ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] Wolf Prince หมาป่าจอมขย้ำ ง่ำ (ChanBaek KaiDo HunHan)

    ลำดับตอนที่ #1 : Believe in Love เชื่อมั้ยว่ารัก 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.7K
      0
      28 ม.ค. 56

    Believe in Love เชื่อมั้ยว่ารัก  1

     

    พวกมีความเชื่อเกี่ยวกับความรักมากแค่ไหน

    คุณเชื่อมั้ยว่ารักแรกพบมีอยู่จริง

    แล้วเชื่อมั้ยว่ามันคือรักแท้

     

    แสงแฟลชวูบวาบ ทำผมแสบตาไม่น้อย แต่ก็ต้องนั่งเก๊กหน้าหล่ออยู่ดี ก็นี่มันงานของผมนี่ครับ

    “คริส ยิ้มหน่อย” ผมยิ้มตามช่างภาพบอก สายตาคมจิกกล้องไม่ละ งานถนัดของผมอยู่แล้ว

    .

    .

    “อ่ะ โอเค วันนี้พอแค่นี้นะ ขอบคุณที่ตั้งใจทำงาน”

    “ขอบคุณเช่นกันครับ” ผมโค้งรับให้กลับทีมงานทุกคนตามมารยาท ก่อนปลีกตัวกลับไปยังห้องพัก ผมทิ้งกายลงนั่งอย่างเหนื่อยอ่อน วันนี้ผมโหมงานหนักจริงๆ แทบไม่มีเวลาพักผ่อนเลย

    เปลือกตาผมปิดลง ภาพของใครบางคนปรากฏขึ้นอีกครั้ง ภาพที่ผมไม่อาจลืมได้ ตั้งแต่วันนั้นที่เราได้พบกัน แม้ว่าเราต่างก็ยังเด็ก แต่ทำไมผมถึงไม่สามารถลืมเธอได้สักที รอยยิ้มที่กี่ครั้งที่ผมนึกถึงก็ทำให้ความเหนื่อยล้าทั้งหมดหายเป็นปลิดทิ้ง อยากเจอเธออีกจัง ไม่ว่ายังไงผมก็จะหาเธอให้พบ นางฟ้าของผม

    .

    .

    .

    “ชาลยอลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล!!!” เสียงโวยวายดังลั่น ทำให้ผมที่ฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ สะดุ้งตื่นอย่างหงุดหงิด

    “อะไรมึงเนี่ย โวยวายอยู่ได้ คนจะหลับจะนอน” ผมลุกมาโวยวายสักพัก ก่อนจะฟุบหลับต่อ แต่ก็ถูกไอเพื่อนตัวดีขัดขวางซะก่อน

    “เดี๋ยวสิมึง จะนอนอะไรนักหนา กูมีอะไรให้มึงดูด้วยล่ะ” ใบหน้ายิ้มแป้นแล้นของมัน ทำผมตรัสรู้ได้เองเลยว่า ไม่ใช่เรื่องที่มีสาระแน่นอน

    คิดได้ไม่ทันไร นิตยสารเล่มหนาก็ถูกวางไว้ตรงหน้าผม ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผมทอง ใบหน้าคมหล่อเหลาอยู่เต็มหน้านิตยสาร ผมมองดูสักพัก ก่อนหันไปมองหน้าเพื่อนตัวดี

    “พี่คริสของกู เป็นไง หล่อใช่ป๊ะ”

    “อืม ก็ดี”

    “แค่นี้อ่ะนะ มึงช่วยตื่นเต้นเป็นเพื่อนกูหน่อยได้ป่าว”

    “เออ กูตื่นเต้นๆๆๆๆๆ พอใจยัง นอนล่ะ กู๊ดไนท” ผมฟุบลงกลับโต๊ะตามเดิม

    ป้าบ!! เสียงฝ่ามือมันปะทะกับหัวผมเข้าเต็มแรง

    “โอ้ย!! ไอเชี่ยแบค มึงตบหัวกูทำไม”

