เรียกเสียงฮือฮาทุกตลาดการค้าขายจริงๆ เพื่อ “ราชันโคสว่าง” ลำพูน วอริเออร์ น้องใหม่ศึกไทยลีก ภายหลังผงาดคว้าแชมป์ไทยลีก 2 ด้วยการเลื่อนชั้นเชิงแบบปีต่อ 12 เดือน ด้วยงบประมาณการลงทุนที่มหาศาล นำมาซึ่งการทำให้ถูกขช้านานนามว่าเป็น “เจ้าบุญทุ่ม” รายใหม่แห่งวงการฟุตบอลไทย
จากการนำทัพของ “บอสตาล” พงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก ผู้บริหารสโมสรลำพูน วอริเออร์ ที่จัดเต็มให้แฟนบอลจากแดนเหนือได้ฟินกันอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจากการเป็นแชมป์ไทยลีก 3 เมื่อปี 2564 ต่อเนื่องจากแดูป์ไทยลีก 2 ในปีที่ล่วงเลยไป แต่ที่ถูกกล่าวถึงมากกว่าเลื่อนลำดับชั้น คงจะเป็นการซื้อตัวของหมู่เขา
โดยในฤดูกาลนี้ “ราชันโคขาว” เปลี่ยนโฉมหน้านักเตะ และคณะทำงานสตาฟฟ์โค้ช เริ่มตั้งแต่ การดึงตัว ดุสิต เฉลิมแสน คนแนะนำมากประสบการณ์ ที่ที่ผ่านมาสร้างชื่อเรื่องด้วยการพา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้แชมป์ลีกรอง ก่อนจะเลื่อนอันดับสู่ ไทยลีก 1 และพากลุ่มต่อยอดการบรรลุเป้าหมาย เถลิงแดูป์ลีกสูงสุดได้ในทันที
นอกจากนั้นนี้เกิดการดึงนักเตะคนใหม่ฝีเท้าทายดี นำมาโดย เจนรบ สำเภาดี และ ชนภัช บัวพันธ์ จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, บวร ตาปลา และ ทศพล ลาเทศ www369 จาก เชียงใหม่ ยูไนเต็ด, สหวิช ขำเปี่ยม จาก เกษตรศาสตร์ เอฟซี , สันติภาพ สามัญชน์นิยม จาก สุโขทัย เอฟซี, ธิติ ทุมพร จาก นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี
เชื่อเรื่องได้ว่าการเสริมทัพของหมวดหมู่เขายังไม่จบเพียงเท่านี้ แต่ที่พูดมายังถือได้ว่าลำดับชั้นแข้งไทยลีก ทว่าปัจจุบัน ลำพูน วอริเออร์ มีเนื้อหาข้อมูลข่าวสารกับโคตรแข้งอันดับโลก อย่าง หลุยส์ ช้านานี่ อดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยผ่านการคว้าแดูป์มาแล้วทั้ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 4 ยุค, ลีกคัพ 2 ยุค, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 ยุค และ แชมป์สโมสรโลก 1 ยุค
ครั้นว่าล่าสุดเจ้าตัวจะอายุ 35 ปี แต่ ยาวนานี่ ยังคงเล่นในขั้นสูงกับ เวเนเซีย ทีมจากศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ที่เพิ่งร่วงตกชั้นเชิงไปเมื่อฤชมกาลก่อน ถึงเช่นไรหลังจากเป็นข่าวสารข้อมูลแฟนบอลของทีมได้ลุ้นเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ เมื่อ “บอสตาล” แจ้งข่าวสารร้ายว่าการเสวนากับ ช้านานี่ ล่มไปเป็นที่เรียบร้อย โดยไม่ได้เปิดเผยสาต้นเหตุว่าติดขัดจากเรื่องใด
