะชี้นิ้วมาทางผมที่ยืนเงียบอยู่

    "อิไล...อิไล คลาร์ก เป็นผู้หยั่งรู้...."ผมตอบเสียงเรียบแต่พยายามที่จะตอบให้เป็นมิตรที่สุด เพราะถ้านี่เป็นการเริ่มต้นใหม่ ผมก็ต้องสร้างความประทับแรกพบให้มันดีๆหน่อย อย่าทำเมินแบบครั้งที่แล้วไม่งั้นจบไม่สวยแน่ๆ

    "เอ๋?..ประมาณหมอดูหรือเปล่าคะ"เรเวนที่ขี้สงสัยก็ยังถามต่อไป แต่ไอ้ท่าสงสัยของเธอกลับดูน่ารักแปลกๆ อย่างการยกนิ้วขึ้นแปะที่ขอบปากแล้วช้อนตาขึ้น ซึ่งมันเป็นท่าที่น่ารักมากๆ

    "ก็ทำนองนั้น...จริงสิ เจ้านี่ชื่อ..."

    'จ๊อก!~'ในขณะที่คุณเอมิลี่กำลังจะแนะนำต่อ อยู่ๆเสียงท้องของใครบางคนดังขึ้นมาราวกับว่าเป็นการประท้วงขนาดย่อมๆ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเรเวนที่พึ่งตื่นขึ้นมา ผมกับคุณเอมิล่หันไปยังต้นเสียงพร้อมกันแบบไม่ต้องนัดหมาย ซึ่งเจ้าตัวก็อับอายยกมือบังหน้าเรียบร้อยแล้ว 

    "ไม่เป็นไรเหรอ ตอนนี้ก็เย็นแล้วรีบไปทานมื้อเย็นกันเถอะเดี๋ยวอาหารจะหมดซะก่อน เรเวน เอ่ย!เลล่า เธอไปพร้อมกับอิไลได้เลยเดี๋ยวฉันจะตามไปที่หลัง"คุณเอมิลี่เข้าไปปลอบใจทันที ก่อนจะบอกให้เรเวนเดินไปพร้อมผมแล้วตัวเองจะตามมาทีหลัง

    "...ค่ะ"เธอหันมามองที่ผมก่อนจะตอบออกไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจ หึ...นี่ผมต้องเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ตั้งแต่ศูนย์เลยเหรอเนี่ย แถมตอนนี้เธอยังกลายเป็นเด็กอีก แบบนี้จะไหวเหรอ

    " เอ่อ..นี่คุณคลาร์ก"ในขณะที่ผมกำลังวิตกวลอยู่นั้น  จู่ๆเลล่าก็เรียกสติผมกลับมา ถึงจะรู้สึกแปลกๆที่เธอเรียกนามสกุลแทน ทั้งที่ก่อนหน้านี่ยังเรียกชื่อกันห้วนๆอยู่เลยแท้ๆ

    "เรียกข้าว่าอิไลก็ได้"ผมหันไปตอบเสียงเรียบเช่นเคยพาลมองไปยังร่างบางที่เดินตามมาต้อยๆราวกับเด็กน้อยที่เดินตามผู้ใหญ่ก็ไม่ปาน

    "อะอืม..."

    "แล้วที่เรียกเนี่ย มีอะไรสงสัยงั้นเหรอ?"ผมถามต่ออย่างสงสัยที่อยู่ๆเธอก็เรียกขึ้นมา

    "ก็นิดหน่อยแต่ที่เรียกเนี่ย...คือว่า...เรียกหนูว่าเรเวนเหมือนก่อนหน้านี้ก็ได้นะคะ!!"เธอพูดออกมาด้วยอาการกล้าๆกลัวๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นตะโกนเสียงดัง แล้วจากนั้นคุณเธอก็รีบยกมือปิดปากตัวเองทันที 

    "ห๊ะ?"

