ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FICTION] BUMHYUK SHORT FICTION

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF] Our Love ( KBXHJ ) END

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 290
      0
      22 เม.ย. 54

    คุณเคยเจอมนุษย์ตายด้านไหม๊ ไม่ว่าจะด่าจะตบจะตียังไง มันก็ไม่รู้สึกเจ็บ อย่างมากก็คงแค่คันๆ ผมไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกรู้สาหรือเปล่าที่ผมพร่ำปากเปียกปากแฉะด่ามันไป แต่ดูท่าแล้วคงจะไม่รู้สึกเท่าไหร่ เพราะมันก็ยังคงนั่งนิ่งตายซากอยู่เหมือนเดิม  มนุษย์คนนั้นมีชื่อว่า 

     

     

    “คิมคิบอม!

     

    “อะไร อีฮยอคแจ”

     

    “ยังจะมาถาม  แกส่งผลแลปไปให้อาจารย์คิมหรือยัง”

     

    “ส่งแล้ว”

     

    “เออ! ดีมาก! นี่มันกรรมเวรอะไรของกูที่ต้องมาจำกลุ่มทำแลปกับไอ้มนุษย์ตายด้านอย่างมึงด้วยเนี่ย! 

     

    “แต่ฉันก็ยังทำรีพอร์ต” คิมคิบอมเลิกคิ้วถามได้อย่างชวนเส้นกระตุก ฮยอคแจเหล่มองอย่างหาเรื่องพลางนึกอยากให้เส้นที่เท้ามันกระตุกกระแทกไอ้คนตรงหน้านี่เสียเหลือเกิน

     

    อีฮยอคแจนักศึกษาปริญญาโทปีแรก  สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องเข้าแลปเป็นนักศึกษาช่วยงานอาจารย์และศึกษาแลปไปในตัว เขาได้จับคู่กับคิมคิบอม  เพื่อนร่วมคลาส กิตติศัพท์มันขึ้นชื่อลือชาสมัยตั้งแต่เรียนปริญญาตรี พูดน้อยต่อยหนัก นิ่งหลับ ขยับ(ปาก)คุณได้เจ็บเพราะคำพูดมันแน่นอน

     

    เรื่องราวมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย  ก็แค่ผมกับมัน จับคู่ทำแลปกัน ผมไม่อยากเซดให้โลกรู้สักเท่าไหร่หรอกครับ ว่าแลปที่ผมต้องไปคุม มันคือห้องแลปประปา ในวิชาน้ำเสีย ซึ่งมันเหม็นมากกก ขอย้ำว่ามากกกก ผมอดทนอดกลั้นทำแลปด้วยความยากลำบากจนเสร็จสิ้น โดยมีไอ้คิมคิบอม ยืนนิ่งๆมองดูผมหยิบนู่นจับนี่ คอยจดบันทึกผลยิกๆ 

     

    เออ!เจริญ!  เรื่องมันแค่นั้นจริงๆ พอทำเสร็จเราต่างคนต่างแยกย้าย

     

    แค่นั้น แค่นั้นจริงๆครับ  แต่คุณคงรู้กันใช่ไหม๊ ว่าทำแลปแล้วยังไงซะก็ต้องทำรีพอร์ตส่งอาจารย์ ซึ่งแน่นอน อย่างอีฮยอคแจไม่ถนัดทำอะไรพิธีการแบบนี้ แล้วอีกอย่างผลการทดลอง ก็อยู่ที่คิมคิบอม ผมก็เลยโบ้ย ให้มันไปทำ แค่นั้นเอง แค่นั้นเองจริงๆ!

     

     

     

    ฮยอคแจนั่งลงตรงข้ามคิมคิบอม ที่ตอนนี้กำลังอ่านชีทปึกนึง ที่ฮยอคแจเห็นแว้บๆ ว่ามันคือทีซิสที่เคยเห็นคิบอมทำเมื่อปีที่แล้ว  สงสัยมันคงจะเอามาค้นอะไรสักอย่าง ผมก็ขี้เกียจจะถาม  เราออกจะเป็นเพื่อนร่วมคลาสที่ค่อนข้างจะเข้าอกเข้าใจกันทางสายตาเสียมากกว่า

     

    “คิบอม  แปลหัวข้อที่อาจารย์สั่งให้หาเสร็จหรือยัง”

     

    “เสร็จแล้ว”

     

    “นายส่งหัวข้อเกี่ยวกับอะไร?”

     

    “ระบบการจัดการน้ำเสีย ในโรงงานอุตสากรรมย่านอุตสาหกรรมของประเทศ”

     

    “แม่ง หัวข้อเริ่ดหรูมาก  งั้นเดี๋ยวมา ฝากคอมแปบ ไปหาแรงบันดาลใจสะหน่อย”

     

    “อีกสิบนาทีต้องเข้าแลป?”

     

    “เออหว่ะ  ลืมเลย วันนี้แลปอะไร?”

