ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Yaoi) What is love? รักวุ่นวายร้ายเกินพิกัด (End)

    ลำดับตอนที่ #28 : -26-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 258
      2
      23 ส.ค. 58

     



        -26-         





                   นัยน์ตาเรียวตวัดมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่พอใจ ขนาดเด็กอนุบาลมันยังดูออกเลยว่าผู้หญิงคนนี้กำลังประกาศตัวเป็นศัตรูกับเขาอย่างชัดเจน จินหลุดคลี่ยิ้มออกมานิดหน่อย นานแล้วเหมือนกันที่เขาไม่ได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ แล้วคิดว่าคนอย่างจินจะยอมอยู่เฉยๆ ทำตัวเป็นนางเอกละครน้ำเน่าหลังข่าวให้คนอื่นเขาแกล้งงั้นหรอ...



    “อ๋อ ถ้ากับคนนอกก็จะบอกว่าเป็นรุ่นน้องแหละครับ”



    “แต่ถ้าคนในเขาก็รู้ๆกันอยู่ว่าความจริงมันเป็นยังไง”



    พูดพร้อมกับเลื่อนมือไปพาดไหล่รุ่นพี่ตัวสูงอย่างสนิทสนม แอบส่งสายตาของคนที่ถือไพ่เหนือกว่าไปให้ เอาสิ ถ้าอยากจะส่งสารท้ารบมาให้ขนาดนั้น เขาก็ไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธหรอก

    ชิชามองภาพตรงหน้าอย่างไม่ชอบใจ ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ข่าวลือเกี่ยวกับแอสตันกับเด็กนั่น เอาเป็นว่ากระแสคู่จิ้นแอสจินนี่ดังมากๆ แถมพอลองเข้าไปส่องในไอจีของเดือนคณะที่เธอหมายปอง ส่วนมากถ้าไม่ใช่รูปของเจ้าของไอดี หรือไลฟสไตล์ที่คนตัวสูงชื่นชอบแล้ว ก็จะเป็นรูปคู่ เผลอๆเป็นรูปเจ้าเด็กนั่นคนเดียวซะด้วยซ้ำ


    นี่ขนาดเธอไม่ค่อยชอบเรื่องเกย์ๆอะไรแบบนี้ยังอดคิดไม่ได้เลย



    ไม่ๆๆๆ แต่เธอจะไม่ยอมเสียผู้ชายสุดแสนเพอร์เฟ็คอย่างแอสตันไปหรอก ถึงว่าเพื่อนร่วมคณะของเธอจะชอบผู้ชายมากกว่า เธอนี่แหละจะเป็นคนเปลี่ยนให้เขากลับมาชอบผู้หญิงแบบเธอให้ได้





    คนอย่างชิชาน่ะ...อยากได้อะไรก็ต้องได้!
















                  “ตกลงมึงกับน้องชิชามีซัมติงอะไรกันใช่มั้ยวะ”


    “ห๊ะ” ใบหน้าคมออกอาการงงๆเมื่อจู่ๆพี่รหัสมาดเซอร์เดินดุ่มๆเข้ามาถามคำถามที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินมาก่อน เดือนคณะกะพริบตาปริบๆ เหมือนกับสมองเขาเออเร่อไปชั่วขณะ


              เขากับชิชาเนี่ยนะ ก็แบบเขาไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับผู้หญิงคนนั้นเลยนี่ อาจจะมีสนิทๆกันบ้าง แต่ก็เพราะต้องร่วมงานด้วยกัน จะไม่ให้คุยกันเลยมันแปลกๆใช่ป่ะ หรือเพราะแบบนี้เลยทำให้รุ่นพี่ของเขาเกิดการเข้าใจผิด


    “มาห้งมาห๊ะอะไรล่ะ นี่พี่ถามก็ตอบดิวะ” ไม่พูดเปล่ายังจะมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเขาอีกต่างหาก ตัดสินใจขยับตัวให้รุ่นพี่ได้นั่งสะดวกมากขึ้น ใบหน้าที่เริ่มมีหนวดเคราเพราะไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองขึ้นสีแดงจางๆ เป็นการบ่งบอกว่าเจ้าตัวเริ่มจะไม่ค่อยมีสติเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ในมือตัวเองแล้ว


    “ไม่ได้มีอะไรกันทั้งนั้นแหละครับ เราเป็นเพื่อนกันเฉยๆ”


    น้ำเสียงทุ้มพูดให้เหตุผล แต่ดูเหมือนไอ้คนที่ถามคำถามเขาจะไม่ได้สนใจคำตอบของเขาซะเท่าไหร่ ทำเพียงพยักหน้ารับส่งๆ แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นจิบก่อนจะพูดต่อ

    “จริงหรอวะ ทำไมใครๆเค้าก็พูดกันว่ามึงกับน้องชิชากำลังกิ๊กกันอยู่” ประโยคที่มาจากรุ่นพี่ร่วมคณะทำเอาแอสตันต้องเลิกคิ้วขึ้นหน่อยๆ เหลือบมองรุ่นพี่อย่างไม่ค่อยเข้าใจ



    ข่าวนี่พี่มันเอามาจากไหนกันวะครับ =_=



    “ใครหรอครับที่พูดน่ะ”


    ถ้ารู้นะพ่อจะลากคอมาคุยให้รู้เรื่องซะตอนนี้ คือแบบก็ไม่ได้อะไรมากหรอกนะ แต่จากเหตุการณ์ในร้านกาแฟที่เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ก่อน จินนี่แทบจะกระโดดกัดหัวดาวคณะของเขาเสียให้ได้ แต่เขาก็พอจะเข้าใจจินอยู่หรอก เพราะชิชาเองก็ใช่ว่าจะน้อยๆเสียที่ไหน


