ลำดับตอนที่ #31
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : เทียบท่ากาลาปากอส
 
                         
                      แสงวูบวาบของประกายอัญมณี  ทองคำ  เครื่องลายครามและของโบราณอันประเมินค่ามิได้  สาดเข้าตาฟูโรเนะจนหล่อนต้องควักแว่นกันแดดแบรนด์เนมกิ๊กเก๋ยูเรก้ามาแปะไว้ที่ดั้งจมูกของหล่อน
หล่อนไม่ตะลึงหรือแปลกใจสักนิด  สำหรับกองสมบัติที่เคยเป็นของหล่อนมาก่อน  ท่าทางฟูโรเนะคงตัดทางโลกได้ขาดเสียแล้ว  อามิตตาพุทธ...
ฟูโรเนะยักย้ายยุรยาตรยาตราไปยังสิ่งที่ใหญ่โตและผิดแปลกที่สุดในโถงนั้น  ถังใบสีน้ำเงินเก่าคร่ำคร่าซึ่งเคยใช้เก็บกักน้ำจืดไว้หล่อเลี้ยงชีวิตทั้งหลายบนเรืออิโนมิซุมาก่อน  นั้นต่างหากที่ทำให้เธออัศจรรย์ใจอย่างเหลือล้นที่ผมอุตส่าห์หอบหิ้วขนย้ายของใหญ่ ๆ ขนาดนี้มาได้
\"นี่มันคืออะไรหรือคะกัปตันที่รัก\"  ฟูโรเนะใช้เล็บเรียวงามทายาทาเล็บเป็นรูปกระต่ายสีชมพูเคาะเบา ๆ บนผิวโพลีเมอร์เนื้อแกร่งของถังนั้น
ผมหยุดคิดครู่หนึ่ง
\"อย่าให้ชั้นรอคำตอบนานสิคะ\"    ฟูโรเนะยิ้มหวานใส่  จนสเน่ห์เธอแพร่ระบาดลุกลามเข้าในหัวใจผมดุจโรคร้าย
\"นี่เป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สมบัติที่คุณจะได้รับกลับคืนครับ\"    ผมตัดสินใจตอบเธอไปจนได้
\"ห่ะ....\"  หล่อนทำหน้าเหมือนยัดบรเพ็ดเข้าไปทั้งอัน  ก่อนที่จะปรับสีหน้าให้หยาดเยิ้มตามปกติ  \"แหมคุณปริศนาเป็นห่วงฟูโระใช่มั้ยคะ  กลัวว่าจะอดน้ำตายกลางทะเลเลยหอบหิ้วน้ำจืดมาให้ด้วย\"    รอยยิ้มเธอหมายความตามที่พูด  แต่แววตาเธอรู้ทันผม
การพ่ายแพ้ที่งดงามที่สุด  คือแบบนี้เองสินะ    เอาเส้นชีวิตของพวกเรามา  หากพ่ายแพ้  ลูกเรืออิโนมิซุย่อมถูกทำลายสิ้นไปด้วยความกระหายเช่นกัน
\"แล้วที่กัปตันปริศนาบอกว่าจะคืนสมบัติให้ 50%  โดยปริมาตร  ก็คงจะเป็นเพราะคาดไว้เช่นนี้แล้วใช่มั้ยคะ\"  เธอยิ้มหวานกว่าเดิมจนผมรู้สึกได้ถึงอันตราย
ผมผงกศีรษะเบา ๆ  แต่ปากกลับกล่าวว่า  \"มิใช่หรอก  ฟูโระ  ผมไม่ได้คาดคิดไว้เช่นนั้นแต่ต้น  เพียงแต่  พ่อค้าย่อมรู้จักพลิกแพลงแสวงหาประโยชน์ตามสถานการณ์  และผมก็เป็นพ่อค้า\"     
\"ประเภทที่เค็มที่สุดด้วย\"  หล่อนต่อให้อย่างหมั่นไส้  \"เอาเถอะค่ะ  ชั้นจะยอมรับไว้ก็ได้สำหรับความปรารถนาดีของคุณ  ว่าแต่  ขออะไรชดเชยหน่อยได้มั้ยคะ\"   
ผมมิอาจตอบโดยไม่ทันคิด  จึงต้องรอเธอเอ่ยข้อความออกมาก่อน
\"คืนนี้  ไปหาชั้นที่ห้องนะคะยอดรัก  แล้วจะรอ\"    หล่อนส่งจูบให้ก่อนบิดเอวจนสะโพกยักคิ้วออกไปจากห้องสมบัติ   
เอาวะ  ความบริสุทธิ์(ของวันนี้)  แลกกับความพอใจของสาวสวย  เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเลย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมขอไม่กล่าวถึงค่ำคืนอันร้อนแรงที่ผ่านมา
เรามาคุยกันเรื่องอื่นดีกว่า  เช่น  การปัดกวาดซ่อมบำรุงเรือเอฟเวอร์อีเวิลอย่างพลิกฟ้าผันดิน  สลัดคราบกลิ่นอายของเรือผีสิงไปโดยสิ้นเชิง  นับตั้งแต่บุคลากรจนกระทั่งทั่วทุกกระเบียดนิ้วของลำเรือ    นี่คงเป็นแรงบันดาลใจพิเศษของฟูโรเนะ  หลังจากเมื่อคืนวานหล่อนคลำโดนท่อนกลม ๆ ยาว ๆ ท่อนหนึ่งแล้วพบว่ามันคืองูเห่าดี ๆ นี่เอง  จนทำให้กิมฮวยต้องระเห็จมาเตรียมตัวเยาะเย้ยในชะตากรรมของฟูโรเนะผู้กรีดร้องก้องไปทั้งลำเรือ  แต่กลับพบ  ผมกับหล่อนในสภาพกึ่งเปลือยเข้า
ให้ตายสิ  ว่าจะไม่เล่าเรื่องเมื่อคืนแล้วนะ.....