     

    “ลาออกเถอะ”

     

    นั่นเป็นการจบประโยคสนทนาระหว่างผมกับคิมคิบอม คนภายนอกได้ยินอาจจะคิดว่า พวกผมจริงจัง ด้วยเพราะใบหน้าคิมคิบอมมันบอกอย่างจริงจังว่า ให้ผมลาออกไปเถอะ แต่ในความหมายของผม คิบอมบอกว่า เหนื่อยใจกับการตอบ ให้นั่งรอไม่ต้องไปไหนและไปเข้าแลปพร้อมกัน  เอ๊ะ...หรือมันจะให้ไปลาออกจริงๆวะ?

     

     

    แลปบ่ายวันนั้นโคตรน่าเบื่อ  ถึงผมจะสนุกกับการเล่นกับน้องปี 2 ปี3 ที่ผมจำได้ว่าตอนผมอยู่ปริญญาตรี เป็นคนไปรับน้องพวกมันมาเอง แต่มันก็น่าเบื่อไม่น้อย ที่ต้องยืนๆ เดินๆ ตรวจว่าเด็กๆทำแลปไปถึงไหนแล้ว ตอนเรียนปริญญาตรี ผมสงสัยว่าทำไมถึงต้องมีนักศึกษาปริญญาโทมาเป็น TA ช่วยอาจารย์เสมอ แต่ผมว่าตอนนี้ผมเข้าใจแล้วนะ

     

     

    ผมเดินไปยืนข้างแทงค์สำหรับจำลองอัตราการไหลของน้ำ  ผมยืนมองมันพร้อมทั้งจดบันทึกลงในส่วนที่ผมต้องใช้ แล้วเดินกลับเข้าห้องพัก TA คิมคิบอมมันหายไปไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ ผมเก็บข้าวของใส่กระเป๋า โค้งลาอาจารย์ประจำแลป แล้วเดินไปยังลาดจอดรถที่อยู่ข้างๆกัน

     

    ผมล้วงมือเข้ากระเป๋ายีนส์ข้างหลังเพื่อจะหยิบกุญแจ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อผมพบว่ามันไม่มีอะไรนอกจากอากาศ ผมเคว้งทันที  ยังดีที่ ออดี้ของผมไม่โดนใครอุ้มไปขับ ผมได้แต่ยืนเกาหัวแกรกๆว่าจะทำยังไงกับรถตัวเองดี ก่อนที่เสียงแตรจะดังมาจากรถผม

     

    “เฮ้ยยยย!!!

     

    “ขึ้นรถ ฉันหิว”

     

    ผมอ้าปากค้างเมื่อหัวของคิมคิบอมโผล่ออกมาจากกระจกฝั่งคนขับ  อะ....ไอ้เลววววว ปล่อยให้กูตกใจอยู่นานว่าเอากุญแจไปไว้ไหน

     

    “จะเดินกลับก็ตามใจนาย”

     

    ผมรีบเดินจ้ำไปที่นั่งอีกฝั่งโยนกระเป๋าเป้ไปเบาะหลังคาดเข็มขัดให้เรียบร้อย จากนั้นคิบอมก็ออกรถ ผมยังตั้งสติไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่รับรองถ้าตั้งได้เมื่อไหร่จะด่ามัน!

     

    “ไอ้โจรขโมยกุญแจรถ!

     

    “ใคร!

     

    “มึงไงครับ คิมคิบอม  ไม่งั้นกุญแจรถกูจะไปอยู่ที่มึงได้ยังไง”  ผมหันไปมองมันด้วยสายตาที่บอกว่าโมโหสุดๆ ปกติถึงจะเล่นกันสนิทกัน เข้าใจกันทางสายตา แต่ผมก็ไม่ชอบขโมยนะ!

     

    “อีฮยอคแจ”

     

    “อะไร”

     

    “ถ้ามึงยังจำได้”

     

    “จำอะไร กูไมได้ให้กุญแจรถมึง”

     

    “เมื่อเช้ากูรถเสีย แล้วเรามาด้วยกัน”

     

    “แล้วยังไง”

     

    “กูขับ มึงนั่งหลับตั้งแต่หอยันมหาลัย”

     

    “แล้วยังไง”

     

    “มึงให้กูส่งลงที่หอสมุด แล้วให้กูขับรถมาจอดที่ลานจอดรถ”

     

    “กะ.....กูทำแบบนั้นหรอ”

     

    “ก็ถ้ามึงไม่ได้โง่กว่าปลาทอง”

     

    โดนไปเต็มๆ ฮยอคแจเริ่มจำได้ลางๆ ว่าเมื่อเช้าไอ้คิมคิบอม มาเคาะห้องเขาตั้งแต่เช้าตรู่ บอกว่ารถมันเสียวันนี้ขออาศัยไปเรียนด้วย ผมก็พยักหน้าหงึกหงักไปว่าตกลง แล้วก็นอนต่ออีกสักพัก พักเดียวจริงๆ เพราะไอ้คิบอมมันเข้ามานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อดูทีวีบนเตียงเดียวกับผมแล้วใครจะไปหลับลง

     

     

    แล้วผมกับไอ้คิมคิบอมก็ต้องไปมหาวิทยาลัยด้วยกันอีกร่วมสัปดาห์ เพราะเจ้าของอู่ซ่อมรถที่คิบอมเอารถไปซ่อมนั้นลูกป่วย แกก็เลยยังไม่ได้ซ่อม แอสตัน มาร์ตินคันเก่งของมัน  จะอะไรก็ได้ อะไรก็ได้ แต่ทำไม๊ ทำไม คิมคิบอมต้องมาปลุกกูทุกเช้าด้วยคับพี่น้อง!

