(รอโหลดรูปสักครู่)
ฮ่า.. อะไรกันน้อ
เผลอแป้ปเดียว ก็มาถึงเวลานี้ซะแล้ว
เปิดเรียนนน!!
ปีก่อนๆ ตอนนี้คงนั่งอยู่ในคาบเลข
รอคอยเวลาให้ถึงบ่ายสาม จะได้กลับบ้านสักที
ตอนนั้นเหมือนอยู่ในนรกเลย เสียงยัยแก่ที่ผ่านไมค์ช่างน่ารำคาญอะไรปานนี้
แต่น่าแปลกที่ตอนนี้ กลับคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ
ใส่ชุดมัธยมไม่ได้แล้ว จะเข้าไปเรียน เป็นนักเรียนอีกครั้ง
ก็ทำไม่ได้แล้ว..
ตึกที่เรียนมา 6 ปี จะไม่ได้เห็นมันจนชินตาซะแล้ว
โรงเรียนยังคงน่าพิศวงเสมอเลย
ตอนนี้อยากเจอเพื่อนให้พร้อมหน้า พร้อมตาทุกคน
มีโอกาสเป็นไปได้น้อยฉิบหาย
ในขณะที่เราพบเจอ กลับไม่ค่อยใส่ใจเวลานั้นสักเท่าไร
ตอนนี้ทุกคนเป็นไงมั่งนะ ?
พวกเราเดินมาถึงทางแยกที่ต้องให้เลือกระหว่างซ้ายและขวา
ไม่มีการถอยหลัง ไม่มีเวลาให้ตั้งหลักอีก
มีตัวเลือกให้ไม่มาก
498 กิโลเมตร จากกรุงเทพบ้านเกิดที่อยู่มา 18 ปี
นั่งรถไฟ 6-7 ชั่วโมง ด้วยใจที่ขุ่นมัวว่า
เรามาทำอะไรที่นี้
....
จะอยู่ได้หรอ?
ทนลำบากได้หรอ ?
ไม่มีความสะดวกอำนวยความสบาย
แกจะอยู่ได้เหรอ เม?
หึ..ปริญญา 2 ใบ นะเหรอ?
แล้วจะเรียนจบหรือเปล่า?
แค่ใบเดียว เขายังแทบรากเลือดเลยนะ
เสียเงิน เสียทอง ค่ารถสารพัดจิปาถะ เพื่อมายังถิ่นที่ไม่เคยเหยียบ
จะอยู่ได้เหรอเม ?
แล้วงานเขียนนิยาย เวลามิตติ้งนักเขียน งานหนังสือต่างๆ
แกจะมาได้เหรอ จะมีเวลา มีปัญญางั้นเหรอ?
ต้องละทิ้งทุกสิ่ง เสียความสบายหลายๆอย่างๆ
ยอมแลกงั้นเหรอ..
ที่นี้มีอะไร?
มีพระดี คู่บ้าน คู่เมือง
คำถามคือ..
จะมาไหว้เมื่อไรก็ได้
มีก๋วยเตี๋ยวอร่อย ห้อยขา
คำถามคือ..
ไว้มากินเมื่อมาไหว้พระก็ได้
แม้ว่ารสชาติจะสะเด็ด เจ็ดย่านน้ำก็เหอะ -..-
(ดูรูปแล้วข้าพเจ้าอยากกินมาก)
มีรุ่นพี่ที่เทคแคร์ดี มีมหาลัยที่กว้างขวาง เวอ่ร์ อลังการ
แอบหรู แอบพร้อม แอบไฮเทค
มีระบบ ระเบียบในอารมณ์มหาลัยรัฐ
ในขณะที่เลือกอยู่กรุงเทพ ต้องเรียนเอกชน
คงไม่ได้แบบนี้
ติดกระดุมคอบนจนกว่าจะปลดห้องเชียร์
ห้ามติดติ้งจนกว่ารุ่นพี่รหัสจะติดให้
ห้ามใส่กระโปรงสั้น บังคับใส่คัดชู
เป็นเด็กดี เชื่อฟัง และกราบไหว้รุ่นพี่
ห้อยป้ายชื่อเหมือนเด็กอนุบาลตลอดเวลา
ว๊ากเกอร์แหกปากด่าเสียงดัง ขยันทำโทษ
ประสบการณ์ใหม่ สิ่งที่ใฝ่ฝัน
เพื่อนใหม่ที่ได้พบ
ชีวิตที่ต้องอยู่หอ
สิ่งเหล่านี้..