สาวสวยผมแดงชี้นิ้วสั่งลูกน้องหุ่นล่ำให้กระแทกเอาปื้นเห็ดสีแดงช้ำเลือดช้ำหนองออกจากเสากระโดงเรือด้วยความรุนแรง
เห็ดราเหล่านั้นบิดหมวกของมันราวกับดรุณียามแรกรัก  จนฟูโรเนะต้องเบ้ปากด้วยความสยดสยอง
ผมเตรียมลากเก้าอี้อาบแดดตัวยาวฝุ่นเขราะ  ออกมาจากห้องเก็บของหลังเคบินกัปตัน    สภาพเก่าคร่ำคร่าและรอยด่างสีสนิมที่จับเขรอะทำให้ผมชักไม่แน่ใจว่าจะใช้มันนั่งดูฟูโรเนะเก็บกวาดดาดฟ้าเรือดีหรือไม่  ผมพยายามคิดว่าคราบที่เกาะแนบแน่นกับเนื้อผ้าร่มของเก้าอี้ยาวนั้นคงไม่ใช่คราบเลือดหรอก  แล้วค่อย ๆ ตัดใจหย่อนก้นลงนั่ง
พรืด!!  ตุ๊บ!!  โครม!!  เสียงเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อผมพบว่าเก้าอี้ตัวเก่งนั้นหายไป  และผมกำลังพยายามถ่ายเทน้ำหนักไว้บนอากาศอยู่
ฟูโรเนะหัวเราะคิก  ก่อนปั้นสีหน้าดุ  \"ไม่ได้นะคะ  ต้องทำความสะอาดก่อน  ไม่รู้เจ้าของคนเก่าตายคาเก้าอี้ตัวนี้นานแค่ไหนแล้ว  แต่เศษเนื้อตรงนี้ยังสด ๆ อยู่เลย\"  หล่อนชี้ให้ผมดูเศษเนื้อเน่า ๆ ที่ยังคงคาตามซอกเก้าอี้    ถ้าผมมองไม่ผิด  ร่างกึ่งโปร่งใสแทบจะละลายไปกับอากาศกำลังโบกมือหยอย ๆ มาจากเก้าอี้นั้น
\"หยึย  เกือบไปแล้วไง\"  เชื้อกลัวผีจากกิมฮวยชักระบาดมาใส่ผมมากขึ้นทุกวัน  มีคนว่าอยู่กับอะไรนาน ๆ มักจะชิน  แต่...นั่นไม่ใช่สำหรับผมกับเรือผีสิงลำนี้
\"เอาหล่ะ  นั่งได้แล้วค่ะ\"    ฟูโรเนะจับกดบ่าผมลงนั่งกับเก้าอี้ตัวเดิมที่ทำความสะอาดเรียบร้อยเหมือนเพิ่งแกะห่อมาใหม่ ๆ  เส้นผมหยักศกเป็นลอนของหล่อน  หล่นระลงมาเคลียเบา ๆ ที่ใบหน้าของผม  กลิ่นกุหลาบจากแชมพูอ่อน ๆ ซึ่งซึมซาบในเส้นผมระเหยเข้านาสิกประสาทอย่างเบาบาง
\"เฮอะ\"    เราทั้งคู่รู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตแพร่กระจายออกมาเบื้องหลัง
\"หญิงโฉด ชายชั่ว  เมื่อคืนยังไม่พอรึไงยะ\"
\"โธ่  กิมฮวย  บอกแล้วไงครับว่าเมื่อคืนมันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด\"
กิมฮวยไม่ฟัง  หล่อนเขานิ้วที่ยังอยู่ในเฝือกแข็ง ๆ ชี้หน้าฟูโรเนะ  \"เรื่องเข้าใจผิดยังไง?  นังหน้าด้านนี้ยังระริกระรี้อยู่เลยตอนที่ชั้นไปเจอเข้า  พี่ปริศนาก็เหมือนกันนั่นแหละ  ถึงมันจะให้ท่ายังไงพี่ก้ไม่น่าจะลดตัวลงไปเสวนากับมันด้วยนี่นา\"
\"อ่า...\"  ผมจนด้วยคำพูด
\"นี่นังแพศยา  จำใส่กระโหลกไว้เลยนะยะ  ว่าพี่ปริศนาไม่มีวันไปชอบแกเด็ดขาด  พี่เค้าก็แค่เล่น ๆ เท่านั้นแหละ  ไม่จริงใจกับแกหรอก  เพราะเขารักแต่ชั้นคนเดียว\"   
อา  ซึ้ง  กิมอวยไม่คิดว่าเป็นความผิดของผมเลย       
\"ค่ะ  คุณนายหลวง  ชั้นจะน้อมรับมาใส่ใจไว้ค่ะ\"    ฟูโรเนะตอบคำของกิมฮวยอย่างยิ้มแย้ม  โดยที่หล่อนไม่รอให้กิมฮวยวิเคราะห์ถ้อยคำได้
\"เดี๋ยวชั้นต้องขอตัวลงไปดูข้างล่างก่อนนะคะ  คือลงไปทำหน้าที่แม่ศรีเรือนที่ดีไม่ให้ขาดตกบกพร่องอ่ะค่ะ  เผื่อจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีในการมัดหัวใจชายให้คนบางคนซะมั่ง\"
เหอเหอ  ฟูโรเนะ  ร้ายจริงนะ  ไม่วายเหน็บก่อนไป
  กิมฮวยมองตาเขียวปั๊ดตามหลังหล่อนไปจึงไม่เห็นว่าผมแอบส่งจูบให้ฟูโรเนะ..........มีกิ๊กนี่เพิ่มรสชาติในชีวิตดีจัง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
