ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่มาร์คขี้อ่อย #Markbam

    ลำดับตอนที่ #52 : chapter 49

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.9K
      15
      12 ก.ย. 58
















              ร่างเพรียวบางในสูทสีขาว นุ่งโจงกระเบนสีน้ำตาลหยุดมองตัวเองที่หน้ากระจก ใบหน้าหวานที่ดูยังไงก็เหมาะที่จะสวมชุดเจ้าสาวเสียมากกว่าที่จะอยู่ในชุดเจ้าสาว

     

     

              เเบมเเบมมองใบหน้าตัวเองที่ถูกเเต่งตามด้วยเครื่องสำอางที่เเต่งเติมไม่ให้ใบหน้าตัวเองดูซีดเซียวเพราะไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาตลอดสามวัน

     

     

              ตอนเเรกที่คิดว่าก็เเค่งานเเต่งไม่น่าจะมีอะไรให้ตัวเองตื่นเต้น พอเอาเข้าจริงๆ เเบมเเบมคิดว่าตัวเองตื่นเต้นยิ่งกว่ามาร์คที่เป็นคนดูเเลงานเกือบทั้งหมด ทั้งๆที่งานในตอนเช้าถูกจัดขึ้นเเบบไทย มาร์คก็คงดูแลงานด้วยตัวเอง แถมยังใส่ใจทุกรายละเอียด คอยสอบถามเเม่ของเเบมเเบมเเละญาติฝ่ายเเบมอยู่ตลอด เพื่อให้งานตอนเช้าออกมาสมบูรณ์

     

     

              เสียงเคาะประตูทำให้เเบมละสายตาจากหน้ากระจกหันไปมอง คนที่ก้าวเข้ามาในห้องคงจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าจะไม่ใช่คุณเเม่ผู้ให้กำเนิด

     

     

              เเบมเเบมฉีกยิ้มกว้างเมื่อผู้เป็นเเม่เดินเข้ามาใกล้ เธอจับสองมือของลูกชายเเละกวาดสายตามองตั้งเเต่หัวจรดปลายเท้า

     

     

    "ไม่น่าเชื่อว่าเเม่จะได้เห็นลูกชายของเเม่ในชุดนี้ก่อนพี่ๆ เเบมหล่อมากเลยนะครับวันนี้" เธอดึงลูกชายตัวเองเขามาสวมกอด ใบหน้าเปื้อนยิ้มของผู้เป็นเเม่ยังคงยิ้มตลอดเวลา

     

    "ม๊าร้องไห้ป่ะเนี่ย" เเบมเเบมเอ่ยเเซวเเม่ตัวเอง เพราะว่าตัวเองก็เกือบจะร้องไห้เเล้วเหมือนกัน

     

    "ร้องที่ไหนกันเล่า ม๊ากำลังยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ต่างหาก" เธอสำรวจความเรียบร้อยของลูกชายอีกรอบ ก่อนที่จะถูกเรียกให้ลงไปข้างล่าง










     

     

              ขบวนขั้นหมากที่มีญาติของฝั่งเจ้าบ่าวเเละฝั่งของเเบมเเบมหยุดอยู่หน้าประตูบ้านยังไม่สามารถเข้ามาข้างในได้

     

     

              ประตูเงินประตูทองทำหน้าที่กันอย่างเเข่งขัน การกั้นประตูถูกจัดขึ้นเพียงเเค่ 4 ด่าน มีประตูเงิน ประตูทองอย่างละ 2 คู่

     

     

              ประตูเงินด่านเเรกเป็นคนที่มาร์คคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นที่สุดเเละจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทของเด็กเเก้มยุ้ยที่รอเขาอยู่

     

     

    "ฮั่นเเน่!!! คิดว่าจะไปหาเพื่อนผมง่ายๆ มันไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกนะครับพี่มาร์ค" ยูคยอมเอ่ยกับพี่ชายคนสนิทด้วยน้ำเสียงทะเล้น มาร์คพยักหน้ายิ้มๆพร้อมที่จะยื่นซองให้กับยูคยอมเเละยองเเจ

