ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [MarkBam] 궁 (Goong) Palace #แบมแบมป่วนวัง

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.23K
      19
      23 ก.พ. 60





    Chapter 7



     

    "ข้าไม่อยากให้ใครโดนตัวเจ้า นอกจากข้า"

    "..."

    "ข้าหวง"

     
     

    ตำหนักกลับทางไหน โซลไปทางซ้ายหรือขวา ประเทศไทยอยู่ทวีปอะไร... ไอ้คุณองค์ชายพูดมาแบบนี้ เจ้าหญิงตัวปลอมก็ไปไม่ถูกเลย ไม่ใช่แค่คำพูด น้ำเสียงและแววตาที่ส่งมาให้มันบ่งบอกว่าอย่างที่เอ่ยออกมาจริงๆ

     
     

    "น้องสาวข้ามากวนอะไรท่านถึงตำหนัก" เสียงดังทุ้มกังวาลดังขึ้นด้านหน้าตำหนักก่อนการปรากฏตัวขององค์รัชทายาทของเกาหลี แจบอมเดินเข้ามาด้านหลังมีจินยองและซูจีตามเข้ามาติดๆ

    "ไม่ได้กวนนะ" เจ้าหญิงตัวปลอมทำหน้ายู่ทันที

    "ข้าเห็นว่าเจ็บขาก็เลยพาเข้ามาพัก"

    "ขอบใจท่านมาก ซูจี พาเจ้าหญิงกลับตำหนัก" สาวใช้ขานรับพร้อมกับเข้ามาช่วยใส่รองเท้าให้เจ้าหญิงแล้วพยุงให้ลุกขึ้น  แบมแบมหันมาขอบคุณกับองค์ชายต้วนก่อนจะเดินจากไป

    "ข้าจะมาคุยกับท่านเรื่องวันก่อน" เจ้าของตำหนักผายมือเชิญให้องค์รัชทายาทและเจ้าชายจินยองนั่ง จากนั้นทั้งสามก็คุยปรึกษากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอีกพักใหญ่ก่อนที่เจ้าชายเกาหลีทั้งสองจะลากลับ




    ทันทีที่ถึงตำหนักซูจีก็แจ้งถึงความเสียหายและผลของการที่แบมแบมวิ่งหนีไป ทำให้พรุ่งนี้แบมยังคงต้องไปเรียนกับพวกซังกุงอีกครั้งและจะต้องเข้าร่วมเสวยอาหารเย็นกับพระราชาอีกด้วย
     

    "ตาย ไอ้แบมตายแน่"

    "อย่าเพิ่งตายเพคะ แต่เห็นทหารที่รายงานพระราชาบอกว่า พระราชาทรงพระสรวลเสียงดังมากหลังจากฟังเรื่องทั้งหมด"

    "พระราชาไม่โกรธและลงโทษเราเหรอ"

    "ไม่มีรับสั่งอะไรแค่บอกให้ไปร่วมมื้อเย็นแค่นั้นเพคะ" แบมแบมรู้สึกโล่งอกที่รอดพ้นจากการลงโทษที่เขาทำความวุ่นวายในวัง แต่พรุ่งนี้เขาคงต้องไปฝึกกับพวกซังกุงอยู่ดี คิดแบบนั้นแล้วก็ได้แต่ทำหน้าเซ็ง
     

    แบมแบมมองเท้าตัวเองแล้วนึกถึงคุณหมอจำเป็นที่รักษาเท้าของตัวเอง พลางก็นึกขึ้นได้ว่า ตัวเองก็เรียนทางด้านยูกยามาเหมือนกัน
     

    "ซูจี ที่นี่มีตำหนักเกี่ยวกับยาไหม"

    "ยาหรอเพคะ ไม่สบายหรอเพคะ ให้หมอหลวงมาตรวจไหมเพคะ"

    "ใจเย็นๆ เราสบายดี แต่เราอยากไปดูว่ามันเป็นยังไง" สาวใช้คนสนิทพยักหน้ารับรู้และบอกว่าจะพาไปในวันรุ่งขึ้น ตอนนี้ให้ทานมื้อเย็นก่อน แบมแบมรีบบอกให้เอาอาหารมา ตอนแรกเขาก็ไม่หิวหรอก แต่พอซูจีพูดถึงอาหารก็หิวเลย
     