การพลาดตัวนักเตะที่ความโด่งดังก้องโลกแบบในรายของ นานี่ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก กับทีมน้องใหม่ใจถึง ด้วยเหตุว่าก่อนที่จะเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุด พวกเขาเคยดีลกับแข้งอย่างกับหลากหลายราย และมีบ้างที่บรรลุความสำเร็จ อาทิ เจฟเฟรน ซัวเรซ เมื่อก่อนนี้กองหน้าของ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า และ อาลี ซิสโซโก้ แนวรับชาวคนต่างประเทศเศส สมัยก่อนแข้งของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
เหลือเพียงแค่การประกาศอย่างเป็นทางการเพียงแค่นั้น สำหรับ แฮมิลตัน โซอาเรส กองหน้าเอกสารเปรี้ยงของ “พญาไก่ชน” หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่จัดเตรียมเปิดตัวเป็นนักเตะของ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี
หลังจากฝากผลงานอันเยี่ยมที่สุด เหมือนเป็นการเดินไปที่อำเภอไทยลีก และแจ้งเกิดแบบเต็มตัว พร้อมแล้วสำหรับความท้าทายแบบที่ไม่เหมือนเดิมในฤชมกาลหน้า ขวบปีแรกในลีกไทย แฮมิลตัน ลงเล่นรวมทุกรายการทั้งปวง 31 นัด ซัดให้ทีมน้องใหม่จากทุกถ้วยทุกรายการ 20 ประตู นอกจากนั้นนี้ยังพ่วงลำดับดาวซัลโวไทยลีก ที่ 19 ประตู
หากย้อนไปหลายคนคงจะแค่ได้ยินชื่อ และรู้สึกเฉยๆ เมื่อตัวเขาย้ายมาเข้าร่วมทัพ “พญาไก่ชน” เมื่อปีก่อน ในวันที่ 18 มิถุนายน พุทธศักราช 2564 แต่ภายหลังจากเก็บตัว ฝึกหัดซ้อมกับกลุ่มใช้ช่วงเวลาไม่ถึง 3 เดือน ชื่อเรื่องของเขาถูกเอ่ยถึงโดยทันทีในเกมแรกของศึกไทยลีก เมื่อ หนองบัว พิชญ เอฟซี เปิดบ้านเจอกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี
วันที่ 3 กันยายน พุทธศักราช 2564 เป็นการประกาศชัดว่าน้องใหม่จากแดนอีสาน ไม่ได้มาเล่นๆ เมื่อประเดิมอัด สวาทแคท แบบที่รุ่นพี่จากภาคเดียวกันไปไม่เป็น ชนะไป 2-0 และคนที่ยัดเหยียดความปราชัย 2 ประตู ก็คือ แฮมิลตัน โซอาเรส ท่าดีใจที่เป็นเอกลักษณ์ 2 มือยาวๆ กางออกสุดตัว ชี้ให้เห็นออกถึงการโบยบิน ของชายหนุ่มที่มากถึง 191 เซนติเมตร กลายเป็นรูปที่ชินตาแฟนบอลชาวไทยไปในทันที
ดาวยิงจากแซมบ้า มีหน้าที่แค่ผลิตสกอร์ไปเรื่อยให้กับทีม ถึงแม้ในเกมที่ 2-3 ในลีกจะยิงไม่ได้ แต่ถัดมาอีก 3 เกม ในนัดที่ 4-6 เจ้าตัวยิงได้เกมละลูก จนปิดท้ายเลกแรกด้วยการฝากผลงานเอาไว้ที่ 15 เกม ยิงไป 10 ประตู และลงเล่นทุกนัด
ในเลกที่ 2 แข้งวัย 31 ปี ยังยิงไม่พักผ่อน อาจจะไม่เปรี้ยงปร้าง แบบยิงแฮตทริก แต่สิ่งที่เพิ่มอีกเข้ามาในณ เวลา 15 เกมสุดท้ายคือวิธีการทำไป 3 แอสซิสต์ ทว่ามี 2 เกมที่เจ้าตัวพลาดลงสนาม สาต้นเหตุมาจากการติดโทษใบเหลืองที่สะสมครบโควตา
