ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] VAMPIRE AND WEREWOLF (HunHan,ChanBaek and EXO)

    ลำดับตอนที่ #30 : VAMPIRE AND WAREWOLF :: THE END Part II

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.56K
      2
      12 มี.ค. 57

     

                แน่นอนว่าหลังจากพายุผ่านพ้นไปฟ้าหลังฝนย่อมสดใสกว่าเดิม..

     

                แต่มันไม่เกี่ยวข้องกับหัวใจของลู่ฮาน หลังจากที่ลู่ฮานตกลงจากหน้าผาไปทุกอย่างก็เข้าสู่บรรยากาศเงียบเชียบ หลังจากที่เซฮุนตั้งสติได้ก็ทำท่าเหมือนจะกระโดดลงไปตามหาลู่ฮาน อย่างน้อยก็โชคดีแค่ไหนที่ชานยอลคว้าไม่ให้เซฮุนทำอะไรโง่ๆลงไป

     

                แบคฮยอนเองก็อยากจะไปตามหาลู่ฮานเหมือนกัน แต่ด้วยสภาพป่าที่ไฟลุกโหมกระหน่ำขนาดนั้นไม่มีทางที่แบคฮยอนจะลงไปช่วยใครได้ทั้งนั้น เขาทำได้เพียงแค่พาชานยอลเซฮุนและเลย์ไปยังที่ที่ปลอดภัยเท่านั้น..

     

                พวกเขาไม่รู้ว่าคริสไปไหน ไม่มีใครเห็นคริสหลังจากนั้น เซฮุนได้แต่หวังว่าคริสจะช่วยลู่ฮานทัน ถึงแม้ว่าคริสจะพาลู่ฮานแยกไปจากเขา แต่มันก็ดีกว่าที่จะต้องแยกจากกัน..เพราะความตาย..

     

     

                เช้าวันรุ่งขึ้น คุณย่ามาเคาะประตูห้องพวกผม บอกตรงๆว่าไม่มีใครสักคนนอนหลับสนิทได้จริงๆ แต่แล้วคุณย่าก็เข้ามาบอกเรื่องสำคัญ ถ้าหากบอกก่อนหน้านี้มันคงจะเป็นข่าวดีไปแล้ว

     

     

                คุณแม่ให้ชานยอลและเซฮุนกลับบ้าน...

     

     

     

                เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เซฮุนและชานยอลเองต้องกลับบ้าน ถึงแม้เซฮุนจะคัดค้านไปบ้างแต่คุณย่าเองก็อยากให้หลานทั้งสองของเธอกลับบ้าน ชานยอลเองถึงจะไม่แสดงออกชัดเจนเหมือนเซฮุนแต่เขาเองก็ยังไม่อยากกลับ เหตุผลก็คงเพราะเรื่องของลู่ฮานที่ยังไม่เคลียร์...

     

                เรื่องแบคฮยอนก็ด้วย...

     

     

                เหมือนคุณย่าจะเข้าใจความคิดของชานยอลดี เธอบอกกับหลานชายคนโตของเธอว่าถ้าหากอยากเอาแบคฮยอนกลับบ้านด้วยก็ควรถามความสมัครใจของแบคฮยอนก่อน ซึ่งแน่นอนเมื่อแบคฮยอนได้ยินคำแนะแนวที่เป็นเหมือนคำอนุญาตกลายๆนั้นแล้วแบคฮยอนก็พยักหน้ารัวๆ หันไปยิ้มให้กับชานยอลอย่างมีความสุข

     

                เซฮุนมองภาพพี่ชายตัวเองกับแบคฮยอนด้วยสายตาอิจฉา ถ้าหากไม่เกิดเรื่องบ้าๆแบบนั้น ไม่แน่เขาอาจจะมีโอกาสได้ยิ้มเหมือนกับที่พี่ของเขากำลังเป็น แต่เรื่องนี้เขาไม่รู้สึกเกลียดชังใครเลย..

     

     

                นอกจากตัวเอง...

     

     

                อย่างน้อยในความเป็นผู้ชาย.. ไม่สิเป็นคนๆนึง เป็นคนธรรมดาคนนึง เซฮุนอยากจะบอกรักกับคนที่ตัวเองรักให้เขาได้ยิน

     

     

                แต่เขาก็ไม่มีโอกาส..

