คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : ฉันรักเธอ
ภายในห้องรับแขกกลางบ้านที่แสนเงียบเชียบ ไร้วี่แววของการมีคนอยู่ โควกลับมาบ้านด้วยความเหนื่อยล้า มหาลัยใกล้จะเปิดแล้ว เขากำลังจะเป็นนักศึกษาใหม่ในคณะบริหารธุรกิจที่จำเป็นอย่างยิ่งในอนาคตอันใกล้นี้
“แม่ยังไม่กลับมาเหรอ?” เขาเอ่ยถามกับคนใช้ที่เดินออกมาต้อนรับ จัดการเอาเสื้อโค้ทกับผ้าพันคอของเขาไปเก็บ แม่บอกว่าจะออกไปข้างนอก เวลานี้น่าจะกลับมาได้แล้วนี่นา
“คุณนายออกไปทานข้าวกับเพื่อนค่ะ คุณชาย” สรรพนามที่เรียกให้ความสนใจกับเขามากกว่าเรื่องที่แม่จะออกไปทานข้าวข้างนอกเสียอีก
ถ้ารินกลับมา คงจะถูกเรียกว่าคุณหนูสินะ ไม่ใช่คุณชาย เพราะคุณหนูน่ะ เหมาะกับรินมากกว่านี่นา
ตอนนี้เป็นเวลา 1 ทุ่มแล้ว รินจะได้ทานข้าวรึยังนะ? ไอ้คนที่ลักพาตัวรินไปจะให้รินได้ทานข้าวมั่งรึเปล่า....
“คุณชายจะทานข้าวเลยไหมคะ?” สาวใช้ร้องถาม เลยเวลาอาหารเย็นมานานแล้ว
“อืม” โควตอบรับเบาๆ พร้อมถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย
.
.
ณ โรงแรมหรูที่สูงถึง 9 ชั้นกลางใจเมือง ห้องงอาหารชั้น 7 ที่หรูหรา มีอาหารพร้อมสรรพทุกสัญชาติ ต้อนรับเฉพาะแขกวีไอพีเท่านั้น
โต๊ะกว้างสีขาว ปูด้วยผ้าสีนวลขอบทองดูหรูหรา มีดอกกุหลาบเหลืองประดับ แซมด้วยดอกลิลลี่ขาว ติดอยู่กับผนังกระจกที่ให้เห็นวิวสวยๆ ทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืน ภาพรถราบนท้องถนน ต้นไม้น้อยใหญ่สั่นไหวไปมาตามแรง ดูสวยงาม
3 คนนั่งอยู่คนล่ะมุมของโต๊ะ โดยมีบริกรคอบรับออร์เดอร์อาหารอยู่ ชายชราสวมชุดยาตะเช่นเคย แต่เป็นสีและแบบที่เหมาะแก่การออกไปข้างนอก ยูคาตะสีน้ำเงินเข้ม ลายต้นไผ่สีขาวสะอาดตา ส่วนเด็กหนุ่มสวมชุดแบบเดียวกัน แต่สีสดใสกว่า ใบหน้าเนียนนั้นคล้ายเด็กสาว สวมยูคาตะสีเขียวอ่อน ลายดอกโบตั๋นสีขาวลายริ้ว และหญิงที่ใกล้ๆกันนั้นก็สวมชุดให้เข้ากับทั้งสอง เป็นชุดยูคาตะสีม่วงแดง ลายดอกซากุระสีชมพูไล่ไปขาว แต่งหน้าและประดับผมอย่างงดงามสมฐานะ
“สั่งได้เลยนะ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง” มาซายะพูดอย่างเอาใจ ยามพูดกับสาวสวย ก่อนจะมองไปยังหลานชายที่ดูประหม่า
ฮึ! ไอ้เด็กเวรนั่นคงไม่เคยให้ลูกชายทานอาหารในที่แบบนี้เลยสินะ!
