ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (EXO FIC) สงครามบ้านเช่า LUMIN feat.all of couples in EXO

    ลำดับตอนที่ #7 : chapter 6 :

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 381
      2
      17 ธ.ค. 56

    หนาวววววววววววววววววว ~ หนาวจุงเบย นี่คือสิ่งที่ผมรู้สึกได้ในตอนเช้ามืด โอ้ย นี่แข็งไปถึงไข่แล้วนะ ผมใช้แขนและขาอันยาวเหยียดตวัดหาวัตถุไว้กอดรัดเพื่อคลายหนาว พอกอดเข้าไปเท่านั้นแหละรู้เลย นี่มันไม่ใช่หมอนข้างอันนุ่มนิ่มนี่นา มันแข็งๆแถมกลิ่นยังตุๆอีกด้วย พอพยายามเหลือกตาขึ้นมามองก็เห็นผมสีดำที่ส่งกลิ่นเน่าคล้ายศพหนูตาย อิเชี่ย นี่อิพี่ลู่ววววววววว ผมสะเดิดทันที นี่มันมานอนอยู่บนเตียงผมได้ไง! (เตียงมึงหรา) แต่สะเดิดได้ไม่นาน กุก็มุดกลับเข้าไปอยู่ในผ้าห่มเหมือนเดิม มันหนาวจริงๆนะหนิ กี่โมงละวะ ผมหันไปมองนาฬิกาข้างเตียงก็เห็นว่าตีสองกว่าแล้ว ได้เวลาละ                         

    ผมเขย่าพี่หานเบาๆ เชร้ด เบื่อมุกนี้ป่าว ปลุกแล้วไม่ตื่นหนิ ผมเขย่าแรงขึ้นเรื่อยๆ นี่เขย่าจนเตียงสั่นละ ถ้านี่คือโรงแรมคาดว่าข้างห้องคงคิดว่ากุปฏิบัติภารกิจกันยามเช้าละ นี่จะไม่ตื่นใช่มั้ย เออดี งั้นก็เฉาตายอยู่บ้านนี่แหละ ไม่ต้องทำมาหาแดกอะไรทั้งนั้น คิดได้แล้ว ผมก็นอนแม่งเลย อากาศหนาวๆแบบนี้ ได้นอนเยอะๆดีกว่าฟิน

     

    7:00 AM.

    แง่มๆๆๆๆๆๆๆๆผมเปิดเปลือกตาขึ้นเพื่อต้อนรับวันที่จะได้ทำงานกับชาวบ้านเค้าซักที นี่อุตส่าห์ตื่นเช้าสุดๆเลย มองซ้ายมองขวาก็ไม่เจอมินซอก อื้ม สงสัยไปเตรียมของรอผมแล้วมั้ง ผมลุกจากที่นอนด้วยอาการสั่นระดับแปดริกเตอร์ หนาวขนาดนี้แนะนำให้หิมะตกให้ห้องกุเลย ผมเดินเข้าห้องน้ำไปทั้งเสื้อเชิ้ตบางๆกับบอกเซอร์สั้นๆ กะอาบน้ำก็คงไม่ไหวละ เครื่องทำน้ำอุ่นพัง ผมล้างเบ้าหน้าและชำระล้างน้องหานนิดนึงคือเมื่อคืนก็ไม่ได้อาบไงประเด็นเดี๋ยวมันเน่ามา ไม่ได๊นะ!! นี่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เสร็จละผมก็เดินห่มผ้าเช็ดตัวที่เดี๋ยวนี้เตรียมไว้ในห้องน้ำแล้วกันฉุกเฉิน ทาแป้ง ทาโรลออนแต่งตัวเสร็จผมก็เดินลงไปข้างล่าง สรุปว่า   กริบ………… ผมเดินออกไปดูนอกบ้านก็พบว่า เชร้ดทำไมตีสามฟ้าสว่าง พอวิ่งกลับเข้ามาดูในห้องก็พบว่า จะแปดโมงละสรึด ไอ้เด็กมินซอกไปไหน!!! นี่กุรีบจนลืมดูเวลา ผมวิ่งหาโทรศัพท์อยู่สองปีสี่ชาติครึ่งก็พบว่ามันอยู่บนโต๊ะข้างนาฬิกานั่นแหละ ผมโทรหามันด้วยใจระทึก