    แบมแบมจัดการมื้อเย็นโดยมีซูจีคอยดูแลมารยาทบนโต๊ะอาหารถึงแม้ว่าจะกินคนเดียวแต่สาวใช้คนสนิทก็แนะว่าให้ซ้อมเหมือนจริงไปเลย ไม่นานอาหารมากมายหลายจานก็หมดลง เจ้าหญิงตัวปลอมก็พยายามนึกว่าเขาลืมอะไรแต่ก็นึกไม่ออกจนได้ยินเสียงเล็กๆ เห่าออกมาจากหน้าประตู นี่เขาลืมเจ้าถ้วยฟูไปเลยได้ไงเนี่ย สองแขนเล็กอุ้มเจ้าตัวขาวขนฟูขึ้นแนบอก แล้วหอมไปที่ขนนุ่มบนหัวไปทีนึง พร้อมกับพูดขอโทษที่ทิ้งไว้กับซูจีจนลืมไปเลย แบมแบมนั่งเล่นกับถ้วยฟูสักพัก สาวใช้หน้าสวยก็บอกให้รีบเข้านอน เขารีบทำตามแบบไม่อิดออด เพราะรู้สึกง่วงขึ้นมานิดๆ และเพราะพรุ่งนนี้มีอะไรรอเขาอีกเยอะ นอนเอาแรงไว้ก่อนดีกว่า







    แสงจากดวงจันทร์สาดส่องลอดเข้ามาตามกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ใหญ่ สายลมโบกพัดเพียงแพ่วเบาเพียงวูบหนึ่งแต่ก็รู้สึกหนาวสะท้านไปทั่วร่างของชายหนุ่มร่างสันทัดที่มีเพียงผ้าคลุมสีดำตั้งแต่หัวจนถึงคอ ร่างสูงโปร่งคุกเข่าลงต่อหน้าเกวียนไม้เนื้อดีอันใหญ่ ช่องไม้เล็กๆ ด้านหน้าถูกเลื่อนเปิดออกด้วยมือที่เหี่ยวย่นตามสภาพแต่ปลายนิ้วเรียวถูกแต้มด้วยสีแดงสดทุกนิ้ว
     

    "พิธีหมั้นจะมีขึ้นอีกในอีกห้าวันข้างหน้าพะยะค่ะ"

    "อี้เอินอยู่คนเดียวรึ อี้จางล่ะ"

    "องค์ชายอี้เอินอยู่คนเดียวพะยะค่ะ หม่อนฉันคิดว่าองค์ชายอี้จางจะมาด้วยแต่ไม่พบพะยะค่ะ"

    "ส่งคนไปเฝ้าอี้เอินไว้ แล้วออกตามหาอี้จางให้เจอก่อนวันหมั้นให้ได้"

    "พะยะค่ะ"
     

    ช่องไม้เล็กๆ ถูกเลื่อนปิดกลับตามเดิมพร้อมกับทหารสองคนที่เดินออกมาจากมุมด้านหลังขึ้นนั่งที่บังคับด้านหน้าเกวียนใหญ่แล้วใช้แส้ตีเบาๆ ที่บั้นท้ายของม้าสีดำเพื่อให้ออกเดินหายเข้าไปในความมืด เมื่อตรงนั้นเหลือเพียงเขาคนเดียวก็ค่อยๆ ลุกขึ้นก่อนจะใช้สองมือดึงผ้าที่พันคออยู่ขึ้นมาปิดใบหน้าช่วงล่าง ก่อนจะพูดขึ้นลอยๆ ท่ามกลางความมืด

    "ออกมาได้แล้ว" ชายชุดดำอีกคนที่มีรูปร่างสูงกว่าค่อยๆ เดินออกมาจากพุ่มไม้ ไม่มีประโยชน์ที่จะหลบซ่อนอีกต่อไป ในเมื่ออีกคนเอ่ยคำพูดนั้นออกมา
     

    "จริงๆ เหมือนเราจะมีจุดประสงค์เดียวกันนะ"

    "อะไร"

    "ตามหาองค์ชายอี้จางไง"

    "แล้วยังไง"

    "เจ้าไม่เคยได้ยินหรอว่า คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตายนะ จินฮวาน"

    "ใครเป็นเพื่อนกับเจ้า ถึงแม้จะหาองค์ชายอี้จางเหมือนกัน แต่เมื่อเจอแล้วจะยังไงต่อ เจ้าก็รู้ว่าข้าต้องทำอะไร"

    "ข้ารู้"

    "ฮันบิน เจ้าอย่าขวางข้าเลย ต่างคนต่างหาดีกว่า เจ้าเจอก่อนองค์ชายก็รอด แต่ถ้าข้าเจอก่อนก็ตามนั้น" เอ่ยเพียงเท่านี้ ก่อนจะหมุนตัวหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้คนมาใหม่ยืนนิ่งพร้อมถอนหายใจออกมา