เขาจินตนาการถึงภาพที่รินต้องนั่งทานข้าวคนเดียวอย่างเงียบๆคนเดียวในบ้านที่เงียบเหงา
“อยากทานอะไรก็สั่งนะ ริน” เขาลูบหัวหลานชายปลอบให้เขาหายประหม่า แล้วจัดการสั่งอาหารชนิดอื่นๆ เป็นอาหารเบาๆรองท้องก่อนจะถึงอาหารหลัก
ไม่ถึงสิบนาที อาหารที่สั่งก็มาถึง อาหารรสเลิศจากหลาประเทศวางเรียงรายเต็มโต๊ะ เคียงอาหารจานหลังอย่างสวยงาม ทั้งฟัวกราส์ แซลมอนอบเนย ลาซานญ่า นอกจากอาหารยุโรปแล้ว ยังมีอาหารญี่ปุ่นมาเสิร์ฟ ซูชิหน้าปลาทะเลสด ไข่ปลาแซลมอน คาร์เวียและไข่หอยเม่น ทุกอย่างดุสดสะอาดและน่าทาน เป็นอาหารที่หลากหลาย ซึ่งทุกอย่างถูกปรุงโดยใช้น้ำมันและไม่ใช่น้ำมันน้อยที่สุดในบางจานตามความต้องการของมาซายะเพื่อจะเอาใจเอริ สาวสวยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนี่เอง
“น่าทานจังเลยนะคะ” เอริพูดขึ้น ทำลายบรรยากาศที่นิ่งงันจนอึดอัดมานาน เธอรู้สึกอึดอัดยามถูกจ้องมองโยชายชราที่นั่งฝั่งตรงข้าม
แม้ชายชรานั้นจะดูแก่ แต่สายตาที่มองมากลับไม่ใช่เลยสักนิด ดูราวกับม้าหนุ่มที่เลือดร้อนตลอดเวลา
“อาหารอร่อยไหมครับ คุณเอริ?” เขายิ้มตาหยี พลางถามสาวสวยด้วยรอยยิ้มอย่างเจ้าชู้ ท่าทีไม่บ่งบอกถึงความชราแม้แต่น้อย
“แน่นอนค่ะ วันหลังฉันคงต้องมาบ่อยๆเสียแล้ว..แต่ว่า..รับเฉพาะแขกวีไอพีนี่นา แย่จังเลย” เธอพูดอย่างชอบใจ แล้วแสร้งทำเป็นผิดหวังในประโยคสุดท้าย ทำเอาเขายิ้มกริ่มก่อนจะพูดขึ้นอย่างที่เธอคาดเดา
“ฮึฮึ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ขอแค่คุณต้องการ จะมากี่ครั้งก็ได้ไม่เป็นไร” นานครั้งนักที่จะเจอสาวที่ถูกสเปค จึงอดไม่ได้ที่จะเจ้าชู้ใส่ แม้ว่าจะมีสาวใช้หน้าตาดีอยู่รอบกาย ปรนนิบัติทุกอย่างที่ต้องการทั้งบนเตียงและนอกเตียง แม้จะอายุเยอะขึ้น แต่เขาก็ใช่ว่าจะหมดน้ำยานี่นา สิ่งที่ผู้ชายสมควรมีมันก็ยังแข็งแรงดีอยู่ สูสีกับหนุ่มๆ
“แหม...เกรงใจจังเลยค่ะ” รินรู้สึกเหมือนส่วนเกินแปลกๆ แต่อาหารตรงหน้านี่อร่อยจนเขาไม่สน นึกถึงซูชิทะเลที่เคียวพาไปทานที่ทะเลเมื่อครั้งนู้น นอกจากซูชิแล้ว เจ้าปลาหมึกที่ชุบแป้งทอดปรุงรสนี่ก็อร่อยมากจนอยากสั่งอีก รสชาติเผ็ดนิดๆถูกปาก
