ประเพณีแห่ผีโบราณ
ในแต่ละปีพอใกล้ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ชาวบ้านจะจัดงานเทสมหาชาติ หรือบุญผเวส อันเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ของชาวพุทธศาสนิกชนทั่วไปและถือเป็นส่วนหนึ่งของฮีตสิบสองของชาวอีสาน หรือ พิธีสิบสองเดือนทางภาคกลาง แต่ชาวไฮหย่องได้จัดเป็นพิเศษออกไป คือมีการแห่ผีโบราณ
การแต่งกายของผีโบราณที่พังโคน เจริญ ตันมหาพรานได้กล่าวไว้ว่า เนื่องจากสมัยก่อนจำนวนประชากรยังน้อย บรรพบุรุษอยากให้การเล่นผีโบราณดำเนินอย่างต่อเนื่อง เพื่อปฏิบัติศาสนากิจในปีต่อไป หากไม่กำหนดระยะเวลาการเล่นผีโบราณ ปีต่อไปผู้คนอาจน้องลงหรือไม่มีเลย จึงกำหนดเพศชาย ต้องเล่นติดต่อกันอย่างน้อย 6 ปี ส่วนเพศหญิงต้องอย่างน้อย 3 ปี แม้ปีถัดมาใครมีเวลาน้อย อนุญาตให้สวมเครื่องแต่งกายผีลงเต้นแค่รอบสองรอบ ( เจริญ ตันมหาพราน, 2541 : 25 )
ซึ่งลุกหลานชาวไฮหย่องได้ปฏิบัติเป็นวินัยอย่างเคร่งครัด และเป็นความภาคภูมิใจของผู้ชาย เพื่อชื่อว่าเป็นชาวไฮหย่องอย่างแท้จริง แม้จะไปสู่ขอหญิงใดเป็นภรรยา ทางพ่อแม่ยาติพี่น้องก็ไม่มีความรังเกียจ นอกจากนี้ ยังเป็นการสอนทางอ้อมให้ชาวไฮหย่องมีความอดทนทำอะไรต้องทำให้สำเร็จ สำหรับเครื่องประกอบพิธีนั้นต้องมี
1. ผู้ร่วมเล่นผีโบราณที่มีอายุอย่างน้อง 18 ปีขึ้นไป
2. เครื่องแต่งกาย มีลักษณะคล้ายกับพวกผีวูดูของฝรั่ง โดยได้นำเอาไม้งิ้วหรือไม้นุ่นมาตัดให้มีขนาดกว้าง 30 ซ.ม. ยาว 50 ซ.ม. แล้วแกะสลักให้มีความน่ากลัวที่สุดตามจินตนาการของ แต่ละคนว่ารูปร่างหน้าของผีต้องเป็นอย่างนี้อย่างนั้น ต่อจากนั้นนำปูนขาวและดินหม้อมาทาให้เกิดลวดลายพอสวยงาม แต่ในปัจจุบันใช้สีทางวิทยาศาสตร์ ส่วนเครื่องแต่งกาย ผู้ที่จะเล่นต้องไปเที่ยวขอจีวรเก่าๆที่ไม่ใช้แล้วจากภิกษุสงฆ์จามวัดต่างๆมาตัดเป็นเสื้อรุ่มร่ามยามคลุมถึงน่อง เส้นผมใช้เปลือกกล้วยแห้งมาถักให้ยาวถึงน่องและผนึกติดกับหน้ากากโขน หนวดเครา ใช้เครือหูก ( เศษผ้าจากการทอผ้าพื้นบ้าน ) มาทำเป็นหนวดเครายาวๆ อาวุธของผีโบราณ มีดาบ หน้าไม้และอวัยวะเพศที่ทำจากไม้นุ่น
3. เครื่องดลตรี เช่น กลองตุ้ม กระดิ่งแขวนคอควาย ฯ
4. เจ้าปู่อุปฮาดกาพย์เซิ้งผีโขน