     

    ว่า ” 

     

    โหดูตอบดิ งอนกุแน่ๆ

     

    นี่อยู่ไหน

     

    อยู่โรงเรียนละ

     

    เห้ย รีบไปทำไม ละไปยังไง ใครไปส่ง

     

    ไอ้เฉินมารับ

     

    เฉินไหน ? ”

     

     เพื่อน

     

    เพื่อนไหน ?”

     

    ถามทำไมหนิ ไม่รู้จักหรอก

     

    ก็พามาเจอหน่อยดิ อยากเห็น

     

    อยากเห็นทำไมหละ วู่ว แค่นี้นะ จะเข้าแถวแล้ว

     

    ตุ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

    ตอนนี้ถึงมันงอนผมก็ไม่สนละ ไอ้เฉินนี่ใครวะ อยากเจอจังเลย!!

     

    ผมมุ่งหน้าไปโรงเรียนด้วยใจเหี่ยวแห้ง คือรถติดมากอ่ะติดงี้แนะนำให้ลาออกไปเป็นกาวตราช้าง ผมนั่งอยู่บนเบาะรถจนหลับได้สามตื่น ป้าดดดด อะไรคือไฟแดง 400 วิ ตอนแรกผมคิดไว้ว่าจะทิ้งรถไว้นี่แล้ววิ่งไปหามันเสร็จแล้วก็วิ่งกลับมารถน่าจะเคลื่อนได้พอดี คิดทบทวนตีกันกับหัวสมองได้ซักพักรถฝั่งผมก็ปล่อยพอดี อืมขับๆไปเหอะเดี๋ยวก็ถึงผมเชื่ออย่างนั้น

     

     

    11:00 AM

      กุถึงโรงเรียนที่ห่างไกลจากตัวเมืองแล้วครับ คริสนะคริสจะส่งน้องมาเรียนทั้งทีนี่มึงต้องเอาให้สุดสิวะ ผมทึ้งหัวตัวเองด้วยอารมณ์เสียขั้นสุดกว่าจะถึงนี่น้ำมันก็แทบหมด เดินไปซักพักก็ป๊ะหน้ากับยามคนหล่อ อรั้ย ขอสากเธอแลกเบอร์โทร

     พอเค้าเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาดั่งพระเจ้าได้สรรสร้างปั้นอย่างประณีตของผม เค้าก็ยิ้มให้แล้วเปิดประตูต้อนรับอย่างยินดี โดยไม่ถามอะไรซักคำ หึ คนมันหล่อช่วยไม่ได้จริงๆฮะ

    ผมเดินเข้าไปเรื่อยๆก็เห็นสาวกรี๊ดมาจากบนอาคาร แต่ก็ต้องสะดุดตากับสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมาจากชั้น 4 มันส่งกระแสจิตมาหาผมว่า มาทำอะไรที่นี่เห็นแล้วขนตูดผมก็ลุกออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ด้วยใจมุ่งมั่นผมจึงเดินไปชั้น 4 อย่างเร็ว จะเห็นให้ได้เลยไอ้เฉินหนิกล้าดียังไงมารับไอ้เด็กนี่โดยไม่บอกผมซักคำ ถ้าเกิดมันเป็นอะไรขึ้นมา ผมจะรับผิดชอบยังไง คนในครอบครัวก็ไม่ใช่ เป็นแค่คนดูแล

    พอถึงแล้วผมก็แทบอยากจะเอาหัวมุดกลับเข้าไปในเสื้อเหลือเกิน จะมองกุทำไมเยอะแยะละยืนขอบๆให้เป็นทางเดินโดยมีไอ้เด็กมินซอกยืนอยู่ตรงกลางสุดปลายทางเดิน คล้ายว่ากุจะเดินไปสารภาพลักซ์งั้นแหละ ถ่อว วั้นนี้จะมาต่อยเด็กว้อย ผมเดินไปเรื่อยๆโดยมีเด็กนักเรียนหญิงส่งสายตาวิงค์ๆให้ตลอด แหม่ เด็กวัยนี้นี่มันน่ากินกันจริงๆนักแล

