ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักซาดิสส์ของคุณกิมฮวย

    ลำดับตอนที่ #30 : ชุมนุมหมื่นพุทธ (Star Destroyer)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 120
      0
      27 ส.ค. 48



          \"เดินเครื่องเต็มพิกัด  วาร์ปเปลี่ยนร่าง    กิก้า ไทแทน อิโนมิซุ\"       สิ้นเสียงของฟูโรเนะ     เรือของหล่อนพลันแยกกลางลำตัวออก  แสงวูบวาบของแมกเนติกฟิลด์  ดึงดูดให้ชิ้นส่วนต่างประกอบร่างกัน   เสียงเพลงประกอบที่เร้าใจดังขึ้นระหว่างที่อิโนมิซุก่อตัวเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง





    \"คุณว่าผมจะอ้าปากค้างรอดูมันจนเปลี่ยนร่างสำเร็จ แบบผู้ร้ายในหนังมั้ย\"    ผมหันไปจบไหล่ดึงสติของต้นหนมาจากกระบวนการอันน่าตกตะลึง  และตระการตาของ ฟูโรเนะ\'s ปาหิ่



    ผมผนึกยันต์ที่ฝ่ามืออีกครั้ง    แสงเจิดจ้าและพลังสีทองอร่ามห่อหุ้มเรือเอฟเวอร์อีเวิลราวกับเรือของทูตสวรรค์



    \"ฝ่ามือเทพยูไล  กระบวนท่าสุดยอด   ชุมนุมหมื่นพุทธ!!!\"



    ฉับพลัน   บังเกิดสภาพโปร่งใสว่างเปล่าของบรรยากาศทะลุทะลวงลงจากท้องฟ้าเป็นเส้นสาย   เส้นสายเหล่านั้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร    และโปร่งใสว่างเปล่าราวกับไม่มีแม้แต่บรรยากาศอยู่    ลำของพลังที่ดูดกลืนแม้กระทั่งแสงสว่าง    นับหมื่นนับพันเส้น   พุ่งลงโจมตีเรืออิโนมิซุในทันที



    ทว่า   สนามแม่เหล็กที่ห่อหุ้มลำเรืออยู่  ได้เบี่ยงเบนเส้นเหล่านั้นไปทั้งสิ้น      กะลาสีของสองลำเรือต่างตกตะลึงกับอำนาจเหนือธรรมชาติของฝ่ายตรงกันข้าม



    \"ไม่เป็นไร   ผมไม่ได้กะให้โดนตรง ๆ หรอก\"        ลำพลังที่ถูกเบี่ยงเบนลงทะเล  ทำให้โมเลกุลของน้ำแยกตัวกลายเป็นแก๊สสองชนิด   ซึ่งสันดาปกันอย่างรุนแรง   กลายเป็นลำเพลิงพวยพุ่งจากผืนทะเลบ้าคลั่ง    น้ำทะเลที่อยู่รอบ ๆ หลุมเพลิงพลันเทตัวลงไปสู่เบื้องลึกเพื่อแทนที่มวลที่หายไปนั้น  ก่อให้เกิดกระแสน้ำวนดูดเอาอิโนมิซุปั่นป่วนอย่างรุนแรง  



    \"กัปตันทำได้ไงน่ะ\"     ต้นหนตัวดีถามผมด้วยความประหลาดใจถึงที่สุด



    \"หึหึ   ชุมนุมหมื่นพุทธ  ไม่ใช่กระบวนท่า  แต่เป็นอาวุธ   อย่างไรก็ตาม...\"     ผมทราบว่ามีคนบางคนรออยู่เหนือศีรษะแล้ว



    \"คงต้องขอบใจ คุณนิรนาม  ที่อุตส่าห์ให้เราเช่าใช้สตาร์เดสทรอยเยอร์**  เหนือน่านน้ำแปซิฟิค\"



    เฮลิคอปเตอร์  สีดำสนิท    ราวกับความมืดมนของท้องฟ้าเบื้องบน  ปรากฏตัวเหนือเรือเอฟเวอร์อีเวิล  อย่างไม่คาดฝัน