     

     

                "เอ่อ..คุณย่าฮะ" เลย์เองที่นั่งเงียบอยู่นานก็เอ่ยเรียกผู้อวุโสที่สุดในบ้านอย่างเกรงใจ

     

                "คริสเขาไปแล้วล่ะเลย์.. ในป่าแห่งนี้เหลือแต่พวกเราที่บ้านแห่งนี้แค่นั้นแหละจ๊ะ" คุณย่าตอบด้วยดวงตาค่อนข้างเศร้า

     

                "คริสเอาลู่ฮานไปด้วยใช่ไหมครับ!" เซฮุนถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง

     

                "..." คุณย่าไม่เอ่ยคำใดเป็นคำตอบ เธอเพียงแค่หลับตาพร้อมส่ายหน้าช้าๆเป็นเชิงปฏิเสธ...

     

     

                แค่นี้ก็เป็นคำตอบที่ทำร้ายโอเซฮุนพอแล้ว...

     

     

     

                ทั้งหมดออกเดินทางทันทีหลังจากที่เก็บของเสร็จเรียบร้อย ดูเหมือนขากลับของของสองพี่น้องก็น้อยลงไปมาก ของของแบคฮยอนเองก็ไม่มีอะไรนอกจากเสื้อผ้าไม่กี่ตัวกระกล่องเบาๆนึงกล่อง เลย์ยิ่งไม่มีของใช้ติดตัวใหญ่ เนื่องจากของๆเขาไม่อยู่ในรถที่จอดเสียไว้ก็ทิ้งไว้ที่บ้านของคริสหมดแล้ว

     

                "จำไว้นะทุกคน... ถ้าหากมีปัญหามาหาย่าได้ทุกเมื่อนะ" คุณย่าโบกมือลาเหล่าเด็กหนุ่มทั้งหลายก่อนที่พวกเขาจะออกจากป่าแห่งนี้ไป..

     

                ทั้งหมดเดินทางไปที่รถของเลย์ที่จอดเสียอยู่ เลย์ลองสตาร์ทเครื่องดูสองสามทีก็พบว่าเครื่องนั้นกลับมาใช้ได้แล้ว นั้นก็คงจริงตามคำที่คริสได้บอกเขาเมื่อตอนที่อยู่ปราสาท คริสให้คนมาดูรถของเขาเรียบร้อยแล้ว เลย์รับหน้าที่ขับรถเช่นเดิม แต่คราวนี้เซฮุนเป็นคนนั่งข้างคนขับ ส่วนเบาะหลังนั้นให้แบคฮยอนและชานยอลนั่งด้วยกัน

     

                ถ้าหากเป็นสภาวะปกติพวกเขาก็คงครืนเครงกว่านี้...

     

     

     

                เมื่อมาถึงบ้านแม่ของเขาก็รออยู่ที่บ้านแล้วเช่นกัน แต่เธอไม่ได้เรียกให้ลูกชายของเธอไปพบอย่างที่คิดไว้ เพียงแค่บอกให้ลูกชายทั้งสองของเธอไปพักผ่อนตามห้องของตัวเอง ส่วนเธอก็นำทางแบคฮยอนเพื่อไปยังห้องของแบคฮยอนที่เธอให้แม่บ้านทำความสะอาดรอไว้

     

                เหมือนแม่ของเขาจะรู้เหตุการณ์ทุกอย่าง เธอไม่ถามอะไรจากปากใครทั้งสิ้น เหมือนเธอจะรู้ถึงความสัมพันธ์ของลูกชายคนโตของเธอกับแบคฮยอน โชคยังเข้าข้างคุณนายโอไม่ใช่คุณแม่สามาใจร้ายตามละครหลังข่าวที่จะกีดกัน เธอเพียงแค่กล่าวสั้นๆว่ายังก็ยังไม่อยากให้นอนห้องเดียวกัน ชานยอลเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรเพราะคิดว่าแม่ของเขายอมอ่อนให้เขามามากแล้ว

     

     

                หลังจากนั้นคุณนายโอก็เข้าไปคุยกับลูกชายคนเล็กของเธอตามลำพัง เธอเข้าไปกอดเซฮุนอย่างที่คนเป็นแม่ควรทำ เธอไม่ได้เอ่ยถามอะไรทั้งนั้น เซฮุนเองก็ไม่เล่าอะไรทั้งนั้นเช่นกัน หลังจากที่คุณนายโอคลายอ้อมกอดออก เธอก็เพียงพูดสั้นๆว่า

     

                "เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น"

     

                "ครับ.." เซฮุนพยักหน้ารับคำ แต่ดวงตาของเขาเหมือนกำลังว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง

     

                "ร่าเริงไว้โอเซฮุน ฉันไม่ได้คลอดแกมาให้มาทำหน้าเศร้าเป็นหมาโดนตัดหางแบบนี้นะ" อาจจะฟังดูแข็งกระด้าง แต่นี้แหละคือวิธีการปลอบลูกชายของคุณนายโอ เธอเลี้ยงโอเซฮุนให้ดูเป็นเด็กเอาแต่ใจก็จริงแต่เธอก็รู้เหมือนกันว่าต้องใช้คำพูดแบบไหนลูกชายของเธอถึงจะรู้สึกดีขึ้น

     

                ..ยังไงลูกชายคนนี้เธอก็เลี้ยงมาเองกับมือ...