    "เอ่อ ขอโทษที่เสียงดังนะคะ คะคือหนูพึ่งพูดได้ก็เลยยังคุมเสียงไม่ค่อยได้"เธอก้มหน้าก้มตาขอโทษผมอย่างหวาดกลัวนิดๆ ซึ่งมันเป็นท่าทางที่ผมหรือคนอื่นคงไม่มีทางได้เห็นเรเวนก่อนหน้าทำแน่ ถึงจะดูแลง่ายขึ้นแต่ว่า...เธอก็ไม่ใช่เรเวนที่เรารู้จักอีกแล้วนิ

    "งั้นเหรอ ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่เจ้าไม่ต้องสุภาพก็ได้  ข้าไม่ค่อยชินเท่าไหร่"ผมพูดแบบนั้นออกไปก่อนที่จะหันหลังให้แล้วเดินต่อไป  

    "....เพราะตัวฉันก่อนหน้านี้เป็นคนหยาบคายเหรอ?"หลังจากคุยไปได้สักพักเธอก็เริ่มเปล่ยนมาแทนตัวเองว่าฉัน แทนแล้ว แสดงว่าเริ่มคุ้มชินและเชื่อใจขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้วนะ

    "...เอ่อ...ก็ไม่เชิงว่าจะแย่ขนาดนั้น"

    "เหรอ..ถ้างั้นนายก็รู้จักฉันดีเลยสินะ *^*บอกฉันหน่อยว่าตัวฉันก่อนหน้านี้เป็นคนยังไง"

    "ทำไมอยากรู้ล่ะ"

    "ฉันไม่โง่ขนาดฟังประกาศนั้นแล้วจะไม่เข้าใจนะว่าตอนนนี้ฉันกำลังความจำเสือมน่ะ ถึงฉันจะเคยหูหนวกก็เถอะ" ก็จริงของเธอ ประกาศขนาดเด็ก 7ขวบยังเข้าใจเลย

    "โอเค...อย่างแรกคือเธอเว้นระยะห่างขนาดนั้น= =^"ผมยอมแพ้ให้ความอยากรู้ของเธอก่อนที่จะพูดให้เจ้าตัวรู้ว่าตัวเองก่อนหน้าน้ไม่ได้เว้นระยะห่างขนาด5เมตรแบบที่ตัวเองกำลงทำอยู่ ก็เข้าใจนะว่ากลัวแต่แบบนี้มันไม่มากไปเหรอ

    "เอ๋?...จริงเหรอ แล้วตัวฉันเข้าใกล้นายได้มากแค่ไหน?"เธอถามพาลเดินเข้ามาใกล้ทีล่ะนิด

    "แบบคนปกติ...ก็มีเล่นถึงเนื้อถึงตัวบ้าง"

    "จริงเหรอ!! ถ้างั้นตัวฉันก่อนหน้านี่ก็หายจากโรคกลัวสังคมได้แล้วสิ ดีจังTT^TT"หลังจากที่ได้ยินแต่นั้นคุณเธอก็น้ำตาคลอเบ้าทันที บอกเลยว่าถ้าเป็นเรเวนเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้คงเล่นมุกไม่ฮากลบไปแล้วล่ะ

    "แต่เจ้าก็พูดคุยกับข้าได้ปกตินิ"

    "เอิ้นนนอันที่จริงฉันเองไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงคุยได้ปกติ แต่ฉันคิดนายอาจจะพิเศษกว่าคนอื่นก็ได้"เมื่อได้ยินแบบนั้น ผมก็อดที่จะคิดเข้าข้างเองไม่ได้ทั้งๆที่รู้ว่านั้นเป็นคำพูดที่ไร้เดียงสาแล้วไร้ความรู็สึกอื่นเจือปน

    "....เจ้าพูดแบบนั้นข้าก็เขินแย่สิ-//-"

    "เอ๋?"

