คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : EP 28 100%
28
“ปลอดภัยนะชิพ!”
ราวกับเป็นความฝันภาพทุกอย่างกลายเป็นสีขาวดำ เหมือนเวลาหยุดนิ่ง ดวงตาใสจ้องมองไปยังผู้มาใหม่ทั้งสองอย่างตกตะลึงราวกับกำลังฝันไป
มือบางเผลอที่จะยกขึ้นมาแล้วตบหน้าตัวเองเบาๆ อย่างเรียกสติและเพื่อยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ฝันไป ไม่ได้เผลอฝันดีก่อนที่จะตายไป... เพื่อไม่ให้คิดว่าตัวเองกำลังฝันว่าคนที่รักมากที่สุดมาปรากฎอยู่ตรงหน้าทั้งสองตน
ทั้งไลน์และฟอกซ์รีบปราดเข้ามาหาร่างบางที่นั่งตัวสั่นระริกก้มหน้าอยู่กับพื้นอย่างเป็นห่วง มือหนาจับมือเล็กที่กำแน่นอยู่บนพื้นด้วยความคิดถึง
“..........” เสียงหวานพึมพำอะไรบางอย่างที่เบามากเสียจนร่างสูงและร่างโปร่งต้องขยับเข้าไปใกล้เพื่อฟังให้ชัดๆ
“เจ้าว่ายังไงนะ?” ไลน์ถามเสียงทุ้มใกล้ใบหูของอีกฝ่าย
“คิดถึงจังเลยครับ” พอเสียงหวานกล่าวจบก็ต้องหยุดชะงักไปเพราะทั้งร่างสูงและร่างโปร่งโถมตัวเข้ากอดเขาอย่างแสนคิดถึง “อ๊ะ หวา...”
“ชิพ... ชิพ... อย่าไปจากข้าอีกเลยนะ” ฟอกซ์พูดออกมาแล้วขโมยหอมแก้มไปโดยไม่ขออนุญาต (ซึ่งปกติก็ไม่เคยขออยู่แล้ว)
“เออ... คือ...” ร่างบางอึกอักเพราะตอนนี้ตัวเองกำลังนอนแผ่อยู่บนพื้นหญ้าโดยที่มีคนสองคนประกบข้างอยู่
“ชิพ ตอบข้ามาก่อน” ไลน์พูดก่อนจะดันหัวเพื่อนรักให้ถอยออกมาก่อน และเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจัง “อยากอยู่กับพวกข้ามั้ย?”
“อยากสิครับ” ใบหน้าหวานเอียงนิดๆ อย่างไม่เข้าใจ “ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะครับ? ก็ไลน์กับฟอกซ์เหมือนเป็นครอบครัวข้านี่นา”
“เออ...” ฟอกซ์ลุกขึ้นนั่งไม่ไกลนักพร้อมๆ กับไลน์ ร่างโปร่งเกาแก้มตัวเองเบาๆ อย่างคนกำลังเขินนิดๆ ทำให้ชิพต้องเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“อะไรเหรอครับ?” เมื่อลุกขึ้นนั่งกับพื้นในท่าปกติแล้วจึงเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วงว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไรไป
“ชิพ... คือ... พวกข้าไม่อยากจะเป็นครอบครัวเดียวกับเจ้าแล้ว...” คำพูดของไลน์ทำให้ร่างบางถึงกับช็อคนิ่งไป แล้วไม่ได้ฟังประโยคต่อไปของร่างสูงเลย “ข้า... อยากเป็นคนรักของเจ้ามากกว่า”
“พวกท่านไม่อยากอยู่กับข้าแล้ว...” น้ำเสียงหวานหมองลงรวมทั้งใบหน้าที่ทั้งเหม่อลอยและน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาหวานทำให้ทั้งสองตนพอจะรู้แล้วว่าร่างบางตรงหน้ากำลังเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง
“เฮ้ย ไม่ใช่ๆ” ฟอกซ์ถลาเข้าไปหาพร้อมกับปฏิเสธเลิกลักอย่างตกใจกับความคิดของร่างบาง “พวกข้าหมายความว่าไม่ได้อยากอยู่กับเจ้าในฐานะอื่นที่ไม่ใช่คนรัก พวกข้าไม่อยากเป็นพี่ชายเจ้า พวกข้าไม่ได้อยากเป็นตัวแทนของพ่อแม่เจ้า พวกข้าอยากเป็นคนที่เจ้ารัก!!”
