nextsterpp
ดู Blog ทั้งหมด

มหาวิทยาลัยกับการจัดอันดับ

เขียนโดย nextsterpp
Sewing MachineSinger Sewing MachinesBrother Sewing MachinesSinger Sewing MachineBrother Sewing MachineViking Sewing Machines651 Charger Brother Sewing MachineBernina Sewing MachinesSewing Machine PartsSinger Sewing Machine PartsJanome Sewing MachinesPfaff Sewing MachinesWho Invented The Sewing MachineOld Singer Sewing MachineOld Singer Sewing MachinesIndustrial Sewing MachinesSewing Machine ReviewsBernina Sewing MachineSewing Machine CabinetsAntique Sewing MachinesKenmore Sewing MachinesElna Sewing MachinesJanome Sewing MachineViking Sewing MachineBrother Sewing Machine PartsKenmore Sewing MachineBest Sewing MachinesWho Invented The Modern Sewing MachineHusqvarna Sewing MachineCommercial Sewing MachinePfaff Sewing MachineAntique Singer Sewing MachinesTreadle Sewing MachineUsed Bernina Sewing MachinesBell Electric Sewing MachineSewing Machine TableSinger Treadle Sewing MachineNew Home Sewing MachineHusqvarna Sewing MachinesJuki Sewing MachinesLeather Sewing MachineNecchi Sewing MachineOld Kenmore Sewing MachinesVintage Sewing MachinesWhite Sewing MachineCommercial Sewing MachinesInstructions Threading Sewing MachineSewing Machine ToteAntique Singer Sewing MachineKenmore Sewing Machine PartsSewing PatternsEmbroiderySewing A HemQuiltingFree Sewing PatternsFree Embroidery DesignsSewingEmbroidery DesignsSewing MachinesSinger Sewing MachinesEmbroidery LibraryHow To Sew A HemMachine Embroidery DesignsQuilting Fat QuartersQuilting FabricBrother Sewing MachinesSewing MachineFree Printable Sewing PatternsSimplicity Sewing PatternsHow To SewSewing HemsKeepsake QuiltingFree Sewing Craft PatternsFree Machine Embroidery DesignsEmbroidery PatternsSinger Sewing MachineFree Sewing ProjectsEmbroidery MachineSewing TipsQuilt FabricCostume Sewing PatternsBernina Sewing MachinesCustom EmbroiderySewing ProjectsQuilting StencilsSewing With NancyViking Sewing MachinesSinger Sewing Machine PartsQuilting PatternsSewing ButtonsPfaff Sewing MachinesBrother Sewing MachineFree Embroidery PatternsPfaffQuilting SuppliesSewing SuppliesHow To QuiltJanome Sewing MachinesMachine EmbroideryEmbroidery ThreadBlogBlogBlogBlogBlogBlogBlogBlogBlogBlog
มหาวิทยาลัยกับการจัดอันดับ : ผลดี ผลเสีย และทางออก