    "ช่างเถอะ รีบไปก่อนข้าวเย็นจะหมดซะก่อนดีกว่า...แล้วก็"ผมลองยื่นมือไปตรงหน้าของเรเวนโดยแอบหวังว่าเธอจะเข้าใจนะ

    "...."เธอมองหน้าผมสลับกับมือ อยู่พักหนึ่งก่อนที่จะยื่นมือซ้ายมาวางบนมือผมอย่างช้าๆ

    "งั้นไปกัน^_^"เย้! เธอยอมจับมือผมด้วย แบบนี้ก็พอมีหวังแล้วล่ะ

    ณ ห้องอาหาร

    "กลายเป็นเด็กไปแล้วแท้ๆด้วย"เสียงสดใสของเอ็มม่ากล่าวขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเรามาถึงห้องอาหาร ดูเหมือนว่าบทสนทนาของเราจะถูกประกาศไปทั่วน่าจะรวมถึงพวกฮันเตอร์ก็ด้วย พวกเอ็มม่าถึงได้พากันเข้ามาดูเรเวนที่กลายเป็นเด็กอายุ13ไปแล้ว

    "อะ@^@##&#&#*&-%5#&@&&#-%"แล้วเราเวนก็มีท่าทางสับสนขั้นสุด ก็แน่ล่ะโดนรุมขนาดนั้นเป็นใครก็ต้องอึดอัดทั้งนั้น

    "เอ่อ...นี่---"

    "ทุกคนครับ รุมแบบนี้น มันทำให้เธออึดอัดนะครับ"ในขณะที่ผมกำลังจะพูดให้ทุกครถอยไป ก็โดนคาร์ลพูดแย่งซีนไปก่อน ให้ตายสิ

    "โทษที อะจริงสิ เรเวนเธอมานั่งกับฉันมั้ย?"เอ็มม่าผู้รู้สึกได้คนแรกก็เอ่ยปากชวนในเรเวนไปนั่งข้างๆอย่างเป็นมิตรทันที จะว่าไปก็ดีเหมือนกันให้เรเวนรู้จักคนอื่นบ้างก็ดีจะได้ไม่ต้อง...ขี้กลัว...เดี๋ยวนะ ถ้าเราอาศัยจังหวะช่วงที่เรเวนกำลังปรับตัวกับคนอื่นๆแล้วแสดงให้เธอเห็น เราเป็นที่พึ่งไปได้ดีแค่ไหน ผมอาจจะทำคะแนนขึ้นนำเจ้าคาร์ลได้แบบไม่ติดฝุ่นเป็นแน่ แบบนี้ก็ไม่เลวนะ เราต้องทำดะ(ไม่ได้หรอก= =ไอ้ความคิดตื้นๆแบบนั้นใครๆก็รู้ทันอยู่แล้ว เลิกหวังเถอะ//เสียงจากพระเจ้า)


    -----------------ยังไม่จบนะ----------------------

    "เอ๋?! ดะได้เหรอคะ?!"เรเวนที่ได้ยินคำชวนแบบนั้นก็มีท่าทีตื่นเต้นปนเกรงใจนิดๆหน่อยๆ ออกมา

    "ได้สิก็เราเป็นเพื่อนกันนินา^_^"เอ็มม่าตอบพร้อมรอยยิ้มในแบบของเธอ ซึ่งมันทำให้เรเวนดูดีใจกว่าปกติ

    "..งะงั้น ขะขอรบกวนนะคะ"เมื่อคุยกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเอ็มม่าก็พาเรเวนไปนั่งเก้าอี้ข้างๆตัวเองทันที ซึ่งผมที่ไม่ค่อยออกจากห้องก็เลยไม่รู้จะนั่งตรงไหนดี จริงสิมีที่นั่งว่างๆข้างเรเวนพอดี นั่งตรงนั้นแล้วกัน

    "ขอโทษนะครับ ขอผมนั่งตรงนี้ได้มั้ยครับ"ในขณะที่ผมกำลังจะเดินเข้าไปนั่ง ก็มีมือมารพจนเข้าดึงเก้าอี้ไปก่อนแล้วหันไปขออนุญาติเรเวนที่นั่งอยู่ทันที หน็อย!!เจ้าคาร์ล-=- เจ้าอีกแล้วนะ

    "เอ่อ...ค่ะ.."เธอหันมามองหน้าผมก่อนที่จะตอบไปอย่างอย่างขัดๆไม่มั่นใจกันคำตอบของตัวเอง