     

     

    “โอ๊ยยย คิมคิบอม กูจะนอน” พูดเน้นๆ ช้าๆ ชัดๆ ให้คนที่ยืนค้ำหัวได้ยินเต็มสองรูหู แต่อีฮยอคแจคงลืมไปว่าคิมคิบอมเป็นมนุษย์ที่หนังหน้าตายด้าน ไม่สะทกสะท้าน อะไรเท่าไหร่ ว่าง่ายๆ ก็เอาแต่ใจตัวมันเองนั่นแหละ

     

    “กูให้อีกห้าวินาที ถ้ามึงไม่ลุก กูจะทำให้ลุกไม่ขึ้นไปสามวันเลยอีฮยอคแจ”

     

     

    เท่านั้นแหละ เท่านั้นจริงๆ ประโยคยาวๆ ที่หลุดมาเช้านี้ทำเอาอีฮยอคแจตาสว่างทันควัน ร่างบางตวัดสายตาไปมองไอ้หยีแก้มยานที่ยืนอยู่ข้างเตียงอย่างโกรธ ๆ อะไรของมันอีก วันนี้ไม่มีเรียน อาจารย์ลาเพราะเมียคลอดลูก แลปก็ไม่ต้องไปคุม มหาวิทยาลัยก็ไม่ต้องไป แล้วมึงจะมาปลุกกูทำม๊ายยย

     

    “มีอะไร!

    “ไปเที่ยวกัน! 

     

    “หนาวจะตาย ไม่ออกไปหรอก”

     

    “จะนอนบนเตียง?”

     

    “เออ!

     

    “มั่นใจ?”

     

    “ไม่แล้ว”

     

    “แล้วจะไปไหม๊”

     

    “ควายเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!” ตะโกนด่าให้ชื่นใจตัวเองซักทีแล้วสะบัดตัวลุกจากที่นอน คว้าผ้าเช็ดตัวเดินลิ่วเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้คิมคิบอมยืนส่ายหัวหน่ายๆ กับความปากร้ายของอีกคน

     

    ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวในห้องน้ำไวปานความเร็วแสง อีฮยอคแจก็ออกจากห้องน้ำมาตัวหอมฉุย ในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวยาวกับเดปสีครีมสามส่วน หัวเปียกซก มายืนจ้องคิมคิบอมที่ตอนนี้ถือวิสาสะขึ้นไปนั่งขัดสมาธิกดเปลี่ยนช่องทีวีจึ้กๆอยู่บนเตียงนุ่มๆของเขา

     

     

     

     

     

    “สรุปวันนี้คุณคิมคิบอมจะพากูไปไหน ?”

     

    “ไปเดทให้สมกับที่เป็นแฟนกันมาปีครึ่งหน่ะสิ อีฮยอคแจ”

     

     

     

     

     

     

    ไม่น่าหลงผิดเลย!!!
    อีฮยอคแจพูดคำนี้ในใจเป็นรอบที่
    ล้าน  หลงผิดรอบแรกคือหลงตกลงปลงใจคบกันไอ้ตายด้านนามคิมคิบอมตอนขึ้นปีสี่เป็นซีเนียร์หมาดๆ หลังจากนั้นเรื่องหลงผิดก็ตามมาเป็นพะเรอเกวียน วันนี้ก็เป็นอีกวันที่หลงผิด ออกมาเดินเตร็ดเตร่กับคิมคิบอมในวันที่อากาศเกือบสิบองศา  ฮยอคแจเดินห่อตัวในเสื้อโค้ตหนังตัวหนาผ้าพัดคอสีขาวปิดบังใบหน้าขาวไปเกือบครึ่ง

     

    “คิดออกหรือยังจะไปไหน”

     

    “อยากกลับไปนอนบนเตียงอุ่นๆ”

     

    “มั่นใจแล้วนะที่ตอบ?”

