ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [sf exo] ❥ hello love stories ( chanbaek )

    ลำดับตอนที่ #19 : [SF] SO SERIOUS : CHANBAEK : 3/3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.55K
      35
      31 ต.ค. 56


    SO SERIOUS 3

     

    AUTHER : KYUTY
    COUPLE : CHANYEOL x BAEKHYUN feat. KRIS , SEHUN
    RATE : PG-15
    NOTE : เรื่องต่อไปอาจจะซี๊ดซ๊าดพอควร คึคึ แต่ช่วงนี้ขอยอมรับ พอเริ่มเคลียร์เรื่องแอดมิดชั่น แนทตี้คนนี้....ก็ติดซีรี่ย์ทันที พอดีเจอคนหล่อ ทนไม่ไหวต้องดู กลายเป็นงมแงมแงะไม่ออก =______________= อย่าลืมไปดู School 2013 นัมซุนฮึงซู ฟินมากขอบอก คึคึคึ =.,=
























     

     

    “โอ้ยยยยยย ผิดอีกแล้วนะแบคฮยอน บอกแล้วว่าไม่ต้องทำๆ ก็รั้งจะทำอยู่ได้” ร่างผอมบางแบกแฟ้มสีดำหนาสองอันมาวางที่โต๊ะดังปัง! เรียกคนที่เอาแต่เหม่อลอยไปทางหน้าต่างแต่มือยังถือปากกาเน้นข้อความที่ขีดยาวเลยกระดาษไปเสียแล้ว

     

     

    “หรอ ผิดตรงไหนล่ะ เดี๋ยวแก้ให้”

     

    “ไม่ต้องๆ ฉันทำเอง ฉันบอกอาจารย์ไปว่านายไม่ค่อยสบายเลยขอพักยาว ส่วนงานที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง”

     

    “ไม่เป็นไร ฉันทำได้”

     

    “ได้กับผีสิ วันๆเอาแต่เหม่อ กรอกข้อมูลผิดไปหมด เฮ้อ แกนี่จริงๆเลย”

     

    “ขอทำได้มั้ย แล้วแกก็ดูอีกที ฉันไม่อยากว่าง มันทำให้....” ดวงตาแดงก่ำอีกระลอก เซฮุนหยิบกระดาษทิชชู่ที่เตรียมไว้อีกหลายกล่องเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ตั้งแต่ชานยอลหายไป แบคฮยอนก็เอาแต่เหม่อ ซักพักน้ำตาก็ไหลออกมาซะงั้น หน้าซูบลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ยอมกินข้าว กว่าจะกินแต่ละทีนี่ใช้พลังงานบังคับจนเหนื่อยเลย

     

    “อย่าเพิ่ง กลั้นไว้ก่อน งั้นเอานี้ไปแก้ นี่แล้วก็นี่ เอาให้ตายไปข้างเลย เดี๋ยวหกโมงมารับไปกินข้าวนะ” กองเอกสารมากมายวางจนสูงล้นหัว แบคฮยอนกัดริมฝีปากแน่นกลั้นน้ำตาที่จะไหล ไม่น่าเชื่อว่าผ่านมาแค่สามวันมันจะทรมานขนาดนี้ ไม่ว่าจะพยายามติดต่อไปเท่าไรก็ไม่มีการตอบกลับ ไม่กล้าเข้าไปหาในหมู่บ้านเพราะไม่รู้ว่าอยู่หลังไหน ตอนเช้าและเย็นต้องขึ้นรถประจำทางเหมือนเดิม มันไม่คุ้นเอาเสียเลย เขาไม่เจอหน้าชานยอลตั้งแต่วันนั้นมันทำให้รู้สึกอึดอัดใจแปลกๆ

     

    “ชานยอลล่ะ”

     

    “หมอนั่นก็กลับบ้านไปแล้วไง ไปก่อนนะ” เซฮุนปิดประตูจนสนิทแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหลือบมองคนที่เพิ่งโดนถามหาอยู่ยืนอยู่ตรงบันไดขั้นบนสุดที่กำลังมองมาทางเขาด้วยท่าทางอยากรู้

