คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Hemera 2 : ความบังเอิญมีอยู่จริงๆนะ
Hemera 2 : ความบังเอิญมีอยู่จริงๆนะ
“แกตกบันไดมาใช่มั้ย?”
“เออ เหยียบชายผ้าคลุมตัวเอง”
“เอิ่ม…”
กว่าเพิร์ลลิโซเร่จะลากสังขารมายังร้านอาหารกึ่งร้านเหล้าอันเป็นจุดนัดพบของเธอและเพื่อนๆได้สำเร็จ ไอพลังวารีที่แผ่ปกคลุมทั่วอาณาจักรก็แทบจะทำให้คนธาตุไฟขาเป๋อย่างเธอล้มทั้งยืน เธออยากจะขึ้นไปบี้ผลึกธาตุน้ำบนยอดหอคอยให้แหลกคามือไปซะ แต่เธอคงทำไม่ได้ ไม่งั้นเพื่อนของเธอคงตกงานแล้วเธอก็จะโดนเจ๊แกตามเอาหัวกดน้ำไปตลอดชีวิต อีกประเด็นหนึ่ง… ถ้าผลึกธาตุน้ำนั่นมันทำลายง่ายๆป่านนี้เด็กสามขวบคงปีนขึ้นไปกระทืบมันแหลกไปแล้ว
เมื่อมาถึงร้านก็พบว่าบนโต๊ะมีสมาชิกเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง เป็นสาวงามอกสะบึมในชุดสีดำยาวลากพื้นที่โชว์ร่องอกนิดหน่อย (เพิร์ลคิดว่าถ้าทักมันไปเจ๊แกต้องบอกว่าเสื้อมันไหลเองแหงๆ) สาวเจ้านั่งอยู่ข้างๆลูซี่ เวลาสองคนนี้นั่งอยู่ข้างกันเป็นอะไรที่แยกความแตกต่างได้ง่ายๆ ทั้งสีผม สีตาและขนาดหน้าอก… เอ่อ เราไม่ควรพูดเรื่องนี้….
“ทาราทอร์นเป็นไงบ้างนาซี?”
คนที่ถูกเรียกว่านาซียกแก้วน้ำขึ้นจิบ “สวยดี! ชอบศิลปะของที่นั่นนะ ดาร์กๆ ดูมีพลัง”
ลูซี่หันมามองหน้า “แหม ก็ทาราทอร์นมันเป็นเมืองหลวงเก่าของดินแดนแห่งความมืดนี่นา”
“เฮ้ยๆ แต่ฉันชอบศิลปะของดินแดนแห่งความมืดนะ” เพิร์ลพูดต่อ “สวยแบบมีอำนาจดี ความจริงที่นี่ก็สวยนะ แต่… ดูสภาพฉันสิ ถ้าเป็นไฟก็ไฟที่โคตรริบหรี่…”
“แต่ก็ยังไม่ดับนี่”
“แน่นอน! ฮ่าๆๆๆ”
“นี่ๆๆๆ” นาซีเริ่มเปิดประเด็นชวนคุยต่อ “เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งไปทำงานที่เฮสปาเนียมา โคตรแซ่บ…”
“อะไรที่แซ่บยะ?” เพิร์ลกับลูซี่พูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ทั้งสองหันไปมองหน้ากันก่อนจะแปะมือกันดังแปะใหญ่!
แปะ!
เพิร์ล ลูซี่ นาซี และเพื่อนๆอีกสองคนที่ยังมาไม่ถึงเป็นกลุ่มเพื่อนที่สนิทกันมาก แม้ว่าทุกคนจะมีเส้นทางชีวิตเป็นของตัวเองแต่ก็ยังติดต่อกันอยู่เสมอๆ ลูซี่เป็นนักเวทที่ปรึกษาคนสำคัญของอาณาจักรแห่งสายน้ำแห่งนี้ เพื่อนของเธออีกคนที่ชื่อเพ่ยเซียนก็ทำงานที่นี่เช่นเดียวกันแต่เป็นบนปราการ (ใช่ๆ คนที่เพิร์ลกลัวว่ามันจะตกงานนั่นแหละ) นาซีเป็นนักฆ่า ทำงานอิสระไม่ขึ้นตรงกับใคร ทำให้มีโอกาสได้เดินทางทัวร์รอบเฮเมร่าบ่อยกว่าเพื่อน ส่วนเพิร์ล… ก็อย่างที่รู้ เคยเป็นเจ้าของอาณานิคมใหญ่เบ้งจนถึงเมื่อไม่นานมานี้ที่ต้องลงจากตำแหน่งเพราะการกบฏอันน่าบัดซบ
บทสนทนาสัพเพเหระดำเนินไปได้สักพัก เพ่ยเซียน เพื่อนสาวอีกคนหนึ่งก็เดินทางมาถึง เธอนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเงียบๆ วางกระเป๋าเป้ใบใหญ่ยักษ์ลงบนตัก กอดมันเบาๆ พลางจ้องเพื่อนทุกคนที่กำลังคุยกันน้ำลายแตกฟองด้วยสีหน้านิ่งๆ
“อ้าว! เพ่ย!”