     

                "ผมรู้แล้วน่า.." เซฮุนหลุดยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเป็นฝ่ายเข้าไปกอดคุณนายโอด้วยตัวเอง

     

                "ดีมาก.. ฉันมีข่าวร้ายจะบอก..ฉันขายลูกชายแกไปแล้วนะ..." คุณนายโอพูดอย่างยิ้มๆ

     

                "แม่... แม่ทำแบบนี้กับผมได้ไง แม่ขายไอ้บูกัตตี้ของผมได้ไง แม่.." เสียงเซฮุนอ้อนคุณนายโออีกครั้ง

     

                ไอ้บูกัตตี้หรือลูกชายของเซฮุนมีชื่อเต็มๆว่าบูกัตตี้ เวย์รอน แกรนด์สปอร์ต วิทเทสส์ WRC (เรียกย่อดีกว่าเนาะ..) เป็นรถคันโปรดของโอเซฮุน เพราะเซฮุนมักจะพามันไปแว๊นซ์หลายๆทีและมันเองก็คว้าชัยชนะมาให้เขาเสมอ สมทั้งราคาและชื่อเสียงที่ได้ว่าเป็นรถที่มีความเร็วที่สุดในโลก

     

                "แกคิดว่าแกเอาไปแข่งจอดรถเละขนาดนั้นฉันจะเสียค่าซ่อมไปเท่าไหร่ ขายๆมันทิ้งก็ดีแล้ว ยังไงก็ใช้ไม่ได้แล้ว ถือว่าทำโทษแกไปในตัว" คุณนายโอยักไหล่อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

     

                "ผมงอนแม่แล้ว ไม่คุุยกับแม่แล้ว" เซฮุนทำแก้มป่อง เซฮุนมักจะเป็นเด็กเสมอเมื่ออยู่กับคนในครอบครัวตามลำพัง เนี่ยแหละสิทธิพิเศษของคนในครอบครัวเท่านั้นที่มีสิทธิ์เห็น

     

                "ดีจัง.. ไม่คุยกับฉันก็คงไม่มีใครเอาไอ้นี้ไปแล้วสินะ ดีจัง.คงได้ไปขายอีกคัน" คุณนายโอคว้ากุฯแจรถออกมาจากกระเป๋าก่อนจะทำหน้าเศร้า

     

                "เอาๆๆ เอาคร้าบบบบ" เซฮุนรีบถลาไปคว้ากุญแจจากแม่ของตัวเองมาให้ดู

     

                "เครื่องไม่แรงเท่าลูกชายคนเก่าของแกนะ ยังไงฉันก็ทำโทษแกอยู่... แต่น้องจากัวร์ก็แพงนะ.. ใช้ทะนุถนอมหน่อยล่ะ" คุณนายโอบอกก่อนจะเดินออกไปจากห้องรู้ชายตัวเอง

     

     

                โอเซฮุนได้แต่อมยิ้มหลังจากมองแม่ของตนเดินจากไป นี้คงเป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้เขาร่าเริง อาจจะดูตามใจไปสำหรับใครหลายคน แต่เซฮุนก็ต้องยอมรับว่าเขาชอบ ชอบมากกกกกกกกก(อยากเติมก.ไก่อีกแสนตัว)ด้วย อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ทำให้เขาร่าเริงขึ้นมาได้ชั่วคราว...

     

                เซฮุนเตรียมจะคว้าโทรศัพท์ไปเล่าให้เพื่อนแก็งค์เด็กแว๊นซ์ฟัง แต่พอหยิบมือถือคู่ใจออกมาก็ต้องชะงักไป ไม่ใช่เพราะหน้าจอที่ยังคงมีรอยแตก.. หรือว่าแบตมือถือที่หมด... แต่มันเป็นเพราะเขานึกถึงหน้าของคนๆนึงคนที่เคยโดนเขาปาโทรศัพท์ใส่

     

                ฉันคิดถึงนายจังลู่ฮาน...