“เอาอีกไหมครับคุณหนู?” ยาตะที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างๆก้มลงถาม สังเกตทุกอิริยาบถของคุณหนูทุกอย่าง ดูออกว่าเขาชอบคาลามารี ที่เป็นอาหารว่างของอิตาลี
รินไม่ตอบแต่พยักหน้าเบาๆ ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆก่อนจะสั่งกับบริกรด้านข้าง พลางมองดูเจ้านายตัวเองป้อยอสาวสวยตรงหน้าอย่างเบื่อหน่าย
เจ้านายเขามักจะชื่นชอบหญิงสาวที่มั่นใจในตัวเองอย่างเอริมากที่สุด ดูทั้งมั่นใจ ทระนงตนและเอาใจเก่ง จากที่สืบมา เธอเป็นนักแสดงและนางแบบชื่อดังที่มีชื่อเสียงพอสมควร
ดูเขาสิ เอาแต่สนใจเธอคนนั้นจนลืมหลานชายไปชั่วขณะเลย
“เอาอันนี้ด้วยไหมครับ?” เขาเลิกสนใจเจ้านาย หันมาหาคุณหนูของเขาแทน เขาชี้ไปที่เมนูอาหารธรรมดา แต่ทำจากวัตถุดิบชั้นดี
รินทานเผ็ดมากไม่ได้ เขาจึงให้ทานคาลามารี ไข่เจียวปูฟู กับไข่ม้วนกุ้ง แตะอาหารจานหลักเพียงนิดเดียวซึ่งเป็นพาสต้าซอสเห็ด แมจะสั่งมาหลายจาน แต่ปริมาณนั้นไม่ได้เยอะ รินจึงทานได้หลากหลาย เขาจึงสั่งไข่เบเนดิกซ์มาด้วยอีก ซึ่งรินก็ยังทานได้อีก อาหารที่เขาชอบ เหมือนกับที่ซายากะชอบทุกอย่าง เขาจึงสนุกกับการแนะนำอาหารและมองดูรินทานอาหารด้วยความสุขใจ
ฝ่ายเอริเองก็ก็เฝ้าดูการกระทำของมาซายะทุกอย่าง สนใจแต่เธอจนไม่สนรินแล้ว ดวงตาคู่งามจ้องมองเด็กหนุ่มทานอาหารอย่างเอ็นดู สัญญากับตัวเองว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุด หากเขากลับมาแล้ว
มื้ออาหารเย็นเป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยมีมาซายะคอยหยอดลูกจีบเอริอยู่ไม่ขาด ส่วนรินก็สนุกกับการได้ทานอาหารที่หลากหลายจนลืมทุกสิ่ง
“ทานของหวานหน่อยไหมครับ คุณเอริ?” หลังจากเช็ดปากจนเรียบร้อยแล้ว เขาจึงเอ่ยปากถามเธอ เอริไม่อยากจะทานของหวานอีก แต่พอมองดูรินแล้ว เธอก็ตัดสินใจพยักหน้าอย่างเต็มใจ
“เอาของหวานอะไรดีฮึเรา?” ไม่ได้ลืมเสียทีเดียว เพราะเห็นว่ายาตะคอยดูแลเขาอยู่จึงวางใจ หันมาถามหลานชายที่ชื่นชอบของหวาน
เขาให้อาหารทุกอย่างที่ดีและมีประโยชน์ รวมถึงขนมหวานหลากชนิดให้แก่หลานชาย ที่เหมือนเป็นตัวแทนของลูกสาวสุดที่รัก
“ฮะ!”
.
.
.
ของหวานหลังมื้อเย็นคือไอศกรีมวานิลลาราดซอสช็อกโกแล็ตและกล้วยหอม เขาทานได้ไม่รู้จักอิ่มเลยนะ แถมยังทานไปได้ตั้งสองถ้วยแน่ะ!
