ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "MEAN BOY" มนุษย์ชานยอล | CHANBAEK KAIHUN

    ลำดับตอนที่ #20 : Chapter 19 :: His Time (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 18.24K
      117
      22 ส.ค. 57

     


     

    Chapter 19

    His Time

     



     

     

    อ่ะกิน

     

    จื่อเทาวางตะกร้าแอปเปิ้ลลงบนเตียงแล้วเดินไปหยิบฟิคที่อ่านค้างไว้มาอ่านต่อ เขาไม่ได้สนใจเลยว่าตอนนี้เพื่อนสนิทกำลังนอนห้อยหัวให้เลือดไหลลงเล่น ๆ โดยที่ไม่คิดจะลุกขึ้นไปนอนดี ๆ

     

    ชานยอลยังคงมองเหม่อไปยังผนังห้องสีครีม นี่ก็วันที่ห้าแล้วที่เขาหนีมาอยู่บ้านไอ้เทา และคิดว่าคงจะทำไปแบบนี้จนกว่าจะดีขึ้นซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ สิ่งที่เด็กหนุ่มทำได้ดีหลังจากเหตุการณ์คืนนั้นคือเงียบ เขาไม่พูดอะไรอีกจนกระทั่งต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันกลับไปห้องของตัวเอง

     

    คืนนั้นเขานอนไม่หลับ ไม่ได้เปิดคอมพ์เล่นเกมหรือแชทกับเพื่อน ๆ อย่างที่ทำทุกวัน พอรู้ตัวอีกทีก็หกโมงเช้าแล้ว ชานยอลใช้เวลาไปกับการเล่นเก้าอี้ล้อเลื่อนไปมารอบ ๆ เหมือนคนสิ้นคิดจนกระทั่งเก้าโมงเช้าแต่ก็ยังไม่ง่วงอีก ที่น่าสงสัยคือทำไมถึงไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของแบคฮยอนเลยสักแอะ ไม่แม้แต่เงาดำที่เดินผ่านซึ่งเขามักจะเห็นบ่อย ๆ ผ่านทางช่องใต้ประตู

     

    ชานยอลใช้เวลาตัดสินใจอยู่นานกว่าจะกล้าออกไปข้างนอก กลัวเหลือเกินว่าจะต้องมองหน้าแบคฮยอนทั้งที่ทั้งคู่เพิ่งผ่านเรื่องแย่ ๆ มา แต่มันอาจจะเป็นโชคดีของเขาล่ะมั้งที่คนตัวเล็กยังคงอยู่ในห้องเพราะรู้สึกได้ถึงความเย็นของแอร์ที่ออกมาจากช่องใต้ประตู

     

    แบคฮยอนไม่ใช่คนชอบตื่นสาย วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ปกติเขาจะเห็นคนตัวเล็กนั่งอยู่บนโซฟา ถ้าไม่นั่งตรวจการบ้านก็คงดูทีวี แต่พอมองไปยังห้องนั่งเล่นกลับพบเพียงแค่ความเงียบ มันเป็นเรื่องแปลกเกินไปจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าแบคฮยอนกำลังพยายามหลบหน้าเขา

     

    ก็นะ...คนดีที่ไหนจะทำตัวแปลก ๆ กับน้าชายตัวเองเหมือนปาร์คชานยอลอีก เขาใช้เวลาทบทวนเรื่องนี้อยู่ทั้งคืนจนกระทั่งกระจ่างว่าถ้าเกิดเขาเป็นแบคฮยอนก็อาจจะตีตัวออกห่างเพราะกลัวก็ได้ ก็ปาร์คชานยอลเป็นหลาน ส่วนบยอนแบคฮยอนเป็นน้า ถึงจะไม่เกี่ยวทางสายเลือดเลยก็เถอะ...มันคงมีแต่คนบ้าอย่างเขานี่แหละที่จะรู้สึกดีกับคนที่เห็นตัวเองมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกแบบนี้

     

    แทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ปาร์คชานยอลนึกโทษตัวเองหลังจากโทษคนอื่นมาตลอด เขารู้สึกว่าทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมดเพียงเพราะตอนแรกแค่ไม่ชอบขี้หน้าอู๋อี้ฟาน จนกลายเป็นว่าตัวเขาได้ทิ้งตัวลงไปในหลุมของแบคฮยอนโดยไม่รู้ตัว

     

    ปาร์คชานยอลคิดได้ว่าเขาต้องเป็นบ้าแน่ ๆ ถ้าเกิดยังอยู่คนเดียวต่อไป เด็กหนุ่มเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เขียนโน้ตแปะไว้หน้าห้องตัวเองว่าจะไปค้างบ้านเพื่อนคืนนึงก่อนจะออกไปขึ้นแท็กซี่โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าแบคฮยอนจะอนุมัติหรือไม่ พอมาถึงบ้านไอ้เทาก็เพิ่งรู้ตัวว่าง่วงก็ตอนที่แม่มันทักว่าหน้าเขาจะคว่ำใส่ถ้วยซุปอยู่แล้ว นั่นแหละปาร์คชานยอลถึงได้คิดว่าควรนอนสักที

     

    การนอนเป็นวิธีหลบหนีความจริงที่ดีอันดับต้น ๆ รองลงมาก็คือการพูดคุยกับคนรอบข้าง ซึ่งวันจันทร์เขาก็ได้ใช้เวลาไปกับแม่ไอ้เทาอยู่หลายชั่วโมงในการคุยเรื่องมหาลัย แม่มันบ่นว่าอยากให้ลูกชายเรียนครูแต่ก็ไม่ได้ขัดใจที่ไอ้เทาจะลงเรียนวิศวะเหมือนกับเขา

     

    มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ปาร์คชานยอลอิจฉาหวงจื่อเทามาตลอดคือไม่ว่ามันจะทำอะไรพ่อแม่ก็สนับสนุนไปซะทุกอย่าง ไม่เหมือนกับเขาที่ทำอะไรก็ถูกดุด่าไปหมด แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มไม่ได้รู้สึกอิจฉาอีกแล้ว กลับกันเขาอยากให้แบคฮยอนบ่นด่าเหมือนเมื่อก่อนมากกว่าการเงียบไปเฉย ๆ แบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองไม่สำคัญอีกต่อไป ขนาดมาค้างบ้านเพื่อนโดยไม่ขออนุญาตอย่างจริงจังแบคฮยอนยังไม่คิดจะโทรหา

     

    ชานยอลกลับไปที่บ้านช่วงบ่ายและแบคฮยอนก็ไม่อยู่แล้วเพราะต้องไปโรงเรียนแม้ว่าจะปิดเทอมแล้วก็ตาม ชานยอลว้าวุ่นอยู่ตามลำพังไปจนถึงฟ้ามืดและคิดว่าอีกไม่นานเขาคงสติแตกตายแน่ ๆ ถ้าขืนยังอยู่แบบนี้ต่อไปเลยเอาเสื้อผ้าชุดใหม่ใส่กระเป๋าแล้วกลับไปบ้านไอ้เทาอีกรอบ อย่างน้อยการไปหามันก็ทำให้เขารู้สึกดีที่มีเพื่อนอยู่ข้าง ๆ ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะไม่ปริปากเล่าอะไรเลยสักคำก็เถอะ

     

    จนแล้วจนรอด มันเป็นคราวซวยของปาร์คชานยอลหรือยังไงก็ไม่รู้ที่พอเปิดประตูบ้านก็พบว่าคนตัวเล็กกำลังเอื้อมมือมาจับลูกบิดเหมือนกัน ทั้งคู่ต่างทำตัวไม่ถูกและก็เป็นน้าชายที่ยอมหลบทางให้เขาเดินไปก่อน ทั้งที่ปกติแบคฮยอนต้องถามเขาทุกครั้งแท้ ๆ ว่าจะออกไปไหนกับใคร...แต่คราวนี้ไม่เลย

     

    ผมจะไปบ้านไอ้เทา

     

    อือ

     

    อืม

     

    แค่นั้นจริง ๆ สำหรับบทสนทนาที่มีต่อกัน พอรู้แบบนั้นเลยคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องเกรงใจในเมื่อไม่มีใครห้าม ไม่มีใครคอยด่า ไม่มีใครห่วงอีกแล้วการกลับบ้านคงไม่ใช่เรื่องที่ต้องรายงานกับใครอีก

     

    เฮ้ยมึง แดกหน่อยดิวะ~”

     

    ...

     

    เนี่ย อร่อยมากเลยนะเว้ย~” เทาเอาแอปเปิ้ลปาดผ่านหน้าเพื่อนตัวสูงไปมา แต่ถึงอย่างนั้นชานยอลก็เอาแต่ส่ายหน้าแล้วพลิกตัวหันเข้าหาผนัง

     

    มึงอ่ะ...ไม่เป็นแบบนี้ดิ

     

    อ่านฟิคไปเหอะ จะสนใจกูทำไมวะ

     

    ไม่สนได้ไงอ่ะ มึงมาอยู่บ้านกูตั้งหลายวันแต่เสือกไม่พูดอะไรเลย เกมก็ไม่เล่น มือถือไม่จับ มันแปลกเกินไปแล้วนะเว้ย

     

    เออน่า... ชานยอลกอดหมอนข้างแล้วซุกหน้าลง ถ้าเป็นในเกมตอนนี้ HP กูคงหลอดแดงละ

     

    เป็นอะไรต้องพูด

     

    ไม่เสือกเรื่องนึงจะตายไง?

     

    ตาย รีบเล่ามาเลย~ ทะเลาะกับน้าแบคเหรอวะ

     

    อย่าพูดถึงน้ากูให้ได้ยินอีก ไม่งั้นมึงโดนกระทืบแน่

     

    ชานยอลดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วชี้หน้าเพื่อนที่มือข้างหนึ่งถือหนังสือนิยายเกย์เอาไว้ ส่วนอีกข้างก็ถือแอปเปิ้ลที่ถูกกัดไปแล้วส่วนหนึ่ง จื่อเทาทำตาปริบ ๆ ก่อนจะยิ้มกวนตีนแล้วลากเก้าอี้มาชนข้างเตียงดังตึง

     

    น้าแบค ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

     

    ไอ้สัด!!!!!!!!!!!!”

     

    ชานยอลถีบเพื่อนตัวเขียวอย่างแรงจนตกเก้าอี้สไลด์ไปกับพื้นพรมสีน้ำตาลที่ถูกปูไว้อย่างดี จื่อเทากุมท้องหัวเราะอย่างมีความสุขผิดกับอีกคนที่ยังคงทำหน้าอมทุกข์เหมือนไม่ได้ขี้มาทั้งชาติ

     

    ขำเชี่ยไร

     

    กูขำเพราะถูกถีบมั้ง ก็ต้องขำหน้ามึงสิว้า บู้เป็นตูดเป็ดเลย

     

    เออ กูมันหน้าบู้เป็นตูดเป็ด ไอ้มนุษย์นิยายวาย ไอ้ขายวิญญาณให้ศาสตร์มืด

     

    เอาที่สบายใจ พอพูดถึงเรื่องฟิควายแล้วเขาก็ไม่อยากถกเถียงกับคนตรงหน้าอีกเพราะรู้ดีว่าพูดไปก็เท่านั้นก็คนมันไม่เปิดใจ เทาเก็บแอปเปิ้ลขึ้นมากัดแล้วอ่านฟิคต่อ พอเห็นอย่างนั้นชานยอลก็ยิ่งงิด แม่งเห็นความเศร้าเพื่อนเป็นเรื่องตลกเดี๋ยวกูโบกหัวทิ่มอีกรอบ

     

    เมื่อไหร่คอมพ์มึงจะโหลด DotA 2 เสร็จสักทีวะ กูเบื่อ

     

    ลองถามมันดูดิ เฮ้ย ๆ มึงใกล้โหลดเสร็จยังวะตอบหน่อยยย จื่อเทาตบจอคอมพ์แล้วคุยกับมันอย่างเป็นจริงเป็นจัง ชานยอลได้แต่หรี่ตามองอย่างระอาแล้วเอนหลังพิงกับกำแพงมันไม่ตอบอ่ะ หยิ่งเหมือนมึงตอนเจอครั้งแรกเลย

     

    ไรห่า ไหนตอนนั้นมึงบอกว่ากูเฟรนด์ลี่ไง

     

    กูโกหก ถ้าพูดงั้นมึงคงไม่คุยกับกูแหง

     

    ควายเอ้ย!”