     

     

               

     

                วันเวลาผ่านไปแล้วผ่านไปเล่า ถึงแม้เซฮุนจะมีอาการร่าเริงเหมือนปกติดีแต่คนในครอบครัวของเขารู้ดีว่าเซฮุนกำลังฝืนร่าเริงเพื่อไม่ให้คนอื่นเป็นห่วง แต่ทุกคนในบ้านก็ไม่สามารถช่วยอะไรเซฮุนได้ เพราะยังไงปัญหาของเซฮุนก็คงต้องใช้เวลาเป็นตัวรักษา.. ไม่มียาอะไรดีไปกว่าเวลาอีกแล้ว...

     

                คุณนายโอเองก็เอ็นดูแบคฮยอนจนกลายเป็นลูกรักมากกว่าชานยอลไปแล้ว แต่ก็ไม่แปลกเพราะบุคลิกของแบคฮยอนเป็นคนช่างพูดแต่นอบน้อม เป็นเด็กใสซื่อแต่ก็ฉลาด ถึงเป็นที่เอ็นดูของผู้ใหญ่หลายๆคน คุณแม่ของชานยอลเองก็จะส่งแบคฮยอนเรียนมหาลัยด้วย ชานยอลเองก็สงสัยว่าประวัติของของแบคฮยอนจะสามารถเรียนได้หรอ คุณนายโอเพียงแค่สั้นๆว่า..

     

                "แกไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร" พร้อมกับขยิบตาให้

     

                โอเคเป็นที่รู้กันว่าแบคฮยอนจะได้เรียนมหาลัย...

     

     

               

     

                เช้าวันเปิดเทอมเซฮุนขับลูกสาวคนใหม่หรือก็คือน้องจากัวร์(เอฟ ไทป์)ไปมหาลัย เช้านี้เขาอารมณ์ดีเล็กน้อย เพราะตอนที่กำลังจะเอาน้องจากัวร์ออกมาจากโรงรถ เขาแอบเหลือบไปเห็นลูกชายของเขา น้องบูกัตตี้จอดห่างจากน้องจากัวร์อยู่สองสามคัน นี้เป็นการแสดงว่าแม่ของเขาไม่ได้เอาไปขายอย่างที่บอก แต่กลับเอาไม่ซ่อมให้เขาแทน

     

                ถึงแม้เขาจะโดนห้ามไม่ให้ใช้น้องบูกัตตี้ แต่เขาก็ยังอารมณ์ดี เพราะอย่างน้อยตอนเช้าชานยอลก็โวยวายใหญ่ว่าทำไมตัวเขาถึงได้รถคันใหม่ การเถียงกันแต่เช้านั้นทำให้คุณนายโอถึงกับปวดหัวรีบลากสามีหรือผู้นำตระกูลปาร์คออกไปทำงานทันที สองพี่น้องเถียงกันได้สักพักโดยที่มีแบคฮยอนยืนหัวเราะคิกคักข้ามชานยอล เซฮุนก็ตัดสินใจรีบคว้ากุญแจแล้วสตาร์ทรถออกไปจากบ้านทันที  โดยที่เซฮุนให้เหตุผลเพียงแค่ว่า...

     

                "น้องจากัวร์นั่งได้สองคน มันแคบทำไม่ถนัดหรอก" แล้วก็รีบชิ่งออกมาทันทีโดยมีชานยอลสบถไล่หลัง

     

                ชานยอลเองก็เลยจำใจคว้ากุญแจรถคันเดิมของตัวเองมา บ่นออกมาเบาๆเพียงแค่ว่า..

     

                "คันเก่าก็สองที่นั่งเหมือนกันวะ..จะคันไหนก็ไม่ถนัดเหมือนกันแหละว่ะ" บ่นอุบอิบเบาๆ พอให้แบคฮยอนตีแขนได้สองสามทีก็ขึ้นไปนั่งบนรถซาลีนs7ของตัวเองทันที วันนี้อาจจะเป็นการไปมหาลัยที่ดีที่สุดของปาร์คชานยอลก็ได้ เนื่องจากวันนี้ตุ๊กตาหน้ารถของตัวน่ารักกว่าที่เคยเป็นไหนๆ..