    เอาเป็นว่าเขาพอจะรู้ตัวแล้วว่ากำลังโดนฝ่ายหญิงตามจีบแบบเนียนๆ แต่ก็เรียนคณะเดียวกันนี่ จะให้หลบหน้าเลยก็คงจะยากไปหน่อย แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายหรือให้ความหวังอะไร เพราะเขารู้ว่าเจ้าเด็กแสบนั่นคงจะไม่ชอบใจมากแน่ๆ ก็เลยพยายามให้ได้มีโอกาสเจอหน้าหรือพูดคุยกันแค่ตอนทำงานร่วมกันเท่านั้น ถ้าเลี่ยงได้เขาก็จะพยายามเลี่ยง แต่ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองรึเปล่า เหมือนยิ่งเลี่ยงก็ยิ่งเจอยังไงอย่างงั้น


    “จะใครก็ไม่สำคัญหรอกเว้ย แต่จะทำอะไรก็ให้มันชัดเจนไป ชอบก็บอกว่าชอบ” แน่ะ พออธิบายเหตุผลอะไรไปไอ้รุ่นพี่นี่ก็ไม่เคยจะฟังเขาเลยสิน่า ก็บอกอยู่ว่าเป็นแค่เพื่อน นี่ถ้าไม่ติดว่าเจ้าเด็กแสบของเขากังวลเรื่องที่เป็นผู้ชายทั้งคู่ เขาคงจะประกาศให้โลกรู้ไปแล้วล่ะ ว่าพวกเขาทั้งสองคนเป็นอะไรกัน จะได้เลิกมีเรื่องยุ่งๆแบบนี้ซะที

    พอเห็นว่าเขานิ่งเงียบไป พี่รหัสผู้แสนดีก็เลยจัดการประเคนเหล้าเข้าปาก ไม่รู้เหมือนกันว่ากินไปเยอะแค่ไหน จนมีพนักงานมาบอกว่ากำลังจะปิดร้านแล้วนั่นแหละ ถึงได้ตัดสินใจกันยกก้นออกจากเก้าอี้

    “กลับดีๆนะเว้ยมึง” เสียงทุ้มเอ่ยลารุ่นน้อง ทั้งๆที่สภาพของตัวเองนั้นดูสาหัสกว่าแอสตันเสียอีก ใบหน้าคมหลุมคลี่ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะขอให้เพื่อนของรุ่นพี่ช่วยดูแลหน่อย





    “อ้าว แอสตัน มาเลี้ยงสายหรอ”


    น้ำเสียงหวานใสที่ช่วงนี้เขาชักจะได้ยินบ่อยจนเกินความพอดีไปหน่อยเอ่ยทัก พร้อมๆกับร่างเพรียวบางที่ค่อยๆเขยิบตัวเข้ามาใกล้ ร่างบอบบางภายใต้มินิเดรสสีหวานทำให้เจ้าตัวดูน่ารักสดใส ยากที่จะปฏิเสธจริงๆว่าชิชาน่ะ เป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากๆคนหนึ่ง

    “อื้ม ชิชาก็เหมือนกันหรอ” พยายามเพิ่มระยะห่างเล็กน้อย เพราะตอนนี้มีแค่เขากับชิชา เขากังวลว่าคนอื่นจะยิ่งเข้าใจผิดมากไปกว่านี้ แค่นี้ก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงให้คนอื่นเขาเชื่อแล้ว

             ชิชาแอบเบ้ปากนิดหน่อย เมื่อเห็นว่าเดือนคณะของเธอดูระมัดระวังตัวมากเป็นพิเศษ แต่ก็นะ เธอคิดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่หวั่นไหวกับผู้หญิงสวยไหรอก

    “อ่า ใช่ๆ แล้วแอสตันกลับยังไง” พูดพร้อมกับคลี่ยิ้มหวาน แอสตันเหลือบมองรอยยิ้มนั้นนิดหน่อย นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงจะเผลอใจให้ไปได้ง่ายๆเลยแหละ


             แต่ก็อย่างที่รู้กันนะ ว่าหัวใจของเขามันภูมิต้านทานดีไปหน่อย ก็เล่นมียาต้านชื่อว่า จิน พกติดตัวไว้ตลอดเวลาเลยนี่


    “ก็ขับรถกลับแหละ ไม่ได้กินเยอะมาก แล้วชิชากลับยังไง” เอ่ยตอบก่อนจะสอดส่ายสายตาไปรอบๆนิดหน่อย น่าแปลกที่มีแค่หญิงสาวคนนี้อยู่คนเดียว รุ่นพี่ไม่น่าจะปล่อยให้รุ่นน้อง ยิ่งเป็นสาวสวยอย่างชิชาด้วยแล้ว ไม่ควรจะให้อยู่คนเดียวแบบนี้สิ

    สายตาคมที่มองไปรอบๆไม่ได้รับรู้ถึงนัยน์ตากลมโตเป็นประกายที่จับจ้องตัวเองอยู่เลย ชิชาหลุดคลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจ เมื่อเห็นท่าทางที่แสดงความเป็นห่วงของคนตัวสูงข้างๆ


    “รอคุณพ่อมารับน่ะ ก็เลยบอกพี่ๆให้กลับไปกันก่อนเลย”


                   เสียงทุ้มร้องอ้อออกมาเบาๆกับคำตอบที่ได้ยิน ก่อนจะเกาต้นคอตัวเองแกรกๆ ถ้าจากความเป็นสุภาพบุรุษแล้ว เขาไม่ควรจะทิ้งให้หญิงสาวคนนี้อยู่คนเดียวสินะ...

