ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~Little Lord Of Nan-Elmoth~ ( ลอร์ดน้อยแห่งพนานันเอลม็อธ )

    ลำดับตอนที่ #40 : Stardusk & Shadow : Part 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 60
      0
      18 มี.ค. 56


    ในเช้าวันรุ่งขึ้น แสงดาวยังคงฉายให้เห็นอยู่บ้างประปราย ใบไม้กำลังปลิวไหวลงสู่พิ้นดิน

     

    อาชาสีขาวใหญ่หนึ่ง และสีนิลอีกหนึ่งตัวกำลังแข่งขันด้วยฝีเท้าอันรวดเร็ว จนใบไม้ปลิวไหว

     

    แม้ว่าการขี่ม้าของมายกลินไม่เชี่ยวชาญเท่ากับผู้เป็นมารดา หากว่าตอนนี้เขากับนางได้มาถึง

     

    ริมแม่น้ำเคลอน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของป่าแล้ว ท่านหญิงขาวก็หันมามองยังโอรสของนาง

     

    เราใกล้จะถึงสุดเขตของป่าแล้ว เจ้ารู้ไหม ทำไมแม่ถึงเคยแอบหนีมาตามลำพัง ”

     

    พรายหนุ่มในชุดสีน้ำตาลเข้มจึงเอ่อนขึ้น “ เพราะท่านเตรียมแผนไว้ซินะ ” และกล่าวต่อ

     

    นานา...ท่านไม่เคยกลัวอะไรทั้งสิ้น วันนี้ลูกจะให้ท่านเห็นว่า วันนี้ ความฝันอย่างแรกของลูก

     

    ใกล้จะเป็นจริงแล้ว ! ”

     

    อาเรเดลนั้นมองพระโอรวด้วยความภูมิใจ...ไม่เสียแรงที่เกิดมาเป็นลูกชายของแม่....

     

     

    พวกเขาได้ขับม้าจนมาถึงทางออกของป่านันเอลม็อธ มายกลินจึงได้ชะงักบังเหียนของตนลง

     

     

    นิ้วเรียวก็ได้ตั้งสมาธิอย่างมุ่งมั่น ท่านหญิงขาวก็เอ่ยด้วยคำภาษาเควนยาแต่มวลพฤกษาที่อยู่รอบ

     

    บุตรชายของนาง เข้าใจดีว่า ต้นไม้ก็คือ ธรรมชาติอันมีชีวิต ซึ่งพรายทุกตนย่อมเข้าใจได้ดีนัก

     

     

    เสียงทุ้มใสและกังวานก็ได้ร่ายมนต์ของผู้เป็นบิดา “ เดรโก เน เฟนนาส เอน ดัวร์ ! ”

     

     

    แสงประหลาดสีขาวก็ได้ตัดออกเป็นทางยาว และหมู่ไม้ก็แยกตัวออกห่างจากกัน

     

     

    ฝ่ายมารดา และเจ้าตุ่นน้อยก็ถึงกับอุทานด้วยความดีใจ การร่ายมนต์นี้สำเร็จ

     

    ออกไปกันเถอะ นานา โนลปา ” บุตรแห่งเอลฟ์กล่าว

     

    ทว่าสายตาสีนิลประกายก็เหลียวหลังกลับ ก็พบเห็นเงาหนึ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่...แต่เขาไม่สนใจมันหรอก

     

    พรายหนุ่มและท่านหญิงอาเรเดลจึงได้ขับม้าของตนออกมา แสงสว่างระยิบระยับจับหมู่ไม้รกทึบ

     

    ผู้เป็นมารดาก็หัวเราะอย่างเปรมปรีดิ์ เมื่อนางได้พาเจ้าฟรายรอสข้ามแม่น้ำเคลอนในระยะน้ำตื้น

     

     

    ซึ่งเป็นชายแดนสุดของป่านันเอลม็อธ ท่านหญิงขาวได้ดึงบังเหียนขึ้น เมื่อพวกเขาได้ถึง

     

    อาณาเขตของลอร์ดคูรูฟิน โอรสแห่งเจ้าฟ้าชายเฟอานอร์ พรายหนุ่มน้อยได้ให้ท่านแม่นำทาง

     

    และฝังเรีนวหน้ามนของตนกับแผงขนของเจ้ามอริออน รู้สึกสายลมที่พัดผ่านในเรือนผมของเขา

     

    ...ถ้าเราไปมีโอกาสออกจากบ้าน ได้ขี่ม้ารับแสงตะวันเช่นนี้ไปตลอดกาล ก็คงจะดีไม่น้อยเลย...

     

    พรายหนุ่มยังคงมองทุ่งหญ้าสีเขียวอ่อนโล่งกว้าง ซึ่งอาบแสงอรุณอ่อน ก่อนอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า

     

    วุ้ย ! ข้าชอบมากๆเลย มายกลิน ” โนลปาซึ่งอยู่บนไหล่ของเจ้านายของตน

     

    อ้าแขนรับลมอย่างสบายใจ จนทำให้มายกลินหัวเราะร่า

     

    นายหญิงผู้เป็นมารดาก็ได้ลดความเร็วของอาชาลง และหยุดนิ่ง ก่อนที่จะก้าวกระโดดลงมา

     

    มายกลินจึงทำตาม และเขาก็รู้สึกว่ามือเรียวบาง ที่เริ่มหนาขึ้นจากการทำงานตีเหล็ก

     

    ได้จับมาไว้ในมือนุ่มละมุนของนาง “ นี้คือ แดนของคูรูฟิน เขาก็เป็นพรายที่เก่งมาก แม่คิดว่า

     

    เขากับพี่เคเลกอร์มจะได้มาซะอีก เราไปหาเขากันดีไหม ? ”

    มายกลินและเจ้าตุ่นผู้เป็นสหายได้แต่มองตากัน...นิ่งเงียบ....