    ฮ. ลำนั้น  ค่อย ๆ โรยตัวลงจอดบนพื้นที่ผุพังของเอฟเวอร์อีเวิล



    ชายผู้หนึ่งซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนคงจะคุ้นเคยกันดีปรากฏตัวจากประตู ฮ.    เขายักคิ้วให้และยิ้มเผล่



    \"สวัสดีครับ   อ๊ะ  ไม่เห็นกิมฮวยเลย  ปกติติดคุณยังกับกาวดักหนูนี่นา\"   ถ้านิรนามเปลี่ยนเป็นคำว่าตังเม  จะดูดีกว่านี้  -*-



    \"ว่าที่ภรรยาของผมได้รับบาดเจ็บสาหัส   คงออกมาจุ้นจ้านไม่ได้ชั่วคราวน่ะ\"   ผมเน้นหนักเพื่อให้เขาสำนึกว่าสิ่งที่เขาหวังไม่มีทางเป็นไปได้



    เพลิงไฟที่ลุกไหม้และการระเบิดอย่างต่อเนื่องของน้ำมันในเรืออิโนมิซุ  ซึ่งเป็นฉากเบื้องหลังเรา  ย้อมให้บรรยากาศรอบ ๆ เป็นสีแดงฉาน

    เรือบดลำเล็ก ๆ ถูกปล่อยออกมา  พร้อม ๆ กับผู้คนที่อพยพหนีตายกันอลหม่าน   หัวขบวนนำด้วยเรือของสาวผมแดงเพลิงจัดจ้าแม้ยามมืดมิด  พุ่งตรงมายังเรือของเรา   ลูกเรือผมเล็งป้อมยิงเลเซอร์ไปยังผู้คนเหล่านั้น  แต่ผมยกมือห้ามเขาไว้ก่อน



    \"ชั้นแพ้แล้ว\"   หล่อนกระโดดขึ้นเรือด้วยสีหน้าเบื่อ ๆ   ไม่มีแววแห่งความเสียใจเลยแม้แต่น้อย

    \"และตอนนี้\"    ฟูโรเนะนวยนาดเข้ามาจับปลายคางผมเบา ๆ  \"ชั้นก็เป็นของคุณแล้วหล่ะ\"



    โดยที่ไม่ทันตั้งตัวฟูโรเนะจุมพิตเบา ๆ ที่ข้างแก้มผม  ก่อนถอยออกมาอย่างรวดเร็ว     ผมได้แต่ลูบแก้มด้วยความตกตะลึงขณะที่นิรนามกัดฟันกรอดจนเสียงดังออกมาอย่างชัดเจน



    \"ไม่ทราบว่าเธอคนนี้...\"   นิรนามเอ่ยปาก  สีหน้าของเขาราบเรียบจนไม่อาจจับความรู้สึกได้



    \"กัปตันฟูโรเนะแห่งเรืออิโนมิซุ  ไงครับ    เอ้อ  ฟูโระ   ผมขอแนะนำให้รู้จักกับคุณนิรนาม  เจ้าของอาวุธที่ทำลายเรือของคุณน่ะ\"

    หึหึ  ดังคาด  ทั้งคู่จ้องมองกันด้วยแววตากระหายเลือด   แต่ก็ชั่วแว่บเดียว  ทั้งสองคนก็สวมหน้ากากยิ้มแย้มทักทายกันตามปกติ



    \"ยินดีที่ได้รู้จักมาดมัวแซลสุดสวยเช่นคุณ\"      นิรนามย่อตัวลงและจับมือเนียนนุ่มนั้นจุมพิตเป็นการทักทายตามมารยาท



    \"เช่นกันค่ะ   ไม่น่าเชื่อเลยนะ   ว่ากัปตันปริศนามีเพื่อนที่หล่อเหลาขนาดนี้\"     อย่างไม่คาดฝัน  หล่อนตบเปรี้ยง!! เข้าที่ข้างแก้มของนิรนาม



    ฟูโรเนะเอามือทาบอกด้วยความตกใจ  \"อุ๊ยขอโทษค่ะ   ชั้นจักจี้ง่ายอ่ะค่ะ   เลยเผลอสะบัดมือไป  เจ็บมากมั้ยคะ\"      หล่อนลูบคลำ และหยิกใบหน้าของนิรนามซึ่งกำลังชาและมึนงงได้ที่