     

    "ใครบอกว่าพวกผมต้องการ พวกผมต้องการอย่างอ่านต่างหาก" ยองเเจพูดจบก็ฉีกยิ้มกว้างให้

     

    "เเล้วอยากได้อะไรหล่ะ" มาร์คถามน้องชาบที่ส่งยิ้มเเป้นให้กับตัวเองก่อนจะนึกขึ้นได้

     

    "อ่ออออ พี่คิดออกเเล้วเเหละ ว่าจะให้เราดี"

     

    "อะไรหล่ะครับ????" ทั้งคู่พูดออกมาพร้อมกันเเละมองหน้ากันงงๆว่ามาร์คจะให้อะไร ทั้งๆที่จริงๆทั้งคู่ก็อยากได้ซองนั้นเเหละ เเต่อยากได้เป็น 2-3 เท่าของคนอื่น

     

    "เจ้าบ่าวไง" พูดเเค่นั้น เพื่อนสนิทของมาร์คก็มายืนซ้อนหลังเเฟนตัวเองเเล้วพากันออกไป หลีกทางให้มาร์คเดินไปที่ประตูถัดไป

     

    "สวัสดีครับ" มาร์คเอ่ยทักคริสเเละส่งยิ้มให้ เเละไม่ลืมที่จะเอ่ยทักเเละส่งยิ้มให้อีกคน

     

    "ว่าไงครับ เบบี้" มาร์คเอ่ยทักน้องสาวของเเบมเเบมที่ยิ้มให้กับเขา เบบี้ยืนอยู่กับคริส

     

    "พี่มาร์คว่าด่านนี้พวกเราสองคนต้องการอะไรคะ??" มาร์คส่ายหน้าเเทนคำตอบ เบบี้เเละคริสเลยยิ้มออกมา

     

    "บี้อยากให้พี่มาร์คบอกรักพี่เเบมเเบม สี่ภาษา ตะโกนดังๆให้พี่ชายเบบี้ได้ยิน ได้มั้ยค่ะ"

     

    "ไหวมั้ยมาร์ค" คริสถามมาร์คยิ้มๆ มาร์คเลยพยักหน้า ก่อนจะเอามือป้องปาก

     

    "I love you~~~~" ภาษาอังกฤษเป็นภาษาเเรกที่มาร์คตะโกนออกมา เเบมเเบมที่อยู่ด้านบน จำเสียงเเละสำเนียงของคนตะโกนได้ดี อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นจับเเก้มที่เริ่มเเดงของตัวเอง

     

    "นัน นอล ยอง วอน ฮี ซา ราง ฮัล กอ ยา~~~~~~" (ฉันจะรักเธอตลอดไป)

     

    "หว่อ อ้าย หนี่~~~~" มาร์คหายใจเข้าปอดก่อนที่จะพูดประโยคสุดท้ายออกมา

     

    "พี่มาร์ค ร้ากก เเบมนะ!!" มาร์คค่อยพูดทีละคำ เเต่เสียงดังฟังชัด เพื่อที่จะให้ดังไปถึงคนที่รออยู่

     

     

              เเน่นอนว่ามันถึงอยู่เเล้ว เพราะคนตัวเล็กนั่งอายม้วนอยู่ที่โซฟาในห้อง ทำเอาบรรดาช่างเเต่งหน้าต้องรีบมาเข้ามาจับดูตัวกันอีกรอบ

     

     

              มาร์คผ่านสองด่านเเรกไปก็เกือบๆจะหมดพลัง เเต่ก็ยังคงยิ้มสู้ต่อไป เมื่อมาถึงด่านที่สาม

     

     

    "ว่าไงน้องเขยยยย" พี่ชายของเเบมเเบมทั้งสองคนเอ่ยทักมาร์คด้วยสีหน้าเเช่มชื่น

     

