nilawan015
ดู Blog ทั้งหมด

“เธอมีความใฝ่ฝันเหมือนฉันบ้างหรือเปล่า”

เขียนโดย nilawan015

เมื่อชีวิตของเราดำเนินไปสู่สิ่งที่ไม่รู้อยู่ทุกวัน...เราไม่อาจจะล่วงรู้ได้แน่ชัดว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ทำได้ คือ เตรียมใจของเราให้พร้อมกับการเผชิญในทุกสิ่ง เพียงคำพูดอาจฟังดูง่ายแต่ในสถานการณ์จริงมันก็อาจจะทำได้ยาก หากเมื่อต้องเผชิญจริงๆ เราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกวินาทีเพียงแค่เราอาจจะรู้สึกหรือไม่รู้สึกตัวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีฉันเชื่อเสมอว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตให้บทเรียนแก่เราเสมอ บางเรื่องที่คิดว่าแย่หากมองลึกๆ ถึงแก่นแท้ของมันก็อาจจะพบว่าเป็นทั้งครู เป็นทั้งบททดสอบ ที่มอบบทเรียนด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ให้เราได้เติบโตทั้งทางความคิด และจิตใจ เมื่อผ่านมันมาได้เราจะพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับเราแน่นอน

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในตัวเราอาจแสดงผ่านความคิด พฤติกรรม การกระทำ หลายครั้งที่เราตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับปัญหา หาทางออกไม่เจอ มองไปทางนั้นก็ปัญหา ทางนี้ก็ปัญหา ลองตรวจสอบใจตัวเองสักนิดว่าปัญหาที่กำลังเผชิญมันเป็นปัญหาจริงๆ หรือเพียงแค่ใจเราที่เป็นปัญหา ใจเราเป็นปัญหาก็อย่างเช่นว่า พอจะทำบางสิ่งใจหนึ่งก็คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเรายังไม่มีประสบการณ์ แต่เรากลับไม่คิดต่อว่า แล้วจะทำยังไงให้เรามีความรู้ในสิ่งที่เรากำลังสนใจนั้น

 “เราอาจเติบโตจากปัญหา และเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดที่ดีกว่าเพราะเราเคยผ่านปัญหามาหลากหลายรูปแบบ เรียกได้ว่าเป็นนักแก้ปัญหาตัวยง แต่หากมองในมุมกลับเราอาจจะพ่ายแพ้เพราะเราไม่ยอมเรียนรู้จากปัญหานั่นเอง”

บางครั้งเราอาจได้รับคำแนะนำจากผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำตอบในบางสิ่งที่เรากำลังสงสัย ผ่านก้าวแรกที่มาจากความไม่รู้ แต่ไม่ใช่วิ่งเข้าไปทำแบบที่เราไม่ได้รู้จริง หรือไม่ได้เข้าใจในสิ่งนั้นอย่างแท้จริง อย่างน้อยหากเกิดความคิด ความรู้สึกว่าเรามีความปรารถนาอยากจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่เส้นทางที่จะมุ่งไปกลับเจอแต่อุปสรรคและขวากหนามเต็มไปหมด หากเราไม่คิดจะตั้งคำถามต่อว่าแล้วจะมีทางออกหรือวิธีการขจัดปัญหาได้หรือไม่

เมื่อไม่นานมานี้ฉันได้พูดคุยกับมิตรสหายท่านหนึ่งถึง “ความคิดความฝันที่เราปรารถนา” เพื่อนของฉันก็ไม่ต่างจากวัยรุ่นอื่นๆ ที่พูดถึงความใฝ่ฝันของตนเองอย่างหลงใหล

“ร้านของฉันไม่ใหญ่โตมากหรอกนะ ร้านเล็กๆ ที่หน้าบ้าน” เธอพูดด้วยรอยยิ้มแต่แฝงด้วยพลัง

ร้านที่ว่านี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง เธอเพียงบอกว่าเธออยากเปิดร้านขนมหวานตามความชื่นชอบของตัวเอง อยากจะขายของหวานที่ตามห้างขายในราคาแสนแพงจนลูกค้าที่เป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเรากระเป๋าสตางค์แทบฉีก แต่เธอจะขายราคาเบาๆ แบบที่ลูกค้ายิ้มได้ แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ ด้วยภาระบางอย่างที่ทำให้การตัดสินใจไม่ทันด่วนดังใจคิด