    ทันใด  นิรนามคว้ามือของหล่อนและจับหักไพล่หลัง    \"วิธีแก้จักจี้ที่ได้ผลดีครับ\"    



    ฟูโรเนะหมุนพลิกตัวไปตามแรงและทิศการบิดแขนของนิรนาม   ทำให้ไม่ได้รับอันตรายจากพฤติการณ์เมื่อครู่นี้   ส่วนผมน่ะหรือ  ถอยออกมานอกวงและมองดูชนวนสงครามที่ตนเองจุดขึ้นมาอย่างยิ้มแย้ม



    ทั้งคู่เข้าคลุกวงในและปะทะกันโดยนิรนามเน้นการต่อสู้แบบคอมมานโด  ประเภทจับหัวบิดให้คอหัก  ล๊อคแขนขา  ทำลายข้อพับ  เป็นต้น

    ส่วนฟูโรเนะทุ่มพลังในเทคนิคเทควันโด ผสานกับวิชายูโดอย่างเต็มที่    หล่อนใช้ปลายเท้าเตะอย่างรวดเร็วราวจักรผันเพื่อโจมตีในระยะไกล   และจับนิรนามทุ่มในท่าอันตรายในระยะประชิด  



    ทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างสูสี  เสียงพลั่ก!โครม!คราม!ดังขึ้นตลอดเวลาโดยที่ผมไม่คิดแม้แต่จะห้าม



    20 นาทีผ่านไป   ผมชักเบื่อที่พวกนี้สู้กันเงียบ ๆ ไม่มีเสียงผรุสวาทเล็ดรอดออกมาให้ตื่นเต้นและทวีจุดเดือดอารมณ์เลย



    \"อย่าตีกันเลยครับ    มีอะไรก็พูดคุยกันดี ๆ ก็ได้\"    ผมแสร้งห้ามปรามขณะที่มือกำลังจดโพยพนันของศึกคู่นี้เป็นระวิง  ส่วนมากพวกลูกเรือมักจะเทคะแนนให้สาวสวยผมแดง    ขณะที่ผมเองเชื่อว่านิรนามจะชนะ  จึงรับแทงไม่อั้น



    \"จะให้ชั้นพูดอะไรเกี่ยวกับวิธีต้อนรับสุภาพสตรีแบบนี้หล่ะคะ\"   ฟูโรเนะคว้าเอวของนิรนาม  มืออีกข้างจับที่ต้นแขนของเขา   พลิกตัวกลับหลังใช้ปลายเท้าเป็นแกนและงัดสะโพก  ส่งให้นิรนามลอยไปกระแทกกับลังไม้บนเรือ



    นิรนามปาดเลือดที่ไหลย้อยลงมาบนหน้าผาก    \"ให้ตายสิ  สุภาพสตรีประสาอะไร  แรงควา-ยชัด ๆ  หรือจะให้เรียกว่าแรงกระซู่กูปรี ดีครับ\"



    ได้ผล  นัยน์ตาสีน้ำทะเลของหล่อนระอุราวกับติดไฟ   หล่อนพุ่งเข้าชาร์จนิรนามด้วยท่าเตะลอยตัว   นิรนามยกแขนขึ้นมาบล๊อค  เสียงปะทะกันดังลั่นจนผมเองยังกลัวเขากระดูกร้าว



    เขาม้วนแขนพันธนาการขาของฟูโรเนะไว้  และจับขาหักลงให้ศีรษะของหล่อนกระแทกพื้น  สาวผมแดงใช้มือค้ำยันพื้นทันควัน ก่อนดีดตัวด้วยปลายแขนส่งแรงไปที่ฝ่าเท้าของหล่อน  กระแทกคางของนิรนามดังพลั่ก!