“เอ๋?” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมามองใบหน้าของคนรักทั้งสอง “ก็...ครอบครัวไม่ใช่เหรอครับ?”
“ไม่ใช่ ครอบครัวน่ะ ความหมายมันกว้างไป” ไลน์ลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด “สำหรับครอบครัวน่ะ มันมีทั้งอย่างบุตรแห่งพระเจ้า... ที่เป็นเหมือนน้องชายนายไง นั่นก็ถือเป็นครอบครัวเหมือนกันนะ อย่างฉันที่มีโมสาร์ทเป็นพี่ชาย (ในโลกนี้) ก็ถือเป็นครอบครัวเหือนกัน (ถึงไม่อยากจะถือสักเท่าไหร่ก็เถอะนะ)”
“คนสำคัญ...ก็คือครอบครัว” แต่ร่างบางดูท่าจะไม่เข้าใจง่ายๆ “ครอบครัว...ก็คือคนสำคัญ”
“นั่นก็ถูกนะ” ฟอกซ์ถือโอกาสที่ร่างสูงเผลอคลายอ้อมแขนดึงให้ชิพมานั่งคล่อมอยู่บนตักตัวเองบ้างทำเอาใบหน้าหวานขึ้นสีจนแดงก่ำ “แต่ว่า...คนรักน่ะ มีความหมายลึกซึ้งกว่า”
พูดจบก็เอาหน้าผากตัวเองแนบชิดกับหน้าผากร่างบางจนใบหน้าห่างกันไม่ถึงนิ้ว ใบหน้าของชิพแดงแล้วแดงอีกอย่างที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะเขินไปทำไม
รู้แต่ว่าพออยู่แนบชิดแบบนี้แล้วใจเต้นระส่ำจนคิดว่าตัวเองคงจะหัวใจวายตายได้
“ละ...ลึกซึ้ง...” ดูเหมือนตอนนี้หัวสมองของชิพแทบจะไม่ทำงานเลยไม่สามารถเข้าใจความหมายใดๆ ได้แต่ทวนคำไปเท่านั้น
“งั้น... ยอมรับพวกเราเป็นคนรักรึเปล่า...” ไลน์ดึงเอาร่างบอบบางให้นั่งเอาหลังแนบชิดกับแผ่นอกแกร่ง
“คนรัก... คือ...” ใบหน้าหวานกำลังแสดงถึงความไม่เข้าใจ (หนูยังไม่เก็ตตต) แต่ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีระเรื่อเพราะสัมผัสจากด้านหลัง
“คนรักก็คือคนที่เจ้ารัก” ฟอกซ์บอกแล้วนั่งยองๆ ตรงหน้าร่างบาง
“หา??”
...ยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่เลย...
“เอ๋?” ชิพชะงักไปเมื่อโดนร่างโปร่งตรงหน้ากระกบจูบเบาๆ บนริมฝีปาก อย่างที่ไม่ได้แทรกลิ้นเข้ามาทำเอาจิตใจของร่างบางเริ่มหวั่นไหววูบวาบใจพาลสั่นระริกเหมือนหัวใจจะวายตาย
“คนรักคือข้ากับไลน์ยังไงล่ะ?” คำอธิบายของฟอกซ์ยิ่งเอาร่างบางมึนตึบเข้าไปอีก
“อืม...” ร่างโปร่งผละออกไปทำให้ร่างบางค่อยหายใจหายคอคล่องขึ้นมาอีกนิด
ฟอกซ์นั่งลงกับพื้นก่อนจะกุมหัวอย่างครุ่นคิดเกี่ยวกับคำอธิบายนิยาย คนรัก ให้คนตรงหน้าได้รู้เสียที
ที่ร่างบางรู้จักครอบครัวคงเพราะมีพ่อแม่เป็นครอบครัว แล้วก็ยังมีคนที่รับเลี้ยงที่เป็นสัตว์ปีศาจตนนั้นรับเลี้ยงก็เลยกลายเป็นครอบครัวไป แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็หมายความว่าร่างบอบบางตรงหน้านี้ยังไม่เคยมีใครมาก่อน