    "ขอบคุณมากเลยครับ^_^" เมื่อได้รับอนุญาติแล้วเขาก็ล้มตัวนั่งลงเก้าอี้ทันที ก่อนที่จะหันมาทางผมด้วนสีหน้าเหมือนผู้ชนะ ด้วยเหตุนั้นผมเลยต้องมานั่งตรงข้ามกับเรเวนอย่างช่วยไม่ได้ หน็อย...ฝากไว้ก่อนเถอะ

    "เอาล่ะทุกคน รีบทานข้าวเถอะนะก่อนที่มันจะเย็น"เมื่อสิ้นเสียงของลักกี้ทุกคนก็พากันทานอาหารอย่างมีความสุข และเสียงดัง แต่เรเวนกลับไม่แตะอะไรเลยทั้งๆทีเธอออกจะหิวขนาดนั้น

    "เป็นไรไปเรเวน เธอไม่หิวเหรอ?"เอ็มม่าถามเพื่อนของตนอย่างเป็นห่วงที่เธอไม่ได้แตะอาหารเลยสักอย่าง

    "อะ เอ่อ...คือ..มันจะดีเหรอที่จะให้ทานอาหารดีๆพวกนี้?"เรเวนพูดขึ้นมาอย่างเกรงใจ พาลมองไปที่อาหารอย่างไม่วางตา แค่ดูก็รู้แล้วว่าเธอกำลังสับสน เพราะที่ผ่านมาคงไม่ได้ทานอะไรแบบนี้เลยไม่รู้ว่ามันทานยังไงบ้าง

    "ทำไมจะไม่ดีล่ะ"คราวนี้ผมเป็นคนเอ่ยปากถามเอง ถึงจะรู้คำตอบอยู่แล้วก็เถอะ

    "เอ่อ...ก็..ฉะฉัน ทานไม่เป็นน่ะ ค่ะ..."เธอตอบด้วยเสียงที่เบาลงเรื่อยๆ ถ้าให้ผมเดาอาหารที่ได้กินอย่างมากน่าจะเป็นขนมปัง หรือแย่กว่านั้นคงได้กินข้าวสองวันครั้งแร่

    "ถ้างั้น---"

    "เดี๋ยวช่วยป้อนให้มั้ยครับ"ในขณะที่ผู้กำลังจะพูดก็ถูกคาร์ลแย่งพูดไปอีกแล้ว แถมยังอาสาที่จะป้อนจ้าวให้ด้วย เดี๋ยวเถอะสักได้ใจใหญ่แล้วนะไอ้หมอนี้=-=

    "เอ๋?...มะไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ คะแค่สอนหรือทำให้ดูก็พอแล้ว" แต่ก็ถูกเรเวนปฏิเสกกลับอย่างเกรงใจ หึๆสมน้ำหน้า 

    "งั้นเหรอ เสียดายจัง"เมื่อโดนปฏิเสกกลับมา เค้าก็ทานอาหารไปอย่างเงียบๆ ระหว่างนั้นเรเวนก็กินแต่ขนมปังและนม ไม่ทานอย่างอื่นเลยสักอย่าง เห็นแล้วหงุดหงิดนิดๆนะ

    "นี่เรเวน"

    "คะ?! มีอะไรงั้นเหรอ?"

    "เจ้าต้องทานผักกับเนื้อด้วยนะ ไม่งั้นจะไม่มีแรง"ผมพูดพาลตักอาหารอย่างอื่นใส่จานให้ไปด้วย

    "อะ อืม เข้าใจแล้ว ตะแต่ไม่ต้องตักให้ก็ได้"

    "ถ้าไม่ตักให้เจ้าก็ไม่ยอมตักเองอยู่ดี"ผมพูดดักทางไว้อย่างรวดเร็วเพราะรู้อยู่แล้วว่าเรเวนจะต้องพูดแบบนั้น ออกมา

    "...อืม"หลังจากนั้นเรเวนทานของที่ผมตักให้อย่างติดๆขัดๆเพราะไม่คุ้มกับการใข้ช้อนส้อนเท่าไหร่ แล้วยังทานเละเทอะด้วยเลยต้องให้เอ็มม่าค่อยดูแลแล้วเช็ดปากให้ จะว่าไปแล้วเรเวนเนี่ยดูเหมือนเด็กอายุ3-4ขวบมากกว่าอายุ13ด้วยซ้ำ