     

    “ซึมเหมือนเดิม อึนและมึนด้วย” บอกอาการคนข้างในให้ฟัง ชานยอลพยักหน้ารับแต่ไม่พูดอะไรต่อ

     

    “ทำไมต้องมาวุ่นวายคนกลางอย่างฉันด้วยวะ” เท้าเอวถามอย่างเอาเรื่อง ชานยอลยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วเดินลงไป ถ้ามาแค่นี้จะมาทำเพื่อ ใช้ให้เขาเข้าไปในห้องเพื่อดูอาการแบคฮยอน พอเสร็จแล้วก็ไป แค่เนี๊ย??

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แบคฮยอนตื่นขึ้นมาในสภาพอิดโรย เขาไม่ได้นอนมาหลายคืนแล้ว ยังดีที่อาทิตย์นี้อาจารย์ไปสัมมนาทั้งโรงเรียน จึงถือโอกาสนี้พักผ่อนให้เพียงพอ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลในเมื่อตัวต้นเหตุยังไม่เคยโผล่หน้ามาให้เจอซักครั้ง

     

    ขาเรียวก้าวลงบันไดอย่างเชื่องช้า พยุงตัวเองลงมาถึงโต๊ะกินข้าวที่มีกับข้าวกลิ่นหอมฉุยแต่ไม่สามารถกระตุ้นน้ำย่อยในกระเพาะได้เลย

     

    “ผอมลงรึเปล่าลูก ดูซิหน้าซูบไปเยอะเลย” ว่าแล้วก็ตักข้าวใส่จานให้จนพูน แบคฮยอนรับมาอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องกินจนหมดไม่งั้นแม่เขาไม่ยอมแน่ๆ

     

    “ผมไม่ค่อยหิว”

     

    “เซฮุนโทรมาบอกว่าลูกไม่ค่อยยอมกินอาหาร บอกแม่มาเดี๋ยวนี้ว่าเป็นอะไร” คุณนายบยอนนั่งลงซักไซ้ลูกชายคนเดียวอย่างคาดคั้น และมีคุณบยอนที่ลดหนังสือพิมพ์ยามเช้าลงมองเช่นกัน แรงกดดันจากบุพการีทั้งสองคนทำเอาแบคฮยอนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ จะให้บอกยังไงว่าอกหักจนกินไม่ได้นอนไม่หลับกันล่ะ

     

    “ผมก็กินได้ปกตินะครับ ไม่เชื่อดูๆ” ตักข้าวเข้าปากคำโตพร้อมเคี้ยวตุ่ยๆ คนเป็นแม่ส่ายหน้าระอาแต่ยอมจำนนโดยดี ไม่รู้สาเหตุไม่เป็นไร แค่แบคฮยอนกลับมากินข้าวเหมือนเดิมก็ดีแล้ว

     

    “กินเสร็จแล้วก็เอาของไปให้เพื่อนแม่หน่อยนะ”

     

    “ใครหรอครับ”

     

    “ป้ายูซอนน่ะจ๊ะ เดี๋ยวแม่เขียนที่อยู่ให้” แบคฮยอนพยักหน้ารับและฝืนกลืนข้าวคำโตลงคออย่างยากลำบาก ทำแบบนั้นอยู่นานจนข้าวหมดจานก็แอบอ้วก คนมันไม่อยากอาหารแต่ต้องฝืนกินมันเป็นอะไรที่ทรมานมาก

     

    “เอานี่ อยู่หมู่บ้านข้างๆเรานี่เอง หลังแรกฝั่งขวาเลยนะ” ยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆพร้อมถุงที่บรรจุกล่องของฝาก ลูกชายคนเดียวของบ้านรับมันมาแล้วออกไปลากจักรยานที่ไม่ได้ใช้มานานมาขี่

     

    “กลับมาเร็วๆนะลูก เหมือนฝนจะตกแล้ว”

     