นาซีหันไปก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้ผู้มาใหม่ เพ่ยเซียนยิ้มตอบก่อนจะผงกหัว แสงเทียนวูบไหวในร้านส่องกระทบตราสัญลักษณ์สีทองบนอกเสื้อจนส่องประกายวูบ เมื่อมองดูดีๆจะเห็นว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของปราการวารี สถานที่ที่เพ่ยเซียนทำงานอยู่นั่นเอง
“หวัดดี”
เพิร์ลหันไปมองเพ่ยเซียนก่อนจะกางแขนทั้งสองข้างออก “กอดหน่อยดิ!”
“ไม่ให้เว่ย!!!”
ลูซี่จิบน้ำหนึ่งอึกก่อนจะมองไปยังผู้มาใหม่ “เออ เพ่ย ปราการตอนนี้เป็นไงมั่ง เห็นว่ามีปัญหานิดหน่อย?”
“ก็มีจริงๆนั่นแหละ” เพ่ยเซียนจ้องตอบ “ผลึกแห่งสายน้ำมีปัญหา ต้องการนักเวทธาตุน้ำไปช่วยเสริมสมดุลด่วน รู้ปะ ในรายชื่อนักเวทที่โหวตๆกันมีชื่อแกเต็มไปหมดเลยลู”
“จริงง่ะ งั้นนัดวันมาแล้วกันนะ”
“อื้ม”
เพ่ยเซียนพยักหน้า ก่อนจะหยิบข้าวกล่องที่อยู่ในกระเป๋าเป้ขึ้นมากินแบบเงียบๆ
ที่เฮเมร่ามีทั้งหมดหลายดินแดน แต่ดินแดนหลักๆมีเพียง 6 ดินแดนเท่านั้น… ทั้งหกแห่งจะเปรียบได้ดัง ‘ธาตุทั้งหก’ ไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ ลม ไฟ แสงและความมืด เราเรียกสถานที่เหล่านั้นว่า ‘ทวีปหลัก’ ที่สำคัญที่สุด ทวีปหลักทุกทวีปจะมีผลึกเวทคอยสร้างสมดุลและค้ำจุนที่นั้นๆ อ๋อ! ถึงจะมีชื่อเรียกต่างกัน อาณาจักรบ้าง ดินแดนบ้าง รัฐบ้าง แคว้นบ้างแต่รวมๆแล้วมันก็คือทวีปหลักนั่นแหละ!
“เออ เพิร์ล” เพ่ยเซียนวางตะเกียบในมือลง “เป็นไงบ้าง โอเคใช่มั้ยกับเรื่อง….”
“อาเคเธอร์? ถ้าเรื่องนั้นอย่าพูดถึงมันเลย เดี๋ยวก็ลืมได้เองแหละ”
เพิร์ลโบกมือเป็นเชิงว่าไม่อยากให้มีใครพูดอะไรต่อ เธอจัดการจิ้มปลาหมึกราดซอสในจาน (ที่เพิ่งเสิร์ฟเมื่อไม่นานมานี้) ขึ้นมากินอย่างรวดเร็ว กินคำแล้วคำเล่าจนมันหมดจาน จากนั้นจึงเริ่มสำแดงอภินิหารโดยการยกมือขึ้นสั่งจานต่อไป ระหว่างนั้นเธอก็เริ่มระรานซาลามี่ในจานของนาซีต่อ
ถ้าเป็นปกตินาซีคงเอาขวดยาพิษกรอกปากคนมาแย่งโดยไม่ปราณี แต่ตอนนี้เธอปลงกับเพื่อนสาวธาตุไฟจอมตะกละข้างๆแล้ว จึงกลายเป็นเรื่องดีของเพิร์ลที่สามารถเขมือบทุกอย่างได้ตามต้องการ
“เดี๋ยวหมึกมาแล้วแบ่งให้นะ!”