    “หมั่นไส้ ชอบกวนบาทากูดีนัก นี่กูจะบอกอะไรให้ พี่คริสของกูอ่ะนะ โคตรเพอเฟค หาผู้ชายดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว กูบอกเลย กูจะเล่าให้ฟัง พี่คริสอ่ะนะเป็นลูกครึ่งจีน พ่อรวย พูดได้หลายภาษา กีฬาก็เก่งดีกรีหัวหน้าทีมบาส แถมยังหล่อบ้านพังอีก ถ้ามึงหาดีกว่านี้ได้ เหยียบหน้ากูได้เลย” มันบรรยายมาซะยาวเหยียด ไม่ถามผมซักคำว่าอยากรู้มั้ย ไอชีวประวัติพี่คริสอะไรนั้น

    “มาเป็นชุดเลยนะมึง”

    “วันนี้มึงต้องไปกับกู”

    “ไปไหน?”

    “ไปตามพี่คริส พี่เขามาแถวนี้ มึงต้องเป็นแฟนคลับพี่เขาเป็นเพื่อนกู กูบังคับ ไม่งั้นกูจะเอาคลิปตอนมึงนอนกรนลงยูทูบ” แล้วผมจะขัดได้หรอ ดูมันแบคเมผมดิ ร้ายจริงๆ

    .

    .

    จนแล้วจนรอดผมก็มายังสถานที่ถ่ายแบบของพี่คริส นายแบบสุดหล่อของไอแบคจนได้ สาวๆหนุ่มๆมากมายต่างมารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมาย  และผมกับไอแบคก็เป็นสองคนในนั้น

    “ไอแบคคนเยอะว่ะ จะได้เห็นอะไรเนี่ย” ไอผมก็ไม่มีปัญหาเท่าไรหรอกครับ แต่กลับไอหมาเตี้ยแบคเนี่ย ผมว่าแค่ไรผมพี่คริสมันมันก็คงไม่ได้เห็นแน่นอน

    “ฮึ้ยยย!! ทำไมกูต้องเตี้ยด้วยวะเนี่ย” มันบ่นจนผมระเบิดหัวเราะออกมาลั่น และก็โดนขาหน้ามันตบหัวไปอีกนึงดอก ก่อนจะจูงแขนผมออกมาจากฝูงชน

    “จะไปไหน ไม่ดูแล้วรึไง”

    “ตามกูมา” มันพาผมเดินลัดเลาะไปตามทางเดินแคบๆ จนไปถึงด้านหลังของร้านอาหารที่พี่คริสมาเปิดงาน และลอบเข้าไปในร้านได้สำเร็จจากทางด้านหลัง

    “ไอแบคมึงรู้จักทางแบบนี้ได้ไงวะ” มันเพียงยักคิ้วให้ผม มันสุดยอดอ่ะ ผมชื่นชมมัน เอาโล่ไปเลยกับความพยายาม

    พอเข้ามาได้แล้ว แล้วจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ ขืนเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปหาพี่คริสโต้งๆ มีหวังได้ถูกเตะออกนอกร้านแน่

    “เอาไง ต่อล่ะไอแบค”

    “มานี่” มันพาผมเดินย่องๆ เข้าไปหลบในห้องน้ำของร้าน และมันก็บอกให้รอกันอยู่ในนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่ายังไงพี่คริสก็ต้องปวดฉี่เข้าห้องน้ำบ้าง - -  เอิ่มมม พูดไม่ออกบอกไม่ถูกกับความคิดมัน ท่าทางเราต้องดิ้นลนมาเสียเที่ยวแล้วล่ะ

    “ไอแบค กูรู้สึกว่าพวกเราเหมือนพวกวิตถารยังไงไม่รู้ว่ะ แล้วถ้าเจอพี่คริส มึงจะทำอะไรพี่เขา”

    “ก็คงกรี้ดเล็กน้อย ขอจับมือ ขอลายเซ็นต์ ขอถ่ายรูป” มันพูดไปเพ้อไป จนผมทนไม่ไหว หยิบหมวกขึ้นมาใส่

    “ไอยอลมึงจะใส่หมวกทำไม”

