ning1906
ดู Blog ทั้งหมด

88 slot เครดิตฟรี 40

เขียนโดย ning1906

ออกสตาร์ทแบบสวยสดงดงามทีเดียวสำหรับเจ้าภาพอย่าง กลุ่มชาติสิงคโปร์ ก่อนหน้านี้แชมป์ 4 ยุค ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2020 หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังจากที่ขุนพล “เมอร์ไลอ้อน” เก็บได้ 6 แต้มเต็มจาก 2 เกมแรก โดยมีชัยชนะเหนือทั้ง เมียนมา 3-0 ตามด้วยชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 เมื่อวานก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ กลุ่มชาติสิงคโปร์ ที่ตกลงไปอยู่ลำดับ 160 ของโลกในขณะนี้ ถึงมีเอกสารที่ดีเยี่ยมเช่นนี้ และมีโอกาสสูงที่จะ 88 slot เครดิตฟรี 40 ไปสู่รอบรองชนะเลิศ ไปลุ้นแดูป์สมัยที่ 5 เพื่อที่จะเปรียบเทียบเท่ากับกลุ่มชาติไทย

เพื่อทีมชาติสิงคโปร์ ชุดนี้ ที่อยู่ภายใต้การคุมทัพของ ทัตสึมะ โยชิดะ ผู้ชี้แนะชาวญี่ปุ่น วัย 47 ปี ได้รับจังหวะสำหรับการจัดเตรียมกลุ่มนานนับเดือน ตั้งแต่ขณะต้นเดือนพ.ย. ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา หลังจากที่ เอส ลีก สิงคโปร์ 2021 จบการประลองไป เมื่อเวลากลางเดือนตุลาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา

โดยในเดือนพฤศจิกายน ขุนพล “เมอร์ไลอ้อน” ลัดฟ้าไปเก็บฝึกหัดซ้อมกันที่นครชมไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งแต่วันที่ 8 เดือนพฤศจิกายน เพื่อจะเตรียมพร้อม ก่อนทำศึกฟุตบอลชิงแดูป์อาเซียน 2020 ที่หมวดหมู่เขารับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ

ซึ่ง ในระยะเวลาดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว กลุ่มชาติสิงคโปร์ มีเกมอุ่นเครื่อง 2 นัด ที่ประเทศยูเออี เริ่มจาก แพ้ให้กับ คีร์กีซสถาน 1-2 และแพ้ โมร็อกโก ขาดลอย 1-7

แม้จะแพ้ทั้งสองเกม แต่ ทัตสึมะ โยชิดะ และลูกทีม ก็ได้เหมือนกันรับเรื่องราวที่ผ่านมาเยอะแยะจากการเก็บตัว ที่ประเทศยูเออี พร้อมทั้งได้ตระเตรียมกลุ่มอย่างเต็มสูบ และได้มองข้อผิดพลาด หรือข้อบกพร่องของทีม ซึ่งมีระหว่างปรับแต่ง ปรับแก้กลุ่มได้ทันตามเวลา พร้อมด้วยนำการทำงานที่เคยทำมาทั้งปวงมาต่อยอดในการแข่งขัน อาเซียน คัพ 2020 ได้ในทันที

ซึ่งการเก็บตัวเป็นระหว่างยาวนานในครั้งนี้ ก็เป็นเบื้องต้นที่สำคัญที่ส่งผลให้ สิงคโปร์ เล่นกันได้อย่างเข้าขา เนื่องจากว่าได้ซ้อมกันมาอย่างเต็มที่

เปิดฉากกันมาสักพักผ่อนแล้ว เพื่อศึกฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ โดย กลุ่มชาติไทย เตรียมพร้อมลงสนามในเกมลำดับที่สองของรอบแรก ในวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ช่วง 19.30 น.

ซึ่งการแข่งขันของทั้งสองหมู่ กำลังเป็นไปอย่างเข้มข้น และอีกไม่นาน แฟนบอลชาวอาเซียนก็น่าจะได้รู้ว่า ทีมใดบ้างที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อจากนี้เป็นต้นไป

โดยการแข่งขันชิงชัยในครั้งนี้ ได้มีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น นั่นคือ ชาติต่างๆ ได้เกิดการอิมพอร์ตนักเตะลูกครึ่ง ที่มีเชื้อสายอาเซียน เข้ามาเล่นกันเพิ่มอีกเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพื่อเสริมเติมสมรรถนะของทีมตนเองให้มีจังหวะเพิ่มขึ้นกับการลุ้นแชมป์ อาเซียน คัพ ที่เว้นว่างการจัดการประลองไปถึง 3 ปี