     

    น้าแบคเอ้ย! โอ้ะ! เดี๋ยว ๆ เฮ้ยยย~ กูขอโทษ ๆ อ๊ากกกกกกกก จื่อเทาขดตัวลงเมื่อเพื่อนตัวสูงเข้ามาประทุษร้ายเขาอีกครั้งและคราวนี้ดูท่าว่าชานยอลมันจะเอาจริง วัดได้จากน้ำหนักมือที่กระหน่ำทุบเขาอย่างบ้าคลั่ง ไอ้ชานย๊อลลลลล!!! อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!!”

     

    อยู่ไปก็รกโลก มึงต้องตาย

     

    กูขัวท้วดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

     

    จื่อเทาหลับตาแน่นพร้อมกับจับท่อนแขนแกร่งของเพื่อนสนิทที่กำลังงัดคอเขาเอาไว้ ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกเหวี่ยงลงเตียง และทันทีที่ดิ่งลงบนฟูกนุ่มเพื่อนตัวเขียวก็กัดริมฝีปากล่างแล้วโพสต์ท่าแปลก ๆ

     

    อย่านะฮะชานยอล...

     

    เชี่ยไรมึง

     

    เลียนแบบในฟิคไง เคะชอบเป็นแบบนี้เวลาจะถูกข่มขืน จื่อเทาพลิกตัวขึ้นมานั่งขัดสมาธิ ส่วนชานยอลไปนั่งบนเก้าอี้แทนเขา เด็กหนุ่มหยิบฟิคที่เพื่อนอ่านก่อนหน้านี้ขึ้นมา และหน้านั้นดันเจอประโยคทีเด็ดที่ทำให้เขาต้องอึ้งจนค้างอยู่ท่านั้น

     

     

    เรื่องของข้ากับเจ้ามันเป็นไปไม่ได้หรอกชานเลี่ย! เจ้าตัดใจเถอะ...ฮึก

     

     

    ...

     

    ฮั่นแน่ เริ่มสนใจความบันเทิงในโลกกูแล้วล่ะสิ จื่อเทายิ้มพอใจแล้วก้มหัวไปดึงกล่องไม้ใต้เตียงแล้วยกมันขึ้นมา ชานยอลเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตัวเขียวที่กำลังหมุนรหัสเปิดกล่องแล้วขมวดคิ้วสงสัย

     

    อะไรวะ

     

    คลังแสง จื่อเทายิ้มอย่าง So Proud ชานยอลมองอย่างหน่าย ๆ แล้วพยักหน้าไปงั้น

     

    ดูท่ามึงจะชอบอ่านมากนะไอ้ฟิคพวกนี้เนี่ย

     

    เห้ยทำเป็นเล่นไป มันก็เหมือนกับที่มึงชอบเล่นเกมนั่นแหละ เราก็แค่ชอบไม่เหมือนกัน

     

    อ้าง

     

    ถ้ามึงชวนเล่นดอทเอกูก็เล่นได้นะ แต่มึงอ่ะกล้าอ่านฟิคเปล่า? ชานยอลเลิกคิ้วเล็กน้อยหลังจากถูกท้า จื่อเทาเชิดหน้าทำท่าประกอบและส่งสายตามาประมาณว่า ถ้าเกิดมึงไม่ทำนี่คือกากนะเพื่อน

     

    เอาสิ? ทำไมกูจะไม่กล้า ชานยอลยักไหล่แล้วลากเก้าอี้ไปหยุดอยู่ข้างเตียงก่อนจะค้นกองหนังสือที่อัดแน่นอยู่ในกล่อง

     

    อยากอ่านแนวไหนเดี๋ยวกูช่วยแนะนำ มีแบบรักหวานแหววจบแฮปปี้เอนดิ้ง แนววิ่งหนีซอมบี้ แนวดราม่าน้ำตาแตก รักสามเส้าของเราสามคน รักต้องห้าม...

     

    รักต้องห้ามเป็นไง? จื่อเทาค้างอยู่ในท่าเม้มปากเมื่อชานยอลพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่เขาจะได้พูดประโยคถัดไป เด็กหนุ่มหลุบตาลงพร้อมกับหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาแล้วยื่นให้เพื่อน

     

    ประมาณนี้แหละ

     

    คือ?

     

    เรื่องนี้ชานเลี่ยเป็นพ่อแล้วป๋ายเซียนเป็นลูก กูสปอยล์ได้ช่ะ?

     

    จื่อเทาทำตาปริบ ๆ พอเห็นว่าเพื่อนพยักหน้าก็เลยยิ้มกว้าง เพราะมันไม่ได้สกัดดาวรุ่งเขาเหมือนทุกครั้งและมันเป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะได้เปิดโลกให้เพื่อนได้เข้ามามีส่วนร่วม

     

    คือตอนแรกป๋ายมันโดนจับไปขายเป็นนางคณิกาตั้งแต่อายุสิบสองอ่ะมึง แต่ปัจจุบันป๋ายมันยี่สิบแล้วนะ ละวันนั้นชานเลี่ยมันไปเที่ยวหอนางโลม เห็นป๋ายสวยมากเลยออฟไปนอนด้วยแล้วก็เด้ากันจนเกิดเป็นความรัก ชานเลี่ยติดใจเลยตามไปใช้บริการบ่อย ๆ หลังจากเสร็จกิจก็นอนกอดกัน คุยเรื่องปัญหาชีวิตจนชานเลี่ยมันสงสารอ่ะ เลยมีความคิดอยากซื้อตัวป๋ายออกไปเป็นเมียมันแบบจริง ๆ จัง ๆ แต่วันนึงเสือกเห็นรอยปานดำตรงคอป๋ายอ่ะมึง ละเป็นรอยเดียวกับลูกชายมันที่พลัดพรากกันไปเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว มึงนึกภาพฟิคพีเรียตจีนนะ ผู้ชายจะผมยาวใช่ป่ะ ชานเลี่ยมันไม่เห็นรอยปานไงคือได้เห็นตอนป๋ายมันรวบผมขึ้นคือไรท์เตอร์บรรยายเห็นภาพมากว่าป๋ายเซ็กซี่ สวยแบบผู้หญิงต้องโดดน้ำตายอ่ะ แต่เท่านั้นแหละดราม่าบังเกิด

     

    ...

     

    จื่อเทายิ้ม ส่วนชานยอลกำลังขมวดคิ้วพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เพื่อนได้ชี้นำให้ พอเห็นว่าคนตัวสูงยังไม่มีฟีดแบคอย่างที่คาดไว้เด็กหนุ่มก็พยักหน้ารัว ๆ เป็นเชิงกดดันให้เพื่อนรีบแสดงอาการฟินออกมาซะ

     

    คือกูงงตั้งแต่ผู้ชายเป็นนางคณิกาแล้ว

     

    เอ้ามึงจะคิดไรมากวะ ฟิควายเขาก็เขียนให้เคะสวยเหมือนผู้หญิงทั้งนั้นแหละ มึงดูป๋ายเซียนดิ น่ารักจะตาย จื่อเทาพลิกหน้าปกฟิคที่ถูกตัดต่อมาอย่างสวยงามให้เพื่อนดู

     

    แล้วประเทศจีนมีซ่องกระหรี่ชายด้วยเหรอวะ โอ้ะ!” ชานยอลจับปากตัวเองเมื่อถูกจื่อเทาตบเข้าให้ทั้งที่ปกติมีแต่เขาที่ลงไม้ลงมือกับมัน ไม่ต้องบรรยายถึงสีหน้าตอนนี้ครับ พี่เทาของสาว ๆ กำลังเดือดเป็นฟืนเป็นไฟเลยทีเดียว

     

    มึงเอาอีกแล้วนะ เขาเรียกว่าสถานเริงรมย์เว้ย!”

     

    เอ้า...แล้วมันต่างกันยังไง นี่กูยังสงสัยอยู่เลยว่าราชวงศ์ไหนของมึงมีซ่...

     

    หยุด!” จื่อเทายกมือห้ามก่อนที่เพื่อนของเขาจะหยาบคายมากไปกว่านี้ มึงไม่ต้องอ่านเรื่องนี้ละ เปลี่ยน ๆ ๆ ชานยอลมองมือตัวเองที่เพิ่งถูกแย่งหนังสือกลับไปก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนที่กำลังอยู่ในอารมณ์บ่จอยอีกครั้ง

     

    นี่มึงเดือดไรสัด

     

    มึงอ่านแล้วชอบสงสัยแบบที่ควายยังไม่กล้างงอ่ะ ไม่ต้องอ่านแล้วดีป่ะ? เด็กหนุ่มเชิดหน้าขึ้นราวกับว่าเขากำลังถือไพ่เหนือกว่า ซึ่งตอนนี้ชานยอลได้แต่นั่งสงสัยว่าทำอะไรผิดไป

     

    มันรักกันได้ด้วยเหรอวะ พ่อกับลูก

     

    ก็ต้องดูความสมเหตสมผลก่อน อย่างเรื่องนี้ชานเลี่ยกับป๋ายมันไม่รู้ตั้งแต่แรกเลยกลายเป็นดราม่าเขื่อนแตกไง

     

    แล้วถ้าไม่ใช่พ่อลูกแท้ ๆ ล่ะ

     

    ก็แล้วแต่ไรท์เตอร์จะเขียนว่าจะให้จบแบบไหน มีบางเรื่องจบแบบอยู่กินกันอย่างมีความสุข แต่บางเรื่องไม่เมะก็เคะต้องตายอ่ะ เศร้าโคตรกูนี่นั่งร้องไห้ทั้งคืน มึงจำได้ป่ะวันนั้นที่กูตาบวมไปโรงเรียนอ่ะ นั่นแหละ

     

    มีวันไหนที่ตามึงไม่บวมด้วยเหรอวะ

     

    ...

     

    ...

     

    โอเค ตากูมันบวมตั้งแต่เกิดก็ได้

     

    แล้วถ้าไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน มันจะแบบ... ชานยอลเอามือทั้งสองข้างมาประกบกันเพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงให้เพื่อนตัวดีไม่สงสัยในความผิดปกติของเขา มันจะพอมีหวังป่ะวะ?

     

    โอ้ย ในฟิคจะเขียนยังไงก็ได้เว้ยมึง 55555” จื่อเทาหัวเราะ

     

    แล้วถ้าเป็นความจริงล่ะ สมมติว่ามึงเกิดตกหลุมรักพี่ญาติของมึงคนนั้นอ่ะ ชื่อไรนะ โจวมี่?

     

    ก็แย่ละ แค่คิดกูก็ปวดขี้แปลก ๆ อึ๋ย!” เด็กหนุ่มตัวสั่นพร้อมกับลูบแขนเป็นท่าประกอบให้อีกคนรู้ว่าเขาไม่โอเคอย่างมากกับการคิดอกุศลในเครือญาติตัวเอง

     

    ชานยอลกำลังคิดหนัก ให้ตายเถอะโรบิ้นมีแค่เขาคนเดียวในโลกเหรอที่สามารถคิดบ้า ๆ แบบนั้นได้ จื่อเทาเหล่มองเพื่อนตัวสูงที่กำลังเคร่งเครียดกัดนิ้วหัวแม่มือตัวเองก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ ๆ มันก็หันกลับมาอย่างเร็ว

     

    แล้วถ้าเป็นความสัมพันธ์อื่นล่ะ มีไหม? ชานยอลมองอย่างคาดหวัง จื่อเทาใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค้นเอาฟิคเล่มที่อยู่ข้างล่างสุดขึ้นมา

     

    อันนี้เป็นอากับหลาน

     

    ...