    “ปกปิดใบหน้าของกู เดี๋ยวพี่เขาจำหน้าได้ กูอายพี่เขาที่มีเพื่อนอย่างมึง” และวันนี้ผมก็โดนมันตบหัวอีกรอบ เป็นครั้งที่สามของวัน กะเอาให้ผมความจำเสื่อมไปเลยใช่มั้ย  ผมเหวี่ยงมือไปกะจะสอยมันบ้างสักหมัดนึง แต่ก็ต้องชะงัก

    “พี่คริสส!!” มันเรียกเสียงดังลั่น ดีที่การ์ดไม่แห่กันมา ผมรีบดึงหมวกแก๊บขึ้นมาปิดหน้าทันที โอยย ผมอาย ผมเลี่ยงพยายามไม่เผชิญหน้า ไม่มองหน้าพี่เขา

    “พี่คริส ผมแบคฮยอนครับ เป็นแฟนคลับพี่ ขอถ่ายรูปได้มั้ยครับ”

    “อ อ่อ ได้ๆ แต่รอก่อนแป๊ปนึง พี่ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ” บทสนทนานี้ทำให้ผมแอบขำเล็กน้อย

    พอพี่คริสทำธุระเสร็จ เดินออกมาไอแบคก็รีบปลี่เข้าไปหาทันที เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นทำให้ผมรู้ว่ามันคงได้รูปคู่สมใจ ส่วนผมก็เอาแต่หันให้ ยืนรอไอแบคอย่างใจเย็น

    “ขอลายเซ็นต์ด้วยได้มั้ยครับ”

    “ได้ ชื่อแบคฮยอนใช่มั้ย”

    “ครับ~” ดูจากน้ำเสียงแล้ว ผมคงต้องฟังมันเพ้อไปอีกหลายวัน

    “เอ่ออออ แล้วเพื่อนน้องแบคไม่มาถ่ายรูปด้วยกันหรอ” ผมอุตส่าห์อยู่เฉยๆแล้วนะ มายุ่งอะไรกับผมเนี่ย

    “ใช่ไอยอล ไป โอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆนะเว้ย” ไอแบคจัดการเหวี่ยงผม ให้ไปยืนข้างพีคริสอย่างรวดเร็ว มือหนาที่กำลังโอบไหล่ผมทำให้ผมสะดุ้ง จนไม่กล้าหันไปมองหน้า ได้แต่ดึงหมวกให้มาปิดหน้ามากขึ้น โอยย มันใกล้เกินไปแล้ว ผมเขินเป็นนะ

    “ไอยอล หมวกมึงอ่ะถอดออกไปป๊ะ เกะกะ” ผมจิ๊ปากขัดใจเล็กน้อย ก่อนเบี่ยงกระบังหมวกไปด้านข้างให้เห็นใบหน้าชัดขึ้น แถมยังแอบได้ยินเสียงหัวเราะในละคอของคนข้างๆอีก เหมือนพี่คริสจะหันมามองผม เพราะลมหายใจอุ่นๆ มันกำลังรดแก้มผมอยู่น่ะสิ แถมมือหนายังรั้งไหล่ผมให้ใกล้กันเข้าไปอีก จนหน้าผมร้อนผ่าวไปหมด นี่กะแกล้งกันใช่มั้ย โอยยยยย ผมเขิน

    1 2 3 แชะ” สิ้นเสียงชัตเตอร์ผมก็รีบเด้งตัวออกมาทันที แล้เลื่อนหมวกมาปิดหน้าตามเดิม

    “แล้วแบบนี้จะออกกันไปยังไง ข้างหน้าคนเยอะหน้าดูเลย”

    “ไม่เป็นไรครับ พี่คริสไม่ต้องห่วง ผมมีทางกลับอยู่แล้วครับ”

    “งั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ”

    “ครับ บ๊ายบาย~” เพ้อครับไอแบคหลุดโลกไปแล้ว กว่าผมจะเรียกสติมันกลับมา แล้วลากกลับหอได้ก็นานทีเดียว.....