    “ครับแม่”

     

    แบคฮยอนวางของฝากไว้ที่ตะกร้าด้านหน้าแล้วใช้เท้าปั่นเจ้าจักรยานสีแดงแปร๊ดออกจากหมู่บ้านตัวเอง ใจสั่นอยู่ลึกๆที่ได้เข้ามาในเขตหมู่บ้านของชานยอลแล้ว แต่ก็นึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสที่จะสำรวจว่าบ้านชานยอลอยู่หลังไหน เพราะเข้ามาถึงเขาก็เจอบ้านหลังแรกฝั่งขวาเสียแล้ว ตัวบ้านเหมือนกับบ้านหลังอื่นๆตามแบบฉบับหมู่บ้านจัดสรร ด้านหน้ามีต้นไม้อยู่หลายต้นให้ร่มเงา แต่ตอนนี้ไม่มีแดดซักนิดเพราะเมฆคล้ำลอยมาบดบังจนหมด แบคฮยอนรีบกดออดก่อนที่ฝนจะตกลงมาจริงๆ

     

    “มาแล้วครับๆ” เสียงคุ้นหูจากในตัวบ้าน และร่างสูงยาวที่โผล่ออกมา ร่างสูงในชุดสบายกำลังสวมรองเท้าแตะโดยไม่ได้เงยหน้ามองผู้มาใหม่ แบคฮยอนหันหนไปคว้าถุงของฝากเตรียมยื่นให้คนที่คิดว่าน่าจะเป็นลูกชายบ้านนี้ ประตูเล็กเปิดออกพร้อมเจ้าของบ้านที่ยิ้มต้อนรับ

     

    “ชานยอล...” ร่างเล็กที่ยืนข้างจักรยานแน่นิ่งไป ไม่ต่างจากอีกคนที่ค้างไปเหมือนกัน ทั้งตกใจและไม่คาดคิดว่าจะมาเจอกันในสภาพนี้

     

    “แบคฮยอน...มาได้ไง” ใบหน้าหวานดูโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด คล้ายกับคนอดหลับอดนอน ขอบตาก็บวมแปลกๆ ดูแดงช้ำน่าสงสาร

     

    “เอาของมาฝากป้ายูซอน...” พอเห็นหน้าแล้วน้ำตาพาลจะไหล แบคฮยอนกดความรู้สึกคิดถึงเอาไว้แน่น หลบสายตากลัวว่าจะเผลอพุ่งเข้าไปกอด แต่ในเมื่อชานยอลตัดสินใจจะเลิกยุ่งกับเขาแล้ว เขาก็ไม่มีสิทธิ์จะพูดอะไรได้อีกแล้ว

     

    แปะ...........แปะ แปะ แปะ แปะ ซ่า!

     

    เม็ดฝนหยดจนมากลางหน้าผากก่อนจะกระหน่ำเทลงมายกใหญ่ ชานยอลป้องหน้าตัวเองไว้แล้วมองอีกคนที่ยืนอยู่ที่เดิม จึงจับแขนนั่นแล้วลากให้เข้าบ้านก่อนจะเปียกไปมากกว่านี้

     

    “ไม่เป็นไร เอานี่ไป ฉันจะกลับแล้ว” บางทีฝนก็ดีเหมือนกัน มันยังช่วยพรางไม่ให้อีกคนเห็นน้ำตาที่กลิ้งหลุนออกมาจากดวงตาเขา

     

    “ฝนตกขนาดนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดกันพอดี เข้ามาก่อน” ออกแรงมากขึ้นเพื่อดึงคนดื้อเข้าบ้าน แต่แบคฮยอนก็ฝืนตัวเองไว้

     

    “นายรีบเข้าบ้านไปเถอะ ฉันจะ...”