    “อ่า งั้นเดี๋ยวเรายืนรอเป็นเพื่อนแล้วกัน ผู้หญิงอยู่คนเดียวมันอันตราย” ตัดสินใจเก็บกุญแจรถเข้ากระเป๋า ก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงในท่าทีสบายๆ เพื่อให้หญิงสาวข้างๆผ่อนคลายลงเช่นกัน

    บรรยากาศตอนกลางคืนเงียบผิดจากไม่กี่ชั่วโมงก่อน ที่ยังคงมีเสียงเพลงเปิดดังกระหึ่มร้าน แต่ก็นะ นี่มันตีสองแล้วนี่นา ไม่รู้ว่าป่านนี้เด็กดื้อของเขาจะหลับรึยัง เปิดโทรศัพท์ขึ้นมาชั่งใจนิดหน่อย เพราะคุณแฟนของเขากำชับนักกำชับหนาว่าถ้าเลิกแล้วให้โทรหาหน่อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะเลิกดึกขนาดนี้นี่นา

    “หืม รูปแอสตันคู่กับใครหรอ” แอบสะดุ้งกับเสียงที่ดังอยู่ข้างหู เมื่อรับรู้ได้ถึงความใกล้ชิดที่เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าสวยยื่นเข้ามาใกล้เพื่อที่ดูหน้าจอโทรศัพท์ของเขา กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆของหญิงสาวมีเสน่ห์บ่งบอกได้ถึงตัวตนของผู้หญิง ก็นะ สมกับที่ได้เป็นดาวคณะของเขานั่นแหละ

    ตัดสินใจถอยออกมานิดหน่อย ก่อนจะยื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้เพื่อนร่วมคณะได้ดูถนัดขึ้น ชิชาเหลือบมองอย่างสนใจ ก่อนจะรู้ว่าตัวเองตัดสินใจผิดถนัดที่ขอดู


    ภาพของผู้ชายร่างโปร่งสองคน ใบหน้าคมแบบลูกครึ่งคลี่ยิ้ม แต่สายตาไม่ได้มองมาทางกล้อง กลับหันไปจดจ้องคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ส่วนคนถูกมองนั้นก็ไม่ได้รู้ตัวอะไรเลย ใบหน้าคมสวยคลี่ยิ้มหวาน มือข้างหนึ่งชูสองนิ้ว ส่วนมืออีกข้างนั้นหลุดจากเฟรมทำให้ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรกันแน่ ความใกล้ชิดของคนทั้งคู่ มันทำให้หัวใจของเธอเริ่มเต้นผิดจังหวะ


    “เด็กคนนี้...”


    “น่ารักใช่มั้ยล่ะ”


    ไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบประโยค น้ำเสียงทุ้มก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน ใบหน้าคมหลุดคลี่ยิ้ม รอยยิ้มที่ใช่ว่าจะยิ้มให้ใครได้ง่ายๆ สายตาจับจ้องไปยังหน้าจอโทรศัพท์ รู้สึกคิดถึงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เอาเป็นว่าถ้าส่งชิชาเสร็จ เขาตัดสินใจจะโทรหาเด็กดื้อนี่ซะหน่อย

    ชิชามองภาพตรงหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เพราะแค่นี้ก็เป็นหลักฐานที่เพียงพอแล้วว่า เด็กคนนั้น มีความสำคัญกับแอสตันมากแค่ไหน เพราะอย่างนั้น เธอควรจะเพิ่มความเด็ดขาดของแผนของเธอให้มากขึ้นซะที...












    “เป็นไงกันบ้างวะ” น้ำเสียงทุ้มเรียกความสนใจจากบรรดาสมาชิกภายในวง โดยเฉพาะนักร้องนำที่ดูเหมือนจะแสดงปฏิกิริยารวดเร็วกว่าเพื่อน ด้วยการลุกขึ้นมาช่วยคนเป็นรุ่นพี่ถือของ ทั้งบรรดาน้ำและขนม แหม ของฟรีใครเค้าจะไปปฏิเสธกันล่ะ

    มือเรียวดันศีรษะทุยๆของรุ่นน้องคนสนิทอย่างหมั่นไส้ จิวซื่อเหลือบมองสภาพของบรรดารุ่นน้องนิดหน่อย ไม่แปลกใจที่ทุกคนจะเหงื่อโซมกายขนาดนี้ ก็พึ่งจะซ้อมดนตรีเสร็จกันนี่นา จริงๆเขาก็ไม่ได้มีเวลาว่างมากพอจะมากวนเด็กพวกนี้ทุกวันหรอกนะ แต่เพราะโดนขอร้องให้มาช่วยเป็นคนฟังเพลงที่จะเข้าประกวดให้ ถึงได้ยอมสละเวลามา


    “เฮียว่าเป็นไงบ้างอ่ะ”


    หลังจากพักกินน้ำกินขนมกันเรียบร้อย ทุกคนเลยตัดสินใจเริ่มเข้าโหมดจริงจัง คนอายุมากสุดในกลุ่มนิ่งคิดนิดหน่อย ก่อนจะเริ่มคอมเม้นไล่ทีละคนตามประสารุ่นพี่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน และแน่นอนว่ารุ่นน้องทุกคนต่างก็ตั้งใจฟังเป็นอย่างดี


    “ดิน กลองเป็นตัวควบคุมจังหวะของวง เอาให้เป๊ะกว่านี้ การ์ตูน เบสยังไม่ค่อยโอเค ใส่อารมณ์ลงไปมากกว่านี้หน่อย แอนดี้ โอเคแล้ว ช่วยประคองเพลงให้เพื่อนแบบนี้ไปเรื่อยๆ สไปรท์ ซ้อมมากกว่านี้ ใส่ลูกเล่นเข้าไปอีกหน่อย”


    “ส่วนจิน...อารมณ์ยังสื่อไม่ค่อยได้ว่ะ ต้องส่งอารมณ์ กับความหมายของเพลงไปให้คนดูให้ลึกซึ้งกว่านี้”


    บรรยากาสคงจะดูจริงจังขึ้นมากกว่านี้หน่อย ถ้าบรรดาสมาชิกในวงไม่พากันส่งสายตาแปลกๆไปให้นักร้องนำ จินเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะยกนิ้วกลางใส่เพื่อนๆอย่างหมั่นไส้