     

    มาทำไม

     

    มันเปิดประเด็นถามทันทีที่ผมเดินไปถึง

     

    มาหาเฉิน ไหน ทำไมกล้ามารับแกออกมาอย่างนี้ถ้าเกิดรถล้มมาจะทำไง เด็กแค่นี้ขี่มอไซ ฉันไม่ไว้ใจหรอกนะ

     

    เป็นห่วงผมหรอ

     

    ว่าแล้วมันก็หรี่ตาเป็นการยั่วยวนผมเล็กน้อย อะไรหนิ เกิดบ้าบออะไรถามแบบนี้

     

    ถ้าแกเป็นไรขึ้นมา พี่แกเอาฉันตายแน่ ฉันยิ่งไม่อยากมีปัญหากับคริสด้วย

     

    อ้อ นี่หรอเหตุผลพี่ อืมดี…… ไอ้เฉินออกมาดิ้

     

    จู่ๆก็มีมนุษย์ตัวสูงพอๆกับผมเดินออกมาจากห้องแบบพระเอกหนังจีน ล้วงกระเป๋าอย่างแมนอ่ะ แต่หน้าเหมือนพึ่งสึกใหม่ๆ นี่ต่อยได้ใช่ป่ะ ไม่บาปใช่ไหม ?

     

    มีปัญหาไรครับพี่

     

    มันถามด้วยท่าทางกวนตีนขึ้นสุด คือล้วงกระเป๋าแล้วส่ายหัวไปมา โหว วอนตีนนะน้อง!

     

    กล้าดียังไงรับน้องพี่ออกมาโดยไม่ขออนุญาตพี่

     

    น้องพี่โทรบอกผมไปรับเอง ช่วยไม่ได้

     

    ก็น่าจะขออนุญาตพี่มั่งป่ะ

     

    ก็ขอกันเองดิ ผมไม่เกี่ยว

     

    “………………………” เถียงไม่ออกครับ คือทำไมมินซอกไม่ขอผม แต่ไม่อยากด่ามันอ่ะ ฮิ

     

    ว่าไงพี่

     

    น้องควรเคารพพี่นะ เอามือออกจากกางเกง ติเรื่องอื่นไม่ได้กุก็เอาเรื่องนี้แหละ

     

    ละมันก็ทำตามครับ ประชดกุซะแบบยืนตรงเคารพธงชาติ

     

    จบยัง มินซอกถามขึ้น

     

    ไม่จบ นี่หิวข้าวไปกินกัน

     

    พูดจบผมก็ลากมันออกมาจากตรงนั้น ทิ้งให้คุณน้องเฉินยืนตรงอยู่คนเดียว ก็จริงหนิตื่นมายังไม่ได้กินอะไรซักคำแค่ขับรถมาหานี่ก็เพลียมากละ  สรุปวันนี้กุหอบสังขารมาเพื่ออะไรกันแน่

     

    นี่กินไรยัง

     

    ผมหันไปถามไอ้ตัวแสบที่พยายามกระชากมือออกมาตั้งแต่ชั้น 4 ละ นี่พี่หานผู้แข็งแกร่งนะครับ จับแล้วไม่มีปล่อย

     

    จะเรียนหนังสือ ลากมาทำไม ปล่อยเหอะ

     

    อยากกินอาหารฝรั่งอ่ะ ร้านไหนดี

     

    ผมจะกลับไปเรียน ปล่อย

     

    โอเค ร้านที่อยู่ตรงทางแยกปากซอยช้ะ ได้ๆ

     

    พี่ฟังผมไหม

     

    ขึ้นรถปะ เดี๋ยวไม่ทันนะ ได้ข่าวว่าร้านนั้นคนรอกินเย๊อะเยอะ

     

    ปล่อยเดี๋ยวนี้! ”

     

