ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] Wolf Prince หมาป่าจอมขย้ำ ง่ำ (ChanBaek KaiDo HunHan)

    ลำดับตอนที่ #2 : Believe in Love เชื่อมั้ยว่ารัก 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 962
      1
      3 ก.พ. 56

    Believe in Love เชื่อมั้ยว่ารัก  2

     

    "คนหรอ ใครหรอ เอ.... หรือว่า. คนรักใช่มั้ยล่ะ" ชาลยอลทำหน้าล้อเลียนผม ผมควรตอบไงดีล่ะ
     

    "อืมมม จะพูดไงดีล่ะ เอาเป็นว่า. เป็นคนพิเศษสำหรับพี่ละกัน"
     

    "ว้าวว โรแมนติกจังเลยแหะ ข้ามน้ำข้ามทะเลมาต่างแดนเพื่อมาตามหาคนรัก" ดูเหมือนเขาจะสรุปเอาเองว่าคนนั้นเป็นคนรักของผม แบบว่าเราเคยเจอกันแค่ครั้งเดียว เรียกคนรักได้แล้วเรอะ
     

    "มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก"
     

    "เออ ว่าแต่พี่พักอยู่ที่ไหนล่ะ ไว้ฝนซาแล้วผมจะกางร่มไปส่ง"
     

    "โรงแรม เอ่อออ" เอาไงดีล่ะทีนี้ โรงแรมที่นี่ก็ไม่รู้จักซักโรงแรม
     

    "เอ่อออ ไม่เป็นไรๆ มันอยู่ไกลน่ะ เดี๋ยวพี่กลับเองดีกว่า"
     

    "เอางั้นหรอครับ"
     

     

     

    บทสนทนาของเราหยุดลงเพียงเท่านั้น เขาไม่ได้ถามอะไรผมต่อ จนทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ แต่ผมยังคงนั่งมองใบหน้าหวานพร้อมกับหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันแปลกจริงๆ ที่ผู้ชายคนนี้จะทำให้ผมไม่สามารถละสายตาออกไปจากเขาได้
     

    "มองอะไรของพี่นักหนาเนี่ย"
     

    "ไม่รู้สิ แค่อยากมอง มองแล้วมีความสุข" ผมท้าวแขนกับโซฟาแล้วเอนหัวพิงมือตัวเอง จ้องมองคนตรงหน้าที่ก้มหน้างุดกับคำพูดของผม
     

     

     

    เวลาผ่านไปสักพักฝนยังคงตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เสียงฟ้าร้องดังจนทำให้ชาลยอลสะดุ้งเป็นพักๆ ผมรู้ว่าเขาอยากเปิดทีวีดูเพื่อเบี่ยงเบนสายตาของผม แต่คงจะไม่กล้าจับปลั๊กไฟ
     

                "กลัวหรอ" ผมถามเมื่อเห็นเขาสะดุ้งอีกครั้งเมื่อฟ้าร้อง
     

    "ป่าวซะหน่อย แค่ตกใจเฉยๆ" ผมหัวเราะในลำคอ จนชาลยอลหันมาค้อนผม ก็เห็นชัดเจนซะขนาดนั้นว่ากลัวยังจะปากแข็งอีก
     

    "ยอล"
     

    "ครับ" เขาหันมาหาผมอย่างสงสัย
     

    "ชาลยอลลลล" ผมดัดเสียงให้ดูอ้อนๆน่าสงสาร
     

    "อ อะไรครับ" ดูเหมือนเขาจะทำตัวไม่ถูกเมื่อผมเรียกแบบนี้ 555
     

    "ฝนยังไม่ยอมหยุดเลยง่าาา"
     

    "แล้วไงครับ"
     

    "ออกไปตอนนี้คงเปียกอีกรอบแน่เลยง่่าาาาาา"
     

    "แล้ว..."
     