    “โธ่ คุณนักร้องนำจะไปสื่ออารมณ์ได้ยังไง ก็เล่นแต่งเพลงตอนอกหัก แต่ตอนนี้ความรักมันดันแฮปปี้ มีความสุข กระต่ายน้อยกระโดดไปมาท่ามกลางมวลดอกไม้นี่นา” และคนที่แซวก็คงจะไม่ใช่ใครอื่นนอกจากมือกลองมาดกวนของวง จินหันไปถลึงตาใส่เพื่อนที่ปากมากไม่เข้าเรื่อง ท่าทางตลกๆของทั้งสอง เรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี

    จิวซื่อมองท่าทางของรุ่นน้องยิ้มๆ ดูเหมือนว่าข่าวที่เขาได้ยินมาคงจะคลาดเคลื่อนไป เพราะรุ่นน้องคนสนิทของเขายังอยู่ดีมีสุขอยู่เลย


    ข่าวอะไรน่ะหรอ ก็...


    “งั้นแปลว่าข่าวที่ว่าแอสตันกำลังกิ๊กอยู่กับดาวคณะก็ผิดพลาดไปสินะ” ทั้งห้องเงียบเสียงลงทันที จนคนที่พูดประโยคนั้นออกมาต้องเผลอกลืนน้ำลาย จิวซื่อยิ้มค้างมองไปทางรุ่นน้องอย่างงงๆ นี่เขาพูดอะไรผิดไปงั้นหรอ


    “เมื่อกี้เฮียพูดว่าอะไรนะ” น้ำเสียงนุ่มที่พึ่งจะหัวเราะเสียงสดใสเมื่อครู่ เย็นเยียบลงทันที ไม่บอกก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังอารมณ์ไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ คนถูกถามหันไปขอความช่วยเหลือจากบรรดารุ่นน้องรอบๆ แต่ทุกคนต่างก็มองมาทางเขาด้วยเครื่องหมายเควชั่นมาร์กเต็มหน้ากันทั้งนั้น


    สรุปมีเขารู้เรื่องนี้อยู่คนเดียวงั้นสิ -_-


    ก็แบบจริงๆเขาไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นอะไรเลยนะ แต่บังเอิญว่าเขามีเพื่อนที่เรียนอยู่คณะเดียวกันกับแอสตัน แล้วแบบเพื่อนเขามันเป็นเอ่อ เป็นตุ๊ดอ่ะ ตามประสาตุ๊ดก็ชอบเอาเรื่องคนนู้นคนนี้มาเมาท์อยู่เรื่อยใช่ป่ะ โดยเฉพาะผู้ชายหล่อๆแบบแอสตันจะเหลือหรอ


    “แกรู้มั้ยว่าเดือนคณะชั้นน่ะหล่อมากกกกกกกกกก”


    เพิ่มก ไก่เข้าไปอีกร้อยตัวได้ แถมหน้าตานี่ยังใส่ฟีลลิ่งเข้าไปสุดๆ จนเขาต้องยกแก้วน้ำของตัวเองออกมาห่างๆ ไม่อย่างนั้นน้ำลายของยัยตุ๊ดนี่คงจะลงไปแหงๆ

    “หล่อสู้กูเปล่าเหอะ” พูดแบบไม่สนใจเท่าไหร่ ก็แบบว่า ไม่ได้หลงตัวเองอะไรหรอกนะ แต่พูดไปงั้นๆแหละ หมั่นไส้ท่าทางของเพื่อนมัน แล้วคิดว่าเพื่อนตุ๊ดมันจะทำอะไรล่ะ ถ้าไม่มองค้อนแถมยังแอบมาลูบไล้แขนเขาด้วยเนี่ย

    “จ้า พ่อรูปหล่อ นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนกูจับมึงทำผัวไปแล้ว” ไม่พูดเปล่ายังจะมาทำหน้าหื่นใส่อีก ดูเหมือนว่าถ้าไม่รีบเปลี่ยนทอปปิคความปลอดภัยของประตูหลังของเขาคงจะไม่อยู่ดีแน่ๆ

    ก็เลยจัดการชวนเข้าเรื่องของคุณเดือนคณะของมันนั่นแหละ และมันเป็นอะไรที่โลกกลมพรหมลิขิตสุดๆ ที่เดือนคณะคนนั้นคือ แอสตัน แฟนหนุ่มลับๆของรุ่นน้องตัวแสบของเขา แล้วเป็นไงล่ะ ก็เลยขอให้เจ๊แกช่วยเมาท์ให้ฟังหน่อย ตั้งใจจะเอามาเล่าให้ไอ้เด็กแสบมันฟังต่อ แต่เรื่องที่เขาได้ยินมาเนี่ย กลับทำเอาทำอะไรต่อไม่ค่อยจะถูก


    “ก็ตามประสาคนหน้าตาดีแหละแก”


    “เผลอแปปๆ รู้ตัวอีกทีก็แอบไปกิ๊กกันกับดาวคณะของชั้นแล้ว โอ๊ย อกอีแป้นจะแตก นี่รับไม่ได้อ่ะ ชั้นเจอก่อนนะยะ ทำไมยัยชะนีหน้าสวยนั่นถึงได้คาบไปกินได้ล่ะ”


    “มึงแน่ใจหรอวะ ว่ามึงไม่ได้ดูผิด หรือคิดไปเอง” ก็แบบ เขารู้อยู่เต็มอกอ่ะ ว่าแอสตันกำลังคบกับใครอยู่ ไม่กี่วันก่อนไอ้รุ่นน้องจอมดื้อของเขายังมาบ่นงุ้งงิ้งเรื่องของนายแบบหนุ่มรูปหล่อนั่นอยู่เลย แล้วทำไมจู่ๆก็มีข่าวไปคบกับดาวคณะได้ล่ะ แล้วน้องเขาเป็นยังไงบ้างล่ะเนี่ย