แต่ในปริมาณนี้ มีเพียง 5 คนเพียงแค่นั้น ที่มีชั้นเชิงสังกัดกลุ่มในลำดับ 5 ลีกสูงสุดของ 5 ลีกใหญ่ในยุโรป (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลา ลีกา สเปน, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, ลีก เอ้างอิง คนต่างประเทศเศส, บุนเดสลีกา เยอรมัน)

สุดยอดนักเตะกองหน้ากลุ่มชาติไทย ที่เปิดสนามนัดแรกด้วยการเป็นกัปตันทีม นั่นก็คือ ธีรศิลป์ แดงดา ผู้ทำประตูสูงสุดให้กับทีมชาติไทย ในรายการนี้ เปรียบเท่า วรวุธ ศรีมะฆะ ที่ปริมาณ 15 ประตู และมีโอกาสสูงที่จะทำสถิติมากกว่า นอร์ อลัม ชาห์ กองหน้าชาวสิงคโปร์ ที่ยิงไปทั้งหมด 17 ประตู จนกลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของรายการนี้

โดย ธีรศิลป์ แดงดา หรือ “เอล แดงดา” ลำดับดาวซัลโว เอเซียนคัพ 3 ยุค เคยมีการทำงานที่ผ่านมาการโลดแล่นอยู่ด้านในฟุตบอลยุโรป ถึง 2 ครั้ง 2 ครา เริ่มต้นจากในวัย 19 ปี ที่ย้ายไปเข้าร่วมกลุ่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเหมือนกับของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนที่จะมิได้ลงสนาม เนื่องจากว่าติดปัญหาด้านเวิร์คพอร์มิต และถูกส่งตัวไปเข้าร่วมทัพ กราสฮอปเปอร์ ซูริค กลุ่มในลีกสวิตเซอร์แลนด์ ในขณะต่อจากนั้น

ก่อนที่จะในปี 2014 ธีรศิลป์ แดงดา จะสร้างที่มาที่ไปศาสตร์ กลับกลายเป็นนักเตะไทยคนแรก ที่ได้ค้าแข้งในศึก ลา ลีกา สเปน กับสโมสร อัลเมเรีย และลงสนามไปทั้งสิ้น 6 นัดใน ลา ลีกา สเปน กับอีก 4 เกมในศึก โกปา เดล เรย์ และสามารถทำประตูได้อีกด้วย 1 ลูก ในเกมเอาชนะ เรอัล เบติส 4-3

ก่อนที่จะหลังหลังจากนั้น เขาจะกลับมาเป็นสุดยอดตำนานนักเตะของ เมืองทองคำ ยูไนเต็ด และโลดแล่นในศึกฟุตบอล เจ ลีก ญี่ปุ่น 2 ฤดูกาล กับ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า และ ชิมิสุ เอสพัล์ส โดยยิงได้รวม 9 ประตูในศึก เจ ลีก ญี่ปุ่น ก่อนที่จะกลับมาค้าแข้งที่ประเทศไทยอีกที และคว้าแดูป์ไทยลีก ได้ทันทีกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

จบการแข่งขันในเลกแรก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อศึกฟุตบอล เอ็ม-150 แดูเปี้ยนชิพ 2021-22 โดย “ช้างขาวจ้าวเกาะ” ตราด เอฟซี ผงาดยึดจ่าฝูงได้อย่างเหนียวแน่น แบบไร้พ่าย ตลอด 17 นัดแรกที่ลงสนาม

โดยผลงานของ ตราด เอฟซี แยกแยะออกเป็น ชนะ 13 เกม เสมอไป 4 เกม และแพ้ 0 นัด ยิงได้ 33 ประตู และเสียไปเพียง 13 ลูกเพียงแค่นั้น ซึ่งส่งผลให้ “ช้างสว่างจ้าวเกาะ” มีแต้มนำห่างกลุ่มชั้นเชิง 3 อย่าง “ยักษ์แสด” อุดรธานี เอฟซี ถึง 9 แต้ม

และมีโอกาสเกินความจำเป็นที่ ตราด เอฟซี จะคัมแบ็คกลับสู่ไทยลีก 1 ได้อีกสักทีในรอบ 1 ปีเพียงแค่นั้น และก็มีโอกาสเป็นแดูป์ลีกรอง แบบไม่มีพ่ายได้อีกด้วย

 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น