    "นี่ๆวันนี้น่ะน้า แม่งโครตอย่างซวยไอ้เดอะริปเปอร์งี้ แม่งไล่ไม่หยุดเลย แล้วก็วันนี้แม่งดันมีฮันใหม่มาอีกสองคนงานนี้แม่งไม่รอดแหง"ในระหว่างนั้นเสียงพูดคุยของวิลเลียนก็ดังขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับคำหยาบที่ไม่ค่อยรื่นหูเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นเรเวนก็พูดนะแต่ไม่ขนาดนี้ ถ้าเทียบกันแล้วเรเวนชอบบ่นในใจมากกว่า

    "?...แม่ง?"จู่ๆเรเวนก็พูดตามด้วยสีหน้าที่ใสชื่นและอยากรู้อยากเห็น ซึ่งมันทำให้พวกผู้หญิงในห้องพากันอึ้งไปพร้อมๆกัน

    "!!!=[]=!!"ร่วมถึงผมด้วย

    "ไม่ได้นะเรเวน! ห้ามพูดตามเด็ดขาด!!"เอ็มม่าที่อยู่ใกล้สุดพูดห้ามแล้วปิดหูเรเวนทันทีเพื่อที่จะให้เรเสนได้ยินคำพวกนั้น

    "ใช่ รีบๆลืมคำพูดเมื่อกี้ไปเดี๋ยวนี้เลย!!"คราวนี้เป็นฟิโอน่าที่นั่งข้างผมก็พูดให้เรเวนลืมคำพูดนั้นไปอย่างด่วนๆ

    "นี่วิลเลียน! นายห้ามพูดคำพวกนั้นออกมาต่อหน้าเรเวนเด็ดขาดนะเจ้าใจมั้ย!!"และแถมด้วยคุณวีร่าอีกคนที่นั่งอยู่ใกล้กับวิลเลียนสั่งห้ามไม่ให้เค้าพูดคำพวกนั้นออกมาต่อหน้าเรเวนอีก 

    "อะ ทำไมฟะ เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องฟังเธอด้วยล่ะยัยคนรวย!!"วิลเลียนผู้ที่ความรู้สึกช้า เกียงวีร่าทันทีโดยไม่ดูสถานการณ์ตอนนี้เอาซะเลย

    "ยัย? อุ๊ย!"ด้วยความอยากรู้เรเวนจึงพูดตามอีกรอบแต่ก็โดนเอ็มม่าปิดปากไปอย่างไว

    "เรเวน!!x8+2"เสียงของผู้หญิงทั้งห้องรวมถึงผมและนาอิยเรียกชื่อสาวน้อยขึ้นมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

    "เอ๋?! ฉะฉัน...ทำอะไรผิด..หะเหรอคะ...QAQ"เรเวนผู้ไร้เดียงสาพูดขึ้นด้วยน้ำตาคลอเบ้าอย่างหวาดกลัวนิดๆที่ทุกคนเรียกชื่อของตนเสียงดังแบบนี้

    "เธอไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แต่อย่าพูดคำพวกนั้นออกมาอีกนะ มันไม่ดี เดี๋ยวมันจะทำให้เธอเป็นเด็กไม่ดี พอเป็นเด็กไม่ดีแล้วจะไม่มีใครรัก พอไม่มีใครรักแล้วจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว"นาอิบกล่าวเตือนแอบขู่นิดๆเพื่อที่เรเวนจะได้จดจำแล้วไม่พูดอีก แต่ผลที่ได้กลับตรงข้าม เพราะแทนที่จะให้เรเวนจดจำเป็นบทเรียน ดันกลายเป็นว่าไปจี้ใจดำเรเวนเข้าให้อย่างจัง

    "มะหมายถึง เรเวนจะถูกทิ้งเหรอ!...ไม่เอานะอย่าเรเวนเลย เรเวนขอโทษแง้!!!TT[]TT "เธอเข้าไปกอดเอ็มม่าแน่นแล้วร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่ปกปิด เอาแล้วไงดันทำให้ร้องไห้ซะได้ =-=