    "นี่มันก็ดึกมากแล้วด้วย"
     

    "......"
     

    "ยอลเองก็ง่วงแล้วใช่มั้ยล่ะ พี่เองก็ง่วงแล้วเหมือนกัน"
     

    "......"

     

    "งั้นพี่ขอนอนที่นี่ได้ป่าวง่าาาา"
     

    "- -"
     

    "พี่นอนโซฟานี่ก็ได้ นะ นะ ส่วนยอลก็ไปนอนในห้อง นะ นะ นะครับ" ผมเขย่าแขนบางอย่างออดอ้อน
     

    "......"
     

    "นะ ยอล น้าาาาา" เอาสิ ไม่ให้ผมก็จะอยู่ อ้อนแม่งแบบนี้ล่ะ หึหึหึ นี่ผมทำตัวสนิทกับเขาเร็วไปมั้ยนะ อิอิ
     

    "โอเคๆ ก็ได้ๆ เลิกเขย่าแขนผมได้แล้ว" ดูเหมือนชาลยอลจะไม่เต็มใจนะ แต่ถือว่าผมบรรลุจุดประสงค์แระ ผมปล่อยมือออกจากแขนบางอย่างว่าง่าย พร้อมส่งรอยยิ้มกระชากใจสาวไปให้ แต่เหมือนจะใช้ไม่ได้ผลกับเด็กนี่แหะ ค้อนผมอยู่ได้
     

    "ยอลล"
     

    "ครับ"
     

    "ชาลยอลลลล"
     

    "อะไรอีกครับ จะขออะไรผมอีก"
     

    "พี่หิวอ่ะ"
     

    "มีแต่มาม่า"
     

    "มาม่าก็ได้ อะไรก็ได้ ตอนนี้หิวจนกินชาล...." เสียงผมหยุดลงก่อนจะจบประโยค เมื่อสายตาที่บอกได้เลยว่าผมอาจจะไม่มีที่ซุกหัวนอนคืนนี้มองมา
     

    "พี่หมายถึงหิวจนกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว" ผมยิ้มเจื่อนๆให้ไป ทำให้ชาลยอลเดินตรงไปต้มมาม่าให้ผมกินเช่นเดิม เกือบไปแล้ว
     

     

    "มาม่า~ มาม่า~ มาม่า~" ผมทำเสียงแหบร้องเหมือนในเพลง ขณะที่ชาลยอลกำลังยกมาม่าหอมกรุ่นมาให้ผม ผมเห็นเขาแอบหัวเราะด้วยล่ะ น่ารักจริงๆเด็กคนนี้
     

    "ไม่กินด้วยกันหรอ" ผมถามเมื่อเขาเอาแต่ดูผมกิน บางทีผมก็เกร็งเป็นนะ
     

    "ไม่อ่ะครับ ผมอิ่มแล้ว"
     

    "นี่ยอล"
     

    "หือ? ไม่ได้ขออะไรผมอีกใช่มั้ย"
     

    "ไม่แล้ว แค่อยากถามเฉยๆ"
     

    "ว่า?"
     

    "ยอลไม่ชอบพี่คริสหรอ"
     

    "อืมมม ก็ไม่เชิงว่าไม่ชอบหรอก แค่หมั่นไส้ล่ะมั้ง"
     

    "ห๊ะ!" ผมไปทำอะไรให้เขาหมั่นไส้ได้ล่ะเนี่ย
     

    "ก็ขี้เก๊กออกซะขนาดนั้น คิดว่าตัวเองหล่อนักรึไง ทำไมมีแต่คนหลงพี่แกก็ไม่รู้ เชอะ"
     

    "บางทีเขาอาจจะไม่ได้เก๊กแบบที่ยอลคิดก็ได้นะ เขาอาจจะใจดี เป็นคนดี"
     

    "หยุดเลย ก็พี่ชอบพี่คริสนี่ แหมะแตะต้องไม่ได้เลยนะ" คิดเองเออเองตลอดดด
     

    "ป่าว"
     

