คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : n e g a t i v e : 0 0
0 0
กลางคืนเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบ เหมาะแก่การผ่อนคลายจากเรื่องที่ทำมาตลอดทั้งวัน ปลดปล่อยร่างกายให้ได้ซ่อมแซ่มส่วนที่ใช้ไปและเริ่มต้นใช้งานใหม่ในวันรุ่งขึ้น หากแต่มีบางพวกที่ยังไม่หลับใหล พวกเขาจะอยู่เที่ยวเตร็ดเตร่ เดินไปเดินมา บ้างนั่งดื่มเพื่อให้หายทุกข์ใจ บ้างดื่มเพื่อความสนุกสนาน บ้างขับรถเล่นชมวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนเพื่อผ่อนคลายสบายอารมณ์ หากแต่มีอยู่หนึ่งคน ที่เค้ากำลังขับรถไปอย่างบ้าคลั่งเพื่อหลีกหนีอะไรสักอย่าง
ปรี๊ดดดดดดดดดดดด
“โอ้ยย หยุดสักที” ชายหนุ่มที่หน้าตาค่อนไปทางสวยสบถออกมาอย่างเหลืออดแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ยินก็ตาม เหงื่อไหลซึมตามมือที่จับพวงมาลัยรถยนต์แน่น กรอกมาขึ้นมองกระจกหลังสลับกับมองไปข้างหน้า
ปรี๊ดด ๆ
“ขอร้องล่ะ เลิกตามฉันสักที!!” เสียงแปรถยนต์ดังอย่างไม่ลดละ คนที่กำลังทุกข์เริ่มร้องไห้ออกมาอย่างอดทนไม่ไหว เหลียวมองแสงไฟสีขาวจากรถคันสีดำที่ขับไล่จี้มาสลับกับดูที่กระจกข้าง ผู้หญิงคนนั้น...ตามฆ่าเขามาหลายวันแล้ว แล้วนี่ก็เป็นอีกวันที่อีกคนยังตามเขาอยู่ เธอขับรถไล่เขามาตั้งนานแล้ว แล้วยังไม่มีทีท่าจะหยุดลง
ตี๊ด ตี๊ด
“ฮะ ฮัลโหล” ชายหนุ่มรับโทรศัพท์อย่างรีบร้อน เขาไม่มีเวลามาสนใจแล้วว่าตอนนี้ใครโทรมา ขอให้เป็นคนที่ช่วยเขาได้ก็พอ
“ว่าไง ลู่หาน” เสียงผู้หญิงดังเล็ดลอดออกมา ดวงตาของลู่หานเบิกโพลง หน้าซีดเผือกราวกับว่านี่จะเป็นการพูดคุยครั้งสุดท้ายของเขา ไม่รู้ทำไมถึงได้คิดแบบนั้น แต่จิตใต้สำนึกส่วนลึกมันกระตุ้นให้เขาเหยียบคันเร่งมากกว่าเดินจนมิด ความเร็วบนกรอบไม่ได้ทำให้หวาดกลัว แต่รอยยิ้มหยักของผู้หญิงคันข้างหลังนั่นมากกว่าที่ทำให้เขากลัว...
“ธะ เธอโทรมาทำไม เธอต้องการอะไรจากฉันกันแน่!” ลู่หานตะคอกกลับไป
“ฉันบอกนายกี่ทีแล้วเสี่ยวลู่ ว่าฉันจะฆ่านาย!” ชื่อเล่นที่เพื่อนตั้งให้ตอนยังเรียนอยู่ในโรงเรียนดังออกมา ผู้หญิงในสายตอบกลับด้วยเสียงนิ่งๆ ท่าทีไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้น แตกต่างกับคนฟังที่สั่นกลัวจนมือที่จับพวงมาลัยไม่คงที่
“ไม่ เธอจะฆ่าฉันไปทำไม ปล่อยฉันไปเถอะ” ชายหนุ่มไม่มีทางเลือก จึงขอร้องไปอย่างไร้ความหวัง เขารู้อยู่แล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางปล่อยเค้าให้ได้สุขสบายตามที่ขอ แต่เขาก็ยังหวังว่าสักเสี้ยวหนึ่งในจิตใจของเธอ อาจจะหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้าง
“ปล่อยนายหรอลู่ นายทำอะไรกับฉันไว้นายจำไม่ได้หรอ ฉันจำได้ขึ้นใจเลยนะ และจะไม่มีทางลืมตลอดชีวิต! เตรียมตัวตายได้แล้ว ลาก่อนเพื่อนที่เคยรัก..” ปลายสายตัดสายทิ้งไปแล้ว เหลือแต่ลู่หาน ที่สั่นสะท้าน ขนลุกเกรียว ระแวงไปรอบด้าน ก่อนที่เสียงอึกทึกคึกโครมจะดังขึ้น กลบเสียงเพลงคลื้นเครงในยามราตรีจนหมดสิ้น..
โครมมมม !!!
_____ _____ _____
การแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคน หากรักกันและคิดที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนั่นถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ถ้าหากทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เคยหวังไว้ ชีวิตแต่งงานที่เป็นเรื่องของคนสองคน ก็จะมีอุปสรรคขวากหนามร้อยพันที่จะมาทิ่มแทงจนเกิดรอยแผล และท้ายที่สุดรอยแผลนั้นก็จะเน่า เปื่อย ผุพัง ไม่มีทางรักษาให้หายขาด และทุกอย่างก็จะไม่เหลืออะไรเลย..