    ชายหนุ่มยืนงงอยู่พักหนึ่ง    เป็นจังหวะของฟูโรเนะที่จะซ้ำ    หล่อนกราดปลายเท้าในเบื้องล่างไปที่ข้อพับของนิรนาม  หวังจะจู่โจมให้เขาล้มลงกับพื้น   ผมเห็นว่าท่าไม่ดีเพราะถ้านิรนามแพ้  เจ้ามืออย่างผมหมดตัวแหง ๆ  จึงต้องรีบเข้าไปห้ามทั้งคู่ทันที



    \"ถือว่าเห็นแก่หน้าผมเถอะครับ   อย่าตีกันอีกเลย  ขืนสู้ต่อไปก็ไม่มีใครแพ้ใครชนะหรอกครับ\"   ประโยคหลังผมใช้ถ่ายทอดให้ลูกเรือทราบว่าผลการต่อสู้คือเสมอ



    น่าแปลกใจ   ทั้งคู่ยอมหยุดมือให้   นิรนามเดินโซเซออกมาจากวง   ผมต้องรีบเข้าไปประคองเพราะเกรงว่าเขาจะถูกตัดสินว่าพ่ายแพ้

    นิรนามกลับฉวยโอกาส  โอบรอบคอผมแล้วซบลงบนไหล่เป็นทีว่าหมดแรง



    \"ให้ตายสิ  ยัยนั่นโหดจริง ๆ  ไปกินดีหมีดีวัวมาจากไหนก็ไม่รู้  แรงโคตร ๆ\"   นิรนามปรับทุกข์กับผมตามปกติโดยไม่ใส่ใจสังเกตสีเข้ม ๆ ของเลือดที่แล่นขึ้นหน้าผม



    ผมอดไม่ไหว จึงจำต้องจับกดหัวไหล่ของนิรนามแล้วเข่าขึ้นจากเบื้องล่างลงที่ท้องของเขา



    \"อั่ก\"   นิรนามสะอึกเมื่อกระแทกกับเข่าโหด ๆ    เขาเงยหน้ามาใบหน้าเหยเก  ทำตาละห้อยราวกับตัดพ้อต่อว่าผมอย่างน่าสงสาร   เขาเอามือกุมท้องแล้วค่อย ๆ ย่อตัวลงนั่ง   ผมชักรู้สึกผิดว่ารุนแรงไปรึเปล่าเพราะเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็เป็นได้



    \"เป็นไรมากป่าววะ   จะตายยัง\"    



    \"รุนแรงจังเลยครับ   ไม่กลัวผมตายเหรอฮะ\"    ไอ้ตัวแสบเว้าหน้าซื่อ



    \"ไม่ต้องห่วงหรอกคนชั่ว ๆ มักตายยาก\"         ผมว่าพลางถอยทัพไปยังเคบินกัปตัน



    นิรนามดีดตัวจากพื้นที่ลงไปนั่งกุมท้องเมื่อครู่   เพื่อขวางทางเดินผมไว้



    \"อ้าวก็แข็งแรงดีนี่\"   ผมหรี่ตามองมันแล้วลดระดับเสียงพอให้ได้ยินเพียงสองคน  \"หรือว่า  เมื่อสักครู่นี้แกล้งแพ้\"



    นิรนามอมยิ้มสีหน้าเจ้าเล่ห์  \"หึหึ   ถ้าผมไม่แกล้งทำอย่างนั้นจะรู้ได้ไงว่าคุณเป็นห่วงผมหรือเปล่า\"



    ให้ตายสิ   ผมไม่ได้ห่วงมันสักนิด   แต่เป็นห่วงเงินจะโบยบินจากกระเป๋าหากผมแพ้พนัน



    \"จริงมั้ยหล่ะ\"   มันถามย้ำ    แต่ผมไม่ตอบ  เท้าของผมยังคงพาตนเองไปเบื้องหน้าเรื่อย ๆ



    \"เดี๋ยวก่อนสิคะ  กัปตันปริศนา   จะรีบตามควา-ยหายไปไหน\"   เสียงสดใสของฟูโรเนะที่วิ่งนมเด้งตามหลังมาจากทางเดิน



    \"เปล่าครับ  ผมไม่ได้ไปตามควา-ยที่ไหน   แต่มีควา-ยวิ่งตามต่างหาก\"     สิ้นประโยค  นิรนามสะดุ้งเพราะเขาถูกเปรียบเทียบเป็นควา-ยอันดับแรก   ขณะที่ฟูโรเนะหน้าเจื่อนเพราะถูกว่าเป็นควา-ยอันดับสอง



    \"อ่ะ  เอ่อ  คือว่า..\"    



