คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Hemera 3 : อย่าปรึกษานักบวช (ทุศีล)
Hemera 3 : อย่าปรึกษานักบวช (ทุศีล)
วิหารแห่งดวงจันทร์ วิหารที่ตั้งอยู่ในอาณาจักรแห่งแสงสว่าง วิหารที่ไม่ได้มีดีแค่สถาปัตยกรรมที่งดงามและสโลแกน ‘ตัวแทนแห่งดวงจันทร์จะลงทัณฑ์แกเอง’ เพียงอย่างเดียว ที่นี่ยังเป็นที่สิงสู่… เอ่อ เอาใหม่ ที่ประทับของนักบวชจันทราที่ชาวเมืองให้ความเคารพนับถืออีกด้วย แม้ว่าตัวตนของนักบวชแห่งจันทราที่ว่าจะเป็นเด็กเกรียนๆที่มีผิวขาวกว่าคนทั่วไปคนหนึ่งก็ตาม
ในวิหารยามนี้เงียบสงัด มีเพียงแค่แสงเทียนให้ความสว่าง รูปปั้นเทพีแห่งดวงจันทร์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางวิหารราวกับกำลังจับจ้องคนสองคนที่กำลังคุยกันอยู่ในตอนนี้
“ฉันเจอกับมันครั้งแรกที่ร้านหนังสือ มันดูเป็นคนดีมาก”
“อืม”
เพิร์ลเริ่มเล่าเรื่องหลังจากควบม้าอย่างบ้าคลั่งมาจนถึงดินแดนแห่งแสงสว่างได้สำเร็จ ดวงตาสีส้มของเธอสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินเข้มของสาวน้อยนักบวชครู่หนึ่ง ก่อนที่อีกฝ่ายจะพยักหน้ารับ เป็นเชิงให้อีกฝ่ายเล่าต่อ
“แล้วไงต่อวะทีนี้… เอ่อ พอกลับมาที่ร้านฉันก็เจอมัน แต่ฉันอารมณ์ไม่ดีเลยผลักมันออก”
“อืม”
“แล้วทีนี้ ฉันก็เจอมันอีกรอบตอนอ่านหนังสือพิมพ์”
“อืม”
“มันเขียนว่าไอ้หมอนั่นได้อาณานิคมแห่งไฟของฉันไปว่ะ”
“อืม”
“แกช่วยพูดอย่างอื่นนอกจากอืมได้ปะ!?”
พอพูดมาถึงตรงนี้ นักบวชจันทราก็ทำหน้านิ่งใส่คู่สนทนา ริมฝีปากขยับพร้อมกับเอ่ยคำทำนายที่อีกฝ่ายไม่ต้องการ
“ฉันเห็นพรหมลิขิต”
“อะไรของแก?”
“แกสองคนต้องได้กันแน่ๆ”
“ไอ้เถียน!!”
‘ไอ้เถียน’ เป็นเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของเพิร์ล ถึงคนที่นี่จะเรียกเธอว่า ‘โรซาลูนา’ หรือ ‘ท่านหญิงศักดิ์ศิทธิ์’ แต่ชื่อจริงๆของเธอคือ ‘เถียนเถียน’
เถียนเถียนเกิดในครอบครัวของชาวตะวันออกที่อาศัยอยู่ฝากตะวันตก ช่วงที่เถียนเถียนเพิ่งจะสิบแปดหมาดๆ จู่ๆ วันหนึ่งนักบวชที่วิหารก็พากันแห่มาที่บ้าน จุดกำยานพร้อมกับโปรยดอกไม้กันเป็นบ้าเป็นหลังตอนตีสี่จนเธอต้องลุกขึ้นมาแหกปากไล่ แต่นักบวชเหล่านั้นกลับทำท่าชาบูใส่แล้วบอกว่าเธอคือสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งจันทราอะไรก็ไม่รู้ จากนั้นก็กระทำการลากเธอมาลงหลักปักฐานที่วิหารในฐานะนักบวชศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่เธอไม่ต้องทำอะไรมากเลยนอกจากกิน นอน หายใจ และทำสิ่งไร้สาระไปวันๆหากไม่มีผู้ศรัทธามากราบกรานขอเล่าปัญหาชีวิตให้ฟัง เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น!