     

    “ก็บอกให้เข้ามาไง!” ร่างเล็กสะดุ้งโหยง ก้มหน้าซ่อนน้ำตาที่ไหลไม่หยุดด้วยความกลัว

     

    “ขะ เข้า กะ ก็ได้” แบคฮยอนยอมเดินตามแรงฉุดอย่างหวาดกลัว ไม่เคยโดนชานยอลตะคอกใส่แบบนี้มาก่อน ชานยอลลากจักรยานสีแดงเข้าบ้านมาพิงไว้ที่เสาแล้วดึงอีกคนเข้าบ้านทั้งทีเปียกหมดทั้งตัวแล้ว

     

    “ว๊ายตายแล้ว ทำไมเปียกแบบนี้ล่ะลูก” คนเป็นแม่เดินออกมาจากห้องครัวด้วยความเป็นห่วง

     

    “แบคฮยอนเอาของมาฝากแม่” ยื่นถุงพลาสติกที่เปียกน้ำให้แก่มารดา

     

    “แม่ผมชื่อนาอึนครับ” กลั้นก้อนสะอื้นแล้วพูดออกไป กลัวคนอื่นจะรู้ว่าเขาร้องไห้อีกแล้ว พอมีชานยอลเข้ามาในชีวิตบ่อน้ำตาก็ตื้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น สะกิดนิดเดียวเขาก็งอแงแล้ว

     

    คุณนายปาร์คร้องอ๋อทันทีที่ได้ยินชื่อ แล้วส่งยิ้มหวานให้ลูกชายเพื่อนสมัยเรียนด้วยความเอ็นดู

     

    “บังเอิญจังเลย แม่ก็เพื่อนกัน ลูกก็ยังเป็นเพื่อนกันอีก แต่ตัวเปียกขนาดนี้ขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป เดี๋ยวจะไม่สบายเอา ดูสิ ตากฝนจนซีดหมดแล้ว ตาก็แดง”

     

    “ผมเกรงใจ...”

     

    “แบคฮยอนคงต้องรออยู่ที่นี่ก่อนนะลูก ฝนตกหนักขนาดนี้คงออกไปไม่ได้ เดี๋ยวแม่โทรบอกนาอึนเอง” เป็นชานยอลที่พยักหน้าแทนแล้วลากคนที่ตาแดงก่ำโดยไม่รู้สาเหตุขึ้นไปที่ห้อง

     

    “อะ หาได้เท่านี้เอาไปใส่ก่อน” แบคฮยอนรับเสื้อผ้ามาก่อนจะยืนนิ่งไม่กระดิกตัวไปไหนจนชานยอลเริ่มอารมณ์เสีย เขาเป็นห่วงแทบแย่กลัวจะเป็นหวัด แต่เจ้าตัวกลับทำท่าไม่สนใจ เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง

     

    “ฉะ ฉันกลับบ้านได้ ไม่รบกวนนายหรอก”

     

    “แบคฮยอน ไปอาบน้ำ” กดเสียงให้ต่ำสุดเพื่อข่มอารมณ์ แบคฮยอนเบ้ปากแล้วเดินเข้าห้องน้ำแต่โดยดี พอปิดประตูน้ำตาก็ไหลทันที ทำไมชานยอลต้องทำท่ารำคาญขนาดนั้นด้วย แบบนี้มันเจ็บมากเลยนะ

     

    หลังจากอาบน้ำเสร็จทั้งคู่ก็เอาแต่เงียบอยู่ในห้อง มีเพียงเสียงฝนตกกระหน่ำไม่ขาดสายเท่านั้นที่ยังดังอยู่ ท้องฟ้ามืดครึ้มจนเกรงว่าฝนน่าจะตกทั้งคืน คุณนายปาร์คขึ้นมาบอกว่าคงต้องให้แบคฮยอนนอนที่นี่ก่อนเพราะแม่เขาไม่ยอมให้ตากฝนกลับมาแน่ ถึงแม้ระยะทางจะไม่ไกลแต่ก็ไม่อยากให้ลูกตัวเองไม่สบาย

     

    “ผอมลงรึเปล่า” สังเกตจากใบหน้าซูบตอบกับแขนที่ผอมผิดไปจากเดิม แม้จะคอยตามแต่ไม่เคยได้อยู่ใกล้กันขนาดนี้ เห็นแล้วมันใจหายวาบเลย