ตอนนี้มาซายะมีธุระด่วน จึงต้องขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอก พร้อมกับยาตะ โดยขอร้องให้เอริคอยดูแลรินไว้ให้ด้วย ตอนนี้เป็นเวลาหลังอาหารเย็น จึงนั่งพักชมวิวให้ท้องิ่ม พร้อมทานอาหารหวานล้างปาก
ตอนนี้จึงเป็นโอกาสดี ที่เธอจะคุยกับริน ปรับความเข้าใจกันเสียใหม่ และขอให้เขาร่วมมือกับแผนการของเธอ เพื่อที่จะกลับไปยัง ‘บ้าน’ ด้วยกัน
“ริน....ไปชมวิวที่ระเบียงกันนะ” เธอเรียกเขาอย่างสนิทสนม อย่างที่สมควรจะทำ อยากจะดึงเขามากอด คุย หรือหยอกล้ออย่างที่แม่และลูกชายเขาทำกัน รินสะดุ้งเล็กน้อย มองหน้าเธออย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ก็ลุกตามไปโดยดี ด้วยความทรงจำไม่ดีที่มีกับเธอนั่นเอง
สถานที่ที่ห่างจากโต๊ะทานอาหาร ถัดมาคือระเบียงกว้าง มองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนสีน้ำเงินเข้ม พร่างพราวไปด้วยดวงดาวนับร้อยดวงเต็มท้องฟ้า ราวผืนผ้าใบสีน้ำเงินถูกแต่งแต้มด้วยสีขาวสว่างสุกใส มันหาได้ยากในเมืองที่วุ่นวาย รินจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก คราวที่ไปทะเลเมื่อคราวก่อนเองก็เป็นเช่นนี้ แม้ที่นี่จะไม่เยอะเท่า แต่ก็ได้ยากที่เป็นแบบนี้
เอริมองดูใบหน้าด้านข้างของเด็กหนุ่มข้างตัวอย่างสำนึกผิด ใบหน้าเช่นนี้เองที่เธอไม่เคยได้พบเห็นแม้เพียงเสี้ยว หรือาจจะเคยพบเห็น แต่กลับลืมเลือนไปเพราะความเกลียดชังในจิตใจ
ดูเขาในตอนนี้สิ...มีความสุขมากกับสิ่งที่ได้พบเจอเมื่ออยู่นอกบ้าน ต่างจากที่พวกเธอเคยจำกัดพื้นที่ให้เขาอยู่เพียงแต่ในบ้านและโรงเรียนเพียงเท่านั้น
“ริน...ตอนอยู่กับ..คุโรอากิซัง...เขา ทำอะไรเธอบ้างรึเปล่า?” เธอเอ่ยถามเขาเสียงแผ่ว แม้จะได้ยินจากปากของเคียวเองแล้ว แต่เธอก็ยังอยากที่จะได้ยินจากปากของรินอีก
“เอ๋..อ..เอ่อ...ก็..ก..ก็มีบ้างฮะ” รินสะดุ้งโหยง หันกลับมาอย่างตกใจนิดๆ ไม่คิดมาก่อน ว่าเอรินั้นจะพูดจากับเขา บนสนทนาที่เคยพูดครั้งล่าสุด คงจะเป็นครั้งที่ยังเด็ก
“เขา...ท..ทำอะไรเธอ” แววตาคู่สวยสั่นไหวเล็กน้อย เจ็บปวดภายในใจลึกๆ
“ต..แต่ว่า! เคียวซังก็ใจดีกับผมแล้วนะฮะ! ไม่ได้ตีผมแล้ว..ล...แล้วก็ ให้ขนมผมทุกวันเลย ผมได้ทานข้าวอิ่ม มีห้องนอนอุ่นๆ มีเสื้อผ้า แล้ว..แล้วก็..แล้วก็พาผมไปเที่ยวด้วย..พ..เพราะฉะนั้น..อ..อย่า..อย่าโกรธเคียวซังนะฮะ...” เหมือนจะได้ได้ยินคำถามที่ถามต่อมา จึงโพล่งถึงความใจดีของเคียวให้เอริฟังจนหมด ไม่อยากให้ใครเข้าใจเคียวซังของเขาผิดไป เคียวซังน่ะ..ใจดีมากนะ!