เถียนเถียนให้การว่าถ้าคนที่เธอแอบปิ๊งไม่ได้ทำงานอยู่ที่วิหารสุริยาข้างๆ เธอคงไม่มาเป็นนักบวชที่นี่… เอ่อ ปล่อยเถียนเถียนไปเถอะ
“อะไร?” เถียนเถียนหรี่ตา “แกกำลังเถียงเทพมารดาแห่งดวงจันทร์อยู่นะ”
เพิร์ลมองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าเทพมารดาแห่งดวงจันทร์ด้วยสายตาไร้คำบรรยาย…
“ฉันต้องการคำปรึกษาจากแก ไม่ใช่ให้แกมาจิ้นฉันกับมัน”
อดีตเจ้าอาณานิคมพูดอย่างสุดจะทน ทำให้ฝ่ายตรงข้ามลอบยิ้มออกมาหน่อยๆ แล้วจึงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขัดกับแววตานึกสนุกที่พราวระยับ
“แกก็ไปอ่อยมันแล้วให้มันเซ็นสัญญายกอาณานิคมให้สิ”
เล่นเอาเพิร์ลสำลักน้ำลายตัวเองทันที
“บ้าแล้ว!! นี่แกเมาแสงอาทิตย์เรอะ!”
“พูดให้ถูกคือเมาแดด ถึงตอนนี้จะไม่มีแดดก็เหอะ” เถียนเถียนแก้ “เอาเหอะ พูดก็พูด ในฐานะเพื่อน ใครๆก็อยากเห็นเพื่อนได้ดีมีสามีเป็นท่านเคาท์เป็นธรรมดา ไอ้เคาท์เฮสปาเนียนั่นก็ได้ยินมาว่าหล่อใช่เล่นไม่ใช่เหรอ จับมันเลย …เอ่อ เติมชามั้ย?”
เพิร์ลยกมือขึ้นห้ามนักบวชสาวที่ทำท่าจะรินชาลงในถ้วยเป็นรอบที่เก้า “พอแล้ว”
“อ้อ! ลืมไปว่าแกไม่ชอบลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำตอนดึกๆ” นักบวชแห่งดวงจันทร์ทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกออก มือวางกาชาลงกับที่เบาๆ แล้วช้อนตามองเพิร์ลพร้อมกับหัวเราะหึๆในลำคอ เป็นเสียงหัวเราะที่เพิร์ลไม่อยากตีความหมายเท่าไหร่นัก เธอมั่นใจว่าหากเถียนเถียนไม่คิดอกุศลก็คงคิดยิ่งกว่าอกุศล!
พอวิหารเงียบไปสักพัก เสียงเปิดประตูวิหารก็ดังขึ้นทำลายความเงียบพร้อมๆกับร่างของเด็กชายวัยรุ่นคนหนึ่งที่เดินเข้ามาข้างใน เพิร์ลพอจะจำได้หน่อยๆว่าเขาเป็นยามเฝ้าหน้าประตู เด็กหนุ่มค้อมตัวลงเล็กน้อยตามมารยาท
“ขออภัยคุณผู้หญิง ขณะนี้หมดเวลาสนทนากับท่านหญิงศักดิ์สิทธิ์แล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะครับ”
เดี๋ยวนี้มีกำหนดเวลาคุยด้วยเรอะ!
คำพูดนั้นทำให้ร่างบางลอบขมวดคิ้วหน่อยๆ แต่ก็ยอมคว้าผ้าคลุมมาสวมแล้วกลับไปแต่โดยดี ขณะที่เพิร์ลกำลังจะก้าวขาออกจากวิหาร เสียงของเถียนเถียนก็ดังไล่หลังเป็นการสั่งลา
“ถ้ามีอะไรก็ส่งเลททิต้ามาแล้วกัน!”