    "ผมอยากได้น้องพี่ ผมต้องทำไงครับ" มาร์คบอกออกไปยิ้มๆ เพราะเขาไม่รู้ว่าพี่ชายของเเบมเเบมอยากให้เขาทำอะไร

     

    "ง่ายๆเลย เเค่มาร์ค ตามพี่" พี่เบียร์เป็นคนเอ่ยขึ้นมาช้าๆ เเละเส่งให้พี่เเบงค์พูดต่อ

     

    "เเบมเเบมครับ" ประโยคภาษาไทยประโยคเเรกเอ่ยออกมาจากปากพี่ชายคนที่สองของเเบมเเบม มาร์คก็ยอมพูดตาม เเต่ก็เบาไป พี่ชายเเบมเลยให้พูดใหม่

     

    "เเบมเเบมครับ" มาร์คตะโกนเสียงดัง จนคนที่นั่งรออยู่ด้านบนได้ยินเสียงของคนตะโกนอดที่จะยิ้มเเละใจเต้นรัวไม่ได้

     

    "เเบมเเบมครับ รอพี่มาร์คก่อนนะ อดใจรอพี่ก่อนนะ เมียจ๋าาาาาาาา" พอมาร์คพูดจบญาติเเบมเเบมที่ฟังออกก็หัวเราะกันครืด บางคนก็เขินเเทนเจ้าสาว ยิ้มกันจนเเก้มเเทบเเตก

     

     

              เหมือนจะเป็นประตูสุดท้ายของมาร์คเเล้ว เมื่อเจอกับนิชคุณเเละเเทคยอนที่ยืนอยู่ มาร์คส่งยิ้มให้กับพี่ชายของเเบมเเบมทั้งสองคน นิชคุณเเละเเทคยอนก็ส่งยิ้มบางๆตามมารยาทให้

     

     

    "ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นก็ได้มาร์ค" นิชคุณส่งยิ้มบางๆให้กับคนที่จะมาเป็นน้องเขยตัวเอง

     

    "เราสองคนไม่ได้ต้องการอะไร เข้าไปสิ" มาร์คมอพี่ชายทั้งสองคนของเเบมเเบมด้วยความงง

     

    "จะไม่เข้าไปรึไง" เมื่อนิชคุณถามเสียงเข้ม มาร์คเลยรีบเดินเข้าไปเพราะกลัวว่าทั้งคู่จะเปลี่ยนใจ โดยที่ไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของทั้งเเทคยอนเเละนิชคุณ

     

     

              เมื่อผ่านทั้ง 4 ด่านเเล้ว ต่อไปก็คือการพรมน้ำที่เท้า หลังจากเสร็จจากตรงนั้นก็เป็นอันว่าเสร็จพิธีขบวนการเเห่ขันหมาก

     





     





              เเบมเเบมเดินลงมาจากบันไดพร้อมกับนิชคุณที่ขึ้นไปรับ สายตาคมของมาร์คจ้องมองไปที่คนตัวเล็กที่วันนี้ดูดีจนทำให้มาร์คอดที่จะยิ้มเเละใจเต้นเเรงไม่ได้

     

     

              ตกหลุมรักคนๆเดิมล้านครั้ง ยังน้อยไปเลยสำหรับมาร์ค ต้วน

     







     

              ขั้นตอนต่อไปของงานคงจะหนีไม่พ้นการกราบไหว้พ่อเเม่ของทั้งสองฝ่าย โดยเริ่มจากกราบพ่อเเม่ของมาร์คก่อน

     

     