     

     

    >>คริส<<

     

    เฮ้ออออ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมทำแต่งานๆๆๆ
     

    "นี่พี่ พี่ไม่คิดจะมีวันหยุดให้ผมบ้างหรอ" ผมถามผู้จัดการส่วนตัวของผมที่นั่งอยู่ข้างๆผมในรถตู้คันใหญ่สวยหรู
     

    "ช่วงนี้นายกำลังฮอทน่ะคริส ทำใจซะเถอะ"
     

    ผมพ่นลมออกปากอย่างเหนื่อยใจ แล้วแบบนี้ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปหานางในฝันผมล่ะเนี่ย
     

    "พี่แล้วผู้หญิงที่ผมให้พี่ช่วยหาอ่ะ ไปถึงไหนแล้ว"
     

    "ฉันหามาให้นายเป็นร้อยคนได้แล้วมั้ง แต่นายเอาแต่บอกว่าไม่ใช่ๆ จนนักข่าวเริ่มมองว่าฉันเป็นเอเยนหาผู้หญิงไปปนเปอนายอยู่แล้ว"
     

    "ก็มันไม่ใช่จริงๆนี่"
     

    "แล้วดูข้อมูลที่นายให้ฉัน ยิ้มสวย ผู้หญิงมีเป็นล้านนะที่ยิ้มสวย"
     

    "ก็ผมรู้แค่นี้ให้ทำไงเล่า พี่ลองเข้าไปในฝันผมดูสิแล้วพี่จะได้เห็นหน้าเธอ"
     

    "เฮ้อออ ปัญญาอ่อนจริงๆ นี่ถ้าสาวๆรู้ว่านายง้องแง้งแบบนี้นะ แฟนคลับนายได้หายเกลี้ยงแน่"
     

    "ก็ช่างสิ ยังไงผมก็สนใจแค่คนๆเดียวอยู่แล้ว" ผมทำเป็นไม่สนใจคำพูดของผู้จัดการนั่งกดไอโฟนเล่นไปเรื่อยเปื่อย
     

    ไม่นานนักรถตู้ผมก็จอดอยู่หน้าสตูดิโอถ่ายแบบ มีแฟนคลับจำนวนหนึ่งมาล้อมรถตู้ผม มันเป็นเรื่องปกติครับ ผมต้องรอสักพักให้การ์ดเคลียร์พื้นที่ให้ผมเดิน ผมไม่ลืมยิ้มให้แฟนๆทุกคน โบกมือบ้างตามประสา ก็พวกเขาอุตส่าห์มายืนรอผมนี่
     

    งานของผมก็เดิมๆแหละ โพสท่าให้ดูเท่ จิกสายตาไปที่กล้อง ให้สาวๆที่ได้จับจ้องอ่อนระทวยไปตามๆกัน ดูเหมือนจะเป็นงานที่ไม่ต้องใช้ความคิดอะไรมาก เอาหล่ออย่างเดียว ทำไงได้ก็ผมเกิดมาหน้าตาดี แต่บางทีมันก็น่าเบื่อเกินไปพวกคุณว่ามั้ย

     

    เวลาผ่านไปสักพักการถ่ายแบบของนิตยสารเล่มนี้ก็เสร็จลง ผมต้องไปเปลี่ยนชุดกลับเป็นชุดของผมเอง แต่ขณะที่จะไปเปลี่ยนสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นบางสิ่ง ทำให้ผมฉุดคิดเรื่องน่าสนุกบางอย่างขึ้นมาได้
     

    เสื้อผ้าปกติที่ไม่ดูหรูหราอะไร โทนสีธรรมดาไม่ฉูดฉาดสะดุดตา หมวกพร้อมทั้งแว่นตา ช่างเป็นอุปกรณ์พลางตัวได้ดีทีเดียว ผมรีบจัดการเปลี่ยนชุดทันที ผมสีทองสะดุดตาของผมถูกรวบเก็บปกปิดโดยหมวกแก๊บสีดำ แว่นตากันแดดอันใหญ่ถูกสวมไว้ทำให้ใบหน้าของผมถูกเผยให้เห็นเพียงครึ่งหน้า อีกทั้งเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่มีฮูดคลุมหัวผมอีกที ช่วยปกปิดไรผมสีทองและใบหน้าของผมได้อย่างดี
     