     

    “อือ กินไม่ค่อยลง”

     

    “ทำไมไม่กินข้าว”

     

    “อกหัก”

     

    “...” ชานยอลนิ่งไปซักพัก แบคฮยอนอกหัก....จากใคร พี่คริสงั้นหรอ หรือว่าเขา ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเท่าไร แต่พอเขาบอกว่าจะเลิกชอบแบคฮยอน รายนั้นก็ซึมกลายเป็นคนละคน ตอนนั้นก็ร้องไห้เสียจนเขาอยากกระชากเข้ามากอดแต่ก็ห้ามใจไว้เพราะในตอนนั้นคิดว่ายังไงแบคฮยอนก็ไม่มีทางรักตัวเอง แต่พอมาเจอในสภาพนี้ก็แอบดีใจลึกๆไม่ได้

     

    “ไม่มีคนมารับมาส่ง ไม่มีข้อความฝันดี ไม่ได้เจอหน้า เพราะคนนั้นเค้าบอกว่าจะเลิกยุ่งกับฉัน นายว่าฉันอกหักป่ะล่ะ”

     

    “...” ดีใจจนพูดไม่ออก แบคฮยอนกำลังบอกว่าอกหักจากเขา งั้นก็แสดงว่า...

     

    “หมอนั่นไม่ฟังฉันซักนิดเลย วันนั้นฉันเอาน้ำไปให้เค้า แต่พี่คริสดันมาแย่งไปก่อน พอฉันจะอธิบายก็ไม่ฟัง ฉันเรียกให้กลับมาก็ไม่กลับ ฉันยังไม่ได้บอกเค้าเลยว่าฉัน...ชอบเค้าอะ”

     

    “จริงหรอ” เก็บไว้ไม่อยู่แล้ว ชานยอลกระโดดลงไปนั่งข้างๆแบคฮยอนแล้วรวบเข้ามากอดแน่น

     

    “นาย...ยังชอบฉันอยู่รึเปล่า” ก้มมองแขนที่โอบรอบตัวอยู่ก็รู้สึกเขินๆ ไม่เคยโดนกอดแบบนี้เลย ทำไมมันอุ่นจัง...

     

    “ชอบสิ ชอบมาก รักเลยดีกว่า”

     

    “แต่นาย...ทิ้งฉัน”

     

    “ก็ตอนนี้นายดูสนใจแต่พี่คริสนี่ ฉันเห็นแบบนั้นก็หมดหวังสิ นายไม่เป็นฉันไม่รู้หรอก มันเจ็บมากๆเลยนะ เลยยอมถอยดีกว่า”

     

    “แต่ฉันไม่ได้ชอบพี่คริส”

     

    “รู้แล้ว ฉันรู้แล้วว่านายชอบฉัน” ก้มมองคนที่แก้มแดงปลั่งน่าดู อดใจไม่ไหวหอมแก้มไปฟอดใหญ่

     

    “หอมทำไม” ยกมือปิดแก้มใสของตัวเอง

     

    “ดีใจจัง ช่วยบอกอีกทีได้มั้ยว่านายรู้สึกยังไงกับฉัน นะ” โยกตัวไปมาทำให้แบคฮยอนที่นั่งอยู่ในอ้อมกอดอุ่นต้องโยกตาม บทจะเด็กก็เป็นเด็กปัญญาอ่อนเลยนะปาร์คชานยอล

     

    “ก็บอกไปแล้วนี่ ไม่พูดแล้ว”

     

    “บอกหน่อย อยากได้ยิน”

     

    “ไม่เอา นายยังไม่เห็นบอกฉันเลย” เหมือนจะพลาดที่พูดออกไปแบบนั้น เพราะชานยอลดูไม่เขินแม้แต่นิดที่จะพูดคำนั้นออกมาเลย

     