ทำให้เราตัดสินใจ ยอมแลก
เพื่อจะได้มันมา
แม้ต้องเสียอะไรหลายอย่าง
นิยาย ค่อยๆเขียนไป เมื่อไรก็ได้
เรียนไม่ไหว กลับมาเรียนเอกชนมันก็ยังทัน
แต่ประสบการณ์ตรงนี้ คงย้อนกลับมาไม่ได้
ในช่วงเวลา นับจากนี้
ชีวิตข้าพเจ้าก้าวเข้าสู้
รั้ว มน.
เมื่อเวลานั้น ที่อาจล้มลง เดินไปต่อไม่ไหว
อย่าเสียใจนะเม
....
วันนี้มีสุขใจ แต่ต่อไปสักวันคง วุ่นวาย
หากความทุกข์ทนจางหาย อาจจะมองเห็นความสุข อีกครั้ง
จึงทำให้ฉัน ได้เข้าใจ ทุกสิ่งเปลี่ยนผันสักเท่าไร
ฉันจะก้าวเดินต่อไป
อย่าลืมเรื่องราวที่ผ่าน ที่เคยได้เจ็บช้ำ
ยังมีเรื่องราวที่ดี ที่เคยได้จดจำ
เก็บคืนและวันที่ผ่าน ที่เคยได้ปวดร้าว
ยังมีเรื่องราวที่ดี ที่รอให้จดจำ
ความคิดเห็น
สู้เค้านะเจ้เม เค้ามาช่วยเม้นให้อ่ะ
เดินไปให้ได้จนสุดทางนะคะพี่เม
เพื่อ อนาคต เพื่อตัวเราเอง สู้ๆๆๆ
สู้ ๆ นะคะ พี่สาว ^^
You never walk alone =O=v
รักเจ้เมย์ สู้ๆค่ะ
PS. ชีวิตและวิญญาณเป็นของกุ ถ้าของอะไรซึ่งได้เป็นของกุแล้วจะพินาศย่อยยับบรรลัยลงไป ก็ขอให้เป็นไปด้วยน้ำมือกุเอง
เดี๋ยวปีหน้าแพรวก้อคงเป็นแบบเจ๊เมเหมือนกันแหละ
ตอนนี้ยังไม่รู้อนาคตเลยว่าจะไปทางไหนดี
สู้นะค่ะ
ก้อขอให้เขียนนิยายออกมาอีกก้อแล้วกัน(ฮิๆๆ)
โชคดีนะค่ะ
บะบายค่ะพี่เม
PS. รั ก ทุ ก ค น ๆ เ ล ย จุ๊ ฟ
ยังไงก็สู้ๆนะเจ๊เม >0<!!
อ่านแร้วมันจิ้นมั่ก
T^T แออบเศร้านะ โหะๆ
PS. ----- OPPA FIGHTING!! --------
เจ๊... สู้ต่อไป
สู้ ๆ นะคะ แบบว่าอ่านแล้ว ชีวิตมันชั่งเศร้า
สู้ ๆต่อไป เหมือนเพลงนี้แหละ(ความหมายดีจัง)
จาเปงกำลังจัย ตลอดไปค่ะ
PS. อดทนเวลาที่ฝนพรำ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง สู้ ๆ FIGHTING!
มีคำเดียวที่อยากบอกเจ๊
สู้โว้ย!!!
ที่จิงเราเรียนอยู่สาธิตมน.ด้วยแหละ
จาได้เจอมั๊ยน้า
อิอิ
สู้ๆ เน้อพี่เม
เราใกล้กานอีกก้าวแล้วเน้อ
อิอิ
ดีจัยค่ะ
ที่ดั๊ยอ่านหนังสือพี่เมย์
สู้ๆน้าคร้า