ดีจัง....
“งั้นเหรอ..เธอคงมีความสุขมากใช่ไหม?” เธอยื่นมือขาวเยียน ที่ผ่านการอาบน้ำแร่แช่น้ำนมมาอย่างดี ลูบหัวของเด็กหนุ่มที่ตัวพอๆกันอย่างเบามือและอ่อนโยน ความรู้สึกดีๆ ความเบาใจลดลงไปอย่างถนัดตา เมื่อได้ยินว่าเขาสบายดี ยามไม่ได้อยู่กับพวกเธอ ซ้ำยังสุขสบายกว่าอยู่กับพวกเธอมากนัก
“ใช่ฮะ..ผมมีความสุขมากเลย!” รินร้องบอก น้ำเสียงสดใส ยามพูดถึงเขาคนนั้น รู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน ยามมือนั้นแตะเบาๆที่หัว ให้ความรู้สึกเหมือนคุณแม่ไม่มีผิด
“รู้ไหม? ตอนเธอหายไป ทุกคนตกใจกันมากเลยนะ พวกเรารู้เรื่องอะไรๆหลายๆอย่างเลยล่ะ เป็นเรื่องที่ทำให้พวกเราเสียใจและคิดถึงเธอมาก” เธอบอกกับเขาเสียงเบาขณะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาวข้างระเบียง ยังคงมองเห็นทิวทัศน์งดงามของยามค่ำคืน
“อะไรเหรอฮะ?” น้ำเสียงยามพูดกับเธอ เริ่มเป็นธรรมชาติขึ้นมาบ้างแล้ว เอ่ยถามอย่างสนใจ ยิ่งรู้ว่าทั้งคุณพ่อ เอริซังและพี่ชายตกใจกับการที่เขาหายไปตัวไปแล้ว รู้สึกดีใจมาก
เพราะมันหมายถึงว่า พวกเขายังคงเห็นความสำคัญของเขาอยู่
“มันยาวมากนะ...แต่คงจะพอมีเวลา...”
หญิงสาวเริ่มเล่าถึงความทุกข์ทั้งหลายที่เกิดความโง่เง่าของพวกเธอ ให้แก่เด็กน้อยที่ไร้เดียงสา
ที่พวกเธอเฝ้าทำลายเขามาแต่เด็ก
.
.
.
.
.
ในอีกมุมหนึ่ง มาซายะที่ปลีกตัวออกมาทำธุระนั้น แท้จริงแล้วคือ....
“คิดไม่ผิดจริงๆ ว่าต้องเป็นคนใกล้ชิดที่ฉันไม่เคยรู้จัก” เขานั่งอยู่ชั้นบนของโรงแรมหรู ห้องประชุมวีไอพีที่ดีที่สุด ข้างกายยังคงมีชายหนุ่มชื่อยาตะคอบรับคำสั่งอยู่ไม่ห่าง เบื้องหน้าคือไวน์ชั้นดีที่ถูกรินโดยสาวสวยท่าทางนอบน้อม แม้จะขอปลีกตัวออกมาก่อนครู่หนึ่ง แต่ก็ขาดเสียไม่ได้
“อุตส่าห์ถูกใจเสียแท้ๆ ช่วยไม่ได้นะ คงต้องกำจัดทิ้ง โทษฐานที่บังอาจมาแหย่ฉัน” ดวงตาคู่นั้นวาววับอย่างน่ากลัว ทำเอาชายหนุ่มอดเหงื่อตกเสียไม่ได้ ไม่ใช่เพราะกลัวเขา แต่ว่า เธอคนนั้นคือแม่เลี้ยงของริน จากการที่สายสืบสืบมา เธอใช้เส้นสายของเธอในวงการ รวมถึงเดินทางไปที่นั่นหรือที่นู่นเพื่อตามหารินด้วยตัวเองแล้ว แค่นี้มันก็บ่งบอกได้แล้วไม่ใช่หรือ ว่าเธอห่วงรินมากแค่ไหน
หากเธอตาย รินคงเสียใจมาก....