\"อาห์    กลิ่นเชี่ยไรนี่  หอมจริง\" 
เสียงดังเพี๊ยะของทัพพีที่สัมผัสกับหลังมือผมอย่างแนบแน่นและรุนแรงดังขึ้นในทันที
\"นี่แน่  พูดไม่สุภาพ\"  ฟูโรเนะตักเตือนด้วยความรัก  ทำเอาบรรยากาศคุกรุ่นกระจายออกจากปีศาจสาวฝั่งตรงข้ามของโต๊ะอาหาร
\"อาห์  กลิ่นตัวเงินตัวทองอะไรเนี่ยครับ  หอมมากเลยทีเดียว\"
\"อุ๊ยตาย\"  ฟูโรเนะหยิกแก้มผมด้วยความเอ็นดู  โดยไม่ใส่ใจถึงเนื้อโต๊ะ  และจานชามที่ถูกทำลายจากแรงกดดันของปีศาจสาว  \"เก่งจังเลย  รู้ด้วยว่าฟูโระทำตะกวดย่างให้กิน\"
กิมฮวยกลับสนใจหัวข้อสนทนาในทันที  \"แถวนี้มีตะกวดตัวที่สอง  นอกจากตะกวดผมแดงด้วยเหรอคะนี่\"
ฟูโรเนะยิ้มหวานปานน้ำผึ้ง  \"ถ้าดึงดันที่จะนับชั้นเข้าไปด้วย  ก็คงต้องขอแสดงความเสียใจว่านี่คือตะกวดตัวที่สามบนเรืออ่ะค่ะ\"
\"เอ่อ  ผมก็อยากรู้นะครับ  ว่าไปเจอมันจากไหน\"    ผมจำต้องแทรกบทสนทนาก่อนที่มันจะกลายเป็นสงครามกลางทะเลย่อย ๆ
\"ลูกเรือของฟูโระไปจับมันมาจากเกาะใกล้ ๆ นี่แหละค่ะ  มีแต่สัตว์แปลก ๆ ทั้งนั้นเลย  เช่นเต่ายักษ์  ตะกวดหลากสี  นกแปลก ๆ  และอื่น ๆ อีกมากมาย\"
\"พี่ปริศนายังจำเป้าหมายเดิมของได้รึป่าวคะ\"  กิมฮวยสอดแทรกทันควัน  \"เกาะที่มีความหลากหลายทางนิเวศวิทยาขนาดนี้  น่าจะเป็นเป้าหมายที่เราต้องการบรรลุถึงแล้วหล่ะค่ะ\"
\"เป้าหมายอะไรคะ  ถ้าไม่รังเกียจ  เล่าให้ฟูโระฟังมั่งสิ\"  เธอเขย่าแขนผมเหมือนเด็ก ๆ
\"อ้อ ฟูโระจ๋า  นั่นเป็นปัญหาสำคัญมากเลยหล่ะคะ  เพราะฉะนั้น  เธอไม่ต้องฟังหรอก\"  กิมฮวยกระแทกเสียงในตอนท้าย
ฟูโระหันไปฉีกยิ้มให้กิมฮวยอีกแล้ว  ราวกับพรีเซ็นเตอร์โฆษณายาสีฟันเลยทีเดียว  \"ต้องขออภัยจริง ๆ นะคะ  ที่ยังไม่ถึงบทของคุณกิมฮวย  ชั้นมั่นใจว่าชั้นยังไม่ได้ถามคุณอ่ะค่ะ  แต่ถ้าคุณชอบ สอ ใส่ เกือก  ชั้นก็คงว่าอะไรคุณไม่ได้หรอกนะคะ\"
ขนตายาวงอนเป็นแพของของฟูโรเนะกระพริบปิ๊ง ๆ
\"เอ  ว่าแต่คุณนิรนามไปไหนแล้วหล่ะนี่  ไม่เห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว\"  ผมตัดบทอีกครั้ง
\"ฟูโระเห็นคุณไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่  เลยอ้างเหตุผลให้เขาแยกตัวไปแล้วค่ะ\"
\"อา  ดีมากเลยครับ  ได้คุณมาอยู่ด้วยเหมือนมีเลขานุการิณีชั้นเยี่ยมเลย\"
ผมรู้ดีว่า ฟูโระเนะเองก็ไม่ชอบหน้านิรนามเหมือนกัน  เลยไล่กลับทางอ้อม
\"งั้นก็อยู่กันสองคนตามสบาย  ชั้นจะกลับห้องหล่ะ\"  กิมฮวยค้ำยันตัวขึ้นด้วยไม้เท้า  ก่อนเตะเก้าอี้ให้เลื่อนเข้าใต้โต๊ะ
ผมงุนงงกับปฏิกิริยานิดหน่อย  แต่ก็ยังทักท้วงเธอไว้  \"อ้าว  ไม่กินข้าวกันก่อนเหรอที่รัก\" 
\"เชิญเถอะค่ะ  ไม่รู้อาหารพวกนี้กินได้รึป่าว  ไม่ใช่ปนเปื้อนพวกสตริกนิน  หรือไซยาไนด์หรอกนะ\"
\"ชั้นคงไม่สิ้นคิดขนาดวางยาอ่อน ๆ ให้ยายแก่หนังเหิ่ยวตายยากตายเย็นอย่างคุณกิมฮวยหรอกนะคะ  เพราะพิษพวกนั้นคงไม่อาจซึมลงไปในหนังหนา ๆ หน้าด้าน ๆ ของคุณได้    ถ้าจะฆ่าคุณชั้นว่าคงต้องลงทุนเยอะกว่านี้แล้วหล่ะ โฮะโฮะ\"
คงเป็นนิสัยเสียอีกอย่างหนึ่งของฟูโรเนะที่เวลาหัวเราะต้องกรีดพัดจีบออกมาบังปาก