     

    “เปลี่ยนใจก็ได้ ไปกินอาหารจีนกัน ที่ร้านพี่ฮันก็ได้ อยากกินติ๋มซำ”

     

    ฮยอคแจส่งกุญแจรถสีขาวของตัวเองให้คิบอมก่อนจะยัดตัวเองเข้าไปนั่งข้างคนขับอย่างรวดเร็ว อากาศนอกรถไม่น่าพิศมัยมากพอที่จะให้ฮยอคแจมัวชื่นชมกับหิมะเล็กๆน้อยหรอก ฤดูหนาวเขาขี้หนาวกว่าใครอยู่แล้ว

     

    ออดี้สีขาวโลดแล่นไปบนถนน สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ถูกประดับประดาด้วยเกล็ดหิมะเล็กๆน้อยๆ ฮยอคแจห่อตัวหลับปุ๋ยทันทีที่คิบอมสตาร์ทรถแล้วจัดการเปิดฮีตเตอร์อุ่นๆ คิบอมส่ายหน้าน้อยๆ แล้วหันไปมองที่นั่งด้านหลัง ก็ยิ้มขำกว่าเดิม เมื่อด้านหลังเต็มไปด้วยข้าวของที่ฮยอคแจมักจะโยนไว้ และใช้ในชีวิตประจำวัน คิบอมลงไปควานหาผ้าห่มมาหนึ่งผืนแล้วนำมาห่มให้ร่างบางที่ตอนนี้หลับไม่รู้เรื่องรู้ราวไปแล้ว  

     

    ภัตตาคารอาหารจีน คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ย่านไชน่าทาวน์ก็ยังคงเป็นย่านที่คึกคักเสมอต้นเสมอปลายของเกาหลี ฮยอคแจเดินยิ้มหวานทักพนักงานต้อนรับที่ซี้ปึ้กกันดี

     

    “โฮรินนูน่า”

     

    “ว่าไง คิบอม ฮยอคแจ ไม่เจอซะนานเลยนะ”

     

    “ฮะๆ พอดีเรียนหนักหน่ะครับ”

     

    “อย่ามาเลยอีฮยอคแจ รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยประถมต้นวัยใส จนตอนนี้แกเรียนจนเป็นนักศึกษามหาลัยกร้านโลกแล้ว”

     

    “พูดงี้เสียเครดิตหมดนะนูน่า  ที่เดิมของพวกผมว่างไหม๊ครับ”

     

    “เช็คก่อนนะ”  แล้วโฮรินนูน่าก็หันไปเช็ค กับคอมพิวเตอร์ก๊อกแก็ก ๆ คิบอมไม่ต้องจัดการอะไรเลย เพราะภัตตาคารนี้เป็นของรุ่นพี่พวกเขา ฮยอคแจรู้จักทุกคนตั้งแต่บริกร ยันเจ้าของร้าน บางทีตอนว่างจากเรียนฮยอคแจก็จะแวะมาเป็นพนักงานต้อนรับช่วยเขา

     

    “ดีนะที่วันนี้คนไม่ค่อยเยอะ ที่ประจำพวกนายเลยว่าง”

     

    “ขอบคุณฮะ นูน่า  อ่อแล้วก็..... พี่ชายผมฝากมาบอกว่า ถ้ากล้านอกใจ จะจับทำเมียขังในใจนะครับ”  คิมคิบอมส่ายหัวให้กับแฟนแสนซ่าของตนแล้วเดินตามร่างบางที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากสะใจที่ได้แกล้งนูน่าคนสวยเข้าไปยังที่ประจำ

     

     

    ฮยอคแจร่ายรายการอาหารยาวเป็นวา จนพนักงานได้แต่อ้าปากค้าง กระพริบตาปริบๆ พอสั่งจบ พนักงานทำท่าอึกอกจะทวนรายการ คิบอมจึงต้องทำมือบอกว่าไม่เป็นไร สั่งเยอะขนาดนั้น มั่นใจได้ว่า สั่งทุกเมนูอยู่แล้ว

     

    มื้อแรกของวันนั้นจึงเป็นมื้อที่สุขีปรีดาสำหรับอีฮยอคแจเสียเหลือเกิน ร่างบางคีบนู่นคีบนี่เข้าปากไม่มีหยุด มีติบ้างเล็กน้อยว่ารสชาติอาหารเปลี่ยนไป แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดกิน หรืออิ่มแต่อย่างใด พออาหารบนโต๊ะเริ่มพร่องจนเกือบจะเกลี้ยงจานก็ทำท่าหันซ้ายขวาหาพนักงานจนคิบอมต้องยกมือปรามบอกให้พอก่อน

     

    “เดี๋ยวก็อ้วกออกมาหมด”

     

    “ยังกินได้อีกนะเว๊ย”

     

    “งั้นคืนนี้ต้องเข้าคอร์สลดความอ้วนหนักซะหน่อยนะฮยอคแจ”

     

    “งั้นกูอิ่ม!

     

    เป็นอันจบมื้อเที่ยงที่ไม่สุขีปรีดาสำหรับฮยอคแจอีกต่อไปแล้ว ร่างบางค่อนขอดในใจถึงไอ้หยีที่เขาตราหน้าว่ามันแก้มยาน พาออกมาทั้งทีจะตามใจให้มันสุดๆหน่อยก็ไม่ได้! จะกินยังจะต้องมาขัดขวาง เขากินเท่าไหร่ ยังไงก็ไม่อ้วนไปกว่านี้หรอก อีฮยอคแจสาบานได้ เพราะเคยลองยัดทะนานเข้าไปทุกอย่างจนเรียบวุด เต็มที่ก็ลุกจากเตียงไม่ได้ไปวันนึงแค่นั้นเอ๊ง!