ในที่สุด สิ่งที่ชาวมหาวิทยาลัยในประเทศไทยรอคอย แต่ไม่อยากทราบผลก็มาถึง นั่นคือการประกาศจัดอันดับหรือว่า Ranking มหาวิทยาลัยไทย 50 อันดับแรกในด้านการเรียน การสอน และการวิจัย (ภารกิจอื่นไม่นับรวมในที่นี่) โดยสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) ภายใต้การขับเคลื่อนของเลขาธิการที่ชื่อ ศ. ภาวิช ทองโรจน์ , และการให้สัญญาณไฟเขียวจากรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ นายจตุรนต์ ฉายแสง บนความเชื่อและขอมูลจากการวิจัยที่ว่า มีผลดีมากกว่าผลเสีย ทันทีที่มีการประกาศผลการจัดอันดับออกตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ ก็เกิดปฏิกิริยาแรงสันสะเทือนจากหลายฝ่ายพอสมควร ทั้งด้านบวกและด้านลบ ทั้งพอใจและไม่พอใจ ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมประชาธิปไตย ที่ใช้ความรู้สึกและความเห็นมากกว่าเหตุผลหรือความถูกต้อง
กลุ่มที่พอใจและเห็นด้วย แน่นอน ต้องเป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยหรือเป็นชาวมหาวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับใน ช่วงต้นๆ ส่วนกลุ่มที่ไม่พอใจหรือกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ได้แก่ มหาวิทยาลัยหรือชาวมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดอันดับในช่วงท้ายๆ มันเป็นธรรมดาของมนุษย์ มันเป็นเช่นนั้นเอง (ปรัชญาท่านพุทธทาส ) การประเดิมจัด “แรงกิ้ง” ครั้งนี้จะเห็นว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยมหิดล กวาดเรียบทั้งดีเลิศด้านการเรียนการสอนและการวิจัย ส่วนกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ได้อันดับรั้งท้ายอยู่ในช่วงที่ต้องปรับปรุงด่วน ส่วนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่ผู้เขียนทำงานอยู่ปัจจุบัน ติดกลุ่ม “ ดีเลิศ” ทางด้านการวิจัย (คะแนนเกิน 75 คะแนน) อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับจุฬาลงกรณ์ –มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม –เกล้าธนบุรี และติดกลุ่ม “ดีเยี่ยม” (คะแนนประเมินอยู่ระหว่าง 70 – 75 คะแนน) ในด้านการเรียนการสอน ) อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับอีก 4 สถาบันคือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยนเรศวร และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หากจะแยกย่อยลงไปถึงระดับสำนักหรือสำนักวิชาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ อยู่ในอันดับที่ 18 (ด้านการวิจัย) 40 (ด้านการเรียนการสอน) สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร อยู่อันดับที่ 3 (ด้านการวิจัย) และอันดับ 19 (ด้านการเรียนการสอน) สำนัก

เทคโนโลยีสังคม(ที่ผู้เขียนสังกัดอยู่ในปัจจุบัน) ติดอันดับ 25 (ด้านการวิจัย)และอันดับ 10 (ด้านการเรียนการสอน)
ผลดี
ถ้าจะถามว่าการจัดอันดับมหาวิทยาลัยมีผลดีอะไรบ้าง น่าจะพอสรุปได้ดังนี้
1) ทำให้เกิดการแข่งกันพัฒนาและร่วมมือกันด้านคุณภาพในหมู่มหาวิทยาลัยไทยด้วย กัน
2) ทำให้สามารถปรับตัวเพื่อการแข่งขันกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศหรือ มหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มาตั้งอยู่ในประเทศไทยได้
3) ทำให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบข้อมูลในการตัดสินใจ เพื่อเข้าเรียนในสถาบันที่น่าสนใจได้โปร่งใสกว่าเดิม
4) ทำให้สาธารณชนได้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นว่าสถาบันต่างๆที่ได้รับการจัดสรรงบ ประมาณจากภาษีของประชาชนนั้นมีการดำเนินการอย่างไร มีคุณภาพหรือมีประโยชน์ต่อประเทศชาติมากน้อยแค่ไหน คุ้มเงินภาษีที่เขาเสียไปหรือไม่
5) ทำให้ภาครัฐและภาคเอกชนที่จ้างงานได้รับข้อมูลว่ามหาวิทยาลัยไหนโดดเด่นหรือ ด้อยในด้านใด ซึ่งอาจนำมาซึ่งความร่วมมือในการปรับปรุงคุณภาพของบัณฑิตร่วมกันได้ในอนาคต หากตัดปัญหาเรื่องอคติในการจ้างงานออกไป
6) ทำให้มหาวิทยาลัยไทยเร่งพัฒนาและปรับปรุงตนเอง เพื่อการแข่งขันกับประเทศอื่นๆโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน
7) ทำให้มหาวิทยาลัยไทย รู้ว่าตัวเองยืนอยู่จุดไหนในเวทีโลก และเวทีระดับชาติ
ผลเสีย
การจัดอันดับมหาวิทยาลัย ในปริบทของประเทศไทย ซึ่งมักต่อต้านการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบในเชิงลบต่อตนเอง แม้ว่าจะมีในช่วงต้นๆและในระยะสั้นๆมีผลเสียที่พอจะมองเห็นและเข้าใจได้ดัง นี้
1) สร้างความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและชาวมหาวิทยาลัย
2) ไม่ได้รับการยอมรับหรืออาจได้รับการประท้วงต่อต้านจากกลุ่มมหาวิทยาลัยที่ ถูกจัดอันดับไว้ในช่วงท้ายๆ
3) ทำให้บัณฑิตที่จบจากสถาบันที่ได้รับการจัดอันดับสูงกับสถาบันที่ได้รับการ จัดอันดับต่ำมีโอกาสไม่เท่าเทียมกันในการสมัครเข้าทำงาน หรืออาจถูกมองจากสังคมภายนอก ด้วยสายตาที่แตกต่างกันออกไป
4) ทำให้ศิษย์เก่าหรือผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่มีอันดับต่ำน้อยใจ หรือไม่พากภูมิใจในสถาบันของตนเอง
5) ทำให้เกิดปฏิกิริยาแรงต้านจากสถาบันที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการ เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเอกชนทั้งหมด ไม่ให้ความร่วมมือในการส่งข้อมูล เพราะไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้