     

    นั้นซินะ แม่เกือบลืมไป ” อาเรเดลจูงมือของบุตรชาย ขณะที่พวกเขาเลาะพาต้นหญ้า

     

    สีเหลืองอ่อน ความอบอุ่นจากสายลมแดนเหนือพัดมาสัมผัสกายและเรือนผมสีรัตติกาล

     

    ก็...นานแล้ว ที่แม่ไม่ได้พบพวกเขา แม่อยากให้เจ้าไปรู้จัก เขาจะได้เห็นว่าแม่เลี้นงเจ้าดีแค่ไหน ”

     

    มายกลิน บุตรแห่งเอโอลก็ทราบได้ทันทีว่า นานา คงคิดถึงกอนโดลิน ถ้าเขามีสัมผัสในการมองเห็น

     

    ได้ดี เหมือนท่านพ่อ เขาจะได้อ่านใจของนางได้...

     

    พี่หนอนทัวร์กอนของแม่ ชอบตื่นแต่เช้าตามนิสัยของเขา และเสียงแตะจะดังก้องกังวานว่า

     

    นี่เป็นเวลาอรุณรุ่งแล้ว เหล่าพลธนูแห่งประตูสีทองจะยิงลูกศรขึ้นสู่ฟ้าในทุกเช้า และอิดริล...”

    หากแสงจอากดวงอาทิตย์ก็ได้เริ่มขึ้นมา ระบายสู่ท้องนภากว้าง หมู่หญ้าซึ่งโนลปากำลังกระโดดไปมา

     

    ได้สั่นไหว รัศมีจรัสเรืองได้กับชั้นของบรรยากาศและหมู่เมฆสีเทาจาง

     

    เจ้าตุ่นน้อยก็ได้ทำอ้าปากหวอ ส่วนมายกลินก็ละใบหน้าจากแสงสว่างนั้นแล้ว

     

    ท่านหญิงขาวก็มองเขา...

    สายตาของเจ้าดีขึ้นใช่ไหม โลมีออน แม่ต้องการให้ลูกได้เห็นมัน ถึงอาจจะไม่ได้บ่อยนัก

     

    เพราะเจ้าเกิดในที่มืด และเห็นในเงาได้ดีกว่าแม่ ไม่ต้องห่วงนะ เพราะแม่เชื่อว่าเจ้าชินแล้ว ”

     

    จริงหรือไม่...

     

    พรายหนุ่มผมดำทรุดลงกับพิ้นหญ้า แสงแดดยังคงทำให้เขาแสบตา จนน้ำใสๆ ออกมาอาบโหนกแก้ม

     

    แต่ว่าข้าไม่สนใจ...

     

    นาย ” โนลปามักเรียกเขาเช่นนี้ เมื่อรูสึกเป็นห่วง มือเล็กวางบนตักของมายกลิน

     

    ข้าไม่เป็นไร โนล เจ้าเองก็ด้วยนะ รู้เปล่า ”

     

    ท่านหญิงขาวก็นั่งลงข้างพระโอรส และวางจูบแก้มข้างซ้ายให้

     

    โลมีออน เราคงใกล้ถึงเวลาไปแล้วใช่ไหมจ๊ะ ? ”

     

    ศีรษะกลมมนได้รูปซบลงบนเรียวไหล่ของมารดา “ แต่...ลูกอยากคุยกับอดาก่อน...”

     

    ก็ลองดูซิ ถ้าเขารักเจ้า เขาก็ต้องฟัง...บ้าง...ล่ะ...ลองดูเถอะ...”

     

    พรายหนุ่มร่างเพรียวจึงเม้มริมฝีปากของตนเล็กน้อย และตัดสินใจถามในสิ่งที่เขาต้องการทราบมานานแล้ว

     

    นานาครับ ทำไมท่านถึงออกจากเมืองกอนโดลินที่สวยงามเช่นนั้นได้ล่ะ ? ”

     

    ...โลมีออน....ถามข้าแล้วจริงๆซินะ....

     

    โนลก็อยากรู้เหมือนกัน” เจ้าตุ่นค่อยๆ ขยับตัวมาซุกบนตักของท่านหญิงอย่างออดอ้อน

     

    อาเรเดลก็ถอนหายใจเบาๆ ริมฝีปากอิ่มสวยเอ่ยช้าๆ “ ตอนนั้น...”

     

    เสียงแผ่วเบาจากการแอบซุ่มของพรายหนุ่มในเสื้อคลุมพรายสำหรับการพรางตัวบนพิ้นหญ้านุ่มละเอียด

     

    กำลังดักฟังอยู่ หากว่าเขาไม่เข้าใจในภาษาพรายที่สองแม่ลูกคู่นั้นกำลังสนทนาอยู่...ภาษาต้องห้าม !...

     

     

    ช่างเถอะ...แค่ดวงตาสีหมอกคู่นี้ ได้เหลือบมองใบหน้านวลกระจ่างซึ่งสะท้อนแสงตะวันยามเช้าของมายกลิน

     

     

    เขาก็สุขใจมากนักแล้ว...คำสั่งของนายท่านเป็นประโยชน์ให้เขาดีจริงๆเลย...

     

    ~!~!~!~!~!~

     

    ตอนหน้าเป็นความทรงจำของท่านแม่แล้วนะครับ จะได้ทราบกันว่า ท่านแม่มาอยู่ป่านี้ทำไม ??

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×