\"ฮ่าฮ่าฮ่า\"  กิมฮวยผสมโรงหัวเราะด้วยสีหน้าน่ากลัว  ก่อนที่จะหยุดกึก  \"หัวเราะไปเถอะ  เงาหัวจะไม่มีแล้วยังไม่สำนึก\"
สาวผมแดงทำสีหน้าผวา  หล่อนกอดแขนผมไว้แน่น  จนหน้าอกหน้าใจสัมผัสท่อน..แขนผมเต็ม ๆ  อาห์  สวรรค์
\"อุ๊ย  น่ากลัวจังเลยค่ะ  กัปตันปริศนาอย่าทิ้งให้ข้าทาสผู้ภักดีคนนี้ต้องตกระกำลำบาก  ไปอยู่ในที่มืด ๆ จนมองหาเงาหัวไม่เห็นนะคะ\"
ท่าทางว่าที่ภรรยาของผมคงจะลืมไปว่าฟูโรเนะไม่เข้าใจสำนวนไทย  เธอกระแทกไม้เท้าค้ำยันปึงปังออกไปจากห้องอาหารนั้น
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 
เรือของเราเทียบท่าอย่างปลอดภัย    ไม่ใช่สิ  ชั้นควรจะบอกเล่าว่า  เรือของพณฯ ท่านกัปตันปริศนา  เข้าจอดเทียบ ณ เมืองท่าโดยสวัสดิภาพ
เกาะกาลาปากอสร้อนกว่าที่ชั้นคิดไว้    รู้งี้น่าจะกั๊กครีมกันแดดที่แจกลูกเรือสักครึ่งถังก็คงดีอยู่หรอก
เจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือ*** (จำคำเหมาะ ๆ ไม่ได้เหมือนติดอยู่ที่ปาก  นักอ่านท่านใดมีความรู้  ช่วยทีครับ)  ทำหน้าเหมือนถูกผีหลอกกลางวันแสก ๆ เมื่อลูกเรือเอฟเวอร์อีเวิลทยอยกันลงมาเมืองท่าแห่งนี้
ร้อนถึงพี่ปริศนาต้องเกลี้ยกล่อมเกือบตาย  พวกนั้นจึงเชื่อว่าลูกเรือของพณฯ ท่าน  เป็นเพียงคนพิกลพิการที่น่ากลัวไปหน่อยเท่านั้นเอง
\"เราไปสถาบันเพื่อความมั่นคง สิทธิ เสรีภาพและภราดรภาพสตรีประจำภูมิภาคเขตนี้ดีกว่านะคะ\"  ชั้นคล้องแขนกัปตันสุดหล่อ  พร้อมกับออกแรงกระชากให้ตัวเขาปลิวไปตามทิศทางเวกเตอร์ที่ต้องการ
\"ไปเดี๋ยวนี้เลยเหรอ  เอ้า  ไปก็ไป\"
\"ก็เดี๋ยวนี้น่ะสิคะ  จะมัวรีรออะไรอยู่  พี่ปริศนาไม่ได้กลิ่นเงินเลยเหรอคะ  กลิ่นหอม ๆ ของความร่ำรวยน่ะ  กิมฮวยแทบจะลงแดงตายจากความยั่วยวนนี้แล้วนะคะ\"
\"เหอเหอ  สมบัติจำนวนมากในท้องเรือเราไม่เพียงพอหรอกหรือ?\"
\"พี่ปริศนาก็น่าจะรู้ดีนี่คะ  ว่าเงินน่ะ  มีเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอก  เราต้องสะสมให้มากที่สุด  ยิ่งได้มากเท่าไหร่เราก็จะยิ่งเป็นอิสระจากการผูกมัดของค่าใช้จ่าย  และพวกเราก็จะเผาเงินได้ง่ายขึ้นด้วยนะคะ\"
ไม่ว่าสมบัติจะเป็นปีกที่ให้อิสระ  หรือเป็นโซ่ที่ใช้พันธนาการมนุษย์  อย่างไรชั้นก็ยังเลือกที่จะสะสมมันอยู่ดี
\"งั้นก็ไปกันเลย\"  ที่รักของชั้นเตะตูดงอนของกิมฮวยคนนี้  เพื่อกระตุ้นให้ชั้นต้องไล่ขวิดเขาด้วยความโมโหไปตามทางลูกรังเล็ก ๆ  อันทอดยาวไปสู่จุดหมายของเรา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
***  ในที่นี้สมมุติว่าเกาะกาลาปากอสมีเมืองเล็ก ๆ อยู่เมืองหนึ่ง  กรุณาใช้สามัญสำนึกและบรรทัดฐานที่หลุดพ้นจากมนุษย์ปกติในการอ่านเรื่องของผม
(พูดง่าย ๆ  พยายามบ้าตามเรื่องไปด้วยนะครับ ^ ^)
to be continued
                         
                      แสงวูบวาบของประกายอัญมณี  ทองคำ  เครื่องลายครามและของโบราณอันประเมินค่ามิได้  สาดเข้าตาฟูโรเนะจนหล่อนต้องควักแว่นกันแดดแบรนด์เนมกิ๊กเก๋ยูเรก้ามาแปะไว้ที่ดั้งจมูกของหล่อน
หล่อนไม่ตะลึงหรือแปลกใจสักนิด  สำหรับกองสมบัติที่เคยเป็นของหล่อนมาก่อน  ท่าทางฟูโรเนะคงตัดทางโลกได้ขาดเสียแล้ว  อามิตตาพุทธ...