     

    ทำนองว่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก พอหลานโตมาสวยสะบัดเมะที่เป็นอาเลยเยิ้บหลานเพราะอดใจไม่ไหว แต่มันเอากันทั้งเรื่องเลยนะมึงจะอ่านไหวเหรอเด็กหนุ่มทำหน้าคิดไม่ตก เขารู้สึกเป็นห่วงสุขภาพจิตเพื่อนอยู่ไม่น้อยกับจุดเริ่มต้นทางเดินสีม่วงที่เขาพยายามชักจูง

     

    ชานยอลเบ้ปากแล้วมองปกฟิค แค่เห็นภาพเคะที่ว่าเป็นหลานใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียวก็ขนลุกซู่เมื่อจู่ ๆ ก็มโนภาพออกมาว่าหน้าของเขาได้ไปแปะอยู่ตรงตัวละครที่เป็นฝ่ายรับ ส่วนฝ่ายรุกที่เหลือแต่กางเกงผู้ซึ่งเป็นอานั้นก็คือ...แบคฮยอน

     

    เชี่ย!”

     

    ชานยอลทิ้งหนังสือลงราวกับว่ามันเป็นอะไรสักอย่างที่ขืนถือไว้นานกว่านี้มือเขาคงต้องถูกแผดเผาจนมอดไหม้แน่ จื่อเทาทำตาปริบ ๆ พลางมองตามเพื่อนที่กำลังทึ้งหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่งก่อนจะกลับไปนอนที่เดิมแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมากอด

     

    ไม่อ่านแล้วเหรอวะ

     

    ไม่ มึงเก็บไปให้หมดเลยนะ แล้วมานั่งคุยกับกู

     

    คุยแน่นะ?เด็กตัวเขียวยิ้มอ้าปาก ชานยอลโบกมือปัด ๆ เป็นคำตอบหวงจื่อเทาเลยเก็บอารยธรรมทุกอย่างลงไปใต้เตียง ไหนว่ามา คุยอะไรกันดีเพื่อน

     

    ร้อยวันพันปีไม่เคยจะมานั่งถามว่า วันนี้เราจะคุยอะไรกันดีเอ่ย? แบบนี้เลยสักครั้ง นี่ปาร์คชานยอลคิดดีแล้วแน่เหรอที่มาพักฟื้นหัวใจที่นี่ บางทีเขาควรจะนอนแห้งอยู่ในห้องแล้วสลายกลายเป็นผุยผงแทนที่จะมานั่งเครียดกับเพื่อนที่พูดจาคนละภาษากับเขา

     

    กูอกหัก

     

    ห้ะ!!!!!”

     

    มึงจะเสียงดังทำฟากหมาไรห่า?!” ชานยอลตะปบปากเพื่อนแล้วมองไปยังประตูที่ยังคงปิดสนิทอยู่ราวกับรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้ ไวเท่าความคิด...ประตูห้องถูกเปิดออกโดยผู้ดูแลบ้าน เด็กทั้งสองคนหันไปยิ้มให้ผู้มาใหม่ที่ทำหน้าตกใจเหมือนเพิ่งผ่านแผ่นดินไหวมาหมาด ๆ

     

    เป็นอะไรลูก!”

     

    เอ่อ...เปล่าครับแม่ เมื่อกี้ไอ้เทามันตกเตียงน่ะ

     

    กูเปล่าตกนะเว้ย!”

     

    เงียบไปสัส!” ชานยอลพูดลอดไรฟันก่อนจะหันไปหัวเราะแห้ง ๆ ใส่แม่เพื่อนสนิท และแน่นอนว่าเธอเชื่อคำพูดของเพื่อนลูกมากกว่าลูกชายของตัวเอง

     

    แม่นึกว่าเป็นอะไรซะอีก นอนดี ๆ สิลูกเตียงก็กว้างออก

     

    ได้ยินที่แม่มึงบอกแล้วใช่ไหม? ชานยอลกดเสียงต่ำแล้วถลึงตามองเป็นเชิงบอกว่าถ้ายังไม่ตอบตกลงมึงเจอตีนแน่ จื่อเทาเบ้ปากแล้วหันไปพยักหน้ากับแม่อย่างจำใจ

     

    มีอะไรเรียกแม่ได้ตลอดเลยนะลูกนะ แม่ไอ้เทายิ้มกว้างแล้วโบกมือให้ ซึ่งบ้านอื่นเขาคงไม่ทำกันแบบนี้ แต่เขาชินแล้วแม้ว่าช่วงแรก ๆ จะเงิบอยู่ก็ตามที

     

    ไหนเล่าต่อเร็ว กูอยากรู้ว่ามึงไปอกหักจากใครมา

     

    ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก แค่คนใจร้ายคนนึงที่เห็นกูเป็นอากาศธาตุ ชานยอลเหม่อมองไปอย่างไร้จุดหมาย เทาพยักหน้ารัว ๆ แล้วกำมือเขย่าทั้งสองข้างระหว่างรอเพื่อนพูดต่อ

     

    ไม่อยากจะเชื่อเลยอ่ะ เป็นงี้ได้ไงวะ

     

    ที่เขาเห็นแค่กูเป็นอากาศธาตุสินะ? ชานยอลหันไปสบตากับเพื่อน มึงเข้าใจกูใช่ไหมเทาว่าไอ้ความรู้สึกถูกเมินมันสมถุยแค่ไหน...

     

    เปล่าอ่ะ กูหมายถึงที่มึงชอบคนอื่นเป็นกับเขาด้วย

     

    ...

     

    คืออย่างมึงนี่กูจินตนาการไปแล้วว่าในอนาคตถ้าจะแต่งงานคงต้องใส่ชุดเจ้าบ่าวข้างนึง เจ้าสาวข้างนึงเพราะหลงตัวเองขั้นหนักจนต้องขอตัวเองแต่งงาน

     

    กูก็คนป่ะห่า

     

    เป็นเพื่อนมึงมาสองปีเพิ่งรู้วันนี้แหละว่ามึงเป็นคน

     

    สัส!!!!”

     

    โอ้ ๆ ๆ จื่อเทายกมือขึ้นบังเมื่อชานยอลทำท่าจะฟาดเขาอีกแล้ว เด็กตัวสูงถอนหายใจอย่างหัวเสียแล้วทิ้งตัวลงไปนอนชักดิ้นชักงออยู่บนเตียงท่ามกลางความมึนงงของเพื่อนตัวเขียวเฮ้ย~ มึงโอเคป่ะว้า จื่อเทาจิ้มแขนเพื่อนจึก ๆ

     

    กูเหมือนคนโอเคไหมล่ะ มึงช่วยดูหน้ากูด้วย เด็กหนุ่มชี้หน้าตัวเองพร้อมกับถลึงตามองเพื่อน จื่อเทาเม้มปากแน่นแล้วทำมือโอเค

     

    มึงก็เล่ามาดิว่าไปสปาร์คกับผู้หญิงที่ไหนมา ทำไมกูไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย เทาพูดติดน้อยใจอยู่เล็กน้อย ทั้งที่อยู่ด้วยกันตลอดแต่เพื่อนของเขากลับแอบไปมีความรักตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

     

    ขนาดกูยังไม่รู้ตัวเลย ชานยอลเอาแขนก่ายหน้าผากแล้วหลับตาลงกูหล่อขนาดนี้พระเจ้ายังยัดเยียดคำว่าอกหักให้กูอีก ใจร้ายกันทุกคน

     

    จื่อเทาเอาคางเกยเข่าตัวเองพลางมองเพื่อนตัวสูงที่กำลังพาลทุกสิ่งทุกอย่างในโลกด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอกเหนื่อยใจก่อนจะเอื้อมไปตบหน้าขาปุ ๆ เป็นเชิงปลอบ

     

    เขามีแฟนแล้วเหรอวะ

     

    ไม่มีก็เหมือนมี

     

    ยังไงอ่ะ เขาอ่อยแล้วไม่เอามึงงี้เหรอ

     

    ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะอ่อยตามหน้าที่ หรือไม่กูคงคิดไปเอง

     

    อ๋อ แบบนั้นเรียกอุปทานเดี่ยว จื่อเทาพยักหน้าก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อชานยอลเอาแขนออกจากหน้าผากแล้วมองคาดโทษเขา

     

    กูทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะมองหน้าเขายังไง พอรู้ว่าชอบมันก็เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ กูอยากอยู่กับเขาให้มากกว่าที่เป็นอยู่ พอได้อยู่ใกล้ ๆ กูก็อยากแตะต้องตัวเขา อยากจับมือ อยากกอด แต่ก็ทำไม่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนที่กูรำคาญที่สุด

     

    ...เหย

     

    กูอยากรู้สึกแบบนั้นไปเรื่อย ๆ แต่กูก็ไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีกแล้วเหมือนกัน

     

    เพราะเขาไม่ชอบมึงเหรอ

     

    นั่นก็ส่วนนึง กูไม่โอเคที่เขาชอบคนอื่นทั้งที่รู้ว่ากูคิดยังไง

     

    เฮ้ย~ คิดแบบนั้นก็ไม่ถูกป่ะวะ เขาก็ชอบของเขามันผิดตรงไหนอ่ะ มึงแหละเสือกไปชอบเขาเองแล้วเจ็บเอง มันเป็นเรื่องที่มึงต้องทำใจเว้ยเพื่อน

     

    ชานยอลดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วถอนหายใจ ถึงไอ้เทาจะพูดถูกก็เถอะ แต่มันก็เป็นเรื่องที่รับได้ยากอยู่ดี เขามีความสุขเวลาอยู่กับแบคฮยอน แต่พอรู้ว่าน้าของเขาก็รู้สึกดีกับคนอื่นอยู่มันก็เศร้าจนวันนั้นรู้สึกเฉาไปทั้งวัน ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ? ไอ้ความรู้สึกที่เรียกว่าความรักทำไมมันน่ารำคาญแบบนี้ เขาชักจะเกลียดมันแล้ว

     

    สายตาเวลาเขามองกูมันไม่เหมือนเมื่อก่อนกูรู้สึกได้ ถ้าไม่คิดอะไรแล้วมาทำดีกับกูทำไม

     

    เขาอาจจะทำดีกับทุกคนก็ได้แค่มึงไม่รู้อ่ะ... เด็กหนุ่มพูดเบา ๆ ทันทีที่เห็นว่าสีหน้าชานยอลในตอนนี้มันแย่ลงกว่าในทีแรก

     

    ...

     

    บางทีที่เขาอยากเดินใกล้ ๆ มึงอาจเป็นเพราะเขาอยากดูด Wi-Fi จากมือถือมึงก็ได้ป่ะวะ...

     

    ... ชานยอลเหล่มองเพื่อนที่ยกเหตุผลควาย ๆ ออกมาเปรียบเทียบได้อย่างหน้าตาเฉย

     

    คนที่มึงชอบเป็นคนแบบไหนอ่ะกูจะได้ช่วยวิเคราะห์ เห็นเพื่อนเศร้าแล้วจื่อเทาทนไม่ได้จริง ๆ เด็กหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเอาหมอนมาวางไว้บนตัก

     

    กับคนที่ไม่เคยมีแฟนอย่างมึงเนี่ยนะ?

     

    เฮ้ย~ ทฤษฏีกูเป็นเลิศนะมึงไม่รู้เหรอ เห็นงี้ประสบการณ์ที่ได้จากฟิคกูโชกโชนมากนะ

     

    จากฟิค

     

    เอ้อ!”

     

    ...

     

    เร็ว ๆ รีบเล่ามากูจะได้ช่วยวิเคราะห์เนี่ย จื่อเทารบเร้าเขย่าแขนเพื่อนตัวสูง

     

    ก็ไม่ไง แค่คนนิสัยไม่ดีแต่ก็ชอบทำให้ใจเต้นแรง

     

    กาแฟเซเว่นเหรอ

     

    กาแฟพ่อง!”

     

    หยอก ๆ จื่อเทาหัวเราะแล้วเขย่าขาเพื่อนในขณะที่อีกคนได้เพียงแค่มองเขาด้วยสายตาเอือมระอา

     

    ขี้บ่นด้วย เผด็จการ บ้าอำนาจ

     

    เดี๋ยวนะ... รอยยิ้มบนใบหน้าเด็กเขียวหายไปตอนนี้มีเพียงแค่ความจริงจังที่แต่งแต้มอยู่บนหน้าหวงจื่อเทาเท่านั้น หรือว่าคนที่มึงชอบคือ...ชานยอลมองเพื่อนอย่างหวาด ๆ เขาจะต้องอธิบายยังไงดีถ้าเกิดไอ้เทามันรู้ว่าแบคฮยอนคือคนที่กล่าวถึง เขาต้องถูกมันด่า ถูกมันล้อว่าเป็นไอ้คนวิปริตแน่ ๆ

     

    ...