    "มาร์ค เราจะกลายมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเเล้ว เป็นสามี เป็นพ่อของลูกเเบมเเบม จะมาเถลไถลเเบบเมื่อก่อนไม่ได้เเล้วนะ เราไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไป เรายังมีคนที่เรารักเขา เเละเขาเองก็ยังรักเราให้ดูเเล เราจะต้องปกป้องเขาด้วยหัวใจของเราให้ดีที่สุด ส่วนเเบมเเบม ป๊าฝากพี่มาร์คด้วยนะ ถึงมาร์คจะดูเหมือนคนไม่เอาไหน เเต่จริงๆเเล้วมาร์คเขาเป็นคนมีความรับชอบมากนะ ยิ่งถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องของเเบมเเบม ^_^ รักเเละไว้ใจกันให้มากๆนะลูก เเล้วครอบครัวของลูกทั้งสองคนจะมีความสุข" ป๊าต้วนดึงทั้งมาร์คเเละเเบมเเบมเข้ามากอดเเล้วปล่อยให้ทั้งคู่ได้รับคำอวยพรจากเเม่มาร์คบ้าง

     

    "ป๊าพูดไปหมดเเล้ว มี๊ก็ไม่รู้จะพูดอะไร" มี๊ยกมือเช็ดหางตาตัวเองเพื่อไม่ให้ตน้ำตาไหลลงที่เเก้ม มาร์คเลยต้องช่วยเช็ดให้เเล้วส่งยิ้มบางๆให้กับผู้เป็นเเม่

     

    "ดูเเลกันดีๆนะลูก มาร์คก็รักน้อง ดูเเลน้องให้มากๆ เเบมเเบมเองก็ฟังเหตุผลพี่มาร์คเขาหน่อยนลูก มีอะไรก็ค่อยๆคุยกัน ค่อยเเก้ปัญหากันก่อน อย่าเงียบใส่กันรู้มั้ย ดูเเลกันเเละกันให้ดีๆ ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นยังไงก็อย่าปล่อยมือกันเเละกันเด็ดขาด"

     

     

              เเบมเเบมเงยหน้ามองเเม่ตัวเองเพื่อดูว่าเเม่ของเขาร้องไห้หรือเปล่า เเต่เเม่กลับส่งยิ้มให้ กลายเป็นว่าคนที่น้ำตาไหลกลายเป็นเเบมเเบมเสียเอง

     

     

    "ร้องไห้ทำไมเนี่ยเรา" ม๊าเช็ดน้ำตาให้เเบมเเบมเบาๆ มาร์คที่นั่งข้างก็เลยจับมือเล็กเเละบีบเบาๆ

     

    "อยู่ด้วยกัน มีอะไรก็คุยกันให้มากๆนะลูก หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน เวลาโกรธกันม๊าอยากให้คนนึงมีสติให้มากๆ เเต่ทางทีดีควรจะเป็นทั้งคู่ ใช้เหตุผลคุยกันนะลูก อย่าใช้เเต่อารมณ์ เเบมเเบมเอง เข้าไปอยู่กับพี่เขา ก็ต้องดูเเลพี่เขาให้ดีนะลูกมั้ย อย่าให้พี่มาร์คม๊าฟ้องม๊านะว่าเราไม่ทำอะไรเลย" เเบมเเบมหัวเราะออกมากับคำพูดของเเม่ตัวเอง ม๊าลูบหัวลูกชายเบาๆเเล้วหันไปมองลูกเขยที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆลูกชาย

     

    "ม๊าฝากน้องด้วยนะมาร์ค เเบมอาจจะดื้อไปบ้าง ก็อย่าดุน้องมากนะ เเต่ก็อย่าตามใจเยอะ เดี๋ยวจะกลายเป็นมาร์คที่งานเข้า ^_^ ฝากน้องด้วยนะมาร์ค รักน้องให้เหมือนกับที่ม๊าดูเเลเขามาด้วยนะจ๊ะ"

     

    "ครับ" เป็นคำตอบรับสั้นเเต่หนักเเน่น เเละเป็นเหมือนสัญญาที่ไม่มีวันที่จะถูกยกเลิก

     

     

     

     

     