    \"มีไรก็พูดมาไม่ต้องอ้ำอึ้ง\"   ผมรีบตัดบทให้หล่อน



    \"ได๋ค่ะ   คือว่าคุณสั่งใช้สตาร์เดสทรอยเยอร์อีกครั้งได้มั้ยคะ    แยกน้ำทะเลตรงที่เรือชั้นจมลงให้หน่อย    ชั้นจะได้ลงไปงมเอาสมบัติที่สะสมในเรือขึ้นมาสักหน่อย\"   ผมนิ่งเงียบ  ทำให้หล่อนต้องรีบกล่าวต่อด้วยความร้อนรน



    \"จะหักเปอร์เซ็นต์สมบัติชั้นค่าขนย้ายแค่ไหนก็ได้ค่ะ    ขอให้ช่วยแค่นิ้ดดดเดียว\"



    นิรนามมองหล่อนด้วยความสมเพช    \"คุณก็เห็นอานุภาพของอาวุธผมแล้วนี่     ไม่ใช่แค่น้ำทะเลหรอกที่จะสลายเป็นอากาศธาตุ\"



    ฟูโรเนะส่งสายตาเขียวปั๊ดไปให้คู่ปรับของหล่อน   เป็นทำนองว่าอย่ามายุ่ง   \"อิโนมิซุใช้วัสดุอย่างดีย่ะ    ไม่มีทางสลายหายไปด้วยอาวุธกิ๊กก๊อกของนายหรอก\"  



    \"อย่าลืม   ว่าเจ้าของสตาร์เดสทรอยเยอร์คือผม    พูดอย่างนี้ดีแล้วหรือ\"   นิรนามขู่



    \"อุ๊ยตายโทษทีค่ะ   ชั้นเผลอตัวไปหน่อย\"    ฟูโรเนะส่งยิ้มหวานเยิ้มให้นิรนาม  จนเขาต้องขยับตัวด้วยความกระสับกระส่าย



    \"แล้วอาวุธของคุณทำงานอย่างไรหรือคะ  ถึงคาดว่าสามารถทำลายได้แม้แต่เรือที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างอิโนมิซุได้\"



    \"มันเป็นความลับทางการค้า  แต่เอาเถอะคุณก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล   เป็นถึงข้าทาสเกรดเอของคุณปริศนาเพื่อนรักของผม\"  นิรนามถือโอกาสโอบไหล่ผม     \"ผมจะอธิบายให้ฟังเผื่อจะช่วยยกระดับสมองโง่ ๆ ของคุณได้\"



    \"ค่ะ\"   ฟูโรเนะยิ้มรับด้วยท่าทางชื่นบานสุดขีด  ราวกับว่ากำลังรับฟังเรื่องที่สำคัญที่สุดในโลก   ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจริง ๆ   ถ้าเพื่อผลประโยชน์  หล่อนถึงกับยอมเอาใจคู่แค้น  และรับฟังคำด่าโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนได้



    \"สตาร์เดสทรอยเยอร์ใช้หลักการดักจับและสะสมโพซิตรอนในห้วงอวกาศ  ซึ่งเป็นประจุที่มีคุณสมบัติตรงกันข้ามกับอิเล็คตรอนโดยสิ้นเชิง

      ลำแสงโพซิตรอนนั้น    เมื่อกระทบกับสิ่งใดก็ตามที่มีอิเล็คตรอนเป็นส่วนประกอบ    ซึ่งวัสดุทุกชนิดในโลกล้วนมีอิเล็กตรอนประกอบอยู่ด้วยเสมอ     มันจะทำลายและหักล้างกันจนอะตอมแตกกระจายเป็นประจุต่าง ๆ  และปลดปล่อยพลังงานมหาศาลออกมาด้วย\"




    \"แล้วหลักการของสตาร์เดสทรอยเยอร์หล่ะคะ   คุณเก็บกักสิ่งที่ทำลายวัสดุทุกอย่างในโลกได้อย่างไรโดยที่มันไม่ทำลายเครื่องมือเก็บกัก\"    ฟูโรเนะถามต่ออย่างสนใจ