    "นาอิบ!!x8+1"เสียงของผู้หญิงดังขึ้นอีกพร้อมกันหันไปจ้องมองเจ้าของชื่ออย่างโกรธเคื่อง

    "อะไรอีกล่ะ ฉันแค่ขู่เฉยๆเอง ไม่คิดว่าเธอจะร้องไห้ออกมา"นาอิบรีบกล่าวแก้ตัวทันที แต่คงไม่ทันทั่แล้วเพราะในเวลาต้องมานาอิบก็ถูกล็อกตัวโดยเอ็มม่าแล้วคุณเอมิลี่เตรียมเข็มฉีดยาขึ้นมา ส่วนเรเวนก็ยังคงร้องไห้อยู่แบบนั้นโดยมีคุณมาธ่าและฟิโอน่าค่อยปลอบใจอยู่ รู้สึกว่าอาหารเย็นวันนี้จะมีแต่เรื่องวุ่นวายไปหมดเลยให้ตายสิ=__=

    ในขณะเดียวกันนั้น

    "กล้องเรียกธูปขาว เป้าหมายคือทหารรับกับกองหน้ารีบจัดการด่วน"เสียงหวานทรงเสน่ห์กล่าวขึ้นพร้อมระบุเป้าหมายให้อีกฝ่ายทราบ

    "ธูปขาวรับทราบ"

    "ธูปดำเตรียมการเรียบร้อยแล้ว รอรับคำสั่ง"เสียงทุ้มกล่าวขานรับทราบแล้วแจ้งความพร้อมให้อีกฝ่ายทราบ

    "แม่งูก็เตรียมการเรียบร้อยรอรับคำสั่งเหมือนกัน"กล่าวนี้เป็นเสียงหญิงสาวที่มีท่องล่างเป็นงูกล่าวขึ้นแล้วเสกเด็กสาวที่เป็นลูกน้องของตนขึ้นมาอีก

    "หึ ผู้ที่ทำให้'พี่หญิง'ของเราต้องคลั่งน้ำตา ผู้นั้นต้องชดใช้ พรีนพูด ทุกหน่วยลงมือได้"เสียงหวานใสกล่าวออกคำสั่งก่อนที่ตนจะยกอาวุธคู่กายขึ้นมาแล้วเดินตรงไปยังประตูหน้าคฤหาสน์อย่างสบายอารมณ์

    ----ตัดจบแค่นี้นะ ตันแล้ว------

    แถมตอนพิเศษให้

    ฉลองวันวาเลนไทน์(ย้อนหลัง) เรเวนเวอร์ขั่นอายุ13

    [อิไล Taik]

    วันนี้เป็นวันที่คู่รักจะได้มอบของขวัญพิเศษให้แก่กัน แต่สำหรับเรเวนแล้วผมคิดว่า มันเป็นวันที่เธอจะซนมากกว่าปกติด้วยซ้ำไป

    "เอ็มม่า~สุขสันต์วันวาเลนไทน์~~"ทันทีที่เธอเห็นเอ็มม่า เธอก็วิ่งไปเข้าไปกอดซะเต็มรักผิดกับผมที่ต้องมาค่อยดูแลเธอตั้งแต่เช้า น้อยใจจังTvT

    "อื้ม สุขสันต์วันวาเลนไทน์จ้า^_^"เอ็มม่ากอดตอบอย่างสดใสแล้วหอมแก้มเรเวนกลับด้วย

    "นี่ดอกไม้กับข็อกโกแลต เลดี้เบิร์ดบอกว่าให้เอามาแจกทุกคน"เรเวนออกจากอ้อนกอดของเอ็มม่าก่อนที่จะยื่นดอกกุหลาบสีชมพูและแดงพร้อมกับช็อกโกแลตรูปหัวใจที่ได้มาจากผู้ดูแลวางไว้ให้ที่หัวนอนพี้อมกับจดหทายที่บอกว่าให้เอาไปแจกทุกคนคฤหาสน์โดยที่คาร์ลได้ไปเป็นคนแรกของวันเพราะอยู่ห้องเดียวกัน ส่วนดอกไม้ที่เป็นกุหลายสีส้ม ส่วนผมเรเวนบอกว่าจะให้เป็นคนสุดท้าย เพราะยังไม่มีดอกไม้ที่จะให้

