nextstep_10
ดู Blog ทั้งหมด

ทำแผนที่

เขียนโดย nextstep_10
Underwater Video CameraHigh Speed Digital CameraOutdoor Security CameraDisposable Digital CameraBeach Hidden CameraDiscount Digital CameraInside Digital CameraHd Video CameraLowest Price Digital CameraCheap Digital CameraOlympus CameraFuji Finepix Digital CameraKodak Zi8 Pocket Video CameraChanging Room CameraCovert CameraSony Cybershot Digital CameraKodak Easy Share CameraPentax Digital CameraMinolta CameraSlow Motion CameraThermal CameraSamsung CameraCord CameraHow To Use A Digital CameraDefinition Of A Digital CameraFujifilm Digital CameraLeica Digital CameraGopro CameraBest Cheap Digital CameraWireless Outdoor Security CameraPanasonic Digital CameraXray CameraOlympus Waterproof CameraNikon Coolpix CameraWireless Video CameraPolaroid Digital CameraBest Prices Digital CameraHidden Spy CameraBest Value Digital CameraFilm CameraWireless Ip CameraPanasonic Lumix Digital CameraHow To Pick A Digital CameraDslr CameraCheap Thermal Imaging CameraVivitar Mini Digital CameraVivitar Digital CameraBest Digital Video CameraWireless Home Security CameraHolga Camera
ในชั้นเรียนชีววิทยา หลายคนคงจำได้ว่า เรามีสำเนาพันธุกรรม 2 ชุด ชุดหนึ่งมาจากแม่และอีกชุดมาจากพ่อ ซึ่งทั้งคู่จะทำงานเสริมกัน แต่ผลวิจัยใหม่พบว่าบางทีก็ไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อยีนชุดที่ทำงานอยู่เกิดความผิดปกติ แต่ยีนสำรองอาจไม่สามารถทำงานแทนที่ได้ ส่งผลถึงแนวโน้มการเกิดโรคอ้วน มะเร็ง และเบาหวานตามมา
       
       ดร.แรนดี จิร์เทิล (Randy Jirtle) หัวหน้าทีมวิจัยจากภาควิชาพยาธิวิทยาและแผนกรังสีวิทยาเนื้องอก มหาวิทยาลัยดุค (Duke University) สหรัฐอเมริกา เผยว่า เขาและคณะสามารถระบุตำแหน่งของยีนที่ไม่ทำงาน หรือ "ไซเลนซ์ยีน" (silenced genes) ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเผยแพร่รายงานบนวารสารออนไลน์ "จีโนม รีเสิร์ช" (Genome Research) เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา
       
       ทั้ง นี้ โดยทั่วไปมนุษย์จะมีสำเนาพันธุกรรมอยู่ 2 ชุดจากพ่อและแม่ ซึ่งอยู่ในสภาพพร้อมทำงาน หากยีนชุดใดทำหน้าที่ไม่ได้ อีกชุดก็จะทำหน้าที่แทนทันที
       
       แต่หากยีนที่จะมาทดแทนนั้นเกิดเป็นไซเลนซ์ยีน ก็จะไม่สามารถทำหน้าที่แทนได้ ซึ่งสัญญาณระดับโมเลกุลของไซเลนซ์ยีนชี้ให้เห็นว่า เด็กๆ มีสิทธิ์ได้รับยีนนิ่งตัวใดตัวหนึ่งมาจากพ่อหรือแม่ เช่น เด็กที่มีไซเลนซ์ยีนในตำแหน่งที่มีหน้าที่ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ก็จะทำให้เด็กคนนั้นมีแนวโน้มเป็นโรคมะเร็งได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ
       
       สำหรับ แผนที่ของยีนที่ไม่ทำงานที่ ดร.จิร์เทิล และคณะทำขึ้นถือเป็นแผนที่ไซเลนซ์ยีนชิ้นแรกของโลก โดยมีการระบุตำแหน่งยีนเหล่านี้แล้วประมาณ 200 ยีน
       
       ทั้ง นี้ เชื่อว่าการทำแผนที่ยีนที่ผ่านการประทับข้อมูลผิดพลาด (imprinted gene) ระหว่างการปฏิสนธิของเซลล์ไข่และสเปิร์มเหล่านี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาผลกระทบของสิ่งแวดล้อม อาทิ อาหาร ความเครียด และมลพิษ ต่อการทำงานของยีนและการเกิดโรคสำคัญๆ หลายโรคได้ จึงช่วยตอบคำถามว่าทำไมบางคนถึงป่วยเป็นโรค ขณะที่บางคนไม่
       
       "สิ่ง ที่เรามีอยู่คือถุงที่เต็มไปด้วยก้อนทอง ลำดับต่อไปจึงเป็นการพิสูจน์ชี้ชัดลงไปว่ายีนพวกนี้มีบทบาทอย่างไร ยีนบางยีนอาจเป็นทองคำจริงๆ และมีบางยีนที่เป็นของปลอม" ดร.จิร์เทิลกล่าว จากแต่เดิมที่เคยเชื่อกันว่าเฉพาะสัตว์ที่ออกลูกเป็นตัวเท่านั้นที่มีกลไก การประทับที่ผิดพลาดได้ แต่การค้นพบเมื่อปี พ.ศ.2534 ก็เผยให้เห็นว่า มนุษย์ก็มียีนเงียบได้เช่นกัน
       
       แต่หากมีการค้นพบต่อไปว่ายีนเงียบใดๆ สามารถกลับมาทำหน้าที่ได้ตามปกติก็น่าจะนำไปสู่การหาวิธีป้องกันหรือจัดการกับโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น
       