    ผมจัดการแต่งตัวอย่างรวดเร็วก่อนที่ผู้จัดการจะมาตาม ผมแอบออกไปจากทางด้านหลังของสตูดิโอ แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อมีแฟนคลับกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งคุยกันอย่างออกรส ผมพยายามรีบเดินผ่านไปอย่างปกติ กระชับฮูดให้มาปิดหน้าผมมากขึ้น หวังว่าส่วนสูงของผมมันจะไม่เป็นที่สะดุดตาจนเกินไป
     

    "เฮ้ยนั่น!" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มแฟนคลับร้องขึ้น ทำเอาใจผมร่วงไปถึงตาตุ่ม ผมไม่ได้หันไปมองแต่พยายามเร่งฝีเท้าให้เดินห่างออกไป
     

    "คงไม่ใช่หรอกมั้ง...." เด็กสาวพึมพำ

    .

    .

     

    ผมเดินไปเรื่อยเปื่อย ผมเองก็ลืมนึกไปว่า ผมจะไปที่ไหนดี ผมแทบไม่รู้จักที่นี่เลย ก็ผมมาจากจีนนี่ครับ
     

    เสียงเพลงจากมือถือผมดังขึ้น ทำให้ผมรีบกดปิดเครื่องทันที ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับที่โทรมา ผู้จัดการผมเอง
     

    ครืดดดด!! เสียงฟ้าคำรามทำผมสะดุ้ง

     

    อยู่ๆ บรรยากาศรอบตัวผมก็ถูกปกคลุมไปด้วยความมืด เสียงฟ้าคำรามอย่างต่อเนื่องจนผมรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะดูที่นี่ต่อไป ผมเดินเร่งฝีเท้าไปหาที่กำบังตัวผมจากฝนที่กำลังจะตก

     
     

    แปะ แปะ แปะ ซู่!!!

    ไม่ทันครับ ผมเปียกจนได้ ผมถอดแว่นดำออกแล้ววิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิต

     
     

    ผมเห็นป้ายรถเมล์มีหลังคาอยู่เล็กน้อย จึงหลบตัวเข้าไปในนั้นทันที พร้อมๆกับใครบางคนที่วิ่งเข้ามาเช่นกัน
     

    เขามายืนข้างๆผม ผมหันไปมองเขาเพราะผมคุ้นหน้าเขามาก จนเขาเงยขึ้นมาสบตากับผม
     

    "เอ่ออออ ฝนตกหนักเลยนะครับ" สายตาที่เขามองผมทำเอาผมทำตัวไม่ถูก เลยต้องพูดออกไป
     

    "เอ่ออ ครับ" เขายิ้มให้ผมแล้วกลับไปมองทางอื่น เฮ้อออ ผมชอบรอยยิ้มของเขาจัง
     

    ฝนไม่มีทีท่าที่จะหยุดลงง่ายๆ ทั้งยังตกหนักมากขึ้นจนมันกระเซ็นมาโดนผม ผมกระเถิบตัวเข้าไปด้านใน เขาก็เช่นกัน จนไหล่ของเราชนกัน
     

    "ขอโทษครับ"

    "ขอโทษครับ"

     

    "ไม่เป็นไรครับ"

    "ไม่เป็นไรครับ"
     

    พวกเราหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน เขาน่ารักจริงๆ ^^
     

    เสียงหัวเราะหยุดลง เมื่อมือถือเขาดังขึ้น
     

    "เออ ว่าไงไอแบค"
     

    "เออ เออ ไม่เป็นไรกูอยู่ได้ มึงนอนที่บ้านไปเถอะ ฝนตกหนักอย่ากลับมาเลย"
     

    "เออ เออ เจอกัน"
     

    เมื่อเขาคุยกับเพื่อนเสร็จ เขาก็ทำท่าเหมือนจะวิ่งออกไปด้านนอกจนผมรั้งแขนเขาไว้อย่างลืมตัว
     

    "ฝนยังตกหนักอยู่เลย เดี๋ยวก็เปียกหรอก"
     

    "ไหนๆก็เปียกแระ ไม่เป็นไรหรอกครับ" เขายิ้มให้ผมก่อนวิ่งออกไปท่ามกลางสายฝน
     

     