    50%

     



     

     

              ร่างสูงของทายาทตระกูลต้วนมองตัวเองผ่านกระจกเงา ใกล้จะได้เวลาที่เขาจะออกไปรอคู่ชีวิตของตัวเอง สูทสีขาวที่ถูกสวมใส่อยู่บนร่าง เเละใบหน้าหล่อเหลาที่ถูกเเต่งเติมอย่างพอดิบพอดี ยิ่งทำให้เจ้าบ่าวในวันนี้หล่อจนสาวๆในงานนึกอิจฉาผู้ชายใบหน้าหวานที่จะจับมือมาร์ค ต้วนไปทั้งชีวิต

     

     

              ทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอน รอยยิ้มของเเขกที่มาร่วมงานกว้างขึ้นเรื่อยๆ เเต่ก็ไม่เท่ากับชายทั้งสองคนที่ยืนอยู่ต่อหน้ากัน

     

     

              เเหวนสีเงินถูกสวมบนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของคนทั้งคู่ เเบมเเบมมองเเหวนที่มาร์คตั้งใจมอบให้ตัวเอง เเล้วน้ำตารื้น มาร์คเองก็เหมือนกัน

     

     

              เสร็จจากงานกลางวันทั้งสองก็กลับไปพักที่บ้านของตัวเอง เเบมเเบมเดินตามหลังพี่ชายทั้งสองขึ้นไปบนห้องอย่างเหนื่อยอ่อน เขามีความสุขมากๆเลยนะวันนี้ เเต่ร่างกายตอนนี้ของเขาไม่ไหวเลยสักนิด

     

     

              มาร์คถอดชุดออกจากร่างกายตัวเองทุกชิ้นส่วน รีบอาบน้ำเเละนอนพักผ่อนเพราะคืนนี้คงจะปาร์ตี้กันยาวๆ เเละที่สำคัญเขาต้องคอยดูเเลทั้งเเบมเเบมเเละเเขกในงานให้ดีที่สุด เเบมเเบมจะได้ไม่เหนื่อย

     

     

     

     

     

              โรงเเรมของตระกูลถูกตกเเต่งตั้งเเต่ทางเดินยันห้องจัดเลี้ยง มาร์คมาถึงที่นี่ก่อนที่เเบมจะมา เพื่อมาดูความเรียบร้อยอีกที ทั้งที่ป๊าก็ยืนยันเเล้วว่ามันเรียบร้อยดี

     

     

              มาร์คเดินตรงไปที่รถของพี่ชายภรรยาที่จอดอยู่หน้าโรงเเรม เปิดประตูให้ภรรยาคนสวยของตัวเองลงมาจากรถ

     

     

    "เข้าไปดูข้างในกันมั้ย" มาร์คกุมมือเเบมเเบมเอาไว้หลวมๆ เเล้วพาเดินเข้าไปด้านใน ทุกคนที่อยู่เเถวนั้นยิ้มเเละกล่าวอวยพรให้คนทั้งคู่ตลอดทาง

    "สวยเนอะ" มาร์คยิ้มกว้างให้กับคุณภรรยาตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ ตากลมกวาดสายตามองห้องจัดเลี้ยงที่ประดับประดาอย่างสวยงาม

    "มาร์ค เเบม หันมาหน่อยเร็ว" เสียงของเเจ็คสันที่ดังขึ้นด้านหลังคนทั้งคู่ ทำให้มาร์คเเละเเบมหันไปมอง มือของทั้งสองคน เเต่หน้าหันไปมองกล้องเเละยิ้มกว้างด้วยกันทั้งคู่

     

     

              เเจ็คสันมองรูปถ่ายในกล้องตัวเองเเล้วอดเเซวสองสามีภรรยาไม่ได้

     

     

    "ขนาดในรูปยังดูมีความสุขมากขนาดนี้ ในใจพวกนายทั้งสองคนคงจะเบ่งบานมากๆเลยสินะ"