     

     

     

     

                หลังจากที่เซฮุนวนรถหาที่จอดได้สองสามรอบก็เดินเข้าตึกคณะของตัวเอง จริงๆไม่ได้อยากขับวนโชว์มห้คนอื่นหมั่นไส้(ถึงแม้จะมีคนหมั่นไส้แล้วก็ตาม)หรอกนะครับ แต่เพราะว่ากำลังเห่อครับ ต้องคิดให้ดีว่าจอดตรงไหนรถจะไม่ตากแดด เพราะวันนี้เขามีเรียนทั้งวัน ตั้งคำนวณเวลาและแสงอาทิคย์ให้ดี

     

                "เอ่อ..ขอโทษครับ.." มีเสียงนึงกังขึ้นข้างหลังเซฮุน เซฮุนไม่รู้หรอกใครเรียกเขา แต่คนกำลังรีบเพราะมัวแต่หาที่จอดจดจะเข้าคลาสสายแบบเขาก็เลยตอบไปอย่างลวกๆ

     

                "มีไร" หันไปตอบต้นเสียงอย่างรีบร้อน

     

                "เอ่อ.. ตึกคณะวิทยาศาสตร์ไปทางไหนหรอครับ" คนตรงหน้าเซฮุนเกาหัวเล็กน้อยแก้เขิน

     

                "..."

     

                "พอดีผมเพิ่งมาใหม่น่ะครับ" คนตรงหน้ายิ้มให้เซฮุนอย่างเป็นมิตร

     

                "..."

     

                "เอ่อ.. คุณครับๆ ได้ยินผมหรือเปล่าครับ" คนที่เรียกตัวเองว่าเด็กใหม่ เอามือมาปัดๆหน้าผม เหมือนกำลังเทสว่าผมยังคงมีสติอยู่หรือเปล่า

     

     

                "ลู่ฮาน!!!" ผมได้สติก่อนจะโถมเข้าหาคนที่อยู่ตรงหน้าผมด้วยความคิดถึง.. ถึงผมจะปลอบใจตัวเองว่าลู่ฮานยังไม่ตาย แต่ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าอยู่ดีๆเขาจะมาปรากฏตรงหน้าผมอีกครั้ง..

     

                "..." ลู่ฮานเป็นฝ่ายเงียบไป แต่หลังจากคลายอ้อมกอดเขาเพียงแค่ยิ้มให้ผมบางๆ

     

                "นายรู้ไหมฉันคิดถึงนายแค่ไหน" ผมบอกพร้อมเขย่าตัวเล็กน้อย

     

     

                "..."ลู่ฮานไม่ตอบผม เพียงแค่ส่ายหน้าเล็กน้อย

     

     

     

                "คิดถึงมาก..ฉันคิดถึงนายมาก.." เซฮุนพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

     

     

     

     

     

     

     

     

                "ขอโทษนะครับ..."

     

                "..." น้ำเสียงห่างเหินถูกใช้อีกครั้ง...

     

     

     

                "ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...."

     

                "..."

     

     

     

     

     

     

                "แต่คุณเป็นใครหรอครับ"

     

     

     

    To be continued…







     



    ---------------------------------------------------

    จบแล้ว เย้! ใครที่ถามว่าพี่ลู่ตายจริงหรอ.. ได้คำตอบแล้วเนาะว่าตายจริงหรือเปล่า..

    ส่วนใครที่กำลังสงสัยว่า...มันจบจริงๆหรอ...

    ขอตอบจริงๆค่ะว่าจบแล้ว มันจบแล้ว... จบของซีซั่นนี้...(ใครปาอะไรมา)


    เรื่องของซีซี่นหน้าจะเต็มไปด้วยตัวละครที่มากขึ้นด้วย

    ชานแบค- คุณคงไม่ลืมใช่ไหมว่าชานยอลเป็นเพลย์์บอย...
    ฮุนฮาน- ไม่สปอยค่ะ 555555
    คริสเลย์ - สัญญาว่าซีซั่นหน้าจะให้มีฉากอยู่ด้วยกันมากกว่านี้...
    ไคโด้ - ??
    เทา - บทจะเยอะกว่านี้ค่ะ
    พี่หมิน เฉิน พี่จุนมยอน.. จะพยายามให้มีบท 555555

     

    ยังไงก็ฝากฟิคอีกเรื่องไว้ในอ้อมกอดด้วยนะคะทุกคน ฟิคเรื่อง ACCIDENT No.7 ฝากไว้ในอ้อมใจของทุกๆคนด้วยค่ะ

     

    จนกว่าจะจบเรื่องอุบัติเหตุ(เรื่องเมื้อกี้แหละค่ะไม่รู้จะเรียกย่อยังไง) จะไม่มีการอัพซีซันสองแต่อย่างไร...

     

    ปล.ซีซั่นสองจะขึ้นบทความใหม่นะคะ จะไม่ต่อจากบทความนี้ เพราะถือว่าพล็อตคนละพล็อตกันค่ะ

    ปล.สอง มีไรสงสัยหรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติม ถามได้ที่ทวิตเตอร์ @bjm_06b ได้เสมอนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×