ฟูโรเนะยักย้ายยุรยาตรยาตราไปยังสิ่งที่ใหญ่โตและผิดแปลกที่สุดในโถงนั้น  ถังใบสีน้ำเงินเก่าคร่ำคร่าซึ่งเคยใช้เก็บกักน้ำจืดไว้หล่อเลี้ยงชีวิตทั้งหลายบนเรืออิโนมิซุมาก่อน  นั้นต่างหากที่ทำให้เธออัศจรรย์ใจอย่างเหลือล้นที่ผมอุตส่าห์หอบหิ้วขนย้ายของใหญ่ ๆ ขนาดนี้มาได้
\"นี่มันคืออะไรหรือคะกัปตันที่รัก\"  ฟูโรเนะใช้เล็บเรียวงามทายาทาเล็บเป็นรูปกระต่ายสีชมพูเคาะเบา ๆ บนผิวโพลีเมอร์เนื้อแกร่งของถังนั้น
ผมหยุดคิดครู่หนึ่ง
\"อย่าให้ชั้นรอคำตอบนานสิคะ\"    ฟูโรเนะยิ้มหวานใส่  จนสเน่ห์เธอแพร่ระบาดลุกลามเข้าในหัวใจผมดุจโรคร้าย
\"นี่เป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สมบัติที่คุณจะได้รับกลับคืนครับ\"    ผมตัดสินใจตอบเธอไปจนได้
\"ห่ะ....\"  หล่อนทำหน้าเหมือนยัดบรเพ็ดเข้าไปทั้งอัน  ก่อนที่จะปรับสีหน้าให้หยาดเยิ้มตามปกติ  \"แหมคุณปริศนาเป็นห่วงฟูโระใช่มั้ยคะ  กลัวว่าจะอดน้ำตายกลางทะเลเลยหอบหิ้วน้ำจืดมาให้ด้วย\"    รอยยิ้มเธอหมายความตามที่พูด  แต่แววตาเธอรู้ทันผม
การพ่ายแพ้ที่งดงามที่สุด  คือแบบนี้เองสินะ    เอาเส้นชีวิตของพวกเรามา  หากพ่ายแพ้  ลูกเรืออิโนมิซุย่อมถูกทำลายสิ้นไปด้วยความกระหายเช่นกัน
\"แล้วที่กัปตันปริศนาบอกว่าจะคืนสมบัติให้ 50%  โดยปริมาตร  ก็คงจะเป็นเพราะคาดไว้เช่นนี้แล้วใช่มั้ยคะ\"  เธอยิ้มหวานกว่าเดิมจนผมรู้สึกได้ถึงอันตราย
ผมผงกศีรษะเบา ๆ  แต่ปากกลับกล่าวว่า  \"มิใช่หรอก  ฟูโระ  ผมไม่ได้คาดคิดไว้เช่นนั้นแต่ต้น  เพียงแต่  พ่อค้าย่อมรู้จักพลิกแพลงแสวงหาประโยชน์ตามสถานการณ์  และผมก็เป็นพ่อค้า\"     
\"ประเภทที่เค็มที่สุดด้วย\"  หล่อนต่อให้อย่างหมั่นไส้  \"เอาเถอะค่ะ  ชั้นจะยอมรับไว้ก็ได้สำหรับความปรารถนาดีของคุณ  ว่าแต่  ขออะไรชดเชยหน่อยได้มั้ยคะ\"   
ผมมิอาจตอบโดยไม่ทันคิด  จึงต้องรอเธอเอ่ยข้อความออกมาก่อน
\"คืนนี้  ไปหาชั้นที่ห้องนะคะยอดรัก  แล้วจะรอ\"    หล่อนส่งจูบให้ก่อนบิดเอวจนสะโพกยักคิ้วออกไปจากห้องสมบัติ   
เอาวะ  ความบริสุทธิ์(ของวันนี้)  แลกกับความพอใจของสาวสวย  เป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเลย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมขอไม่กล่าวถึงค่ำคืนอันร้อนแรงที่ผ่านมา
เรามาคุยกันเรื่องอื่นดีกว่า  เช่น  การปัดกวาดซ่อมบำรุงเรือเอฟเวอร์อีเวิลอย่างพลิกฟ้าผันดิน  สลัดคราบกลิ่นอายของเรือผีสิงไปโดยสิ้นเชิง  นับตั้งแต่บุคลากรจนกระทั่งทั่วทุกกระเบียดนิ้วของลำเรือ    นี่คงเป็นแรงบันดาลใจพิเศษของฟูโรเนะ  หลังจากเมื่อคืนวานหล่อนคลำโดนท่อนกลม ๆ ยาว ๆ ท่อนหนึ่งแล้วพบว่ามันคืองูเห่าดี ๆ นี่เอง  จนทำให้กิมฮวยต้องระเห็จมาเตรียมตัวเยาะเย้ยในชะตากรรมของฟูโรเนะผู้กรีดร้องก้องไปทั้งลำเรือ  แต่กลับพบ  ผมกับหล่อนในสภาพกึ่งเปลือยเข้า
ให้ตายสิ  ว่าจะไม่เล่าเรื่องเมื่อคืนแล้วนะ.....