    “แน่ใจสิยะ นี่เขาพูดกันทั้งคณะ ทั้งไปรับไปส่ง ดูแลนู่นนี่ ไม่เชื่อลองเข้าไปดูในไอจีสิ อัพรูปคู่กันออกจะบ่อย”


    ก็อยากจะเถียงอ่ะนะ แต่พอลองเข้าไปดูไอจีแล้ว ของแอสตันก็มีรูปคู่กันบ้าง แต่ฝ่ายหญิงเนี่ยมากันให้เพียบ แบบ ถ้าเขาไม่รู้ว่าแอสตันคบกับจินมาก่อนนะ ก็คงคิดว่าสองคนนี้ต้องมีซัมติงอะไรกันแน่ๆอ่ะ แต่คือ...แอสตันมันคบกับจินป้ะ แล้วเรื่องพวกนี้มันอะไร


    จิวซื่องง จิวซื่อไม่เข้าใจ ก็เลยตัดสินใจมาถามกับจินเอาเองเลยดีกว่า


    และดูเหมือนว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย...


    ริมฝีปากรูปกระจับเม้มเข้าหากันแน่เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากปากของรุ่นพี่คนสนิท ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่ามีผู้หญิงกำลังตามจีบแอสตันอยู่ ก็คือวันนั้นก็เจอมากับตัวเองป่ะ แต่นี่คือเขาไม่คิดว่ายัยผู้หญิงคนนั้นจะเอาจริงเอาจังขนาดนี้ ก็เลยปล่อยเลยตามเลย แถมไอ้รุ่นพี่ตัวสูงนั่นก็ไม่ได้พูดอะไรด้วย ก็เลยคิดว่ามันไม่มีอะไรไง


    แล้วนี่มันเรื่องอะไรกันวะครับ !!!!


    “เอ่อ จินกูว่ามึงใจเย็นๆนะ”


    “กูใจไม่เย็นตรงไหน -_-^”


    ก็ตรงนี้ป่ะวะ แบบแค่ดูหน้าก็รู้ละว่ามันกำลังโกรธ นี่ถ้ามันเป็นก็อตซิลล่านะ คงพ่นไฟไปแล้วอ่ะ แล้วยังจะมาถามอีกหรอว่าไม่เย็นตรงไหน คนที่เหลือเลยพากันมองหน้ากันนิดหน่อยอย่างขอความเห็น สุดท้ายทุกสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ตัวต้นเหตุที่จุดประเด็นนี้ขึ้นมานั่นแหละ


    “เออๆ โกรธไปก็ไม่ช่วยอะไรป่ะวะ ไปเคลียร์กันตรงๆเลยดีกว่า นี่ก็เป็นผู้ชายแมนๆกันทั้งคู่”


    นี่หรือคำพูด!! ทุกคนนี่แทบจะเอาเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผากอยู่แล้ว นอกจากไม่น่าจะทำให้เพื่อนจอมดื้อของพวกเขาอารมณ์เย็นลงแล้ว ยังจะไปเร่งให้อารมณ์ระเบิดเร็วข้ึนมากกว่าซะอีก แต่ก็นะ ถ้าไม่เป็นจิวซื่อก็คงไม่กล้าพูดอะไรแบบนี้หรอก และดูเหมือนคนอย่างจินเองก็ไม่กล้าทำอะไรอาเฮียของตัวเองอยู่แล้ว ถึงได้ยอมสงบสติอารมณ์ของตัวเอง


    “ป่ะๆ งั้นไปคุยกับพี่แอสตันให้รู้เรื่องดีกว่าเนอะ” เมื่อเห็นสถานการณ์ดีขึ้น แอนดี้ผู้มีเหตุผลที่สุดในวงเลยรีบเอ่ยชวนเพื่อน

    “คุยอะไร ไม่มีอารมณ์จะคุยโว้ย” แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิดไปหน่อย เมื่อนักร้องนำของวงที่เหมือนจะอารมณ์เย็นลงดันระเบิดลงอีกรอบ ก็เลยรีบหุบปากฉับก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ สไปรท์ถอนหายใจยาว รู้สึกชีวิตของตัวเองสั้นลงไปอีกหลายปี วันๆนี่จะมีมั้ยที่เขาได้กลับไปนั่งตากแอร์เล่นเกมสบายใจอยู่ที่ห้องของตัวเองเนี่ย


    “ไม่คุยแล้วจะทำไง ปล่อยไว้หรอ”


    “ไม่”


    “งั้นก็ไปคุย”


    “ไม่อยากคุย”


    เอ้า นี่พยายามมีเหตุผลด้วยแล้วนะ แต่ดูเพื่อนบ้าของเขาดิ เดี๋ยวก็ได้เอาเท้าฟาดหน้าเข้าสักวันหรอก จินหายใจเข้าออกแรงๆสองสามทีเพื่อควบคุมอารมณ์ เมื่อเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มไร้เหตุผลไปหน่อยล่ะ

    ก็แบบ คืออะไรอ่ะ นี่เป็นแฟนกันป่ะวะ แล้วปล่อยให้ยัยผู้หญิงนั่นมาให้ท่าขนาดนั้นได้ยังไง ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ก็คงจะเป็นแบบที่เพื่อนพูดนั่นแหละว่าเขาควรจะไปคุยกับพี่มันให้รู้เรื่อง


    “ถ้าจะไปคุย เหมือนวันนี้แอสตันมันน่าจะไปช่วยรุ่นพี่ที่คณะขายเสื้อที่งานเปิดท้ายอ่ะ”


    “ยัยนั่นไปด้วยมั้ย”


    ประโยคถัดมาทำเอาจิวซื่อเงียบไปชั่วขณะ จะให้พูดยังไงล่ะ ก็สองคนนั้นเค้าอยู่ด้วยกันอ่ะ จะโกหกก็คงไม่โอเค เอาวะ ยังไงจินมันก็ต้องรู้อยู่แล้วป่ะ ไม่ช้าก็เร็วอ่ะ