    "ไม่ต้องมาอิจฉาฉันสองคนหรอก เดี๋ยวสักวันก็คงจะถึงตานาย รีบๆหาสะใภ้เข้าตระกูลให้ได้สิ หม่ามี๊จะได้อุ้มหลานไวๆ"

    "ถ้ามันหาง่ายขนาดนั้น เเจ็คสันจะมายืนในงานเเต่งคุณเพื่อนเเบบโดดเดี่ยวหรอครับ คิดหน่อย"

    "ได้ทีเอาใหญ่เลยนะไอ้เเจ็ค เเต่ช่างเถอะ จะไม่ถือสาคนโสดเเละขี้อิจฉา ไปดูข้างในกันต่อดีกว่าเนอะ" มาร์คกระชับมือเเบมเเบมให้เเน่นขึ้นเเล้วเดินเข้าไปด้านใน

     

     

              ภายในค่ำคืนนี้มีเเต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ เสียงโห่เเซวไม่หยุด มาร์คมองคนข้างกายที่คุยกับเพื่อนสนิทไม่หยุด ทั้งๆที่ตั้งเเต่เข้ามาเเบมยังเเทบไม่ได้ทานอะไรเลย

     

     

    "เเบมครับ ทานอะไรหน่อยมั้ย เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้" มาร์คกระซิบข้างหูคนตัวเล็กเบาๆด้วยน้ำเสียงห่วงใย เเบมเเบมหันมามองหน้าคนข้างกายที่ดูเป็นห่วงตัวเองจนไม่สนใจเพื่อนที่นั่งคุยกันเลยสักนิด

    "ไม่เป็นไรครับ เเบมไม่ค่อยหิว พี่มาร์คคุยกับเพื่อนบ้างสิครับ ไม่ต้องห่วงเเบมหรอก ถ้าหิว สัญญาว่าจะชวนพี่มาร์คไปหาอะไรทาน โอเคมั้ย" มาร์คพยักหน้าด้วยความจำยอม ละสายตาจากเเบมเเบมเเละหันไปคุยกับเพื่อน เเต่ก็ยังคอยมองเเบมเเบมอยู่ตลอด

     

     

              มาร์คลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตัวเอง หาอะไรให้ภรรยาตัวเล็กของตัวเองทาน อาหารที่สั่งมา มีเเต่ของโปรดเเบมเเบมทั้งนั้น

     

     

              มาร์คเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับจานอาหารสองจานเเล้วเลื่อนไปข้างหน้าเเบมเเบมที่จ้อไม่หยุด

     

     

     

    "กินได้เเล้วครับ ให้เพื่อนเขาได้พูดบ้างเถอะ พี่เห็นเเต่เราพูด ทานเร็วๆ" มาร์คตักขึ้นมาจ่อปากอิ่มของคนข้างกาย เเบมเลยยู่หน้าใส่ที่โดนเเซวเเต่ก็ยอมอ้าปากให้มาร์คป้อน

    "อร่อยมั้ย มีเค้กอีกนะ" เเบมเเบมยิ้มจนตาหยีเเละพยักหน้าให้มาร์คไปเอามา ทั้งๆที่สิ่งที่มาร์คป้อนยังอยู่ในปากเเบมเเบมอยู่เลย

    "ทานให้หมดก่อน เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้"

    "พี่มาร์คก่อนทานบ้างสิ มานี่!! เเบมป้อนพี่บ้าง" เเบมเเบมที่เริ่มรู้สึกได้ว่ากระเพราะเริ่มจะรับไม่ไหว ก็หาตัวช่วยโดยการเอาใจมาร์คเนี่ยเเหละ

     

     

              ภาพของมาร์คเเละเเบมตกอยู่ในสายตาของทุกคนภายในงานหมด รวมถึงช่างภาพที่มาร์คจ้างมาด้วย เเต่ไม่มีใครกล้าเเซว เพราะกลัวว่าทั้งคู่จะเขินจนไม่ทำอะไรเเบบนี้ให้เห็น โดยเฉพาะเเบมเเบม