       ทั้ง นี้ คาดการณ์ว่ายีนที่ไม่ทำงานจะมีอยู่ประมาณ 1% ของพันธุกรรมมนุษย์ และปัจจุบันมีการค้นพบไซเลนซ์ยีนในมนุษย์เพียงแค่ 40 ยีน แต่งานวิจัยล่าสุดพบเพิ่มขึ้นอีก 156 ยีน มากกว่าที่เคยพบ 4 เท่า และยืนยันการค้นพบก่อนหน้านี้ โดย นักวิจัยได้ป้อนลำดับดีเอ็นเอให้คอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างยีนปกติและยีนที่คาดว่าจะเป็นยีนที่ไม่ แสดงออก ก่อนถอดรหัสและตีค่าออกมาเป็นแผนที่ไซเลนซ์ยีนในที่สุด
       
       “ไซ เลนซ์ยีนเป็นอะไรที่ลึกลับเสมอ ส่วนหนึ่งเพราะไม่ได้ดำเนินไปตามกฎการถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่เราใช้อยู่ แต่ก็หวังว่าการค้นพบนี้จะเป็นแผนที่นำทางไปสู่ข้อมูลใหม่ๆ ถึงผลกระทบของยีนเหล่านี้ต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของเรา” ดร.จิร์เทิลเสริม
       
       ขณะ ที่ ดร.อเล็กซานเดอร์ ฮาร์เทอมิงค์ (Alexander Hartemink) จากแผนกวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และสมาชิกของสถาบันจีโนมและนโยบายแห่งมหาวิทยาลัยดุค ชี้ว่า การวิจัยนี้ยังไม่อาจเรียกได้ว่าได้ค้นพบยีนที่ไม่แสดงออกทั้งหมดแล้ว แต่ก็มั่นใจว่าได้ค้นพบมากมายทีเดียว
       
       ทว่านักวิจัยให้ความสนใจกับไซเลนซ์ยีนที่ค้นพบในโครโมโซมตำแหน่งที่ 8 ซึ่งไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อน 2 ตัวคือ ยีนเคซีเอ็นเค 9 (KCNk 9) และ ดีแอลจีเอพี 2 (DLGAP 2) ที่ไม่เคยมีการค้นพบมาก่อน โดยตัวแรกจะทำงานได้ดีในสมอง และรู้กันว่าเป็นสาเหตุของมะเร็ง และอาจสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคลมบ้าหมูและไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์แปรปรวน ส่วนตัวหลังมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นยีนต่อต้านการเกิดเนื้องอกในกระเพาะ ปัสสาวะ
       

       นอกจากนั้น ยีนที่ไม่แสดงออกยังอาจมีผลต่อการเกิดโรคอ้วน เบาหวาน และอาจรวมถึงโรคอื่นๆ เช่น โรคออทิสติก และโรคแองเจิลแมน ซินโดรม (Angelman Syndrome) ซึ่งผู้ป่วยมีพัฒนาการทางจิตใจช้ากว่าคนทั่วไป
       
       อย่าง ไรก็ดี แผนที่ไซเลนซ์ยีนที่เพิ่งค้นพบนี้ ยังต้องได้รับการทดสอบอย่างรัดกุมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่ง ดร.จิร์เทิล ชี้ว่าเป็นงานที่ยากมาก
       
       "มัน เป็นรายงานวิจัยที่น่าหลงใหล เพราะการทำแผนที่ยีนที่ไม่แสดงออกจะช่วยให้สามารถค้นหายีนเงียบตัวต่อๆ ไปได้เร็วขึ้น และสำคัญต่อคำถามที่ยิ่งใหญ่กว่า ว่าปัจจัยด้านพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมจะมีผลต่อคนที่มีแนวโน้มเป็นโรคทาง พันธุกรรมหรือไม่" ดร.โนรา โวลโคว์ (Nora Volkow) ผอ.สถาบันการใช้ยาในทางที่ผิด สหรัฐฯ กล่าว
       
       นอก จากนี้เธอยังเท้าความถึงงานวิจัยหลายชิ้นในอดีตด้วย ซึ่งพบว่าสิ่งแวดล้อมมีผลต่อการทำงานของยีนบางตัวให้เปลี่ยนไป ทั้งเร่งการทำงานให้เร็วขึ้น ชะลอการทำงานให้ช้าลง หรือแม้แต่สั่งการให้ยีนทำงานผิดเวลา
       
       หนึ่งในนั้นคือ งานวิจัยชิ้นสำคัญในปี พ.ศ.2546 ของ ดร.จิร์เทิล ซึ่งศึกษาอิทธิพลของสารอาหารต่างๆ กันที่หนูไมซ์กำลังตั้งท้องได้รับต่อสีขนของลูกอ่อน โดยพบว่าการเลี้ยงดูจะส่งผลถึงสัญญาณเคมีที่ควบคุมการทำงานของยีนอันจะกำหนด ว่าลูกหนูที่ได้จะมีสีขนต่างไปจากสีขนของแม่ของมันได้
       
       "มันไม่ใช่แค่การลำดับยีน แต่เป็นวิธีการลำดับการปิดหรือเปิดสวิตซ์ของยีน โดยมีปัจจัยสิ่งแวดล้อมมากำหนดว่าคุณจะมีสุขภาพดีได้หรือไม่" ดร.โวลโคว์ กล่าว ซึ่ง ดร.จิร์เทิล ชี้ว่าเป็นกระบวนการพัฒนาที่อยู่นอกเหนือพันธุกรรมที่คนทั่วไปยังไม่ตระหนัก ถึงที่อาจส่งต่อไปถึงการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
       
       ทว่า คำถามที่ท้าทายวงการวิทยาศาสตร์ คือ ทำอย่างไรจึงจะประทับยีนที่ไม่แสดงออก ให้กลับมาทำงานได้


ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น