เราเป็นวัยรุ่นยุคเจ็นวาย เรามักคิดเร็ว ทำเร็ว แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะล้มเร็วหรือประสบผลสำเร็จด้วยหรือเปล่า นั่นจึงเสมือนตาข่ายดักฝันให้เราไม่กล้าลงมือทำอะไรสักอย่าง เพราะอาจจะถูกจ้องมองจากคนรอบข้างด้วยความคาดหวังบางอย่าง ความคิด ความฝัน ความปรารถนาล้านแปดที่วิ่งวนอยู่ในหัวมากมายเหล่านี้จึงยังหาทางออกหรือหาสิ่งที่ควรจะทำไม่เจอ

สิ่งที่เราพูดคุยถกกันไปมาในเรื่องที่ว่าด้วยความใฝ่ฝัน พบว่า ความใฝ่ฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความปรารถนาสูงสุดในชีวิตก็เช่นกัน เรามองหาสิ่งที่รักสิ่งที่ชอบทุกวัน มองหาเพื่อที่จะทำมันให้สำเร็จ มองหาเพื่อที่จะใช้มันเป็นแรงบันดาลใจ และขับเคลื่อนตนไปสู่เป้าหมายที่วางไว้

“ฉันเองก็คิดว่าแท้จริงเราอาจจะไม่ได้ติดปัญหาที่ตัวปัญหา แต่ปัญหาคือใจของเราที่ไม่ยอมก้าวออกไปทำในสิ่งที่เรารักเองต่างหาก เรามักมองหาสิ่งที่เป็นปัญหา จนทำให้เราติดกับดักความคิด กับดักความฝันและก่อให้เกิดเป็นปัญหาในที่สุด”

การถกประเด็นเรื่องความฝันในช่วงวัยรุ่นเมามันส์มาก เพราะเรารู้สึกว่ามีไฟลุกโชนในตัวเรา มันสวยงามในวันที่เรามี Passion มันสวยงามในวันที่เรายังไม่ได้ลงมือทำ และมันอาจจะสวยงามกว่าถ้าในวันที่มันเป็นความจริงขึ้นมา

ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่มีความใฝ่ฝันอันแรงกล้า สิ่งที่ฉันใฝ่ฝันและชื่นชอบเกิดจากความสุขเล็กๆ ในวัยเด็ก ซึ่งตอนนั้นไม่เคยสนใจมันเลยว่า เฮ้ย จริงๆ แล้วเราก็ต่อยอดจากสิ่งที่เราชอบได้นี่หว่า เพราะตอนเด็กๆ ฉันชอบขีดชอบเขียน และหลงใหลในการอ่านหนังสือมาก อ่านหนังสือเกือบทุกประเภท และตามประสาคือชอบอ่านนิยาย เมื่อก่อนก็เคยถูกผู้ใหญ่บางคนบอกว่าเป็นพวกเพ้อฝัน อ่านหนังสือนิยายประโลมโลก ไม่พัฒนาความรู้ความคิด แต่ก็หาได้แคร์ไม่ อ่านต่อไปเป็นบ้าเป็นหลัง พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เป็นลูกค้าประจำของห้องสมุด บางครั้งไม่ได้เข้าไปอ่านหนังสือนะ เข้าไปสูดกลิ่นหนังสือก็มี ไปนั่ง ไปนอน ... และก็พบว่าแท้จริงแล้วตัวฉันก็อยากเป็น “นักเขียน” เองบ้าง

หึ...ความใฝ่ฝัน ฉันก็มีกะเขา...และพอมาคิดว่าแล้วจะต่อยอดยังไงดี ฉันก็ต้องคิดต่อและลองทำด้วยตัวเอง...

“เรายิ้มในวันที่พูดถึงความใฝ่ฝัน แต่เราอาจจะหน้าบึ้งในวันที่เราลงมือทำจริงๆ ก็ได้ แต่อย่างน้อยเราก็ได้ลองเรียนรู้ และทำมันดูสักครั้งแล้วในชีวิต”

 

เราจึงได้แต่จ้องมองคนที่ประสบความสำเร็จด้วยแววตาแห่งความวาดหวังว่าอยากเป็นแบบเขาบ้าง เราอยากทำได้เหมือนเขาบ้าง แต่ภาพตัดมาที่เรานั่งจมปุกอยู่กับปัญหาที่เราไม่คิดจะหาทางออก ไม่คิดจะพัฒนาตนเอง เราจึงเป็นเพียงแค่นักฝันหรือเปล่า...ลองถามใจดู...

“ทบทวน ทดลอง เชื่อมั่น และก้าวข้ามทุกปัญหาเพื่อเอาชนะความหวาดกลัว”

เริ่มวันนี้หากไม่ลอง...อาจไม่รู้

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น