“ดีๆ”
การยื่นหมูยื่นแมวฉบับเพิร์ลลิโซเร่จบลงโดยง่าย สาวเจ้าหยิบซาลามี่ (ของคนอื่น) ขึ้นมาแทะกินง่ำๆอย่างมีความสุข สายตาก็มองโน่นมองนี่ไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาหยุดกึกอยู่ตรงโต๊ะริมผนัง…
“…”
เธอหรี่ตาลง ชะโงกหน้าออกไปเล็กน้อย …คนที่นั่งอยู่บนโต๊ะนั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เพิร์ลค่อนข้างคุ้นหน้าคุ้นตา คุ้นจนเธอเผลอพูดชื่อของคนๆนั้นออกมา
“บอเซียส…”
“ฮะ?”
ปึง!!
อดีตเจ้าแห่งไฟเริ่มคิ้วกระตุก มือฟาดโต๊ะดังปึงจนคนทั้งโต๊ะมองหน้ากัน โชคดีที่เสียงดนตรีและเสียงโห่ร้องของผู้คนในร้านดังมากพอจะกลบเสียงตบโต๊ะของเธอได้ ไม่อย่างนั้น เป้าสายตาของทุกคนในร้านต้องเป็นเธอแน่
เพ่ยเซียนนิ่วหน้า กระซิบกับลูซี่เบาๆ “บอเซียสนี่ใคร?”
“แฟนเก่าเพิร์ลมัน”
“อ๋อ ที่เป็นเกย์ปะ?”
ลูซี่ถอนหายใจ ก่อนจะยกมือขึ้นบ้องปากกระซิบตอบพลางเหล่มองเพิร์ลอย่างกล้าๆกลัวๆเป็นระยะๆ “ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เกย์ไม่เกย์ แต่ไอ้บอเซียสนี่แหละผู้นำกบฏอาเคเธอร์!!”
“เวรละ!!!!”
เพ่ยเซียนหันหน้าไปมองนาซีที่กำลังกอดจานซาลามี่ไว้แนบอก การพยักหน้ารับของนักฆ่าสาวเป็นการยืนยันชั้นยอดว่าสิ่งที่ลูซี่พูดเป็นความจริง สาวน้อยที่มาจากปราการวารีค่อยๆหันไปมองเพิร์ลที่ทำหน้าเหมือนอยากจะขบหัวคู่กรณีแล้ววาร์ปไปเผานอกกาแล็กซีด้วยอาการพูดไม่ออก เธอแตะแขนเพิร์ลเบาๆ
“เฮ้ย ใจเย็น…”
ทว่าดวงตาสีส้มยังคงจ้องไปยังบอเซียสด้วยสายตาอย่างสูบเลือดสูบเนื้อ “ฉันจะกลับฟานาทอส…”
“เฮ้ย! ใจเย็นดิ!”
เจ้าแห่งไฟกระชับผ้าคลุม ดวงตาสีส้มที่แข็งกร้าวจ้องมองบอเซียสอย่างเคียดแค้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เจ้าของของมันจะสะบัดตัวแล้วเดินจ้ำอ้าวไปที่ประตูร้าน นับโชคดีที่อีกฝ่ายไม่สังเกตเห็นเธอ ไม่งั้นสถานการณ์คงจะยุ่งยากกว่านี้เป็นเท่าตัว เหล่าเพื่อนๆพยายามตะโกนเรียกให้เธอกลับมา แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
“เดี๋ยว กลับมาก่อน!” นาซีตะโกนขึ้น แล้วคนอื่นๆก็พากันตะโกนตามๆกันมา เพิร์ลหันไปมอง
“ไม่!”
“แล้วค่าปลาหมึกใครจะจ่าย!!”