    ไม่ต้องเกรงใจ มื้อนี้ฉันเลี้ยง

     

    ตกลง

     

      แหม่ พอกุบอกว่าเลี้ยงนี่เดินไปขึ้นรถแล้วรัดเข็ดขัดอย่างไวเลยนะ ไอ้นี่ ต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนถึงตอนนี้จะมีอันจะกินอยู่บ้างแล้วแต่ก็ยังทำตัวแบบขอเค้าแดกอยู่ ต้องเข้าใจครับมันเป็นขันธสันดานของคน

      ผมขับออกมาจากโรงเรียนเฮงซวยที่ขังกุเมื่อคืนแล้วครับ ละก็พบกับร้านอาหารฝรั่งตรงปากซอยจริงๆแต่มันเป็นร้านเล็กๆที่ไม่มีที่จอดรถเลยอ่ะทำไง คิดได้แล้วผมก็จอดขวางร้านซะเลย มอไซที่จอดหน้าร้านมึงก็ไม่ต้องออก แต่พอลงจากรถไอ้เด็กมินซอกมันก็แย่งกุญแจรถผมไปเคลื่อนรถซะเอง ชีวิตมึงนี่ขับอะไรไม่เป็นมั่ง 

    ผมเดินเข้าร้านไปรอมัน สัดนานนะนาน ไม่ใช่ว่าเคลื่อนแล้วชิ่งกุไปเลยนะ  แต่พอคิดว่าอย่างมันหรอจะหนีของฟรี ผมก็โล่งใจ อย่างที่คิดนั่นแหละซักพักมันก็เดินเข้ามา

     

    หิวไร

     

    ไม่หิวอ่ะ

     

    ก็บอกแล้วมื้อนี้เลี้ยง

     

    ก็ไม่หิวไง รอกินกับพี่ดีกว่าผมกินไม่เยอะหรอก สั่งมาเดะเปลือง

     

    แล้วแต่นะ

     

    ผมยักไหล่ให้มัน ก็ดีเหมือนกันไม่ปลืองตัง ฮิฮิ

     

     

        แต่แล้วก็พบว่าผมคิดผิดอย่างมหันต์ เมื่อผมสั่งมาแล้วอย่างสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าเงี้ย กุได้กินสามคำนอกนั้นอิคนไม่หิวนี่แดกเรียบ ผมรอเมนูต่อไปเรื่อยๆและก็นะกุได้แดกน้อยกว่ามันทุกอย่าง แต่มันโอเคตรงที่เรากินจานเดียวกันไง ด้วยความมารยาทดีขอมันเลยป้อนผมบ้างบางคำ

     

    อิ่มเนอะ

     

    อิ่มดิสัดดูมึงแดก

     

    ไม่อ่ะ ยังหิวอยู่

     

    โหยพี่ นี่กินไปเยอะมากแล้วนะ อย่าเยอะๆมันเปลือง

     

    ผมไม่อยากตอบโต้อะไร เดี๋ยวมันจะยาว

     

    ไปร้านข้างทางก็ได้ ป่ะ

     

    นี่มันจะบ่ายแล้วนะพี่ จะให้ผมเรียนแมะหนังสือ ค่าเทอมมันแพงรู้ไหม

     

    รู้ดิ ฉันจ่ายไปตั้งสองหมื่นทำไมจะไม่รู้

     

    “……………….. ” มันเงียบ

     

    ป่ะไปกัน

     

      ว่าละผมก็ลากมันออกมาจากร้าน พอออกมาผมก็มองไม่เห็นรถผมเลย สึด นี่ไปจอดไว้ที่ไหน มันบอกว่าไปจอดไว้ไกลอยู่ตามมา มันพาผมเดินไปเรื่อยๆผ่านร้านนู่นนี่นั่นเต็มไปหมด ควรแวะแดกก่อนไหม รถเอาไว้ทีหลัง และความอดทนผมก็หมดลงเมื่อเจอกับร้าน ส้มตำ เจ้าที่เขาบอกว่าอร่อยเต็มไปด้วยรสอูมามิ