    "อ้าย~ตายจริงขอบคุณมากนะ>//<น่ารักที่สุด~"เอ็มม่ากล่าวขอบคุณด้วยสีหน้าที่เรื่มแดงเพราะอายพร้อมรับของมา 

    "เอ็มม่าชอบ เรเวนก็ดีใจแล้ว^v^"เรเวนกล่าวก่อนที่เข้าไปกอดอีกรอบ ซึ่งผมเห็นแล้วแอบอิจฉานิดๆ(ฉันว่าไม่นิดแล้วล่ะ) ก่อนที่จะจากกันเพื่อไปหาคนอื่นๆ เอาเป็นว่าผมจะสรุปให้เลยแล้วกับว่าเรเวนให้ดอกกุลาบสีอะไรกับใครบ้าง โดยที่จะละสีแดงเอาไว้เพราะเรเวนจะให้ไปพร้อมๆกับสีอื่นๆ 
    เริ่มจากสีชมพูมี เอ็มม่า นาอิบ ฟิโอน่า เฮเลน่า 
    สีส้ม คาร์ล วิลเลียน เควิล อู่ฉาง โจเชฟ แจ๊ค
    สีเหลือง เอมิลี่ คุณทนาย คุณนักมายา มาธ่า ลีโอ แม็คอาย
    สีขาว ลักกี้ เบน เทรซี่ คุณนักเต้น โจ๊กเกอร์ คุณปลาหมึก คุณงูและน้องทาส
    สีม่วง วีร่า คุณนักสำรวจ เกอิชา คุณโจร คุณแมงมุม

    กว่าจะแจกหมดก็เล่นเอาเหนื่อยมาก ไหนจะต้องค่อยห้ามไม่ให้พวกขี้หลีเข้ากอดเรเวนอีก สุดท้ายก็ต้องมานั่งพักใต้ต้นไม้ในสวน

    "นี่ๆ อิไลขอบคุณที่มาช่วยแจกนะ^v^"เรเวนเดินมาเข้ามาพร้อมกับสวมอะไรบางอย่างให้ผม พอเอาลงดูก็พบว่ามันเป็นมงกุฎดอกไม้ที่ทำจากดอกหญ้าและกุหลาบสีต่างๆที่เหลือมา

    "สวยมั้ย~ แล้วก็ลืมเธอไม่ได้เลยไอริส"เมื่อพูดจบเรเวนก็หยิบมงกุฎอีกอันที่เล็กกว่าสวมลงบนหัวของไอริสด้วย ถึงจะน้อยใจนิดๆที่ได้เป็นคนสุดท้ายแล้วแถมเป็นของเหลือด้วย แต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่ได้เห็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสานี่ด้วย คนอะไรยิ้มได้ตลกชะมัด

    "...อืม ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะ"ผมกล่าวขอบคุณเธอไปอย่างเป็นมิตรที่สุดเท่าที่ทำได้

    "ไม่เป็นหรอก อีกอย่างดอกไม้ที่ฉันอยากจะให้นายจริงๆดันไม่มีน่ะสิT-T เพราะงั้นเอามงกุฎไปแทนก่อนนะแล้วเมื่อฉันหาได้แล้วจะเอาให้^v^" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เดี๋ยวเบาเดี๋ยวดังก่อนที่อธิบายให้ผมฟังว่าจริงๆแล้วเรเวนอยากดอกไม้ที่มันพิเศษกว่า ถึงอย่างนั้นผมก็แอบดีใจนะว่าเธอบอกว่าผมพิเศษกว่าคนอื่นแต่แค่ก็พอแล้วล่ะ

    "งั้นข้าจะคอยแล้วกัน"เมื่อพูดจบ เรเวนก็พยักหน้ารับอย่างร่าเริงก่อนที่จะเล่นจนหลับไป