“เอาอย่างนี้ล่ะกัน... ฟอกซ์” ไลน์เรียกเพื่อนรักก่อนจะผยักเผยิดเป็นเชิงบอกทำให้ร่างโปร่งยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นมาทันที
“ชิพ นี่คือคนรัก” พูดโดยไม่ให้ร่างบางแย้งอะไรออกไปพร้อมกับประกบจูบร่างบางอย่างเร่าร้อนทำเอาร่างบางแทบจะหายใจไม่ทัน
อ้อมกอดของไลน์ก็ยิ่งแน่นขึ้นจนแทบหายใจไม่ออกแต่กลับรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดจนไม่อยากจะให้คลายอ้อมแขนนี้เลย
ริมฝีปากอุ่นของไลน์พรมจูบที่ต้นคอบางสลับกับเน้นจูบอย่างที่ทำให้เกิดรอยจ้ำแดงบนต้นคอ
“ฮ่า...” เมื่อทั้งสองละริมฝีปากออกก็ทำเอาชิพต้องรีบโกยอากาศหายใจเข้าปอดอย่างด่วน
สัมผัสจากทั้งคู่ทำเอาร่างบางแทบจะลืมหายใจ (หรืออาจจะลืมหายใจไปแล้วด้วยซ้ำ) มือบางเกาะแขนไลน์ที่คลายอ้อมแขนออกแต่ยังคงโอบกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขนเพื่อพยุงตัวเอง ดวงตาใสเหลือบมองรอยยิ้มบนริมฝีปากของทั้งคู่ก่อนจะต้องใจระทึกเมื่อภาพของทั้งสองช่างหล่อเหลาจนน่าหลงใหล
“คนรักคือคนที่ทำให้นายใจเต้นแรงได้ คนที่ทำให้นายต้องการคนๆ นั้นจนเรียกได้ว่าขาดไม่ได้ คนรักคือคนที่ทำให้นายรู้สึกอยากเห็นหน้าตลอดเวลา” ไลน์สรุปก่อนจะกระซิบข้างหู “ว่าไง...ให้พวกข้าเป็นคนรักของเจ้ารึเปล่า?”
ตึกตักๆ
หัวใจของร่างบางเต้นระรัวทั้งความรู้สึกทั้งสัมผัสทุกอย่างเป็นของจริง ทั้งคนตรงหน้าและคนข้างหลัง ทำเอาใบหน้าหวานขึ้นสีแล้วขึ้นสีอีกจนไม่รู้จะแอบใบหน้าที่น่าอายของตัวเองยังไงดี
“ว่าไง...” เสียงทุ้มใกล้หูพร้อมกับที่อีกฝ่ายขบติ่งหูเบาๆ ทำเอาชิพขนลุกซู่ขึ้นมาจนต้องยกมือขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเอง
“อย่าปิดหน้าสิ” มือของฟอกซ์ดึงให้มือบางของคนตัวเล็กที่สุดออกพร้อมกับกุมทั้งสองข้างเอาไว้แน่น
“อือ...” เสียงหวานงึมงำในลำคอเป็นคำสั้นๆ ทำให้คนรุก (?) ทั้งสองตนรู้สึกขัดใจเล็กๆ
“ว่าไง? พูดดังๆ หน่อยสิ” ฟอกซ์ขยับกายเข้าใกล้จนทำให้ร่างสูงแทบจะถีบไอ้คนตัวพอๆ กันให้ออกไปไกลๆ ตัวเขา แต่ความจริงแล้วร่างโปร่งจงใจขยับเข้าใกล้ร่างบางมากกว่า ทว่าเรือนร่างบอบบางน่าทนุถนอมนั้นดันไปอยู่ในอ้อมแขนของไอ้เพื่อนรักพอดี
“ค...บ” พอจะได้ยินเป็นคำพูดแต่ว่าสีหน้าของฟอกซ์ (ที่ร่างบางไม่เห็น) ฉายแววเจ้าเล่ห์และอย่างแกล้งจนถึงที่สุด
“ว่ายังไงนะ?” เสียงของฟอกซ์ทำให้ไลน์เหลือบมองสีหน้าช่างแกล้งของเพื่อนก่อนจะแอบถอนหายใจเบาๆ แล้วร่วมด้วยช่วยฟอกซ์แกล้งร่างบางในอ้อมแขนด้วย