     

    มึงชอบอีอ้วนอึนจีเหรอวะ!!!!!!!!!!!!”

     

    ...

     

    ...ช่ะ

     

    ...

     

     

     

    เงียบ...

     

     

     

    ทั้งคู่สบตากันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรอีก จะมีก็แต่หวงจื่อเทาที่กำลังแสดงออกผ่านทางสีหน้าว่ายังต้องการคำตอบจากปากเพื่อนสนิทอย่างเขาอยู่ นี่กูพูดไปทั้งหมดนี่มันสื่อไปไกลขนาดนั้นเลยสินะ กูล่ะเชื่อมึงเลยหวงจื่อเทา สมแล้วที่ได้สมยานามว่าควายธนูแห่งชิงเต่า ชานยอลถอนหายใจแล้วบิดตัวไปมาจนได้ยินเสียงกระดูกลั่นก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบซองบุหรี่บนโต๊ะแล้วเดินออกไปตรงระเบียง

     

    เฮ้ยเดี๋ยวดิ

     

    มึงนั่งตรงนั้นแหละ ถ้าตามมากูถีบตกระเบียง

     

    ชานยอลคาบบุหรี่ไว้แล้วชี้หน้าเพื่อนขู่ว่าถ้ามันมาเขาทำจริงแน่ จื่อเทาทำหน้าหงอแล้วยกมือกวักเรียกคนตัวสูงให้กลับมาอธิบายเรื่องราวที่มันยังค้างคาใจให้กระจ่างก่อนแต่ก็ไม่เป็นผล ชานยอลปิดประตูระเบียงแล้วหันมาชูนิ้วกลางให้เขาแทนคำตอบ

     

     

     

    เฮ้ยยยยยยยย~ มึงยังไม่ตอบกูเลยนะเว้ย มึงชอบอีอ้วนช่ะ!!”

     

     

     

     

    50%

     

     

     

      

    กล้องพร้อม เลนส์พร้อม กินข้าวเรียบร้อย เชือกรองเท้าผูกมาอย่างดี ดีกรีนักกีฬาทีมมหาลัยซะอย่างการวิ่งแข่งกับติ่งไม่ใช่ปัญหาสำหรับจงอินโอป้าอยู่แล้ว ริมฝีปากหยักคาบไม้จิ้มฟันไว้ เคี้ยวบ้าง เล่นกับมันบ้างตามประสาคนกำลังนั่งรอกองถ่ายเตรียมฉากใหม่

     

    กองทัพติ่งครึ่งร้อยเบียดเสียดอัดกันอยู่เบื้องหน้า มันเป็นภาพที่เขาคุ้นตาเป็นอย่างดี เสียงกรี๊ดกร๊าดแสบแก้วหูจนต้องเอาหูฟังออกมาใส่ก่อนจะหันไปป๊ะหน้ากับพระเอกละครที่กำลังนั่งพักอยู่บนเก้าอี้พับในกองถ่ายโดยบังเอิญ

     

    ทั้งคู่กัดริมฝีปากล่างส่งซิกให้กัน แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นแหละรอยยิ้มบนใบหน้าก็ถูกดูดออกไปทันทีที่น้องฮยอนอาคนสวยสุดสวาทขาดใจเดินไปนั่งข้าง ๆ ยอดรักในชีวิตจริงของเขา จงอินส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้กับแววตาที่น้องฮยอนอาคนดีกำลังมองศรีฮุนจ๋าของเขา เป็นอีกครั้งที่คิมจงอินสับสนในชีวิตว่าจะหึงใครก่อนดี

     

    เวลาผ่านไปสิบนาทีละครก็เริ่มถ่ายทำอีกครั้ง ฉากพ่อพระเอกสุดหล่อถูกสั่งคัทบ่อยจนผู้กำกับต้องกุมขมับเพราะการแสดงอันแข็งทื่อไร้อารมณ์แต่แฟนคลับเสือกกรี๊ดแล้วอวยสุดใจว่าเซฮุนโอป้าแสดงได้สมบทบาทยิ่งกว่าพระเอกช่อง SBS ทั้งหมดทั้งมวล

     

    พักกองอีกรอบ...ทีมงานหันไปสบตากันอย่างรู้ความหมายแล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาจะเหนื่อยกับพ่อพระเอกคนดังก็เถอะแต่มันก็อดที่จะเซ็งไม่ได้จริง ๆ จะมีแค่โอเซฮุนเท่านั้นแหละที่ทำหน้าก็ไม่รู้สินะอย่างชัดเจนกับความเรื่องมากของผู้กำกับที่ไม่ยอมให้ผ่านฉากนี้สักที

     

     

    จงอินเลียบไปทางเต้นท์ข้าง ๆ กองถ่าย ตรงนั้นมีอาหารกล่อง ผลไม้และเครื่องดื่มที่มาจากการซัพพอร์ทของบ้านแฟนไซต์เซฮุนและน้องฮยอนอาถูกจัดเรียงไว้ให้ทีมงานจนสามารถหิ้วกลับไปกินต่อที่บ้านได้คนละหลาย ๆ กล่อง ชายหนุ่มตั้งกล้องขึ้นแล้วกดรัวชัตเตอร์ไม่ยั้งเมื่อได้มุมที่เหมาะสม

     

    กูล่ะเหนื่อยจริง ๆ จะได้กลับบ้านตอนไหนก็ไม่รู้

     

    มีเวลาถึงห้าโมงเย็นก่อนฟ้ามืดอ่ะ แล้วตอนนี้ก็เพิ่งจะเก้าโมง คิดดูว่าเราต้องทนอยู่กับฉากนี้ทั้งวันเพราะคุณพระเอกสุดหล่อของติ่งทั้งแผ่นดินเล่นทื่ออย่างกับบอมบ์ธนวย

     

    งงกับมันว่าดังได้ไง แค่หล่อเหรอ ถ้ากูไปศัลยกรรมยังทำได้ดีกว่านั้น

     

    ฮ่า ๆ นั่นดิ

     

    ...

     

    ...

     

    เด็กในกองถ่ายทั้งสองคนมองคนแปลกหน้าที่มายืนอยู่ข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมยังเคี้ยวไม้จิ้มฟันขมวดคิ้วมองหาเรื่องอีกต่างหาก ทั้งคู่ก้มลงมองมือหนาที่วางลงบนไหล่ของเขาพวกก่อนที่คนแปลกหน้าจะขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิมเพื่อกระซิบข้างหูเขา

     

    กฎหมายมาตราที่ 1259 ระบุไว้ว่าหากผู้ใดนินทาไอดอลกลางแจ้งแล้วเสือกถูกจับได้จะถูกจับไปตัดหรรมแล้วโยนให้ปลากระโห้ตอดเล่นต่อหน้าแองเจลีน่าโจลี่อย่างเลือดเย็นโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น

     

    ...

     

    ว...ว่าไงนะ

     

    ตามนั้น จงอินตบบ่าทั้งคู่ปุ ๆ แล้วมองหน้าอย่างจริงจัง แถมถูกปรับอีกห้าล้านวอนคราวนี้แหละมึงได้ไปนั่งบดข้าวแดงเล่นในซังเตกันสนุก

     

    ...

     

    เฮ้ย...มึงก็พูดเกินไปเปล่า...พี่เซฮุนออกจะเล่นดีตีบทแตก ชายหนุ่มหันไปผลักไหล่เพื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนที่อีกคนจะเลิกคิ้วขึ้นสูงเมื่อถูกปาขี้มาให้

     

    ก...กูเนี่ยนะ

     

    เออมึงเนี่ยแย่จริงว่ะ...ฮะ ๆ งั้นผมไปก่อนนะพี่เดี๋ยวพี่เซฮุนเรียกใช้งานละ... เด็กในกองยิ้มแห้ง ๆ แล้วโค้งหัวก่อนจะเฟดตัวออกไปจากตรงนั้น และแน่นอนว่าอีกคนคงไม่อยู่ต่อ

     

    ร่างหนาแค่นหัวเราะแล้วขยับปากบ่นแบบไม่มีเสียง ไอ้พวกห่านี่ปากหมาอย่างเดียวไม่ได้คือต้องโง่ด้วย กฎหมายมาตราอะไรนั่นกูซุยขึ้นมาเองพวกมึงยังเชื่อกันอีก สมแล้วที่เป็นได้แค่พวกเด็กยกกอง

     

    ถึงที่รักกูจะแสดงง่อย ๆ แต่มันก็หล่อป่ะวะ มองไปยังไอดอลหนุ่มที่กำลังยิ้มตาหยีให้เหล่าแฟนคลับขณะนั่งให้สไตล์ลิสต์ช่วยแต่งหน้าให้

     

    จงอินเดินเข้าไปใกล้อีกนิดพอให้ได้ภาพที่ชัดขึ้นแต่ต้องไม่ล้ำเส้นเข้าไปในกองถ่ายจนมากเกินไป เสียงกรี๊ดเงียบลงเมื่อเซฮุนกำลังจะเข้าฉากเดิมอีกครั้ง มันเป็นฉากเรียกน้ำตาหลังจากที่นางเอกบอกความจริงว่าคนที่พระเอกรักมาตลอดคือน้องสาวฝาแฝดของเธอซึ่งเป็นลูคีเมียระยะสุดท้ายและตายห่าไปนานแรมปี แต่ก่อนตายน้องสาวฝาแฝดได้ฝากเรื่องไว้ว่าให้ช่วยสวมรอยเป็นเธอเพื่อมารักกับพระเอกหน่อย พอรู้ความจริงพระเอกเลยช็อก เสียใจร้องไห้ฟูมฟายเหมือนโลกทั้งใบพังไปในพริบตา

     

     

    นั่นแหละ...คือฉากที่เซฮุนมันเล่นไม่ผ่านสักทีเพราะมันร้องไห้ได้เฟคขั้นสุด

     

     

    พี่จงอิน? เจ้าของชื่อลดกล้องลงก่อนจะหันกลับไปข้างหลัง พอเห็นหน้าผู้มาใหม่เท่านั้นแหละกูนี่แทบอยากจะสลายร่างเป็นปีศาจในการ์ตูนช่องเก้า

     

    เด็กสาวตัวเล็กยิ้มกว้างทันทีที่รู้ว่าไม่ได้ทักผิดคน ซนนาอึนกระชับกระเป๋าเป้ลายตุ๊กตาสีสันสดใสแล้วพยายามปีนลงมาจากเนินหินที่เขาเพิ่งผ่านมาเมื่อครู่นี้ โอยน้องหล่า ความพยายามหนูช่างเกินร้อย...

     

    ใช่พี่จริง ๆ ด้วย! สวัสดีอย่างเป็นทางการนะคะ เธอโค้งหัวเต็มองศาในขณะที่คนอายุมากกว่าทำได้เพียงแค่เอาแขนเสื้อลายสก๊อตกรัง ๆ ขึ้นมาซับเหงื่อก่อนจะดึงหมวกสีดำออกมาพัดคลายร้อนทั้งที่ก่อนหน้านี้อากาศกำลังดี

     

    จ้ะ

     

    แค่นี้เองเหรอคะ เด็กสาวงอหน้าอย่างน้อยใจก่อนจะชกแขนคนตัวโตกว่าเบา ๆ จงอินทำหน้าแห้ง ปกติหน้ากูก็แห้งอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งหนักเข้าไปอีก

     

    วันนี้อากาศเป็นยังไงบ้างสบายดีไหมกินข้าวกับอะไรอร่อยเปล่าแล้วถ้ายังไม่ได้กินจะกินอะไรมาที่นี่ได้ยังไงพ่อแม่ไม่เป็นห่วงเหรออ้อปิดเทอมแล้วสินะแต่พี่ว่ามันก็อันตรายอยู่ดีแหละหนูควรรีบกลับบ้านไปนอนดูรายการเชฟกระทะเหล็กแล้วเสพรูปเซฮุนโอป้าผ่านทางทวิตเตอร์จะดีกว่าไหมพี่เตือนเพราะความเป็นห่วงว่าแต่หนูกินข้าวหรือยัง?