    "ยังไงเจ้ายังเป็นเพื่อนข้าอยู่ดี เจ้าโง่เอ้ย" สบถเบาๆ ก่อนจะเดินไปอีกทาง โดยที่ไม่รู้ว่าคนที่เดินจากไปก่อนนั้นหยุดและหันหลังกลับมามองร่างสูงอีกครั้งจนอีกคนหายเข้าไปในความมืดแล้วค่อยหันกลับมาออกเดินต่อ สองขาค่อยๆ ผ่อนแรงก้าวเดินก่อนที่จะเงยหน้ามองขึ้นฟ้า แสงจันทร์นวลกำลังถูกเมฆดำบางๆ เลื่อนลอยเข้ามาปกคลุมบางส่วน เปลือกตาบางกระพริบไล่สิ่งที่กำลังจะเอ่อล้นออกมาจากดวงตา เขาจะอ่อนแอไม่ได้ เขาเลือกแล้ว เลือกที่จะเป็นคนโง่ต่อไป

     
     

    เพราะเขาไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนจริงๆ








    ภายในห้องโถงใหญ่ที่จำลองพิธีงานหมั้น แบมแบมกำลังตั้งใจเรียนรู้และทำตามจากซังอึยที่สอนเรื่องพิธีการทั้งหมด วันนี้มีเพียงซังกุงและซังอึยเท่านั้นที่มาสอนเขา และดูน่าจะเป็นที่พอใจของทุกคน เมื่อเจ้าหญิงวันนี้ทำตัวเรียบร้อยและตั้งใจเรียนรู้จนดูแปลกๆ แต่ก็อาจจะเพราะเมื่อวานก่อนเรื่องให้วุ่นวายทั้งวัง หรือเพราะเย็นนี้จะต้องทานมื้อเย็นกับพระราชาก็ไม่รู้ แต่เหตุผลที่แท้จริงคือเพราะว่า ซูจีรับปากว่าจะพาเขาไปยังตำหนักยาต่างหาก ไหนๆ เขาก็เรียนสายหมอสายยามาแล้ว ก็อยากจะรู้ว่าสมัยก่อนเกาหลีมียาสมุนไพรอะไรเด็ดๆ บ้าง
     

    การเรียนรู้ช่วงเช้าสิ้นสุดลงก่อนเวลามื้อเที่ยงเล็กน้อย แบมแบมกลับมากินข้าวเที่ยงที่ตำหนักตัวเอง และตอนนี้แบมแบมกับเจ้าก้อนสีขาวฟูในอ้อมแขน พร้อมลุยตำหนักยาแล้ว ซูจีเดินนำ พาเจ้าหญิงออกนอกตัวตำหนักและอธิบายเมื่อเจอศาลาหรือตำหนักอื่น แบมแบมพยักหน้ารับรู้ เหมือนตัวเองเป็นนักท่องเที่ยวและมีซูจีเป็นไกด์พาทัวร์อยู่ เดินชมความงามของหิมะที่เริ่มละลาย
     

    เดินเล่นกันเพลินๆ สุดท้ายก็มาถึงตำหนักยา ผู้ดูแลตำหนักยาออกมาต้อนรับก่อนที่จะพาเข้าไปด้านใน และพาเดินชมตำหนักจนทั่วก่อนจะมาหยุดที่ลานด้านหลังซึ่งเป็นลานโล่งกว้างไว้ตากแห้งพวกสมุนไพร ใกล้ๆ กันเป็นโรงเก็บสมุนไพร และห้องด้านข้างเป็นห้องปรุงยา ที่ตอนนี้กำลังถูกใช้งานอยู่ เพราะดูจากควันขาวจางๆ ที่ลอยออกมาจากทางหน้าต่าง
     

    แบมแบมเดินเข้าไปด้านในด้วยความอยากรู้อยากเห็นทันที การปรุงยาของเกาหลีโบราณมันจะเป็นยังไงนะ สองขารีบก้าวเข้าไปไม่ทันที่ผู้ดูแลตำหนักจะเอ่ยเตือนเพราะคนด้านในขอร้องห้ามผู้ใดรบกวนเด็ดขาดแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว แบมแบมก้าวเข้าไปแล้วเห็นว่าใครที่ยืนอยู่ก็อยากจะกลับตำหนักเสียจริงๆ และยังไม่ทันจะเดินกลับออกมาคนที่อยู่ด้านในเห็นคนเข้ามารบกวน ตาคมตวัดมอง พอเห็นว่าเป็นคู่หมั้นก็ยิ้มออกมาแล้วเอ่ยทักทายทันที
     