    "ไม่ต้องพูดมากเลย รีบๆกินไปเลย ล้างให้ด้วย ไปนอนแล้ว ง่วง" ว่าแล้วชาลยอลก็รีบเดินเข้าห้องไปทันที เอ่ออคือ ผมอยากรู้ผมทำอะไรผิดครับเนี่ย
     

    ผมมองบานประตูที่ค่อยๆปิดลงอย่างเสียดาย คืนนี้ผมคงไม่ได้คุยกับชาลยอลแล้วล่ะ เฮ้อออ ผมนั่งกินมาม่าจนหมด หิวจริงๆครับ จัดการล้างจานตามที่เจ้าของห้องสั่ง แล้วกลับไปนอนที่โซฟา รู้สึกโซฟามันจะเล็กไปสำหรับผม แต่ก็ต้องนอนล่ะนะ

     

     

    คืนนี้อากาศเย็นจริงๆครับ อาจเป็นเพราะฝนตก ทำให้ผมหนาวจับขั้วหัวใจ ผมนอนคุดคู้บนโซฟาตัวเล็ก นอนยังไงก็นอนไม่หลับ แต่ก็ยังพยายามข่มตาให้หลับ จนตอนนี้ผมรู้สึกความอบอุ่น ผ้าผืนหนาถูกกางออกปกคลุมตัวผมไว้
     

    "นึกว่าจะต้องนอนแข็งตายซะแล้ว ขอบคุณนะชาลยอล"
     

    "โทษทีผมลืม พี่ก็น่าจะได้เคาะเรียกผมให้เอาผ้าห่มมาให้"
     

    "ก็พี่เกรงใจเห็นว่าเข้าห้องไปตั้งนานแล้ว คงหลับไปแล้ว ว่าแต่ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ"
     

    "ก็เป็น...... เอ่อออออ" ชาลยอลพูดตะกุกตะกัก พยายามหาคำที่จะพูดต่อ จนผมต้องยิ้มแซว
     

    "เป็นห่วงพี่หรอ"
     

    "ป่าวววว" เหมือนจะหาข้อแก้ตัวไม่ได้ ชาลยอลเลยรีบเดินปึงปังเข้าห้องไป ผมพูดได้คำเดียวเลย น่ารัก ^^
     

     

     

    >>ชาลยอล<<
     

    "ย้ากกกกกกก!"
     

    เสียงกรี้ดลั่นห้องทำให้ผมลุกขึ้นจากเตียงอย่างตกใจ ผมรีบออกจากห้องไปหาเพื่อนตัวดีเจ้าของเสียงกรี้ดทันที
     

     

    "ไอแบค มึงเป็นไร" ไอแบคที่พึ่งเข้าห้องมามองผมหน้าตื่น ขณะที่ชี้ไปยังชายหนุ่มที่ผมให้พักอยู่ด้วยเมื่อคืน ซึ่งตอนนี้งัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างงงๆ
     

    "อ่อ ไม่มีอะไรพอดีพี่เขาเปียกฝน แล้วฝนก็ตกหนักมาก กูก็เลยให้พี่เขานอนนี่" แต่ไอแบคก็ยังคงจ้องพี่เขาไปหยุด แถมยังยื่นหน้าไปสำรวจอีก เพื่อนผมบ้าไปแล้วครับ
     

    "มึงเป็นไร ทำไมไปจ้องพี่เขาแบบนั้นเล่า"
     

    "มึงรู้รึป่าวว่าพี่เขาเป็นใคร" มันพูดกับผม โดยที่พี่เขานั่งมองเราสองคนสนทนากันหน้าระรื่น
     

    "เขาบอกว่าชื่อ อู๋ฟาน" ผมตอบไป ดูเหมือนไอแบคจะรู้จักพี่เขา
     

    "โธ่ กูว่าแล้ว เพื่อนกูมันโง่"
     