     

    ...

     

    นาอึนมองอีกคนด้วยแววตาที่ต่างไปจากเดิมหลังจากที่โดนจงอินแรปใส่จนแทบเรียบเรียงประโยคไม่ได้ เด็กสาวยกมือขึ้นเกาหัวเบา ๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าบางทีคนตรงหน้าอาจจะเล่นมุกตลกเลยฟาดแขนไปเบา ๆ ทีนึง

     

    พูดอะไรของพี่เนี่ย หนูขำไปหมดแล้วนะ นี่ขรรมแล้วเหรอกูเห็นทำหน้างงอยู่เกือบครึ่งนาทีแล้วค่อยหัวเราะ แต่จงอินไม่ใช่ชายชั่วครับ ในเมื่อน้องขำมาพี่ก็ขำด้วยทั้งที่ไม่รู้ว่ามันมีเรื่องอะไรน่าตลก

     

    ฮะฮะฮะ

     

    พี่ไม่ตอบไลน์หนูเลยอ่ะ

     

    หืม...ไลน์เหรอ

     

     

    นั่นไง...งานงอก

     

     

    โปรด Flashback ไปเมื่อวันนั้นวันที่ซนนาอึนขอไลน์คิมจงอินที่จำใจต้องให้ไปอย่างปฏิเสธไม่ได้เพราะไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นไอ้ชั่วที่หยิ่งเล่นตัวทั้งที่ปากก็บอกว่าบริสุทธิ์ใจกับการมาถ่ายรูปเซฮุนแทนน้องสาว

     

    แต่เชื่อเถอะว่าพอห่างกันไปได้แค่ห้านาทีนางก็ทักมาพร้อมกับโคตรสติ๊กเกอร์มุ้งมิ้งที่ไม่รู้ว่ามีกี่ลายในขณะที่ในเครื่องคิมจงอินมีเพียงแค่อีสติ๊กเกอร์ตัวขาว ๆ หัวล้านหน้าโง่ที่มีแถมมาในแอพเท่านั้น นาอึนพิมพ์มาประมาณหกบรรทัดเห็นจะได้ เขาเหยียดแขนออกจนสุดตัวแล้วมองโทรศัพท์มือถือราวกับว่าถ้าปล่อยให้มันเข้ามาใกล้กว่านี้กูต้องถูกดูดเข้าไปในนั้นแน่ ๆ

     

    ประโยคแนะนำตัวมาพร้อมกับคำถามว่าปกติพี่จงอินทำอะไร เรียนจบที่ไหนไปจนถึงพี่ทำไมไม่ตอบหนูเลยคะ? ขนาดไม่ได้กดเข้าไปอ่านยังรับรู้ได้ถึงงานขี้เม้าท์ ชายหนุ่มใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะกดอ่านพร้อมกับตอบไปว่า

     

    จ้า

     

    แค่นั้นจริง ๆ หลังจากนั้นคิมจงอินก็ปล่อยเซอร์น้องนางไปตามยถากรรมเพราะมันไม่ใช่วิสัยของเขาที่จะไปพูดคุยกับคนแปลกหน้าที่พร้อมจะเข้ามาล้วงตับประวัติหนูคาอิจังได้ทุกเมื่อ เขาได้แต่ย้ำบอกตัวเองว่าอย่าพยายามเข้าใกล้แฟนคลับเซฮุนเด็ดขาด ถ้าคนพวกนั้นรู้ว่าอันที่จริงแล้วอีคาอิจังเป็นใครล่ะมึงเอ้ย...โดนจับขึงกับท่อนเสากลางอิมแพคลนไข่โชว์ท่ามกลางเหล่าติ่งหูของเซฮุนเป็นแน่

     

    คือโทรศัพท์พี่หาย...

     

    เอ๋?

     

    ใช่ หายจริง ๆ ไม่งั้นพี่ตอบหนูไปแล้วล่ะโธ่ จงอินยิ้มแถก่อนจะเบือนหน้าหลบไปทางด้านข้างแล้วสบถอย่างอ่อนใจ อย่าถามได้ไหมรู้สึกยังไง อย่าถามว่าฉันจะคิดยังไง จะอยู่ยังไง ถ้าเธอจะไป...

     

    ถึงว่าล่ะทำไมพี่ไม่ตอบหนูเลย นึกว่ารำคาญซะอีกค่ะ

     

    ใครจะไปรำคาญคนน่ารักได้ลงครับหืม? งานตอแหลมาอีกดอก ทันทีที่ได้ยินอย่างนั้นนาอึนก็หน้าขึ้นสีแล้วงุดหน้าลง นั่นเป็นจังหวะที่จงอินจะโกยอากาศเข้าปอดได้มากที่สุดก่อนที่นางจะเงยหน้าขึ้นมา

     

    งั้นหนูแอดไลน์อันใหม่พี่ได้ใช่ไหมคะ?

     

    คะ? จงอินเลิกคิ้วแล้วก็ก้มลงมองโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อช่วงอกของตัวเอง กรรมของเวร ปกติกูเหน็บดากไว้แล้วมึงมาอยู่นี่ได้ไงซั้ซ!!!

     

     

    อ่อ เมื่อกี้กูหยิบขึ้นมาถ่ายรูปพรีวิวอัพลงทวิตแล้วรีบเก็บ...

     

     

    ...

     

    แอด~” เด็กสาวทำตาปริบ ๆ พร้อมกับเอามือถือแตะริมฝีปากตัวเองขณะมองพี่ชายตัวสูง จงอินปาดเหงื่ออีกรอบแล้วได้แต่ไถ่ถามพระเจ้าว่าวันนี้กูก้าวขาผิดข้างหรือเปล่าทำไมการดำเนินชีวิตมันถึงได้ยากขึ้น

     

    นึกโมโหอยู่ในใจว่าน้องจะอยากได้ไลน์พี่ไปทำไมนักหนาถ้าไม่คิดอะไรด้วย มันน่าโมโหจริง ๆ เชียว ถ้าจีบจะไม่ว่าสักคำเลย เอาบัตรประชาชนไปเลยไหม สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมรหัสบัตรเอทีเอ็มสี่หลักด้วยจะได้ไม่ถามอีก

     

    อันนี้มือถือเพื่อน...

     

    เอ๋?

     

    ใช่ เพื่อนพี่มันรวยมากเลย แบบว่าเป็นคนที่ชอบซื้อมือถือใช้สองเครื่องน่ะ มันเลยให้พี่มาใช้แก้ขัดก่อน แต่ไม่ใช่เซฮุนหรอกนะ คนบ้าที่ชอบซื้อมือถือสองเครื่องแล้วอัพรูปลง IG มีเยอะแยะไป อีกอย่างพี่จะมีเป็นเพื่อนดาราได้ไงว่าไหม? ฮะฮะฮะ จงอินหัวเราะทั้งที่มันไม่มีเรื่องตลก เด็กสาวยืนนิ่ง เธอกำลังพยายามคิดตามคำพูดของอีกฝ่าย

     

    น่าเสียดายจังเลยอ่ะ

     

    นั่นน่ะสิ

     

    หนูทักข้อความลับไปหาคาอิจังในบอร์ดแต่เธอก็ไม่ตอบเลย สงสัยคงยุ่งมากจริง ๆ

     

    ใช่ ๆ คาอิจังน่ะขยันเรียนสุด ๆ ไหนจะเอาดีด้านติ่งโอป้าอีก เวลาส่วนตัวแทบไม่มีน้องพี่น่ะทุ่มเทมาก เพราะงั้นอย่าส่งข้อความไปอีกนะ จงอินกระซิบแล้วผละออกมากระดิกนิ้วชี้ไปมา

     

    แต่หนูอยากคุยกับพี่นี่คะ คาอิจังก็ด้วย

     

    พี่เข้าใจนะคะ เพราะพี่ก็อยากคุยกับหนูเหมือนกันค่ะ

     

    เหรอ?

     

    จ้ะ...หืม? จงอินขมวดคิ้วแล้วหันกลับไปข้างหลังทันทีที่รู้ว่าคนที่ขานตอบเมื่อครู่นั้นไม่ใช่น้องนางนาอึนผู้น่ารัก แต่มันคือ...

     

    เชี่ย!!! ฮุนจ๋า!!!”

     

    ว๊าย เซฮุนโอป้า!” <- นาอึน

     

    หืม? <- ไอดอลเงินล้านผู้เป็นยอดรักสุดสวาทขาดใจ

     

    ไม่สิ ไม่ใช่ฮุนจ๋า คือเมื่อกี้จะเรียกว่าโอเซฮุน อืม ใช่ นั่นแหละ จงอินยิ้มโง่ ๆ พร้อมกับหันไปอธิบายให้ทั้งสองคนที่ยืนขนาบข้างเขาเข้าใจ

     

    หนึ่งคือเด็กสาวผู้ไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องราวเบื้องหลังแต่กำลังยืนตะลึงในความหล่อของโอป้าในระยะเผาขน แต่ก่อนที่ขนน้องจะโดนเผาหน้าพี่คงจะไหม้นำร่องไปก่อนเพราะสายตาไอดอลเงินล้านที่กำลังมองมา สองคือพ่อยอดสุดสวาทขาดใจที่จ้องจะบั่นคอกูทุกวินาทีหลังจากได้ยินบทสนทนาก่อนหน้านี้ ถ้าก้มลงมองเงาตัวเองในพื้นอาจจะพบว่าส่วนหัวนั้นได้หายไปแล้ว GGWP*

     

    ( GGWP แปลว่า Good Game Well Play ถูกใช้บ่อยในเกมออนไลน์เช่น DotA เหล่าผู้เล่นจะพิมพ์แบบนี้ต่อเมื่อเกมสิ้นสุดลง เป็นการแสดงน้ำใจนักกีฬาว่าเกมนี้สนุกและเล่นดีมาก แต่อีกกรณีนึงคือการขอยอมแพ้กลางคัน แต่โดยรวมแล้วคำว่า GGWP หมายความว่า ซวยละมึง จบกัน ไปขี้!!! )

     

    จงอินหันไปทางคนรักที่กำลังยืนกอดอกทำหน้าหาเรื่องอยู่กราย ๆ อยากจะชมว่าวันนี้ฮุนจ๋าหล่อมากแต่พื้นที่ Area และสถานการณ์มันไม่เป็นใจ เขาพยายามส่งซิกเป็นเชิงบอกว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่อย่างที่คิด อย่าเข้าใจผิดแล้วให้รีบกลับเข้าไปในกองถ่ายซะก่อนที่ติ่งจะแห่มากันทั้งหมู่บ้านโคโนฮะ

     

    เซฮุนโอป้าช่วยเซ็นเคสมือถือให้หนูหน่อยได้ไหมคะ!!!” จากหน้ามือเป็นหลังตีน ไม่มีอีกแล้วเด็กสาวผู้เคยรบเร้าขอไลน์จากเขา ตอนนี้มีเพียงแค่ติ่งหูที่กำลังหน้าแดงจัดขณะยืนรอเซฮุนโอป้าเซ็นโทรศัพท์มือถือให้

     

    ว่าก็ว่าเถอะครับ ฮุนจ๋าที่รักนี่เก่งที่สุด ขนาดตอนมันตวัดลายเส้นลงบนเคสมือถือนาอึนแต่สายตายังเพ่งมองคาดโทษกูได้อยู่ อย่าครับที่รัก เก็บอาการไว้แล้วค่อยไปเคลียร์กันที่บ้าน ถ้าจัดหนักตรงนี้ Dispatch ได้เอาเรื่องมึงกับกูไปขายแดกแน่

     

    อ๋า~ ขอบคุณมากเลยนะคะ >_<”

     

    เซฮุน! จะเข้าฉากแล้วนะ!”