    “ก็เอ่อ เหมือนเค้าจะให้ดาวกับเดือนไปช่วยขายอ่ะ แบบคนหน้าตาดีใครก็อยากมาซื้อป่ะ”


    เมื่อเห็นรุ่นน้องจอมดื้อของตัวเองพอจะเริ่มมีสติมากขึ้นแล้ว ก็เลยตัดสินใจพูดออกมา แต่ก็นะ เหมือนราดน้ำมันลงกองเพลิงยังไงก็ไม่รู้ ก็ถ้าไม่พูดความจริงตั้งแต่ตอนนี้ ไปเจอสองคนนั้นอยู่ด้วยกันเลยมันจะไม่ยิ่งแย่ไปกว่านี้หรอ


    แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคาดคะเนผิดพลาดไปหน่อย เพราะรุ่นน้องตัวแสบของเขาแค่พูดว่า


    “อ๋อ...งั้นหรอครับ”


    ก็คงจะดีกว่านี้ถ้าไม่พูดด้วยน้ำเย็นเยียบแบบนั้น คนอื่นก็เลยพากันใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนคลื่นลมทะเลที่สงบก่อนพายุจะเข้าอ่ะ แถมดูเหมือนพายุลูกนี้จะไม่ใช่แค่พายุดีเปรสชั่น แต่เป็นพายุทอร์นาโดเลยน่ะสิ
















    รู้สึกแปลกๆ เหมือนกำลังจะมีเรื่องอะไรสักอย่างเกิดขึ้น คือมันก็เป็นแค่ความรู้สึก แต่ช่วงนี้ความรู้สึกของเขาน่ะแม่นสุดๆ เหมือนตัวเองมีสัมผัสที่หกยังไงก็ไม่รู้ ไม่ใช่ว่ามองเห็นผีอะไรเทือกนั้นหรอกนะ แต่เป็นลางสังหรณ์ที่ว่า เจ้าเด็กแสบในความดูแลของเขากำลังจะก่อเรื่องอะไรบางอย่างน่ะสิ นี่ไม่ได้คิดไปเองนะ แต่ทุกครั้งที่เขารู้สึกแบบเนี่ย คุณแฟนของเขาก็มักจะมาหาเขาพร้อมกับเรื่องป่วนๆตลอด

    แต่ก็นะ เขากลับรู้สึกดีใจที่มีเรื่องแบบนี้ เพราะมันเหมือนกับว่าเขากับจินน่ะ รู้จักกันดีมากจนฝ่ายหนึ่งไม่ต้องบอก หรือพูดอะไรมาก อีกฝ่ายก็พอจะเดาเรื่องได้ มันดูเป็นคู่รักที่เข้ากันสุดๆเลยใช่มั้ยล่ะ

    “เอ้า แอสตันเอาเสื้อนี่ไปเปลี่ยนนะ” น้ำเสียงแหบๆของรุ่นพี่ในคณะเอ่ยดึงสติของเขาให้กลับมา นัยน์ตาคมเลื่อนไปมองยังร่างผอมที่เดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะรับเสื้อสีกรมท่าขนาดพอดีตัวมาไว้ในมือ

    “เปลี่ยนเสร็จแล้วก็รีบกลับมาล่ะ อีกเดี๋ยวก็จะเปิดร้านแล้ว” พูดกำชับรุ่นน้องเสร็จสรรพ ก็ปลีกตัวออกมาเช็คทุกอย่างให้เรียบร้อยอีกรอบ แอสตันพยักหน้ารับอย่างขอไปที

    ตอนนี้เขาอยู่ที่ตลาดเปิดท้ายตามสไตล์เด็กแนว hipster แถวๆมอ เพราะรุ่นพี่ที่เป็นเดือนรุ่นก่อนมาขอร้องเอาไว้ ว่าให้มาช่วยขายเสื้อเพื่อหาเงินเข้าคณะหน่อย แทนที่จะได้ใช้เวลาว่างตามที่ใจอยากจะทำ ก็ต้องมาถูกใช้แรงงานแทน แต่ก็นะ รุ่นน้องอย่างเขาจะปฏิเสธอะไรได้ล่ะ ก็เลยก้มหน้าก้มตาทำตามที่พี่บอกไป

    มองหาที่เปลี่ยนเสื้ออยู่สักพัก ก่อนจะรับรู้ได้ถึงแรงสะกิดที่หัวไหล่ เลยต้องเหลือบสายตาหันไปมอง ก่อนจะสบเข้ากับนัยน์ตากลมสวยที่กำลังมองมาทางเขาอย่างเป็นประกาย



    “ชิชาเป็นไงบ้าง”



    คนตัวบางพูดด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนจะโชว์เสื้อที่ตัวเองใส่อยู่ เป็นเสื้อแบบเดียวกันกับเขา สกรีนลายเสื้อว่า ‘เด็กถา’ปัตย์’ ทั้งๆที่เสื้อออกจะดูหลวมโคร่งไปหน่อย แต่พอมาอยู่บนตัวของหญิงสาวมันกลับให้ความรู้สึกแบบน่ารักแก่นๆไปอีกแบบ

    “อื้ม ดูดีเลย” เอ่ยตอบยิ้มๆ และก็ได้รอยยิ้มหวานๆของหญิงสาวตอบกลับมา ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ เสียงโห่แซวก็ดังมาจากรุ่นพี่ที่อยู่ข้างหลัง ชนิดที่ว่าคนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นต้องหันมามอง

    “นั่นแน่ มัวแต่จีบกันอยู่นั่นแหละ รีบไปเปลี่ยนเสื้อแล้วมาทำงานทำการได้แล้ว ไป๊” ไม่ใช่ใครอื่นไกลนอกจากพี่รหัสจอมมึนของเขานั่นเอง คือแบบ ไม่ว่าเขาจะอธิบายไปกี่รอบคนคนนี้ก็ไม่เคยจะเชื่อเขาเลยว่าเขากับชิชาน่ะ ไม่ได้มีซัมติงอะไรกันทั้งนั้นแหละ