    "ไอแบค มึงด่ากูเพื่อ!" ขณะที่ผมเถียงกับไอแบค เสียงหัวเราะของอีกคนดังขึ้นจนผมต้องหันควับไปมอง
     

    "พี่ขำอะไรครับ" ผมตวาดกลับ
     

    "ป๊าววว เชิญคุยกันต่อเลยพี่รอฟังอยู่ คึคึ" เสียมารยาทที่สุด ฮึ้ยยย
     

    "พี่คริสไปหลอกอะไรเพื่อนผมไว้ครับเนี่ย" ไอแบคหันถามพี่เขา ผมชักเริ่มงงแล้วสิ
     

    "พี่ป่าวนะ พี่พูดความจริงหมดทุกอย่างนะ แต่ยอลไม่เชื่อพี่เอง"
     

    "อะไรกัน รู้จักกันด้วยหรอ" ผมถามกลับ เพราะทั้งคู่ดูจะคุยกันเหมือนรู้จักกันมาก่อน
     

    "โอยยย ปวดเฮด เนี่ย พี่คริส มึงจำไม่ได้หรอวะ มึงเป็นแฟนคลับประสาอะไรเนี่ย" ผมหันไปมองชายหนุ่มในบทสนทนาที่กำลังยิ้มร่าอยู่อย่างสับสน จริงๆหรอเนี่ย นายแบบชื่อดังมานอนห้องผมตั้งแต่เมื่อคืนเนี่ยนะ ไม่อยากจะเชื่อ
     

    "ยอลก็เป็นแฟนคลับพี่หรอ พี่นึกว่าเราไม่ชอบพี่ซะอีก" พี่คริสมาอยู่ตรงหน้าผมตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ แถมยังเอามือมาลูบผมของผมอีก รอยยิ้มอบอุ่นที่พี่คริสมอบให้ทำเอาผมร้อนผ่าวไปทั่วหน้า
     

     

     

    "อะฮึ่ม คือผมยังอยู่ตรงนี้นะครับ" แบคฮยอนกระแอมเบาๆ พี่คริสหัวเราะเบาๆก่อนไปยืนพิงที่โซฟา แล้วมองมายังพวกเราทั้งสอง

     
     

    "คือ พี่มีเรื่องให้ช่วยหน่อยน่ะ"
     

    "พี่คริสบอกมาเลยครับ ผมช่วยเต็มที่" ไอแบคยิ้มแป้นดีใจออกนอกหน้ามากครับ
     

    "คืออยากให้ช่วยตามหาคนหน่อยน่ะ"
     

    "คนรัก" ผมพูดขึ้นหลังจากที่นึกถึงบทสนทนาเมื่อคืนนี้ แบคฮยอนหันมาทำตาโตใส่ผมอย่างตกใจ โดยที่พี่คริสยังคงยิ้มไม่ได้ปฏิเสธอะไร
     

    "ว๊าาาา พี่มีแฟนแล้วหรอเนี่ย เสียดายจัง แต่เพราะว่าผมชอบพี่ยังไงผมก็จะช่วย" คำพูดของไอแบคทำเอาผมตะลึงกับความกล้าของมัน มันสารภาพรักพี่คริสใช่มั้ยเนี่ย
     

    "ขอบคุณนะ แบคฮยอน" พี่คริสยิ้มให้มันอย่างอ่อนโยน ไอแบคหลุดออกนอกโลกไปแล้ว มันกำลังเคลิ้มกับรอยยิ้มอ่อยๆของผู้ชายขี้เก๊ก
     

    "พี่จำชื่อผมได้ด้วย ดีใจจัง" มันเพ้อครับ
     

    "แล้วแฟนพี่มีลักษณะเด่นอะไรครับ พอจะรู้ที่อยู่มั้ยครับ" ผมเข้าเรื่อง เกรงว่าปล่อยไปแบบนี้เป็นชาติก็หาไม่เจอ
     