“โอเค”
หน้าวิหารจันทรามีร่างหนึ่งเดินโซซัดโซเซออกมา
เพ่ยเซียนยืนเฝ้าม้าของเพื่อนสนิทที่ผูกไว้ตรงหน้าวิหาร คืนนี้พระจันทร์สว่าง ส่องตรงลงมาที่ตัววิหารพอดีจนสถานที่ที่งามอยู่แล้วงามขึ้นเป็นเท่าตัว คบไฟต่างๆที่อยู่รอบๆก็พากันดูดซับแสงจันทร์มาเป็นเพลิงเวท ให้ความสว่างแก่ผู้ที่สัญจรไปมาได้อย่างดีเยี่ยมพอๆกับความสวยของมัน
ร่างโซเซที่ว่าเดินมาเกาะไหล่เพ่ยเซียน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาสีส้มบนหน้าฉายแววหมดแรง จากหน้าตาเปี่ยมพลังงานสมเป็นอดีตนักล่าอาณานิคมกลับกลายเป็นคนไม่มีแรงเหมือนถูกสูบวิญญาณไม่ก็คนเห็นฉากฆาตกรรมฆ่าหั่นศพต่อหน้าต่อตาไปหมาดๆ
“ว่าไง?” เพ่ยเซียนถาม เพิร์ลถอนหายใจเฮือก แล้วตอบอย่างไร้เรี่ยวแรง
“มันบอกให้ฉันไปอ่อยเคาท์นั่นแล้วเอาอาณานิคมคืนมา”
“…”
“มันคงได้พล็อตนิยายใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว”
เพิร์ลออกความคิดเห็น เพื่อนของเธอคนนี้เป็นคนชอบเขียนนิยายมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว สำนวนและน้ำเสียงในการเล่าเรื่องของเถียนเถียนจัดได้ว่าดีพอสมควร แต่มันติดอยู่ที่ว่า… เถียนเถียนรักการเขียนนิยายรัก… รวมไปถึงประเภทอีโรติค ซึ่งนิยายเกือบทุกเรื่องของเถียนเถียนมักจะแปลกจากนิยายทั่วไป เช่น นิยายที่นางเอกเถื่อนบรม อา… นั่นอาจไม่แปลกเท่าไหร่ ที่แปลกที่สุดน่าจะเป็นนิยายเกี่ยวกับเด็กชายสองพี่น้องที่พลัดพรากจากกัน… คนพี่มีพลังไฟพิฆาตอธรรมส่วนคนน้องเป็นเด็กชายหน้าตาย ตอนแรกเพิร์ลแอบนึกสงสัยว่าพ่อแม่สองคนนี้เลี้ยงดูลูกมาแบบไม่เสมอภาครึเปล่า แต่เถียนเถียนก็ให้คำอธิบายว่าพ่อแม่ของสองคนนี้ตายไปตั้งแต่ยังเล็ก ทำให้สองคนนี้รักและห่วงใยกันมาก จนบัดนี้เธอก็ยังตั้งหน้าตั้งตาเขียนนิยายที่ว่านี้อยู่
อ๋อ เห็นว่าเถียนเถียนมีโปรเจ็คต์จะแต่งนิยายเกี่ยวกับนางเงือกในทะเลทรายด้วย!
เถียนเถียนเป็นนักบวชที่ว่าง… อย่างน้อยผู้ศรัทธาก็ไม่ได้มากันทุกชั่วโมงทุกวินาที ทำให้มีเวลามากพอที่จะเขียนนิยายได้เป็นเล่มๆ ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเธอเขียนนิยายมากี่เรื่องแล้ว แต่ที่แน่ๆ นี่คือสิ่งที่เพิร์ลอยากจะมีบ้าง
เพิร์ลลิโซเร่ เบรเวลอยากเป็นนักเขียนนิยาย…
มันเป็นความฝันของเพิร์ลมาตั้งแต่เด็ก แต่ว่า…
“แกอย่าไปฟังไอ้เถียนมากนะเพิร์ล มันมโน” เพ่ยเซียนว่าก่อนจะพยักหน้ายืนยันคำพูดของตัวเอง ทั้งสองกระโดดขึ้นม้าก่อนที่อาชาตัวโตจะวิ่งตะบึงไปในความมืด
เพิร์ลกำลังนอนพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในดินแดนแห่งแสง
แดดยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านโปร่งสีขาวเข้ามาภายในห้อง นกที่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่านกอะไรส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วอยู่นอกหน้าต่างราวกับเป็นนาฬิกาปลุกมีชีวิต ด้วยแสงแดดที่จ้ากว่าปกติทำให้ร่างที่นอนอยู่จำต้องฝืนลุกขึ้นมาทั้งๆที่ตายังลืมไม่ขึ้น เธอเดินทั้งๆที่ยังหลับตาไปที่หน้าต่าง สะดุดพรมเช็ดเท้านิดหน่อย แต่ก็ไปถึงหน้าต่างโดยสวัสดิภาพ
แดดจ้าสมกับเป็นดินแดนแห่งแสง…
เฟี้ยวววววว!