     

     

     

    งานงอกกูอีกล้ะ!...

    อีฮยอคแจนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดในคอฟฟี่ชอปใต้หอมาร่วมชั่วโมง บนโต๊ะกาแฟในมุมหนึ่งของร้านเต็มไปด้วยกระดาษที่มีเนื้อหามากมายและร่างบางตรงหน้ากำลังคร่ำเคร่งกับการพิมพ์เนื้อหารายงานให้ทันส่ง อาจารย์ในเดือนหน้า มันจะไม่เครียดเท่านี้เลย ถ้าเนื้อหารายงานที่เขาใช้มันไม่ไปซ้ำกับวิทยานิพนธ์ของอีกคน  เขาถูกอาจารย์ต่อว่ามาอย่างหนักว่าคัดลอกวิทยานิพนธ์คนอื่น อยากจะเถียงจนขาดใจตายว่าอาจารย์ไม่รู้จักอีฮยอคแจหรืออย่างไร  งานแบบนี้เขาไม่มีทางลอกใครมาเด็ดขาด แต่จะเถียงไปก็เสียเวลาในเมื่อหลักฐานมันมี เขาเลยจำใจกลับมานั่งร้านคอฟฟี่ชอปใต้หอแล้วเริ่มต้นกับมันใหม่

     กึก!  เสียงแก้วกาแฟวางตรงหน้าทำให้ร่างบางเงยหน้ามามอง ก่อนจะยักคิ้วให้สองทีครึ่งแล้วก้มหน้าก้มตาลงไปหาโน๊ตบุ๊คตัวเองต่อ คิบอมก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจปัญหาของฮยอคแจ เขาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ ก่อนจะคว้าหนึ่งในกระดาษเหล่านั้นมาอ่าน พลางคว้าดินสอกดที่อยู่ใกล้ๆมาวงตรงที่ฮยอคแจทำไว้แล้วแก้ให้มันถูกต้อง

     

    ฮยอคแจมองคิบอม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อชั่วโมงที่แล้วเขาโทรบอกมันว่างานของเขาถูกลอก คิบอมบอกว่าให้นั่งรอที่นี่เดี๋ยวจะมาหา เขาก็ทำตาม และเริ่มรื้อเอกสารที่ไปรวบรวมหัวข้อมาใหม่จากห้องสมุดมากางไว้เต็มโต๊ะก่อนจะเริ่มหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตมาประกอบ และใช้ข้อมูลอ้างอิงจากตำราที่ร่ำเรียนมาตอนปริญญาตรี เข้าช่วย เขาคิบอมนั่งอยู่ที่ร้านจนพี่จองซูเจ้าของร้านเดินมาบอกว่า จะปิดแล้ว แต่พอเขาทำท่าจะเก็บของพี่จองซูก็บอกว่า นั่งไปเถอะ คืนนี้นอนร้านพี่จองซูก็ได้ แต่ปิดร้านให้พี่เขาด้วย  ฮยอคแจโค้งหัวขอบคุณพี่จองซูก่อนจะตบปากรับคำว่าจะปิดร้านให้เรียบร้อย คืนนี้ขออาศัยก่อนคืนนึง จองซูไม่ว่าอะไร ยิ้มแล้วลูบหัวฮยอคแจเบาๆ แล้วเดินออกไป

     

    “มึงผ่านโปรเจคมาได้ยังไงเนี่ยอีฮยอคแจ” คิมคิบอมบ่นโอด เมื่ออ่านโปรเจคของฮยอคแจที่เจ้าตัวไปค้นมา อันที่จริงมันก็ไม่ได้แย่หรอก คิบอมแค่หาเรื่องแหย่ฮยอคแจเล่นก็เท่านั้น ตลอดวันที่นั่งมาด้วยกันเขาไม่เห็นฮยอคแจยิ้มเลย

     

    “แม่งงงงง ช่างแม่งเหอะ กูผ่านมาแล้วหล่ะน่า”

     

    “แล้วมึงไปทำอีท่าไหน ทีซิสถึงไปเหมือนกับเค้าได้วะ”

     

    “กูจะไปรู้แม่งเรอะ เห็นมาขอดูข้อมูลว่ากูทำเรื่องอะไร ทำไปทำมา ทีซิสกูไปเหมือนมันซะงั้น”

     

    ฮยอคแจตอบเซ็งๆ แล้วทิ้งตัวลงบนเก้าอี้นวมที่เขายึดมาตลอดวัน  คิบอมยื่นมือมายีหัวเขาให้ยุ่งฟูก่อนจะยิ้มซะจนแก้มยานๆเกาะกันเป็นลูก ฮยอคแจก็ยิ้มกลับจนเห็นเหงือกแดงแจ๋  วันนั้นเขาไม่ได้นอนที่ร้านพี่จองซู แต่ช่วยกันปิดร้านแล้วขนของขึ้นไปทำต่อบนห้องของฮยอคแจแทน คิบอมช่วยในส่วนการคำนวณ และตรวจทานความถูกต้อง ซึ่งก็ถือว่าช่วยไปได้มากโข ชายหนุ่มกำลังจะหันมาหยิบชีทปึกต่อไปไปตรวจทานแต่ก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายหลับคอพับคออ่อนคาเอกสารไปเสียแล้ว

     

     

     

     

     

    ชิบหายกูอีกล้ะ!.....