    "คิดถึงข้ามากจนต้องมาหาข้าถึงตำหนักยาเลยรึ"

    "ใครเขาคิดถึงนาย เอ่อ.. องค์ชายกันเล่า เรามาของเราไม่คิดว่าท่านจะอยู่ ไม่งั้นไม่มาหรอก" คนได้ยินคำตอบถึงกับเลิกคิ้วสูง เจ้าหญิงคู่หมั้นเขาสนใจเรื่องยาด้วยงั้นหรอ จากข้อมูลที่รู้มาเจ้าหญิงองค์เล็กแห่งวังโซช็อนโปรดการวาดภาพที่สุด แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร ไว้ต้องลองให้อวดฝีมือสะหน่อยแล้ว

    "เจ้าไม่ควรเอาถ้วยฟูเข้ามาในนี้นะ ซูจีอุ้มออกไปก่อน แล้วเจ้าก็ไปล้างมือก่อนเข้ามาในนี้ด้วย" องค์ชายต้วนออกคำสั่ง แต่แบมแบมก็ยอมทำตามเพราะเขาเข้าใจว่าในนี้ความสะอาดต้องมาเป็นอันดับแรกๆ เจ้าหญิงส่งก้อนกลมสีขาวในมือให้ซูจี แล้วออกไปด้านหน้าที่ผู้ดูแลห้องยาเตรียมพร้อมน้ำให้ล้างมือ เมื่อล้างเสร็จและเช็ดแห้งแล้วก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง

    "เจ้าสนใจปรุงยาพวกนี้ด้วยรึ" แบมแบมครางอือในลำคอพร้อมพยักหน้าให้อีกด้วย ตอนนี้สิ่งที่ดึงความสนใจเขาคือของเหลวที่อยู่ในหม้อดินที่กำลังส่งควันลอยขาวพร้อมกลิ่นฉุนๆ ของตัวยามากกว่า
     

    "ลองทำบ้างได้ไหม" แบมแบมเอ่ยอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่พอองค์ชายพยักหน้าแล้วหลีกทางให้ก็ยิ้มกว้าง ไปยืนอยู่หน้าเตาทันที มือบางเอือมไปจับกระบวยตักยาแล้วค่อยๆ วนไปทางซ้ายเบาๆ แอบลอบมององค์ชายนิดหน่อย ที่ตอนนี้ยืนบดยาอยู่ข้างๆ ไม่นานก็นำมาใส่ในถ้วยลงไป แบมแบมเองก็ยังคนยาไปเรื่อยๆ ควันที่ลอยออกมาเริ่มมีกลิ่นหอมของดอกไม้ผสมด้วย
     

    องค์ชายเอ่ยบอกถึงสิ่งที่ใส่ลงไป ว่ามันคือดอกไม้ป่า เพิ่มความหอมชวนทาน และเมื่อผสมกับสมุนไพรทั้งหมดในหม้อนี้แล้ว จะเพิ่มให้ตัวยาออกฤทธิ์เร็วขึ้น
     

    "การเคี่ยวต้องวนไปทางซ้ายและขวาสลับไปมาแบบนี้" สิ้นเสียง คนพูดก็มายืนซ้อนด้านหลังของเจ้าหญิงแล้วจับที่มือบาง ค่อยๆ วนไปทางซ้ายและขวาสลับกัน

    "ปล่อยมือเราก่อน"

    "ตามตำราเขาบอกว่าห้ามหยุดระหว่างการเคี่ยว"

    "แล้วตามตำราต้องเอามาใกล้เราขนาดนี้ด้วยรึไง" เสียวหวานแหวดุขึ้นเมื่อคนด้านหลังเอาใบหน้ามาด้านข้างเขามากเกินไป ใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจที่รดต้นคอเขา

    "ก็ข้ามองไม่เห็นสีของตัวยา หอมดีนะ"

    "ใช่ๆ พอใส่ดอกไม้ป่าไปหอมขึ้นเลย" แบมแบมตอบไปตามความจริง หากแต่เจ้าชายไม่ได้คิดเรื่องเดียวกันนี่สิ

    "ข้าไม่ได้หมายถึงยา ข้าหมายถึงตัวเจ้า" นั่นไง แล้วแบมแบมจะทำอะไรได้ ก็ยืนหัวใจเต้นแรงหน้าแดงอยู่หน้าเตาให้องค์ชายจับมือเคี่ยวยาต่อไป
     

