คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมช่วงมัธยมปลายของ อัครวินท์ เลยถูกส่งตัวมาอยู่กับปู่ย่าที่จังหวัดทางภาคใต้ เพราะหลังจากเกษียณจากการสร้างและดูแลธุรกิจมาหลายปี ท่านทั้งสองคนก็อยากมาสร้างบ้านพักอยู่ริมทะเลเพราะคุณย่ากานดาชอบบรรยากาศริมทะเล ห่างไปไม่ไกลนักก็มีสวนผลไม้ที่คุณปู่ซื้อต่อมาจากชาวบ้านแถวนี้เพราะจะได้มีงานทำยามว่างด้วย
หลังจากลงจากเครื่องบินและมีคนสนิทของคุณปู่มารับ เดินทางมาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงบ้านพักของคุณปู่คุณย่า โดยมองเห็นบ้านหลังสีขาวที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นโอบล้อมด้วยสีฟ้าของท้องฟ้าและน้ำทะเล เมื่อลงจากรถสามารถสัมผัสถึงลมที่พัดมาพร้อมกลิ่นอายของทะเลที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากกรุงเทพ มหานครแห่งคอนกรีต ถึงว่าทำไมคุณปู่คุณย่าถึงย้ายมาอยู่ที่นี้ บรรยากาศแบบนี้ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นอิสระ
“ตาอัครลูก มาๆใกล้ๆให้ย่าดูหน่อยไม่เจอกันตั้งปีหนึ่ง ย่าคิดถึงมาก” ได้ยินเสียงคุณย่ามาก่อน เมื่ออัครวินท์หันไปดูก็เห็นคุณย่าที่แม้นจะอายุหกสิบสี่แต่ยังคงกระชับกระเชงและดูอ่อนเยาว์กว่าอายุ และที่เดินตามมาและส่ายศีรษะอยู่ด้านหลังคุณย่าคือคุณปู่ ที่ยังคงแข็งแรงเหมือนเดิม
“สวัสดีครับคุณปู่คุณย่า ” อัครวินท์ยกมือไหว้แล้วรีบเอามือประคองคุณย่าที่เดินลงบันไดลงมา
“ช้าลงหน่อยเถอะคุณ ตาอัครก็ยืนอยู่ตรงนี้ไม่รู้จะรีบอะไรนัก อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว”
หลังจากสิ้นคำพูดคุณปู่ก็ได้รับสายตาเป็นค้อนวงงามจากคุณย่ากานดา ถึงจะมีอายุมากขึ้นแล้วแต่คุณปู่ก็ยังชอบหยอกเย้าคุณย่าเสมอและคอยดูแลตามติดคุณย่า
“คุณสิงห์คุณนี้ชอบขัดฉันเสียจริง มาตาอัครมา หลานสูงขึ้นใช่ไหมเนี่ย” คุณปู่ได้แต่ยืนยิ้มอยู่บนบันไดหน้าบ้าน
“ครับ ปีนี้ผมสูงขึ้นเป็นสิบเซ็นเลยครับ คิดถึงคุณย่าจัง” ไม่พูดเปล่าอัครวินท์เอามือกอดคุณย่า ตั้งแต่จำความได้อัครก็อยู่ในการดูแลของคุณย่าเพราะก่อนท่่านย้ายมานี้ท่านอยู่บ้านหลังเดียวกัน มีคุณแม่และคุณย่าเลี้ยงดูมา พอโตขึ้นหน่อยคุณแม่ไปทำงานเมื่อกลับจากโรงเรียนก็มีคุณย่าคอยดูแลพูดคุยและคอยปลอบโยน จึงเป็นธรรมดาทีอัครจะคิดถึงอ้อมกอดนี้มากถึงแม้นจะโตขึ้นแล้วก็ตาม
“อย่ามั่วแต่กอดกันเลยย่าหลาน เข้าบ้านกันก่อนเถอะ”
“ไปตาอัครเข้าบ้าน มาเหนื่อยๆ ไปนั่งพักก่อน” ย่ากับหลานจึงเดินจับมือเข้าไปในบ้าน
เข้ามาด้านในก็มีชุดโซฟาที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือมองเลยไปก็เห็นชายหาดและทะเล ด้วยด้านนั้นเป็นการจัดมุมให้มองเห็นทะลด้วยโดยมีประตูกระจกที่เปิดไปเป็นระเบียง น่าจะเป็นมุมโปรดของคุณย่า
“น้อม ให้ใครเอาน้ำมาให้ตาอัครหน่อยซิ”
“ค่ะ คุณกานดา”
“สวัสดีครับป้าน้อม สบายดีนะครับ”
“สบายดีค่ะคุณอัคร คุณกานดารู้ว่าคุณอัครจะมา เลยให้น้อมทำของโปรดคุณอัครทั้งนั้นเลยค่ะ เดี๋ยวน้อมไปดูในครัวต่อนะค่ะ” พูดจบน้อมก็เดินไปในครัว
“ตาอัครหิวมากไหมลูก ย่าให้น้อมเตรียมแต่ของที่หลานชอบทั้งนั้นเลย”
“ไม่คับคุณย่า คุณย่ารู้ใจอัครที่สุดเลย”เมื่อได้ยินคำพูดหลานท่านก็ยิ้มหวานเลย มีอะไรจะสุขใจเท่าหลานชายมาหาอีกหล่ะ
“แล้วหลานมาพักกี่วันหล่ะ” คุณปู่ถามหลานก่อนที่สองย่าหลานจะคุยกันเพลิน ลืมแล้วว่ามีคนนั่งอยู่อีกคน ก็นะหลานชายคนโตของคุณเค้านิ
“ประมาณสิบวันครับ เสียดายปิดแค่ไม่กี่วัน” อัครเองก็เสียดายที่มาพักไดไม่กี่วัน
“น้ำค่ะคุณท่าน”
“เอ้า ยัยหนูอิ่มทำไมเอาน้ำมาเองหล่ะ คนอื่นไปไหน”
“แม่ช่วยป้านอมในครัว พี่หวานออกไปข้างนอกค่ะ”
“อืม ขอบใจนะหนูอิ่ม”
“ค่ะ คุณท่าน”
“เด็กที่ไหนครับคุณย่า ”
“หนูอิ่มลูกอเนก คนที่ขับรถไปรับเรางัย เมื่อก่อนเมียกับลูกอยู่ด้านนอก พอปู่ย้ายมานี่เลยให้เมียมาเป็นผู้ช่วยป้าน้อม ตอนย้ายมาหนูอิ่มยังเล็กอัครเลยเพิ่งเจองัย”
“ออ ครับ”
“อายุสิบขวบแล้ว บางครั้งก็มาอยู่เป็นเพื่อนย่านะ ห่างจากอัครเจ็ดปีมั้ง”
“ครับ ”
“อัครขึ้นไปพักก่อนไป เดี๋ยวค่อยลงมาคุยกับปู่กับย่าแล้วทานอาหารเย็นด้วย”
“ครับ ผมไปพักก่อนนะครับคุณปู่คุณย่า”
“ไปเลยลูก เดี๋ยวค่อยคุยกัน”
เมื่อหลานชายเดินขึ้นไปชั้นบน คุณกานดาก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวเพื่อไปดูอาหารเย็นที่จะทำให้หลานชายสุดที่รักทาน ส่วนคนเป็นปู่ก็ได้แค่ส่ายหัวกับความรักที่ภรรยามีให้หลานชาย หลายชายมาแล้วดูสดชื่นขึ้นเลยนะคุณกานดา ก่อนจะก้มไปหยิบหนังสือบนโต๊ะมาอ่านต่อ
ความคิดเห็น