    \"ใช้สนามแม่เหล็กในการควบคุมประจุให้อยุ่ในขอบเขตจำกัด   รวมทั้งใช้เพื่อการยิงลงยังเป้าหมายที่ต้องการด้วย\"



    \" นั่นจึงเป็นเหตุว่าทำไมอิโนมิซุจึงไม่ถูกทำลาย\"   ฟูโรเนะสอดแทรกต่ออย่างมีชัย



    นิรนามหน้าเสีย   เขาจำได้ว่าเมื่อสักครู่เป็นเช่นนั้นจริง ๆ   เพราะอิโนมิซุสามารถผลิตสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่ได้  

    \"ทำลายไม่ได้ก็ได้วะ   แต่อย่าคิดว่าผมจะให้ยืมมันง่าย ๆ  ขึ้นกับคุณปริศนาว่าจะอนุญาตรึเปล่า\"   มือข้างซ้ายมันตบบ่าผมเบา ๆ



    \"ไม่จำเป็น..\"   คำตอบของผมทำให้ฟูโรเนะหน้ามุ่ย    \"คุณคิดว่าผมหายไปไหนถึงปล่อยให้กิมฮวยรับมือคุณแทนเมื่อสักครู่\"



    \"ถ้าผมเดาไม่ผิดนะ\"   นิรนามกล่าวสอด   \"ด้วยสันดาน เอ๊ย..นิสัยของคุณปริศนา  ถ้าเรือคุณมีสมบัติมากขนาดนั้น    มันคงไม่เหลือถึงตอนนี้แล้วหล่ะครับ\"



    ฟูโรเนะเบิกตากว้างด้วยความคาดไม่ถึง  \"อย่าบอกนะ  ว่าเมื่อสักครู่คุณไปปล้นเรือของชั้นมาเรียบร้อยแล้ว\"



    \"หึหึ   ใช่ครับ\"



    \"แล้วเล่าให้ชั้นฟังทำไม  ไม่กลัวชั้นทวงคืนหรอกเหรอ\"  



    \"อ๊ะ อ๊ะ  อย่าลืมสิ  ว่าคุณเพิ่งบอกเมื่อครู่ว่าหากกู้สมบัติขึ้นมาได้  จะให้ผมหักเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ก็ตามใจ\"   สีหน้าผมฉายแววเจ้าเล่ห์   ฟูโรเนะผงกศีรษะอย่างลืมตัว



    “ในฐานะที่ผมเป็นคนใจบุญ   และเป็นพระเอกของเรื่องนี้  ผมตัดสินใจแล้วว่า   จะคืนสมบัติให้คุณ  50%  โดยปริมาตรของสมบัติทั้งหมด”



    ฟูโรเนะยิ้มกว้าง  หล่อนปิดความดีใจไม่มิด  เนื่องด้วยไม่คาดว่าจะได้คืนมากขนาดนี้



    “แล้วก็  คุณคงยังจำได้ว่าหากคุณพ่ายแพ้จะต้องทำอย่างไร”  ผมทวงสัญญา  ยังผลให้ฟูโรเนะชักเซเบอร์สีเงินออกมา



    หล่อนปักดาบลงที่พื้นและคุกเข่าลงในท่าปฏิญาณตน   “ข้าฟูโรเนะแห่งอิโนมิซุ  ขอสาบานว่า   จะติดตามรับใช้กัปตันปริศนาไปสุดหล้าฟ้าเขียว  และจะทุ่มเทแรงกายถวายชีวิตให้แก่ท่านจนกว่าชีวิตจะหาไม่  หากผิดคำสาบานนี้คนเทพล้วนลงทัณฑ์”



    ฟูโรเนะปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง  ที่ได้ปวารณาตนเป็นลูกน้องของคนที่ใจกว้าง  เก่งกาจและหล่อเหลาเช่นผม



    แต่เธอคงยังไม่รู้หรอกว่า    นรกน่ะมีจริง!