สาวสวยผมแดงชี้นิ้วสั่งลูกน้องหุ่นล่ำให้กระแทกเอาปื้นเห็ดสีแดงช้ำเลือดช้ำหนองออกจากเสากระโดงเรือด้วยความรุนแรง
เห็ดราเหล่านั้นบิดหมวกของมันราวกับดรุณียามแรกรัก  จนฟูโรเนะต้องเบ้ปากด้วยความสยดสยอง
ผมเตรียมลากเก้าอี้อาบแดดตัวยาวฝุ่นเขราะ  ออกมาจากห้องเก็บของหลังเคบินกัปตัน    สภาพเก่าคร่ำคร่าและรอยด่างสีสนิมที่จับเขรอะทำให้ผมชักไม่แน่ใจว่าจะใช้มันนั่งดูฟูโรเนะเก็บกวาดดาดฟ้าเรือดีหรือไม่  ผมพยายามคิดว่าคราบที่เกาะแนบแน่นกับเนื้อผ้าร่มของเก้าอี้ยาวนั้นคงไม่ใช่คราบเลือดหรอก  แล้วค่อย ๆ ตัดใจหย่อนก้นลงนั่ง
พรืด!!  ตุ๊บ!!  โครม!!  เสียงเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อผมพบว่าเก้าอี้ตัวเก่งนั้นหายไป  และผมกำลังพยายามถ่ายเทน้ำหนักไว้บนอากาศอยู่
ฟูโรเนะหัวเราะคิก  ก่อนปั้นสีหน้าดุ  \"ไม่ได้นะคะ  ต้องทำความสะอาดก่อน  ไม่รู้เจ้าของคนเก่าตายคาเก้าอี้ตัวนี้นานแค่ไหนแล้ว  แต่เศษเนื้อตรงนี้ยังสด ๆ อยู่เลย\"  หล่อนชี้ให้ผมดูเศษเนื้อเน่า ๆ ที่ยังคงคาตามซอกเก้าอี้    ถ้าผมมองไม่ผิด  ร่างกึ่งโปร่งใสแทบจะละลายไปกับอากาศกำลังโบกมือหยอย ๆ มาจากเก้าอี้นั้น
\"หยึย  เกือบไปแล้วไง\"  เชื้อกลัวผีจากกิมฮวยชักระบาดมาใส่ผมมากขึ้นทุกวัน  มีคนว่าอยู่กับอะไรนาน ๆ มักจะชิน  แต่...นั่นไม่ใช่สำหรับผมกับเรือผีสิงลำนี้
\"เอาหล่ะ  นั่งได้แล้วค่ะ\"    ฟูโรเนะจับกดบ่าผมลงนั่งกับเก้าอี้ตัวเดิมที่ทำความสะอาดเรียบร้อยเหมือนเพิ่งแกะห่อมาใหม่ ๆ  เส้นผมหยักศกเป็นลอนของหล่อน  หล่นระลงมาเคลียเบา ๆ ที่ใบหน้าของผม  กลิ่นกุหลาบจากแชมพูอ่อน ๆ ซึ่งซึมซาบในเส้นผมระเหยเข้านาสิกประสาทอย่างเบาบาง
\"เฮอะ\"    เราทั้งคู่รู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตแพร่กระจายออกมาเบื้องหลัง
\"หญิงโฉด ชายชั่ว  เมื่อคืนยังไม่พอรึไงยะ\"
\"โธ่  กิมฮวย  บอกแล้วไงครับว่าเมื่อคืนมันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด\"
กิมฮวยไม่ฟัง  หล่อนเขานิ้วที่ยังอยู่ในเฝือกแข็ง ๆ ชี้หน้าฟูโรเนะ  \"เรื่องเข้าใจผิดยังไง?  นังหน้าด้านนี้ยังระริกระรี้อยู่เลยตอนที่ชั้นไปเจอเข้า  พี่ปริศนาก็เหมือนกันนั่นแหละ  ถึงมันจะให้ท่ายังไงพี่ก้ไม่น่าจะลดตัวลงไปเสวนากับมันด้วยนี่นา\"
\"อ่า...\"  ผมจนด้วยคำพูด
\"นี่นังแพศยา  จำใส่กระโหลกไว้เลยนะยะ  ว่าพี่ปริศนาไม่มีวันไปชอบแกเด็ดขาด  พี่เค้าก็แค่เล่น ๆ เท่านั้นแหละ  ไม่จริงใจกับแกหรอก  เพราะเขารักแต่ชั้นคนเดียว\"   
อา  ซึ้ง  กิมอวยไม่คิดว่าเป็นความผิดของผมเลย       
\"ค่ะ  คุณนายหลวง  ชั้นจะน้อมรับมาใส่ใจไว้ค่ะ\"    ฟูโรเนะตอบคำของกิมฮวยอย่างยิ้มแย้ม  โดยที่หล่อนไม่รอให้กิมฮวยวิเคราะห์ถ้อยคำได้
\"เดี๋ยวชั้นต้องขอตัวลงไปดูข้างล่างก่อนนะคะ  คือลงไปทำหน้าที่แม่ศรีเรือนที่ดีไม่ให้ขาดตกบกพร่องอ่ะค่ะ  เผื่อจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีในการมัดหัวใจชายให้คนบางคนซะมั่ง\"
เหอเหอ  ฟูโรเนะ  ร้ายจริงนะ  ไม่วายเหน็บก่อนไป
