คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 10 ผู้หญิงคนนี้เธอเป็นคนรักของผม (100%)
“อุ๊ย!”
เจ้าของเสียงหวานหวีดร้องด้วยความตกใจเมื่อเหตุการณที่เกิดขึ้นไวเสียจนจับต้นชนปลายไม่ถูก มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ตัวเองก็มานั่งอยู่บนตักแกร่งอย่างหวานเสียวเป็นที่เรียบร้อย
“พี่นันท์ทำอะไรคะ” หญิงสาวถามทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าคนตัวโตจับตนเองมานั่งตัก ทว่าที่ถามก็เพราะไม่เข้าใจว่าเขาจะลากให้เธอมานั่งตักเพื่ออะไร
“พี่แค่หาเพื่อนกินข้าวเท่านั้นเองค่ะ” ชายหนุ่มตอบขณะยื่นหน้าไปใกล้ดวงหน้าหวาน ก่อนจะกดจูบที่แก้มเนียนอย่างมันเขี้ยว
“อืมหอมจัง นุ่มอีกต่างหาก”
“พี่นนท์ !”
ชาริกาตกใจยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองไว้อย่างเขินอาย เนื่องจากไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรรุ่มร่ามเช่นนี้ ในเมื่อที่นี่มันคือที่ทำงาน
“พี่ว่าเราทานข้าวกันดีกว่านะคะ” ชายหนุ่มรีบตัดบท ก่อนที่หญิงสาวบนตักจะตั้งตัวได้แล้วลุกออกไป ซึ่งเขาไม่ยอมให้เธอทำเช่นนั้นแน่
“แต่พี่นนท์จะทานลำบากนะคะถ้าชามยังนั่งอยู่บนตักพี่แบบนี้” หญิงสาวอธิบาย
“เปล่าเลยค่ะ ชามนั่งแบบนี้ต่างหากที่จะทำให้พี่เจริญอาหาร” ชายหนุ่มแย้ง ก่อนจะพูดต่อโดยไม่มีเวลาให้เจ้าของร่างนุ่มปฏิเสธได้
“เรามาทานกันดีกว่าเนอะ เดี๋ยวจะเย็นจนชืดหมด”
“ค่ะ”
หญิงสาวจำต้องรับคำไป เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาคงไม่มีทางปล่อยให้ลงไปจากตักแกร่งนี้ง่ายๆ แน่จนกว่าจะพอใจ เนื่องจากรู้จักนิสัยของนนทพัทธ์ดีในระดับหนึ่ง เมื่อเขาต้องการอะไรแล้วก็ต้องได้ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องนี้ก็เช่นกัน
หลักจากตกลงกันได้สองหนุ่มสาวต่างก็ผลัดกันป้อนอาหารกัน จวบจนต่างฝ่ายต่างก็อิ่มหนำสำราญ แม้ว่าอาหารรสชาติจะดีไม่เท่ากับภัตตาคารระดับห้าดาว ทว่าความใส่ใจในการปรุงรสของคนทำก็ทำให้รสชาตินั้นวิเศษยิ่งกว่าเชฟมือหนึ่งของโลกเป็นคนปรุง
เสน่ห์ปลายจวักที่แสนถูกปากบวกกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของกายสาวที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วห้อง จนเจ้าของตักแกร่งเผลอสูดดมไปเสียเต็มปอดอยู่หลายครั้ง
การป้อนอาหารแต่ละคำยังแถมการหอมแก้มนุ่มไปอีกฟอดด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คนที่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องการกินเจริญอาหารยิ่งนัก
“น้องชามจะกลับแล้วเหรอ”
