nextstep_10
ดู Blog ทั้งหมด

อีก 3 ปีมี

เขียนโดย nextstep_10
Mens BootsThigh High Leather BootsDingo BootsHarley Davidson BootsCheap Cowboy BootsThigh High Black Leather BootsWellington BootsCowgirl BootsBates BootsRiding BootsBlack Leather BootsIrish Setter BootsHunting BootsMagnum BootsSteel Toe BootsMilitary BootsBallet BootsRedwing Work BootsCarhartt BootsWestern Cowboy BootsMoccasin BootsMoon BootsDiscount Cowboy BootsHunter BootsLowa BootsWaterproof BootsTotes BootsWomen'S BootsCheap BootsConverse BootsWolverine Work BootsLace Up Granny BootsRed Wing Work BootsDurango BootsWomens Winter BootsKids Cowboy BootsBig Black BootsCombat BootsUsed Cowboy BootsWomens Cowboy BootsKnee High Leather BootsOld Gringo BootsOver The Knee BootsPolo BootsGirls In BootsDesert BootsSnake BootsBearpaw BootsColumbia BootsBorn Boots
พิธีลงนามความร่วมมือพัฒนาเวชสำอางด้วยนาโนเทคโนโลยี


ดร.วิวัฒน์ ตัณฑะพานิชกุล (กลางซ้าย) มอบกระเช้าเครื่องสำอางให้ นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ


(ซ้าย) ภญ.ดร.ฉลอง เลาจริยกุล ผู้ประสานงานโครงการพัฒนาเวชสำอางด้วยนาโนเทคโนโลยี และ รศ.ดร.อุบลทิพย์ นิมมานนิตย์ (ขวา) โชว์เครื่องสำอางจากการพัฒนาของมหาวิทยาลัยต่างๆ



 

 

  


  


 

  


  



นา โนเทคจับมือ 5 มหาวิทยาลัยวิจัย "เวชสำอางนาโน" จากสมุนไพรไทย ตั้งเป้า 3 ปีมีเครื่องสำอางต้นแบบออกสู่ตลาด ด้านอาจารย์จุฬาฯ เชื่อความร่วมมือช่วยให้งานวิจัยก้าวหน้าเร็วขึ้น
       
       ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ลงนามความร่วมมือในโครงการโปรแกรมวิจัยร่วมด้านนาโนเวชสำอางสมุนไพรไทยกับ 5 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยนเรศวรกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 22 พ.ค.51 โดยมี นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมเป็นสักขีพยาน
       
       ภาย ในพิธีลงนามผู้จัดการวิทยาศาสตร์ยังพบว่า แต่ละสถาบันได้นำเครื่องสำอางที่ต่างพัฒนาขึ้นมาก่อนความร่วมมือครั้งนี้มา แจกจ่ายแก่ผู้มาร่วมงานด้วย ตัวอย่างของเครื่องสำอางดังกล่าว อาทิ ครีมตะไคร้หอมไล่ยุงจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ครีมจากสารสกัดกวาวเครือและขมิ้นชัน ซึ่งบรรจุอยู่ในรูปแคปซูลนาโนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น
       
       ทั้ง นี้ ดร.วิวัฒน์ ตัณฑะพานิชกุล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ได้รายงานถึงความเป็นของความร่วมมือครั้งนี้ว่า ทางศูนย์นาโนเทคได้เล็งเห็นถึงคุณค่าและประโยชน์ของสมุนไพรไทยที่มีอัตราการ เติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นทุกปี
       
       อีกทั้ง ดร.วิวัฒน์ชี้แจงตัวเลขในภายหลังกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า ปีที่ผ่านมาไทยมีมูลค่าการส่งออกเครื่องสำอางมากถึง 50,000 ล้านบาท แต่ไม่ใช่สมุนไพรหรือเครื่องสำอางจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ทั้งนี้คาดว่าอนาคตเวชสำอางนาโนจากสมุนไพรไทยน่าจะทำส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 1,000 ล้านบาท
       
       "ระยะแรกของความร่วมมือ 3 ปีคาดว่าจะได้ต้นแบบของเวชสำอางสมุนไพรไทยที่พัฒนาด้วยนาโนเทคโนโลยีออกสู่ เชิงพาณิชย์ โดยผ่านการวิจัยอย่างเป็นระบบและปลอดภัยในการใช้งานจริง"
       
       "ภาย ใน 3 ปีนี้จะลงทุน 50 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าได้เป็น x เท่า แต่กำลังศึกษาอยู่ว่า x นี้เป็นเท่าไหร่ อาจจะเป็น 20 ซึ่งเท่ากับว่าเพิ่มยอดขายได้ถึง 1,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์ออกมาแล้วจะขายได้ทันที ยังต้องมีเรื่องอื่นๆ อีก" ดร.วิวัฒน์กล่าว
       
       สำหรับ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่จะออกมานั้นผู้อำนวยการนาโนเทคชี้แจง กับกลุ่มผู้สื่อข่าวว่าเป็นเครื่องสำอางประเภทไวเทนนิงหรือออกฤทธิ์ให้ผิว ขาว และเครื่องสำอางประเภทต้านริ้วรอย ซึ่งกำลังศึกษาสมุนไพรอยู่ประมาณ 20 ตัวที่มีอยู่ในเมืองไทย อาทิ ขมิ้นชัน มังคุด กวาวเครือขาว บัวบก ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เป็นต้น
       
       ด้าน รศ.ดร.อุบลทิพย์ นิมมานนิตย์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการระบบนำส่งยาและเครื่องสำอาง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยซึ่งลงนามความร่วมมือกับนาโนเทคในครั้งนี้ให้สัมภาษณ์ เพิ่มเติมกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้งานวิจัยทางด้านเครื่องสำอางก้าวหน้าเร็วขึ้น จากที่ต่างคนต่างทำก็จะกลายเป็นความร่วมมือและค้นหาวิธีดีที่สุดในการพัฒนา เครื่องสำอาง
       
       สำหรับสมุนไพรไทยที่ทางจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยกำลังศึกษาเพื่อพัฒนา เป็นเครื่องสำอางมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด อาทิ ใบหม่อน มะขามป้อม มหาด ขมิ้นชัน เป็นต้น ซึ่งสารสกัดจากสมุนไพรเหล่านี้สามารถนำผลิตเป็นเครื่องสำอางได้เลยหรือบรรจุ ลงแคปซูลนาโนเพื่อให้คงตัวได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสมุนไพรด้วย



ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น