    มันก็รู้สึกดีอยู่นะ

     

    หลังจากเคี่ยวยาเสร็จทั้งสองคนก็เดินดูในห้องสมุนไพรและที่เก็บยาต่อโดยมีผู้ดูแลห้องยาให้คำแนะนำและตอบคำถามมากมายของเจ้าหญิง จนใกล้ถึงเวลาซูจีก็เข้ามาตามไปเตรียมตัวสำหรับมื้อเย็นกับพระราชา แบมแบมบอกลาและขอบคุณผู้ดูแลห้องยา โดยบอกว่าจะกลับมาหาอีกแน่นอน แบมแบมขอหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพรไปอ่านหาความรู้แก้เบื่อตอนอยู่ตำหนักด้วย
     

    ทั้งสองคนเดินกลับตำหนักพร้อมกัน เพราะองค์ชายก็ต้องกลับไปเตรียมตัวเช่นกัน
     

    "ข้ารู้มาว่าเจ้าโปรดการวาดภาพมากที่สุด"

    "เอ่อ.. วาดภาพหรอ? อ่าๆ ก็ใช่นะ" ตาขวากระตุกถี่มากเลย

    "ข้าอยากเห็นฝีมือของเจ้า" นั่นไง ความซวยมาเยือนจนได้

    "เอ่อคือ… " เจ้าหญิงโบมีตัวจริงคงจะชอบวาดรูป แต่แบมแบมคนนี้ แค่วาดส้มทุกคนยังบอกเป็นทุเรียนเลย แล้วจะบอกองค์ชายยังไง หันกลับไปสบตากับซูจี ก็ได้สายตาตอบกลับมาว่าให้ตอบรับไป

    "ดะ.. ได้สิ ไว้มาดูล่ะกัน ถึงตำหนักข้าแล้ว ขอตัว" แบมแบมรีบกล่าวลาเมื่อถึงหน้าตำหนักตัวเอง
     

    เมื่อเข้ามาในตำหนักแล้ว ก็บ่นให้ซูจีฟังทันทีว่า เขาวาดรูปไม่เป็นนะ แล้วซูจีก็เตือนสติด้วยการบอกว่า "สิ่งที่ท่านควรกังวลตอนนี้คือ อาหารมื้อเย็นนี้นะเพคะ" แบมแบมตาโตทันที เขาพักเรื่องวาดรูปแล้วมาเครียดเรื่องมื้อเย็นกับพระราชาทันที ถึงแม้ซูจีจะบอกว่าเจ้าหญิงโบมีคือองค์หญิงที่โปรดปรานที่สุด ไม่เคยลงโทษเลย แต่เขาก็ยังกลัวอยู่ดี สาวใช้คนสนิทปล่อยให้เจ้าหญิงตัวปลอมนั่งทำใจไป ส่วนตัวเองไปเตรียมชุดให้เจ้าหญิงสำหรับเย็นนี้

     

    "สวยงามมากเพคะ" ซูจีเอ่ยชมหลังจากที่แต่งตัวให้เจ้าหญิงของตัวเองเรียบร้อย ปากบนใบหน้าน่ารักเบะออกเล็กน้อย ถึงเขาจะถูกแต่งให้อยู่ในชุดของสตรี แต่เขาก็เป็นผู้ชาย พอได้ยินคำชมว่าสวยมันก็เลยแปลกๆ

    "โอ้โห้ น้องพี่งามจริงๆ" เสียงของเจ้าชายจินยองเอ่ยชมเมื่อแบมแบมเดินออกไปหน้าตำหนัก

    "อยากหล่อมากกว่า"

    "อยู่ในชุดนี้ ต้องสวยถูกแล้วนะ" แบมแบมได้แต่ทำหน้างอต่อไป จินยองยิ้มขำ ก่อนจะเดินนำออกไปเพื่อไปที่เกี้ยวที่วางรออยู่

    "เราต้องนั่งไอ้นี่ไปหรอ" แบมแบมหันมาถามจินยอง ได้คำตอบเพียงการพยักหน้า เขาเคยเห็นแต่ในโทรทัศน์เท่านั้นแหละ ไม่คิดว่าจะได้มาลองนั่งแบบนี้ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ขบวนเสด็จของเจ้าหญิงโบมีก็ออกเดินทางไปยังวังหลวง ที่อยู่ข้างๆ สวนลับนี้

     









    #แบมแบมป่วนวัง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×