       เมื่อเข้ามาในร้าน มันก็ทำให้ผมรู้นิสัยมันอีกอย่างละ มินซอกไม่ชอบส้มตำ แหม๊ รู้งี้น่าจะมาแต่แรก จะได้ไม่มีใครแย่ง ผมสั่งส้มตำ ลาบ ก้อยกุ้ง ไก่ย่าง ผักนานาชนิด ประหนึ่งแดกสิบคนต่อโต๊ะ พอเขาเอามาวางปุ๊บผมก็โซ้ยไม่ยั้ง และไอ้คนที่ว่าอิ่มแล้วเมื่อกี้แม่งแดกไก่ย่างเป็นตัวๆ หู้ย ใครคิดจะเลี้ยงมันบอกเลยว่ามึงจะไม่เสียใจ กินคุ้มตลอด แต่มึงอาจจะอดอยากปากแห้งและตายได้ในที่สุด และพอกินเรียบทุกอย่าง บอกเลยว่าเรียบครับ สั่งมาเยอะๆนี่ไม่เหลือ กุได้กิน 40% นี่แหละ ถึงมันจะไม่กินส้มตำแต่อย่างอื่นนี่กินหมด

     

    กลับกัน มันเอ่ยปากชวนผม

     

    กลับไปไหน

     

    กลับบ้านดิ ไม่ไหวละง่วง

     

    ไม่ไปเรียนแล้วหรอ

     

    จะเอาไง นี่ชวนโดดทั้งวันแล้วยังจะให้กลับไปอีกหรอ

     

    ก็ยังไม่อยากกลับบ้าน

     

    แต่ผมอยากกลับแล้ว ง่วง!!! ”

     

    งั้นนอนในรถละกัน เดะพาไปเที่ยว

     

    เที่ยวไหน ? ”

     

    เออน่า พรุ่งนี้ก็วันเสาร์ละโอกาสดีเลย คาจา~ ”

     

     ผมลากมันเป็นรอบที่ร้อยของวัน แต่พอคิดได้ว่าเอ๊ะ กุไม่รู้หนิว่ารถจอดอยู่ไหน ผมเลยต้องปล่อยให้มันเดินนำหน้าไป หึ๊ ละอิอ้วน นี่ก็เดินช้าจังเลย มันเดินกุมท้องไปเรื่อยๆเนื่องจากว่าแดกเยอะเกินไป

     

    ไหวมั้ย

     

    ไหวดิ น้องซอกยังฟิต! ”

     

    ฟิตโพร่ง ไม่ใช่ละนี่เค้าเรียกตัน

      

       ผมเดินตามหลังมันไปเรื่อยๆโดยคิดว่า มึงไปจอดรถกุไว้ที่พม่ารึปล่าว จะไกลไปไหนเดินจนตะคริวแดกแล้วแดกอีก ความจริงถ้าที่จอดมันจะไม่มีขนาดนี้บอกกุมาตรงๆก็ได้จะได้ย้ายร้านแต่แรก

     

    ขึ้นดิ

     

    ผมวิ่งไปนำหน้ามันแล้วย่อเข่าให้

     

    ขึ้นไร ไม่ นี่ยังไหว

     

    ฉันว่าแกไม่ไหวอ่ะ แล้วฉันก็รีบด้วย ถ้ายังช้าจะไม่ทันเรื่องเด็ดนะ

     

    อะไรเด็ด ? ”

     

    จะสงสัยไรนักหนาหนิ ไม่ขึ้นใช่มั้ย

     

      พูดแล้วมันก็ยังอึกอัก ผมเลยเกี่ยวขามันมันซะเลย ไม่ขึ้นกุก็จะให้ขึ้นอ่ะ มันตกใจเลยเอามือมาโอบรอบคอผมไว้ทันที แต่พอเวลาผ่านไปได้ไม่ถึงสิบวิ กุก็ปวดขาซะแล้วคือหนักมาก หนักแบบชิบหาย อยากให้ลงละแต่เดี๋ยวเสียฟอร์ม อีกอย่างผมก็เห็นรถอยู่ไม่ไกลแล้วด้วย พอมันขึ้นมาก็ไม่พูดไรเลยนะ เหมือนจะกินจนเหนื่อยละจริงๆ พอถึงรถผมก็ให้มันลงแล้วเอากุญแจคืน สภาพเหมือนเมื่อกี้มันหลับบนหลังผม ตาปรือๆเบลอๆ มิน่าแหละโคตรหนัก หลังจากเข้าไปนั่งในรถมันก็เอนเบาะ แล้วหลับเลย หึหึ ง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะ ตามแผน

     

     

    เอาหละมินซอก แกเสร็จฉัน!