    “ฉันรักแบคฮยอน รักมากๆเลย รักสุดๆ รักแบคฮยอนแบบโงหัวไม่ขึ้นเลย รักที่สุด รักจริงๆนะ” อดใจไม่ไหวที่จะหอมแก้มนุ่มนิ่มแดงปลั่งน่ามองไปหลายทีจนชื่นใจ กลิ่นหอมของสบู่ตรึงใจจนอยากจะรังแกจนแก้มนั้นช้ำเสียจริง

     

    “พอแล้ว” ยกมือปิดแก้มที่ถูกสัมผัสจนนับไม่ถ้วน ใบหน้าเห่อร้อนจนแดงเถือกไปทั้งหน้า

     

    “แบคฮยอนบอกบ้างสิ นะ อยากฟังมากๆเลย”

     

    “งื้อ รักชานยอลนะ” พูดทั้งที่ไม่เอามือออกจากหน้า ท่าทางน่ารักของคนที่เอามือดันแก้มกับดวงตาใสแจ๋วจริงใจที่มองยิ่งทำให้หัวใจพองโตเป็นบอลลูนลูกใหญ่ๆอัดแน่นอยู่ในอก

     

    ร่างเล็กฝืนมองอีกคนไม่ไหวจึงหลบสายตารักใคร่นั้นด้วยการก้มหัวลงปักที่กลางอกชานยอลดังอั่ก! แล้วดันหัวตัวเองขึ้นจนคางอีกฝ่ายจิ้มที่กลางหัว ส่ายหน้าไปมาให้คางได้รูปนั่นถูไถกับกลุ่มผมตัวเอง พึมพำเบาๆไปมาว่า “เขินจัง” คนได้ยินถึงกับหัวเราะกับท่าทางเหมือนเด็กขี้อ้อนคนนึงผิดกับภาพลักษณ์ประธานนักเรียนแสนระเบียบคนนั้นลิบลับ

     

    “น่ารัก”

     

    “พูดกับใครอะ”

     

    “พูดกับคนที่ซุกตัวอยู่บนตักฉันจนแทบจะสิงร่างฉันอยู่แล้วน่ะสิ”

     

    “ง่ะ ไม่ได้จะสิงซักหน่อย ฉันเข้าไปในตัวนายได้ที่ไหน” เอานิ้วจิ้มที่ท้องเพื่อบอกตามที่พูดไป ผงกหัวขึ้นแกล้งให้คนที่เอาคางเกยหัวเขาอยู่เงยหน้าจนคอเคล็ดไปเลย

     

    “นั่นสิ นายเข้าไปในตัวฉันไม่ได้หรอก ฉันต่างหากที่เป็นคนเข้าไปในตัวนาย” แบคฮยอนยอมเงยหน้าขึ้นมาถามดีๆ คำพูดแปลกๆที่ฟังยังไงก็ไม่เข้าใจ เข้า? เข้ายังไงล่ะ?

     

    “เข้ายังไง”

     

    “ก็เข้าแบบ....” เลื่อนมือลงต่ำไปหยุดที่สะโพกมนพลางบีบเบาๆให้รู้สึก แบคฮยอนแทบผวาออกจากตักแต่ก็โดนรวบไว้เสียก่อน เรียวหน้าแดงขึ้นฉับพลันเมื่อรู้ถึงประโยกชวนคิดลึกนั่น

     

    “บะ บ้า ชานยอลบ้า ลามกอะ!” อายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว ยิ่งอีกคนหัวเราะเขาอย่างสนุกขนาดนั้นก็ยิ่งอาย

     

    “ชานยอล แม่ว่า...ว๊ายยยยยยยยยยยย” สองคนสะดุ้งที่อยู่ดีๆคุณนายเจ้าของบ้านก็เปิดพรวดเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียงแถมยังร้องดังลั่นบ้าน คุณแม่สุดสวยเดินมาดึงก้อนสิ่งมีชีวิตนามว่าแบคฮยอนบนตักลูกชายตัวเองแล้วรวบมากอดไว้เอง

     