  กิมฮวยมองตาเขียวปั๊ดตามหลังหล่อนไปจึงไม่เห็นว่าผมแอบส่งจูบให้ฟูโรเนะ..........มีกิ๊กนี่เพิ่มรสชาติในชีวิตดีจัง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
\"อาห์    กลิ่นเชี่ยไรนี่  หอมจริง\" 
เสียงดังเพี๊ยะของทัพพีที่สัมผัสกับหลังมือผมอย่างแนบแน่นและรุนแรงดังขึ้นในทันที
\"นี่แน่  พูดไม่สุภาพ\"  ฟูโรเนะตักเตือนด้วยความรัก  ทำเอาบรรยากาศคุกรุ่นกระจายออกจากปีศาจสาวฝั่งตรงข้ามของโต๊ะอาหาร
\"อาห์  กลิ่นตัวเงินตัวทองอะไรเนี่ยครับ  หอมมากเลยทีเดียว\"
\"อุ๊ยตาย\"  ฟูโรเนะหยิกแก้มผมด้วยความเอ็นดู  โดยไม่ใส่ใจถึงเนื้อโต๊ะ  และจานชามที่ถูกทำลายจากแรงกดดันของปีศาจสาว  \"เก่งจังเลย  รู้ด้วยว่าฟูโระทำตะกวดย่างให้กิน\"
กิมฮวยกลับสนใจหัวข้อสนทนาในทันที  \"แถวนี้มีตะกวดตัวที่สอง  นอกจากตะกวดผมแดงด้วยเหรอคะนี่\"
ฟูโรเนะยิ้มหวานปานน้ำผึ้ง  \"ถ้าดึงดันที่จะนับชั้นเข้าไปด้วย  ก็คงต้องขอแสดงความเสียใจว่านี่คือตะกวดตัวที่สามบนเรืออ่ะค่ะ\"
\"เอ่อ  ผมก็อยากรู้นะครับ  ว่าไปเจอมันจากไหน\"    ผมจำต้องแทรกบทสนทนาก่อนที่มันจะกลายเป็นสงครามกลางทะเลย่อย ๆ
\"ลูกเรือของฟูโระไปจับมันมาจากเกาะใกล้ ๆ นี่แหละค่ะ  มีแต่สัตว์แปลก ๆ ทั้งนั้นเลย  เช่นเต่ายักษ์  ตะกวดหลากสี  นกแปลก ๆ  และอื่น ๆ อีกมากมาย\"
\"พี่ปริศนายังจำเป้าหมายเดิมของได้รึป่าวคะ\"  กิมฮวยสอดแทรกทันควัน  \"เกาะที่มีความหลากหลายทางนิเวศวิทยาขนาดนี้  น่าจะเป็นเป้าหมายที่เราต้องการบรรลุถึงแล้วหล่ะค่ะ\"
\"เป้าหมายอะไรคะ  ถ้าไม่รังเกียจ  เล่าให้ฟูโระฟังมั่งสิ\"  เธอเขย่าแขนผมเหมือนเด็ก ๆ
\"อ้อ ฟูโระจ๋า  นั่นเป็นปัญหาสำคัญมากเลยหล่ะคะ  เพราะฉะนั้น  เธอไม่ต้องฟังหรอก\"  กิมฮวยกระแทกเสียงในตอนท้าย
ฟูโระหันไปฉีกยิ้มให้กิมฮวยอีกแล้ว  ราวกับพรีเซ็นเตอร์โฆษณายาสีฟันเลยทีเดียว  \"ต้องขออภัยจริง ๆ นะคะ  ที่ยังไม่ถึงบทของคุณกิมฮวย  ชั้นมั่นใจว่าชั้นยังไม่ได้ถามคุณอ่ะค่ะ  แต่ถ้าคุณชอบ สอ ใส่ เกือก  ชั้นก็คงว่าอะไรคุณไม่ได้หรอกนะคะ\"
ขนตายาวงอนเป็นแพของของฟูโรเนะกระพริบปิ๊ง ๆ
\"เอ  ว่าแต่คุณนิรนามไปไหนแล้วหล่ะนี่  ไม่เห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว\"  ผมตัดบทอีกครั้ง
\"ฟูโระเห็นคุณไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่  เลยอ้างเหตุผลให้เขาแยกตัวไปแล้วค่ะ\"
\"อา  ดีมากเลยครับ  ได้คุณมาอยู่ด้วยเหมือนมีเลขานุการิณีชั้นเยี่ยมเลย\"
ผมรู้ดีว่า ฟูโระเนะเองก็ไม่ชอบหน้านิรนามเหมือนกัน  เลยไล่กลับทางอ้อม
\"งั้นก็อยู่กันสองคนตามสบาย  ชั้นจะกลับห้องหล่ะ\"  กิมฮวยค้ำยันตัวขึ้นด้วยไม้เท้า  ก่อนเตะเก้าอี้ให้เลื่อนเข้าใต้โต๊ะ
ผมงุนงงกับปฏิกิริยานิดหน่อย  แต่ก็ยังทักท้วงเธอไว้  \"อ้าว  ไม่กินข้าวกันก่อนเหรอที่รัก\" 
\"เชิญเถอะค่ะ  ไม่รู้อาหารพวกนี้กินได้รึป่าว  ไม่ใช่ปนเปื้อนพวกสตริกนิน  หรือไซยาไนด์หรอกนะ\"