    >>ชานยอล<<
     

    อยู่ๆ ผมก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมากันฝนไว้ ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง เสื้อคลุมตัวใหญ่ที่ถูกกางออกด้วนแขนแกร่งของผู้ชายร่างสูง ผมหยุดเดินและมองเขาอย่างสงสัย เขาเพียงส่งยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่น
     

    "เอ่อออ คือออ" ผมจ้องใบหน้าเขานิ่ง พระเจ้า เขาหล่อจริงๆ ยิ่งมองใกล้ๆยิ่งหล่อ
     

    "ผมว่ารีบเดินเถอะ เดี๋ยวจะเปียกกันหมด" เขาท้วงขึ้นเมื่อผมยังยื่นนิ่งอำ้ๆอึ้งๆอยู่ ไม่ใช่อะไรหรอกครับผมเกรงใจ เหอๆๆ

    ผมว่าเราชักจะใกล้กันเกินไปแล้วล่ะ ผมรู้สึกเหมือนโดนโอบอยู่เลย ฝนมันตกๆ ผมควรจะคิดแบบนั้น ผมเร่งฝีเท้ามากขึ้นเขาก็เช่นกัน

     
     

    เมื่อถึงที่หมายผมวิ่งเข้าหอทันที เช่นเดียวกับเขา
     

    "ที่นี่หรอครับ" เขาถาม
     

    "อ่อครับ" ผมตอบรับขณะที่พยายามเสยผมที่ชุ่มไปด้วยน้ำออก ผมเปียกไปหมดทั้งตัวเลย แต่ดูเหมือนเขาจะเปียกมากกว่าผม ผมมองเขาอย่างครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะถามออกไป
     

    "คุณเปียกไปหมดเลย ไปเปลี่ยนชุดที่ห้องผมก่อนมั้ย ฝนมันเหมือนจะไม่หยุดง่ายๆเลย" ถือซะว่าเป็นการขอบคุณละกัน
     

    "ได้หรอครับ ฮิฮิฮิ ขอบคุณนะครับ คุณใจดีจัง" เขายิ้มกว้างจนเห็นเงิง จนผมแทบหลุดขำออกมา หมอนี้ยิ้มได้ตลกจริงๆครับ
     

     

     

    "คุณไปอาบน้ำก่อนเถอะ" ผมยื่นเสื้อผ้าของผมที่มันแลตัวใหญ่ๆ ให้เขาพร้อมกลับผ้าเช็ดตัว
     

    "ไม่เป็นไร คุณอาบก่อนเถอะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา"
     

    "คุณนั่นแหละไปอาบก่อน เปียกเยอะกว่าผมอีก เดี๋ยวก็เป็นปอดบวมตายหรอก"
     

    "ดื้อจริงๆ" เขาดันตัวผมให้เข้าห้องน้ำทันที ผมก็เลยต้องยอมอาบน้ำก่อน ผมรีบอาบน้ำเขาจะได้ไม่ต้องรอนาน แล้วทำไมผมต้องไปเป็นห่วงเขาด้วยเนี่ย เพราะผมใจดีไง ใช่แล้ว

    .
     

    .

    ผมออกมาจากห้องน้ำ แอบตกใจนิดนึงที่เห็นเขา ผมทองที่ตอนนี้ไร้ซึ่งการปกปิด มันดูเข้ากับใบหน้าเขาจริงๆ แถมยังเปียกเล็กน้อยยิ่งทำให้เขาดูเซ็กซี่มากเลย หน้าเขาคุ้นตามากเลย ให้ตายเถอะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน ที่ไหนนะ ต้องเคยเห็นแน่ๆ คิด คิด คิด คิด
     

    "ตาผมอาบบ้างละนะ" เสียงของเขาทำให้ผมสะดุ้ง ออกจากภวัง
     

    "เป็นอะไรรึป่าวครับ" เขาถาม สงสัยหน้าผมตอนนี้คงดูเอ๋อน่าดู
     

    "อ่อ ป่าวครับ ผมแค่รู้สึกคุ้นๆหน้าคุณ" เขายิ้มให้ผม แล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป แทบไม่สนใจกับคำพูดผมเลย หมายความว่าไง ต้องการจะสื่ออะไร แล้วสรุปเราเคยเจอกันมั้ย - - ไม่ตอบแล้วยังเดินหนี คืออะไร
     