เพิร์ลนิ่งไปสักพัก เธอรู้สึกเหมือนสมองหยุดทำงานไปสัก… อืม… สามวิเศษๆได้
“โด่ เดี๋ยวส่งเลททิต้าแนบเงินไปให้ โอเคปะ! …อุก!”
ไม่ทันที่ประโยคจะถูกเอ่ยจนจบดี เพิร์ลก็ชนเข้ากับแขกคนใหม่ของร้านที่เพิ่งโดนเข้ามาพอดี หัวของเธอกระแทกกับแผ่นอกของเขาเต็มๆ เธอยกมือขึ้นมาจับหัวตัวเองที่กำลังมึนตึ้บ นวดๆคลึงๆไม่นานอาการมึนก็ทุเลา ดวงตาสีแสดจึงค่อยๆลืมขึ้นมาเพื่อมองคนตรงหน้าให้ชัดๆ แล้วเธอก็เห็นอย่างชัดเจนว่าเขามีผมสีเงิน ดวงตาสีฟ้า และใบหน้าหล่อควักไส้…
“หือ…” เพิร์ลงึมงำ “คนที่ร้านหนังสือ?”
“เธอนี่เอง ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งนะ”
ฝ่ายตรงข้ามยังคงยิ้มแย้มอ่อนโยนเหมือนกับตอนที่เจอกันครั้งแรก ถ้าเป็นปกติเพิร์ลคงชวนเขาคุยจ้อแถมยังเลี้ยงน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว(?) แต่… ไม่ใช่กับตอนที่เธอเพิ่งเจอกับคู่กรณีเก่าแบบนี้ นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้เธอปัดตัวเขาออกให้พ้นทางก่อนจะก้าวเท้าฉับๆ ทำหน้าบูดเป็นตูดลิงเดินออกจากร้านไป
บัดซบสิ้นดีเลยยยยย!
ฟานาทอส หรืออีกชื่อหนึ่งว่าทวีปหลักแห่งไฟ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งเปลวไฟสมชื่อ ถ้าเปรียบเทียบกับอาณาจักรแห่งสายน้ำที่เพิ่งจากมาเมื่อกี้ก็คงเป็นคนละเรื่องกันเลยทีเดียว หากอาณาจักรแห่งสายน้ำเย็นฉ่ำผ่อนคลาย ฟานาทอสแห่งเปลวไฟก็คงร้อนแรงและทรงพลัง และทำให้เพิร์ลรู้สึกสบายตัวมากกว่าตอนอยู่ที่ไหนๆ
“ไอ้บอเซียส! แกมันชั่ว! แกจะไปออเซาะกับใครฉันไม่เคยว่าแถมสนับสนุนด้วย แล้วจู่ๆแกกบฏฉันทำซากอะไรฟะ!”
แต่ตอนนี้คนที่ควรจะสบายตัวกลับกำลังฟาดงวงฟาดงาใส่อากาศธาตุอย่างบ้าคลั่ง
“ไอ้บ่อเขียดเอ๊ย!”
บ่อเขียด… เอ๊ย บอเซียสเคยเป็นคนรักของเพิร์ลมาก่อนตั้งแต่สมัยครองอาณานิคม พอคบกันได้เก้าเดือนไอ้หมอนั่นก็บอกว่าตัวเองรักเพศเดียวกันแล้วก็ขอบอกเลิก เพิร์ลที่ไม่ได้รู้สึกรักอะไรเขาเลยก็ปล่อยไปตามยถากรรมโดยแถมเงินค่ารถม้าให้นั่งไปหาคนรักด้วย นึกไม่ถึงว่าจู่ๆ บอเซียสจะปลุกระดมชาวอาณานิคมให้ลุกฮือขึ้นต่อต้าน ด้วยการพล่ามถึงเรื่องอิสรภาพบ้าๆบอๆ แต่ดันกินใจจัดจนชาวบ้านลุกขึ้นก่อกบฏจนเกิดสงคราม เธอแพ้ โชคดีที่ไม่ถูกฆ่า
จนป่านนี้เธอยังคอยถามตัวเองอยู่ว่าเธอกดขี่ชาวบ้านมากไปรึเปล่า? ทั้งๆที่เธอก็ดูแลอย่างดี สร้างโน่นสร้างนี่ ปรับปรุงความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ตราบใดที่ไม่แข็งข้อก็ไม่มีการใช้กำลัง ถึงวิธีการได้อาณานิคมมาจะ….อ่า… ค่อนข้างเลวก็เหอะ