    ฮยอคแจก็ไม่อยากจะอุทานให้มันเป็นภาษาดอกไม้วัยขบเผาะปลายๆซักเท่าไหร่ แต่หมู่นี้ชีวิตของเขาไม่ราบรื่นอย่างที่ประสบมาตลอดยี่สิบกว่าปีเลยจริงๆ อาทิตย์ที่แล้วต้องไปซวยทีซิสซ้ำกับชาวบ้านชาวช่อง อาทิตย์นี้ ดันมาทะเลาะกับไอ้คุณคิมคิบอมด้วยปัญหางี่เง่าที่ว่ามีไอ้รุ่นน้องหน้าตาละอ่อนมาตามจีบอีฮยอคแจ   โอ๊ยยย ไม่อยากจะเซดให้ควายในนามันหัวเราะซักเท่าไหร่หรอกว่าไอ้คนที่มาจีบหน่ะก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คิมจงฮยอนลูกพี่ลูกน้องเครือญาติของคิมคิบอมนั่นแหละ

     

    “เป็นอะไรถึงชวนพวกกูมาก๊งได้วะฮยอคแจ”

     

    “จะอะไรซะอีกหล่ะ ไอ้คุณคิมคิบอมมันงอนกูหนีไปหาหญิงแม่มันที่อเมริกาแล้ว!

     

    “อะไรวะ? ไหนมึงบอกว่ามันตายด้าน”

     

    “กูแค่เปรียบเปรย โจคยูฮยอน มึงอย่าจ๊าดง่าวไม่ถูกเวลาสิวะ” ฮยอคแจด่าเพื่อนสนิทก่อนจะยกชีวาสเพียวๆ ไม่มีโซดามาเอี่ยวจนหมดแก้ว

     

    “แล้วมันงอนมึงเรื่องอะไรจนต้องสะบัดตูดไปหาแม่มันถึงอเมริกา”

     

    “คิมจงฮยอน”  สั้นๆ ง่ายๆ สามพยางค์ที่ทำเอาโจคยูฮยอน อ้าปากร้องอ๋อถึงบ้างอ้อ เมื่อสามวันก่อนไอ้เพื่อนรักหน้าไก่ๆคนนี้โทรหาเขาตอนตีสามด้วยคำถามที่ได้ยินแล้วน่ากระโดดถีบมากที่สุด

     

    “มึงว่ารักพี่แล้วโดนน้องจีบนี่จะผิดไหม๊วะ?”

     

    โจคยูฮยอนก็อยากจะขำอยู่หรอก แต่อีกใจนึงก็เข้าใจว่าคนถามมันคืออีฮยอคแจ มันถามเพราะเหตุการณ์เกิดกับมันขึ้นจริงๆ มันถึงถาม ตัวเขาเป็นเพื่อนกับมันมานานนมนานตั้งแต่สมัยจำความได้ เขารู้ว่ามันเป็นคนประเภทไหน ไอ้ที่บอกว่ารักพี่มันก็คงรักของมันจริงๆ แต่มันคงไม่รู้จะทำยังไง ให้คนน้องที่มาจีบมันเลิกยุ่งกับมันเสียที

     

    “มึงเลยไม่รู้จะทำยังไง รับดอกไม้จากคิมจงฮยอนแล้วหอบหิ้วเข้าห้องที่มีไอ้คิบอมนั่งช่วยมึงแก้ทีซิสหน่ะนะฮยอคแจ”

     

    “เออ! จะทิ้งกูก็เสียดาย จากร้านดอกไม้ที่คิบอมชอบซื้อให้กูเลยนะว๊อย”

     

    “ร้านที่คิบอมชอบซื้อแต่มันก็ไม่ได้ซื้อให้มึงน่าฮยอคแจ”

     

    “แต่ก็ร้านเดียวกัน”

     

    “มึงจะเถียงกูทำไมเนี่ย”  คยูฮยอนเบิ๊ดกะโหลกเพื่อนไปหนึ่งทีก่อนจะรินเหล้าเพิ่มให้มัน เขาเข้าใจความงกของอีฮยอคแจ แต่ดูเหมือนว่าอีฮยอคแจจะไม่เข้าใจความหึงหวงของคิมคิบอม ซักเท่าไหร่ ยิ่งไอ้คิมคิบอมบินหนีไปหาหญิงแม่มันถึงอเมริกาด้วยแล้วไซร้ สาบานได้ว่าอีฮยอคแจยิ่งทั้งไม่เข้าใจ ทั้งโคตรเหงาผสมกัน