     

     

    "เดี๋ยวพี่ไปเอาเค้กให้นะครับ" มาร์คยีหัวภรรยาตัวเล็กของตัวเองเบาๆ เเล้วลุกขึ้นไปหยิบเค้ก พอจะกลับมาที่โต๊ะ ไฟทั้งานก็ดับลง เสียงของคนภายในงานดูเเตกตื่น รวมไปถึงเเบมเเบมที่นั่งนิ่งไม่ยอมขยับด้วย

     

     

              เเรงสวมกอดของใครสักคนที่เเบมเเบมรับรู้ได้ถึงความปลอดภัยเเละอบอุ่นเวลาอยู่ในอ้อมกอดนี้ เสียงกระซิบข้างหูทำให้เเบมรู้ดีว่า เขาเป็นใคร

     

     

    "ไม่ต้องกลัวนะ ไม่มีอะไร พี่อยู่ข้างๆเรา" เเบมยกเเขนขึ้นกอดอีกคนเเละซุกหน้าลงที่อก

     

     

              เสียงเพลงปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ดังขึ้น จากเสียงของเเขกในงานที่พากันตกใจ เปลี่ยนเป็นเสียงโห่ร้องสนุกสนานเเทน

     

     

    "ไปเต้นกัน" มาร์คดึงเเบมเเบมเข้าไปร่วมวงกับเพื่อนๆ จนเข้าไปยืนกันอยู่ตรงกลาง

     

     

              รอยยิ้มกว้างๆของคนตรงหน้าทำให้มาร์คหลงเเล้วหลงอีก เพลงจังหวะเร็วๆถูกเปลี่ยนเป็นเพลงหวานๆซึ้งๆเเทนเมื่อทั้งคู่มาอยู่ตรงกลาง

     

     

              เเบมเเบมซบหน้าลงกับบ่ากว้างของมาร์ค มาร์คเองก็กระชับกอดให้เเน่นขึ้นอีก ขยับไปตามจังหวะของเพลงที่เปิดอยู่

     

     

    "พี่รักเเบมนะครับ ขอบคุณมากนะ ที่แบมเลือกพี่" น้ำเสียงของมาร์คกระซิบข้างๆหูของเเบมเเบม ถึงเสียงของมาร์คจจะบางเบา เเต่เเบมก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน

     

     

              มาร์คค่อยดึงตัวเเบมเเบมออกมาจ้องตากัน มาร์คมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่สะท้อนใบหน้าตัวเองอยู่

     

     

    "ตาของเเบมตอนนี้กำลังสะท้อนให้พี่ได้เห็น เห็นว่าตอนนี้ในดวงตาของเเบมเเบมมีเพียงแค่พี่มาร์ค เพียงคนเดียว พี่อยากจะบอกเเบมว่า ดวงตาของพี่ก็สะท้อนให้เเบมเห็นเพียงเเค่เเบมเพียงคนเดียวเหมือนกัน นับตั้งเเต่วันนี้เเละตลอดไป"

     

     

              ปากสวยของมาร์คก้มลงกดจูบลงบนปากอิ่มของเเบมเเบมเนิ่นนานเเต่ไม่ได้ลุกล้ำเข้าไปด้านในเเต่อย่างใด

     

     

    "ขอบคุณนะพี่มาร์ค ที่ทำอะไรหลายๆอย่าง เพื่อเเบม ขอบคุณที่รักเด็กอย่างเเบมนะครับ เเบมรักพี่มาร์คนะ" 







     

     


     

    ฝากคอมเม้นท์และติดแท็ก #ฟิคพี่มาร์คขี้อ่อย กันด้วย อย่าให้ต้องบังคับและขู่เข็ญกันเลยนะ 5555555

    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×