ป้าบบบบ
เพิร์ลค่อยๆหรี่ตาขึ้น เอามือจับสิ่งไร้ชีวิตที่มีลักษณะเป็นแผ่นๆออกจากใบหน้าหลังจากถูกมันร่อนชน สมองที่เพิ่งทำงานประมวลผลอย่างช้าๆ หลังจากพินิจดูรูปโฉมของมันแล้ว เธอก็ตรัสรู้ว่ามันคือเลททิต้า จ่าหน้าซองโดยตรงว่ามาจากวิหารจันทรา
“เถียน?”
ร่างบางพึมพำ ก่อนจะย่อตัวนั่งบนเตียง เป็นจังหวะเดียวกับที่จดหมายเวทนั้นค่อยๆคลายตัวออกเพื่อให้ผู้รับได้อ่านข้อความภายใน
เพิร์ลลี่ที่รัก
พ เพิร์ลลี่…
คนถูกชักเรียกรู้สึกไม่กล้าอ่านบรรทัดต่อไป แต่ก็อ่านอยู่ดี
เมื่อคืนขอโทษที่อาจจะตอบแกได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็มั่นใจอยู่ดีว่าพวกแกทั้งสองคนต้องได้กันแน่ๆ มันโคตรจะพรหมลิขิต เพราะงั้นฉันแนะนำว่าให้แกไปอ่อยมัน อย่าปล่อยให้มันหลุดมือ
ตอนนี้เพิร์ลถึงขั้นยกมือขึ้นมานวดหว่างคิ้ว
รีบหาซื้อชุดเครื่องนอนไร้ตะเข็บ ชุดเครื่องนอนโตโต้ แล้วรีบไปสร้างแลนด์มาร์กกับมันซะ ได้โปรด
รัก
จาก โรซาลูน่า
ปล. ยิ่งมีลูกไว ยิ่งต่อรองกับมันได้เร็ว โรซาลูน่าคอนเฟิร์ม
จดหมายจบลงเท่านี้ แต่ถึงมีมากกว่านี้เพิร์ลก็ไม่อยากจะอ่านมันต่อ นอกจากจะทำให้เธออยากเอาหัวโหม่งหน้าต่างตายแล้วยังทำให้เธอรู้สึกเหมือนเครื่องในจะทะลักออกมาทางปากร่วมด้วย
ฟู่…
จดหมายถูกเผาทิ้ง ซากยังไม่ทันไหม้หมดก็ถูกสะบัดให้ปลิวออกไปทางหน้าต่าง เพิร์ลกลับมานั่งกอดเข่าบนเตียง เอาหมอนทุบหัวตัวเองเพื่อผ่อนคลายความเครียด
เคาท์แห่งเฮสปาเนียไม่ได้ทรงอิทธิพลแค่ในแคว้นของเขา แต่ยังมีอิทธิพลอย่างมากในความคิดของเพิร์ลในตอนนี้ด้วย…
อาณานิคมแห่งไฟไม่มีอีกต่อไปแล้ว เธอกำลังจะทำใจได้ แต่เธอกลับเจอกับบอเซียสอริเก่า ทั้งยังผีซ้ำด้ำพลอย บังเอิญเจอกับคนที่ได้อาณานิคมทั้งหมดของตัวเองไปถึงสองครั้งโดยไม่รู้ตัว ชะตาเล่นตลก มีคนเอาทุกอย่างที่เคยเป็นของเธอไปเป็นบรรณาการให้กับเฮสปาเนียหน้าด้านๆ แต่ทำไม? เพื่ออะไร? เธอไม่รู้
เพิร์ลยกมือขึ้นกุมหน้าผาก ถอนหายใจยาวเหยียด…
มันต้องไม่ใช่แค่บรรณาการเอาใจเฉยๆแน่…
เพิร์ลไม่รู้หรอกว่าหลังจากตัวเองโดนโค่นอำนาจแล้วเกิดอะไรกับอาณานิคมแห่งไฟบ้าง เธอคิดสรุปเองว่า ไหนๆฝ่ายนั้นก็ตะโกนปาวๆว่าจะสู้เพื่อเอกราช เพราะงั้นเมื่อสงครามจบ เธอแพ้ ทุกคนก็น่าจะปิดนรกเปิดสวรรค์จัดงานฉลองสักสามวันสามคืน แล้วก็ตั้งตัวเองเป็นรัฐอิสระ เชิญเจ้าเมืองเก่าเป็นราชา เฮฮาหรรษาอะไรไปตามเรื่อง ไหงกลายเป็นว่าทุกที่… ย้ำว่าทุกที่ กลายเป็นอาณานิคมซ้ำรอยเดิมอีกรอบ คราวนี้อยู่ในมือของเคาท์แห่งเฮสปาเนีย ในฐานะ… บ บรรณาการ?