ชายหนุ่มถามเสียงอ้อนหลังจากเห็นคนส่งอาหารเก็บของลงกล่องเรียบร้อย จนเจ้าของชื่อได้แต่ยิ้มขำ เพราะช่วงหลังมานี้นนทพัทธ์ชักเริ่มอ้อนเก่งขึ้นโดยเฉพาะเวลาที่เขาอยากจะได้อะไรบางอย่าง
“ค่ะ พี่นนท์จะได้ทำงานต่อไงคะ” หญิงสาวตอบพร้อมกับอธิบาย กลับทำให้คนขี้อ้อนหน้ามุ่ยลง
“แต่พี่ไม่อยากให้กลับ”
ชาริกามองคนตัวโตที่ทำแก้มป่องคล้ายๆ กับที่น้องชายฝาแฝดเขาชอบทำถ้าไม่บอกว่าผู้ชายคนนี้คือนนทพัทธ์ เธอคงคิดว่าวิญญาณของนันทพัทธ์มาเข้าสิงเขาแน่
“ชามกลัวรบกวนเวลางานพี่นนท์” หญิงสาวตอบเสียงอ่อย เนื่องจากเริ่มจะใจอ่อนกับความขี้อ้อนของเจ้าของห้องเสียแล้ว
“พี่ขอเวลาทำงานสักพักหนึ่ง จากนั้นเราไปดูหนังกันนะ” ชายหนุ่มบอก แต่หญิงสาวยังคงยืนนิ่งคิดอยู่ จึงเริ่มอ้อนต่อ
“นะคะน้องชาม นะๆ”
“ก็ได้ค่ะ” คนขี้ใจอ่อนตอบตกลง ก่อนจะได้รับรางวัลเป็นจูบเร็วๆ ทีหนึ่ง
“น่ารักที่สุด”
นนทพัทธ์พูดขณะผละออกจากร่างบาง หลังจากจูบไปที่ปากหวานเมื่อครู่ แต่ไม่ใช่จูบที่ลึกซึ้ง เป็นเพียงการจูบขอบคุณเท่านั้น ทว่าก็สามารถเรียกเลือดฝาดจากหน้าหวานได้เป็นอย่างดี
“พี่ขอทำงานก่อนนะคะ”
พอพูดจบชายหนุ่มก็เดินผิวปากไปที่โต๊ะทำงานใหญ่กลางห้องอย่างอารมณ์ดี ปล่อยให้คนถูกปล้นจูบยืนหน้าแดงเพียงลำพัง
ชาริกายืนนิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ไม่ใช่ว่าไม่เคยถูกนนทพัทธ์จูบ ทว่ามันกลับบ่อยครั้งเสียจนนับครั้งไม่ได้ แต่ทุกครั้งที่เขาทำมันมาจากแรงอารมณ์ความแค้นและความสมเพชในตัวเธอ
แต่ครั้งนี้มันกลับมาจากนนทพัทธ์ที่เป็นผู้ชายขี้อ้อนและขี้เอาใจ ซึ่งมันก็ทำให้เธอเขินอายเสียทุกครั้งที่เขาแสดงออก จนทำให้เผลอแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการกระทำของเขาที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ มันส่งผลตรงต่อหัวใจดวงน้อยที่มักจะเอนเอียงไปทางเขาวันแล้ววันเล่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับใจตอนนี้มันเรียกว่า ‘ความรัก’ หรือเปล่านะ หญิงสาวได้แต่ถามตัวเองในใจ
‘ฉันรักคุณไปแล้วจริงๆ หรือคะคุณนนทพัทธ์’
ความเย็นชาที่ชาริกาพยายามสร้างขึ้นมาตลอดห้าปี เพื่อปกป้องตัวเองจากคำพูดว่าร้ายต่างๆ นาๆ จากนนทพัทธ์ ทว่าวันนี้กลับพังครืนลงมาไม่เหลือเศษซากเหตุจากคนๆ เดียวกัน คงไว้เพียงผู้หญิงที่แสนหวานขี้ใจอ่อนตามนิสัยที่แท้จริงของตัวเอง ซึ่งนนทพัทธ์เองก็มองเห็นในจุดนี้เช่นเดียวกัน
แต่ความรักของหญิงสาวจะดำเนินไปทิศทางไหนหรือจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ไม่มีใครรู้ได้ เนื่องจากความรักครั้งนี้มันเกิดขึ้นระหว่าง ‘ความแค้น’ของอีกคน
ฝากติดตามด้วยจ้าา
ความคิดเห็น