“ครับ”
เพียงแค่ได้คำตอบใบหน้าของทั้งร่างสูงและร่างโปร่งก็แย้มรอยยิ้มกว้างแต่ยังไม่วายอยากแกล้งคนตัวเล็กในอ้อมแขนสักที
“เอาเป็นประโยคสิ ชิพ...” ไม่ว่าเปล่าไลน์ก็กดจูบเบาๆ ที่หลังต้นคอบางทำเอาชิพขนลุกพึบพับ ใบหน้าก็ยิ่งขึ้นสีจนทำเอาฟอกซ์ต้องกลั้นหัวเราะไว้
“ใช่แล้ว เป็นประโยค... หึ” เค้นหัวเราะเบาๆ ที่หนึ่งแล้วจุมพิตบนริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะผละออกมาอย่างรวดเร็ว
“อ๊า~ พอเถอะครับ อย่าแกล้งข้าสิครับ” มือบางพยายามดันตัวเองออกจากสองเพื่อนรักที่สามัคคีกันอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่ทว่าด้วยแรงที่เยอะตามที่ตัวเองเป็นก็ทำให้รั้งตัวร่างบางไว้ในอ้อมแขนได้อย่างเหนี่ยวแน่น
“บอกมาซะดีๆ นะ ไม่อย่างนั้น... ข้าจะ...”
ดวงตาใสเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อมือหนาของคนด้านหลังเริ่มลงต่ำเรื่อยๆ อย่างน่าหวาดเสียว
“เฮ้ยๆๆๆ หยู๊ดดดด หยุดเฟ้ย” ร่างโปร่งโวยวายลั่นก่อนจะดึงเอาชิพไปไว้ในอ้อมแขนแล้วประคองกอดไว้แน่นแทน “อย่ามาทำอะไรบ้าๆ แถวนี้นะเฟ้ย”
“อะไรของเจ้า...??” ใบหน้าหล่อเหลาของไลน์มองฟอกซ์ที่ยืนกอดร่างบางแน่นอย่างทื่อๆ ก่อนจะลุกพรวดขึ้นตามแล้วค่อยๆ แสยะยิ้มช้าๆ อย่างเจ้าเล่ห์ (และหื่น) เต็มที่
“?” ฟอกซ์ไม่เข้าใจกับอารมณ์แปลกๆ ของร่างสูงที่เป็นอยู่ ณ บัดนาว
“จับไว้ให้แน่นๆ ล่ะกันนะ ฟอกซ์”
“เอ๋?” ดวงตาใสเบิกกว้างนิดๆ อย่างเสียวสันหลังแล้วมันก็ไม่ผิดเลยสักนิด เพราะร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้แล้ว
“ข้าน่ะ... รอบคอบนะ กางเขตอาคมไว้เรียบร้อยแล้ว หึ” เสียงหัวเราะในลำคอของร่างสูงราวกับเสียงสยองอะไรสักอย่างที่ทำเอาเรือนร่างบอบบางถึงกับขนลุกซู่
“เออ... ข้าว่า...” ชิพชะงักเมื่อใบหน้าของร่างโปร่งแย้มรอยยิ้มออกมาอย่างพออกพอใจนักหนา พร้อมกับล็อคร่างบางไว้กับร่างของตัวเองแน่น
“แหมๆ แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่ตอนแรกนะเจ้าน่ะ...” ทั้งการกระทำและรอยยิ้มของทั้งสองทำเอาร่างบางขนลุกซู่อย่างกล้าๆ กลัวๆ ก็จริง แต่ว่าอีกส่วนหนึ่งก็ทำให้ใบหน้าหวานๆ ของชิพขึ้นสีแดงก่ำอย่างน่ารักน่ากอด
“พะ... พอเถอะนะครับ” เสียงหวานสั่นระริกก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อโดนกดลงกับพื้นอย่างรวดเร็วโดยร่างโปร่งกอดจากด้านหลังเขาและร่างสูงนั่งใกล้จนเกือบคล่อมอยู่ด้านหน้า “ยะ... อ๊ะ!”
ความคิดเห็น