ทางออก
1. สกอ. ทปอท. และมหาวิทยาลัย ทั้งหลายต้องประชุมหาเกณฑ์ยุติในเรื่องของดัชนีตัวชี้วัดและเกณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ในการประเมิน เพื่อให้เป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
2. มหาวิทยาลัยที่ร่วมโครงการทั้งหมดจะต้องปรับตัวเตรียมพร้อมสำหรับการจัด อันดับ ต้องรีบจัดองค์กร จัดเตรียมข้อมูลและชี้แจงให้บุคลากรและนักศึกษาทราบ เพื่อให้
ปฏิบัติตัวไปในทิศทางเดียวกัน
3. มหาวิทยาลัยที่ยังไม่เข้าร่วมในโครงการในช่วงแรกๆ จะต้องเตรียมการต่าง ๆ ให้พร้อมที่จะเข้าร่วมในคราวต่อไป เพื่อให้เกิดเอกภาพทางด้านการศึกษาของประเทศ
4. มหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยทุกแห่งจะต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อรักษาและปรับปรุงคุณภาพมาตรฐานของตนเอง เพื่อประโยชน์ของผู้เรียนและเพื่อการแข่งขันในระดับนานาชาติ
5. ขอให้การจัดอันดับมหาวิทยาลัยเป็นไปเพื่อการพัฒนาปรับปรุงการอุดมศึกษาของ ประเทศ บนพื้นฐานของความร่วมมือ(Cooperation) มากกว่าการแข่นขัน(Competition)กันเอง

โดยสรุป ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย พอใจหรือไม่พอใจ แต่การจัดอันดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยก็เกิดขึ้นแล้ว และจะได้รับการยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติในปีต่อๆไปอีกด้วย สิ่งที่มหาวิทยาลัย ชาวมหาวิทยาลัย และนักศึกษาตลอดจนศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยทั้งหมดในประเทศไทย ควรลงมือปฏิบัติ คือการหันกลับมามองดูตัวเอง วิเคราะห์จุดดี จุดด้อยของตัวเอง เข้าใจตนเอง ยอมรับจุดดีและจุดด้อยของตนเอง รู้เขารู้เรา และลงมือปรับปรุงพัฒนาตนเองต่อไป อย่างต่อเนื่องไม่หยุดอยู่กับที่ แบบ “ไม้ตายซาก” หรือ Dead Woods ไม่ดีใจแบบหวือหวาหรือเสียใจแบบตีโพยตีพายกับการจัดอันดับของคณะกรรมการอุดม ศึกษาจนเกินไป ขอให้มองว่ามันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ยังมีอะไรที่รอคอยเราอยู่เบื้องหน้าเยอะแยะมากมาย ที่เราต้องคิด ต้องทำ ต้องค้นคว้า โลกนี้เป็นโลกของความเปลี่ยนแปลง หากเราไม่ปรับตัวและไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เราก็จะประสบชะตากรรมคล้ายๆกับไดโนเสาร์ยุคจูราสสิค (ประมาณ 60 ล้านปี ที่ผ่านมา) นั่นคือ ถูกธรรมชาติลงโทษทัณฑ์ให้สูญพันธุ์ จนกลายเป็นฟอสซิลให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้าในฐานะที่เป็นวัตถุโบราณ ทางประวัติศาสตร์ชั้นหนึ่งเท่านั้น

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น