และเขาก็ต้องเป็นคนสังหารเธอด้วยมือเขาเอง
ทำให้รินต้องร้องไห้ เขาคงเสียใจมากแน่ๆ...
“ไม่บอกก็คงรู้ใช่ไหม ว่าฉันจะให้แกทำอะไร?” ชายชราหันมาถามเสียงราวกับกำลังสนุกอยู่
“ครับท่าน”
มันก็เป็นหน้าที่ของเขา
ที่เลี่ยงไม่ได้
.
.
.
.
ระเบียงด้านนอก ที่มีผู้จับจองเพียงสองคน ร่างสองร่าง หญิงสางและเด็กหนุ่มที่ไม่ใช่คู่รักแต่คือ แม่เลี้ยงและลูกเลี้ยงที่ห่างเหินมานาน
เสียงพูดคุยนั้นแสดงออกถึงความห่วงใย ห่วงหาและขอโทษ ร่างสองร่างกอดกัดแนบแน่น แสดงออกถึงความรักที่มีให้กันอย่างลึกซึ้ง
“ผมไม่เคยเกลียด..ทั้งคุณพ่อ..เอริซัง..แล้วก็พี่ชายเลยนะฮะ..ฮึ่ก..ฮือ..” รินร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม ซุกใบหน้าลงกับหน้าอกของ ‘คุณแม่’ อย่างโหยหา
“จ้ะ..ฉันขอโทษ..ฉันขอโทษนะ...ไม่เป็นไรแล้วล่ะ..อีกเดี๋ยวพวกเราก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันนะ” เอริลูบหัวรินเบาๆอย่างคิดถึงและเอ็นดู หากเธอคนนั้นไม่อาจมอบความรักให้กับเขาได้ในเวลานี้ เธอก็จะขอให้เขาเอง ไม่ใช่เพื่อทดแทนหรือชดเชยความผิดที่เคยก่อไว้ แต่เป็นการรักและเอ็นดูอย่างสุดซึ้ง เท่าที่คนเป็นแม่จะมอบให้ได้
ทั้งๆที่เห็นเขามาแต่เด็กๆ แต่กลับใช้ความเกลียดผิดหูปิดตา จงใจไม่เห็นเขา
แต่ไม่เป็นไร...ทุกอย่างจะเริ่มต้นใหม่
“ยกโทษให้ฉันนะ..” เธอร้องขอ จับมือบางของ ‘ลูกชาย’ ขึ้นมาอย่างแนบแน่น ใบหน้าสวยของเธอก็อาบแก้ม ลืมเลือนทุกสิ่ง ทั้งเวลาและการระวังตัวที่สมควรจะมีทำทุกเมื่อ
“ฮะ..แน่นอนเลย”รินให้คำตอบ สายสัมพันธ์ที่แม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันกำลังก่อตัวขึ้น ถักทอเรียบเรียงใหม่จนเป็นเส้นเดียวกัน
ปัง!
“ไม่!”
เพียงแค่เสี้ยววินาที เลือดสีแดงฉานก็อาบไล้ไปทั่วพื้นระเบียง ร่างของหญิงสาวล้มลงต่อหน้า ใบหน้านั้นแม้จะตกใจ แต่ก็ยังยิ้มแย้มออกมาอย่างสวยงามที่สุด
“ฉันรักเธอมากนะ ริน”
ทุกอย่างดับวูบไป พร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังไปทั่วบริเวณ
................................................
รับวันแม่เลยทีเดียวเชียว..ตอนหน้ามาลุ้นกันว่าชีจะตายไหม!!
!อย่าลืมไหว้เเม่กันนะฮับ
ความคิดเห็น