\"ชั้นคงไม่สิ้นคิดขนาดวางยาอ่อน ๆ ให้ยายแก่หนังเหิ่ยวตายยากตายเย็นอย่างคุณกิมฮวยหรอกนะคะ  เพราะพิษพวกนั้นคงไม่อาจซึมลงไปในหนังหนา ๆ หน้าด้าน ๆ ของคุณได้    ถ้าจะฆ่าคุณชั้นว่าคงต้องลงทุนเยอะกว่านี้แล้วหล่ะ โฮะโฮะ\"
คงเป็นนิสัยเสียอีกอย่างหนึ่งของฟูโรเนะที่เวลาหัวเราะต้องกรีดพัดจีบออกมาบังปาก
\"ฮ่าฮ่าฮ่า\"  กิมฮวยผสมโรงหัวเราะด้วยสีหน้าน่ากลัว  ก่อนที่จะหยุดกึก  \"หัวเราะไปเถอะ  เงาหัวจะไม่มีแล้วยังไม่สำนึก\"
สาวผมแดงทำสีหน้าผวา  หล่อนกอดแขนผมไว้แน่น  จนหน้าอกหน้าใจสัมผัสท่อน..แขนผมเต็ม ๆ  อาห์  สวรรค์
\"อุ๊ย  น่ากลัวจังเลยค่ะ  กัปตันปริศนาอย่าทิ้งให้ข้าทาสผู้ภักดีคนนี้ต้องตกระกำลำบาก  ไปอยู่ในที่มืด ๆ จนมองหาเงาหัวไม่เห็นนะคะ\"
ท่าทางว่าที่ภรรยาของผมคงจะลืมไปว่าฟูโรเนะไม่เข้าใจสำนวนไทย  เธอกระแทกไม้เท้าค้ำยันปึงปังออกไปจากห้องอาหารนั้น
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 
เรือของเราเทียบท่าอย่างปลอดภัย    ไม่ใช่สิ  ชั้นควรจะบอกเล่าว่า  เรือของพณฯ ท่านกัปตันปริศนา  เข้าจอดเทียบ ณ เมืองท่าโดยสวัสดิภาพ
เกาะกาลาปากอสร้อนกว่าที่ชั้นคิดไว้    รู้งี้น่าจะกั๊กครีมกันแดดที่แจกลูกเรือสักครึ่งถังก็คงดีอยู่หรอก
เจ้าหน้าที่ประจำท่าเรือ*** (จำคำเหมาะ ๆ ไม่ได้เหมือนติดอยู่ที่ปาก  นักอ่านท่านใดมีความรู้  ช่วยทีครับ)  ทำหน้าเหมือนถูกผีหลอกกลางวันแสก ๆ เมื่อลูกเรือเอฟเวอร์อีเวิลทยอยกันลงมาเมืองท่าแห่งนี้
ร้อนถึงพี่ปริศนาต้องเกลี้ยกล่อมเกือบตาย  พวกนั้นจึงเชื่อว่าลูกเรือของพณฯ ท่าน  เป็นเพียงคนพิกลพิการที่น่ากลัวไปหน่อยเท่านั้นเอง
\"เราไปสถาบันเพื่อความมั่นคง สิทธิ เสรีภาพและภราดรภาพสตรีประจำภูมิภาคเขตนี้ดีกว่านะคะ\"  ชั้นคล้องแขนกัปตันสุดหล่อ  พร้อมกับออกแรงกระชากให้ตัวเขาปลิวไปตามทิศทางเวกเตอร์ที่ต้องการ
\"ไปเดี๋ยวนี้เลยเหรอ  เอ้า  ไปก็ไป\"
\"ก็เดี๋ยวนี้น่ะสิคะ  จะมัวรีรออะไรอยู่  พี่ปริศนาไม่ได้กลิ่นเงินเลยเหรอคะ  กลิ่นหอม ๆ ของความร่ำรวยน่ะ  กิมฮวยแทบจะลงแดงตายจากความยั่วยวนนี้แล้วนะคะ\"
\"เหอเหอ  สมบัติจำนวนมากในท้องเรือเราไม่เพียงพอหรอกหรือ?\"
\"พี่ปริศนาก็น่าจะรู้ดีนี่คะ  ว่าเงินน่ะ  มีเท่าไหร่ก็ไม่พอหรอก  เราต้องสะสมให้มากที่สุด  ยิ่งได้มากเท่าไหร่เราก็จะยิ่งเป็นอิสระจากการผูกมัดของค่าใช้จ่าย  และพวกเราก็จะเผาเงินได้ง่ายขึ้นด้วยนะคะ\"
ไม่ว่าสมบัติจะเป็นปีกที่ให้อิสระ  หรือเป็นโซ่ที่ใช้พันธนาการมนุษย์  อย่างไรชั้นก็ยังเลือกที่จะสะสมมันอยู่ดี
\"งั้นก็ไปกันเลย\"  ที่รักของชั้นเตะตูดงอนของกิมฮวยคนนี้  เพื่อกระตุ้นให้ชั้นต้องไล่ขวิดเขาด้วยความโมโหไปตามทางลูกรังเล็ก ๆ  อันทอดยาวไปสู่จุดหมายของเรา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
***  ในที่นี้สมมุติว่าเกาะกาลาปากอสมีเมืองเล็ก ๆ อยู่เมืองหนึ่ง  กรุณาใช้สามัญสำนึกและบรรทัดฐานที่หลุดพ้นจากมนุษย์ปกติในการอ่านเรื่องของผม
(พูดง่าย ๆ  พยายามบ้าตามเรื่องไปด้วยนะครับ ^ ^)
to be continued
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น