     

     

    >>คริส<<
     

    ผมเดินออกจากห้องน้ำอย่างสบายตัว ถึงเสื้อผ้านี้มันจะเล็กไปหน่อย แต่ก็ยังพอจะใส่ได้อยู่
     

    ผมเดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆเขา ที่กำลังนั่งอ่านนิตยสารอยู่
     

    "รู้แล้ว!" อยู่ๆเด็กนั้นก็ตะโกนขึ้นมา ทำเอาตกอกตกใจหมด
     

    "คุณชอบพี่คริสใช่มั้ย"
     

    "ห๊ะ!! " งงครับ งงจริงจัง ผมจะชอบตัวเองทำไม - -
     

    "ดูนี่ ผมคุณกับผมพี่เขาดิเหมือนกันเลย ผมก็ว่าอยู่ว่าทำไมคุ้นๆ" เขายื่นนิตยสารให้ผมดู ว่าแล้วต้องความแตก ช่างเหอะ รู้คนเดียวคงไม่เป็นไร แต่ไอที่บอกว่าผมชอบพี่คริสนี่หมายความว่าไง
     

    "แต่คุณทำผมทรงนี้ก็เข้ากับคุณดีนะ ดูหล่อกว่าไอหมอนั่นตั้งเยอะ แต่ผมว่าสีมันเด่นไปนะ" งงครับ ผมงง หล่อกว่าหมอนั่น คือ หมอนั่นมันก็ตัวผมนะเฮ้ย
     

    "เอ่อ ว่าแต่คุณชื่ออะไร"
     

    "คริส"
     

    "ตลกแระ ผมถามชื่อคุณ ไม่ใช่ชื่อหมอนั่น อย่าบอกนะว่าเปลี่ยนชื่อตามมันอ่ะ" เอาแล้วไง ผมเริ่มจะไปไม่ถูกแล้ว ผมผิดใช่มั้ยเนี่ย
     

    "เอ่ออชื่อ อู๋ฟาน" แบบนี้คงไม่เป็นไร ผมไม่ได้โกหกซะหน่อย ก็ชื่อจริงผมชื่อนี้
     

    "อ่าวเป็นคนจีนหรอ"
     

    "ก็ทำนองนั้น" ความจริงเป็นลูกครึ่ง ไม่ต้องบอกหรอกเนอะ
     

    "ผมชื่อ ชาลยอลนะ ยินดีที่ได้รู้จัก" เขายิ้มกว้าง รอยยิ้มของเขาทำให้ผมไม่สามารถละสายตาออกไปได้จริงๆ
     

    "นี่" เขาเรียกผมแล้วมองไปที่มือที่ยื่นค้างไว้นานแล้ว
     

    "เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ผมยื่นมือไปจับตอบตามมารยาท มือนุ่มจริงๆครับ
     

    "ผมเรียกคุณว่าพี่ได้มั้ยครับ"
     

    "พี่หรอ อืมก็ได้นะ งั้นพี่เรียกนายว่ายอลได้ป่าว" ผมรู้สึกไปเองรึป่าว ว่าเราเข้ากันง่าย ผมไม่รู้สึกอึดอัด ไม่รู้สึกว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า ทั้งที่เราพึ่งเคยเจอกัน
     

    "ได้สิครับ^^ แล้วนี่มาทำอะไรที่นี่หรอ"
     

    "ตามหาคนน่ะ"
     

    "คนหรอ ใครหรอ เอ.... หรือว่า. คนรักใช่มั้ยล่ะ" ชาลยอลทำหน้าล้อเลียนผม ผมควรตอบไงดีล่ะ


    ..............................................................................................................................................................................................

    Talk
    เป็น SF เรื่องแรกเลย แต่ง exo ครั้งแรกด้วย แนะนำด้วยนะคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×