    ก็เลยกลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยๆ แล้วหันไปถามรุ่นพี่ที่ยืนยิ้มอยู่ใกล้ๆว่าเขาพอจะเปลี่ยนเสื้อได้ที่ไหนบ้าง


    “อืม...อันที่จริงเปลี่ยนตรงนี้ก็ได้นะ แบบเป็นการเรียกลูกค้าไปในตัวด้วยนั่นแหละ” พูดพลางพยักเพยิดไปทางมุมอับสายตานิดหน่อย จะว่าอับก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ ก็เพราะมีแค่ที่ตั้งโชว์เสื้อบังเอาไว้นิดหน่อยเท่านั้นเอง



    นี่กะจะใช้งานเขาให้คุ้มเลยสินะ =_=



    แต่เพราะความขี้เกียจ ถ้าจะเดินไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำมันก็ไม่ใช่ว่าสองสามก้าวถึง ก็เลยตัดสินใจหลบมุมหน่อยๆแล้วถอดเสื้อออกตรงนั้นเลย






    “เดี๋ยวสาวๆแถวนี้ก็พากันเลือดกำเดาพุ่งหรอกครับ”






    น้ำเสียงนุ่มที่คุ้นเคยทำเอาแอสตันสะดุ้ง ก่อนจะชะงักค้างเมื่อเผลอสบเข้ากับนัยน์ตาเรียวสวยที่มองมาทางเขา แฝงแววไม่พอใจอยู่หน่อยๆ ก็เลยเผลอค้างอยู่แบบนั้นจนโดนสายตาตำหนิมาจากคุณแฟนจอมแสบนั่นแหละ ถึงจะได้สติแล้วรีบสวมเสื้อให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหา

    “จะมาทำไมไม่บอก จะได้ไปรับ” ยอมรับว่าแปลกใจที่จู่ๆเด็กดื้อก็โผล่มาอยู่ตรงหน้าเขาซะได้ แต่ในความแปลกใจนั้นก็ถูกความดีใจเข้ามาแทนที่ไปเสียหมด ก็ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจอหน้ากันตรงๆแบบนี้นี่นา แบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ ถ้าไม่ติดว่าดูเหมือนเด็กแสบกำลังโกรธอะไรเขาบางอย่างอ่ะนะ


    “เซอร์ไพรส์!!”


    ถึงปากจะพูดว่าเซอร์ไพรส์ แต่หน้าตานี่กำลังบ่งบอกสุดๆว่าการมาเจอกันครั้งนี้ อีกฝ่ายมีเรื่องที่ต้องมาเคลียร์มากกว่ามาเซอร์ไพรส์แน่ๆ แอบลอบกลืนน้ำลายหนืดๆลงคอ ก่อนจะส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังเพื่อนๆของจินที่เดินตามมาข้างหลัง

    เมื่อได้รับสายตางงๆจากรุ่นพี่ตัวสูงพวกเขาจะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากส่งสายตาเห็นใจกลับไปให้ คนใกล้ตัวของจินก็คงจะรู้ดีกันนั่นแหละ ว่าเรื่องแบบนี้ถ้าเข้าไปยุ่งมากๆ คนที่จะซวยก็คงจะเป็นพวกเขาเอง

    “มองอะไร ไม่ต้องมองไปทางอื่นเลยนะ”


    เมื่อเห็นคนตรงหน้าไม่ยอมสนใจตัวเอง ก็เลยไม่พูดเปล่าเอามือทั้งสองข้างมาประกบเข้าที่หน้าของแอสตันแรงๆจนเกิดเสียงขึ้นมาไม่เบาเท่าไหร่นัก คนหน้าหล่อเผลอเบ้หน้าด้วยความเจ็บ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าเด็กนี่มือหนักใช่ย่อย แต่มันก็คุ้มที่ทำให้ได้เห็นท่าทางน่ารักๆของคนตรงหน้าที่ไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยเท่าไหร่ ก็อะไรคือการมาทำหน้างอนในระยะประชิดแบบนี้อ่ะ มันน่าหมั่นเขี้ยวจนอยากจะแกล้งขึ้นมา


    “ไม่ได้มองอะไรเลย นี่มองแค่ที่รักคนเดียวเลย”


    พูดพร้อมกับคลี่ยิ้มหวาน อดที่จะหยอดคำหวานไปให้ไม่ได้จริงๆ ก็แบบนานทีจะเห็นเด็กตรงหน้างอนเขาด้วยท่าทางน่ารักๆแบบนี้นี่นา


    “อ้อหรออออ ไม่ได้มองอย่างอื่นเลยงั้นหรอ”


    เมื่อเห็นคนตรงหน้ายังจะมาพูดจาเลี่ยนๆใส่ ก็เลยแกล้งลากเสียงยาวก่อนจะยืดแก้มของคุณแฟนตัวสูงของตัวเองอย่างหมั่นไส้ เรียกเสียงร้องด้วยความเจ็บจากคนตรงหน้าออกมาเบาๆ ไม่มาเป็นเขาไม่รู้หรอก คนอะไรทำผิดแล้วยังจะมาทำเป็นลอยหน้าลอยตา พูดจาเสี่ยวๆแกล้งให้คนอื่นเขินเล่นอีก



    แต่บังเอิญว่าวันนี้เขามีภูมิต้านทานต่ออาการเขินดี เพราะมีเรื่องอื่นให้ต้องเคลียร์น่ะสิ!!!!