     

    รู้แล้ว!” เจ้าของชื่อขานตอบเมเนเจอร์ส่วนตัวทั้งที่ไม่หันหน้ากลับไป ตอนนี้พวกติ่งหูที่อออยู่ข้างนอกกำลังแห่กันมาทางนี้แต่ดีที่ว่าที่กองถ่ายเอารั้วไปกั้นไว้ได้ทัน

     

    นาอึนมองไอดอลในดวงใจที่ยังคงเพ่งมองไปยังพี่ชายผิวสีแทนตรงหน้าด้วยความสงสัย มินซอกเมเนเจอร์ส่วนตัวของเซฮุนรีบวิ่งมาหยุดอยู่ข้างหลังก่อนจะทำหน้าเหวอเมื่อพบว่าคนที่กำลังก่อความวุ่นวายให้กองถ่ายคือจงอิน ไอ้คนกรังที่เป็นแฟนของไอดอลหนุ่มในความดูแลของเขา จงอินขยับปากเป็นเชิงขอความช่วยเหลือแต่เมเนตัวเล็กยังเดินเข้ามาไม่ได้เท่าไหร่ก็ถูกเซฮุนยกมือห้าม

     

     “พี่สองคนรู้จักกันเหรอคะ?

     

    เอ่อ...

     

    มาอีกแล้วครับบรรยากาศกดดัน ถ้าตอบว่ารู้จักกันนี่คงมีสาวลึกลงไปกว่านี้แน่เพราะอย่างที่รู้ ๆ กันว่าคิมจงอินได้แถใส่น้องหนูนาอึนไปจนยางไหม้ว่าเป็นแค่พี่ชายของแกนนำติ่งที่เป็นแอดมินบ้านแฟนไซต์ชื่อดัง และที่หิ้วกล้องไปมาแบบนี้ก็เพราะมาถ่ายรูปแทนน้องสาวเท่านั้น แต่ถ้าตอบว่าไม่รู้จักไอ้ที่รักมันจะน้อยใจป่ะวะ แต่เซฮุนมันน่าจะเข้าใจแหละน่าคนเป็นดารายังไงก็ต้องรักษาพิกเจอร์อยู่ละ

     

     

    ตอนนี้อย่าว่าแต่ Dispatch จะโผล่มาถ่ายรูปเลยครับ กูเนี่ยจะ Disappears ก่อน

     

     

    ไม่ จงอินยิ้มยิงฟันพี่จะไปรู้จักดาราได้ไง

     

    อ๋า... <- นาอึน

     

    ให้โอกาสพูดใหม่อีกที <- เซฮุน

     

    ไม่รู้จักไง ไม่รู้จัก จงอินกัดฟันพูดพร้อมกับส่งสายตาคาดโทษไปหน่อย ๆ ว่ามึงจะมาซักไซ้ทำขื่อไร อยากความแตกนักเรอะว่ามีผลัว

     

    ...

     

    ...

     

    แล้วมายืนทำอะไรกันตรงนี้ ไม่เห็นเหรอว่ามันเป็นพื้นที่ในกองถ่าย? เซฮุนพูดเสียงเรียบพร้อมกับมองทั้งคู่ด้วยแววตาคาดโทษ นาอึนยืนห่อไหล่ก้มหน้าเล็กน้อยเมื่อถูกดุก่อนจะโค้งหัวขอโทษขอโพย

     

    หนูขอโทษค่ะ...

     

    แอบมาพลอดรักกันหรือไง?

     

    เฮ้ยมึงอย่าพาลดิวะ จงอินเลิกคิ้วมองคนรักอย่างหาเรื่องเมื่ออีกคนพยายามยัดเยียดความผิดให้เขาอยู่ได้ กูก็มาถ่ายรูปมึงเหมือนทุกครั้งไงสึด คราวนี้มึงเสือกมีปัญหาอะไรขึ้นมาแค่เห็นกูยืนอยู่ข้าง ๆ ผู้หญิงเนี่ย

     

    พี่จงอินอย่าหยาบคายกับพี่เซฮุนสิ อ้าว โทษข่ะพี่ลืมตัว

     

    รู้จักกันด้วย? เซฮุนชี้ไปยังเด็กสาวก่อนจะแค่นหัวเราะระหว่างรอคำตอบ ประหนึ่งสบตากับเมดูซ่า กูนี่กลายเป็นหินไปแล้วหลังได้ยินคำถาม

     

    ค่ะ เราสองคนรู้จักกัน หนูขอโทษจริง ๆ นะคะที่เข้ามาในพื้นที่ เพราะตอนแรกหนูตะโกนเรียกแล้วแต่พี่เขาไม่ได้ยินเลยตามมาน่ะค่ะ ไม่ต้องอธิบายยืดยาวขนาดนี้ก็ได้หม้ายยยยย

     

    ...นาอึนพอเถิด จงอินหันไปปรามเด็กสาวอย่างอ่อนใจ แต่เหมือนว่าเขาได้ราดน้ำมันลงกองไฟเมื่อสีหน้าเซฮุนตอนนี้เหมือนคนกำลังกักกั้นอารมณ์โทสะอย่างสุดขีดหลังจากได้ยินคนรักเรียกชื่อผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไปถ่ายละครต่อได้แล้ว เซฮุนเห็นว่าจงอินหันกำลังทำหน้าเหมือนว่าเอือมระอาเขาเต็มที และที่ทำให้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกว่าเดิมก็ตอนที่คนรักของเขาทำท่าเหมือนกำลังปกป้องเด็กผู้หญิงอีกคนอยู่

     

    เป็นใครมาสั่งเช้ดเขร้ คราวนี้รู้สึกเหมือนโดนตอกหน้ากลับด้วยไม้ทีเปื้อนเลือดของเด็กช่างกล จงอินยืนหน้าแห้งอีกรอบเมื่อเห็นว่าเซฮุนกำลังมองเขาหัวจรดเท้าอย่างกับว่าเป็นคนแปลกหน้า

     

    เป็นใครล่ะ เอาสิ มึงน่อนมากูน่อนกลับ ให้คนอื่นเขารู้ไปเลยดีไหมว่ากูเป็นอะไรกับมึง สึด -_-

     

    ผมไม่รู้จักคุณ พูดจบก็เบ้ปากใส่จงอิน แน่นอนว่าตอนนี้นาอึนไม่เห็นเพราะก้มหน้าอยู่ ไอดอลหนุ่มหันหลังเดินกลับไปโดยไม่สนใจเลยว่าเมเนเจอร์ส่วนตัวจะพูดอะไรบ้าง ทิ้งไว้แค่เพียงแอดมินสาวในร่างชายกรังยืนเงิบอยู่ตรงนั้นข้าง ๆ เด็กสาวผู้ซึ่งเป็นแฟนคลับ

     

    ทั้งคู่ถูกคนในกองถ่ายไล่ออกไปยืนกับพวกเหล่าแฟนคลับด้านนอก ตอนนี้ทั้งจงอินและนาอึนถูกติ่งรอบข้างมองด้วยสายตารังเกียจเพราะเพิ่งเข้าไปสร้างความวุ่นวายในกองถ่ายมาสด ๆ ร้อน ๆ บางคนยกโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูป และเขาค่อนข้างที่จะมั่นใจว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ภาพนั้นจะถูกอัพลงทวิตเตอร์พร้อมแคปชั่นด่า

     

    จงอินตบหน้าผากตัวเอง กลับบ้านไปคงเคลียร์กันยาวแน่ไม่ต้องสืบ ปกติเซฮุนมันก็ชอบหาเรื่องว่าเขาไม่สนใจอยู่แล้วด้วย คราวนี้คงมีเรื่องผู้หญิงมาเอี่ยว ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงซุบซิบถึงไอดอลหนุ่มที่กำลังเข้าฉากดราม่าซึ่งถ่ายมาหลายเทคแล้วแต่ก็ไม่ผ่านสักที แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังอึ้งเมื่อเซฮุนกำลังร้องไห้ฟูมฟายเหมือนญาติฝ่ายไหนเสียชีวิตจนผู้กำกับซาบซึ้งแล้วสั่งคัทก่อนจะปรบมือรัว

     

    โอ้ย เห็นเซฮุนโอป้าร้องไห้แล้วกูเจ็บปวดอ่ะมึง

     

    ถ่ายรูปยัง บ้านเราต้องลงก่อนใครนะเข้าใจไหม?!”

     

    ขนลุกเลยว่ะ ร้องโคตรสมจริงอย่างกับถูกเมียทิ้งจริง ๆ

     

     

    โอ๋นะที่รัก...กลับบ้านไปจะยอมนอนนิ่ง ๆ เป็นกระสอบทรายให้ซ้อมพร้อมงดพูดถึงน้องฮยอนอาสามวันเลยเอ้า! TT_TT

     

     

     

     

    เช้าวันเสาร์...ใช่แล้วล่ะ วันนี้เป็นวันทำความสะอาดบ้านอีกแล้ว

     

    แบคฮยอนหอบตะกร้าผ้าออกไปวางไว้ข้างบ้านก่อนจะกลับมาหยุดอยู่หน้าห้องของหลานชายที่หายหัวไปเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้ว ร่างเล็กเม้มปากแล้วหมุนลูกบิดเข้าไป ข้างในนั้นก็ไม่ต่างไปจากที่เคยเห็นคือซากความสกปรกที่บ่งบอกได้ถึงความเป็นมนุษย์หลานเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้น

     

    กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องแล้วก้มลงเก็บลูกบาสที่วางอยู่ข้างประตูขึ้นมาก่อนจะก้มลงเก็บเสื้อยืดที่กองอยู่บนพื้น สองขาหยุดยืนอยู่กลางพร้อมกับมองไปยังเตียงขนาดสามฟุตครึ่งที่คิดว่ามันเล็กเกินไปแล้วสำหรับเด็กตัวสูงคนนั้น

     

    รอยยับของที่นอนยังคงอยู่แม้ว่าเจ้าของเตียงจะไปนอนที่อื่นแล้วเกือบหนึ่งอาทิตย์ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาคงบ่นเป็นหมีกินผึ้งแล้วสาปแช่งให้มันเจอแมลงสาปเข้าสักวันเพราะความโสมมที่สั่งสมไว้โดยไม่รู้จักเก็บ

     

    แต่นั่นมันคืออดีต ตอนนี้สิ่งที่บยอนแบคฮยอนกำลังทำก็คือใช้แขนข้างหนึ่งเหน็บลูกบาสไว้กับช่วงเอวแล้วก้มลงเก็บของขึ้นไปวางไว้ให้เป็นที่ก่อนจะหันไปทางแป้นบาสที่ติดอยู่กับผนัง คนตัวเล็กยืนตั้งท่าอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับเพ่งมองไปยังเป้าหมายแล้วโยนลูกบาสแต่ก็พลาดโดนแป้นจนกระเด็นไปทางชั้นวางหนังสือที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ

     

     

    กึง!!!

     

     

    ร่างเล็กยืนห่อไหล่หลังจากได้ยินเสียงข้าวของตกลงพื้นเพราะความเฟอะฟะของเขา แบคฮยอนถอนหายใจทางริมฝีปากแล้วเดินไปเก็บหนังสือและกรอบรูปที่ตกลงมา คนตัวเล็กยืนจ้องรูปสมัยเด็กอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะใช้มือปัดฝุ่นออกเบา ๆ แล้วภาพก็เริ่มชัดขึ้น

     

    ...