เริ่มก่อนหน้าวันงานบุญพระเวสประมาณ 7 วน พวกผีโบราณจะพากันไปตามหมู่บ้านต่างๆเพื่อเชิญชวนชาวบ้านให้รวมงานบุญกุศลครั้งนี้ ดังนั้นพอตกกลางคืนเวลาตี 3 ซึ่งเป็นช่วงเวลาผีออกเร่ร่อนขอส่วนบุญ ชาวบ้านที่นอนอยู่จะได้ยินเสียงเวิ้งแว่วมาแต่ไกลเป็นหมู่คณะทำนองเนื้อร้องจะเป็นนิทานคติเตือนใจสอนให้ผู้คนทำดีจะมีผลดีตอบแทน หากทำชั่วผลกรรมนั้นจะคืนสนอง หากเป็นช่วงกลางวัน พวกผีโบราณจะเซิ้งขอไปตามบ้านต่างๆลงท้ายก็อวยพรให้ผู้เป็นเจ้าบ้านมีความสุข นำเอาข้าวปลาอาหารแห้งมาให้ บางคนก็ให้ทานเงินทองโดยพวกผีจะนำเงินเหล่านี้ถวายวัดให้ไปบูรณปฏิสังขรณ์ต่อไป ก่อนที่จะออกไปเล่นผีโบราณในแต่ละปี ผู้ที่เป็นหัวหน้าจะพาลูกน้องไปคารวะเจ้าปู่อุปฮาดที่ต้นไทรใหญ่กลางหมู่บ้าน บูชาด้วยดอกไม้ ธูปเทียน เพื่อเป็นการบอกกล่าวและขออนุญาตเล่นผีโบราณ ต่อจากนั้นพากันเซิ้งต่อหน้าศาลศักดิ์สิทธิ์ใต้ต้นไทรใหญ่ จึงเป็นอันว่าการเล่นผีโบราณในปีนั้นเริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว
คำเซิ้งผีโขน หรือกาพย์เซิ้งผีโขน ชาวไฮหย่องได้มาจากหนังสือเจียงของทางเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นของเดิมเป็นตัวธรรม แต่บรรพบุรุษได้แปลเป็นภาษาอีสานให้อ่านเข้าใจง่าย มีลักษณะเป็นนิทานสอนใจ แฝงไปด้วยความสนุกสนานเวลาเล่น โดยมีการหยอกเย้าแกมขอบริจาค
ก่อนนั้น เครื่องแต่งกายของผีโบราณหรือผีตาโขนเป็นสีเหลืองสดของจีวรพระเวลาสวมหน้ากากแล้ว บางคนอาจเข้าใจผิดเป็นพระภิกษุออกมากระโดดโลดเต้นผิดวิสัยของผู้ทรงศีลทั่วไป ทำให้เสียความรู้สึกแก่ชาวพุทธทั้งหลายจนกระทั่งก่อนหน้านี้ประมาณ 4 ถึง 5 ปี บรรดาผู้ใหญ่ ชาวไฮหย่องได้ประชุมกัน และเห็นพ้องต้องกันว่า ควรนำจีวรเก่าไปย้อมให้ดำคล้ำเพื่อป้องกันการเกิดความเข้าใจผิด ตั้งแต่นั้นมาสีสันของเครื่องแต่งกายผีโบราณ
อย่างไรก็ตามก่อนจะเลิกเล่นผีโบราณของแต่ละปี ผู้ที่เป็นหัวหน้าจะพาลูกน้องไปถวายต้นเงินที่บริจาคมาได้ และนำคณะทั้งหมดสวดมนต์ไหว้พระ แล้วขอขมาพระคุณเจ้าที่อยู่ที่วัด เพราะได้เข้ามาร่วมในขบวนแห่พระเวส อาจมีความผิดพลาดใดเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เช่น การกินเหล้าเมายา การกระโดดโลดเต้น ขออย่าโกรธเคืองให้เป็นบาปติดตัว สำหรับเครื่องแต่งกายโดยเฉพาะหน้ากากนั้น ผู้เล่นสามารถเก็บรักษาไว้เล่นปีต่อไป เพราะเวลาไม้หดแห้งน้ำหนักจะเบา เวลาเล่นจะได้ไม่เหนื่อยแบบครั้งแรก รอจนผุกร่อนค่อยลงมือทำอันใหม่
น.ส.สุพัตรา โอ่งเจริญ
สาขาภาษาไทย ศศ.บ.
ราชภัฏเชียงใหม่
ขั้นตอนในการประกอบพิธีนั้น
ความคิดเห็น