    “อำไออ่ะ” เสียงทุ้มพูดอู้อี้อย่างยากลำบาก แต่คนอย่างจินคิดว่าแค่นี้จะยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระง่ายๆรึไง เพราะนอกจากจะไม่ปล่อยแล้วยังจะการโคลงศีรษะของอีกฝ่ายไปมาด้วยการยึดที่แก้มอีกต่างหาก


    “นี่ถามเพราะไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งโง่” พูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก เมื่อเห็นคนตัวสูงตรงหน้ายังไม่ยอมสำนึก ก็อะไรคือการมาตีหน้ามึนใส่เหมือนกับตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดแบบนี้เล่า นี่เขาโมโหอยู่นะ ยังจะมาส่งสายตาวิ้งๆมาให้อีก เดี๋ยวพ่อก็ดึงจนแก้มย้วยเลยเนี่ย


    “…”


    เมื่อเห็นว่าคุณแฟนตัวโย่งยังคงมองมาอย่างงงๆ จินเลยยอมปล่อยมือออกจากแก้ม แล้วเปลี่ยนมาเป็นระกบกันแรงๆแทน


    “มีสายรายงานมาว่า ตัวเองกำลังมีกิ๊ก” ไม่พูดเปล่าส่งสายตาดุๆ ไปเป็นของแถมด้วยอ่ะ แอสตันกะพริบตาปริบๆก่อนจะมองเลยไปด้านหลัง ที่สมาชิกวง alcoholic ร่วมใจกันส่งสายตาไปทางจิวซื่อ ไม่บอกก็รู้ว่าต้องเป็นเพื่อนร่วมวงการของเขาแหงๆ


    “กิ๊กอะไร ไม่มีซะหน่อย ใจเค้านะมีแต่ที่รักคนเดียวเลย”


    พูดพร้อมกับเอามือประกบเข้าที่แก้มของอีกฝ่ายบ้าง แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ เพราะเขาค่อยๆบรรจงวางมือลงไปอย่างทะนุถนอมสุดๆ


    “โกหก”


    แน่ะ ช่วงนี้รู้สึกไม่ว่าเขาจะพูดอะไรไป ก็ไม่ค่อยจะมีคนเชื่อเขาซะเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่องนี้เลย แบบก็เข้าใจนะว่าบางทีพฤติกรรมของเขากับชิชาอาจจะดูสนิทสนมกันไปบ้าง แต่ว่ามันก็เป็นอะไรที่เพื่อนเค้าทำกันไม่ใช่หรอ ขนาดไอ้ต้นไผ่เดินถือของให้เพื่อนในคณะยังไม่มีใครคิดว่าสองคนนั้นเป็นแฟนกันเลย แล้วนี่อะไร แค่เขาคุยกับชิชาก็ดันมีข่าวหลุดว่ามีซัมติงกันซะแล้วอ่ะ


    “โกหกอะไร เนี่ย หายใจเข้าเค้าก็เป็นที่รัก หายใจออกเค้าก็ยังเป็นที่รัก แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปมีกิ๊กอ่ะ”


    จินเม้มเผลอปากแน่น ไอ้พี่บ้านี่มันรู้จุดอ่อนของเขานี่ ก็เลยชอบพูดจาหวานๆให้เขาเขินอยู่เรื่อย พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้อยู่ในโหมดไม่พอใจ ก็จะให้ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปมันก็ไม่ได้ป้ะ น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับการอ่อยของยัยชะนีหน้าลอยนั่น คือก็ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจนะ แต่เขารู้ เพราะเขาก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน



    ถ้ามีผู้หญิงมาแก้ผ้าต่อหน้า แถมยังสวยระดับนางฟ้า เป็นเขาเขาก็กระโจนเข้าใส่เหมือนกันแหละ =_=



    “อย่านอกเรื่องได้ป่ะ นี่โคตรจริงจัง” แกล้งทำน้ำเสียงให้เข้มขึ้น เพื่อเป็นการเน้นว่าจริงจังจริงอย่างที่พูด ทำเอาแอสตันหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ กับท่าทางน่ารักๆนั่น


    “โอเคครับ ยอมรับว่ามันมีข่าวแบบนั้นจริงๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องจริงนะ จินก็น่าจะรู้” เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงยอมมีสาระขึ้นมาบ้าง เขาก็ไม่ปล่อยโอกาสที่จะจัดการเรื่องนี้ไปหรอก


    “ก็ใช่ไง แต่ถ้ามันไม่มีมูล ข่าวมันก็ไม่ออกมาป่ะ”


    แอสตันยอมพยักหน้าเห็นด้วย เพราะเขาก็เถียงเรื่องนี้ไม่ออกเหมือนกัน ถึงแม้เขาจะคิดว่าการกระทำของตัวเองกับชิชามันไม่มีอะไรเกินเพื่อนเลยก็เถอะ เอ่อ อาจจะเป็นแค่ของเขาคนเดียวก็ได้ แต่จะให้ทำยังไงล่ะ เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ฝ่ายหญิงด้วยนี่


    “พี่คิดว่าพี่ไม่ได้ทำอะไรจริงๆนะ แต่มันก็ยังมีข่าวแบบนั้นออกไป แล้วจินอยากให้พี่ทำอะไรจินจะได้สบายใจ” เมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวลแถมอาการเป็นห่วงของแฟนตัวสูง อารมณ์หงุดหงิดๆก็ค่อยๆหายไปทีละนิดๆ โอเค เห็นว่าทำตัวน่ารักจะยอมไม่เอาเรื่องก็ได้


    แต่สำหรับยัยดาวคณะขี้มโนนั่น...




    เขาไม่ปล่อยไว้หรอกนะ ;)











    -------------------------------------------------

    Talk : หายไปนานมากกกกกกก (ก ไก่อีกล้านตัว)

              5555 ขอโทษนะคะ คือแบบไรท์เครียดๆเรื่องเรียน

              คณะไรท์เรียนหนักมากอ่ะบอกเลย

              แต่ตอนนี้คัมแบ็คแล้วน้า (อย่างกะบอยแบนด์เกาหลี อิอิ)

              จะบอกว่าตอนนี้จะน่ารักมุ้งมิ้ง แต่งเอามันส์งดดราม่า

              ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะค้า จุ๊ฟๆ










    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×