     

     

     

     

     

    Chanyeol’s parts.

     ว้าย มีตอนกุด้วยหรา เขินจัง แล้วจะพูดไรดีหนิ ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องรักนี่ก็ไม่มีกับเขา ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่กับสหายทั้งหลายไม่นับไอ้ไคที่ไปกับแฟน ไม่นับไอ้ฮุนที่กลับบ้านไปละ ไม่นับไอ้เทาที่ไปส่งไอ้ฮุน สรุปเหลือผมกับไอ้เฉินสองคนเนี่ยแหละ สงสัยหละสิทำไมผมพูดคำหยาบ  เอาจริงก็ไม่ได้พูดนะแค่คิด นี่ยังไม่ได้พูดซักคำเลย ที่จริงวันนี้ ผมกับเฉินถูกนัดหมายจากพี่หานให้แกล้งทะเลาะกับเขาหน่อย ถ้าถามว่าไปนัดกันตอนไหน ก็เมื่อคืนไง หลังจากที่พี่หานกับไอ้หมินกลับบ้าน ผมก็กลับไปที่ร้าน พวกไอ้เฉินก็ถามใหญ่เลยว่าหมินหละๆๆ แม้ว่าผมจะยืนยันแล้วว่าผู้ปกครองเขามารับ แต่ด้วยความเป็นห่วง พวกผมเลย โทรหามันอีกรอบ แล้วคนที่มารับโทรศัพท์นี่ก็คือพี่หานเนี่ยแหละ พี่แกบอกขอบใจมากๆๆที่โทรมา ตอนแรกไม่รู้แล้วว่าจะแสร้งพามินซอกออกจากโรงเรียนได้ยังไง ครั้งแรกที่พี่แกขอพวกผมก็ไม่ยอมหรอก แต่พอบอกว่าพวกผมมาร่วมแจมได้ ก็เป็นอันว่าตกลง! กิจกรรมนี้น่าสนุกออกนี่นา จะพลาดได้ไง ฮิฮิ

     

    คิดไรอยู่สัด กลับบ้าน! ”

     

     เสียงแปดหลอดของไอ้เฉิน กระแทกเบ้าหูของผมอย่างจัง คือถ้าจะพูดดังๆไปพูดไกลๆ หูกุยิ่งกางผิดมนุษย์อยู่หนิ ตะโกนทีนี่แทบจะบินได้ I belive I can fly.

     เมื่อหลุดออกห้วงความคิดละพวกผมก็เกี่ยวแขนกันเดินไปเอารถกลับบ้าน เดินไปไอ้เฉินมันก็กระโดดขี่หลังกุมั่ง กัดหูอีก เห็นว่ากุใสๆนี่แกล้งจัง เอ๊ะ หรือนี่จะเป็น ชานเฉิน  

     

     

     

     

     ___________________________________________________

    แจ้งอะไรนิดนึง คือพฤนี้เราก็จะสอบแล้ว วันอาทิตย์นี้ก็สอบอีก อาทิตย์นี้ขอลงแค่นี้นะคะ อาทิตย์หน้าจะมาไฟว้ต่อ
    และจันทร์ อังคารหน้าก็สอบอีก ขอลายาว 7 วันเลย ไม่เกินอาทิตย์หน้าแน่  ขอบคุณทุกคนที่เม้นท์ ที่อ่านเนอะ ให้ดีก็อวยพรให้หน่อยเสะ5555555555555 ใครเล่นทวิตก็แท็กด้วย5555 พอๆ รักน้า 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×