    “ชานยอล ทำอะไรแบคฮยอนน่ะ” เอ่อ ตกลงนี่แม่ใครวะเนี่ย - -

     

    “กอดเฉยๆ”

     

    “ไม่น่าไว้ใจ แบคฮยอนไปนอนกับแม่ดีกว่า”

     

    “เฮ้ยแม่ ไม่ได้นะ คนนี้แฟนผม”

                                                                                                                                    

    “ห๊ะ” ทั้งคุณนายปาร์คและแบคฮยอนก็ร้องออกมาพร้อมกัน ก่อนคนเป็นแม่จะพาร่างเล็กเดินลงบันไดมาหาหัวหน้าครอบครัวที่นั่งดูทีวีอยู่ข้างล่างโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของลูกชายเลยแม้แต่น้อย

     

    “คุณๆ ลูกเราบอกว่าแบคฮยอนเป็นแฟน”

     

    “งั้นก็ดีแล้วนี่ สมหวังซักทีตามจีบตั้งนาน” แบคฮยอนขมวดคิ้วสงสัย ดูพ่อกับแม่ของชานยอลจะมีท่าทางแปลกๆ ไม่ตกใจหรือแสดงอาการอะไรเลยหรอที่ลูกชายตัวเองบอกว่าเขาเป็นแฟนน่ะ

     

    “หนูยอมง่ายไปมั้ยลูก น่าจะเล่นตัวอีกซักหน่อยนะ”

     

    “แม่ หยุดเลย เอาแบคฮยอนคืนมา”

     

    “แม่ถามเค้าอยู่ อย่าเสียมารยาทสิ ว่าไงลูก ชอบชานยอลแล้วหรอ” เกือบจะดีใจอยู่แล้วเชียวว่าคุณแม่ของชานยอลจะปกป้อง แต่เล่นถามกันแบบนี้เริ่มอยากจะกลับเข้าห้องเสียแล้วสิ มันน่าอายที่จะบอกว่าชอบต่อหน้าคนอื่น โดยเฉพาะคนอื่นที่ว่าเนี่ยคือพ่อกับแม่ของชานยอล

     

    “คุณก็ ไปถามอะไรแบบนั้น ดูสิ เขินหน้าแดงหมดแล้ว” แบคฮยอนส่งสายตากึ่งขอร้องไปหาชานยอลที่มองเขาอยู่ โดนรุมแบบนี้อยากจะหายเข้าไปในผนังเสียจริง

     

    “เอาเป็นว่า ผมและแบคฮยอนรักกัน เป็นแฟนกันแล้ว จบนะครับ เจอกันพรุ่งนี้เช้า ราตรีสวัสดิ์ครับ” ใช้กำลังที่มีมากกว่าแม่ตัวเองดึงแบคฮยอนมาไว้กับตัว ฝ่ายแม่กำลังจะท้วงแต่เจ้าลูกชายตัวดีก็ลากว่าที่สะใภ้สดๆร้อนๆขึ้นห้องไปเสียแล้ว

     

    “ลูกเราจะทำอะไรแบคฮยอนมั้ยเนี่ย อยู่กันสองต่อสองอีก แล้วถ้าลูกเราเกิดคึกขึ้นมา...”

     

    “คิดลึกนะคุณน่ะ ปล่อยเค้าไปเถอะ ลูกเราสุภาพษุรุษพอน่า”

     

     

     

     

     

    กว่าจะลากกลับขึ้นห้องมาได้ก็เล่นชานยอลเสียเหงื่อไปหลายหยด แม่นะแม่ เล่นแบบนี้ไม่ไหวเลย

     

    “ที่แม่นายพูด หมายความว่าไงหรอ”

     

    “หือ แม่พูดอะไร”

     

    “ก็แม่นายบอกว่า ยอมง่ายไปมั้ย เหมือนแม่นายรู้เลยว่านาย..ชอบฉัน”

     

    “แฮะๆ ฉันก็เล่าแม่หมดนั่นแหละ ไม่งั้นแม่จะปล่อยให้คนที่เจอหน้าครั้งแรกขึ้นบ้านได้ไง”