ดวงตาสีส้มหลุบลงอย่างใช้ความคิด เอามือนวดหน้าผากตัวเอง เฮสปาเนียเป็นถึงทวีปหลักที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเฮเมร่าตะวันตก ถึงอย่างนั้นเธอกลับไม่เคยไป ข่าวสารทุกอย่างก็เลิกติดตามตั้งแต่โดนโค่นอำนาจ จึงทำให้เปอร์เซ็นต์คำว่าทันบ้านทันเมืองในสมองจึงค่อนข้างต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ขนาดอาณาจักรแห่งสายน้ำขุดคลองเพิ่มอีกสามสายยังไม่รู้เลย
ถ้าพูดถึงคนที่ไปโน่นไปนี่บ่อยๆ… เห็นจะไม่พ้นนาซี…?
นาซี…
‘เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งไปทำงานที่เฮสปาเนียมา โคตรแซ่บ…’
อดีตเจ้าผู้ครองอาณานิคมยกมือขึ้น รีบใช้เวทที่มีสร้างเลททิต้าขึ้นมา ก่อนจะใส่ข้อความลงไปในนั้นทันที
วันนี้ว่างมั้ยที่ร้ากกกก??
จาก เพิร์ล
ตัวอักษรสีทองที่เหมือนกับมีเปลวไฟลุกอยู่ปรากฏขึ้นบนแผ่นกระดาษเวท เพียงแค่สะบัดมือครั้งเดียวมันก็พับตัวเองแล้วบินออกนอกหน้าต่างทันที หลังจากรออย่างใจจดใจจ่อเป็นเวลาสิบนาที รอจนเพิร์ลเกือบจะลุกไปแทะโต๊ะกินข้าวกินแก้หิว ซองจดหมายสีดำหรูหราก็บินแฉลบเข้ามาในห้อง ร่อนลงบนมือเธออย่างมีมารยาท
ว่างงงงงง จะไปไหน?
จาก นาซี
เพิร์ลเกือบจะชูมือแล้วร้องโอ้เยส เธอสร้างเลททิต้าอีกฉบับขึ้นมา ก่อนจะวาดมือบนหน้ากระดาษเพื่อเขียนข้อความ
มาเจอกันที่บริกันเทียหน่อยสิ อยากรู้เรื่องเฮสปาเนีย
ประมาณสิบโมงนะ
จาก เพิร์ล
เมื่อจดหมายถลาออกนอกหน้าต่างไปแล้ว คนส่งก็หงายหลังลงไปนอนต่อบนเตียงด้วยความขี้เกียจอาบน้ำ พอตกลงกับตัวเองเสร็จว่าอีกสิบห้านาทีค่อยลุก เธอก็พลิกตัวไปด้านซ้าย กระชากหมอนข้างมาฟัด
“ไอ้เถียนก็มโนเกินไป…”
เรื่องแต่งงานไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ๆอยู่แล้ว
ความคิดเห็น