     

     

     

    ร่างบางเดินสะโหลสะเหลคว้ากุญแจห้องไขผิดๆถูกๆ กว่าจะเข้าห้องได้ก็เสียพลังงานไปมากโข ฮยอคแจสะบัดรองเท้าออกอย่างไม่เป็นระเบียบ พยายามใช้ความสามารถในการเดินอย่างสุดชีวิตเดินไปให้ถึงโซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่กลางห้อง เขาไม่ได้กินเหล้าเมาเหมือนหมาขนาดนี้มานานแล้ว ตั้งแต่ไอ้คิบอมขอให้เขาเพลาๆเรื่องสังสรรค์ แต่ตอนนี้มันไม่อยู่ก็ถือว่าแอบทำอย่างที่ชอบทำบ่อยๆก็แล้วกัน

     

    ฮยอคแจนอนทอดตัวยาวบนโซฟา หมายมั่นปั้นมือว่าพรุ่งนี้เช้าตื่นมาเขาก็จะลุกเข้าห้องน้ำอาบน้ำ แล้วไปยืนเคาะห้องคิมคิบอม แต่พอคิดแล้วน้ำตาก็จะไหล คิมคิบอมไม่อยู่เปิดประตูที่เขาเคาะแล้ว 

    “ไอ้ควาย ฟังกูหน่อยก็ไม่ได้ กูก็แค่ชอบดอกไม้ร้านที่มึงซื้อก็เท่านั้น”

    “ฮึก... ที่กู รับมาก็เพราะว่ามันมาจากร้านที่มึงชอบซื้อ ฮึก...”

    “แม่ง แล้วหนีกูไปซะตั้งไกล  ค่าเครื่องบินมันแพงนะ ฮึก ...ฮืออ”

    “ไอ้คิมคิบอม  ฮึก ... ถ้ามึงยังไม่กลับมานะ ฮึก... ฮืออ”

     

    ฮยอคแจนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้นนานเท่าไหร่เขาก็จำไม่ได้ ตื่นมาอีกทีก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้ว วันนี้มีเรียนตอนเก้าโมง อ่า เขาดื่มหนักจนพลาดเข้าเรียนได้ยังไง ไร้ความรับผิดชอบซะจริงอีฮยอคแจ  ไหนๆ วันนี้ก็ไปเรียนไม่ทัน ก็กลับบ้านไปหาป๋ากับแม่ให้หายเหงาเสียหน่อย  ยิ่งอยู่คนเดียวก็ยิ่งเหงามากขึ้นเท่านั้น

     

    “แม่ง ทิ้งกูไว้คนเดียวสามวันแล้วนะคิมคิบอม.......” ฮยอคแจบ่นงึมงำ แล้วก็ทำน้ำตาตัวเองซึมออกมา ยอมรับว่าคิดถึงคิบอมมาก ไม่เจอกันสามวัน เขาก็คิดถึงมันจะแย่ แต่จะให้บินไปง้อ เขาก็ไม่มีปัญญาจะไปหรอก  ใครใช้ให้มึงงอนกูแล้วหนีไปอเมริกาวะคิมคิบอม รู้ไหม๊ กูเหงา กูเหงาแค่ไหน

     

    “ถ้า...ฮึก ...ยังไม่กลับมา....กูจะทำใจให้รักไอ้เป็ดเตี้ยนั่นแล้วนะคิมคิบอม ฮึก...”

     

    “กูจะเอามีดไปแทงมันให้ตายเลยคอยดู”  ฮยอคแจสะดุ้งหันไปทางประตู แล้วเจอคิมคิบอมในชุดเสื้อโค้ตเต็มยศ เขายืนร้องไห้ทำน้ำตาหยดลงมาป้อยๆ โดยไม่คิดจะเช็ด

     

    “กูนึกว่ามึงไปมีเมียแหม่มไปแล้ว”

     

    “กูก็นึกว่ามึงจะคว้าเป็ดทำพันธ์ไปแล้ว”

     

    “ฮึก...ไอ้บ้าคิบอม ฮือออ ไปเลยไป ไปมีเมียแหม่มไปเลยไป ฮือออ กูแค่พลาดรับดอกไม้เพราะกูชอบเพราะมันเป็นร้านที่มึงซื้อ ฮึก...แต่มึงก็ไม่ฟัง ฮืออ มึงทำไมไม่ฟังกูบ้าง ไอ้บ้า หนีไปตั้งอเมริกา ฮือ ฮึก... มึงคิดไหม๊ว่ากูเหงาฮือออ”

     

    คิบอมค่อยๆเดินมาคว้าร่างบางไปกอด  ฮยอคแจก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเขามากนัก ร่างบางเพียงแค่ทุบอกเขาดังอั้ก! สองสามทีจากนั้นก็ซุกตัวกอดเขาไว้จนแน่น  น้ำตาซึมผ่านเสื้อเชิ้ตเขาจนเปียกแฉะ ฮยอคแจยังคงยืนร้องไห้กอดเขาอยู่อย่างนั้นนานสองนาน