     

     

    อีกแล้ว...ไอ้เด็กบ้านั่นเข้ามาในหัวเขาอีกแล้ว

     

     

    ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาไม่รู้จะทำตัวยังไงหลังจากเกิดเหตุการณ์คืนนั้น ทำไมชานยอลถึงทำให้มันเป็นเรื่องยากทั้งที่ในอนาคตเด็กนั่นก็คงจะลืมความรู้สึกนี้ไปตามประสาวัยรุ่นที่คิดว่าที่เป็นอยู่มันคือความรัก

     

     

    ใช่...เขาดูออกว่าชานยอลรู้สึกยังไง

     

     

    แต่เพราะรู้นั่นแหละถึงได้เลือกให้มันออกมาในรูปแบบนี้ แบคฮยอนเคยเป็นวัยรุ่นมาก่อนเขารู้ว่าไอ้ความรู้สึกชั่ววูบที่คิดว่าคือความชอบมันเป็นยังไง ซึ่งบางทีคนเราอาจจะแยกแยะไม่ออกว่าที่เป็นอยู่มันคือชอบจริง ๆ หรือแค่รู้สึกดีที่ได้อยู่กับคน ๆ นี้

     

    เพราะฉะนั้นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมคงดีที่สุด มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับบยอนแบคฮยอนหากว่าวันหนึ่งคนที่ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปแล้วถลำลึกจนสูญเสียความเป็นตัวเองมันคือเขาในขณะที่ตอนนั้นชานยอลอาจจะรู้ตัวแล้วว่ามันไม่ใช่

     

    ไม่ต้องคิดเลยว่าใครจะเป็นคนเจ็บถ้าใครคนหนึ่งจบความรู้สึกได้ก่อนหลังจากปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิด เพราะสิ่งสำคัญที่สุดมันคือสถานะน้ากับหลานที่ค้ำคอมาตั้งแต่แรก ถ้ามันจบลงแน่นอนว่าทั้งเขาและชานยอลคงมองหน้ากันไม่ติดและมันคงเป็นปัญหาถ้าทั้งคู่ยังต้องอยู่บ้านหลังเดียวกัน

     

    อีกทั้งในใจเขาก็มีอู๋อี้ฟานมาตั้งแต่แรกเริ่ม ถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จะค่อยเป็นค่อยไปก็เถอะ แต่มันก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือน้อยลงอย่างที่ชานยอลเข้าใจ อาจเป็นเพราะว่าผู้ชายคนนั้นอายุมากกว่า การแสดงออกทางความรู้สึกเลยไม่ชัดเท่าหลานชายของเขา ซึ่งบยอนแบคฮยอนก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะไม่รู้สึกหวั่นไหวกับสิ่งที่ชัดเจนกว่า...ถึงแม้ว่าจะเคยบอกตัวเองว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเขาโสดมานานมากเกินไป

     

     

    ถอนหายใจ...ถอนหายใจอีกแล้ว...

     

     

     

    แบคฮยอนทิ้งตัวลงนอนบนเตียงสามฟุตครึ่ง มันไม่ได้เล็กไปสำหรับผู้ชายเตี้ย ๆ อย่างเขา คนตัวเล็กมองเพดานห้องสีขาวแล้วจมอยู่กับความคิดในหัว ไม่เกินสองนาทีก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วคิดว่าบางทีเขาควรจะซื้อเตียงใหม่ให้หลานชายที่ตัวโตขึ้นทุกวัน

     

    เตียงหกฟุตประมาณเท่านี้ ร่างเล็กกางแขนออกกว้างพลางกลอกตามองมือตัวเองแล้วลุกขึ้นยืน ย้ายตู้เสื้อผ้าไปทางด้านขวา โต๊ะคอมพ์ก็ขยับไปทางซ้ายอีกนิดนึง...หากล่องมาใส่ของที่ไม่ใช้แล้ว ตรงนี้ก็จะมีพื้นที่ว่าง พูดอยู่คนเดียวพร้อมกับวางแผนว่าจะช่วยจัดห้องใหม่เป็นการต้อนรับชีวิตมหาลัยให้หลานยังไงแล้วพยักหน้ากับตัวเอง

     

    แบคฮยอนก้มลงเก็บเสื้อผ้าหลานชายที่ทิ้งเรี่ยราดอยู่บนพื้นใส่ตะกร้าผ้าและไม่ลืมที่จะเข้าไปจัดที่นอนพร้อมพับผ้าห่มให้ สองมือตบที่นอนปุ ๆ แล้วเอื้อมไปเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท

     

    เหอะหยิบกรอบรูปไอ้เด็กอ้วนขึ้นมาดูใกล้ ๆ แล้วแค่นหัวเราะ เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ คิดอยากไปไหนแค่ติดโพสต์อิทไว้หน้าห้องก็จบแล้วดิ ทีฉันล่ะ จะไปไหนยังต้องรายงานแกทุกอย่าง พ่อแม่ก็ไม่ใช่ แฟนก็ไม่ใช่

     

     

    ยิ้มแฉ่ง...

     

     

    ไอ้เด็กกะโปกเอ้ย ใครสั่งให้ยิ้ม คนตัวเล็กกัดริมฝีปากแล้วเขย่ากรอบรูปรัว ๆ แต่เด็กอ้วนในรูปก็ยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น คิดจะโทรบอกกันบ้างไหมว่าจะกลับวันไหน เงินล่ะไม่ต้องใช้หรือไง ไอ้เด็กนิสัยเสีย

     

    แบคฮยอนยังคงใส่อารมณ์กับสิ่งไม่มีชีวิต ทั้งที่รู้ว่ารูปในกรอปมันพูดไม่ได้แต่คนตัวเล็กก็ยังไม่หยุด อย่างน้อยมันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นหลังจากนอนไม่หลับมาหลายคืนเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องเด็กคนนั้น แบคฮยอนยังจำสีหน้าชานยอลตอนเปิดประตูบ้านออกมาได้ มันเป็นจังหวะเดียวกับที่เขากำลังจะเข้าบ้านพอดี

     

    แต่เพราะคืนก่อนนอนไม่หลับหน้าก็เลยโทรม ขอบตานี่ดำปื้นอย่างกับโคฟเวอร์เป็นไอ้เด็กเขียวเพื่อนสนิทมัน ก็เลยกลัวว่าคนตรงหน้าจะรู้ และทางออกที่ดีที่สุดคือการก้มหน้าแล้วถอยให้หลานออกไปโดยไม่ถามไถ่อะไรสักคำ

     

    ร่างเล็กทำได้เพียงแค่มองตามแผ่นหลังเด็กตัวสูงที่เดินออกไปแล้ว แบคฮยอนไม่ชินกับหลานชายในมุมแบบนั้นเลยสักนิดเดียว ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากให้ปาร์คชานยอลคนเดิมกลับมา เด็กที่ชอบทำตัวเอาแต่ใจและไร้เหตุผลเวลาอยู่กับเขา

     

    พอจะเข้านอนก็นอนไม่หลับ ปกติห้าทุ่มเที่ยงคืนหัวถึงหมอนคนตัวเล็กก็สลบแล้ว แต่เพราะอะไรที่ทำให้เขาต้องอยู่ยาวถึงตีสาม? ก็เพราะว่าห้องฝั่งตรงข้ามนั้นไม่มีใครอยู่ไงล่ะเขาถึงได้นอนจ้องรายชื่อหลานชายในกรุ๊ป Favorites ไลน์โดยที่ไม่ทำอะไรสักอย่าง

     

    รูปโปรไฟล์ของชานยอลเป็นสีขาวพร้อมกับแท็กข้างหลังว่า Empty ใช้เวลาทำใจอยู่นานสองนานถึงได้กดเข้าแชท บยอนแบคฮยอนเพิ่งรู้วันนี้เองว่าการทักหลานมันเป็นเรื่องยากจนต้องมาคิดทบทวนว่าจะต้องใช้ประโยคไหนถึงจะธรรมดาที่สุด

     

    ทำ...ไร? จิ้มแป้นมือถือพร้อมกับขยับปากพูดไปด้วย แต่สุดท้ายก็กดลบเพราะคิดว่ามันห้วนเกินไป เดี๋ยวไอ้เด็กนั่นจะหาว่าเขาหาเรื่องอีก

     

    นอนหรือยัง?ถ้าถามแบบนี้มันต้องคิดว่าเขาเป็นห่วงแน่ ถึงมันจะเป็นความจริงก็เถอะ แต่เขาก็ควรจะหยั่งเชิงวางตัวไว้บ้าง

     

    จะกลับบ้านตอนไหน รู้ไหมว่าฉันนอนไม่หลับเพราะแก รีบกลับมาได้แล้วนะอย่าให้ต้องโมโห กลับมา!’ จิ้มเสร็จก็ค้างมือกลางอากาศตรงปุ่ม Send มือเรียวกำลังสั่นประหนึ่งว่าการกดส่งข้อความในครั้งนี้มีผลต่อชีวิตเขาอยู่มากโข

     

    ไม่! ลบ ๆ ๆ

     

    ถ้าส่งไปแบบนั้นก็จะบ้าเกินไปแล้ว ไม่ใช่เขาเองหรอกเหรอที่มึนตึงจนชานยอลต้องหนีไปนอนที่อื่น ในเมื่อเป็นคนเลือกเองว่าควรจะทำตัวให้เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บยอนแบคฮยอนก็ไม่ควรแสดงออกให้หลานชายได้เห็นว่าเขารู้สึกยังไง

     

     

    อยู่กับความกลัวต่อไปมันดีกว่าอยู่กับความเจ็บปวดในอนาคตจำไว้แบคฮยอน

     

     

    คนตัวเล็กหลุดออกจากความคิดแล้วคว้าเอาตะกร้าผ้าขึ้นมากอดแนบอก วันนี้แหละบ้านจะต้องสะอาดเอี่ยมเพราะเขาจะเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับมันทั้งวันจนไม่มีเวลาไปคิดเรื่องใครอีกแม้กระทั่งเรื่องของผู้ชายอีกคนที่เพิ่งถามเขาเมื่อวานนี้ว่า

     

     

    แบคฮยอนยังชอบพี่อยู่หรือเปล่าครับ?

     

     

    วูบหนึ่งเขารู้สึกเหมือนว่าพี่อี้ฟานได้เข้ามาอ่านใจเขาจนหมดเปลือก และคำตอบมันก็ไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่ แต่บยอนแบคฮยอนก็ไม่ได้ตอบกลับไป

     

    ผงซักฟอกถูกเทลงในกะละมัง มันถูกตีจนฟูฟ่องล้นออกมาก่อนที่เสื้อผ้าในตะกร้าจะถูกเทลงไป แบคฮยอนก้มลงพับขากางเกงขึ้นจนถึงหัวเข่า บิดตัวซ้ายขวาแล้วเลือกเพลงในมือถือ การใส่หูฟังตอนซักผ้ามันน่าจะช่วยดึงความคิดไปได้บ้าง ยิ่งถ้าเปิดเพลงจังหวะเร็วยิ่งช่วยได้เยอะแต่ประเด็นคือเพลงเสือกรันไปหาเพลงเศร้าหมด แต้งกิ้วทรีไทม์

     

    คนตัวเล็กเข้าไปยืนในกะละมัง ตั้งหลักอยู่ในทีก่อนจะเริ่มเหยียบผ้าอย่างเอื่อยเฉื่อย ถึงจะไม่ควรฟังเพลงเศร้าก็เถอะ แต่ทำไมเนื้อเพลงมันโดนจังเลยวะ ไม่ว่าจะเป็นเพลงไหนก็ดูเหมือนว่าจะเข้ากับเขาไปหมด ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนกับคนอกหักไม่มีผิด ทั้งที่เป็นคนเลือกเองแท้ ๆ ว่าจะให้ออกมาเป็นยังไง

     

    ร่างเล็กขยับปากฮัมเพลงไปตามจังหวะท่วงทำนอง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่บยอนแบคฮยอนพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหลีกหนีความคิดในหัว แต่มันก็ไม่เป็นผลสำเร็จ แทนที่จะช่วยทำให้ลืมชานยอลไปได้แต่เนื้อเพลงยิ่งทำให้นึกถึงกว่าเดิมอีก

     

     

     

    ไม่ละ...กูไม่ทนแล้วโว้ย!!! พอกันที!!!

     

     

     

    ล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วกดเปลี่ยนไปเพลงโจ๊ะ ๆ แม่งเลยครับเอาให้หูแตกกันไปข้างเลยยิ่งดี คนตัวเล็กโยกหัวก่อนจะตามด้วยมือไม้ที่เต้นตามท่าประกอบเพลง ๆ นั้น โลกส่วนตัวของเช้าวันเสาร์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยมีเพียงเขาคนเดียวที่อยู่ในนั้น แน่นอนว่าบยอนแบคฮยอนจะไม่ยอมปล่อยให้ใครมาขัดจังหวะเขาในตอนนี้แน่

     

     

    ยกเว้นแต่...

     

     

    ...

     

    ...

     

     

    วืดดดดดดดดดดดดดดด...