    "ยอลก็จะช่วยพี่เหมือนกันใช่มั้ย น่ารักจัง" เอาอีกแล้วทำไมผู้ชายคนนี้ชอบทำให้ผมเขินนักนะ สายของไอแบคก็ใช่ย่อยมองมาที่ผมอย่างจับผิด โอ้ยย กูไม่ได้คิดอะไร แต่กูแค่เขินมึงเข้าใจมั้ย ผมอยากจะพูดออกไปเหลือเกิน ถ้าไม่ติดว่ามีคนนอกอีกคนยืนอยู่
     

    "ผมถามซะขนาดนี้แล้วคงไม่ช่วยหรอกมั้ง โธ่ บอกข้อมูลมาสิจะได้รู่ต้องเริ่มจากตรงไหน" ผมพยายามเหวี่ยงแก้เขิน
     

    "จุดเด่นงั้นหรอ เธอเป็นคนที่ยิ้มแล้วโลกสดใส พอเห็นรอยยิ้มเธอแล้วเหมือนมีดอกไม้บานอยู่รอบๆ"
     

    "เอ่อ คงหาเจอหรอกนะข้อมูลแบบนี้เนี่ย มีอย่างอื่นอีกมั้ยครับ" ผมตอกกลับทันที
     

    "เป็นเด็กผู้หญิงผมยาวๆ ตาแบ๋วๆ ปากชมพูๆ ตัวเล็กๆ"
     

    "เดี๋ยวนะพี่คริส เมื่อกี้พี่บอกว่าเด็กผู้หญิง แฟนหรือลูกครับที่พี่ตามหาน่ะ" ดูเหมือนผมจะกวนบาทาพี่เขา แต่ไอแบคเนี่ยสิตบหัวผมทำไม
     

    "มึงกวนตีนพี่คริส นี่แค่สั่งสอน"
     

    "ชิ! แตะไม่ได้เลยนะ"
     

    "แล้วเธออายุประมาณเท่าไรอ่ะครับ" ไอแบคถามแทนขึ้นมาทันที
     

    "ก็น่าจะประมาณ ห้าหกขวบได้" ตะลึง เอ๋อรับประทานกันไปตามๆกัน
     

    "เห็นมั้ยกูบอกแล้วว่าลูกสาวพี่เขา" ผมกระซิบกับไอแบค
     

    "เอ่อออ คือ ลูกของพี่คริสหรอครับ" ในที่สุดไอแบคก็เชื่อคำพูดผมและถามออกไป เล่นเอาคนถูกถามขำกลิ้งแทบลงไปนอนกับพื้น
     

    "ไม่ใช่ พี่ลืมบอกไปว่าห้าหกขวบน่ะนั่นมันตอน15ปีที่แล้ว ตอนนี้คงโตแล้วล่ะ"
     

    "โอยยย แล้วจะหาเจอมั้ยเนี่ย ตลอด15ปีเนี่ย พี่ไม่เคยเจอเธอเลยหรอ"
     

    "ไม่เลย ก็พี่อยู่ที่จีน แต่เธออยู่ที่นี่ ชื่อพี่ก็ไม่รู้จัก รูปถ่ายซักใบก็ไม่มี ป่านนี้ไม่รู้มีแฟนไปรึยัง เฮ้ออออ"
     

    "นี่เธอเป็นแฟนพี่จริงรึป่าวเนี่ย ทำไมพี่ไม่รู้อะไรเลย"
     

    "ยังไม่ได้บอกซะหน่อยว่าเป็นแฟน แต่พี่แค่ชอบ อยากเห็นหน้าอีกครั้ง อยากคุยด้วยมากกว่านี้ และก็อยากลองคบดูด้วย พี่ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม แต่พี่มีความสุขและใจเต้นทุกครั้งที่นึกถึงเธอ คงเป็นเพราะพี่รักเธอมั้ง"
     