ปัจจุบันเพิร์ลลิโซเร่แทบไม่ได้ตามข่าวว่าตอนนี้อดีตอาณานิคมแห่งไฟเป็นยังไงบ้าง พอหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาจะอ่านก็รู้สึกเจ็บจี๊ดในใจทุกที ก็เลยตัดสินใจ… ไม่รู้อะไรซะเลยดีกว่า
“อย่าอาละวาดเด็ดขาดนะเฟ้ย ไม่งั้นฉันถีบแกตายแน่”
ลูซี่… คุณเพื่อนแสนดีที่วิ่งตามออกมาจากร้านด้วยเพราะกลัวเพิร์ลก่อเรื่องเผาสถานที่ทางราชการเอ่ยด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างรุนแรง พอเห็นว่าเพิร์ลทำหน้ามู่ทู่ ลูซี่ก็จัดการกดไหล่ให้เจ้าตัวลงไปนั่งจุมปุ๊กอยู่บนพื้นก่อนจะตามไปนั่งข้างๆ
“คิดในแง่ดี นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่แกจะได้เจอมัน”
“มันจะกลายเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆถ้าฉันฆ่ามันตายตอนนี้”
“ไม่เอาน่า”
เพ่ยเซียนที่พ่วงติดมาด้วยอีกคนช่วยปลอบ ตามมาด้วยนาซีที่หย่อนตัวลงนั่งข้างๆ นักฆ่าสาวมองหน้า ก่อนจะยกมือขึ้นตบไหล่เธอแปะๆ
“ฆ่าคนมันไม่สนุกหรอก ทรมานดีกว่า!”
“แกจะไปชี้ทางให้มันทำไมวะไอ้นาซีบ้า!!”
ลูซี่แหวเสียงดังลั่น แต่นั่นกลับทำให้เพิร์ลหลุดหัวเราะออกมาได้เป็นครั้งแรก เพียงเท่านั้นก็ทำให้บรรยากาศทั้งหมดดีขึ้นทันที เพ่ยเซียนมองภาพนั้นก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
“จะว่าไป นี่เป็นครั้งแรกที่มาฟานาทอสนะเนี่ย” เพ่ยเซียนลุกขึ้นยืน เหลียวมองซ้ายขวาอย่างสนใจ
“ร้อนแรงมั้ยละ?” เพิร์ลถามพลางยกมือขึ้นกอดคอ เพ่ยเซียนดึงมือออกก่อนจะส่ายหน้าหน่ายๆ
“ร้อนสุดๆเลยต่างหาก”
ว่าจบ คนที่ทำงานในปราการวารีมาตลอดก็เงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าสีแดงอมดำของฟานาทอสอย่างหวั่นๆ ที่นี่ตั้งอยู่บนภูเขาไฟลูกยักษ์ บ้านเมืองจึงมีความทนทานต่อลาวาสูง เพราะขนาดเสาที่ใช้ค้ำจุนสิ่งก่อสร้างในเมืองยังเป็นลาวาเลย! อ้อ แล้วประตูเมืองที่เพิ่งเดินเข้ามาเมื่อตะกี้ก็เป็นม่านไฟ! ความที่มีแต่ไฟ ไฟ และไฟทำให้อากาศที่นี่ร้อนระอุกว่าที่ใดในเฮเมร่า แต่ชาวธาตุไฟกลับบอกว่าแค่นี้จิ๊บๆ บนหอคอยที่สูงที่สุดมีผลึกสีแดงอมส้มส่องแสงเจิดจ้าอยู่ นั่นคือผลึกแห่งไฟของที่นี่ เช่นเดียวกับที่อาณาจักรแห่งสายน้ำ
“สบายดีออก เออ ตรงนั้นมีร้านขายปลาหมึกเผา!”