     

    “เจ้าเล่ห์”

     

    “ไม่เจ้าเล่ห์ก็ไม่ได้แฟนสิ” แกล้งอีกคนด้วยการดึงให้ลงไปนอนเบียดกันบนเตียงเดี่ยวภายในห้อง เพิ่งเห็นประโยชน์ของการมีเตียงแคบๆก็ครั้งนี้แหละ หึหึ

     

    เริ่มแปลกๆที่ไม่โดนโวยวายตามที่ควรจะเป็น แบคฮยอนนอนนิ่งปล่อยให้เขากอดง่ายจัง

     

    “ไม่ดิ้น?”

     

    “ก็...อุ่นดี”

     

    ปารฺคชานยอลจะบ้าตาย เจอแบคฮยอนแอคแท็กเข้าไป แทบตายสนิท กระชัดกอดให้แน่นขึ้นอีกจนเขาก็รู้สึกถึงหัวใจอีกคนที่เต้นแรงไม่แพ้กัน

     

    “บ้าบ้า เค้าเขินนะตัวเอง”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “แก ดูนั่นดิ ประธานบยอนไม่ใช่หรอ จับมือกับใครน่ะ”

     

    “เออๆนั่นดิ ยังกับแฟนกัน”

     

    “ปาร์คชานยอลรึเปล่าที่เดินด้วยกันน่ะ”

     

    “แก๊ คนนึงหล่อ คนนึงน่ารัก ทำไมประธานน่ารักขนาดนี้”

     

    “ได้กันยังอะแก๊”

     

    เอ่อ หลังๆเริ่มไม่ใช่ละ

     

    เอาเป็นว่า ตั้งแต่เดินเข้ามาก็มีเสียงดังแซ่ดๆไม่หยุด เหล่านักเรียนหญิงชายต่างจับกลุ่มคุยซุบซิบไม่เกรงใจเจ้าของชื่อในบทสนทนาที่ดูจะดังเกินคำว่านินทา

     

    อะไรกัน เขาก็แค่แสดงความเป็นเจ้าของด้วยการจับมือเดินมาและแอบกระหนุงกระหนิงกันนิดหน่อยตามประสาแฟนกันเท่านั้นเอง ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้...

     

    “ตอนเที่ยงมารับนะ”

     

    “อื้อ รีบไปห้องเรียนเถอะ”

     

    “แบคฮยอน! ทำไมทำกับพี่แบบนี้ล่ะะะะะะ” หันมาเจอกับรุ่นพี่หน้าหล่ออย่างกับเทพบุตรวิ่งหน้าตาตื่นกับเสียงร้องโหยหวนชวนขนลุก

     

    “พี่คริส...”

     

    “เป็นแฟนกับไอ้ยอลได้ไง พี่จีบเราก่อนนะ”

     

    “ไอ้พี่คริสสสสสสสสสสสส” ตามด้วยเสียงโหยหวนอีกคนที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา กระชากหัวรุ่นพี่อย่างไม่เกรงกลัวมาไว้ด้านหลังแล้วเท้าเอวมองอย่างหาเรื่อง

     

    “ถอยไปเลย พี่กำลังเฮิร์ทนะ”

     

    “ไม่ ผมไม่ยอมให้พี่ขัดขวางสองคนนี้หรอก เค้ารักกันนะ อย่าคิดจะแย่ง!” โหว เจ็บจี๊ดเลย อย่างกับไอ้รุ่นน้องตัวผอมโปร่งนี่เอานิ้วโป้งเท้า(?)มาจิ้มกลางใจอู๋อี้ฟานเลย

     

    “แต่พี่จีบแบคฮยอนอยู่นะ พี่ไม่ยอม” บอกทีนี่คือรุ่นพี่ ทำตัวติงต๊องไปป่ะ =______________________=

     

    “งั้นพี่ก็จีบผมแทนสิ”

     

    ห่ะ....





















    100% END

     

    :) Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×