    "...แอบมองไปแบบนั้นระวังเรเวนจะกลัวท่านเอาไม่รู้นะเพคะ"ผมพูดขึ้นลอยๆเสียงดังพอที่จะให้บุคคลที่หลบอยู่รู้ตัว

    "เฮื่อก!...ขะข้าเปล่านะ ข้าแค่มาเดินชมนกชมไม้เฉยๆ"เสียงหวานใสกล่าวแก้ตัวขึ้นมาพร้อมกับปรากฏตัวให้เห็นร่างเล็กในชุดหรูฟูฟ่าและมงกุฎที่ดูมีราคาบ่งบอกถึงยศถาบรรดาศักดิ์ ของตนได้อย่างดี

    "พะยะค่ะ องค์หญิงว่าแต่ท่านมาพบกับเรเวนงั้นรึ ข้าจะได้ปลุกให--"ผมยังพูดไม่ทันจบก็โดนอีกฝ่ายจ่อดาบยักษ์ที่คอเข้าใกล้ชิด

    "ห้ามปลุกพี่หญิงเด็ดขาด ไม่งั้นข้าจะสะบั้นศีรษะเจ้าซะ"เสียงหวานใสน่าฟังกล่าวออกมาอย่างเลือดเย็นแล้วน่าขนลุก พร้อมกับสีหน้าที่โกรธเคื่องไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก ก็นะพวกขี้หวงก็งี้แหละ

    "...เข้าใจแล้วเพคะ กรุณาลดดาบของท่านลงด้วย"

    "หึ..."

    "แล้วองค์หญิงผู้ทรงสูงศักดิ์มีธุระอะไรกับสามัญขนอย่างข้ารึ?"

    "หึ ข้าก็ไม่ได้อย่างเข้ามายุ่งวุ่นวายกับไพร่ชั้นต่ำอย่างเจ้าหรอกนะ แต่ที่ข้ามาก็เพราะพี่หญิงขอร้องข้ามา เอาไป"เมื่อพูดจบนางก็โยนช่อดอกกุหลาบเอามาให้ผม เมื่อมองไปดีๆก็พบว่าทั้งช่อมีดอกกุหลาบสีดำและน้ำเงินอยู่อย่างล่ะสามดอก ซึ่ง ถ้าผมจำไม่ผิดสีดำหมายถึงความโศกเศร้าและความตายไม่ใข่เหรอแล้วไหนจะสีน้ำเงินที่หมายถึงคำปฏิเสกที่หนักแน่นของความรักที่เป็นไม่ได้นี่อีก ล้อเล่นกันใช่มั้ย

    "กุหลาบสีดำและน้ำเงิน...หมายความว่าไง"ผมเงยหน้าขึ้นไปถามอักฝ่ายทันทีอย่างไม่เข้าใจ

    "ข้าไม่จำเป็นต้องตอบเจ้า หมดธุระข้าแล้ว ลาก่อน"แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมา ผมก้มมองช่อดอกไม้สลับกับเรเวนที่พิงอยู่อย่างสงสัย

    "...ทำไมเจ้าถึงให้สีนี้กับข้าล่ะเรเวน..."

    ------------------------------

    ดีจ้าอันเป็นตอนพิเศษสำหรับวาเลนไทน์ย้อนหลังนะ หวังว่าคงจะชอบกันนะ^_^
    (ใบ้ให้นิดหนึ่งฉากนี้มีความสำคัญต่อตอนต่อๆไปของเรื่องด้วยนะ) ถ้าใครรู้ทันว่าไรต์เป็นพวกชอบให้จบแบบไหนก็อย่าพึ่งบอกคนอื่นล่ะเดี๋ยวไม่สนุกนะอิอิอิ เอาไว้เจอกันใหม่(เมื่อชาติต้องการ)นะ

    *ก่อนจากมาเดากันว่าคนที่เรียกตัวเองว่าพรีนจะมีความสัมพันธุ์กับเรเวนยังไง*

    แถม

    ชุดที่เรเวนใส่อยู่

     
    ฮันเตอร์ใหม่ Arrogant princess



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×