“แกชอบกินปลาหมึกจังเลยเนอะ”
ลูซี่หัวเราะเบาๆ คนถูกพาดพิงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ตอนแรกลูซี่คิดว่าเพิร์ลจะเดินไปซื้อที่ร้านตามปกติ แต่ก็ผิดคาด เมื่อเธอเห็นเพื่อนสาวธาตุไฟดีดนิ้วเรียกเปลวไฟขึ้นมา ก่อนที่เปลวไฟนั้นจะก่อรูปร่างเป็นปลาหมึกปิ้งสองไม้
“บริการเร็วปะละ?” เพิร์ลเฉลย “ถ้าเป็นคนในพื้นที่จะจ่ายกันด้วยเปลวไฟ ดีดเปาะ แล้วของที่ต้องการก็จะมาถึงมือ แต่พวกแกจะจ่ายเป็นเหรียญแบบที่อื่นก็ได้ เขาอนุโลมให้นักท่องเที่ยว”
“ที่ใช้เวทแบบนี้เพราะคนฟานาทอสใจร้อนแบบแกสินะ” เพ่ยเซียนออกความเห็น
“ฉันใจเย็นจะตาย!”
คนแจกหนังสือพิมพ์เดินมาทางพวกเธอก่อนจะจับปีกหมวกของตนเป็นการทักทายก่อนจะแจกหนังสือพิมพ์ให้พวกเธอทุกคนตามหน้าที่ เพิร์ลคาบปลาหมึกเผาทั้งสองไม้ไว้ในปาก ก่อนจะใช้มือที่ว่างแล้วพลิกดูหน้าปกหนังสือพิมพ์ แล้วเธอก็ต้องเบิกตากว้าง เกือบทำปลาหมึกร่วงออกจากปาก
ใบหน้าของหนุ่มผมเงินที่เธอเจอไปสองครั้งวันนี้แปะป้าบอยู่กลางหน้ากระดาษ ขนาดรูปใหญ่จนมองจากยอดปล่องภูเขาไฟลงมายังเห็น เพียงแต่ว่าในรูปนี้เขาไม่ได้แต่งตัวสบายๆอย่างที่เธอเห็น แต่เป็นชุดขุนนางชั้นสูงดูมีสง่าราศี…
“ไอ้หมอนี่เป็นขุนนางที่ไหนเนี่ย…?”
เพิร์ลพึมพำเบาๆ ก่อนที่เธอจะหันไปมองนาซีที่จู่ๆก็ออกอาการตื่นเต้น จิ้มรูปพ่อหนุ่มผมเงินอย่างบ้าคลั่ง
“ท่านเคาท์แห่งเฮสปาเนีย! คนนี้แหละ!”
หลังจากนาซีพูดขึ้น คนอื่นๆก็เริ่มออกเสียงแสดงความคิดเห็นกันตามๆมา เพิร์ลเขยิบตัวเองไปใกล้ๆเพื่อนๆเพื่อจะได้ฟังสิ่งที่ทุกคนพูดให้ถนัด มองหน้าคนอื่นๆสลับกับมองรูปบนหน้าหนังสือพิมพ์
เคาท์… เคาท์แห่งเฮสปาเนียเลยเรอะ?
เจ้าของดวงตาสีส้มคิดในใจ มองรูปนั้น ลืมตา กระพริบตาสามที หลับตาอีกสองวินาทีก่อนจะดูต่อ ทำแบบนี้จนแน่ใจว่าเป็นคนเดียวกับที่เธอเจอที่ร้านหนังสือจริงๆ
เพิร์ลลิโซเร่พยักหน้ากับตัวเองเงียบๆ ก่อนจะก้มลงไปดูพาดหัวข่าวที่แปะอยู่ด้านล่างอย่างฉงน อย่างน้อยเธอก็อยากรู้เหตุผลว่าทำไมหมอนี่ถึงเป็นข่าว หวังว่าคงจะไม่ใช่โจรขโมยกางเกงหน้าซื่ออย่างที่เธอคิด
โชคดีที่ข้อความที่เขียนอยู่ไม่ใช่ข้อความจำพวก ‘จับโจรขโมยกางเกงในได้แล้ว!’ แต่เป็นข้อความที่แตกต่างออกไป….
เป็นครั้งแรกที่เพิร์ลอยากให้เขาเป็นโจรขโมยกางเกงในจริงๆ…
‘เคาท์แห่งเฮสปาเนียได้รับบรรณาการสุดยิ่งใหญ่ อดีตอาณานิคมแห่งไฟทั้งหมด’
เพิร์ลรู้สึกวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมขึ้นมาทันที…
ความคิดเห็น