     

    “ฮึก...อย่าหายไปอีก...ฮึก..จะโกรธกูจะงอนกู แค่ไม่พูดก็พอได้ไหม๊ แต่ฮึก...อย่าหายไปแบบนี้อีก”

     

    “อืม กูขอโทษ จะไม่หายไปอีก”

     

    “อืมมม”

     

    “ว่าแต่...กูไม่อยู่สามวัน ไอ้เป็ดเตี้ยนั่นมันมาป้วนเปี้ยนรึเปล่า”

     

    “สาบานได้ว่าไม่มี กูเกาะติดคยูฮยอน ทุกวัน แอบไปเมามานิดหน่อย แต่ก็สาบานได้ว่าไม่มีใครเข้ามาจีบ ถึงจะเข้ามาจีบกูก็แอ๊บเนียนเป็นเมียไอ้คยูฮยอน”

     

    คิบอมคิ้วขมวดนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เข้าใจว่าสองคนนี้ห็นกันมาตั้งแต่สมัยแก้ผ้ากระโดดคลองเล่นน้ำ ไอ้จะเล่นบทคุณแฟนกิ๊กกั๊กกันเนียนมันก็เป็นเรื่องธรรมดา เขาไม่โกรธอะไรอยู่แล้ว

     

     

     

     

    วอท เดอะ เฮลส โก อิง ออน วิธมี!!!!!

    ฮยอคแจ กรีดร้องในใจเป็นภาษาอังกฤษระดับอนุบาลสอง จนอยากจะบ้าคลั่ง พึ่งจะดีกับไอ้แก้มยานเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อาทิตย์นี้อีฮยอคแจดันทำงานจนลืมวันลืมคืน รู้ตัวอีกทีวันมะรืนก็แป็นวันวาเลนไทน์เข้าไปแล้ว  ชิบหายล้ะ แล้วเขาก็ดันไปตบปากรับคำกับโจคยูฮยอนเพื่อนเลิฟว่าพรุ่งนี้จะพามันไปเดินเลือกซื้อของขวัญ  ชิบหายกว่าเก่า คือ โจคยูฮยอนแม่งปากยังกับโทรโข่ง ขืนรู้ว่าเขาให้อะไรคิมคิบอมเป็นของขวัญวาเลนไทน์แม่งแซวกูยันเข้าโบสถ์อ่ะ!

     

    เช้าวาเลนไทน์เริ่มขึ้นเหมือนชีวิตประจำวันปกติ คิมคิบอมมายืนจังก้าหน้าตายด้าน เอาตีนสะกิดแฟนร่างบางที่นอนขดตัวกลมอยู่ในผ้านวมยิกๆ

     

    “อือออ อะไรอีก คิมคิบอมม กูจะนอนนน”

     

    “วันนี้วาเลนไทน์”

     

    “อาเมน  ขอบคุณท่านเซนต์วาเลนไทน์ที่มอบความรักให้กับมนุษย์โลก อาเมน”

     

    “อีฮยอคแจ จะลุกไม่ลุก ถ้าไม่ลุกมึงกับกูฉลองวาเลนไทน์กันบนเตียงนี่แหละ” แล้วประโยคเด็ดของทุกวันก็ทำให้อีฮยอคแจเด้งจากเตียงมานั่งหัวฟูตาตี่แล้วเดินสะบัดตูดเข้าห้องน้ำไป  ยังไม่วายหันกลับมาสั่งคิบอมเล็กน้อย

     

     

    “อ่าใช่ คิมคิบอม แฮปปี้วาเลนไทน์ ช่วยเก็บที่นอนเอาหมอนผ้าห่มไปตากให้กูที เลิฟยู คุณแฟน!

     

    คิบอมอมยิ้มกับประโยคสั่งยาวๆของฮยอคแจแล้วก็จัดแจงอย่างที่เจ้าตัวบอกมา  คิบอมยกผ้านวมสีฟ้าอ่อนไปตาก แต่ระหว่างสะบัดให้มันเข้าที่เข้าทาง เขาก็เห็น กล่องสีแดงแจ๋วางหราอยู่ใต้กองผ้าห่มผืนนั้น บนกล่องแนบการ์ดใบจิ๋ว เขียนด้วยลายมือหวัดๆ ที่อ่านได้ใจความสั้นๆว่า

     

    “กูรักมึงมากกก คิมคิบอม”  คิบอมอมยิ้มให้กับลายมือหวัดๆ และข้อความสั้นๆที่ฮยอคแจเขียนไว้บนการ์ด เขาเดินอมยิ้มไปยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำแล้วกระซิบเบาๆ แต่ก็ทำให้คนในห้องน้ำยืนอาบน้ำไปยิ้มไป

     

     

     

     

    “กูก็รักมึงมากเหมือนกันน่า อีฮยอคแจ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับคุณแฟน”

     

     

     

     

    THE END

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×