“งั้นตอนนี้คงถึงเวลาสำคัญแล้วสิ สวนแหวนให้เจ้าสาวหน่อยสิคะคุณเจ้าบ่าว” พิธีกรสาวสวยตัวเล็กที่ยิ้มแล้วใครๆก็ต้องหันมองเป็นแถบ ซันนี่พูดด้วยเสียงหวานๆพร้อมรอยยิ้มให้กับเพื่อนรักทั้งสองคนที่ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตรักอย่างสมบูรณ์แบบเสียที
“สวมเลยๆๆ” แขกเหรื่อในงานต่างตะโกนพร้อมกันเหมือนนัดกันมา งานนี้เป็นงานแต่งงานเล็กๆ มีแต่เพื่อนกันทั้งนั้น จึงไม่แปลกที่จะมีการแซวเล่นกันอย่างสนุกสนาน
“ยอนฮี ยื่นมือมาสิครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆให้เจ้าสาวของเขายื่นมือออกมา หญิงสาวยิ้มรับก่อนจะยื่นมือเรียวเล็กให้กับฝ่ามืออุ่นที่รอรับอยู่ไม่ไกล
“ค่ะ”
“แต่งงานกันทั้งทีแต่ไม่ชวนน้องคนนี้รึไงคะพี่ชานยอล” แหวนที่บรรจงสวมให้อย่างเบามือจนเสร็จเรียบร้อยแต่มีเสียงหนึ่งดังเล็ดลอดออกมา หญิงสาวร่างเพรียวบางสวมเสื้อสีดำสนิทกับกระโปรงเอวสูงโชว์เรียวขายาว รองเท้าส้นสูงกับกรอบแว่นตากันแดดเข้าชุดสีดำกันได้เป็นอย่างดี ผมถูกจัดทรงด้วยลอนใหญ่เสริมให้ดูสวยมากขึ้นไปอีก แต่คำพูดที่ออกมานั้นกลับทำให้มันดูตรงข้ามกับรูปลักษณ์ภายนอกเสียเหลือเกิน
“อารา ใครให้เธอเข้ามา เค้ามีงานกันรู้มั้ย” ซันนี่ที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบดึงแขนเพื่อนอีกคนให้ออกห่างจากงาน แต่เจ้าของชื่อกลับยืนนิ่งๆมองคู่บ่าวสาวที่จับมือกันอย่างรักใคร่
เห็นแล้วอยากจะขยี้ให้แหลกคามือ!
“งานดีขนาดนี้พี่จงอินไม่เห็นจะชวนอาราบ้างเลย” อาราเดินเข้าไปหาคิมจงอินที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายของเธอ ความจริงแล้วเธอก็รู้อยู่แล้วว่าที่บ้านของเธอมีงานแต่งงานขึ้น บ้านของเธอหลังใหญ่ พี่ชายของเธอก็ชอบที่จะชวนเพื่อนมาจัดงานเลี้ยงที่นี่ เดิมทีเธอก็จะไม่สนใจอะไรหรอก ถ้านี่ไม่ใช่งานแต่งงานของคนที่เธอชอบ...พี่ชานยอลกับยัย...อียอนฮีบ้านั่น!
“ไหนเราบอกว่าวันนี้จะไม่กลับบ้าน” จงอินเข้ามากระซิบถามให้ได้ยินกันสองคน มันไม่ดีแน่ ถ้าน้องสาวของเขาอยู่ที่นี่ตอนนี้ ในงานแต่งงานของชานยอลกับคนที่มันรัก
อาราชอบชานยอลมาเกือบสิบปี...สิบปีที่ชานยอลไม่เคยรักอารามากกว่าน้องสาวเลย...
“ถ้าฉันไม่กลับ ฉันจะได้เห็นว่าเพื่อนพี่จงอินเค้ามีความสุขขนาดนี้หรอคะ” หญิงสาวเค้นยิ้มให้คนทั้งคู่ สายตาที่เคยไร้เดียงสากลับเต็มไปด้วยความโกรธรุนแรง เธอไม่เคยดิ้นรนให้ชานยอลมารัก เพราะเธอคิดว่าเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจ ถึงจะนานแค่ไหนก็รอได้เสมอ แต่มีคนมาแย่งคนที่เธอรักไปอย่างง่ายดาย และถึงขนาดจัดงานแต่งมันยิ่งทำให้ความหวังริบหรี่เต็มทน แล้วเรื่องอะไรเธอจะให้คนอื่นมาขวางทางกัน...
“อารา ขึ้นห้อง”
“ไม่ค่ะ อย่างน้อยฉันก็ควรแสดงความยินดีสักหน่อย แย่จังที่เผอิญฉันใส่ชุดสีดำมา พอดีรู้สึกถึงความอัปมงคลแถวนี้ก็เลยใส่” รองเท้าส้นสูงราคาแพงสาวเท้าเข้าหาเจ้าสาวในชุดฟูฟ่องสีขาวสะอาด ยอนฮีกำช่อดอกไม้แน่นในระหว่างที่ถอยหลังไปเล็กน้อยเพื่อตั้งรับกับเจ้าของบ้านที่ดูจะโมโหร้ายพอตัว
“อารา นี่เธอจะทำอะไร”
“แสดงความยินดีค่ะ ฉันหวังว่าเราจะได้เจอกันอีก...” อารามองหน้ายอนฮีด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ไม่มีใครรู้ว่าซ่อนอะไรไว้บ้าง ก่อนที่ชานยอลจะจับให้ยอนฮียืนซ้อนหลังเขา แต่อาราก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการส่งยิ้มหวานให้และเดินกลับเข้าไปในบ้าน...
___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___
มาใหม่ เรื่องนี้ไม่ดอง กรั่กๆ
ถามว่าเรื่องนี้แนวไหน...เดี๋ยวรู้เลย
#ฟิคติดลบ
ความคิดเห็น