เท่ากับว่านับในลีก 30 เกม ลงเล่น 28 นัด โดยอยู่ครบจนจบเกมไป 25 นัด ยิงไป 19 ประตู แอสซิสต์ 3 ครั้ง กับปีแรกในไทยลีกถือได้ว่าเยี่ยมที่สุดมากๆแล้ว และดีพอจะคว้ารองเท้าทองคำของลีกไปครอง
หลังจากปิดฉากฤดูกาล 2021-22 แฟนบอลชาวไทยก็ไม่เหงาสักเท่าไร ด้วยเหตุว่ามีโปรแกรมกลุ่มชาติ ทั้งชุดอายุไม่เกิน 23 ปี รวมถึง กลุ่มชาติชุดใหญ่ ที่มีคิวลงเล่นในเวลาต้นเดือนมิถุนายน ทว่าข้างหลังจบจากดิ่งนั้น หลายคนคงจะมีความคิดว่าจำเป็นต้องรอไปถึงเดือนเดือนสิงหาคม ถึงจะได้มีจังหวะชมฟุตบอลกันอีกสักครั้ง
แต่ปัจจุบันนี้มีการประกาศจากกลุ่มราวกับแดนด้ามจับขวาน “เงือกสมิหลา” สงขลา เอฟซี กับการรับเป็นเจ้ารูปในเกมอุ่นเครื่อง ปรีซีซั่น ในรายการ “ล่องใต้คัพ 2022” ทั้งนี้ได้เชิญทีมราวจากลีกสูงสุด 3 ทีม ทั้ง การท่าเรือ เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี และ โปลิศ เทโร เอฟซี
สำหรับรายการนี้จะฟาดแข้งกันที่ สนามติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา ในตอนวันที่ 15-17 กรกฎที่ต้องปฏิบัติาคม 2565 สามารถติดตามเนื้อหาการแข่งขันเพิ่มเติมอีกได้ที่ ล่องใต้คัพ 2022 นอกนั้นนี้สนามที่จะใช้สำหรับเพื่อการแข่งขันอย่าง สนามติณสูลานนท์ ยังคงเป็นสนามตัวเต็งในการใช้เป็นสังเวียนแข้งเกมปรีซีซั่นของทีมชาติไทย ในช่วงเดือนกันยายน อีกต่างหาก
ในรายการนี้ครั้นว่าทีม สงขลา เอฟซี จะอยู่ภายในชั้นเชิงไทยลีก 3 แต่ความพร้อมเพรียงในฤดูกาลใหม่ พวกเขาถูกยกให้เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเลื่อนดีกรีขึ้นไทยลีก 2 ด้วยเหตุว่าจากการเสริมทัพใหม่ เริ่มตั้งแต่ การได้ตัวที่ปรึกษาหน้าจอมเก๋า “โค้ชอู๊ด” สระราวกับุฒิ ตรีพันธ์ เข้ามาเป็นแม่ทัพ นับว่าเป็นการประกาศชัดถึงเป้าหมายในครั้งนี้
เพื่อเฮดโค้ชวัย 42 ปี เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่านการทำงานที่ผ่านมาในวงการฟุตบอลไทยมาอย่างโชกโชน ทั้ง การเป็นผู้ที่ช่วยเหลือคุมกลุ่ม เมืองทองคำ ยูไนเต็ด รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาใหญ่ของทั้ง ศุลกากร ยูไนเต็ด, บางกอก เอฟซี และตอนนี้ การท่าเรือ เอฟซี
ยิ่งกว่านั้นนี้การเสริมทีมของ เงือกสมิหลา ถือว่าดึงแข้งเกรดไทยลีกมาสร้างความหนักแน่น อาทิ จิรอัชต์ วิงวอน มิดฟิลด์ดาวรุ่ง และ นวพล รอดเขียว ปีกตัวจี๊ด โดยทั้ง 2 คนย้ายมาจาก สมุทรปราการ ซิตี้, ยุทธพงษ์ ศรีละคร เซ็นเตอร์แบ็ก ลำดับขั้นกัปตันกลุ่ม “พญาไก่ชน” หนองบัว พิชญ เอฟซี และล่าสุด ดักลาส โคโบ้ แนวรับบราซิลหน้าจอมกล้าแกร่งจาก “จงอางผยอง” ขอนแก่น ยูไนเต็ด
ความคิดเห็น