    "เน่ามากอ่ะ พี่รู้ได้ไงว่ามันคือความรัก"
     

    "ไม่รู้สิ แค่เชื่อว่ามันใช่ ก็เลยอยากเจอเธออีกครั้งจะได้พิสูจน์ว่ามันใช่จริงๆรึป่าว"
     

    "ว๊าววว พี่คริสสุดยอดไปเลย แบคจะช่วยพี่เต็มที่เลย" มันเพ้ออีกแล้วครับ
     

    "ถ้าโตมาเป็นผู้หญิงอ้วนเตี่ยขี้เหล่ จะขำให้ดู" ผมพึมพำเบาๆ แต่คิดว่าไอแบคคงได้ยินมันเลยค้อนผมแบบนั้น
     

    "แล้วจะเริ่มต้นหายังไง อะไรก็ไม่รู้ซะอย่าง" ผมถามไปอย่างเซ็ง
     

    "พี่คริสพอจำหน้าตาเด็กผู้หญิงนั้นได้ใช่มั้ยครับ" ไอแบคถาม
     

    "จำได้ขึ้นใจเลย"
     

    .
     

    .
     

    .
     

    กระดาษแผ่นบางถูกยื่นมาตรงหน้าผม ผมมองดูอย่างพินิจ รูปวาดของเด็กผู้หญิงผมยาว ดวงตาเป็นประกาย ที่กำลังยิ้มแย้มอย่างเปิดเผย สำหรับผมแล้วก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงน่ารักธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่ได้มีจุดเด่นอะไรที่พอจะเดาได้เลยว่าโตมาจะเป็นยังไง แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมคุ้นหน้าเด็กคนนี้มาก
     

    "ไอยอลมึงคิดว่าไง"
     

    "ก็น่ารักดี"
     

    "เออ กูรู้ มึงว่าไปหาที่ไหนกันก่อนดี"
     

    "โนคอมเม้น"
     

    "ไหนว่ามึงบอกจะช่วย"
     

    "ก็อยากจะช่วยแต่กูก็คิดไม่ออกเหมือนกัน"
     

    เฮ้อออ ผมและมันถอนหายใจออกมาพร้อมๆกัน จนปัญญาครับ
     

    "แต่จะว่าไปกูก็คุ้นหน้าเด็กนี่เหมือนกันนะ"
     

    "เฮ้ยยจริงอ่ะ มึงอาจจะเคยเจอน้องเขา สงสัยนานมาแล้วมึงเลยลืม มึงคิดซิคิด คิดให้ออก" ไอแบคมันกระเง้ากระงอดใส่ผม ผมไม่น่าบอกมันเลย
     

     

    หลายวันมานี้เวลาว่างของผมมักจะอยู่กับรูปวาดใบนี้ จนนึกเสียดายไม่น่าตบปากรับคำว่าจะช่วยเลย
     

    พี่คริสหลังจากสารภาพกับพวกผมว่าหนีผู้จัดการมาก็โดนผมไล่ตะเพิดให้กลับไปทำงาน แม้ว่าพี่แกจะออดอ้อนไอแบคว่าอยากจะช่วยตามหาด้วย ผมเลยยื่นคำขาดถ้าไม่กลับไปทำงานผมก็จะไม่ช่วย พี่แกเลยยอมกลับไปแต่โดยดี แต่ก็ไม่วายโทรมาก่อกวนผมทุกคืน
     

    RRrrrrr~
     

    "มีอะไร"
     

    "ทำไมพูดกับพี่ไม่เพราะเลย ไม่น่ารักเลยรู้มั้ย"
     

    "ก็ไม่ได้อยากให้มารักซะหน่อย"
     

    "ใจร้ายจังเลยนะ"
     

    "ตกลงมีธุระอะไร ถ้าไม่มีจะได้วาง"
     