    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------







    “ตายห่ะ   นี่พี่ปริศนาบ้าหรือว่าเมาคะนี่”   เสียงแหลม ๆ โวยวายมาจากร่างเล็กที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล    “นึกยังไงถึงคืนสมบัติให้นังไซเรนนั่นตั้งครึ่งนึง”



    “มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ”    ร่างสูงโปร่งพูดอย่างสบายอารมณ์ความร้อนรนของชั้นมิได้ระบาดใส่เขาเลยแม้แต่น้อย   “แลกกับความจงรักภักดีของผู้หญิงที่เก่งกาจขนาดนั้น   ถ้าได้ฟูโรเนะมาช่วยงานพี่  ก็เหมือนติดปีกให้พยัคฆ์”



    “เฮอะ   ไปเชื่อใจมันได้ไง    เดี๋ยววันดีคืนดีมันก็หันมาแว้งกัดจนได้”



    “คนที่เชื่อใจไม่ได้  ยังไงก็ยังดีกว่าพวกตอหลดตอแหลแอบนินทาชาวบ้านลับหลังเยอะ”    เสียงเย็น ๆ ดังจากประตูห้องเคบิน

    สาวสวยผมแดงในชุดซีทรูสีขาวโปร่งยาวระพื้นปรากฏตัวจากประตูนั้น   แขนเบื้องขวาของหล่อนคล้องตระกร้าผลไม้สดใหม่เต็มไปหมด (ไปเอามาจากไหนวะ  กลางทะเลแท้ ๆ )



    “เฮ้อ  อุตส่าห์หอบหิ้วของมาเยี่ยม  สงสัยต้องเอาไปโยนทะเลให้เหาฉลามแดกซะแล้วมั้ง”   ฟูโรเนะถอนใจด้วยท่าทีเสียดาย



    “อ๋อ  มาเยี่ยมเหรอคะ”   ชั้นฉีกยิ้มให้อย่างเป็นมิตร    “งั้นก็กองไว้ตรงนั้นแหละค่ะ    ทีหลังไม่ต้องนะจ๊ะ  เกรงใจ๊ เกรงใจ”



    ฟูโรเนะยิ้มตอบ  และตอบรับไมตรีอย่างดุเดือดไม่แพ้กัน   “อุ๊ยตายจริง  นี่ถ้าไม่มาได้ยินกับหูนี่ชั้นคงจะไม่เชื่อเลยนะคะว่าคุณกิมฮวยมีศัพท์คำว่า เกรงใจ อยู่ในพจนานุกรมด้วย  ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะที่พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว”   หล่อนปรบมือด้วยท่าทางเสแสร้ง



    เย็นไว้ลูก  เย็นไว้   อย่าให้หลุดมาดนางเอก  ชั้นต้องปลอบตัวเองในใจ  ไม่ให้ฉีกทึ้งผ้าพันแผลทลายเฝือกไปบีบคอนังนั่น



    “หมดธุระแล้วใช่มั้ยคะ    ขออภัยที่ไม่ส่งนะ    คนหนักแผ่นดินไม่ควรจะเหยียบที่ไหนนาน ๆ เดี๋ยวพื้นจะทะลุเอา”    ชั้นไล่มันทางอ้อม



    “โฮะโฮะโฮะ”     ฟูโรเนะใช้พัดจีบบังปากเวลาหัวเราะแบบไฮโซ    “อ๋อ  มิน่าเตียงของคุณกิมฮวยถึงต้องเสริมเหล็กอย่างดีแข็งแรงพิเศษ  ที่แท้กลัวพื้นทะลุนี่เอง”



    “แก  แก....”   ชั้นเดือดจัด  ตอนนี้ในสมองชั้นตื้อไปหมดหาคำมาตอบโต้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย



    “เอ่อ  ผมว่า  ปล่อยให้คนป่วยพักผ่อนดีกว่ามั้ยครับ”   พี่ปริศนารีบห้ามศึกก่อนที่จะเกิดการนองเลือดขึ้น



    “แล้วพวกเราไปเจรจาธุรกิจกันหน่อย”  สิ้นคำพี่ปริศนาคว้ามือของฟูโรเนะหมับ  และลากหล่อนออกไปจากห้อง



    นังฟูโรเนะยังใช้เวลาชั่วเสี้ยววินาทีหันกลับมาแลกลิ้นปลิ้นตาใส่ชั้นอีก   หนอยแน่  แล้วแกจะได้เห็นดีกัน







    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------







    To be continued.





    หวังว่าคราวนี้คงไม่มีเซ็นเซอร์
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×