     

     

    เสียงเพลงจบพอดีกับจังหวะที่เงยหน้าขึ้นเห็นผู้มาใหม่ที่ยืนอยู่ในระยะสองเมตร นัยน์ตาคู่นั้นกำลังมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับจะถามว่า

     

     

    เป็นบ้าอะไรถึงได้เต้นเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวกในกะละมังแบบนั้น?

     

     

    แบคฮยอนยังคงไม่ละสายตาออกห่างเด็กตัวสูงที่กำลังมองมาทางนี้ในขณะที่เขายังเรียกสติตัวเองกลับมาไม่ได้ คนตัวเล็กไม่กล้าถอดหูฟังออก ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากถามว่า จำทางกลับบ้านได้แล้วไง? อย่างที่ชอบประชดประชันเหมือนเมื่อก่อน

     

    ทั้งคู่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเป็นนาที แบคฮยอนไม่ได้เหยียบผ้าในกะละมังต่อและปล่อยให้เพลงเล่นไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้สนใจเนื้อร้องของมันอย่างที่เคย

     

    นานเกินไปแล้วกับการที่ทั้งคู่เอาแต่สบตากัน แบคฮยอนพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วขมวดคิ้วมองเด็กตัวสูงอย่างหาเรื่อง อย่างน้อยคนตัวเล็กก็ควรทำตัวให้เป็นเหมือนเดิมเพื่อที่ตัวเขาเองและชานยอลจะได้ผ่อนคลายกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่บ้าง

     

    ไง?

     

    ...

     

    จำทางกลับบ้านได้แล้วดิ?

     

    ...

     

    เถลไถลนะเราอ่ะ เดี๋ยวฉันโทรฟ้องแม่แกแน่ แบคฮยอนบ่นอุบอิบแล้วก้มลงเหยียบผ้าไปด้วยระหว่างบ่นคนเป็นหลาน ซึ่งมันเป็นวิธีโง่ ๆ ของคนที่ไม่กล้าสบตากับอีกฝ่ายเท่านั้น ห้องก็สกปรก บอกกี่ทีแล้วว่าให้จัดที่นอนทุกครั้งหลังตื่นนอน

     

    ...

     

    แล้วก็เสื้อ...

     

    แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นก่อนจะค้างอยู่ท่านั้นเมื่ออีกฝ่ายเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา เด็กตัวสูงมองมาด้วยแววตาจริงจังและสีหน้ายังคงไม่ต่างไปจากทีแรก ซึ่งแบคฮยอนรู้ว่าชานยอลคงไม่ได้มีอารมณ์มายืนฟังน้าชายบ่นนักในขณะที่เขาเองก็เลือกปิดกั้นโดยการใส่หูฟัง

     

    ร่างเล็กยืนตัวเกร็งทันทีที่คนตรงหน้ารวบผมม้าของเขาขึ้นแล้วใช้กิ๊ฟหนีบผ้าติดมันเอาไว้ บยอนแบคฮยอนถึงสำนึกได้ว่าเขาพลาดแล้วที่ไม่ยอมแวะร้านตัดผมเมื่อวานจนทำให้เหตุการณ์ใจเต้นแรงในตอนนี้ได้เกิดขึ้น

     

    ชานยอลยังคงไม่ละสายตาไปไหน เด็กหนุ่มจัดผมหน้าม้าที่ถูกหนีบเป็นต้นมะพร้าวให้กับน้าชายตัวเล็กโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ซึ่งมันทำให้แบคฮยอนรู้สึกอึดอัดจนอยากสำลักมันออกมาให้หมด

     

    กินข้าวมาหรือยัง แบคฮยอนถามเสียงแผ่ว สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้ความคิดของตัวเองที่คอยสั่งการให้เมินเฉยเด็กคนนี้ทั้งที่ในใจก็เป็นห่วงจนอยากรัวคำถามที่อยากรู้ออกมา

     

    แต่ชานยอล็ไม่ตอบ ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นสบตากับหลานชายอีกครั้งเมื่อถูกถอดหูฟังออก ชานยอลกดปิดแอพเพลงแล้วม้วนสายหูฟังให้เสร็จสรรพพร้อมกับเก็บมันใส่ในกระเป๋ากางเกงตัวเอง

     

    ช่วงนี้นอนดึกเหรอ

     

    เปล่า นอนสองทุ่มทุกวันเลย แบคฮยอนตอบแล้วก้มหน้าก้มตาเหยียบผ้าในกะละมังต่อไป ไอ้เด็กนี่มันรู้ได้ยังไงว่าเขานอนดึก -_-

     

    ผมก็ทิ่มตา อยากเป็นพวกอีโมหรือไงทำไมไม่ไปตัด

     

    เออ ก็เพิ่งว่างวันเนี้ย แบคฮยอนทำท่าเหมือนรำคาญคำถามของอีกคน มาถึงก็บ่น ๆ อยู่นั่น หน้าที่นั้นมันเป็นของเขาไม่ใช่หรือไง

     

    แล้วทำไมไม่ใส่ขาสั้นเวลาซักผ้า ก็รู้ว่าพับขากางเกงขึ้นยังไงเดี๋ยวมันก็หลุดลงมาอยู่ดี

     

    สรุปใครเป็นน้าใครเป็นหลานกันแน่วะ คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นแล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดประโยคต้องห้ามออกไป นอกจากจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นแล้วยังเป็นการตอกย้ำเรื่องนี้อีกต่างหาก

     

    เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบกลับมา และมันเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดที่เขาเป็นคนจูงมือหลานกลับเข้าสู่บรรยากาศอึดอัดอีกครั้งทั้งที่ควรจะทำให้มันดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่แท้ ๆ หลานชายตัวโตย่อตัวนั่งลงแล้วช่วยพับขากางเกงให้น้าชาย แบคฮยอนเบือนหน้าหลบไปอีกทางแล้วสบถด่าตัวเองเท่าที่คนหยาบคายคนหนึ่งจะด่าใครได้

     

    เพียงแค่ครู่เดียวชานยอลก็ลุกขึ้นเต็มความสูง เขากำลังรอดูอยู่ว่าแบคฮยอนจะพูดอะไรออกมาอีก เด็กหนุ่มสองจิตสองใจว่าควรจะเอายังไงกับตัวเองในตอนนี้ดี มันทั้งลุ้นและน้อยใจไปพร้อม ๆ กันว่าแบคฮยอนจะรู้สึกยังไงบ้างที่เห็นเขายืนอยู่ตรงนี้

     

    เขาเห็นว่าแบคฮยอนกำขากางเกงตัวเองเอาไว้ มันอาจจะเป็นวิธีผ่อนคลายความอึดอัดซึ่งเขาเองก็มีเหมือนกัน นั่นคือการเลื่อนมือไปจับแขนคนตรงหน้าเอาไว้แทนที่จะเป็นมือ

     

    คนตัวเล็กหันกลับมามองหน้าหลานชาย ในหัวเขามันว้าวุ่นไปหมดจนไม่สามารถเรียบเรียงคำพูดออกมาได้ มันจะเป็นอะไรไหมถ้าเกิดว่าเขาพูดในสิ่งที่อยากพูด ทำในสิ่งที่อยากทำ มันจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้หรือเปล่า?

     

    แก...

     

    ...

     

    ไม่อยู่บ้านหลายวัน...สบายใจขึ้นบ้างไหม น้ำเสียงของแบคฮยอนไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนตอนตวาดเขา ชานยอลมองอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้าเป็นคำตอบ

     

    ผมคิดถึงน้าจะแย่อยู่แล้ว

     

    ...

     

    ผมจะไม่ถามกลับว่าน้าคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า

     

    ...

     

    จะด่าว่าผมเกเร เป็นเด็กนิสัยไม่ดีที่ชอบทำให้ปวดหัวยังไงก็ได้ผมจะนั่งฟัง ชานยอลเว้นจังหวะไว้ชั่วอึดใจเพื่อรวบรวมความกล้า แต่ตอนนี้ผมขอกอดน้าก่อนได้ไหม?

     

     

    ตึก...ตึก...

     

     

    เสียงหัวใจของเขามันจะเต้นแรงเกินไปแล้วหรือเปล่า มือของชานยอลเย็นเฉียบทั้งที่บรรยากาศรอบข้างก็อุณหภูมิคงที่ ไม่ร้อน ไม่หนาวจนทำให้มือเย็นได้ขนาดนี้ แบคฮยอนมองอีกคนอย่างประหม่า เขาจะต้องตอบยังไงกับประโยคขอร้องของคนเป็นหลานที่ปกติมักจะขออนุญาตเรื่องอื่นเสียมากกว่า

     

    เฮ้ย...กอดบ้าไรกัน ตลก

     

    แบคฮยอนหัวเราะแล้วทำมือปัด ๆ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อร่างของเขาถูกรั้งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเด็กตัวสูง นัยน์ตาเรียวกะพริบปริบ ๆ สิ่งที่เขามองเห็นในตอนนี้คือท้องฟ้าสดใสที่มีกลุ่มก้อนเมฆลอยเกลื่อนอยู่เต็มไปหมดกับผมสีเข้มของหลานชายที่อยู่ข้างแก้ม

     

    สองมือค้างอยู่กลางอากาศ แบคฮยอนไม่ได้กอดตอบหรือผลักไสชานยอลออกไป ร่างเล็กหลับตาปี๋ทันทีที่มือแกร่งกดแผ่นหลังเขาเพื่อกระชับกอดให้แนบแน่นยิ่งขึ้น นี่เขากำลังจะหายเข้าไปในอ้อมกอดของเด็กตัวกะเปี๊ยกที่เคยเลี้ยงดูเมื่อสิบปีที่แล้วจริง ๆ น่ะเหรอ?

     

    ชาน...

     

    บยอนแบคฮยอนเหมือนคนโง่ที่กำลังเรียกชื่ออีกคนโดยไร้เหตุผล แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขารู้สึกดีกับสัมผัสที่ได้รับ มันไม่เหมือนกับตอนที่เคยนอนกอดเด็กอ้วนคนนั้นเมื่อหลายปีที่แล้ว ความรู้สึกมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนตัวเล็กปล่อยให้เวลาผ่านไปกี่วินาทีเขาก็จำไม่ได้ แต่สุดท้าย...สองมือที่เคยคว้างอยู่กลางอากาศก็ค่อย ๆ โอบกอดตอบเด็กตัวสูง

     

    เด็กบ้าเอ้ย...

     

    ...

     

    อย่าดื้อกับฉันให้มันมากนักสิ...

     

    งั้นก็ห้ามเมินผมอีก

     

    ...

     

    ผมอยากตื่นมาแล้วโดนดุทุกวัน ผมจะไม่บ่นอีกแล้วถ้าน้าจะเข้าไปจัดการรังหนูของผม

     
     

    ชานยอล...

     

     

    ผมอยากให้น้าแคร์ผมเหมือนที่เคยเป็น อย่าทิ้งให้ผมทำตามใจตัวเองทั้งที่ผมก็ไม่ได้อยากทำอย่างนั้น

     

    ...

     

    ได้ไหมแบคฮยอน...

     

    เด็กหนุ่มหลับตาลงแล้วกอดคนตัวเล็กแน่นยิ่งขึ้น เขาได้แสดงความอ่อนแอให้น้าชายได้รับรู้แล้วหลังจากพยายามลบมันออกไปแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ปาร์คชานยอลได้รู้แล้วว่าการหลบหน้ามันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย กลับกันมันยิ่งทำให้เขาคิดถึงแบคฮยอนมากกว่าที่เคยเสียอีก

     

     

     

    ถ้าทำได้...ผมก็จะยอมเป็นเด็กนิสัยเสียของน้าตลอดไป

     

     

     

     

    TBC

     

     

     

    เชื่องเลยอ่ะ เชื่องเลยนะแก สรุปคือการทำใจเป็นศูนย์สินะ สุดท้ายก็กลับมาตายรังเพราะทำใจไม่ได้ ถึงกับยอมทำตัวเป็นหลานที่ดีเพราะไม่อยากถูกน้าเมิน

     

    อ้าวกรรม คอมเมนท์ฟิคตัวเองอีกแล้ว GGWP

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×