    "เดี๋ยวสิเดี๋ยว อย่าพึ่งวาง เห็นแบคฮยอนบอกว่ายอลคุ้นหน้าเด็กคนนั้นหรอ"
     

    "อืม ก็คุ้นๆแต่นึกไม่ออก"
     

    "ไม่เป็นไร ค่อยๆนึกไป พี่ไม่รีบ"
     

    "งั้นคงอีกประมาณ50ปีได้มั้งผมถึงจะนึกออก"
     

    "ไม่เป็นไรๆ แต่ตลอด50ปีพี่คงต้องอยู่ข้างๆยอลแล้วล่ะ เผื่อยอลนึกออกพี่จะได้รู้เป็นคนแรก"
     

    "เล่นไปทั่วเลยนะพี่น่ะ"
     

    "เล่นที่ไหน พี่เอาจริง ถ้ายอลให้พี่รอนานขนาดนั้นสงสัยพี่คงต้องสอยยอลมาแฟนพี่แทนแล้วล่ะ 55" ทำไมถึงชอบพูดให้เขินอยู่เลยนะให้ตายเถอะ
     

    "บ้า" ผมไม่รู้จะหาคำไหนมาด่า เลยพูดออกไปตามความเคยชิน เรียกเสียงหัวเราะของต้นสายเป็นอย่างดี ชิ! ชอบนักใช่มั้ยเห็นผมเขินเนี่ย
     

    "นี่ยอล"
     

    "อะไร"
     

    "ยอลลลล"
     

    "มีอะไรล่ะ"
     

    "ชาลยอลลลลล"
     

    "เรียกอยู่ได้กลัวลืมชื่อรึไง"
     

     

    "คิดถึงนะ... ตื๊ด ตื้ด ตื้ด"

     

    คำพูดสั้นๆก่อนอีกคนจะวางสายไป ทำเอาหัวใจผมเต้นโครมครามแทบจะเด้งออกมาจากอก อะไรกันความรู้สึกแบบนี้ ทั้งที่ตัวเองก็มีคนรักอยู่แล้ว ยังจะมาพูดแบบนี้กับผมอีก

     

    พี่คริสจะรู้บ้างมั้ยว่าชาลยอลคนนี้แพ้คำพูดหวานๆแบบนี้ ได้โปรดถ้าพี่แค่เล่นๆอย่าทำแบบนี้กับผมเลย......

     

    .
     

    .
     

    .


                     ตอนนี้ผมเหมือนเป็นไอบ้าหอบฟางขนของพะลุงพะลังอยู่คนเดียว นี่ถ้่าไอแบคมันไม่ชิ่งผมไปทำงานอื่นผมคงไม่ต้องมาหาของจัดซุ้มคนเดียวหรอก นึกแล้วก็เจ็บใจ กลับไปจะไปตบหัวมันซะที
     

                     ผมวางของทั้งหมดลงพื้น ควักใบรายการสั่งซื้อขึ้นมาดู
     

    "สุดท้ายแล้วสินะจะได้เสร็จๆซะที"
     

                    ผมรวบของทั้งหมดแล้วเดินไปยังร้านเป้าหมาย นึกแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมแถวนี้คนมันเยอะนักนะ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เดินเข้าไปซื้อของปกติ สักพักก็ได้ยินเสียงกรี้ดดังกระหึ่มจนผมต้องหันไปมอง
     

    "=[ ]= พ พี่คริส" 




    ....................................................................................................................................................................................................................
    talk 
    มาแล้วตอนที่สอง คาดว่าน่าจะสี่ตอนจบ อิอิ
    พอดีคิดอะไรบางอย่างได้ บางทีวาเลนไทน์ปีนี้ อาจจะมีอีกคู่มาให้เชยชมกัน
    ถ้าแต่งเสร็จอ่ะนะ อิอิ
    ขอบคุณที่ติดตานะคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×